Group Blog
 
All blogs
 
กลิ่นแก้วกลางใจ ตอนที่ 7


ก ลิ่ น แ ก้ ว ก ล า ง ใ จ


บทประพันธ์ นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์
กมลชนก ยวดยง เรียบเรียงจากบทโทรทัศน์



ตอนที่ 7


อัสนีนั่งทานของว่างอย่างสบายอารมณ์อยู่ที่ระเบียงบ้านกลิ่นแก้วด้านที่เปิดโล่งไปยังทะเล มิใช่เพราะหาดทรายสีขาว หรือน้ำทะเลสีครามตรงหน้า แต่เป็นเพราะความสะใจที่ได้แกล้งใครบางคน

“คุณหนูทายาทมรดกพันล้าน ป่านนี้คงร้องไห้ขี้มูกโป่งเพราะทำงานบ้านไม่เป็น “

เขาคิดภาพผู้หญิงเหยาะแหยะกำลังร้องไห้ เกามือไม้ที่เปื้อนน้ำยาล้างจานอย่างคันคะเยอเพราะมืออันบอบบางเกิดความระคายเคือง....อัสนีหัวเราะชอบใจ

“อย่าว่าแต่ล้างจานเลย น้ำยาล้างจานเกิดมาจะเคยเห็นหรือเปล่าก็ไม่รู้”

อัสนีเห็นจะคิดผิดก็คราวนี้ พระพายล้างจานอย่างคล่องแคล่ว ชำนาญ ก่อนจะทำการเช็ดกระจก ดูดฝุ่น ถูบ้าน ปัดกวาดเช็ดถูเฟอร์นิเจอร์ต่างๆในบ้านกลิ่นแก้วได้อย่างเงาวับไร้ที่ติ แต้มและถวิลมองกันอย่างสุดอึ้ง

“ไม่มีฝุ่นสักเม็ด ทำได้ไงวะ”
“มืออาชีพมากๆเลยอ่ะพี่แต้ม”

อัสนีนอนจิบเครื่องดื่มเย็นเคล้าเสียงคลื่นอย่างมีความสุข นี่เป็นแก้วที่3 ของวันแล้ว ยัยไฮโซตัวดียังทำงานไม่เสร็จ เขาคิดว่าบางทียายนั่นอาจจะเป็นลมตายไปแล้วก็ได้

เสียงฝีเท้าคนเดินเข้ามา อัสนีถามอย่างอารมณ์ดี
“เป็นไงบ้างวะไอ้แต้ม ยัยนั่นเป็นลมตายไปรึยัง? หรือว่าวิ่งแจ้นกลับบ้านไปแล้ว....
ฮะฮะฮ่า”

แต้มที่มากับพระพาย ถวิล อึกอักเล็กน้อย
“เอ้อ คือ...”
อัสนีหงุดหงิดที่แต้มตอบช้าเสียจริง “มีอะไร”

แต้มอ้าปากจะตอบ แต่แล้วพระพายก็เข้ามาแย่งขนมจากมือของอัสนีไปกินอย่างสบายอารมณ์ อัสนีงง
“เฮ้ยใครเอาไปวะ”

“ฉันทำงานทั้งหมดเสร็จแล้ว ! “
เสียงพระพายดังขึ้น อัสนีขมวดคิ้ว งุนงง ไม่อยากจะเชื่อ

“อะไรนะ งานเสร็จแล้วหรือ”
“จริงๆครับนาย แถมทุกอย่างไม่มีที่ติเลยด้วย” แต้มช่วยยืนยัน

อัสนี ไม่เชื่อ เป็นไปได้ยังไง ?
พระพายยิ้ม

“เสียใจนะถ้าคิดจะใช้แผนนี้ไล่ฉันออกจากบ้าน ฉันคงไม่หนีกลับกรุงเทพง่ายๆหรอก เฮอะ งานพวกนี้ฉันทำตั้งแต่ก่อนจะหัดเดินอีกมั้ง”

