อดีตชาวดิน สระบุรี กรมที่ดิน (ราส์ส กิโลหก)
Group Blog
 
All Blogs
 
เพื่อนที่ไม่พึงปรารถนา..!!!

เพื่อนที่ไม่พึงปรารถนา..!!!

ราสส์ กิโลหก

อรทัยฯ สาวสวยและโสดอายุอานามได้ 35 ปี ในชุดพนักงานสีฟ้าสดใสของบริษัทหรือที่ชาวบ้านชอบเรียกว่า สาวออฟฟิศ หลังจากเลิกงานประจำวันที่บริษัทแล้ว ก่อนจะกลับเข้าบ้านเธอจะต้องแวะซื้อสิ่งของต่างๆที่พวกพ่อค้าแม่ค้านำมาตั้งขายที่บริเวณด้านหน้าหมู่บ้านที่เธออาศัยอยู่

ที่มือทั้งสองข้างหิ้วสิ่งของพะรุงพะรัง ส่วนใหญ่จะเป็นจำพวกของกินต่างๆทั้งกับข้าว ขนมหวานและผลไม้ รวมทั้งกระเป๋าถือประจำตัวสะพายอยู่ที่ไหล่ ท่าทางอิดโรยเพราะช่วงเช้าต้องรีบตื่นแต่เช้าออกไปทำงานพอ ตอนเย็นหลังเลิกงาน ก็รีบเดินทางกลับบ้าน ชีวิตช่างสับสนวุ่นวายแต่ก็ไม่มีทางเลือก

วันนี้เป็นวันสุดสัปดาห์คือวันศุกร์ วันถัดไปคือวันเสาร์และวันอาทิตย์คือวันหยุด เธอจึงซื้อของมากกว่าวันปกติ อรทัยใช้เวลาวันหยุดพักผ่อนอยู่กับบ้านไม่นิยมออกไปเที่ยวเตร่ที่ไหน เพราะเป็นการเปลืองเงินโดยใช่เหตุ พฤติกรรมชอบเก็บตัวอยู่กับบ้านแบบนี้ ทำให้เธอหาทางลงจากคานทองไม่ได้ แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร อยู่คนเดียวสบายใจสบายกายไม่มีเรื่องกวนตัวกวนใจ ให้ปวดสมอง

เดินหิ้วของจนไหล่เอียงมาถึงหน้ารั้วประตูบ้าน ควักกุญแจไขเข้าบ้านด้วยความเคยชิน ทำงานมาทั้งวัน ระยะทางจากบ้านถึงที่ทำงานก็ไม่ไกลมากนักแต่ การจราจรในกรุงเทพฯทำให้การเดินทางเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต ใช้เวลาเดินทางเป็นชั่วโมงเสียดายเวลาที่เสียไปบนรถที่ติดอยู่ในถนนที่จอแจสับสนและวุ่นวาย

บ้านพักอาศัยของอรทัย เป็นทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียวตัวอาคารกว้าง 4 เมตรลึก 10 เมตรมีห้องนอน 1 ห้องแบบพอเพียง ดีที่เป็นห้องหัวมุมทำให้มีพื้นที่เพิ่มด้านข้างอีก 1 เมตรพร้อมทั้งมีหน้าต่างด้านข้างเพิ่มอีก 6 บานทำให้ดูโปร่งโล่งกว่าห้องอื้นๆที่ติดกันเป็นแถว แม้จะดูตับแคบไปบ้างแต่สำหรับคนโสดอย่างเธอ คิดว่าเหมาะสมแล้ว พอเข้าบ้านได้ความสุขส่วนตัวกลับมาเป็นของตัวเองอีกครั้ง ภารกิจอันแรกที่รีบทำก็คือ อาบน้ำชำระตัวให้สะอาดสดชื่น ตามมาด้วยอาหารและขนมที่อร่อยๆๆบนโต๊ะอาหารของตัวเอง นั่งจัดการกับอาหารการกินอย่างเดียวดายตามความเคยชิน กินไปนั่งคิดอะไรเพลินๆ จนอิ่มท้องในไม่ช้า พลางคิดว่าคนเราตอนที่มีความสุขที่สุดก็คือ ตอนที่อิ่มท้องนี่เอง !

