ภาพถ่ายวินาทีชีวิต ที่แพทย์หญิงนิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือ หมอนิ่ม พยายามที่จะช่วยยื้อชีวิต ให้กับนายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือ เอ็กซ์ ผู้เป็นสามี หลังถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิงเสียขีวิต เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา ขณะกำลังขับรถจากบ้านพักของตัวเองในซอยรามคำแหง 174 เพื่อไปหาหมอนิ่มและลูก ที่บ้านพักย่านรามคำแหง 162 โดยไม่มีท่าทีใด ๆ ที่จะทำให้ระแคะระคายว่า เธอจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้น...

นายเจริญชัย แก้วชิงดวง เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งเป็นผู้ถ่ายภาพดังกล่าวไว้ เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นให้ไทยรัฐออนไลน์ฟังว่า เมื่อเจ้าหน้าที่อาสาฯ ไปถึง พบเอ็กซ์นอนหมดสติอยู่ในรถ และมีสาวใช้ที่นั่งมาด้วยได้รับบาดเจ็บที่ขา จึงช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล และขอรถพยาบาลให้เข้ามาช่วยเหลือเอ็กซ์ หลังจากนั้นไม่กี่นาที หมอนิ่มก็มาถึงที่เกิดเหตุ

"ผมไปถึง ประมาณ 5 นาที คุณหมอก็มาถึง บอกว่าดิฉันเป็นแฟนเขา เป็นหมอ และจะขอเข้าไปเพื่อช่วยเหลือ เพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้น  ท่าทางของคุณหมอขณะนั้น ดูตื่นตระหนกตกใจบ้าง มีการขออุปกรณ์เปิดแอร์เวย์  เพื่อช่วยให้อากาศไปเลี้ยงสมอง แต่อาการของเอ็กซ์ตอนนั้น ตัวซีดเหลือง ไม่รู้สึกตัว และไม่มีชีพจรตอบสนองแล้ว จึงเชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว"

ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายนัดกับหมอนิ่มจะพาลูกเข้าไปหาที่บ้าน แต่มารดาทักท้วงว่า ไม่ควรออกไปเพราะมืดแล้ว จึงให้เอ็กซ์ขับรถมาหาที่บ้านแทน หมอนิ่มปรากฏตัว นั่งในรถกู้ชีพ หลังสามีถูกยิงไม่กี่นาที ทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัย ด้วยสาเหตุใด เธอจึงไปถึงที่เกิดเหตุได้เร็ว แม้เธอจะอ้างว่า ได้รับโทรศัพท์แจ้งจากแม่บ้านที่เดินทางมาคู่กับเอ็กซ์ และจุดเกิดเหตุก็อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเธอก็ตาม และปฏิเสธไม่รู้ถึงปมสาเหตุที่ทำให้สามีถูกปลิดชีวิต เพราะผู้ตายไม่เคยเล่าถึงปัญหาส่วนตัวให้ฟัง และยืนยันว่า ความสัมพันธ์ของครอบครัวเริ่มกลับมาดีขึ้น หลังจากที่เอ็กซ์พ้นโทษออกมาจากเรือนจำ

"พี่เอ็กซ์ไม่เคยเล่าเรื่องอะไรให้ฟัง มีแต่คุยเรื่องแต่งบ้าน จะไปซื้อเฟอร์นิเจอร์อะไรด้วยกัน เพราะหลังบ้านตกแต่งเสร็จ ก็วางแผนที่จะกลับไปอยู่ด้วยกัน หลังจากที่พ้นโทษออกมาเค้าดีขึ้นมาก มาง้อ เราก็ดีใจ เพราะปกติเค้าไม่เคยทำแบบนี้ แม่ของตัวดิฉันเอง ก็ให้อภัยเค้า"

พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บชน. เปิดเผยว่า คดีนี้ในครั้งแรก ตำรวจตั้งประเด็นการสังหารไว้ 4 ประเด็น คือ ยาเสพติด, พระเครื่อง, ปัญหาในสมาคมยิงปืน และความขัดแย้งในครอบครัว เพราะด้วยบุคลิกของเอ็กซ์ที่เป็นคนใจร้อน ไม่ยอมใคร ทำให้มีปัญหากับคนหลายกลุ่ม แม้กระทั่งกับพ่อและแม่ของตัวเอง แต่หลังจากการสืบสวนแล้ว ทำให้ตำรวจค่อย ๆ ตัดประเด็นอื่นทิ้งไป จนเหลือเพียงแค่ความขัดแย้งในครอบครัว