ถวิลงุนงง โพล่งถาม “หา… คนรวยบ้านคุณเขาเลี้ยงลูกกันแบบนี้หรือฮะ”
พระพายสำลักขนม ไอแค่กๆทันที ไม่น่าบอกไปอยางนั้นเลย...พระพายรีบแก้ตัว

“เอ้อ ไม่ใช่ เขาเรียกวิชาการเรือนของกุลสตรีชั้นสูงอะไรทำนองนี้น่ะ”
แต้มกับถวิลพยักหน้าเข้าใจ พระพายเดินหนี กลัวจะถูกถามอีก
“เชอะ…ไปเดินเล่นดีกว่า”

อัสนีหน้าเข้มขึ้นมาทันที เขาหงุดหงิดใจอย่างมากที่แกล้งพระพายไม่สำเร็จ
“ไหนใครเขาว่ายัยอาโปนี่รักสบาย ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง แล้วทำไมเป็นอย่างนี้ไปได้วะ เซ็งโว้ย ! “

อัสนีตะโกนด่าพระพายเรื่อยเปื่อยอย่างคับข้องใจ
“ยายผู้หญิงบ้า ยายผู้หญิงน่าไม่อาย เขาไม่อยากให้อยู่ ยังหน้าด้านจะอยู่ ! ไปเลยนะ
มาทางไหน กลับไปทางนั้นเลย ไป...ออกไปจากเกาะ ออกไปจากบ้านฉัน ไป๊ ! “

เสียงของอัสนีดังมาถึงชายหาดที่พระพายออกมาเดินเล่น พระพายเริ่มเกิดความรู้สึกเหนื่อยล้าในหัวใจ เธอทำงานบ้านอย่างเหน็ดเหนื่อยทั้งวัน ยังจะต้องเจออัสนีที่คอยตามด่ากันอีก

พระพายถอนใจเฮือกใหญ่
“เฮ้อ นี่เราอยู่กับคนบ้าชัดๆ …”

พระพายพยายามหาเหตุผลว่าเธอมีความจำเป็นอะไรที่ต้องมาอยู่ที่นี่ จะช่วยแม่เมษา
ช่วยอาโปไปทำไมในเมื่อคนพวกนี้เห็นเธอเองเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์ แล้วยังเจ้าชายสายฟ้าฟาดคนนี้อีกล่ะ พระพายมองทะเล แววตาเศร้าสร้อย หาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้

แต่แล้วเมื่อเริ่มต้นวันใหม่ พระพายก็กลับมาสดใสอีกครั้ง เธอชักชวนถวิลไปช่วยจัดห้องพักให้อัสนีใหม่เพราะเห็นว่าห้องเดิมนั้นไม่ใช่ห้องที่เหมาะสำหรับคนตาบอด เพราะมีทั้งตั่งตัวเล็กอยู่ใกล้เตียง โซฟาอยู่กลางห้อง พรม และแจกันที่วางหมิ่นเหม่ อัสนีสามารถเดินชนได้ทุกเมื่อ

พระพายพยายามจัดทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง เลื่อนสิ่งของต่างๆไปมุมห้องเพื่อให้อัสนีเดินได้สะดวกมากขึ้น เธอรู้แล้วนี่ว่าเขาเดินได้ แต่ทำไมเขาต้องนั่งรถเข็นด้วยนะ พระพายไม่เข้าใจ

ถวิลมองพระพายที่หยิบนู้นจัดนี่อย่างทึ่ง พระพายดูมืออาชีพมาก
“โห...คุณอาโปรอบคอบจังเลยฮะ รู้ทุกรายละเอียดเลย”

“พยาบาลทุกคนต้องเรียนรู้การดูแลผู้ป่วยทุกประเภทอยู่แล้วจ้ะ” พระพายตอบยิ้มๆ

“อ้าว เป็นพยาบาลเหรอฮะ แล้วก็ไม่บอก”
พระพายชะงักมือไป นี่เธอลืมอีกแล้วเหรอนี่ เธอรีบพูดกลบเกลื่อนทันที