พาตัวเองมานั่งที่โซฟาตัวใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ข้างผนังห้อง ใช้รีโมตฯเปิดดู ทีวี เครื่องใหญ่ตั้งอยู่ผนังด้านตรงข้ามกัน ผนังด้านที่ตั้ง ทีวี เป็นด้านข้างของทาวน์เฮ้าส์ซึ่งเป็นด้านที่มีหน้าต่าง ด้านเหนือที่วีขึ้นไป สูงเกือบถึงฝ้าเพดานเป็นที่ติดตั้งของแอร์แขวน ที่ทำหน้าที่ทำความเย็นให้กับบ้านหลังนี้

นั่งดูรายการ ทีวี ที่ชื่นชอบด้วยความสุข เป็นละครรักวัยรุ่นของพวก นิสิตนักศึกษาเนื้อหาเป็นเรื่องรักกุ๊กๆกิ๊กๆทั่วๆไป ดูๆไปทำให้หวนนึกถึงอดีตของตัวเอง ความคิดล่องลอยไปนึกถึงสมัยเรียนมหาวิทยาลัยเป็นชีวิตในวัยสาวและสดใส ก็มีเพื่อนชายที่เรียนอยู่ด้วยกันมาชอบมาจีบเหมือนกัน มันเป็นชีวิตของชายหนุ่มกับหญิงสาวทั่วไป แต่เธอก็ยังไม่ตกลงคบกับใครเป็นพิเศษคงเป็นเพราะความเป็นเด็กต่างจังหวัดและพ่อแม่มีฐานะยากจน จึงเจียมตัวและตั้งใจเล่าเรียนอย่างเดียว และไม่คาดติดว่าในอนาคตต่อมา กลายเป็นความโชคดีสำหรับเธอ เพราะทำให้เธอไม่มีใครเป็นพิเศษจนกระทั่งเล่าเรียนจนได้รับปริญญาสมความตั้งใจ

อรทัยได้เห็นพวกเพื่อนๆรุ่นเดียวกันที่ต่างแต่งงานมีครอบครัวไป เกือบทุกคนมีปัญหาที่แตกต่างกัน บางคนมีปัญหากับการมีชีวิตคู่ที่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากันได้ บางคนมีปัญหากับญาติพี่น้องของคู่ชีวิต ประเภทแม่ยายกับลูกเขยหรือแม่ผัวกับลูกสะใภ้เหมือนนิยายน้ำเน่าไม่มีผิด บางคนตอนยังไม่แต่งงานรูปร่างหน้าตาสวยสดใส เวลานัดกันไปเที่ยวที่ไหนจะสนุกสนานเป็นตัวของตัวเอง แต่ไม่น่าเชื่อหลังจากแต่งงานไปแล้วไม่กี่ปี มาเจอหน้ากันตอนเลี้ยงรุ่นเห็นแล้วจำแทบไม่ได้ ทั้งอ้วนทั้งโทรมถามได้ความว่าทั้งเลี้ยงลูกและตามผัว...เวรกรรม !!

อรทัยคิดถูกที่ยังครองตัวเป็นโสด เป็นโชคดีจริงๆ อยู่คนเดียวมีอิสระทุกอย่าง นึกจะไปไหนก็ได้ไป ไม่มีภาระหรือความยุ่งยากมารบกวนชีวิตประจำวัน เงินทองเหลือกินเหลือใช้เพราะปากเดียวท้องเดียว ชีวิตสดใสเหมือนนกน้อยที่ บินถลาเที่ยวไปในท้องฟ้า

