Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
31 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ ในชีวิตจริงที่ไม่อิงนิยาย



เรื่องราวของซินเดอเรลลาเมืองไทย "ปุ๋ย–ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ไซม่อน" อดีตนางงามจักรวาล ปี 2531 ยังคงเป็นที่น่าสนใจของชาวไทย ที่อยากติดตามชีวิตจริงที่ไม่ใช่เทพนิยายของอดีตสาวงามที่สวยที่สุดในจักรวาล ซึ่งวันนี้ได้ก้าวมาเป็นคุณแม่ของลูกน้อยที่น่ารัก และการมีครอบครัวที่อบอุ่น

การเดินทางพาครอบครัวมาพักผ่อนในเมืองไทยครั้งนี้ของปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ จึงได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เพราะนอกจากได้มาทำกิจกรรม "นางงามรักเด็ก" แล้ว ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ยังเปิดโอกาสให้ ทีมข่าวหน้าสตรี ไทยรัฐ ได้สัมผัสถึงความรักความอบอุ่นในชีวิตครอบครัว "ไซม่อน" ที่ครั้งนี้มากันพร้อมหน้าครบทีม ทั้งสามี-มร.เฮิร์บ ไซม่อน มหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวอเมริกัน พร้อม "น้องฌอน" ลูกชายคนโตวัย 6 ขวบ และสมาชิกคนใหม่ สาวน้อยวัยน่ารัก น่าฟัด "โซฟี" ระหว่างที่อัดรายการสุริวิภา ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ก่อนเดินทางกลับ สหรัฐอเมริกาด้วยเครื่องบินส่วนตัวในวันที่ 27 ส.ค.

มาเมืองไทยเที่ยวนี้ครบ ทีมเลยนะคะ

"มากันหมดทั้งครอบครัว เด็ก 5 คน พ่อ แม่ และคุณยาย ปุ๋ยเป็นแม่ของลูก 5 คน (ลูกของน้องสาวที่เสียชีวิตไปแล้ว 3 คน) เป็นผู้ชาย 3 คน เป็นผู้หญิง 2 คน มีอายุตั้งแต่ 15 ปี และเล็กสุดขวบเดียว คือ โซฟีตัวอ้วนคนนี้ค่ะ"

แนะนำโซฟี คนเล็กสุดหน่อยซิคะ

"โซฟีเขาเกิดตรงกับวันแม่ 12 สิงหาคม ปีนี้ก็ครบขวบหนึ่งแล้ว เขาถือเป็นของขวัญวันแม่เลย เขาเป็นเหมือนตุ๊กตาตัวน้อยของปุ๋ย ตัวอ้วนมาก กินเก่งมาก แต่หน้าเขาเหมือนคุณยาย หน้าเป็นสี่เหลี่ยม ยิ้มอาจจะเหมือนปุ๋ย ตาเขาดูเหมือนพ่อ แต่มีสีเขียวไม่เหมือนใคร ส่วนชื่อโซฟีนี้ ปุ๋ยเป็นคนตั้งเอง คือปุ๋ยตั้งเอาไว้ตั้งแต่อายุ 16 เขียนเอาไว้ในไดอารี่ว่า มีลูกชายจะให้ชื่อฌอน ลูกสาวชื่อโซฟี ทีแรกคุณเฮิร์บจะไม่ยอม ปุ๋ยต้องเอาไดอารี่ให้ดูว่าปุ๋ยฝันเอาไว้ตั้งแต่เด็กแล้ว นามสกุลเป็นของเขา ชื่อต้องเป็นของปุ๋ย"

