ฉัตรมงคลวันมหามงคลของชาวไทย
ฉัตรมงคลวันมหามงคลของชาวไทย
พระราชพิธีฉัตรมงคลเป็นพระราชพิธีที่กำหนดให้มีขึ้น โดยถือวันครบรอบปีแห่งการเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติของพระมหากษัตริย์กรุงรัตนโกสินทร์แต่ละรัชกาล ถือเป็นวันมหามงคล ในพระราชพิธีนั้นพระมหากษัตริย์ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล สมโภชพระมหาเศวตฉัตรและเครื่องสิริราชกกุธภัณฑ์เป็นการเฉลิมฉลองครบรอบปีที่เสด็จขึ้นครองราชสมบัติราชาภิเษก และเพื่อให้เป็นสวัสดิมงคลแก่ราชสมบัติ และทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุประทาน เพื่อทรงอุทิศกุศลสนองพระเดชพระคุณให้เป็นการเชิดชูพระเกียรติคุณสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกพระองค์ และพระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยทั่วไป ซึ่งเป็นพระราชพิธีที่ปฏิบัติกันมาแต่โบราณ ดังปรากฏในหลักศิลาจารึก พ่อขุนรามคำแหงมหาราชว่า "ในสมัยสุโขทัยมีพิธีต้อนรับประมุขของแผ่นดินอย่างมโหฬาร ตั้งแต่พ่อขุนผาเมืองอภิเษก พ่อขุนบางกลางหาวขึ้นเป็นผู้ปกครองเมืองสุโขทัย" สำหรับสมัยอยุธยาก็ปรากฏหลักฐานตามพงศาวดารว่า
"พระมหากษัตริย์ในแผ่นดินอยุธยา เมื่อมีการเปลี่ยนองค์พระมหากษัตริย์ทั่วทั้งเมืองจัดให้มีพิธีเฉลิมฉลองอย่างเอิกเกริกใหญ่โตไปทั่วทั้งพระนคร"
ในรัชการที่ 9 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติในวันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2489 แต่ขณะนั้นยังทรงพระเยาว์ และกำลังทรงศึกษาอยู่ในต่างประเทศ ณ ทวีปยุโรป จึงยังมิได้ทรงรับพระบรมราชาภิเษก การพระราชพิธีจึงคงทำในนามพระราชพิธีรัชมงคล จนกระทั่งทรงบรรลุนิติภาวะ จึงเสด็จนิวัติประเทศไทยและรัฐบาลไทยได้น้อมเกล้าฯ จัดพิธีบรมราชาภิเษกถวาย เมื่อวันที่5 พฤษภาคม 2493 เหล่าพสกนิกรชาวไทยจึงถือเอาวันที่ 5 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันฉัตรมงคล
การจัดพิธีฉัตรมงคลในปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ประกอบพระราชกุศลในวันฉัตรมงคลรวม 3 วัน เริ่มตั้งแต่ วันที่ 3 พฤษภาคม เป็นพิธีสงฆ์ งานพระราชกุศลทักษิณานุประทาน ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงนิมนต์พระสงฆ์มาสวดมนต์ แล้วพระราชาคณะถวายพระธรรมเทศนา พระสงฆ์สดับปกรณ์พระบรมอัฐิสมเด็จพระบรมราชบุรพการี อุทิศถวายแด่พระบรมราชบุรพการี ในวันที่ 4 พฤษภาคม เริ่มพระราชพิธีฉัตรมงคล เจ้าพนักงานอัญเชิญเครื่องราชกกุธภัณฑ์ขึ้นประดิษฐานบนพระแท่นใต้พระมหาปฎลเศวตฉัตรจากนั้นพระราชครูหัวหน้าพราหมณ์อ่านประกาศพระราชพิธีฉัตรมงคล พระสงฆ์สวด พระพุทธมนต์เย็น ในวันฉัตรมงคล คือ วันที่ 5 พฤษภาคม ในตอนเช้าทรงพระราชทานภัตตาหารแด่พระสงฆ์ พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนสมโภชพระมหาเศวตฉัตร และเครื่องราชกกุธภัณฑ์เมื่อถึงเวลาเที่ยงตรงทหารเรือ และทหารบกยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ พร้อมกัน 2 กอง รวม 42 นัด
