Group Blog
 
All blogs
 
กลิ่นแก้วกลางใจ ตอนที่ 1


ก ลิ่ น แ ก้ ว ก ล า ง ใ จ


บทประพันธ์ นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์
เรียบเรียงจากบทโทรทัศน์ กมลชนก ยวดยง



ตอนที่ 1


“ปรึ่น..ปรืน...ปรื้น...”

เสียงเร่งรอบรถยนต์ของบรรดารถแข่งคันหรูดังขึ้นรอบตัว ในงานแข่งรถการกุศลระดับไฮโซ “พระพาย” ไม่สนใจเสียงเหล่านั้นมากไปกว่าคำสั่งที่พรั่งพรูมาจาก “คุณเมษา” เจ้านายคนสวยวัยกลางคน


น้ำล่ะ !
ยาอมล่ะ !
ผ้าเย็น !

บทบาทความเป็นคนใช้ ทำให้พระพายดูด้อยค่าราวกับธุลีดิน เมื่อเทียบกับบรรดาแขกเหรื่อในงานสังคมคนชั้นสูงรอบตัว

เสียงกระหึ่มของรถสปอร์ตสีแดงอีกคันหนึ่งดังมาแต่ไกล พระพายที่ติดตามมาคอยรับใช้เมษาไม่ได้เฉลียวใจสักนิดว่าตนเองกำลังถือข้าวของของคุณๆทั้งหลาย หล่อนเดินเข้าไปใกล้สนามแข่งที่เต็มไปด้วยโคลนเปียกแฉะ ดังนั้นเมื่อรถสปอร์ตสีแดงคันงามแล่นผ่านมาจึงซัดเอาน้ำโคลนจากข้างทางแปะเข้าที่หน้าเต็มๆ เปรี้ยง !

พระพายนิ่งอึ้ง ไม่รู้จะทำอะไรได้ นอกจากมองตามรถสปอร์ตคันนั้นอย่างอาฆาต ผิดกับสายตาของสาวๆในงานที่มองตามรถ “อัสนี” ไปอย่างชื่นชม

“ว้าว นั่นรถพี่อัสนีนี่นา...”
“พี่อัสนีน่ะ...เรียนจบปริญญาตรีตั้งสามใบ เป็นทายาทคนเดียวของกิจการผลิตผ้าไหมระดับพันล้าน หน้าตาก็ดีระดับพระเอกหนัง สมบูรณ์แบบหาที่เปรียบไม่ได้เลยนะ “
พระพายมองตาม ปากลิ้มรสโคลนดำๆที่ยังแปะอยู่บนริมฝีปาก ... ฝีมือนายอัสนีพ่อพระเอกหนังคนนั้น !
รถของอัสนีขับเข้าไปยังจุดสตาร์ท โฆษกงานประกาศต้อนรับ

“ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่การแข่งรถการกุศลประจำปีนะครับ ผู้เข้าแข่งขันในวันนี้ถึงจะไม่ใช่นักแข่งทีมชาติ แต่ทุกคนก็เป็นคนดังในสังคมที่เรารู้จักกันดี เรียกว่ามาสนุกสนานไปด้วยทำบุญไปด้วยและเจ้าของรถสีแดงที่ขับเข้ามาในสนามขณะนี้ต้องเรียกว่า เป็นตัวเต็งของการแข่งเลยก็ว่าได้ คุณอัสนี ธีรนัยครับ...”

อัสนีลงมาจากรถ ถอดหมวกกันน๊อคออก เผยให้เห็นดวงหน้าคมคาย อัสนีโบกมือให้ทุกคนพร้อมรอยยิ้มกระชากใจสาว เหล่าบรรดากองเชียร์ส่งเสียงกรี๊ดถล่มทลาย มีเพียงพระพายคนเดียวเท่านั้นที่มองอัสนีอย่างหมั่นไส้

บรรดาสาวเล็ก สาวใหญ่ ตรงเข้าไปเอาใจอัสนี อัสนีเฉยชาไม่สนใจใคร เพราะมัวสาละวนอยู่กับการสั่ง “แต้ม” สมุนคู่ใจให้เช็ครถให้ แต่เมื่อสาวๆไม่มีทีท่าว่าจะถอยทัพกลับไป อัสนีจึงต้องเปลี่ยนแผนใหม่

“เอ้าถอยครับ ถอยไป พื้นที่ตรงนี้ ไว้สำหรับนักแข่งเท่านั้น ....ถอยหน่อย ถอยโว้ย ไม่ไปหรือ ไม่ไปใช่ไหม เอ้านี่ๆ น้ำมนต์เพี้ยงๆ… ไล่ผีชะนี ไปไป๊”

อัสนีเริ่มห่าม เอาน้ำในขวด ดีดๆสาดๆใส่สาวๆ จนสาวร้องวี้ดว้าย แตกฮือกระจายไป พระพายลอบมองพฤติกรรมของอัสนีอย่างไม่ชอบใจ