ดูรายการไปอ่านหนังสือไปเป็นการย่อยอาหาร พรุ่งนี้เป็นวันหยุดจึงปล่อยตัวได้เต็มที่ไม่ต้องห่วงว่าจะนอนดึก ดูรายการต่างๆจนเพลินเวลาดึกมากแล้วความง่วงมารุมเล้าเปลือกตาหนักเต็มที กดรีโมตฯ ปิดเครื่องฯ คิดว่าคงนอนที่โซฟานี่แหละ ! กำลังเคลิ้มๆ เอ๊ะ ! เสียงอะไร ? มันเป็นเสียงเหมือนมีอะไรไปติดอยู่ที่ช่องระบายความเย็นของตัวแอร์ เสียงก๊อกๆแก๊กๆ เหมือนมีสิ่งของบางอย่างไปปิดขวางช่องลมบางช่อง

ด้วยความสงสัยจึงไปลากเอาเก้าอี้นั่งจากโต๊ะอาหาร มาวางที่ตรงกับตัวแอร์ พาตัวไปยืนบนเก้าอี้เพื่อให้สามารถมองเข้าไปที่ช่องลมของตัวแอร์ เพราะอยากรู้สาเหตุที่มาของเสียง ตอนนี้หน้าของเธออยู่ห่างจากช่องลมแค่คืบกว่าๆสอดส่ายสายตาหาความผิดปกติ กำลังมองดูเพลินๆ ทันใดนั้นโดยที่ยังไม่ทันระวังตัว ปรากฏมีสิ่งหนึ่งโผล่มาจากช่องเล็กๆของช่องแอร์ มันคือสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งโผล่หัวออกมาพร้อมแลบลิ้นแฉกๆออกมาให้เห็นเต็มตา..

พอเห็นภาพชัดเจน ว่าเป็นอะไร ? อรทัยร้องลั่นไม่เป็นภาษา ขยับตัวหนีด้วยความตกใจจนแทบตกจากเก้าอี้ ใจสั่นระรัวด้วยความตกใจสุดขีด ความขยะแขยงเกิดขึ้นกับตัวจนขนลุก เพราะเจ้าสิ่งที่น่าเกลียดน่ากลัวที่กำลังส่ายหัวชูคอออกมาจบเกือบถึงหน้า อรทัย มันคือ งู ชนิดหนึ่งขนาดประมาณนิ้วมือไม่รู้ว่ายาวขนาดไหนเพราะเห็นแค่หัว รีบกระโดดลงจากเก้าอี้ถอยกลับออกมา พอ หันกลับไปมองอีกครั้งมันยังทำท่าผลุบๆโผล่ๆ ตรงที่ช่องแอร์ สักพักก็หดหัวกลับเข้าไปจนมองไม่เห็น

อรทัย ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ปัญหาใหญ่เกิดขึ้นกับเธออย่างช่วยไม่ได้ เพราะมีสิ่งแปลกปลอมที่ไม่พึงปรารถนาเข้ามาอยู่ร่วมห้อง สำหรับความรู้สึกของ เธอ เจ้าสัตว์เลื้อยคลานตัวยาวนี้ มันน่าเกลียดและน่ากลัวจนขึ้นสมอง และคิดว่าตงไม่ใช่แต่เธอคนเดียว คนส่วนใหญ่ไม่ว่าผู้หญิงและผู้ชายบางคนก็คงคิดแบบเดียวกัน

พอเจอเหตุการณ์แบบนี้เข้า ความง่วงกระเจิงหายไปเปลือกตาแข็งเหมือนกินกาแฟเข้าไปซัก 10 แก้ว หัวใจเต้นโครมครามจนผิดจังหวะ วันนี้เป็นวันโลกาวินาศสำหรับหญิงโสดสวยคนนี้เสียแล้ว หันมองดูเวลาที่นาฬิกาเกือบ ตี 2 แล้ว จะไปเรียกใครที่ไหนมาช่วยดึกดื่นป่านนี้ คงต้องช่วยตัวเอง ไม่งั้นอยู่ไม่เป็นสุขแน่ !

