Group Blog
 
<<
มีนาคม 2550
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
30 มีนาคม 2550
 
All Blogs
 

เพิ่มระบบเผาผลาญเพื่อลดอ้วน

ระบบเผาผลาญเป็นวิธีที่ร่างกายผลิตพลังงานจากอาหารมาใช้ในการทำงานของร่างกาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนและเอ็นไซม์หลายชนิดในร่างกาย ระบบการเผาผลาญจะเป็นตัวกำหนดอัตราการเผาผลาญพลังงาน (metabolic rate)ซึ่งถ้าอัตราการเผาผลาญสูง ร่างกายจะเผาผลาญอาหารได้ดี แต่ถ้าอัตราการเผาผลาญต่ำจะทำให้เพิ่มน้ำหนักตัวได้เร็วหรือลดน้ำหนักได้ยาก แต่ละคนมีประสิทธิภาพการเผาผลาญพลังงานแตกต่างกัน ซึ่งอัตราการเผาผลาญของร่างกายมาจากพลังงาน 3 ส่วนคือ
พลังงานพื้นฐานที่ใช้ในการทำงานของอวัยวะภายในร่างกาย

1.พลังงานที่ใช้ในการเคลื่อนไหวหรือออกแรง
2.พลังงานที่ใช้ในการย่อยอาหาร
3.การปรับเปลี่ยนวิธีการบริโภคและการใช้พลังงานจึงมีผลต่อระบบการเผาผลาญของร่างกายได้

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆที่มีอิทธิพลต่อระบบเผาผลาญ ได้แก่ อายุ เพศ น้ำหนัก ส่วนสูง วิถีการดำเนินชีวิตและองค์ประกอบของร่างกาย (ปริมาณของมวลกล้ามเนื้อ) โดยธรรมชาติระบบการเผาผลาญของคนเราจะลดลงประมาณ 5% ทุกๆ 10 ปี โดยเริ่มหลังจากอายุ 40 ปี ขณะอยู่เฉยๆไม่ได้ทำอะไร เพศชายจะเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าเพศหญิง คนที่มีกล้ามเนื้อมากก็จะมีระบบการเผาผลาญสูงกว่าคนที่มีไขมันมาก เพราะเซลล์กล้ามเนื้อเป็นเซลล์ขยันใช้พลังงานได้ดีกว่าเซลล์ไขมันซึ่งเปรียบได้กับเซลล์ขี้เกียจ และท้ายที่สุดสิ่งที่ถูกกำหนดมาให้แต่ละคนตั้งแต่เกิดคือพันธุกรรม ซึ่งถูกโปรแกรมมาแล้วทำให้คนเรามีระบบเผาผลาญแตกต่างกันไป นอกจากนี้ โรคบางชนิด เช่น ไทรอยด์(ทำงานน้อย)ก็ทำให้ระบบการเผาผลาญช้าลงได้

ทำไมน้ำหนักทรงตัวหลังลดความอ้วน
ผู้เชี่ยวชาญอธิบายเรื่องนี้ว่า ขณะที่เราอ้วน ระบบการเผาผลาญยังสูงอยู่ ฉะนั้นเมื่อลดแคลอรีจากอาหารลงมาแม้เพียงเล็กน้อย จึงทำให้น้ำหนักตัวลดลง และหลังจากที่สูญเสียเซลล์ไขมันและเซลล์กล้ามเนื้อไปพร้อมกับการสูญเสียน้ำในระยะแรก ระบบเผาผลาญจะลดต่ำลง ร่างกายจึงต้องการพลังงานในการทำงานน้อยลง

ทุกๆ 1/2 กิโลของเซลล์กล้ามเนื้อที่ลดลง จะทำให้ระบบเผาผลาญทำงานลดลงประมาณ 9 แคลอรี นี่เองเป็นเหตุผลว่า คนที่ลดน้ำหนักจึงอ้วนขึ้นได้ง่ายในเวลาต่อมาถ้าไม่ควบคุมต่อเนื่อง นอกจากนี้ พลังงานที่ร่างกายต้องการจากอาหารก็จะลดน้อยลงไปอีก นั่นหมายถึงว่าปริมาณอาหารที่รับประทานจะต้องน้อยลงตามไปด้วย

ตัวอย่างเช่น นายแดงและนายดำมีน้ำหนักเท่ากันคือ 112 กิโลกรัม โดยที่น้ำหนักเดิมของนายแดงคือ 156 กิโลกรัม ส่วนนายดำหนัก 112 กิโลกรัมมาตลอด นายแดงผู้ลดน้ำหนักโดยการจำกัดอาหารจึงมีระบบเผาผลาญลดลง ทำให้ร่างกายต้องการพลังงานน้อยลงกว่านายดำทั้งๆที่มีน้ำหนักเท่ากัน

