ม็อบปิดถนนพระราม 6 ตั้งแยกโรงกรองน้ำสามเสน มาถึงทางเข้าซอยอารีย์ฯ หลังแกนนำต้านระบอบทักษิณโหมกระแส ตร.เตรียมเข้าสลายการชุมนุมภายในก.คลัง ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ พร้อมเข้าล้อมรถตร.ร้อยเอ็ด ขณะแวะจอดน้ำมันในปั๊ม ล่าสุดยอมเปิดทางแล้ว ส่วนอีกกลุ่มรวมตัวหน้าบช.ตชด.ถนนพหลโยธิน ขาออก...

วันที่ 27 พ.ย. มีรายงานว่า ภายหลังเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) มีกระแสข่าวลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เตรียมนำกำลังเข้าจับกุมนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ชุมนุมต้านระบอบทักษิณ ภายในกระทรวงการคลังตามที่นายสุเทพ ออกมาระบุ ทำให้กลุ่มมวลชนเดินทางมาปิดการจราจร โดยนำรถยนต์มาจอดบริเวณถนนพระราม 6 ตั้งแต่แยกพิบูลพัฒนา มาถึงแยกโรงกรองน้ำสามเสน การประปานครหลวง ต่อเนื่องมาถึงหน้าโรงพยาบาลวิชัยยุทธ รวมถึงซอยเศรษฐศิริ 2 ทางแยกเข้าพรรคประชาธิปัตย์ เยื้องทางเข้าซอยอารียสัมพันธ์ที่ตั้งกระทรวงการคลัง ทำให้ทางด่วนขั้นที่ 2 บริเวณคลองประปาฝั่งขาเข้า ไม่สามารถขึ้นลงได้ ต้องใช้ทางขึ้นลงบริเวณยมราชแทน โดยผู้ชุมนุมได้เปิดให้รถสัญจรไปมาได้เพียงช่องทางเดียว เพื่อเลี้ยวเข้าแยกตึกชัย

นอกจากนี้ ผู้ชุมนุมยังยกขบวน พร้อมรถขยายเสียง ไปรวมตัวหน้ากองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ถนนพหลโยธินฝั่งขาออกมุ่งหน้าสะพานควาย การจราจรถูกปิด เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเปิดช่องทางพิเศษบนถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้า ให้รถสวนไปมาแทน ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าตำรวจ สน.บางซื่อ แจ้งว่า การจราจรฝั่งขาออกใช้การได้แล้ว

ส่วนความคืบหน้ากรณีมวลชนเข้าปิดล้อมรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมมีการปล่อยลมยางรถ เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ภายในปั๊มน้ำมันริมถนนพระราม 6 ข้างโรงกรองน้ำสามเสน พบว่าเป็นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองร้อยควบคุมฝูงชนจ.ร้อยเอ็ด จำนวน 17 คัน ซึ่งได้แวะเติมน้ำมันเพื่อเดินทาง กลับจ.ร้อยเอ็ด เพื่อขึ้นทางด่วนขั้นที่ 2 หลังมีการสับเปลี่ยนกำลังพลบริเวณสวนสัตว์เขาดิน โดยกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใจว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เตรียมเข้าสลายการชุมนุมภายในกระทรวงการคลัง

กระทั่งในเวลาต่อมาทางพล.ต.ท.ชัยพล พลเยี่ยม รองผู้กำกับการ ฝ่ายปราบปราม สภ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ได้ชี้แจงกับกลุ่มผู้ชุมนุมขอนำรถออกจากพื้นที่ซึ่งถูกปิดล้อม จนเกิดความเข้าใจ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมยอมเปิดเส้นทางให้กับขบวนรถเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าวแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในเวลา 09.00 น.วันนี้ ทางแกนนำต่อต้านระบอบทักษิณ ได้นัดรวมพลกระจายกำลังเดินทางไปยัง 12 กระทรวง อาทิ กระทรวงพลังงาน , กระทรวงไอซีที,กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงแรงงาน เป็นต้น