นอกจากนี้ ยังมีพิธีพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตราจุลจอมเกล้าให้แก่ผู้ที่ได้รับพระราชทานด้วย หลังจากนั้นทรงเสด็จนมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) และถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ณ ปราสาท เทพบิดร ในพระบรมมหาราชวัง เป็นอันเสร็จพิธี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก ทรงประกอบพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการจนเกินที่จะคณานับ เพื่อให้พสกนิกรชาวไทยและผู้ที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระองค์อยู่ดีกินดีมีความสุข พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นถิ่นทุรกันดารแค่ไหน ทำให้ทรงเห็นและตระหนักในทุกข์ของราษฎรของพระองค์ และกลายเป็นความผูกพันและห่วงใยอันลึกซึ้งและยาวนานที่มีต่อราษฎรความผูกพันและความห่วงใยนี้เอง ที่ทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทุ่มเทพระวรกายและพระราชหฤทัย คิดค้นหาทางอยู่ตลอดเวลาที่จะทำให้ราษฎรคลายทุกข์และอยู่ดีกินดี เพราะราษฎรชาวไทยส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงสนพระทัยโดยเฉพาะในเรื่องดินและน้ำอันเป็นปัจจัยสำคัญของเกษตรกรรม ทรงศึกษาด้วยพระองค์เองจนทรงมีความรู้แตกฉาน ทรงสามารถที่จะร่วมกับเจ้าหน้าที่และนักวิชาการ พิจารณาแก้ปัญหาและพระราชทานความคิดเห็นที่นำไปสู่โครงการตามแนวพระราชดำริต่างๆ ที่มีอยู่ประมาณ 3,000 โครงการทั่วประเทศ
ด้วยพระปรีชาสามารถในด้านต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงได้รับการทูลเกล้าถวายรางวัลและเกียรติยศต่างๆ มากมาย ทั้งจากบุคคลและคณะบุคคลในประเทศและต่างประเทศ อันเนื่องมาจากพระราชกรณียกิจและพระราชอัธยาศัยในการแสวงหาความรู้ เป็นต้นว่า "รางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์" จากสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ทูลเกล้าถวายฯ เมื่อวันที่26 พฤษภาคม พ.ศ.2549 จากการที่ได้ทรงอุทิศกำลังพระวรกายและทรงพระวิริยะอุตสาหะในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจมาตลอดพระชนม์ชีพ
"เหรียญรางวัลผู้นำโลกด้านทรัพย์สินทางปัญญา" (Global Leaders Award) จากองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (World Intellectual Property Organization) เมื่อวันที่14 มกราคม 2552 เพื่อเทิดพระเกียรติที่ทรงมีบทบาทและมีผลงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่โดดเด่น และพระองค์เป็นผู้นำโลกคนแรกที่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญรางวัล และล่าสุดเมื่อวันที่16 เมษายน 2555 สหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ (International Union of Soil Sciences-IUSS) นำโดยอดีตเลขาธิการสหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ ทูลเกล้าฯ ถวาย "รางวัลนักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม"(The Humanitarian Soil Scientist) เป็นพระองค์แรกของโลก
ในวโรกาสที่วันที่ 5 พฤษภาคม เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติมาครบรอบขวบปีด้วยดี และตลอดเวลาที่ผ่านมา พระองค์ได้ประกอบพระราชกรณียกิจอันเป็นคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติและปวงชนชาวไทยนับอเนกอนันต์ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ กระทรวงวัฒนธรรม จึงขอเชิญชวน หน่วยงานทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ บริษัทเอกชนและพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ ร่วมกันประดับธงชาติตามหน่วยงานและอาคารบ้านเรือน ร่วมทำบุญตักบาตร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมายุยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญแก่พสกนิกรชาวไทยสืบไป
Create Date : 02 พฤษภาคม 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 2 พฤษภาคม 2555 0:23:21 น. |
Counter : 1565 Pageviews. |
|
|
|