“เอ้อ เปล่า ๆ แค่เคยอ่านผ่านๆน่ะ หนังสือของเพื่อนที่เป็นพยาบาล”
ถวิลไม่ติดใจอะไร

“อ๋อ อย่างนี้เองเหรอฮะ แหม...ศึกษาข้อมูลก่อนมาดูแลคนรักซะด้วย “
พระพายส่ายหน้าดิกปฏิเสธ ผู้ชายขี้หงุดหงิด เจ้าอารมณ์อย่างอัสนีใครจะรักลง

“นายนั่นเป็นคนรักใคร คนๆนั้นคงเหมือนตกนรก”
ถวิลหัวเราะว่าจริง

“ฉันแค่อยากดูแลเขาให้หายดี จะได้กลับบ้านไวๆต่างหากล่ะ”
พระพายจัดห้องให้อัสนีต่อไป แต่เมื่ออัสนีรู้ว่าห้องส่วนตัวถูกรุนรานก็โกรธมาก ให้แต้มพาไปที่ห้องทันที

แต้มมองห้องอัสนีที่พระพายจัดเสร็จเรียบร้อยอย่างชื่นชม
“โอ้โฮ ห้องโล่ง โปร่งขึ้นเยอะ” แต้มก้มลงบอกอัสนี “ผมว่านายต้องชอบแน่ๆ”

พระพายหันไปบอกอัสนีอย่างอารมณ์ดี
“ฉันจัดห้องใหม่ให้ คุณจะได้ใช้ชีวิตประจำวันได้สะดวกขึ้น”

อัสนีนั่งหน้านิ่งไม่บ่งบอกอารมณ์ เขายื่นมือไปข้างเหมือนกับจะขอมือพระพาย พระพายมองอย่างงงๆ แต่ก็ยื่นมือออกไปจับมืออัสนี เจ้าชายสายฟ้าบีบมือพระพายแน่น ก่อนจะออกแรงกระชากเหวี่ยงพระพายไปกองที่พื้นอย่างแรง ถวิลและแต้มร้องอย่างตกใจ

“ตายแล้ว”
“คุณผู้หญิง !! “
“ยุ่งไม่เข้าเรื่อง ฉันไม่ต้องการห้องใหม่ ออกไป !! มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยนะ !! “

อัสนีพูดขึ้นอย่างหงุดหงิด พระพายมองอัสนีอย่างแค้นใจ ถวิลชักสีหน้าไม่พอใจกับคำพูดของอัสนี

“คุณผู้หญิงอุตส่าห์ทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน ทำไมคุณผู้ชายทำกับคุณผู้หญิงอย่างนี้ล่ะฮะ”

แต้มเข้าไปปรามไม่ให้ถวิลพูดมาก และให้พาพระพายออกไป แต่พระพายสะบัดมือจาก
ถวิล หันไปพูดใส่หน้าอัสนีอย่างไม่เกรงกลัว

“คุณป่วยกายไม่พอ...ยังป่วยจิตใจด้วย อย่าคิดนะว่าคนอย่างฉันจะสะทกสท้านกับความกักขฬะของคุณ”

พระพายท้าทายอัสนีมากยิ่งขึ้นด้วยการหยิบไม้เท้าขาวที่จัดเตรียมไว้ยัดใส่มืออัสนี
“นี่ค่ะ เอาไป”

อัสนีคลำของในมืออย่างแปลกใจ
“อะไร...”
“ไม้เท้าขาว… หมอให้มาใช่ไหม ฉันเจอในตู้ คุณทำตัวแบบนี้ไม่ได้ พึ่งรถเข็น พึ่งแต้มตลอดเวลา เป็นการใช้ชีวิตที่ผิด คุณต้องหัดพึ่งตัวเอง “

พูดจบพระพายก็เข้าไปจับแขนอัสนีหวังช่วยพยุงตัวอัสนีให้ลุกขึ้นหัดใช้ไม้เท้า
“เลิกใช้รถเข็นเถอะค่ะ ลองลุกขึ้นดูนะคะ เดี๋ยวฉันสอนคุณใช้”

