ศาลอนุมัติออกหมายจับ พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ บุญไท สวญ.สภ.เหล่าหลวง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ หลังจากถูกซักทอด อาจมีเอี่ยวขบวนการค้างาช้าง...

วันนี้ (26 ก.ย. 56) จากกรณีเมื่อวันที่ 23 ก.ย. 56 ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้จับกุม นายสุชาติ ศรีแก้ว อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 19 ต.แตล อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ และนายเด่นชัย ศรีกานิล อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 8 ต.แสนพัน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ผู้ต้องหาที่ร่วมกันลักลอบขนงาช้าง และติดสินบนเจ้าพนักงาน พร้อมของกลางงาช้าง 56 กิ่ง ขนาดตั้งแต่ 60-170 ซม. (ส่วนใหญ่จะเป็นงาช้างจากแอฟริกา) มูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท พร้อมรถตู้โตโยต้า สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เงินสด (ติดสินบน) 1,000,000 บาท และจากการตรวจสอบรถตู้ของกลางคันดังกล่าวพบว่า หมายเลขทะเบียน ฮภ 793 กรุงเทพมหานคร เป็นรถตู้ที่ใช้ในราชการของ สภ.ป่งไฮ อ.เซกา จ.บึงกาฬ

ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน ได้รวบรวมพยานขออนุมัติศาลจังหวัดนครราชสีมา ออกหมายจับผู้ที่พัวพันในคดีดังกล่าวเพิ่ม 2 คน ประกอบด้วย ด.ต.ศุภชัย พรมจันทร์ อายุ 41 ปี ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เหล่าหลวง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ช่วยงาน สืบสวนภูธรจังหวัดบึงกาฬ  และนายสมควร พลอยรัก อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/55 หมู่ 9 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ในข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยผิดกฎหมาย (งาช้าง) จนกระทั่งจับกุมตัว ด.ต.ศุภชัย ได้ และทำการสอบสวน

โดย ด.ต.ศุภชัย ให้การว่า ได้รับคำสั่งจาก พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ บุญไท สวญ.สภ.เหล่าหลวง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นนักเรียนนายร้อยรุ่น 49 (นรต.รุ่น 49) ให้ไปขับรถตู้คันดังกล่าว มาจากโรงพัก สภ.ป่งไฮ นั้น ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า ร.ต.อ.ประชากร พรมดวง พนักงานสอบสวน ได้หอบเอกสารพยานหลักฐานต่างๆ ไปขออนุมัติหมายศาลจังหวัดนครราชสีมา ออกหมายจับ พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ แล้ว กระทั่งเวลา 18.00 น. ศาลได้อนุมัติหมายจับ พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ ในข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยผิดกฎหมาย (งาช้าง) 

ด้านความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี พ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รอง ผกบ.ภ.จว.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ด.ต.ศุภชัย ยังให้การปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นเกี่ยวกับการขนงาช้างดังกล่าว รับสารภาพเพียงว่าเป็นคนไปขับรถตู้คันดังกล่าวจริง โดยได้รับคำสั่งจาก พ.ต.ท.ทรงศักดิ์  ซึ่งโทรศัพท์ยืมรถตู้คันดังกล่าวจาก พ.ต.ท.สมัคร์ กองเกิด สว. สภ.ป่งไฮ อ.เซกา จ.บึงกาฬ โดยได้มีการลงบันทึกประจำวันการยืมรถไว้เป็นหลักฐานด้วย จากนั้น ด.ต.ศุภชัย ได้นำรถตู้ไปจอดไว้ที่บ้านพักของ พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ และอ้างว่า ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับรถคันดังกล่าวอีกเลย

ทั้งนี้ ภายหลังจากสอบปากคำเสร็จ ได้มีภรรยาของ ด.ต.ศุภชัย ใช้ตำแหน่ง ผอ.รพ.สต.แห่งหนึ่งใน จ.บึงกาฬ มาประกันตัวออกไป นอกจากนั้น พนักงานสอบสวนยังได้เชิญตัว พ.ต.ท.สมัคร์ ซึ่งเป็นผู้ที่อนุญาตให้ยืมรถคันดังกล่าว มาสอบปากคำเพื่อเป็นพยาน เบื้องต้นทาง พ.ต.ท.สมัคร์ ให้การยืนยันตรงกันว่า ทาง ด.ต.ศุภชัย ได้ไปยืมรถจริง และ พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ ที่ ด.ต.ศุภชัย อ้างถึงว่าเป็นคนสั่งให้ไปยืมรถ ก็ได้โทรศัพท์มายืมรถจริงตามที่ ด.ต.ศุภชัย กล่าวอ้าง ซึ่งจากการสอบสวนทั้ง 2 คน เบื้องต้นให้การไปในทิศทางเดียวกัน ส่วน พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ หลังเกิดเรื่องก็หายตัวไป ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคดีดังกล่าว ได้ทำหนังสือถึงผู้บังคับบัญชาของ พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ ให้ทราบเรื่อง และให้เข้าพบเพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับคดีดังกล่าวด้วย

ส่วนนายสุชาติ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ขณะมารับรถตู้คันดังกล่าว ได้ขอประกันตัวในชั้นศาล สำหรับนายเด่นชัย ผู้ต้องหาที่รับจ้างนำเงินมาติดสินบนเจ้าหน้าที่ไม่มีใครมาประกันตัว ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางนครราชสีมา ขณะที่ นายสมควร พลอยรัก อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับอีกคน ที่ถูกอ้างว่าเป็นผู้ประสานงานการขนงาช้าง และเป็นผู้สั่งการให้นำเงินมาติดสินบนเจ้าหน้าที่ มีข้อมูลว่าได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วว่าจะเข้ามอบตัวในวันจันทร์ที่ 30 ก.ย.นี้.