สาวงามมงกุฎและความภาคภูมิแห่ง...'เวเนซุเอล่า'
หากคนบราซิลคลั่งฟุตบอล คนเวเนซุเอลาก็คลั่งนางงามไม่แพ้กัน
และถ้าหากบราซิลตกรอบฟุตบอลโลกรอบ สุดท้ายก็ขาดความตื่นเต้น นั่นเหมือนกับเวทีประกวดขาอ่อน นางงามจักรวาล ที่หากขาดสาวงามจากเวเนซุเอลาเข้ารอบลึกๆ เวทีประกวดปีนั้นก็แทบจะไม่มีใครอยากดู เพราะนอกเหนือจากน้ำมัน ประธานาธิบดีฝีปากจัดอย่าง ฮูโก ชาเวซ น้ำตกสูงที่สุดในโลกอย่างน้ำตกแองเจิลแล้ว นางงามนี่แหละที่ถือเป็นความภาคภูมิใจแห่งชาติกันทีเดียว
สัปดาห์ที่ผ่านมาสาวงามจากเวเนซุเอลา สเตฟาเนีย เฟอร์นานเดซ วัย 18 ปี ก็กลายเป็นความภูมิใจแห่งชาติอีกคนหนึ่ง เมื่อเธอคว้ามงกุฎไปครองเป็น มิสยูนิเวิร์สคนที่ 6 ของประเทศ และทำสถิติเป็นประเทศแรกของโลกที่คว้าตำแหน่งนี้ติดต่อกัน 2 สมัย
เวเนซุเอลาเป็นรองแต่สหรัฐเท่านั้น ที่มีนางงามจักรวาลมากที่สุดคือ 7 คน แต่อย่าลืมว่าสหรัฐคือเจ้าภาพ และหากปีไหนที่สาวงามจากสหรัฐไม่เข้ารอบ ปีนั้นเจ้าภาพจัดการประกวดจะขาดทุนยับเพราะไม่มีใครชมการถ่ายทอด
 
ความสำเร็จของเวเนซุเอลาในหนนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ย้อนไปเมื่อปี 1995 และ 1996 สาวงามจากเวเนซุเอลาก็ถูกบันทึกว่าเป็นประเทศที่สามารถครองมงกุฎจากเวทีขาอ่อนระดับโลกทั้งนางงามจักรวาล และนางงามโลก
เรียกได้ว่า สวยทั้งพิภพ เพราะสวยที่สุดทั้งในโลกและในจักรวาล
เบื้องหลังความสวย โรงเรียนนางงาม และ ศัลยกรรม
ประเทศที่ คลั่งไคล้ การประกวดนางงาม และมีนางงามมากที่สุดกวาดมาเกือบทุกเวทีระดับโลกด้วยมิสยูนิเวิร์ส 6 คน มิสเวิลด์ 5 คน และมิสอินเตอร์เนชันแนลคราวน์ 4 คน
จะไม่ให้เป็นอย่างนั้นได้อย่างไร เพราะประเทศ ผู้ร่ำรวยน้ำมันติด 1 ใน 10 ของโลกรายนี้ปลูกฝังการรักสวยรักงามแบบส่งลูกสาวเข้าคอร์สเสริมความงามสร้างความสวยกันตั้งแต่วัย 5 ขวบ ฝึกฝนและเก็บสะสมมาเรื่อยๆ
สำหรับที่นั่นไม่ได้เป็นเรื่องแปลกเลยที่ครอบครัวในระดับชนชั้นกลางและชนชั้นสูงของประเทศนี้ฝันอยากที่จะย่างก้าวสู่เวทีการประชันความงาม เรียกได้ว่าเป็นเหมือน กีฬาประจำชาติ ยอดฮิตที่ทุกคนอยากจะลงแข่งเพื่อให้ได้เป็นตัวจริง
จากการศึกษาของโรเพอร์ สแตร์ช เวิลด์วายด์ ระบุว่า 65% ของผู้หญิงเวเนซุเอลาคิดถึงแต่เรื่องความงามตลอดเวลา เรียกได้ว่านี่คงเป็นโครงสร้างทางความคิดที่บรรดาพ่อแม่ที่มีลูกสาวจะปลูกฝังให้ลูกตั้งแต่ยังเล็ก
ไม่ใช่เท่านั้น สาวงามที่ประเทศนี้ยังนิยมการทำศัลยกรรมกันอย่างยิ่งด้วยเพราะราคาก็ถูก บางคนทำจมูก คาง เสริมหน้าอก ตัดกราม แม้กระทั่งการทำหน้าอกซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของคนที่นั่นด้วยค่าใช้จ่ายเพียงครั้งละ 1,000-3,500 เหรียญสหรัฐ