มีเด็กๆหลายคน ปุ๋ยเลี้ยงคนเดียวหรือมีพี่เลี้ยงช่วยด้วยคะ

"โซฟีมีพี่เลี้ยงคนหนึ่ง ส่วนที่เหลือปุ๋ยเลี้ยงคนเดียว แล้วมีคุณยายช่วยด้วย ปุ๋ยอยากเลี้ยงลูกเอง อยากทำอาหารให้เขาเอง ไปรับไปส่งเขาไปโรงเรียนเอง คือปุ๋ยอยากรู้เรื่องของเขาเป็นคนแรก เพราะเราเป็นแม่ พอเขาขึ้นรถมา ก็จะถามว่าวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง โปรเจกต์งานที่ทำเป็นอย่างไร อยากฟังเป็นคนแรก ไม่อยากฟังต่อจากพี่เลี้ยง ตอนไปส่งก็อยากเห็นเขาเดินเข้าโรงเรียนปลอดภัย ตอนนี้ลูกคนโตเริ่มเป็นวัยรุ่น เขาก็จะอายเพื่อน เวลาที่ปุ๋ยไปส่งเขาแล้วให้เขาหอมแก้มลา เขาก็บอกว่า มัมมี้ขอไม่ทำได้ไหม เดี๋ยวเพื่อนล้อ ปุ๋ยก็บอกเขาว่า เพื่อนคนไหนที่ล้อ เดี๋ยวมัมมี้จะไปหอมคนที่ล้อทุกคนเลย เขาเลยต้องยอมปุ๋ย"





เวลาส่วนใหญ่ตอนนี้เลยอุทิศให้ลูกๆหมดเลยซิคะ

"ค่ะ ทุกวันนี้ปุ๋ยตื่นตีห้าครึ่งเพื่อป้อนนมโซฟี จากนั้นก็ปลุกลูกๆให้ลุกขึ้นไปโรงเรียน เตรียมทำอาหารเช้าให้เขา อาบน้ำให้ แล้วส่งไปโรงเรียน ทำทุกอย่าง ก่อนนอนก็ไปส่งลูกๆนอนทุกคืน เพราะหน้าที่ของการเป็นแม่ในความรู้สึกของปุ๋ยคือเราต้องปกป้องและสั่งสอน เลยอยากทำทุกอย่างให้เขาอย่างดีที่สุด"

แล้วเวลาหวานกับสามีล่ะคะ

"มีค่ะ ทุกวันพุธจะเป็นวันของเรา ออกไปกินข้าวด้วยกันบ้าง หรือไปดูหนังกัน ลูกๆจะรู้ ส่วนเวลาของปุ๋ยก็ตั้งแต่ 2 ทุ่มเป็นต้นไป ที่ปุ๋ยจะได้พักผ่อนทำอะไรให้ตัวเองบ้าง ส่วนเด็กๆ เขาจะได้คนละ 1 วันใน 1 สัปดาห์ อย่างวันนี้เป็นของคนโต เขาอยากจะทำอะไร วันต่อมาเป็นของอีกคน เรียงกันไป บางทีก็แอบเปลี่ยน ล็อบบี้กันเองระหว่างพี่น้องว่าวันนี้ขอให้แบบนี้ตามใจอีกคน"

ปุ๋ยเลี้ยงลูกแบบไหนคะ แบบวัฒนธรรมอเมริกัน หรือวัฒนธรรมไทย
"ไม่เชิงอเมริกัน เพราะปุ๋ยจะไม่ยอมปล่อย ฝรั่งจะเลี้ยงแบบ outside home แต่ปุ๋ยอยากให้ลูกๆ inside home อยู่ในสายตามากกว่า อยากให้ลูกๆเล่นด้วยกัน ไม่ชอบให้ลูกไปเล่นนอกบ้าน หรือไปบ้านเพื่อน บางครั้งเลยจะมีเด็กๆ 30 คนอยู่ในบ้าน เพราะเป็นเพื่อนลูกที่ชวนมาเล่นกันที่บ้าน ปุ๋ยจะเต็มที่เลย ไม่ว่าเขา แต่ก็จะสอนให้เขามีเหตุผลแบบฝรั่ง มาคุยกัน อย่างคนโตเขาอยากมีโทรศัพท์มือถือ เขามาขอปุ๋ย ปุ๋ยก็บอกเขาว่าจะเอาไปทำอะไร ไม่ได้ทำงานติดต่อใครที่ไหน อีกอย่างปุ๋ยเอาข้อมูลที่มีการศึกษาว่าโทรศัพท์มือถือมีส่วนทำให้สมองเสียได้ โดยเฉพาะในเด็ก ปุ๋ยเลยไม่ให้เด็ดขาด เขาก็บอกว่าเพื่อนเขามีกันหมดเลยนะ ปุ๋ยก็บอกเขาว่าไม่เป็นไร พ่อแม่เขาไม่ห่วง แต่มัมมี้ห่วงลูก เพื่อนเขามีโทรศัพท์แต่ลูกมัมมี้มีสมองที่ดี ถ้าคุยกันแล้วพอบอกว่า final แล้วก็ต้องจบ แล้วปุ๋ยก็สอนเขาให้รู้จักวัฒนธรรมไทยว่าต้องเคารพผู้ใหญ่ด้วย"





