พ่อไม่เคยชมลูก


ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน
โดย : ผศ.น.พ.พนม เกตุมานจ ิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลศิริราช

ลูกอายุ 12 ปี คุณพ่อไม่เคยชมลูกเลย เห็นแต่ข้อผิดพลาดของลูก และเอาลูกไป เปรียบเทียบกับลูกคนอื่น จะมีผลต่อจิตใจลูกหรือเปล่าคะ
แม่วิภา
มีผลแน่นอนครับ ถ้าเด็กถูกกระทบกระเทียบเปรียบเปรย เอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ยิ่งเป็นคนเก่งกว่า เด็กจะเกิดความรู้สึกว่าตัวเองด้อย ไม่มีคุณค่า ผู้ใหญ่เรามักจะใช้เหตุผลแบบของเรา คือนึกว่าถ้าเราพูดแบบนี้เด็กจะอาย แล้วจะได้พยายามแก้ไขตัวเอง จริงๆ แล้วจะทำให้เด็กยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีแล้วก็เลยไม่รู้สึกอยากทำดี เพราะฉะนั้นวิธีนี้ไม่ค่อยได้ผลหรอกครับ น้อยรายมากที่จะได้ผล ต้องเลือกใช้ให้ดีถ้าจะใช้วิธีเปรียบเทียบเพื่อให้ลูกฮึด มานะขึ้นมา แต่ส่วนใหญ่ไม่ควรใช้

ถ้าเราอยากให้ลูกทำดีน่าจะใช้การชมมากกว่าครับ การชมถือเป็นสิ่งสำคัญในการเลี้ยงลูก พ่อแม่ไม่ค่อยเข้าใจกลัวลูกจะเหลิง เลยไม่ค่อยชม เด็กจะขาดคำชม ผู้ใหญ่บางคนมีทัศนคติไม่ชมเด็ก คอยแต่จะดุว่าเมื่อเด็กทำผิด เด็กขาดคำชมมักจะใช้พฤติกรรมไม่ดีเรียกความสนใจ เพราะอย่างน้อยพ่อแม่ก็ยังดุว่า ตำหนิดีกว่าเฉยๆ กับเขา ทำให้กลายเป็นวงจรของการทำเรื่องเดือดร้อนให้พ่อแม่ ซึ่งเด็กหลายๆ คนก็ติดอยู่กับพฤติกรรมแบบนี้จนพ่อแม่ไม่เข้าใจว่าทำไมยังทำอยู่ ทั้งๆ ที่ทำแล้วก็โดนดุโดนว่า

โดยหลักการแล้ว เราใช้การชมเป็นการปรับพฤติกรรมเด็ก เพราะโดยธรรมชาติของเด็ก เมื่อทำดีแล้วมีคนชมก็อยากทำดีอีก และเกิดความรู้สึกที่ดีต่อตัวเอง มีความภาคภูมิใจในตัวเอง เด็ก 2-3 ขวบก็สามารถเกิดความรู้สึกนี้ได้แล้วครับ แม้ยังไม่เข้าใจความหมายของคำชม แต่รู้สึกดีกับท่าทีของพ่อแม่ ในเด็กเล็กจึงไม่จำเป็นต้องชมให้มากเท่าไร แต่ท่าทีที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อโตขึ้นเด็กจะค่อยๆ รู้ความหมาย เกิดการเรียนรู้ว่าพฤติกรรมที่ดีจะได้สิ่งที่ดี พ่อแม่ชื่นชม เก็บไปเป็นความรู้สึกที่ดีต่อตัวเองแล้วค่อยๆ สะสมจนเข้าสู่วัยรุ่น ในระยะยาวเขาสามารถชื่นชมตัวเอง และทำให้ดีโดยไม่ต้องมีใครชมได้ด้วยตัวเอง

เมื่อเป็นวัยรุ่น การชมโดยสิ่งแวดล้อมภายนอกจากพ่อแม่ หรือครูไม่จำเป็นเท่าไหร่ เด็กจะชมตัวเองได้แล้ว ไม่ติดกับคำชมภายนอกมาก เด็กจะชื่นชม ให้รางวัลตัวเองได้ มองตัวเองในทางที่ดีได้

การชมเด็กโต เราสามารถชมได้ละเอียดลึกซึ้งมากขึ้น เพื่อให้เขาเห็นคุณค่าของตัวเองได้มากขึ้น ให้เขาได้เห็นรายละเอียดว่าสิ่งที่ดีนั้นคืออะไรบ้าง เราชมให้สลับซับซ้อนมากขึ้นตามวัยของลูกได้ แต่ในเรื่องของการชมก็ต้องระวังว่าไม่ชมให้มากหรือน้อยเกินไป ชมน้อยเกินไปเด็กไม่รู้สึกว่าได้รับการชม ชมมากเกินไปเขาอาจรู้สึกว่าไม่จริงใจ ไม่มีคุณค่า รู้สึกว่าไม่ใช่การชมด้วยเหตุผลสอดคล้องกับเรื่องราว หรือชมไม่ถูกจังหวะเวลา เช่น ชมต่อหน้าเพื่อนมากๆ ทำให้เพื่อนล้อเลียน ทำให้เพื่อนๆ มองเขาไม่ดี ก็ต้องดูด้วยว่าบางครั้งอาจต้องชมกันตัวต่อตัว ที่สำคัญต้องดูตามวัยและการรับรู้ของลูกด้วยครับ

การชมบางครั้งอาจไม่เป็นผล ถ้าชมมากไป เด็กจะเรียนรู้ผิด คิดว่าทำแค่นี้ก็ได้คำชม ทำให้เหลิงได้หรือตอนหลังชมจริงๆ ก็จะไม่เชื่อ หรือเด็กบางคนชมแล้วก็ยังอาจทำไม่ดีอีกได้ เป็นเพราะต้องการทดสอบพ่อแม่

พ่อแม่บางคนอาจให้รางวัลเป็นข้าวของแทนคำชม ก็ใช้ได้เหมือนกัน แต่ไม่ควรให้บ่อยหรือมากเกินไป เพราะไม่ค่อยมีคุณค่าเหมือนคำชม และอาจทำให้เด็กยึดติดวัตถุได้ จนทำให้เด็กติดรางวัล ถ้าไม่มีรางวัลจะไม่ยอมทำ กลายเป็นเงื่อนไขว่าทำอะไรต้องมีรางวัล แม้แต่เรื่องรับผิดชอบหน้าที่ตัวเอง เช่น การทำการบ้าน การดูแลกิจวัตรประจำวัน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่ต้องมีรางวัล เป็นสิ่งที่เด็กต้องทำต้องรับผิดชอบ
อย่างไรการชมให้ผลดีกว่าการดุ เปรียบเทียบแน่นอนครับ เพียงแต่ชมให้ถูกต้องเท่านั้นเอง






Create Date : 27 มิถุนายน 2554
Last Update : 27 มิถุนายน 2554 22:06:45 น.
Counter : 476 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มนแพรวา
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]