อารมณ์โกรธของอัสนีถึงจุดเดือดอีกครั้ง นี่หล่อนซ้ำเติมเขาที่มองไม่เห็นงั้นเหรอ อัสนีสะบัดพระพายออก พร้อมเขวี้ยงไม้เท้าขาวใส่

“หนอย ให้ฉันใช้ไม้เท้า คิดว่าฉันเป็นคนพิการเหรอ เธอสมน้ำหน้าฉันใช่ไหม... ไป ! ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้ แล้วอย่ามายุ่งวุ่นวายกับฉันอีก”

“ไม่มีใครเขาคิดแบบนั้นหรอก คุณอยากเป็นภาระคนอื่นไปตลอดชีวิตหรือไง “

พระพายชักหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง ที่ผ่านมา เธอไม่ถือสา โกรธเคืองอัสนีเพราะเข้าใจเสมอว่าอัสนีอยู่ในช่วงปรับตัว และยังไม่ชินกับการมองไม่เห็นจึงหงุดหงิดเป็นธรรมดา แต่อัสนีเอาแต่โวยวายและมองโลกในแง่ร้ายตลอดเวลา พระพายชักจะทนไม่ไหว เธอจะไม่ปล่อยให้เขางี่เง่าอีกต่อไป

“ แต้ม ถวิล พยุงคุณอัสนีลุกขึ้น แล้วเอารถเข็นไปเก็บ “
ทั้งสองพยักหน้ารับ เหมือนจะทำตามอย่างว่าง่าย แต่พอได้ยินเสียงอัสนีก็ชะงัก

“ฉันไม่มีวันลุกจากรถเข็นเด็ดขาด ไอ้แต้ม! พาฉันออกไปเดี๋ยวนี้”
“ให้คุณอัสนีลุกขึ้น ! “ พระพายไม่ยอมแพ้
“ ไม่”
“ลุกเดี๋ยวนี้ เร็วสิ “
“ไม่”

การยื้อรถเข็นเริ่มวุ่นวาย แต้มและถวิลตัดสินใจเชื่อพระพาย ทั้งสองเข้าไปช่วยดึงอัสนีให้ลุกขึ้น แล้วลากรถเข็นหลบออกไปอีกทางได้สำเร็จ อัสนีโกรธจัด ผลักแต้มกระเด็นไปชนกับถวิล ทั้งสองเสียหลักเซลงไปกองที่พื้น พระพายเข้าไปต่อว่าอัสนี !

“นี่ ทุกคนเขาหวังดีกับคุณนะ ทำไมคุณถึงทำแบบนี้”
อัสนีหน้าเครียด เขารู้สึกได้ว่าพระพายอยู่ไหน เอื้อมมือไปจับแขนพระพายหักไปด้านหลังจนพระพายต้องนั่งลงกับพื้นเจ็บปวด

“ หวังดีหรือ สมเพชล่ะสิไม่ว่า ฉันไม่มีวันทิ้งรถเข็น เลิกยุ่งกับชีวิตฉันได้แล้ว!!”
“โอ๊ย....”

ทันทีที่อัสนีปล่อยมือ พระพายลุกขึ้นตรงเข้าไปลากรถเข็นอัสนีออกไปจากห้อง
“คอยดู...วันนี้เป็นไงก็เป็นกัน ตายเป็นตาย !! “

พระพายลากรถเข็นอัสนีวิ่งมาที่ชายทะเล !
อัสนีจะโวยวายดิ้นรนยังไงเธอก็ไม่ยอมแพ้ วันนี้เธอจะทำให้เขารู้จักปรับตัวกับการที่ตนเองกลายเป็นคนมองไม่เห็น ไม่ใช่เอาแต่อาละวาดกับทุกคนรอบข้างอย่างนี้