ดังนั้น การที่มีน้ำหนักเท่ากันจึงไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องการพลังงานเท่ากันเสมอไป หากผ่านการลดน้ำหนักมาก่อน จึงต้องควบคุมการกินอาหารให้น้อยลงไปให้ได้อย่างต่อเนื่อง

6 วิธีกิน เพิ่มระบบเผาผลาญ

1 กินบ่อยแต่แบ่งเป็นมื้อเล็กๆ การกินอาหารวันละ 4-6 มื้อ จะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญตลอดทั้งวันและลดน้ำหนักได้มากขึ้น คนที่ทิ้งช่วงการกินระหว่างมื้อต่อมื้อนานเกินไป ระบบเผาผลาญจะปรับตัวให้ทำงานช้าลงเพื่อชดเชยกับการไม่ได้กิน แต่ถ้ากินมื้อใหญ่เกินไป ระบบเผาผลาญจะทำงานเสมือนว่าคุณกำลังอดอยาก จึงสงวนแคลอรีทั้งหมดที่กินไว้เพื่อสะสมเป็นเสบียงยามขาดแคลน

2 ห้ามอดมื้อเช้า คนที่งดอาหารเช้าบ่อยๆจะอ้วนง่ายกว่าคนที่กินอาหารเช้าเป็นประจำ ร่างกายคนเราต้องการพลังงานและสารอาหารเพื่อจะทำงานได้ทั้ง 24 ชั่วโมง ดังนั้น การอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งจึงทำให้ร่างกายเข้าสู่ระบบสงวนพลังงาน โดยการลดอัตราการเผาผลาญลง และทำให้ร่างกายเก็บสะสมพลังงานอย่างเต็มที่ในรูปของไขมัน อาหารเช้าที่มีคุณภาพได้แก่ ข้าว(ซ้อมมือ)ต้มเครื่อง หรือขนมปังไข่ดาว

3 เพิ่มอาหารโปรตีน โดยปกติ อาหารจะช่วยเพิ่มระบบการเผาผลาญ หลังจากที่กินไปแล้ว 1 ชั่วโมง ซึ่งเป็นช่วงที่ทำงานได้ดีที่สุด แต่อาหารโปรตีนต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น 25% ในการย่อย ฉะนั้นอาหารว่างที่มีโปรตีนสูงจึงทำให้การเผาผลาญทำงานได้ดีกว่า(เล็กน้อย)เมื่อเทียบกับอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตสูง(โดยที่มีแคลอรีเท่าๆ กัน) แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนที่สรุปว่าอาหารชนิดใดจะมีผลพิเศษในการเพิ่มระบบเผาผลาญ

4 เติมเครื่องเทศรสเผ็ด มีงานวิจัยว่า พริกหรืออาหารรสจัดสามารถเพิ่มระบบเผาผลาญได้ 20% เป็นเวลาถึง 30 นาที งานวิจัยในสตรีชาวญี่ปุ่นรายงานว่า พริกสีแดงช่วยเพิ่มระบบเผาผลาญในร่างกาย โดยเฉพาะเมื่อกินพริกแดงกับอาหารไขมันสูง นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยขนาดเล็ก พบว่านักกีฬาชายที่กินพริกแดงกับอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง มีอัตราระบบเผาผลาญสูงขึ้นทั้งขณะที่มีกิจกรรมและไม่มีกิจกรรม หลังการกินอาหาร 30 นาที แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเพิ่มการทำงานได้นานแค่ไหน ผลดีของการกินพริกคือช่วยให้กินผักได้เพิ่มขึ้น แต่ผลการเพิ่มอัตราการเผาผลาญนั้นเพียงเล็กน้อย จึงต้องใช้ความพอดีในข้อนี้ให้มาก