“ฮึ... ไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย “

“ปัง ! “
สิ้นเสียงปืนปล่อยรถ บรรดารถของผู้เข้าแข่งขันทั้งหลายทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
กองเชียร์ส่งเชียงเชียร์อย่างคึกคัก อัสนีได้เสียงเชียร์เยอะกว่าใครเมื่อสามารถเร่งความเร็วแซงขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งได้ แต่แล้วก็มีรถคันหนึ่งเบียดรถอัสนีให้ตกขอบถนนและนำแซงขึ้นไป พระพาย แทบจะกระโดดจนตัวลอยด้วยความสะใจ แต่แล้วก็ต้องทำท่าค้างเมื่ออัสนีผู้ไม่ยอมแพ้สามารถกลับสู่สนามและเร่งความเร็วเข้าเส้นชัยได้เป็นคนแรก

พระพายคอตก ในขณะที่คนอื่นๆพากันปรบมือให้อัสนีอย่างกึกก้อง
เมษาเป็นประธานมอบรางวัลในพิธี พระพายเบียดกับสาวๆที่ต้องการถ่ายรูปอัสนีไปถ่ายรูปคุณเมษาเจ้านายอย่างลำบากยากเย็น

“แหมผู้ชนะของเราในวันนี้เป็นขวัญใจสาวๆ จริงๆนะครับ เอาแบบนี้ดีกว่า เดี๋ยวเราเชิญผู้ชนะขับรถวนรอบสนามอีกครั้งหนึ่ง เพื่อโชว์ให้ทุกคนดูและเนื่องจากเป็นรอบพิเศษ เราให้ คุณอัสนีเลือกสาวสักคนหนึ่งมานั่งข้างๆ ดีไหมครับ”

“ผมไม่เคยให้ผู้หญิงมานั่งรถผม ! “ อัสนีหันไปตอบอย่างไม่เกรงใจใคร แต้มต้องรีบเข้าไปกระซิบ
“เล็กๆน้อยๆนะครับนาย เลือกสาวที่รวยๆสวยๆสักคน เขาจะได้บริจาคเยอะๆไงครับ”
อัสนีจำต้องพยักหน้าแบบจำใจ โฆษกเลยประกาศต่อ

“เอ้าสาวๆที่สนใจเชิญเลยครับ มายืนตรงนี้ แหมแต่ละคนล้วนแต่นามสกุลใหญ่ๆทั้งนั้นเลยดีครับ นั่งในรถคู่กับคุณอัสนีคงเหมือนกิ่งทองใบหยก นั่นๆมีทั้งคุณจุ๊บแจงลูกสาวโรงแรมดัง คุณเก๋ ลูกสาวเจ้าของแบงก์ หนูเจนี่ ลูกสาวห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่...แหม เลือกยากน่าดู สาวคนไหนจะเป็นผู้โชคดีน้า...”

บรรดาสาวไฮโซพากันมายืนเข้าแถวเรียงให้อัสนีเลือก อัสนีหยิบหมวกกันน็อคตรงเข้าไปเดินเลือกดูสาวทีละคน ทีละคน...เขารู้ดีว่าผู้หญิงไฮโซพวกนี้ไม่ได้ชื่นชอบในตัวเขา แต่ชอบในนามสกุลเขาเท่านั้นเอง และที่สำคัญ ทุกคนอยากเด่นอย่างดัง อยากเอาชนะผู้หญิงด้วยกัน

เสียงโฆษกในงานเร่งเร้า
“ว่าไงครับคุณอัสนี เลือกผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นได้หรือยัง เลือกได้แล้วก็ใส่หมวกกันน็อค พาเธอขึ้นรถไปเลยครับ”

อัสนีพยักหน้า ทำท่าเหมือนจะใส่หมวกให้ใครบางคน แต่แล้วอัสนีก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งแต่งตัวแสนจะธรรมดา สองมือหอบหิ้วสัมภาระข้าวของรุงรัง อัสนีคิดในใจ

“ยัยบ้าหอบฟาง...”
อัสนีแค่นยิ้ม เดินตรงเข้าไปสวมหมวกกันน็อคให้หญิงสาวคนนั้น
“และผู้หญิงผู้โชคดีคนนั้นก็คือ ...”
ทุกคนในงานตื่นตะลึง โดยเฉพาะเมษา
“นังพระพาย ! “

-------------------------------------------

ย้อนไปเมื่อ23ปีก่อน …
สนามกว้างหน้าวัง ”สุรเยนทร์” ดูแคบลงถนัดตา เมื่อบรรดาแขกเหรื่อซึ่งล้วนแล้วแต่เป็น
บุคคลชั้นสูงในแวดวงสังคมต่างมารวมตัวกันในงานเลี้ยงฉลองต้อนรับทายาทคนใหม่ของสุรเยนทร์