อย่าง ดายานา เมนโดซา เจ้าของมงกุฎมิสยูนิเวิร์สในปี 2008 ที่ได้รับการชมจากทั่วโลกว่า สวยสมบูรณ์แบบ ก็ออกมายอมรับว่าเธอทำจมูกและเสริมหน้าอกก่อน การเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์ส ซึ่งถึงแม้ จะไม่มีการห้ามจากเวทีประกวด แต่ เมนโดซาก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากพอสมควร
นพ.เอดูราโด ครูลิก แพทย์ศัลยกรรมของเวเนซุเอลา กล่าวว่า ศัลยกรรมผ่า ตัดเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับสาวประเทศนี้ ทุกคนต่างรู้ดีว่าสิ่งที่ตนควรจะพกพาติดตัวไปด้วยมากที่สุดคือ สัดส่วน 36-24-36
ในแต่ละปีจะมีผู้หญิงที่ได้รับการปรุงแต่งมาอย่างดีเข้ามาสมัครเพื่อแข่งขันในเวทีระดับประเทศอย่างมิสเวเนซุเอลาหลายพันคน ดังนั้นทีมงานก็จะคัดสรรกลั่นกรองกันอยู่หลายรอบ แถมต้องเข้าแคมป์อีกกว่า 2 เดือน ฝึกตั้งแต่ 8 โมงถึง 4 ทุ่ม เพื่อหาคนเข้ารอบสุดท้าย
นอกจากนี้ การถ่ายทอดรายการประกวดมิสเวเนซุเอลาเป็นรายการทีวีที่มียอดผู้ชมจำนวนมากที่สุด และคนส่วนมากก็ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง นั่งจดจ่อชมการประกวดอย่างตื่นตาตื่นใจ พร้อมความฝันใฝ่ว่าจะได้ไปยืนอยู่ ณ ที่ตรงนั้น
นอกจากความมั่งคั่งในขุมทรัพย์น้ำมันแล้ว ธุรกิจความงามยังถือเป็นอุตสาหกรรมที่หนุนรายได้ของประเทศก็ว่าได้ ธุรกิจโรงเรียนเตรียมนางงามซึ่งแต่ละคนที่เข้าไปเรียนนั้นอาจจะต้องใช้เงินกว่า 2 ล้านบาท
บางคนพยายามแล้วพยายามเล่าในการที่จะได้เข้าไปสู่เวทีการประกวดต่างๆ นั่นจึงไม่น่าแปลกใจที่มีการสำรวจพบว่า ประมาณ 1 ใน 5 ของรายได้ที่ได้มาถูกใช้ไปกับการเลือกซื้อสินค้าเพื่อความสวยความงาม
นพ.อัลเบอร์โต ซาลินาส แพทย์ผู้ซึ่งได้ทำการผ่าตัดช่องท้องเป็นเวลามากว่า 15 ปี และเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้ ซึ่งหลายคนมาผ่าตัดเพื่อให้ท้องเธอเล็กและทานอาหารได้น้อยลง บอกว่า
พวกเธอเข้ามารับการผ่าตัดเพราะรู้สึกว่าตนเองถูกปฏิเสธทางสังคม และไม่พอใจในรูปลักษณ์ของตนเอง
จนครั้งหนึ่งประธานาธิบดี ฮูโก ชาเวซ เคยถึงกับออกโรงประณามเมื่อเกิดแฟชั่นฮิตติดเทรนด์ที่สาวแรกแย้มจะฮิตไปทำศัลยกรรมทรวงอกกันเมื่ออายุขึ้นเลข 15 ปี เพื่อเป็นการฉลองให้กับความสาวที่เริ่มต้นขึ้น
เบื้องหลังรอยยิ้มที่กรรมการและคนทั่วโลก หลงใหล และเอาชนะใจกรรมการไปได้ หรือ รูปร่างหน้าตาและรูปร่างที่สง่างามเชือดเฉือนผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ นั้นมาจากน้ำพักน้ำแรง การปรุงสรรปั้นแต่ง และการฝึกฝนแต่งเติมมาเกือบทั้งชีวิต ก่อนการขึ้นประกวด ด้วยความฝันลึกๆ ในใจว่ามันจะเป็นหนทางสู่การยอมรับ เป็นการก้าวกระโดดทางสังคม
รอยเตอร์ส รายงานว่า ที่โรงเรียน กิสเซลส์ อินเตอร์เนชันแนล โมเดล ในกรุงคาราคัส เป็นหนึ่งในโรงเรียนเทรนการเป็นนางงามที่มีอยู่ทั่วประเทศนับพันแห่ง
