คุณสามารถเริ่มต้นวางแผนการเงินง่ายๆ ด้วยการกันเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย และออมเงินก่อนใช้จ่าย K-Expert Advice
วางแผนการเงิน ความรู้สึกแรกของหลายๆ คน เมื่อได้ยินคำนี้ รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ไกลตัว หรือเป็นเรื่องของคนรวย และทำได้ยาก จริงๆ แล้วการวางแผนการเงินเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับทุกคนเลยค่ะ ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยเกษียณ หรือตั้งแต่คนที่เริ่มทำงานจนถึงเศรษฐีพันล้าน เนื่องจากการวางแผนการเงินมีหลายรูปแบบ เริ่มตั้งแต่การออมเงินเบื้องต้น การลงทุน การวางแผนภาษี การวางแผนเกษียณ จนถึงการวางแผนมรดก หากใครคิดจะเริ่มวางแผนการเงิน วันนี้เรามีวิธีวางแผนการเงินแบบง่ายๆ มาฝากกันค่ะ
กันเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน
เหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น อุบัติเหตุ การเจ็บป่วย การถูกเลิกจ้าง เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก และมักจะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ได้ตั้งตัว หากไม่ได้เตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้ คุณมีโอกาสประสบกับปัญหาทางการเงินได้ค่ะ โดยปกติแล้ว สำหรับพนักงานทำงานประจำควรมีการกันเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินเท่ากับค่าใช้จ่าย 6 เดือน แต่หากคุณมีอาชีพอิสระซึ่งมีรายได้ไม่แน่นอน ขอแนะนำให้กันเงินเผื่อฉุกเฉินเท่ากับค่าใช้จ่ายประมาณ 9 เดือน โดยเก็บออมเงินไว้ในบัญชีที่แยกออกจากบัญชีที่มีเพื่อใช้จ่ายประจำวัน เช่น บัญชีเงินฝากประจำ หรือกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้นที่สามารถซื้อขายได้ทุกวัน เพื่อกันเงินส่วนนี้ออกอย่างเด็ดขาด และใช้จ่ายเมื่อยามจำเป็นเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น หากค่าใช้จ่ายรายเดือนของคุณเดือนละ 10,000 บาท เงินที่คุณควรมีไว้สำรองเผื่อฉุกเฉินคือ 60,000 บาท สำหรับผู้มีรายได้ประจำ หรือ 90,000 บาท สำหรับผู้มีอาชีพอิสระค่ะ
จัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย
หากพูดถึงการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย หลายคนรู้สึกว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่เมื่อได้ลองจดบันทึกเป็นประจำแล้วจะพบว่า การทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายสามารถทำได้ง่ายและมีประโยชน์กับเรามากเลยทีเดียว ปัจจุบันวิธีการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายมีหลายวิธี ตั้งแต่วิธีแบบดั้งเดิมคือ การจดในสมุด จนถึงการบันทึกผ่าน Website หรือโปรแกรมในโทรศัพท์มือถือ เช่น โปรแกรม K-Expert Saving Memo ของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งคุณสามารถบันทึกรายรับและรายจ่ายของคุณได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านโทรศัพท์มือถือ (แบบ Smart Phone) ช่วยให้การจดบันทึกของคุณสามารถทำได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ประโยชน์หลักของการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายคือ ทำให้ทราบว่าเงินที่คุณมีเหลือเก็บในแต่ละเดือนเป็นจำนวนเท่าไร รวมทั้งรายจ่ายแต่ละประเภทว่ามีจำนวนมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้สามารถปรับลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยลงได้
ออมก่อนใช้
เมื่อพูดถึงการออมเงิน คนส่วนใหญ่นิยมออมเงินจากเงินส่วนที่เหลือของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน แต่ผลที่ได้รับจากการออมวิธีนี้คือ การออมได้น้อยกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ดังนั้น เพื่อให้สามารถออมเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนะนำให้เปลี่ยนวิธีออมเงินเป็นการออมก่อนใช้ โดยเมื่อได้เงินเดือนมาแล้ว ขอให้หักเงินออมเก็บไว้ในบัญชีธนาคารก่อน แล้วค่อยนำเงินส่วนที่เหลือไปใช้จ่ายค่ะ ในช่วงเริ่มต้น แนะนำให้ออมอย่างน้อย 10% ของรายได้ จากนั้น หากคุณพบว่าในช่วงปลายเดือน คุณยังคงมีเงินเหลือหลังจากที่หักเงินออมและค่าใช้จ่ายแล้ว คุณสามารถเพิ่มสัดส่วนการออมเงินได้ค่ะ
วิธีการวางแผนการเงินขั้นต้นทั้ง 3 วิธี เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการวางแผนการเงินรูปแบบอื่นๆ เช่น การวางแผนการลงทุน การวางแผนเกษียณ ดังนั้น หลังจากอ่านบทความนี้จบแล้ว อย่าลืมสำรวจตัวเองว่าได้ทำตามวิธีการวางแผนการเงินขั้นต้นแล้วหรือยัง หากยังไม่ได้ปฏิบัติ ขอแนะนำให้เริ่มปฏิบัติตั้งแต่วันนี้ เพื่ออิสรภาพทางการเงินในวันหน้าค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก https://k-expert.askkbank.com/KnowledgeResources/Articles/Pages/Jobber_A016.aspx