บรรยากาศภายในงานสวยงามราวกับถูกเนรมิตให้เป็นสวรรค์บนดินของนางฟ้าองค์น้อยที่กำลังเดินทางมาถึง...ที่มุมหนึ่ง นักดนตรีกำลังบรรเลงเพลงเพื่อสร้างบรรยากาศให้สดใส แต่แล้วเสียงเพลงก็เงียบลงเมื่อประตูกว้างของวังสุรเยนทร์เปิดออก บรรดาแขกเหรื่อต่างหันมองตาม

รถยนต์หรูคันหนึ่งแล่นมาเทียบจอดบริเวณทางเข้างาน คนขับรถรีบลงมาเปิดประตูให้กับผู้มาเยือน

“คุณหญิงจิตตา” ที่สวมชุดสวยสง่าราวกับนางพญาอุ้มทารกน้อยที่ห่อหุ้มด้วยผ้ากำมะหยี่สีแดงสดราวกับเจ้าหญิงลงมาจากรถอย่างภาคภูมิ

“ขอต้อนรับ ม.ร.ว.หญิงจิตตา และเด็กหญิงอาโป ทายาทคนเดียวของตระกูล สุรเยนทร์”
นมแสงที่เป็นทั้งแม่บ้านและแม่นมในบ้านหลังนี้ ประกาศกับทุกคน

แขกเหรื่อทุกคนในงานปรบมือแสดงความชื่นชมยินดี จิตตาแย้มยิ้มรับไมตรีจากทุกคน หลายคนเข้ามาพูดคุยแสดงความยินดีและชื่นชมความน่ารักของคุณหนูอาโป จิตตาพูดคุยกับทุกคนอย่างนอบน้อม สุภาพอ่อนหวาน สมเป็นกุลสตรีทุกระเบียบนิ้ว

“ภานุ” ที่อยู่มุมหนึ่งของงาน มองจิตตาอย่างเหยียดๆ
“ผู้หญิงอะไรไม่มียางอาย ท้องไม่มีพ่อแล้วยังจัดงานเลี้ยงใหญ่โต !!”
สาวสวยช่างเจรจาคนหนึ่งได้ยินดังนั้นก็ตาโต แต่ยังพยายามเก็บอาการ

“จะมีพ่อหรือไม่มีพ่อ เด็กคนนี้ก็คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด ในฐานะทายาทธุรกิจใหญ่โต”

หญิงสาวกวาดตาไปรอบๆก่อนจะกระซิบกระซาบกับภานุ
“ว่าแต่ที่เขาลือว่า คุณหญิงจิตตา...”
“มีชู้กับสามีชาวบ้านจนท้อง !!“ น้ำเสียงภานุเต็มไปด้วยความดูหมิ่น เขาพยักหน้าเออออกับสาวช่างเจรจาคนนั้น

คุณหญิงจิตตาเป็นหญิงสาวที่เรียกได้ว่าเพียบพร้อมทั้งฐานะ ชาติตระกูล และทรัพย์สมบัติ นอกจากนี้เธอยังเป็นนักธุรกิจหญิงที่เก่งกาจในวงการธุรกิจ หลายคนอดที่จะอิจฉาจิตตาไม่ได้ ภานุก็เช่นกัน เขาสะใจที่เห็นจิตตาทำผิดพลาด และไม่รีรอที่จะเหยียบย่ำซ้ำเติม

“น่าเสียดายชื่อเสียงของ...”
“ภานุ ! หยุดได้แล้ว เราสองคนมีธุรกิจร่วมกัน เราต้องช่วยกันปกป้องชื่อเสียงของคุณหญิงจิตตาถึงจะถูก”
“อัคคี” พี่ชายของภานุผู้ทำธุรกิจผ้าไหมไทยร่วมกับตระกูลของคุณหญิงจิตตาหันมาปรามน้อง

ภานุเบ้หน้า เบื่อความเป็นคนดีของอัคคี หยิบแก้วไวน์จะเดินเลี่ยงไปทางอื่น แต่แล้วสายตาของภานุก็พบกับอรชุนที่แอบมายืนชะเง้อหาจิตตาและลูกที่นอกรั้ว

“นั่นไง นายอรชุนพ่อเด็ก ไม่กล้าเข้ามา เพราะกลัวเมียหลวงรู้ “
“อย่าพูดมากน่ะ อรชุนกับคุณหญิงจิตตาเขาเป็นคู่รักกันมาก่อน ที่สำคัญคนเราผิดพลาดกันได้ ตอนนี้เขาก็เลิกกันไปแล้ว”