กิสเซล เรเยส ผู้อำนวยการโรงเรียน และครูผู้ฝึกสอนการเดินแบบ ได้นำเสนอวิชาต่างๆ สำหรับการกลายเป็นนางงาม อาทิ การสอนท่วงท่าการเดินด้วยรองเท้าส้นสูงอย่างไรให้สง่า การใช้เสียง การเคลื่อนไหวและการทรงตัว รวมไปถึงการสอนด้านมารยาท และเทคนิคการตอบคำสัมภาษณ์บนเวทีการประกวด โดยนางงามจักรวาลคนล่าสุดในปีนี้ก็เป็นศิษย์เก่าของที่นี่
เรเยส บอกว่า เด็ก 5 ขวบก็มาเข้าคอร์สเป็น นางงามกันแล้ว
ดิฉันรู้ดีว่าตัวเองเป็นนางงามกันไม่ได้แล้ว ฉันเลยพาลูกมาเข้าคอร์สจะได้เป็นนางงามกันแทน คุณแม่ผู้หนึ่งซึ่งพาลูกสาววัย 5 ขวบมาเข้าเรียน กล่าว
เรเยส บอกว่า เมื่อพวกสาวๆ เหล่านี้โตขึ้นก็ จะได้กลายเป็นนางงาม ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีความสำคัญมากกว่าการเป็นหมอ นักกฎหมาย หรือแม้แต่ ทันตแพทย์
โรงเรียนแห่งนี้ไม่ได้เป็นโรงเรียนแห่งเดียวที่เปิดสอนวิชานางงามให้กับเด็กผู้หญิงที่เปี่ยมไปด้วยความหวังเท่านั้น แต่ยังมีโรงเรียนสอนนางงามอีกหลายพันแห่งทั่วเวเนซุเอลาที่มีการเปิดสอนวิชาเดียวกันนี้
ที่ผ่านมาโรงเรียนแต่ละแห่งก็มีลูกค้าที่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเด็กสาวเดินเข้ามาร่ำเรียนวิชากันอย่างไม่ขาดสาย เพื่อการเตรียมพร้อมในการแข่งขันเพื่อแย่งชิงมงกุฎสาวงามที่สุดในจักรวาลมาครอบครองให้ได้ในที่สุด
มงกุฎ บันไดสู่อนาคตอันเจิดจรัส
และความสงสัยก็คงจะรางเลือนไปในพริบตา ถ้ามาดูเบื้องหลังของสาวๆ ของประเทศนี้ เพราะที่นั่น ความงาม และตำแหน่งคือ บันได หรือจะเรียก ว่าเป็น สปริงบอร์ด อย่างดีก็ว่าได้
ในบทความเรื่องหนึ่งที่จัดทำโดยองค์การ การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก พูดถึงสาวๆ ของประเทศนี้ไว้ว่า เรื่องความงามกลายเป็นคุณค่าสูงสุดทางสังคมสำหรับผู้หญิงในเวเนซุเอลา อีกทั้งยังเป็นตัวบ่งบอกถึงความสำเร็จหรือความล้มเหลวในชีวิต หรือแม้กระทั่งความเป็นตัวของตัวเอง หรือความเป็นมืออาชีพด้วย
สตรีเวเนซุเอลาจำนวนมากคิดว่าความงามจะเป็นทางหนึ่งที่จะทำให้ตนเองก้าวกระโดดไปยังระดับชั้นทางสังคมที่สูงขึ้นและดีขึ้นได้ในที่สุด และบ่อย ครั้งก็เหมือนเป็นหนทางเดียวสำหรับชีวิตพวกเธอ
ดังนั้น ถ้าดูจากประวัติชีวิตและหน้าที่การงานของแต่ละคนที่ได้ทำแล้ว ก็ไม่แปลกนักที่หญิงในประเทศที่มีประชากรกว่า 80% ของประเทศเป็นคนยากจน แต่จะประดังประเดและทุ่มเทตัวเองสู่โลกแห่งความงามเพื่อยกระดับฐานะทางสังคม