"หลังจากที่เราดูที่เกิดเหตุแล้ว เราได้ตั้งไว้ 4 ประเด็น 1. ยาเสพติด เราดูว่านำยาเสพติดมาจากไหน มีคนค้านำมาให้หรือไม่ จึงเรียกคนที่เกี่ยวข้องมาสอบ พบว่า เพียงแค่เอามาเสพ ไม่ได้มีการค้า จึงตัดประเด็นนี้ทิ้งไป 2. การซื้อขายพระ ในช่วงเกิดเหตุ เอ็กซ์ขายพระไป 2 องค์ เราตรวจสอบบัญชีที่คนซื้อโอนเข้ามา พบว่ามีที่มาที่ไป และคนที่ซื้อไปก็ยืนยันว่า ได้พระมาถูกต้องไม่มีปัญหาอะไร 3. เรื่องความขัดแย้งกับสมาคมยิงปืน ที่เอ็กซ์มีปัญหาฟ้องร้องกันหลายคดี เราเชิญนายกสมาคมฯ รวมถึงคนในวงการมาสอบถาม แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรน่าสงสัยจึงตัดไป"

"เหลือแค่ประเด็นเรื่องครอบครัว ที่พบว่าเอ็กซ์มีปัญหากับคนในครอบครัว ทั้งพ่อแม่ตัวเองก็ไม่ค่อยถูกกัน และกับภรรยา ญาติของภรรยา แม่ยาย พี่ ๆ ก็ไม่ถูกกัน เพราะด้วยอุปนิสัยของเอ็กซ์ที่เป็นคนก้าวร้าว พูดจาไม่เกรงใจใคร ทำให้คนไม่ชอบขี้หน้าเยอะ เราก็ไล่ตรวจสอบไปเรื่อย ๆ จนเจอว่าใครน่าจะเป็นมือปืน และน่าจะเกี่ยวข้องกับการสังหารในครั้งนี้ ”

"หลักฐานสำคัญ คือ การข่าวที่มีคนให้ข้อมูล และเราตรวจสอบแล้ว มีพยานหลักฐานที่สามารถนำไปสู่การออกหมายจับได้ โดยเฉพาะที่สำคัญคือ ภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง ที่เราพบไปถึงจุดที่คนร้ายพักอยู่ และนำไปสู่การขยายผลไปถึงคนอื่น ๆ ทั้งขบวนการ" พล.ต.ต.ประยนต์ กล่าว

นอกจากนี้ ข้อมูลของชุดคลี่คลายคดี พบว่า ก่อนเอ็กซ์ถูกยิงตาย 4 วัน ได้มีปากเสียงกับหมอนิ่มอย่างรุนแรง และมีความพยายามจะทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น ตำรวจจึงสืบสวนในเชิงลึก และได้หลักฐานจากกล้องวงจรปิด บันทึกภาพของคนร้าย ขณะกำลังหลบหนีได้ และยังพบหลักฐานที่เป็นการติดต่อกันระหว่างผู้ต้องหา พยาน-หลักฐานทั้งหมด ทำให้ตำรวจขออนุมัติหมายจับจากศาล ก่อนที่จะสามารถติดตามจับกุมตัวนาย จิรศักด์ กลิ่นคล้าย มือปืนได้เป็นคนแรก ซึ่งนายจิรศักดิ์ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับนายธวัชชัย เพชรโชติ ลอบสังหารเอ็กซ์จริง โดยได้รับการว่าจ้างจาก นายสันติ ทองเสน หรือทนายอีส ซึ่งรับงานจัดหามือปืนมาจาก นางสาววรพรรณภูรี มนตรีอารีกุล ที่มีความสนิทสนมกับครอบครัวของหมอนิ่ม และได้รับการว่าจ้างจาก นางสุรางค์ ดวงจินดา มารดาของหมอนิ่มและตัวหมอนิ่มเอง ในราคา 1 ล้าน 2 แสนบาท เพื่อให้จัดการกับเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ก่อนที่นางสุรางค์และหมอนิ่ม จะเข้ามอบตัวในเวลาต่อมา

ซึ่งได้สารภาพว่าเป็นผู้จ้างวานฆ่า เพราะความเจ็บแค้นในพฤติกรรมของเอ็กซ์ ที่มักจะทำร้ายหมอนิ่ม ซึ่งเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว จนถึงขั้นทำให้แท้งลูกคนที่ 3  ซึ่งถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ต้องตัดสินใจปลิดชีพลูกเขย  

คดีนี้ ตำรวจใช้เวลาแกะรอย เพียง 20 วัน จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เกือบทั้งหมด แม้ในครั้งแรก ตำรวจเกือบจะหลงประเด็น เพราะความแนบเนียนของคนใกล้ตัวผู้ตาย ที่มีการวางแผนอย่างรัดกุม แต่ตำรวจมั่นใจว่า มีพยานหลักฐานหนาแน่นชัดเจน ที่จะสามารถดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดได้.