อัคคีดึงน้องชายไปคุยที่อื่น ภานุยังมิวายมองอรชุนอย่างสมเพช
อรชุนพยายามกวาดสายตามองหาจิตตาและลูก หัวใจเขาพองโตขึ้นมาทันทีเมื่อได้เห็นใบหน้าน้อยๆในอ้อมกอดของจิตตา
“ลูกพ่อ … พ่ออยากกอดรับขวัญลูกเหลือเกิน”

อรชุนหน้าเศร้า เจ็บปวดกับความสัมพันธ์ที่แอบซ่อนของตนเอง แม้แต่จะกอดรับขวัญลูกยังทำไม่ได้....สายตาคู่หนึ่งจ้องมองความเศร้าของอรชุนอย่างสะใจ
“สมน้ำหน้า! คุณดูดีมากนะคะเวลาไม่มีความสุข”

ในมุมมืดไม่ไกลจากรั้ววังสุรเยทร์เท่าไหร่ เมษาลอบมองภาพอรชุนที่อยู่ตรงหน้าอย่างสาแก่ใจ ก่อนจะละสายตาจากอรชุนจ้องตรงไปยังจิตตา สาวสวยสูงศักดิ์กำลังกอดจูบทารกน้อยอย่างรักใคร่ เมษาหัวเราะร่าในใจ

“ ฮะฮะฮ่า นังบ้า นั่นมันลูกแกที่ไหน แกมันโง่...โง่จริงๆ! “
ดวงตาของเมษาวาวโรจน์อย่างน่ากลัวเมื่อนึกถึงความหลังอันเจ็บปวด

เมษาแต่งงานกับอรชุนด้วยความรักเต็มหัวใจ แล้ววันหนึ่งหล่อนก็แทบหัวใจสลายเมื่อรู้ว่าสามีของตนลักลอบเป็นชู้กับคนรักเก่าอย่างม.ร.ว.หญิงจิตตา และที่สำคัญทั้งสองกำลังจะมีลูกด้วยกัน
เมษาผิดหวังเสียใจอย่างรุนแรง ความรักที่มีต่ออรชุนเปลี่ยนรูปร่างเป็นความพยาบาทเคียดแค้น หล่อนปฏิญาณกับตนเองว่าจะทำทุกวิธีทางเพื่อให้คนทั้งสองพินาศย่อยยับ !

ท่ามกลางความมืดในหัวใจดำสนิทของเมษา
เมษามองเด็กทารกในมือของจิตตา แทบอยากหัวเราะออกมา แกจัดเลี้ยงหรูหราต้อนรับเด็กที่ไม่ใช่ลูกของแกงั้นหรือ ฮะฮะฮ่า ....
เด็กนั่น ... เด็กที่แกคิดว่าเป็นลูกแก ....เป็นทายาทคนเดียวของสุรเยนทร์ เด็กนั่นก็แค่ลูกโสเภณีข้างถนนเท่านั้นเอง ฮะฮะฮ่า !!!…

เมื่อสองสามวันก่อนหน้านี้ ... 20 ก.พ. 2528 วันที่จิตตาไปคลอดลูกสาวอย่างโดดเดี่ยวในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เมษาจ้างคนไปสับเปลี่ยนเด็กทารกที่โรงพยาบาล ลูกของจิตตาถูกสลับกับลูกโสเภณี ที่มาคลอดแล้วทิ้งเด็กไว้ !!

จิตตายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเด็กทารกเลือดเนื้อเชื้อไขที่แท้จริงนั้น ไปตกระกำลำบากอยู่ที่ไหน !
เมษายิ้มเหี้ยมให้จิตตา
“แผนการของฉันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น แกคอยดูแล้วกันว่าฉันจะทำยังไงต่อไป”

------------------------------------------

แปดปีผ่านไป...
ไอร้อนที่ระเหยขึ้นจากถ้วยชาใบงามที่สั่งตรงจากยุโรป มิได้ทำให้เมษาอาทรร้อนใจตามไปด้วยสักนิด หล่อนบรรจงเทน้ำชาใส่ถ้วย ก่อนจะอ้อยอิ่งเติมครีม และน้ำตาลลงไป เมษาเลื่อนถ้วยน้ำชาไปตั้งหน้าภาพถ่ายขนาดใหญ่ของอรชุนที่แขวนอยู่บนผนังติดกับโต๊ะทานอาหารเล็กๆมุมหนึ่งในห้องเมษา

“เชิญค่ะที่รัก ของโปรดคุณทั้งนั้นเลยน้า... “ เมษานั่งร่วมโต๊ะกับภาพอรชุน พูดคุยกับภาพไร้ชีวิต ! หล่อนตักขนมใส่จานแบ่งของอรชุนอย่างเอาใจ

“สงสัยไหมคะอรชุน ทำไมฉันอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะฉันกำลังจะได้ตัวเด็กคนนั้นมาแล้วค่ะ เด็กที่ฉันให้คนพลิกแผ่นดินตามหา ...”