ความคิดอันแรกคือ ต้องเอายาฉีดฆ่ายุงชนิดสะเปย์ฉีดเข้าไปเพื่อให้มันหนีออกมา ไวเท่าความคิดวิ่งไปที่เก็บของหลังบ้าน หยิบเอากระป๋องยาฆ่ายุงออกมา ลากเก้าอี้ติดมือออกมาด้วย ค่อยๆปีนขึ้นไป ยื่นมือที่ถือกระป๋องฉีดยา เล็งเป้าหมายไปที่ช่องเล็กๆมือสั่นเล็กน้อยเนื่องจากบังคับความตื่นเต้นไม่ได้ พอได้จังหวะหลับหูหลับตา ฉีด ปีดๆๆๆเข้าไปที่ช่องลมแอร์ตำแหน่งที่หัวเจ้าสัตว์ตัวยาวโผล่ออกมาเมื่อครู่..

กระโดดถอยออกมาดูผลงาน ซักพักใหญ่ๆฤทธิ์ของยาฉีดยุงก็เริ่มสัมฤทธิ์ผล เจ้าสัตว์น่าเกลียดตัวยาวคงโดนยาฉีดเข้าไปเต็มที่ เกิดอาการ เมายาฉีดยุง จึงค่อยๆม้วนตัวออกมาจากช่องแอร์จนเป็นก้อนกลม แล้วก็หล่น ตุ๊บลงมาที่พื้นบ้าน อรทัยดีใจสุดๆรีบวิ่งกลับไปที่หลังบ้านคว้าไม้กวาด หวังจะเอามาเขี่ยเจ้างูให้พ้นไปจากตัวบ้าน

พอกลับมาถึงจุดที่เจ้า งูตกลงมาเมื่อครู่ ปรากฏบริเวณนั้นว่างเปล่า ใจหายวาบออกอาการถอยหลังกรูด เนื่องจากพื้นในบ้านมีสิ่งของตั้งอยู่มากมาย เช่นโต๊ะทำงาน ตู้ใส่ของ ทั้งกองสิ่งของต่างๆอยู่เกือบเต็มพื้นที่ จึงเป็นที่หลบซ่อนกำบังตัวของเจ้าตัวยาวได้เป็นอย่างดี ตอนนี้สถานการณ์ย่ำแย่ไปมากกว่าเดิม เพราะไม่สามารถรู้ว่ามันไปซ่อนตัวอยู่ที่ตำแหน่งแห่งไหน งานเข้าอรทัยเต็มๆเสียแล้วเธอทำอะไรไม่ถูก สมองมึนงงไปหมด

“ต้องเอาของที่กองอยู่กับพื้น ขนออกไปกองนอกตัวบ้าน” เธอนึกในใจ

เธอค่อยๆหยิบสิ่งของต่างๆขนออกไปกองที่นอกตัวบ้าน ตรงบริเวณซึ่งเป็นพื้นที่ว่างหน้าบ้านมีพื้นที่ กว้าง 4 เมตรยาว 6 เมตรโดยทั่วไปใช้สำหรับเป็นที่จอดรถส่วนตัว แต่ตอนนี้ว่างโล่งเพราะอรทัยไม่มีรถยนต์ส่วนตัว หยิบไปขนไปตาก็สอดส่ายหาเจ้าตัวต้นเหตุไปด้วย แต่ก็ไม่เจอแม้เงา เกือบตี 3 แล้วชาวบ้านชาวช่องกำลังนอนหลับด้วยความสุขแต่สาวอรทัยต้อง สาระวนกับการค้นหาเจ้า งูบ้าอยู่ตัวเดียว นึกแล้วเจ็บใจจริง ๆเจอตัวเมื่อไหร่จะตีให้แบนทีเดียว ก็ได้แต่คิดเพราะจริงๆแล้วเธอเป็นคนใจบุญไม่ชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต อยากไล่ให้มันออกไปตัวเป็นๆมากกว่า

