พระเจสัน ปิยาจาโร (ยัง) แจงถอนหมั้น-เหตุไม่ลาสิกขา
'พระเจสัน ยัง'ออกแถลงการณ์ สาเหตุไม่ลาสิกขา เตรียมไปพำนักวัดในแคนาดา เดือน ส.ค.นี้ แม่ชี-ผู้ใหญ่บ้าน ระบุ พระเจสัน ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด
เป็นอีกหนึ่งข่าวช็อคของวงการบันเทิง เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา เฟสบุ๊ค แฟนเพจ วิทยุครอบครัวข่าว ได้นำเสนอข่าวกรณี พระเจสัน ยัง และ ดาริกา จาร์โกต้า คู่หมั้นของพระเจสัน ยัง ประกาศถอนหมั้นอย่างเป็นทางการ เพราะพระมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะอยู่ในผ้าเหลืองนั้น ล่าสุด พระเจสัน ยัง ออกแถลงการณ์มีใจความว่า
"อาตมา พระเจสัน ปิยาจาโร (ยัง) ขอประกาศแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันว่า หลังจากที่อาตมาได้เข้ามาสู่ร่มกาสาวสพัสตร์เพื่อทดแทนคุณบิดา-มารดา ที่ได้ล่วงลับไปแล้วเมื่อวันที่ 1 เม.ย. อาตมาได้ตั้งใจประพฤติปฏิบัติทำวัตรและรักษาพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด อยู่มาได้เกิดความซาบซึ้ง เลื่อมใส และศรัทธาอย่างแรงกล้า จึงมีความประสงค์ที่จะอยู่ในสมณเพศต่อไปอย่างไม่มีกำหนดเพื่อสืบทอด
พระพุทธศาสนา อาตมาจึงขอโอกาสนี้ยกย่องสรรเสริญความเสียสละอันยิ่งใหญ่และจิตใจอันประเสริฐยิ่งของโยมดาริกาและครอบครัวจาโกต้า ที่ไม่ขัดข้อง แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากทางโลกอยู่บ้าง แต่ทางโยมดาริกาก็พร้อมที่จะฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ เพื่อรักษาธรรมที่ยิ่งใหญ่กว่า และร่วมอนุโมทนาบุญกับอาตมา
ขณะนี้อาตมา กำลังศึกษาวิชาสมาธิชั้นสูง รุ่นที่ 1 ร่วมกับพระสงฆ์ครูสมาธิ นักวิชาการจากทั่วประเทศ และผู้ทรงคุณวุฒิทางการเมืองรวมกว่า 1,500 ชีวิต ณ วัดธรรมมงคล โดยมีพระธรรมมงคลญาณ หรือหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร เป็นอาจารย์ผู้สอนหลักสูตรด้วยตัวท่านเอง และหลังจากจบหลักสูตรประมาณต้นเดือน ส.ค.นี้ อาตมา จะเดินทางไปพำนักอยู่ที่วัดราชธรรมวิริยาราม 3 เมืองแอดแมนตั้น ประเทศแคนาดา
สุดท้ายนี้ อาตมาขอขอบคุณโยมดาริกาและครอบครัวจาโกต้าทุกท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณนพพล โกมารชุน คุณปรียานุช ปานประดับ ครอบครัวเหลืองสวัสดิ์ ครอบครัวพุทธินันทน์ ครอบครัวพวงมาลา ครอบครัวสารกิจปรีชา ตลอดจนครูบาอาจารย์ วงการบันเทิงไทย ผู้ใหญ่ทุกท่าน พี่น้องและเพื่อนทุกคน รวมถึงแฟนเพลงและละคร หากมีสิ่งใดเคยล่วงเกินท่านทั้งหลายด้วยกาย วาจา ใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ตั้งใจและไม่ตั้งใจก็ดี ขอได้โปรดอโหสิกรรมและอนุโมทนาบุญในเส้นทางธรรมของอาตมาด้วย"