เมษาหยุดเล็กน้อย นิ่วหน้าคล้ายได้ยินอรชุนพูด

“ว่าไงนะคะ ... อ๋อใช่ค่ะ ลูกของคุณกับนังผู้หญิงหน้าด้านคนนั้น เด็กคนนั้นนั่นล่ะค่ะ ! “
เมษาละเมียดจิบชาอย่างสุขใจ เมษาใคร่ครวญ หล่อนไม่มีความสุขใจเท่านี้นานเท่าใดแล้วหนอ

หลังจากวันที่เด็กน้อยเลือดเนื้อเชื้อไขของอรชุนลืมตาดูโลกได้ไม่นาน อรชุนก็ป่วยกระเสาะกระแสะด้วยความตรอมใจ และอำลาจากโลกนี้ไปในระยะเวลาไม่ถึงปี เมษายอมรับไม่ได้จากการจากไปของสามี หล่อนยังไม่ได้แก้แค้นเขาให้สาแก่ใจ เขาชิงตายหนีจากหล่อนไปได้อย่างไรกัน !

เมษาอัดขยายภาพถ่ายอรชุนขนาดใหญ่มาแขวนไว้ในห้องส่วนตัวของหล่อน ทุกวัน หล่อนจะพูดคุย ร่วมรับประทานอาหาร และดูแลอรชุนทุกอย่างราวกับอรชุนยังมีชีวิตอยู่จริงๆ เผื่อว่าอรชุนจะรับรู้ข่าวคราวความเคลื่อนไหวในการแก้แค้นของหล่อนบ้าง

หล่อนใช้เวลาในการตามหาเลือดเนื้อเชื้อไขของเขานานถึง 8 ปี เด็กน้อย”พระพาย”ที่ถูกสับเปลี่ยนตัวในวันนั้นถูกส่งตัวไปอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า และวันนี้เมษากำลังจะได้ตัวพระพายมาเป็นลูกบุญธรรม !

“พระพาย”ยืนรอเมษาที่โถงด้านล่างอย่างตื่นเต้น ใบหน้าของเด็กน้อยเปี่ยมสุขเมื่อรู้ว่าจะได้มีแม่อย่างเด็กคนอื่นๆ หนูน้อยมองรอบตัว ตื่นตาตื่นใจกับความใหญ่โตของบ้านหลังใหม่ ทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านหลังนี้ล้วนสวยงามแปลกตากว่าสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าที่เคยอยู่ยิ่งนัก

เมื่อเมษาลงบันไดมา พระพายเห็นเข้าก็ยิ้มกว้าง ชื่นชมในความสวย
“แม่ …สวย สวยจัง เหมือนนางฟ้าเลย”

พระพายทิ้งของ วิ่งตรงเข้าไปหาเมษา
“นี่หยุดนะ เธอจะทำอะไร ! “
“แม่ แม่ของหนู” พระพายตรงเข้ากอดเมษาอย่างรักใคร่ ไม่สนใจเสียงห้ามของเมษา
“นี่ ยายเด็กบ้า ปล่อยนะ ไป๊ สกปรก “เมษาหงุดหงิด ผลักพระพายกระเด็นไปกองกับพื้น

แตง ซึ่งเป็นหัวหน้าคนรับใช้ในบ้านรีบเข้าไปประคองพระพาย พร้อมพูดเตือนสติเมษาให้เย็นลง
“คุณท่านเบาๆหน่อยค่ะ อย่าลืมสิคะ เราบอกทางบ้านเด็กกำพร้าว่าท่านเป็นแม่ ไม่งั้นเขาไม่ให้เอาเด็กออกมานะคะ “

เมษาสลบลง นั่งลงที่ชุดรับแขก พระพายยิ้มแฉ่งให้เมษา เข้าไปหาอีกครั้ง
“นั่งข้างล่าง !!” เมษาตวาดแว้ด

พระพายถอยลงมานั่งข้างล่าง ดวงตายังมองเมษาด้วยสายตาชื่นชม ไม่ยอมละสายตาไปไหนเลย เมษามองอย่างหมั่นไส้ จับคอเสื้อ ดึงตัวพระพายเข้ามาใกล้

“ในเมื่อไม่มีใครบอก ฉันก็จะบอกให้ ฉันแกล้งโกหกคนที่นั่น เพื่อเอาแกมาเป็นเด็กรับใช้
แกต้องทำงานบ้าน งานสวน ต้องดูแลฉัน ฉันไม่ได้คิดจะเอาแกเป็นลูกเข้าใจไหม”

พระพายยิ้มกว้าง พยักหน้า รีบรับคำทันที
“ทำงานบ้าน ดูแลท่าน หนูทำได้ค่ะ หนูทำได้ แต่คุณยังเป็นแม่ของหนูใช่ไหมคะ”