5 ดื่มน้ำตลอดวัน น้ำเป็นสารอาหารที่สำคัญอย่างหนึ่ง หากดื่มน้ำน้อยไประบบเผาผลาญจะลดลงเหมือนขาดอาหาร โดยตับจะเก็บน้ำไว้ แทนที่จะนำไปใช้ในหน้าที่อื่นๆ เช่น เผาผลาญไขมัน การดื่มน้ำเย็นๆจะช่วยเพิ่มระบบการเผาผลาญได้เล็กน้อยจากการที่ร่างกายต้องรักษาระดับอุณหภูมิในร่างกาย ส่วนเครื่องดื่มอื่นๆ เช่น ชาเขียว มีสารต้านอนุมูลอิสระ EGCG (epigallocatechin gallate) ที่มีฤทธิ์สูง หากดื่มขณะที่กินอาหาร จะช่วยเพิ่มระบบการเผาผลาญ 24 ชั่วโมงได้ 4 % (คาเฟอีนเพียงอย่างเดียวไม่แสดงผลนี้) แม้ชาเขียวจะกระตุ้นระบบเผาผลาญได้ดีกว่าและนานกว่ากาแฟ แต่การดื่มชาเขียวโดยไม่ควบคุมปริมาณอาหารที่กินตลอดทั้งวัน ก็ไม่อาจช่วยให้น้ำหนักลดลงได้

6 เลี่ยงน้ำตาลและของหวาน การกินของหวานมากๆ จะช่วยส่งเสริมให้ระบบเผาผลาญเก็บสะสมไขมันมากกว่าการเผาผลาญไขมันออกไปใช้ นอกจากนี้ น้ำตาลยังเป็นพลังงานส่วนเกินที่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มได้ง่าย

ปัจจัยเสริมเร่งการเผาผลาญ

ควรออกกำลังกายแบบแอโรบิคที่เผาผลาญพลังงานในเวลาสั้นๆ และยกน้ำหนักที่จะสร้างกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มระบบเผาผลาญในระยะยาว ถ้าเรายิ่งสร้างกล้ามเนื้อมากเท่าไร อัตราการเผาผลาญ(ขณะที่อยู่เฉยๆ) ก็จะยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น เพราะเซลล์กล้ามเนื้อเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าเซลไขมัน

การออกกำลังกายแบบแอโรบิค 30 นาที อาจเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าการยกน้ำหนัก 30 นาที แต่การยกน้ำหนักกลับจะเพิ่มให้ระบบเผาผลาญทำงานได้นานกว่า ฉะนั้นกฏข้อหนึ่งของการลดน้ำหนักคือ การออกกำลังกายควบคู่กันไปกับการควบคุมอาหารจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกายให้มากขึ้น และคงน้ำหนักที่ลดลงได้

ผู้หญิงบางคนกลัวว่าการออกกำลังกายจะทำให้มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ดูแล้วไม่สวยงาม แต่ที่จริงผู้หญิงไม่มีฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (testosterone)มากพอที่จะทำให้กล้ามเนื้อใหญ่เหมือนผู้ชายได้ขนาดนั้น จึงไม่น่าเป็นข้ออ้างในการไม่ออกกำลังกาย

ความเครียดก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อ้วนได้ โดยเฉพาะอ้วนลงพุง เพราะความเครียดทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลมีผลให้ระบบเผาผลาญลดลง และที่สำคัญนอนให้เพียงพอ การวิจัยพบว่าผู้ที่นอนน้อยกว่าวันละ7-8 ชั่วโมงจะอ้วนได้ง่าย เนื่องจากร่างกายมีสภาวะเครียดเพิ่มขึ้น




 

Create Date : 30 มีนาคม 2550
5 comments
Last Update : 5 พฤษภาคม 2550 14:10:59 น.
Counter : 1509 Pageviews.

 

เป็นประโยชน์อย่างมากกกกกกกกกก

 

โดย: ปลาทูน่าในบ่อปลาพยูน 30 มีนาคม 2550 18:39:33 น.  

 

เจ๊หลีอ่านวัยทองไปแล้วรู้สึกเหมาะกะตัวเองมั่ก ๆเลยตามมาอ่านตรงนี้ต่อค่ะ

 

โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ 30 มีนาคม 2550 19:41:48 น.  

 

เด๋วจะลองดูคะ

 

โดย: fairy_tells 30 มีนาคม 2550 20:56:58 น.  

 

บทความนี้น่าสนใจมาก แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า
ขอบคุณสำหรับบทความที่มีประโยชน์

 

โดย: superhero_pin IP: 203.149.16.45 2 เมษายน 2550 14:24:16 น.  

 

ขอบคุณม๊ากๆ น่าอ่านมากเลย
ตอนนี้เราอยากเพิ่มกล้ามเนื้อมากเลย ....
และก้ออยากลดไขมันหน้าท้องด้วย หุหุ

 

โดย: chetee IP: 124.157.161.165 10 กุมภาพันธ์ 2551 23:38:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


bigsize
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเมนท์ค่ะ ...AddมาคุยกันทางMSNก็ได้ค่ะ
Friends' blogs
[Add bigsize's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.