กำลังเก้ๆกังๆอยู่ที่หน้าบ้าน มีเสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าประตูรั้วของห้องข้างเคียง มองดูเป็นรถแท็กซี่คันหนึ่ง ผู้ที่ลงมาจากรถคือ ตุณสมชายหนุ่มโฉด ..เอ๊ย ! โสด วัย 40 กว่าปี เขาเป็นเจ้าของทาวน์เฮาส์ห้องติดกันกับห้องของอรทัย ก็รู้จักกันในฐานะที่เป็นเพื่อนบ้านกันแต่ไม่ถึงกับสนิทสนม พูดทักทายกันนับคำได้เพราะอรทัยไม่ชอบสุงสิงกับใครมากนัก จึงไม่ได้สนใจอะไรก้มหน้าก้มตาจัดของต่อไป

ตุณสมชายในสภาพที่ ผมเผ้ายุ่งเหยิงเสื้อสีขาวดูยับยู่ยี่ ชายเสื้อหลุดออกมานอกขอบกางเกง มือซ้ายถือกระเป๋าเอกสารสีดำ มือขวาหิ้วถุงกับข้าว เขาเดินเซๆเปิดประตูรั้วเข้าบ้าน ขณะกำลังจะเดินไปที่ประตูเพื่อเข้าไปในตัวบ้าน พลันที่สายตามองข้ามรั้วคอนกรีตสูง 1.50 เมตรที่กั้นระหว่างห้องเห็นอรทัยกำลังวุ่นวายกับการขนของอยู่ที่หน้าบ้าน เกิดเปลี่ยนใจเดินมาที่บริเวณรั้ว พลางชะโงกหน้ามาที่อรทัย

“ทำความสะอาดบ้าน หรือ ครับ ! แต่ผมว่ามันจะผิดเวลาไปหน่อย มั๊ง ! ครับ..แฮะๆๆๆๆ” ตามองที่บั้นท้ายของอรทัยที่กำลังก้มตัวจัดข้าวของอยู่

เล่นเอาอรทัยซึ่งกำลังยุ่งๆกับการจัดเก็บสิ่งของ สะดุ้งโหย่ง ! หันกลับมามองที่ต้นเสียง นึกโมโหนิดๆที่เขายังไม่ยอมเข้าบ้าน ยังแวะมาพูดทักทาย เพราะเธอเบื่อที่จะต้องคุยกับพวกขี้เมา สำหรับคุณสมชายภาพที่อรทัยเห็นเป็นประจำคือ ตอนเช้าแต่งตัวหล่อออกจากบ้านไปทำงาน แต่ตอนกลับบ้านในเวลาที่เกือบจะตรงกันของทุกวันคือประมาณ ตี 3 ในสภาพที่แตกต่างกับตอนเช้าจากหน้ามือเป็นหลังมือ เธอยังนึกอยู่ว่าในแต่ละวัน นายขี้เมาคนนี้ใช้เวลานอนไม่ถึง 4 ชั่วโมงไม่รู้ทนทำงานอยู่ได้ไง ? แต่ก็ยังนึกชมความเป็นผู้มีความรับผิดชอบของเขาบางอย่าง คือไม่ว่าจะกลับมาดึกดื่นอย่างไร เขาจะตื่นเช้าไปทำงานเป็นปกติทุกวันไม่เคยตื่นสายเลย ยกเว้นเป็นวันหยุดทำงาน ต้องยอมรับว่าทนเป็นแรดจริงๆ

“ อ๋อ ! ไม่มีอะไรหรอก ต่า. ค้นหาของที่หายน่ะ ค่ะ !” พูดปัดๆไปเพื่อตัดความรำคาญ

“ทำไม ? ไม่ค้นตอนกลางวัน ครับ ค้นตอนกลางคืน มันมืดนะครับ !”