“เอ๊ะ ยายเด็กนี่พูดไม่รู้เรื่องหรือ” เมษาหน้าหงิกขึ้นมาทันที
“หนูทำได้ทุกอย่าง แต่หนูขอเรียกคุณว่าแม่ได้ไหมคะ”
พระพายส่งยิ้มหวานพร้อมสายตาเว้าวอน แตงพูดเตือนสติเมษา

“ทางบ้านเด็กกำพร้าจะส่งคนมาดูค่ะ ว่าทางเราดูแลเด็กดีหรือไม่”
“อะไรนะ นี่ฉันต้องยอมให้เด็กนี่ เรียกว่าแม่งั้นหรือ”

“งั้นหนูจะไม่เรียกต่อหน้าคนอื่น หนูจะเรียกเมื่อมีแค่เราสองคน แล้วก็ตอนที่มีครูมาตรวจ
นะคะ นะคะ ให้หนูเรียกแม่นะคะ นะคะ...”
พระพายอ้อนวอนเมษาอย่างน่ารัก เมษาไม่พอใจ แต่ต้องจำใจยอม

คืนนั้น พระพายอุ่นนมร้อนให้เมษา เด็กน้อยประคับประคองแก้วนมเดินอย่างช้าๆไปหาเมษาที่ห้อง
“นมร้อนของคุณแม่คนสวย”

พระพายเดินมาถึงหน้าห้องเมษา พระพายกวาดตามองหาที่วางแก้วนม แต่แล้วก็ได้ยินเสียงบางอย่างจากในห้อง พระพายนิ่วหน้าสงสัย เงี่ยหูฟัง

ในห้องนั้น เมษายืนอยู่หน้าภาพถ่ายอรชุน รายงานความคืบหน้าเรื่องพระพายให้ฟังอย่างสะใจ
“ลูกของคุณมาอยู่กับฉันแล้วค่ะ ได้ยินไหมคะอรชุน ลูกแท้ๆของคุณโตในบ้านเด็กกำพร้า
และตอนนี้ก็มาเป็นคนใช้ของฉัน ! เป็นคนใช้ของฉันได้ยินไหมคะ อรชุน ! “

“เพล้ง !! “
เสียงแก้วตกแตกดังขึ้น เมษาตกใจรีบเดินไปเปิดประตู
“ใครน่ะ”
เมษาเปิดประตูไปเห็นพระพายอยู่หน้าห้องก็โกรธขึ้นมาทันที
“นังพระพายมาทำอะไรแถวนี้”
“หนูเอานมร้อนมาให้คุณแม่ค่ะ ทีนี้ แก้วมันร้อนเลยตกแตก”

เมษาไม่เชื่อที่พระพายพูด คิดว่าพระพายมาแอบฟังความลับของตน
“โกหก ! แกแอบฟังฉันใช่ไหม แกได้ยินอะไรหรือเปล่า ! “

เมษาเขย่าตัวพระพายอย่างแรง โกรธเกรี้ยว พระพายส่ายหน้าปฏิเสธ
“เปล่าค่ะ พระพายแค่สงสัยว่าคุณแม่คุยกับใคร เลยหยุดดูแต่ไม่ได้ยินอะไรเลยนะคะ “

พระพายตอบตามความจริง เมษาไม่รู้จะเชื่อพระพายดีหรือไม่ ตีและหยิกพระพายด้วยความหงุดหงิดใจ
“แหมมันน่า...นี่แน่ะ นี่แน่ะ นี่”
“โอ๊ยเจ็บค่ะ คุณแม่ขา พระพายเจ็บ”

เด็กน้อยกระโดดไปมา หลบมือของเมษา พร้อมขอร้องอย่างน่าสงสาร
“เจ็บสิดี จะได้หลาบจำ ! ทีหลังอย่าขึ้นมาบนห้องนี้หลังหนึ่งทุ่ม ได้ยินไหม นี่เป็นเวลาส่วนตัวของฉัน แกห้ามขึ้นมาเข้าใจหรือเปล่า ฉันถามว่าเข้าใจไหม! “

หลังจากวันนั้น พระพายก็ไม่กล้าขึ้นไปรบกวนเมษาอีกเลย เด็กน้อยเรียนรู้ที่จะปรนนิบัติเมษา เป็นเด็กรับใช้ที่ดีในบ้าน แต่ก็ยังมิวายถูกเมษาลงไม้ลงมือเมื่อทำอะไรไม่ถูกใจ

แต่ถึงเมษาจะด่าว่า หรือตบตีพระพายอย่างไร ก็มิได้ทำให้ความรักที่พระพายมีแต่เมษาน้อยลงสักนิด สำหรับพระพายแล้ว ผู้ที่รับเธอมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าคือผู้ที่เป็นที่สุดในชีวิตเธอ

----------------------------------------------

เมษาส่งเสียพระพายให้เล่าเรียนจนจบปริญญาตรี ในวันรับปริญญา พระพาย ซึ่งบัดนี้เติบโตเป็นสาวน้อยหน้าตาสะสวย กิริยามารยาทอ่อนหวาน รีบกลับบ้านมากราบเมษาเป็นคนแรก เมษาย้ำกับพระพาย

“เรียนจบแล้ว อย่าคิดนะว่าจะได้ออกไปทำงาน เป็นพยาบาลสวยเก๋อยู่ที่ไหน แกต้องไม่ลืมว่าแกก็ยังเป็นแค่เด็กคนใช้ในบ้านหลังนี้”

“พระพายทราบแล้วค่ะ พระพายจะไม่ไปทำงานที่ไหน จะใช้ความรู้ ดูแลคุณแม่
ทำงานบ้านและอยู่ที่นี่กับคุณแม่ ไม่ไปไหนแน่นอนค่ะ”

พระพายยิ้มกว้างไม่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจสักนิด เมษามองอย่างพอใจที่พระพายอยู่ในโอวาทเสมอมา

เมษามองพระพายคิดในใจ ... ใช่ แกมันเลือกเกิดไม่ได้ แต่ในเมื่อแกเกิดมาเป็นลูกนังแพศยานั่นกับสามีของฉัน แกต้องรับกรรมของแก... ทุกอย่างเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น อีกไม่นานแกจะได้พบกับนังจิตตา แกและนังจิตตาจะต้องพบกับชะตาชีวิตที่แม้แต่ตัวเองยังคาดไม่ถึง !!



Create Date : 24 พฤษภาคม 2550
Last Update : 26 พฤษภาคม 2550 21:45:49 น. 13 comments
Counter : 1187 Pageviews.

 
กำลังสนุก รอตอนต่อไปอยู่นะคะ


โดย: nn IP: 203.154.169.133 วันที่: 25 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:05:32 น.  

 
สนุกมากๆค่ะ


โดย: nana--n IP: 124.121.32.20 วันที่: 26 พฤษภาคม 2550 เวลา:6:58:26 น.  

 
สนุกดีน่ะครับ แต่อยากเห็นอาโปเร็วๆจังครับ ดูสิจะร้ายขนาดไหนเอ่ย


โดย: ต้นรัก IP: 124.120.13.153 วันที่: 26 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:11:36 น.  

 
ขอบคุณทั้งสามท่าน nn nana -- n ต้นรัก
ที่มาปูเสื่ออ่านอยู่แถวนี้
เลยต้องขยันมาอัพบล๊อกเลย
ลงตอน2 ไปแล้นนะคะ

ตอน 2 อาโปยังไม่ร้ายมาก แต่ฉบับละคร คงได้เห็นเยอะกว่านี้


โดย: นันทวรรณ IP: 124.120.62.222 วันที่: 26 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:59:37 น.  

 
ไม่เป็นไรงับพี่นันทวรรณ พี่เขียนบทได้ดีมากเลยครับ เข้าใจง่าย และจินตนาการภาพออกเลยงับ สนุกมากๆงับ
รออ่านตอนต่อๆไปน่ะงับ


ปล. เป็นแฟนคลับ พี่เอ๊ะ อิศริยาหรือคุณหนูอาโปงับ


โดย: ต้นรัก IP: 124.120.5.78 วันที่: 27 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:41:39 น.  

 
ขอไปอ่านก่อนนะคะ
แล้วมิ้นท์จะกลับมาบอกว่าเป็นยังไงบ้าง
ขอบคุณมากนะคะที่เอามาให้อ่านกันค่ะ
เรื่องนี้มิ้นท์อยากดูมาก ๆ เลย อยากรู้ว่าคาแล็กเตอร์พี่นก สินจัยเป็นยังไง
รอชมอยู่ รับลองไม่พลาดแน่นอนค่ะ

(((((()))))


โดย: มิ้นท์ IP: 222.123.171.35 วันที่: 29 พฤษภาคม 2550 เวลา:6:52:28 น.  

 
เห็นทีเซอร์ละครเรื่องนี้...ยิงออกมาแล้ว อยากดูมากๆๆ ไม่ทราบว่าเป็นละครก่อนข่าวหรือหลังข่าวกันแน่คะ ส่งข่าวด้วยนะคะ...จะตั้งตาดูหน้าจอตั้งแต่ต้นจนจบเลยค่ะ


โดย: ชื่นชอบผลงานค่ะ IP: 58.9.77.117 วันที่: 3 มิถุนายน 2550 เวลา:1:45:36 น.  

 
อยากดูละครเรื่องนี้มากเลย


โดย: ก้อย หยก โม IP: 61.19.35.244 วันที่: 7 มิถุนายน 2550 เวลา:15:13:34 น.  

 
วิธีหาเงินง่ายๆ บน Internet ได้เงินจริงๆ น่าสนใจมาก ลองอ่านดูก่อนนะค่ะ
//thaiparttime.com/job.php?jobid=1054337


โดย: Sai IP: 64.136.49.226 วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:23:09 น.  

 
ชอบละครเรื่องนี้มากเลยค่ะ อยากดูหลายๆรอบ

อยากให้ทำเป็น CD ขาย


โดย: นุ่นน่ารักค่ะ IP: 125.26.238.114 วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:10:35:26 น.  

 
ห้ามอ่านข้อความต่อไปนี้นะงับ
วิธีเข้าฝัน
ให้แต่งชุดขาวทั้งตัวรวมทั้งกางเกงในด้วยธูป 1 ดอกมาจุดไว้บนหัวนอน ปากคาบใบพลู 9
ใบแล้วเอามือไว้ข้างหลังโดยที่จับมือประสานกันแล้วท่องชื่อคนท่จะไปเข้าฝันคนนั้น
99% ครั้งรับรองวิธีนี้ได้ผล 99%
เพราะมีคนเคยใช้มาแล้วหลายต่อหลายคนคิดดูแล้วกันถ้าคุณได้พูดคุยกับคนที่คุณเข้าฝันโดยที่คุณมีสติอยู่มันจะสนุกแค่ไหน
( แค่นี้มันก็มันจนมึนแล้ว )
step
1. ทำหลังเที่ยงคืน
2.ทำได้แค่วันสุก
3.เวลาจะกลับให้นึกถึงตัวเองแล้วหลับตา
4.กลับก่อนถึงตอนเช้ามิฉะนั้นจะเป็นอันตรายถึงชีวิต ( ตายนั่นเอง )
5.หากในฝันมีคนชวนไปที่คุณไม่เคยไปห้ามไปเด็ดขาดโดยเฉพาะนะนะนะนรก
6.หากทำเกิน2ครั้งครั้งต่อไปคุณจะอายุหดลง 99วัน
7.จงจำไว้ว่าคิดให้ดีก่อนที่จะทำทั้งหมดที่เขียนมานี้เป็นการนำออกมาจากคัมภีร์เขมรเล่มหนึ่งที่มีอายุสมัยอยุธยาเราโดยมีการแปลออกมาเมื่อไม่นานมานี้
( ของดีมักจะมีผลเสียเสมอ )
ป.ล. ถ้าอ่านแล้วไม่ส่งต่อจะมีอันเป็นไปภายใน 3-7 วัน


โดย: ...ไม่อยากโดนเกลียด... IP: 125.27.130.194 วันที่: 17 สิงหาคม 2550 เวลา:12:51:09 น.  

 
ชอบมากค่ะ ไม่ติดละครมานานแล้ว มาติดเอาเรื่องนี้เองค่ะ


โดย: เป็นต้น IP: 58.181.150.9 วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:10:49:09 น.  

 
ชอบเรื่องนี้มากๆเลยค่ะติดตามตอนต่อไปอยู่นะคะ


โดย: ศิริจรรยา ศรีอุดร (ปุ้ย) IP: 61.19.66.159 วันที่: 27 สิงหาคม 2551 เวลา:12:11:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แม่มดมีฤทธิ์
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์ (บ๊วย)
นักเขียนบทละครโทรทัศน์

เจ้าของบทประพันธ์...>>>>>
ทาสรัก สวรรค์สร้าง
เพลงรักข้ามภพ
สู่แสงตะวัน อธิษฐานรัก
ดั่งดวงตะวัน เพียงผืนฟ้า
กลิ่นแก้วกลางใจ เปลวไฟในฝัน

ผลงานเขียนบท...>>>>>
บ่วง ทวิภพ สาปภูษา
ดั่งดวงตะวัน กลิ่นแก้วกลางใจ
เปลวไฟในฝัน หัวใจช็อคโกแล็ต
คลื่นรักสีคราม เล่ห์รตี

ผลงานกับละลิตา ฉันทศาสตร์โกศล ...>>>>>
ทางผ่านกามเทพ สามีตีตรา สายรุ้ง
ยอดชีวัน สามี บังเกิดเกล้า
หนึ่งในดวงใจคือเธอ สี่ไม้คาน
เลื่อมสลับลาย พรหมไม่ได้ลิขิต
ก้านกฤษณา ปลาหนีน้ำ ฯลฯ

ผลงานกับ ช่างปั้นเรื่อง...>>>>>
รักในม่านเมฆ เพียงผืนฟ้า ปิ่นมุก พลิกดินสู่ดาว อุ่นไอรัก
เบญจาคีตาความรัก รุ่งทิพย์ ต่างฟ้าตะวันเดียว
ปิ่นไพร ฯลฯ




Friends' blogs
[Add แม่มดมีฤทธิ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.