Welcome to v@n v@n's life
 
เพราะชาไข่มุกแก้วเดียว น่ากลัวอ่ะ

> ปุ๊ ! เสียงหลอดกาแฟอันโตกระแทกเจาะฝาครอบแก้วชาไข่มุก

> เศษฝาพลาสติกแผ่นกลมขนาดเท่าปลายหลอดตกลงสู่ก้นแก้ว

> ฉันดูดเครื่องดื่มสุดโปรดอย่างหิวกระหายและ

> กระดกแก้วกินน้ำแข็งจนเกลี้ยงตามความเคยชิน



> เมื่อจะทิ้งแก้วลงถังขยะ

> ฉันแปลกใจเล็กน้อยที่ไม่เห็นเศษฝาพลาสติกอยู่ในแก้วเหมือนทุกคราว

> แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก
> สักพัก รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งลักษณะเป็นแผ่นบาง ๆ ติดอยู่ในคอ

> แม้จะพยายามล้วงและดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้อาเจียน

> แต่สิ่งนั้นก็ไม่ยอมหลุดออกมา

> ฉันรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่เริ่มติดขัด

> อาจารย์และเพื่อน ๆ จึงรีบพาส่งโรงพยาบาล

> เมื่อไปถึงโรงพยาบาล
> หลังจากรอหม ออย ู่เกือบสองชั่วโมง หมอก็ให้ลองกลืนน้ำดู

> ปรากฎว่ามีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่จริง

> ตามด้วยการเอกซเรย์ ซึ่งสูญเปล่า เพราะไม่เห็นสิ่งแปลกปลอมนั้นเลย

> จึงตัดสินใจให้วางยาสลบเพื่อส่องกล้องตรวจหาต้นเหตุ

> ระหว่างนั้นฉันยังรู้สึกตัวดีอยู่ทุกอย่าง

> จนกระทั่งหลังวางยาสลบ
> ท่อส่องทางเดินอาหารขนาดใหญ่ประมาณท่อประปาขนาดเล็ก

> สอดจากปากผ่านลงไปตามทางเดินอาหาร

> แต่ไม่รู้ด้วยโชคร้ายของฉัน

> หรือด้วยความประมาทเลินเล่อของใคร

> แทนที่เจ้าท่อนี้จะเป็นอุปกรณ์ในการตรวจเพื่อช่วยชีวิตฉัน

> หลังการตรวจ

> มันกลับทำให้ฉันรู้สึกปวดแน่นหน้าอกและหลังอย่างสุดจะบรรยาย

> เมื่อฟื้นจากยาสลบ แม่บอกว่าฉันปากซีด ตัวเขียว และไข้ขึ้น

> ผิดกับเมื่อตอนก่อนส่องกล้องราวกับคนละคน

> จนแม่ใจหาย รีบตามหมอกลางดึก
> การกลืนแป้งเพื่อเอกซเรย์เริ่มขึ้น

> ผลปรากฎว่า หลอดอาหารทะลุ ต้องผ่าตัดด่วน

> แต่แม่ไม่มีเงิน อย่าว่าแต่ค่าผ่าตัดที่สูงลิบลิ่วของโรงพยาบาลเอกชนเลย

> แม้แต่ค่าตรวจทั้งหลายก่อนหน้านี้

> ที่เกินวงเงินการประกันอุบัติเหตุของนักศึกษา เพียงไม่กี่พันบาท

> แม่ก็ไม่มี ทางโรงพยาบาลจึงขอยึดบัตรประชาชนของแม่ไว้

> เพื่อเป็นหลักประกันให้แม่หาเงินส่วนเกินมาชำระในภายหลัง

> หมอที่ส่องกล้องแนะนำให้ย้ายฉันไปโรงพยาบาลรัฐบาลที่เขาประจำอยู่

> แต่แม้จะเป็นโรงพยาบาลรัฐบาลก็ต้องคุยกันเรื่องค่าใช้จ่ายเช่นกัน

> แม่จึงวิ่งวุ่นติดต่อเรื่องใช้สวัสดิการบัตรประกันสุขภาพ 30 บาท

> กว่าจะเสร็จเรียบร้อยก็เกือบเที่ยง

> นั่นแหละฉันจึงได้รับการผ่าตัด
> การผ่าตัดใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง

> เพราะรอยทะลุที่หลอดอาหารอยู่ใกล้ปอด

> น้ำย่อยจะไหลเข้าไปในปอดซึ่งอันตรายมาก

> หมอต้องผ่าตัดเปิดซี่โครงจากราวนมด้านซ้ายไปจนถึงสันหลังอีกข้าง

> แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่สามารถซ่อมแผลได้หมด

> เพราะแผลในทางเดินอาหารเป็นทางยาว

> จากต้นคอถึงกระเพาะ ยาวถึง 30 เซนติเมตร
> สามวันหลังผ่าตัด ฉันลืมตาขึ้นมาพร้อมสายระโยงระยางเต็มตัว

> สายจากจมูกทั้งสองข้างเพื่อเอาน้ำย่อยในกระเพาะออกมา

> สายที่ไว้ดูด น้ำมูก น้ำลาย สายที่ต่อจากบริเวณซี่โครงที่ผ่าตัดเพื่อเอาเลือดจากแผลออกมา

> สายให้เลือด สายน้ำเกลือ
> สิบเอ็ดวันที่อยู่โรงพยาบาลเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

> กินอาหารไม่ได้อยู่เป็นอาทิตย์

> ยิ่งเวลานอนจะรู้สึกทรมาน

> เพราะเจ็บที่บริเวณแผลผ่าตัดเป็นที่สุด

> หมอที่ส่องกล้อง ซึ่งช่วยหาหมอผ่าตัดให้

> มาสารภาพในภายหลัง ว่า...