เผยพระเจสันเคร่งภาวนาเดินจงกลมวันละ 5-9 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดป่าห้วยส้มสุก ต.สะลวง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นวัดที่พระเจสัน ยังใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมหลังอุปสมบทในช่วงที่ผ่านมา พบว่าบรรยากาศภายในวัดมีความสงบร่มรื่นอยู่ห่าง ไกลจากตัว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ กว่า 10 กิโลเมตร ภายในวัดมีเพียงพระอาจารย์ยุทธนา ธีระธรรมโม เจ้า อาวาส พระและแม่ชีอีก 2 รูป ส่วนพระเจสันได้เดินทางไปที่วัดธรรมมงคล
กรุงเทพฯ กว่า 1 เดือนแล้ว
แม่ชีในวัดรายหนึ่ง เล่าว่า ระหว่างที่
พระเจสันปฏิบัติธรรมที่วัดได้ปฏิบัติเจริญภาวนาอย่างเคร่งครัด โดยกำหนดจิตเดินจงกลมทุกวันและมีหลายครั้งที่เดินจงกลมนานถึง 9 ชั่วโมง ขณะที่กุฏิที่พักยังไม่ยอมพักใน กุฏิสองชั้นหลังใหญ่ที่วัดจัดให้ แต่ขอจำวัดในกุฏิหลังเล็กชั้นเดียวที่มีเพียงห้องหนึ่งห้องไม่มีห้องน้ำและไฟฟ้า โดยด้านหน้ากุฏิเป็นสถานที่เดินจงกลมที่พระเจสันปฏิบัติภาวนาอย่างเคร่งครัดทุกวัน
ทั้งนี้ ในช่วงที่พระเจสันเปฏิบัติ
ธรรมที่วัดมีญาติของ น.ส.ดาริกา จาโกต้า คู่หมั้นสาวเดินทางมาพบ สองครั้งและมีการพูดคุยกันถึงเรื่องการแต่งงาน หลังจากนั้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา น.ส.ดาริกา พร้อมญาติได้เดินทางมาที่วัดอีกครั้งเพื่อขอคำตอบ ขณะที่พระเจสันได้แสดงปราถนาที่จะอยู่ในร่มกาสาวพัตร์อย่างไม่มีกำหนดและได้ขอโทษที่ทำตามสัญญาไม่ได้ทำให้คู่หมั้นสาวเสียใจร้องไห้ แต่สุดท้ายก็ยินดีที่ พระเจสันจะได้สืบสอดพุทธศาสนาตามที่ตั้งใจไว้
"สาเหตุที่ทำให้พระเจสันเลือกอยู่ในทางธรรมต่อไป เชื่อว่าจะมาจากการเจริญภาวนาอย่างเคร่ง ครัดในช่วงที่ผ่านโดยมีหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล กรุงเทพฯ เป็นพระอาจารย์คอยชี้ แนะการฝึกจิตให้สงบจนมองเห็นทางสว่างในร่มกาสาวพัตร์ในที่สุด ส่วนปัญหาในเรื่องอื่นเชื่อว่าจะไม่มี อย่างแน่นอน"
แม่ชี กล่าวต่อว่า พระเจสันมีความสนใจในการปฏิบัติธรรมและเจริญภาวนามานาน โดยทราบว่า ก่อนหน้าที่จะอุปสมบทพระเจสันจะร่วมธุดงค์ไปกับหลวงพ่อวิริยังค์ทุกครั้งที่มีโอกาส ขณะที่ในตอนนี้ทราบ ว่าพระเจสันจะเดินทางไปปฏิบัติธรรมร่วมกับหลวงพ่อวิริยังค์ที่วัดสาขาในประเทศสวีเดน ส่วนจะกลับมาที่ วัดป่าห้วยส้มสุกอีกหรือไม่ยังไม่มีความชัดเจน
ด้านนายมนต์ชัย ไชยมังกร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.สะลวง กล่าวว่า ช่วงเวลาที่พระเจสันปฏิบัติธรรมที่วัดห้วยส้มสุกได้ออกบิณฑบาตรทุกเช้า ภาพที่ชาวบ้านเห็นคือพระที่เคร่งครัดในธรรมวินัย มีความสงบและใบหน้าที่อิ่มเอมไปด้วยธรรม ขณะที่การปฏิบัติภาวนาอย่างตั้งใจทำให้คนในหมู่บ้านให้ความเคารพนับถือโดยไม่มีภาพของความเป็นดารานักแสดงเข้ามาเกี่ยวข้องแม้แต่น้อย