มาเรียนเกล รุซ ทอร์เรียลบา (Mariangel Ruiz Torrealba) มิสเวเนซุเอลาปี 2002 และยังสวยล้ำครองรองอันดับ 1 ในเวทีมิสเวิลด์ในปี 2003 และทันทีที่เธอได้รับตำแหน่ง งานก็รุมเร้าทั้งพิธีกร นางแบบ แต่นั่นก็ธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาก็อยู่ตรงที่ในที่สุด ความงาม และ คนดัง ก็มีแรงดึงดูดกันและกันเสมอ เธอแต่งงานกับนักเบสบอลชื่อดังชาวอเมริกัน โทนี อัลวาราซ (Tony Alvaraz) อีกด้วย
ส่วนรุ่นพี่อย่าง อลิเซีย มาชาโด (Alicia Machado) มิสยูนิเวิร์สปี 1996 ได้โอกาสเข้าสู่วงการบันเทิง เป็นนักแสดง และหมั้นหมายกับนักกีฬาชื่อดัง บ็อบบี แอบรู (Bobby Abreu) แต่ก็สวยเลือกได้ เธอถอนหมั้นและลงเอยแต่งงานกับนักธุรกิจสูงวัยชาวเม็กซิโก ราฟาเอล เฮอร์นานเดซ (Rafael Hernandaz)
เท่านั้นยังไม่พอ รุ่นพี่อย่าง มาริตซา ซายาเลโร ซึ่งเรียกเสียงเฮและความฮือฮาให้ชาวเวเนซุเอลาด้วยการเป็นมิสยูนิเวิร์สคนแรกของประเทศ ก็เอาชนะใจหนุ่มนักเทนนิสอาชีพชาวเม็กซิโกอย่าง รอล แรมเรซ (Raul Ramrez) ผู้ที่เคยขึ้นเป็นมือวางอันดับ 4 ของโลก
และยังมีอีกหลายคนที่มงกุฎได้นำเธอไปสู่เวทีทางการเมืองเป็นถึงระดับรัฐมนตรีมาแล้ว
บาร์บารา พาลาซิออส เทย์เด ที่ครองมงกุฎมิสยูนิเวิร์สเป็นคนที่ 3 ของประเทศเมื่อปี 1986 หลังจากได้รับตำแหน่ง เธอกลับมาใช้ชีวิตท่ามกลางแสงสปอตไลต์ในตำแหน่งพิธีกรโทรทัศน์ ต่อด้วยการทำธุรกิจ และในที่สุดได้ก้าวขึ้นเป็นรัฐมนตรีการท่องเที่ยว เรียกว่าความงามพาเธอกระโดดไกลเลยทีเดียว
ส่วน ไอรีน ซาเอซ เจ้าของมงกุฎมิสยูนิเวิร์สในปี 1981 เธอเป็นนายกเทศมนตรีของเมืองซาคาโอ ก่อนที่จะจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ที่มีชื่อว่า พรรคพลังตัวแทนเพื่อความหวังใหม่ (The Integrated Representation of New Hope : IRENE) และตำแหน่งสุดท้ายทางการเมืองคือ ผู้ว่าการรัฐนวยวา เอสปาร์ตา ในช่วงระหว่างปี 1999-2000
ความงามที่โดดเด่น ได้พาสตรีผู้นี้แหวกวงล้อมทางสังคมให้ได้แสดงความสามารถและเป็นที่ยอมรับได้ในที่สุด
23 ส.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ สเตฟาเนีย เฟอร์นานเดช สาวน้อยนัยน์ตาสีน้ำตาล กำลังได้รับการสวมมงกุฎนางงามจักรวาลจากนางงามรุ่นพี่
ประชาชนชาวเวเนซุเอลานับแสนที่เป็นประจักษ์พยานผ่านหน้าจอโทรทัศน์ต่างโห่ร้องยินดีไปทั่วประเทศ
พวกเขาต่างหวังว่าในปีหน้าและปีต่อๆ ไปสาวๆ รุ่นน้องจะเดินรอยตามรุ่นพี่นำความสำเร็จมายังประเทศได้ต่อไปในอนาคต
เพราะ นางงาม ได้กลายเป็นวัฒนธรรม เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตสาวๆ เวเนซุเอลาที่นำรอยยิ้มมาให้เสมอในฐานะความภาคภูมิใจแห่งชาติอันเลอค่ายิ่งนัก...
เนื้อเรื่อง : posttoday
ภาพ : beauty-queen
| Create Date : 01 กันยายน 2552 |
| Last Update : 1 กันยายน 2552 21:20:41 น. |
|
1 comments
|
| Counter : 5279 Pageviews. |
 |
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [
