|
นินทาเมีย...?
นินทาเมีย...?
ราสส์ กิโลหก
ณ สถานที่ทำงานของส่วนราชการแห่งหนึ่ง
วันนี้เป็นวันดีเหมาะแก่การตั้งวงสังสรรค์เฮฮา .(แต่เหล่า ภรรเมียที่บ้านต่างประสานเสียงว่าเป็นวันที่ชั่วร้ายของพวกหล่อน ซะ ! มากกว่า)
เสี่ยหมาน นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน เงยหน้าขึ้นไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ผนังหน้าห้องหัวหน้าฝ่าย
ห้าโมงเย็นแล้ว เอาไง ! พี่ เหล้าหรือเบียร์วันนี้ พูดจบพร้อมเอามือลูบเคราแพะของตัวเองด้วยความเคยชิน ก่อนหันหน้าไปมอง คุณเบิ้มช่างรุ่นพี่ซึ่งกำลัง เก็บของอยู่บนโต๊ะทำงาน
ได้ เลย..ยย ๆ เสี่ยเหมียน ! ช่าง เบิ้มขานรับ
สั่งซื้อมาได้เลย ของแบบนี้จะบิณฑบาตไม่ต้องถามพระ
อ้ายสอนภารโรงหน้าทะเล้นประจำสำนักงาน กำลังเดินขึ้นมาเพื่อทำความสะอาดตามหน้าที่ ในมือของมันถือถุงดำและไม้กวาดอาวุธประจำกาย
ถ้าจะให้ไปซื้อของที่ตลาด สั่งมาได้เลยคร๊าบบ ท่าน ! ม้าเร็วพร้อมไปซื้อให้เสมอ อ้ายนี่ก็ตลกบริโภคอีกคนเพราะมันอาศัยกินฟรีทุกครั้งที่มี วันดี .
เพื่อนแน๊ก ซึ่งนั่งอยู่โต๊ะหน้าห้องน้ำ กำลังเก็บข้าวของใส่กระเป๋าเพื่อจะกลับบ้าน ได้ยินว่าวันนี้เป็นวันดี เกิดเปลี่ยนใจกะทันหัน หิ้วกระเป๋าเดินมาที่โต๊ะเสี่ยหมาน
จะเอาไง ! เราออกเงินค่ากับแกล้ม คนอื่นออกค่าเหล้าแล้วกัน เจ้าแน๊ก แสดงความใจป้ำควักเงินที่รีดจนแบนแต๊ดแต๋ จากซอกอันมิดชิดของกระเป๋าสตางค์ยื่นให้เสี่ยหมาน จำนวนตั้ง 100 บาท
เสี่ยหมานลุ้นในใจนึกว่าเป็นแบงก์ 500 พอเห็นเป็นแบงก์ 100 พวกถอนหายใจดังเฮือก ! นึกในใจว่า เป็นอย่างนี้ประจำเลยนะคุณ แน๊ก !
ค้ากำไรเกินควร พูดกับตัวเองเบาๆ เพื่อไม่ให้เพื่อน แน๊กได้ยิน.
แต่อ้ายแน๊กดันหูดีขึ้นมา
ถ้ามี 500 เราก็จะให้ แต่เมื่อเช้าเมียมันยึดไปแล้ว แต่ขี้เกียจไปแจ้งความเพราะโรงพักอยู่ไกล ดีนะที่มันไม่เห็นแบงก์ 100 เพราะรีดแอบไว้ที่ซอกกระเป๋าเงิน เสี่ยแน๊ก โยนขี้ไปให้เมียหน้าตาเฉย.
อ้ายคม เอาด้วยเปล่า วะ ! เสี่ยหมานหันหน้าไปทางประตูหน้าห้อง ตะโกนบอก อ้ายคมหรือ นายสังคม บางคนเรียกสังคังก็มี
ขณะที่เสียงจากทีวีเครื่องใหญ่ขนาด 24 นิ้วซึ่งตั้งอยู่ข้างผนังของอาคาร มีรายการสัมภาษณ์นักวิชาการท่าทางตุ๊ดๆทีมีชื่อเสียงคนหนึ่งของเมืองไทย กำลังจีบปากจีบคอ พล่ามถึงการปฏิบัติตัวของวัยรุ่น ที่พ่อแม่ต่างปวดหัวกับพฤติกรรมของบุตรหลาน
หล่อนชี้มือยกขึ้นส่ายไปมา เพราะอะไรหรือ ฮ๊า ! ก็เพราะสังคมมันเลว สังคมมันชั่ว สังคมมันบัดซบ เสียงที่หล่อนพูดแสดงถึงความหนักแน่นชัดเจน
นายสังคมของเราหันไปมองที่หน้าจอทีวี ตาเขียวปัด นี่ถ้าไม่เกรงใจพ่อที่ตายไปแล้ว กรูจะไปเปลี่ยนชื่อที่อำเภอพรุ่งนี้เลย ! มันกัดฟัน พูดรอดฟันออกมาอย่างยากเย็น.
ก่อนจะตะโกนตอบกลับไปที่เสี่ยหมาน
เอาด้วยเพื่อน ! ขอลงขันด้วยความโมโห 300 บาท ควักเงินจากกระเป๋าแล้วเดินไปหาเสี่ยหมานที่โต๊ะ แต่ไม่วายหันหน้าไปมองค้อนที่ หน้าจอทีวีเครื่องใหญ่ซึ่งนักวิชาการตุ๊ดยังพูดไม่หยุด
พี่รัชรีบกลับบ้านหรือเปล่า ? เสี่ยหมานหันไปหา พี่รัช หรือนายวิรัชช่างรุ่นพี่ซึ่งกำลังเดินมาพอดี
พอเดินมาถึงไม่พูดจาหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าปึกเบ้อเริ่ม อ้ายสอนจอมเอือก เตร่เข้ามาเพื่อลุ้นว่า จะดึงแบงก์อะไรออกมา
เสี่ยรัชเอามือกรีดเงินเล่นแล้วเลือกใบที่เก่าที่สุดชักออกมา ดังพรืด พอเห็นเป็นแบงก์ 500
อ้ายสอนตะโกนลั่นห้องด้วยความลืมตัว
ขอให้เจ้าภาพจงเจริญ ๆๆ พร้อมยกไม้กวาดยกขึ้นเหนือหัวชูไปมา.
อ้ายสอน ! อ้ายเวน ! นั่นไม้กวาดกวาดพื้นนะโว้ย ! ทำสิ่งแวดล้อมเป็นพิษอ้ายนี่ ! พี่เบิ้มของเราที่นั่งอยู่ใกล้ๆตะคอกใส่
อ้ายสอนลดไม้กวาดลงทำตัวย่อๆ ยิ้มแหยๆ หันไปทางเสี่ยเบิ้ม
โอ้ ! ลูกพี่ ! รู้จักชื่อเล่นผมด้วย
พร้อมกระโดดหนีออกไปให้ห่างรัศมี จระเข้ฟาดหางของเบิ้ม ลูกพระอาทิตย์
พวกที่อยู่ในห้องหัวเราะกันด้วยความสนุกกับลีลาของอ้ายสอนจอมกวน
อ้ายสอน เอ็งอย่าทะลึ่งมากมานี่ ! เสี่ยหมานตะโกนเรียกมันให้มาที่โต๊ะเพื่อเอาเงินไปซื้ออาหารและเครื่องดื่มสะเทือนสุขภาพ
ช่วงระยะเวลาไม่เกิน ครึ่งชั่วโมง.
เสียงคนเดิน ตึงๆๆจากบันใด
มาแล้ว คร๊าบบๆๆๆ มาแล้วๆๆๆ เสียงอ้ายสอนตะโกนดังมาก่อน ทั้งที่ยังไม่เห็นตัว
ทั้งมือซ้ายและมือขวา หอบหิ้วถุงพลาสติกซึ่งแต่ละถุงบรรจุทั้งขวดเหล้าขวดโซดา น้ำแข็ง ลาบหมู ลูกชิ้นทอด ถั่วทอด และตั๊กแตนทอดอันหลังแปลกปลอมเข้ามาไม่มีใครสั่ง.
ขอพูดถึงสำนักงานฯ แห่งนี้ซักหน่อย ที่นี่ใช้หลักพอเพียง มีการจัดหาหม้อข้าว จานชามช้อน ไว้ที่ทำงาน ตอนมื้อเที่ยงไม่ต้องไปกินที่ไหน จะให้น้องๆผู้หญิงที่มีตำแหน่งเป็นลูกจ้างรายปีประจำสำนักงาน ฯ จัดหุงหาข้าว และไปซื้อกับข้าวใส่ถุงที่ตลาด มานั่งล้อมวงกินข้าวกันในที่ทำงาน ทำให้ประหยัดเงินกันได้วันละหลายสิบบาท
แต่พอตอนเย็นเลิกงาน พวกปีศาจสุราออกอาละวาด จากพอเพียงตอนกลางวัน กลายเป็นพอแค่เหลือกลับบ้าน
เจ้าสอน ภารโรงตัวแสบ เอาของทั้งหมดวางที่โต๊ะใหญ่ตัวหนึ่ง แล้วเดินเข้าไปเอาแก้วชามและช้อนซึ่งเก็บไว้ในตู้อยู่ริมห้อง เอาออกมาเพื่อใส่อาหาร พร้อมจัดเรียงให้เป็นวงกลม เอากระติกมาใส่น้ำแข็งหลอดจนเต็ม
แก็ง ๆๆ...ได้เวลากันแล้ว อาวุธและกระสุนพร้อมแล้วครับ..ท่านๆๆ เจ้าสอนเอามือป้องปาก หันไปรอบๆห้อง เพื่อเรียกเหล่าสมาชิกมาร่วมสังสรรค์
สมาชิกต่างทยอยเดินมานั่งกันพร้อมหน้า โดยเจ้าภารโรงหน้าทะเล้นเป็นผู้บริการชงเหล้าอยู่ข้างวง
เฮ้ย ! ข้าขอน้ำแข็งก้อนที่เย็นๆนะโว๊ย ! ช่างเบิ้ม พูดเล่นมุก พร้อมยื่นแก้วเหล้าให้อ้ายสอน
ครับ ผม ! เย็นแน่นอนครับท่าน ผมอมดูแล้ว มันทะลึ่งไม่ลดละ
สังคม ซึ่งอารมณ์ดีขึ้นหลังจากรายการทีวีจบไปแล้ว หันไปมองเห็นตั๊กแตนทอด ทำท่างงๆ แล้วหันหน้ามาทาง อ้ายสอน
สอน ตั๊กแตนทอดใคร สั่งซื้อ วะ! ไม่เคยมีใครกินนี่หว่า
อ๋อ ! ได้มาฟรีๆลูกพี่ มันพูดด้วยความภาคภูมิใจในการที่ได้ของฟรีมา
เอ็งมีดีอะไร เค้าถึงให้ของมากิน สังคมพูดพลางเอื้อมมือไปหยิบตั๊กแตนทอดตัวเขื่อง ขึ้นมาหยิบใส่ปาก
ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ ! ผมเดินผ่านหน้าร้าน เจ้าของเค้าบอกว่าอยากกินก็เอาไปกิน ซะ ! เพราะกำลังจะเอาไปทิ้ง
เสี่ยสังคมได้ยินเต็มสองรูหู รีบคายซากตั๊กแตนทอดออกจากปากแทบไม่ทัน
ด้วยความตกใจและโมโห จึงเรียกชื่อเล่นอ้ายสอนดังลั่นวงเหล้า
โธ่ ! อ้ายเวน ! แล้วมรึงเอือกเอามาทำไม ? มันคงเป็นตั๊กแตนที่จับมาโดยการฉีดยาฆ่าแมลง กินเข้าไปมะเร็งถามหา แน่ !
คนอื่นๆรับลูกหันไปรุมด่า เจ้าภารโรงจอมงกกันระงม โทษฐานชักศึกเรียกมะเร็งเข้าวงเหล้า. มันไม่เถียงซักคำ รีบไปยกจานตั๊กแตนทอดออกมาจากวงเหล้า แต่ยังไม่วายบ่นเบาๆคนเดียว
ทำดี ได้ชั่ว
ช่างแน๊ก นั่งอยู่ข้างได้ยินไม่ค่อยชัดหันหน้าไปถามว่า
ว่าอะไร นะ !
อ้ายสอนสะดุ้งออกลายกะล่อนทันที เปล่าครับ ! เดี๋ยวผมไปหาซื้อถั่วเพิ่มให้แทนครับ ลูกพี่
มันถือจานตั๊กแตนทอดเดินออกไปที่หน้าสำนักงานฯ ออกปากตะโกนเรียกเพื่อนๆของมันสองตัวที่เตร่ๆอยู่แถวนั้น เหมือนรู้ภาษาว่าจะมีของกิน พากันวิ่งมาหา แสดงอาการกระดิกหางกันจนก้นบิดไปมา
พอเทตั๊กแตนทอด อาหารที่ไม่พึงปรารถนาลงพื้น เจ้าสองตัววิ่งเข้าหาทันที อ้ายสอนคิดในใจว่าคนไม่เห็นความดี อย่างน้อยหมาเห็นความดีบ้างก็ยังดี
ปรากฏว่าแม้แต่สุนัขก็ยังไม่แล พวกมันมาดมๆแล้วก็เดินจากไปแบบไม่หันกลับมามอง
อ้ายสอนตะโกนเรียกอีกมันก็ไม่แลมา เจ้าภารโรงยิ้มไม่ออก เอาจานเคาะหัว พร้อมบ่นกับตัวเอง
กรู นี่! โง่กว่าหมาอีก เน้อ ! เวรกรรม
พลพรรคขี้เหล้ากินกันไปคุยกันไป เวลาล่วงเลยไปถึง 2 ทุ่ม จนเหล้าหมดไป 1 กลมใหญ่ ดีกรีกำลังแผ่ซ่านเข้าสู่ร่างกาย ความกล้าหาญวิ่งเข้าสู่จิตใจ มหกรรมนินทาเมียกำลังจะเริ่ม คนที่โดนเมียกดขี่ข่มเหง ตอนที่ไม่เมาก็ทนได้ไม่ปริปากพูด แต่ขณะนี้สถานการณ์เริ่มเข้าที่เพราะดื่มยาละลายพฤติกรรมเข้าไป ทำให้เริ่มเห็นช้างเป็นหมู..
เมียผม แม่ง ! มันจุ้นจ้านจริงๆ นะ เพ่ ! นายสังคัง เอ๊ย สังคม หันไปพูดกับ พี่รัช ช่างรุ่นพี่ พร้อม เอามือดึงชายเสื้อออกมาจากขอบกางเกง เพื่อให้เกิดความคล่องตัว หน้าตาตอนนี้แดงก่ำ
ทำไม วะ! เพื่อน เสี่ยหมานเพื่อนรุ่นเดียวกัน มองหน้า เจ้าสังคม
มันชอบถามว่า ไปไหนมา ? จะทำมายย..วะ ! จะไปไหนมาไหนมันหนักหัวใครหรือไง ? น้าสังฯของเรา ทำเป็นพูดจาใหญ่โต
พร้อมกับแฉประวัติของเมีย
มันเป็นใคร ? มาจากไหน? ญาติก็ไม่ใช่ พี่น้องก็ไม่ใช่ พอมาเป็นเมียมันขึ้นขี่คอเราเลย ซัดเหล้าเข้าปากเกือบครึ่งแก้วด้วยอารมณ์แค้น
เออ ! จริงด้วย ตอนยังไม่เป็นเมีย พูดคำกินน้ำคำ ไม่ไหลเป็นน้ำตกเหมือนเดี๋ยวนี้ น้าแน๊กเริ่มผสมโรงรายนี้ได้เมียเด็กอายุอ่อนกว่าถึง 18 ปีแต่เรื่องฝีปากน่าเกินอายุ.
เมียผมก็แย่ ! พี่วิรัช ! เสี่ยหมานมือซ้ายถือแก้วเหล้า มือขวายกยกขึ้นมาโบกไปมาเกือบโดนหน้าเสี่ยเบิ้ม
แย่ยังไง? มันกัดเอาหรือไง ? พี่รัชแหย่เล่น.
ไม่แย่ได้..งาย...พี่ !
เดี๋ยวประชุม ! เดี๋ยวประชุม ! ไม่รู้ประชุมอะไรกันนักหนา มันเห็นเจ้านายดีกว่าผัว เสี่ยหมานเอามือตบโต๊ะด้วยความน้อยใจ เมียเสี่ยหมานเป็นข้าราชการกรมกรมพัฒนาชุมชน และมาปฏิบัติหน้าที่ประจำอยู่ที่จังหวัดเดียวกับที่สามี
เสี่ยหมานยังอารมณ์ค้าง
ตอนออกจากบ้านจะไปทำงาน หน้างี้บานแฉ่ง ! ไอ้โครงการอะไรของเค้า อ้อ ! โครงการเยี่ยมบ้านยามเย็น ไปมันทุกเย็น ไปสนใจเยี่ยมแต่ชาวบ้าน แต่บ้านตัวเองไม่สนใจ ฮ่าๆๆๆๆ พี่ว่ามันตลกมั๊ย !จะบ้าตาย.
อ้ายสอนฟังแล้วคันปาก
เสนอหน้าพูดมั่ง เมียกรู ! เอ๊ย ขอโทษครับมันยกมือไหว้รอบวงคงลืมตัวไปหน่อย
ผมไปกินเหล้าที่บ้านเพื่อน กินเพลินจนดึก เมียผมรออยู่บ้านไม่ไหวอุ้มลูกอายุแค่ 6 เดือนไปตามผมถึงบ้านเพื่อน หยุดจิบเหล้าเป็นพิธี .
จนเวลาเที่ยงคืนกว่าไปแล้ว มันเดินไปตามแต่ไม่ยอมเข้าไปในวงเหล้า ดันไปแอบอยู่ที่ดงกล้วยตานีข้างๆวงเหล้า ไปยืนอุ้มลูกอยู่ในความมืด เพื่อนผมปวดเยี่ยวเดินเข้าไปเยี่ยว จ๊ะเอ๋ ! เข้าเต็มรัก นึกว่าผีนางตานี วิ่งออกมาป่าราบน้ำเยี่ยวเปรอะไปหมด หายเมาเป็นปลิดทิ้ง จริงๆนะลูกพี่ ! ไม่ใช่โม้นะครับ คำว่าโม้ มันทำเสียงเหมือนสมรักษ์ คำสิงห์
อ้ายสอน ! มรึงไปมองที่หลังคา ซิ ! ไปดูว่ามันอยู่บนหลังคา ป่าว..ว กลัวเมียเอ็งเป็นแม่นาค ว่ะ! คุณสังคังมองไปที่หน้าต่างเพราะได้ยินเสียงหมาหอนแว่วๆมา
ส่วนอาจารย์ ไฝ ซึ่งเป็นช่างที่อาวุโสที่สุดในกลุ่ม รูปร่างผอมหน้าแหลมๆ มีหนวดงามที่ริมฝีปาก เหนือหนวดมีไฝเม็ดเขื่อง มองเห็นได้ชัด เสียงแหลมๆเหมือนคนทางระยอง
แกเอ่ยเสียงแหลมๆออกมา.
อ้าย เอี้ยเอ๊ย ! เมียกรู ซิ แม่ง !แสบ
แสบไง ? พี่ พวกในวงเหล้าถาม
คืนหนึ่ง เมาเละจนไม่รู้เรื่องกลับมาบ้านเกือบ ตี 2 ถึงบ้านหิวข้าว เมียก็จัดสำรับข้าวให้กิน มันใจดีเอาเหล้ามาตั้งบนโต๊ะให้อีก เสร็จแล้วมันรีบกลับไปนอนเฉยเลยปล่อยให้กรูนั่งอยู่คนเดียว
อาจารย์ไฝทำท่าผะอืดผะอม
เมียใจดีขนาดนี้ ยังไม่ดีอีกหรือ พี่ ! อ้ายสอนเอือก
ใจดี เตี่ยมรึง ดิ ! กรูอ๊วกเกือบตาย ยังแสบคอไม่หาย
เป็นไง ? อ้ายเบิ้มสนใจ
อาจารย์ไฝขึ้นเสียงแหลมปรี๊ด. มันจะเป็นไง ? ก็มันเอาน้ำปลากรอกใส่ขวดเหล้าให้ผัวกิน ดิ ! ซัดไปหลายแก้วไม่รู้เรื่องเพราะเมาจนฟิวส์ขาด ตื่นเช้าขึ้นมา แม่ง ! ยังเยาะเย้ยอีกว่าเหล้านอก บลูเลเบิ้ลขวดเมื่อคืนรสชาติเป็นไง ?
(มีต่อตอนหน้า ตอน 2)
Create Date : 26 ตุลาคม 2551 |
Last Update : 27 ตุลาคม 2551 5:56:36 น. |
|
1 comments
|
Counter : 650 Pageviews. |
|
|
|
โดย: นิด IP: 115.67.18.153 วันที่: 26 ตุลาคม 2551 เวลา:11:38:32 น. |
|
|
|
| |
|
|