อัสนีได้ยินเสียงทั้งหมด เขาตะโกนให้แต้มพาเขาตามไปเอารถเข็นคืน
พระพายเข็นรถมาถึงที่ชายหาด พระพายหยุดรถเข็น มองความงามของทิวทัศน์ยามเย็นตรงหน้า แต้มและถวิลพาอัสนีตามมาถึง

รถเข็นของฉัน พาฉันไปที่รถเข็น !
อัสนียึดรถเข็นของตนเองคืน นั่งลงทันที

“ชู้ว์...” เธอบอกให้อัสนีหยุดโวยวาย ตอนนี้พระพายหายโมโหแล้ว
“ เงียบก่อนค่ะ แล้วลองฟังดู คุณได้ยินเสียงอะไรไหม”

อัสนีหยุดอาละวาด หายใจถอบหี่ เขาออกแรงในการอาละวาดไปเยอะเหมือนกัน อัสนีรู้สึกได้ถึงลมเย็นที่มาปะทะหน้าและผิวกาย เสียงคลื่นซัดฟังทำให้สีหน้าของชายหนุ่มผ่อนคลายลง
“คลื่น...”

พระพายยิ้มเมื่อเห็นอัสนีดูเหมือนจะเย็นลง
“ใช่ค่ะ ตอนนี้เรากำลังอยู่ริมทะเล คุณลองสูดหายใจเข้าลึกๆนะคะ “

พระพายพูดจบก็หลับตา สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเป็นตัวอย่าง อัสนีนิ่วหน้าสงสัย
“ทำไมฉันต้องทำตามคำสั่งเธอ”

พระพายมองอัสนีอย่างเข้าใจ เธอไม่เคยมองอัสนีว่าเป็นคนร้ายกาจ แต่กลับคิดว่าเขาเป็นคนที่น่าสงสาร

“คุณลืมเรื่องความแค้นระหว่างเราสักครู่ แล้วฟังฉัน “ เสียงพระพายอ่อนโยน ปลอบประโลม

เธอถอดแว่นตากันแดดของอัสนีออก ค่อยๆเลื่อนมือไปแตะที่เปลือกตาของอัสนีอ่อนโยน อัสนีอึ้งไป อารมณ์โมโหชะงักเพราะสัมผัสอันอบอุ่นของพระพาย

“ดวงตาของคนเราไม่ได้อยู่ที่นี่ “ เธอเลื่อนมือลงไปจับที่อกซ้ายของเขา “แต่อยู่ในนี้ … ในหัวใจ”

อัสนีเอื้อมมือของตนไปจับที่มือของพระพายอย่างเคลิบเคลิ้มไปชั่วขณะ

ถวิลกับแต้มที่ตามมา มองกิริยาอันอ่อนโยนของพระพายแล้วชะงักไปเช่นกัน ผู้หญิงคนนี้ช่างอ่อนโยนเหลือเกิน

พระพายดีใจที่อัสนีเหมือนจะคล้อยตาม เธอมองดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าอย่างสบายใจ

“ที่ที่แผ่นน้ำตัดกับแผ่นฟ้าอยู่ห่างไกลเราเหลือเกิน แผ่นน้ำตรงนั้นเป็นสีส้มระยิบระยับเลยค่ะ มีเรือประมงลำเล็กแล่นอยู่”

อัสนีนิ่งคิด นี่หล่อนบรรยายสิ่งเหล่านี้ให้เขาฟังทำไม หวังให้เขาใช้หัวใจมองงั้นหรือ อัสนีชักแค้นใจ

“ตาไม่เห็น แต่ใจเห็น หึ…ใจฉันไม่เห็นอะไรเลย นอกจากไอ้บอดไร้อนาคตคนหนึ่ง”

พระพายมีความสุขเมื่อมองเด็กๆวิ่งเล่นริมหาดกันอย่างสนุกสนาน
“เด็กๆกำลังเล่นวิ่งไล่จับกันอยู่ที่ชายหาดค่ะ ทรายตรงนั้นขาวสะอาด สวยมากเลย “