อรทัย นึกโมโหมากขึ้นอีก แล้วมายุ่งอะไร ? อีตาบ้า ! แต่ก็ปั้นหน้ายิ้มๆๆ

“มันเป็นของสำคัญ ต้องหาให้เจอในคืนนี้ ค่ะ”

คุณสมชายเดินชิดรั้วเข้ามาอีก “ สิ่งนั้นสำคัญขนาด ถึงนอนไม่ได้เชียวหรือครับ ? อย่าหาว่าผมจุ้นจ้านเลยนะ ช่วยไขความสงสัยให้ผมหน่อย หรือว่านอนไม่หลับหรือครับ ?” ประโยคหลังทำเป็นเสียงเล็กเสียงน้อย

ง่วงก็ง่วงเครียดก็เครียดมาเจอคนกวนประสาทเข้าไปอีก

“ คือว่าจะค้นหาหนังสือ กฎกติกามารยาทและสมบัติผู้ดี น่ะ ค่า !” เธอพูดทำเสียงประชด

“ อ๋อๆๆๆ ครับๆๆๆถ้าหาไม่เจอ บอกผมได้นะครับ เพราะที่บ้านผมมีเป็นกล่องๆๆ” สมชายขี้เมา เกทับกลับมา พร้อมเดินเซเข้าไปในบ้านตัวเอง

“ ตาบ้า ! ช่วยก็ไม่ช่วยยังมากวนใจอีก !” อรทัยหันมาค้อนตามหลังคนขี้เมา

ขนของต่างๆที่วางอยู่ตามมุมห้องและริมห้องออกมาจนหมด พื้นที่ห้องว่างจนโล่งตา เหลือเพียงโต๊ะโซฟา และโต๊ะตัวใหญ่ซึ่งเธอแบกคนเดียวไม่ไหว เริ่มค้นหาเจ้าตัวยาวอีกครั้ง เดินสอดส่ายสายตาไปทั่วๆบ้าน ก้มตัวมองที่ใต้โต๊ะ ใต้โซฟามองหาจนละเอียดก็ไม่เจอ ยังนึกในใจว่าตัวตั้งยาวทำไมซ่อนตัวเก่งจัง หรือมันติดไปกับกล่อง และตะกร้าต่างๆที่เธอขนออกไปกองไว้นอกบ้าน

อรทัยเดินไปด้านนอกแล้วปิดประตู เพื่อกันไม่ให้ เจ้างูกลับเข้ามาในตัวบ้านได้อีก เธออยู่ด้านนอกกับสิ่งของที่ขนออกมากอง เริ่มขยับสิ่งของที่ละชิ้นๆเพราะเชื่อว่า แขกยามวิกาลต้องซ่อนตัวอยู่ที่สิ่งของอันใดอันหนึ่ง ไล่เอาไม้ตบไปเขย่าไปจนเกือบหมดกองใหญ่ แล้วก็ได้ผลขณะเคาะ ไปที่ชั้นเก็บรองเท้า ไล่เคาะไปที่รองเท้าคู่หนึ่ง เจ้างูยาวซัก 2 คืบ ตัวเขียวๆพุ่งออกมาจากภายในของรองเท้า เลื้อยปราดด้วยความรวดเร็วมุ่งไปที่รั้วด้านข้างซึ่งติดกับบ้าน คุณสมชายฯ เธอเงื้อไม้ยาวจะตี งูแต่ก็ชะงัก คิดว่าไม่ควรไปทำร้ายมันให้มันออกจากบ้านก็พอใจแล้ว พลางถอนใจด้วยความโล่งอก.

เธอยืนมองดู มันค่อยๆเลื้อยข้ามรั้วไปยังฝั่งบ้านคุณสมชายฯ จนเห็นเหลือแค่ปลายหาง กำลังจะเดินกลับเข้าบ้านเพราะง่วงเต็มที รบกับงูมาหลายชั่วโมงทั้งเหนื่อยทั้งเครียด และยังมีการบ้านต้องขนของเขาบ้านอีก สงสัยค่ำคืนนี้หลับเป็นตาย แน่ๆๆ

หันไปมองที่บ้านคุณสมชาย เอ๊ะ ! มองเห็นแว๊บๆ ทำไมประตูหน้าบ้านยังไม่ปิด ด้วยความสงสัยจึงเดินไปที่ริมรั้วชะโงกหน้าเข้าไปมองดู แล้วก็เป็นจริงๆประตูบ้านเปิด อ้า ซ่า และที่สำคัญเธอมองเห็นส่วนของหางงู ค่อยๆลากหางหายเข้าไปในบ้าน ของเจ้าคนเมาขี้ลืม

