จับ"แช็ต"ลวง ขยี้พยาบาลสาว

จับ"แช็ต"ลวง ขยี้พยาบาลสาว

แช็ตลวง - พยาบาล สาวชี้ตัวนายมานิตย์ สิงทา อายุ 22 ปี อ้างเป็นทนายรับเร่งรัดหนี้ ก่อนแช็ตลวงทางเน็ตพาไปขืนใจที่พัทยา เหยื่อแจ้งความตร.ปทุมธานีตามรวบตัวไว้ได้ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.

จิ้งจอก สังคม อ้างตัวเป็นทนาย รับจ้างทวงหนี้ ลวงพยา บาลสาวไปข่มขืนที่พัทยา เสร็จ แล้วรีดเงินซ้ำอีกเกือบ 5 หมื่น เมื่อไม่มีจ่ายก็ยึดรถไว้ให้นำเงินมาไถ่ถอน เหยื่อแจ้งตร.ซ้อนแผนรวบทันทีคาบ้านพัก สารภาพสิ้น เผยพยาบาลสาวเป็นแม่ม่าย ต้องการทวงเงินคืนจากสามีเก่า 7 แสนบาท พอไปโพสต์ถามในเน็ต ผู้ต้องหาก็สวม รอยเป็นทนายความ แช็ตมาหาทันที สุดท้ายลวงให้ไปพัทยาด้วยกัน อ้างว่าจะไปตะครุบตัว กลับถูกมอมเบียร์พาเข้าโรงแรมแทน ทั้งรีดเงินซ้ำอ้างว่าเป็นค่าแรงลูกน้องตามทวงหนี้ แฉเคยมีประวัติแช็ตลวงนักศึกษาปริญญาโทด้วย แต่คราวนั้นเหยื่อไหวตัวรอดได้ คาดก่อเหตุทำนองเดียวกันนี้มาแล้วหลายหน เผยขณะพาผู้เสียหายชี้ตัว เกิดฟิวส์ขาดปราดเตะก้านคอผู้ต้องหาด้วยความแค้น

เมื่อเวลา 00.20 น. วันที่ 1 มิ.ย. พ.ต.อ. นราเดช ทิพย์รักษ์ ผกก.สภ.คูคต พ.ต.ท.อุดม ประเสริฐสุข สว.สส. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คูคต จ.ปทุมธานี จับกุมนายมานิตย์หรือหนึ่ง สิงทา อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/218 หมู่ 18 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พร้อมของกลางอาวุธปืนปลอม รถเก๋ง สร้อยคอทองคำปลอม จากพฤติกรรมอ้างตัวเป็นทนายความรับติดตามทวงหนี้สิน แล้วไปก่อเหตุลวงพยาบาลสาวร.พ.แห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ ไปข่มขืน

น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 34 ปี พยาบาลผู้เสียหาย ให้การว่า เลิกรากับสามีได้ประมาณ 2-3 ปีแล้ว แต่สามีมีหนี้สินค้างตนจำนวน 7 แสนบาท เมื่อทวงถามก็ไม่ยอมคืน ตนจึงเข้าไปโพสต์ในอินเตอร์เน็ตเว็บไซต์ "โพสต์จัง" ว่ามีปัญหาต้องการทวงหนี้สามีเป็นเงิน 7 แสนบาท หลังจากนั้น นายมานิตย์ได้แช็ตเข้ามาคุยด้วย อ้างตัวว่าเป็นทนายความ รู้จักคนที่จะติดตามทวงหนี้ พร้อมทั้งให้เบอร์โทรศัพท์ เพื่อให้ติดต่อกับคนชื่อหนึ่ง ตนก็โทร.ไปคุยกับนายหนึ่ง แต่มาทราบทีหลังว่าทนายความที่แช็ตคุยด้วยกับนายหนึ่งเป็นคนเดียวกัน

กระทั่ง เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา นายหนึ่งได้โทรศัพท์มาเพื่อนัดเจรจา โดยนัดให้มาเจอที่ร้านแมคโดนัลด์ หน้าห้างเซียร์รังสิต ตกลงกันว่าค่าตอบแทนจะได้ 15% จากยอดเงินที่ตามทวงหนี้ได้ ต่อมานายหนึ่งได้ให้ตนนำเอกสารหลักฐานการติดตามลูกหนี้มาให้ โดยนายหนึ่งอ้างว่าได้วางทีมงานลูกน้องไว้แล้ว ตอนนี้ลูกน้องทำงานอยู่ต่างจังหวัด ทราบว่าลูกหนี้ที่ให้ตามหาอยู่ที่พัทยา จ.ชลบุรี ต้องเดินทางไปรวบตัวที่นั่น โดยเตรียมการไว้ว่าจะต้องไปเฝ้าดูในตอนกลางคืน ทำให้ตนเองหลงเชื่อ และมั่นใจกับการทำงานครั้งนี้ จึงตามไปที่ผับแห่งหนึ่งย่านพัทยา แต่ก็ไม่พบใคร