> แผลในทางเดินอาหารที่ยาวเหยียด

> เกิดจากการส่องกล้องไปดันเอาเศษแผ่นพลาสติก

> ซึ่งติดอยู่ที่ระหว่างหลอดลมและหลอดอาหารให้ครูดบาดไปตลอดทางเดินอาหาร



> แต่อย่างไรเขาก็ติดต่อหาหมอผ่าตัดที่เชี่ยวชาญให้

> เ และเป็นความผิดพลาดที่เขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจ

> เพราะมองไม่เห็นแผ่นพลาสติกแก้วที่ติดอยู่ที่หลอดลม/ หลอดอาหาร



> กรุณาช่วยส่งต่อเพื่อนๆ พี่ๆ

> เพื่อเตือนภัยคนที่เรารักและเป็นห่วงนะคะ

กินชาไข่มุก แก้วต่อไป ระวังนะคะ

> แผ่นพลาสติกที่เจาะทะลุจากตัวแก้ว...

> อันตรายถึงชีวิตได้

> บอกลูกหลานด้วย

> โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่ชอบซื้อเครื่องดื่มทานเองค่ะ

> ฝาครอบแก้วที่ต้องเจาะรู... ผู้ปกครองควรช่วยดูแล



Create Date : 20 มิถุนายน 2551
Last Update : 20 มิถุนายน 2551 12:30:15 น. 10 comments
Counter : 268 Pageviews.  
 
 
 
 
เข้ามาอ่านค่ะ น่ากลัวจริงๆ เลย

รักษาสุขภาพด้วยนะค๊ะ
 
 

โดย: วิสกี้โซดา วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:12:49:17 น.  

 
 
 
โห..น่ากลัวจริงๆ ค่ะ
ต้องขอบคุณที่เอามาบอกต่อๆ กัน

หายไวๆ นะคะ
 
 

โดย: gigAgain วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:13:08:03 น.  

 
 
 
เหอๆ
น่ากลัวอ่าค่ะ
 
 

โดย: Sweetiiez - Kim Sam Su วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:13:32:04 น.  

 
 
 
น่ากลัวจริงๆด้วยค่ะ ขอบคุณที่นำเรื่องนี้มาให้อ่านกัน เพราะดื่มน้ำใส่แก้วแบบนี้เป็นประจำ แต่ไม่เคยระวัง
 
 

โดย: VICT วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:13:59:34 น.  

 
 
 
 
 

โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:15:18:11 น.  

 
 
 
ขอให้หายไวๆนะคะ

ขอบคุณที่เล่าให้อ่านค่ะ
 
 

โดย: วินนี่ย์หมีพูห์ วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:16:26:07 น.  

 
 
 
โห น่ากลัวมาก จะโทษใครก้อไม่ได้ แต่ยังโชคดี ที่หมอยังยอมรับว่าเค้าผิด ยังไงก้อขอให้หายเร็วๆนะคะ
 
 

โดย: kokophiz วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:17:04:09 น.  

 
 
 
เมื่อก่อนซื้อกินบ่อยค่ะ ก็เคยเจอปัญหานี้เหมือนกัน จนตอนนี้เลิกกินแล้วล่ะค่ะ
 
 

โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:22:35:43 น.  

 
 
 
น่ากลัวจังค่ะ หายไวๆนะค่ะ
 
 

โดย: whitelady วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:23:04:01 น.  

 
 
 
หายเร็วๆนะค่า
 
 

โดย: Genéve วันที่: 21 มิถุนายน 2551 เวลา:1:28:27 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

vandasung
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ยังไม่แก่มาก แต่ความจำหัววุ้นขนานแท้
วันๆถ้าไม่จมอยู่กะโลกไซเบอร์ ก็จะบ้าๆบอๆ
หาเรื่องกิน เที่ยว ถ่ายรูปกะแก๊งค์ลูกหมูบรรดาสมาชิกพรรคที่ทำงานนี่ล่ะจ๊ะ
มีแม่คนเดียวจึงรักเป็นอันดับหนึ่ง
ผู้ชายอื่นๆมาเป็นที่สอง
เหตุฉะนี้ตอบได้อย่างไม่ต้องสงสัย
ตั้งใจจะครองโสดไปตลอดชาติ ว่ะฮาฮา
[Add vandasung's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com