อรทัย ตกใจนิดหน่อย นึกอยากจะตะโกนบอก แต่ก็ล้มเลิกความคิด ปล่อยเลยตามเลยเพราะดูแล้วคงไม่ใช่งูมีพิษ อย่างไงคงไม่ถึงตาย เธอยังคิดห่วงคนขี้เมานิดๆ แล้วก็ตัดใจกลับเจ้าไปในบ้าน หย่อนตัวลงที่โซฟาตัวโปรดเอนตัวลงนอน พอหัวถึงหมอน ก็หลับ ครอกๆ..

หลับไปนาน จนมาสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเหมือนมีเสียงคนกำลังทำอะไรอยู่ที่หน้าบ้าน เหลือบตามองดูนาฬิกาที่วางอยู่บนโต๊ะมันบอกเวลา 6 โมงเช้า

“สว่างแล้ว ! ใครมาทำอะไรแถวหน้าบ้าน ?” ยังงัวเงียเมาขี้ตา เพราะเพิ่งนอนไปได้ไม่นาน ยังเพลียๆอยู่ ทนความสงสัยไม่ไหว ลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูออกไปที่หน้าบ้าน

“อ้าว ! คุณสมชาย ทำความสะอาดบ้านแต่เช้าเลย นะ ขยันจังนะตะ” อรทัยตะโกนทักเสียงใสแจ๋ว เหมือนสะใจอะไรบางอย่าง

คุณสมชาย ในสภาพ ตาแดงเป็นนกกระปูด เสื้อผ้ายังอยู่ในชุดเดิม ผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าตาตอนนี้เหมือนคนอายุซัก 50-60 ปี เขากำลังยืนอุ้มตะกร้าผ้าอันใหญ่ เดินออกมาที่หน้าบ้าน หันมาพูดกับอรทัยแบบเซ็งๆ

“ก็หาอย่างที่คุณ หาเมื่อคืนมั๊ง ! ครับ !” แต่ไม่ยอมมองหน้า

“ค้นหาตอนกลางวัน คงดีกว่าค้นหาตอนกลางคืน นะตะ” อรทัยทบทวนความจำของ คุณสมชาย ..

“คร๊าบๆๆๆๆๆถูกต้อง คร๊าบบๆๆๆๆ” พร้อมกับเดินโซเซกลับเข้าบ้าน เพราะของในบ้านยังมีอีกแยะ..



Create Date : 07 ธันวาคม 2551
Last Update : 7 ธันวาคม 2551 18:54:30 น. 2 comments
Counter : 613 Pageviews.

 
เขียนได้น่าอ่าน ชวนติดตามครับ


โดย: basbas วันที่: 7 ธันวาคม 2551 เวลา:21:26:58 น.  

 
สวัสดีค่ะ สบายดีไหมเอ่ย อากาศเปลี่ยนแล้ว รักษาสุขภาพด้วยน๊า ขอบคุณมากน่ะคะ ที่เข้าไปทักทาย เยี่ยมเยือนเจนนี่ในบล็อคที่แล้ว วันนี้ว่างนิดหน่อยคะ เลยเข้ามาอัพบล็อค อัพเดทรูปใหม่ๆ สดๆร้อนๆให้ชมกัน ว่างๆอย่าลืมเข้าไปชมน่ะคะ

ป.ล.หากเพื่อนๆคนไหนที่ไม่ชอบเสื้อแดงก็อย่าได้ถือโทษโกรธเจนนี่น่ะคะ ความคิดแตกต่างกัน แต่มิตรภาพผ่านตัวหนังสือของเรา ยังคงมั่นเหมือนเดิมน่ะคะ ขอบคุณค่ะ


โดย: สาวอิตาลี วันที่: 14 ธันวาคม 2551 เวลา:15:50:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สวนดอก
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add สวนดอก's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.