เคยดุหรือตีบ้างไหมคะ

"ดุบ้างค่ะ แต่ตีเคยตี "ฌอน" ตอนเขา 3 ขวบ ครั้งเดียว เพราะเขาวิ่งไปมา บอกเขาว่าถ้าไม่นิ่งจะตีแล้วนะ เลยตีเขาทีหนึ่ง แล้วเขามาบอกว่า ทำไมมัมมี้ทำให้เขาเจ็บ แต่ตีแล้วก็ต้องสอนเขาว่าตีทำไม ต่อไปต้องฟังพ่อแม่ ฌอนเขาเลยสอนปุ๋ยเองว่า ต่อไปถ้าจะดุเขา ให้เอามือมาวางบนมือเขาเท่านั้น แล้วเขาจะทำตามที่มัมมี้พูด หลังจากนั้นเขาไม่ดื้ออีกเลย เวลาไม่ฟังก็บอกเขาว่า ฌอนเอามือมา เพียงเท่านี้หยุดเลย หรือไม่ก็พูดเป็นภาษาไทย เขาจะรู้แล้วว่าแม่เอาจริง เพราะถ้าเราพูดภาษาไทยคนไม่รู้เรื่อง เขาไม่รู้สึกอายคนอื่น"

ฌอนมีนิสัยอย่างไรคะ

"เขาเป็นเด็กสวีตมาก รักพ่อรักแม่และรักพี่น้องมาก เขาชอบมาเมืองไทย เขาบอกว่าเมืองไทยเป็นพาราไดซ์ของเขา"

เขารู้ไหมคะว่ามีคุณแม่เป็นนางงามจักรวาล

"รู้ค่ะ แต่เขาไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร อย่างไปเดินเที่ยวที่พารากอน มีคนมาทักปุ๋ยหลายคน เขาก็จะถามว่าทำไมคนรู้จักมัมมี้เยอะจัง แล้วมัมมี้รู้จักเขาไหม เขาชื่ออะไร พอปุ๋ยบอกว่าไม่รู้จัก เขาก็บอกว่าได้ยังไง เสียมารยาท ไปถามชื่อเขาไหมว่าชื่ออะไร ฌอนไปถามให้ ปุ๋ยก็บอกเขาว่าไม่เป็นไรลูก แม่จำได้ไม่หมดหรอก เขาก็บอกอีกว่าไม่เป็นไร ฌอนจำให้เอง หรือเวลามีคนมาถ่ายรูปปุ๋ย เขาก็จะบอกว่า มัมมี้มีคนมาถ่ายรูปมัมมี้ เขาขออนุญาตหรือยัง" คุณแม่นางงามเล่าถึงความน่ารักของลูกชายคนโตด้วยเสียงหัวเราะอย่างเอ็นดู


ได้ทีเลยขอจับตัวคนที่กำลังถูกกล่าวถึงมาพูด คุยกันหน่อย "น้องฌอน" ชอบอะไรที่สุด ในเมืองไทยคะ

"ชอบเงาะ มังคุด ฌอนกินเผ็ดได้นิดเดียว มาเมืองไทยได้สนุกแล้ว ได้นั่งเรือไปเที่ยวด้วย"

พอถามว่าโตขึ้นน้องฌอน อยากเป็นอะไร

"ฌอนอยากเป็นหมอ จะได้ช่วยรักษา คน ช่วยเหลือคนเจ็บด้วย"

พูดเพียงแค่นี้ เริ่มสังเกตเห็นคนถามจดคำพูดของเขายิกๆ "น้องฌอน" เลยเริ่มปฏิเสธว่าไม่อยากคุยแล้ว เพราะเดี๋ยวก็ต้องถูกถ่ายรูปอีก!! จึงต้องกลับไปถามคุณแม่จักรวาลต่อ