เหยื่อตุ๋นให้การต่อว่า เมื่อถามนายหนึ่ง ก็บอกว่าลูกน้องทำงานอยู่ ให้รอก่อน และชักชวนให้กินเบียร์ ตนเองดื่มเบียร์ไม่ค่อยได้ จึงปฏิเสธ แต่นายหนึ่งขู่ว่าถ้าไม่กินให้หมด จะไม่ให้กลับบ้าน ตนจึงค่อยๆ กิน แต่ก็เกิดอาการเมา จากนั้นนายหนึ่งออกจากร้าน พร้อมทั้งบอกว่าเดี๋ยวต้องคอยรวบตัวตอนเช้ามืด คืนนี้ต้องนอนพักที่นี่ ปรากฏว่านายหนึ่งพาเข้าไปในโรงแรม แล้วข่มขืนตน โดยใช้อาวุธปืนปลอมข่มขู่ด้วย กระ ทั่งเช้า ตนจึงบอกให้ไปส่งที่บ้าน และบอกเลิกจ้างงานติดตามทวงหนี้ครั้งนี้แล้ว แต่นายหนึ่งไม่ยอมไปส่ง พร้อมกลับบอกให้ตนเองจ่ายเงินจำนวน 48,000 บาท อ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายให้ลูกน้อง แต่ตนเองไม่มีเงิน จึงนำสร้อย โทรศัพท์ไปขายได้เงินมา 8,000 บาทเท่านั้น นายหนึ่งจึงยึดรถไว้ แล้วให้ตนเองไปหาเงินมาไถ่รถเก๋งคืนไป เมื่อตนเองกลับมาบ้านได้ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและวางแผนเข้าจับกุม

ด้านพ.ต.ท.อุดม ประเสริฐสุข สว.สส.สภ.คูคต เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ารู้จักกันทางอินเตอร์เน็ต อ้างตัวว่าเป็นทนาย ความ ซึ่งทางผู้เสียหายต้องการติดตามทวงถามหนี้สิน จึงอาสาจะตามทวงให้ แต่เป็นแผนล่อลวง จากการสืบประวัติแล้ว เคยถูกจับกุมตัวเมื่อประมาณปลายปีพ.ศ. 2552 ที่ผ่านมา ขณะนั้นนายหนึ่งได้แช็ตอินเตอร์เน็ตคุยกับนักศึกษาสาวปริญญาโท ม.ขอนแก่น และหลอกหญิงสาวดังกล่าวให้มาหา แต่หญิงสาวไหวตัวทัน จึงไม่เกิดเรื่อง เบื้องต้นได้นำตัวนายหนึ่งมาสอบสวนอย่างละเอียด เนื่องจากคาดว่าก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง จึงอยากฝากบอกว่าหากผู้เสียหายรายใด เคยถูกผู้ต้องหาคนดังกล่าวหลอกลวงตามพฤติกรรมดังกล่าว ขอให้มาชี้ตัว หรือตรวจสอบข้อมูลได้ที่สภ.คูคตได้ และอยากฝากเตือนหญิงสาวที่ชอบเล่นอินเตอร์เน็ตอยู่ในโลกไอที ให้ระมัดระวังภัยที่จะเกิดขึ้นด้วย อย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ หากมีปัญหาให้ปรึกษาพ่อแม่ญาติพี่น้องเสียก่อน เพื่อให้ครอบครัวได้รับรู้และช่วยหาวิธีการแก้ไขต่อไป เพราะขณะนี้โลกไอทีกว้างขวางและเป็นภัยที่ใกล้ตัว

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้เสียหายมาชี้ตัวผู้ต้องหา ผู้เสียหายเกิดโมโหสุดขีด ปรี่เข้าไปใช้เท้าเตะไปที่ก้านคอผู้ต้องหา 1 ครั้ง และพยายามจะถีบเข้าที่ใบหน้าอีกครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมสถานการณ์ กันผู้เสียหายออกไปจากห้องสืบสวน


อาหาร | อาหารเจ | อาหารเจเพื่อสุขภาพ | อาหารเจเพื่อสุขภาพ | อาหารเพื่อสุขภาพ | สูตรอาหารเจ

Create Date : 06 มีนาคม 2555		0 comments
Last Update : 6 มีนาคม 2555 1:35:30 น.
Counter : 2234 Pageviews.
Share Tweet