แล้วคุณแม่ปุ๋ยล่ะคะ วาดหวัง อะไรกับลูกๆบ้าง

"เขาอยากเป็นอะไรปุ๋ยไม่ว่า แต่สิ่งเดียวที่จะขอลูกๆคือ ขอให้เรียน หนังสือให้จบปริญญา เพราะการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ เขาอยากทำอะไรก็ได้ แต่ต้องเรียนหนังสือให้จบ อย่างฌอน ปุ๋ยก็สอนเขานะว่าพ่อเป็นคนเรียนหนังสือเก่ง ฌอนอยากประสบความสำเร็จอย่างพ่อ ต้องทำงานหนัก เขาก็บอกว่าเมื่อไหร่เขาจะได้ทำงานล่ะ ตอนนี้ทำได้หรือยัง เมื่อเดือนที่แล้วเขามาเล่าให้ฟังว่า เพื่อนเขาบอกว่าเขาโชคดีที่มีเงินเยอะแยะ ฌอนเขาบอกเพื่อนว่าเงินทั้งหมดเป็นของพ่อ ไม่ใช่เงินเขา ปุ๋ยก็สอนเขาว่า คนเรามี 2 มือเท่ากัน เขาก็ต้องทำงาน ถ้าเขาไม่รู้จักทำงาน เขาก็ไม่รู้จักคุณค่าของตัวเอง และอีกอย่างที่ปุ๋ยภาคภูมิใจคือ ความรักความผูกพันในครอบครัว ถ้าถามเขาว่าอะไรสำคัญในชีวิต เงินหรือครอบครัว เขาจะตอบว่าครอบครัว"

ปุ๋ยสอนลูกๆอย่างไร

"ปุ๋ยจะสอนเขาว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือครอบครัว เขาต้องรักกันมากๆ เพราะในชีวิตเขามีสิ่งเดียวที่จะอยู่ร่วมกันตลอดไปคือครอบครัว เราเป็นพี่เป็นน้องกันต้องรักกัน เพราะฉะนั้นเขาจะไม่ค่อยตีกัน ทะเลาะกันแย่งกันบ้าง แต่สุดท้ายเขาก็รักกัน ปุ๋ยปลื้มใจมาก"

ความสุขใจที่เกิดขึ้นทุกวันนี้มาจากอะไรคะ

"การเป็นตัวอย่างให้ลูกๆค่ะ ปุ๋ยว่าเป็นสิ่งสำคัญ อยากให้ลูกเห็น หรืออยากให้ลูกเป็นอย่างไร พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างให้เขาดู อย่างการที่เราช่วยเหลือคนอื่น หรือการที่เรามีเงินแล้วไม่ทำอะไร ชีวิตก็ไม่มีคุณค่า ปุ๋ยอยากให้ลูกๆรู้สึกว่าคนเราเมื่อมีโอกาสทำเพื่อคนอื่นได้ ก็น่าจะทำ หรือควรจะทำ คนเราเกิดมาไม่ใช่จะรับเพียงอย่างเดียว"

ชีวิตภาคต่อของ "ปุ๋ย–ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ไซม่อน" ในการทำหน้าที่แม่และภรรยานั้น ถือว่าเธอทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ และแฮปปี้เอนดิ้งจริงๆ.

ที่มา
ไทยรัฐ




Create Date : 31 สิงหาคม 2553
Last Update : 31 สิงหาคม 2553 17:11:33 น. 3 comments
Counter : 5066 Pageviews.

 
รักมาก ชอบที่สุด


โดย: ไม่บอก IP: 49.48.47.10 วันที่: 7 ตุลาคม 2554 เวลา:22:52:01 น.  

 
ตั้งแต่ประกวดนางสาวไทยปี 2531 และได้ตำแหน่งนางงามจักรวาล จนถึงวันนี้(28 พฤษภาคม 2556/2013) 20 กว่าปีผ่านไป ปุ๋ยไม่เคยเปลี่ยน เธอยังคงเป็นนางงามใจดีรักเด็ก... นี่แหละนางงามในดวงใจตัวจริงของพวกเราชาวไทย ขอให้ปุ๋ยและครอบครัวพบกับสิ่งดีๆตลอดกาล


โดย: นิ้งหน่อง IP: 101.109.245.182 วันที่: 28 พฤษภาคม 2556 เวลา:11:52:42 น.  

 
ชื่นชมกับคุณปุ๋ยมากคะ สิ่งที่ดี ๆ ที่คุณปุ๋ยให้ย้อนกลับไปสู่ครอบครัวคณปุ๋ย ร้อยเท่าพันเท่านะคะ


โดย: โศ IP: 171.97.136.151 วันที่: 7 สิงหาคม 2556 เวลา:16:09:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.