“ เด็กเหรอ ทรายสีขาวงั้นหรือ …จะเด็กผู้ใหญ่ …จะสีขาวหรือสีดำ มีประโยชน์อะไร ถ้าตามองไม่เห็น”
อัสนีน้ำตาไหลออกมาด้วยความแค้นใจ นี่หล่อนกำลังซ้ำเติมเขาหรือไง

“ตรงนั้นอีก… ที่หมู่บ้านชาวประมง…”
อัสนีหมดความอดทน ทุบกำปั้นเปรี้ยงลงที่วางแขนอย่างแรง

“โว้ย หยุดพล่ามสักทีได้ไหม ! ฉันมองไม่เห็น! เธอได้ยินไหมว่าฉันมองไม่เห็น จะซ้ำเติมกันไปถึงไหนหา!! “

พระพายสะดุ้งตกใจ นี่เขาเป็นอะไร เธอไม่ได้มีเจตนาอย่างที่เขากล่าวหาสักนิด พระพายพยายามอธิบายให้อัสนีเข้าใจ

“ถึงคุณจะมองไม่เห็น แต่หูคุณก็ยังได้ยิน จมูกคุณก็ได้กลิ่น ขาคุณก็เดินได้ อวัยวะอื่นๆของคุณก็ยังทำงานได้อย่างปกติ คุณทำอะไรได้ตั้งหลายอย่าง เชื่อฉันสิ “

อัสนีฟังแล้วโกรธจัด อารมณ์โกรธปะทุขึ้นมาอีก เขาดึงพระพายเข้ามาใกล้

“แล้วที่ฉันอยู่ในสภาพนี้เพราะใครกัน ถ้าไม่ใช่เธอ เธอฆ่าพ่อฉันตาย เธอทำลายชีวิตฉัน เธอไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยใช่ไหม “ อัสนีเขย่าตัวพระพายอย่างแรง “บอกมาสิ เธอทำลายครอบครัวฉันทำไม ทำไม...”

“โอ๊ย ฉันเจ็บนะคะ คุณปล่อยฉันเถอะ” พระพายนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด แต่อัสนีไม่สนใจ เขาโกรธมาก ออกแรงบีบแขนพระพายหนักเข้าไปอีก

“เจ็บเหรอ แค่นี้เจ็บแล้วเหรอ...คนเลือดเย็นอย่างเธอเจ็บเป็นกับเขาด้วยเหรอ ฮึ...ฉันทนอยู่กับคนใจบาปอย่างเธอไม่ไหวหรอกนะ ในเมื่อเธอฆ่าพ่อฉันตาย ฉันก็ทำให้เธอตายได้เหมือนกัน !! “

อัสนีพูดจบก็เอื้อมมือมาบีบคอพระพายทันที พระพายตกใจ พยายามดิ้นรนแต่ก็ดิ้นไม่หลุด แต้มและถวิลรีบเข้ามาช่วยแกะมืออัสนีทันที แต่ไม่สำเร็จ

“นาย ปล่อยครับ อย่าทำร้ายคุณอาโป”
อัสนีไม่ฟังเสียง “ปล่อย ไอ้แต้ม อย่าห้ามฉัน ฉันจะฆ่าคนที่มันทำชีวิตฉันพัง อยู่ไหน ฉันจะ
ฆ่ามัน... “

พระพายหน้าซีด รู้สึกหายใจติดขัด ตัวเริ่มเกร็ง ภายใต้มือใหญ่ของอัสนี เธอดิ้นพราด เจ็บปวดสุดชีวิต !!
“นาย ปล่อยเถอะฮะ ปล่อย”

แต้มออกแรงเฮือกสุดท้ายดึงแขนอัสนีให้หลุดอกจากพระพาย พระพายทรุดลงไอคอกแค่กคลานไปตามพื้นหนีอัสนีที่ยังโวยไม่เลิก แต้มคอยล๊อคตัวไว้ ถวิลปราดเข้าไปดูแลเธอ

“ คุณผู้หญิง … เป็นไงบ้าง”
พระพายหันมองอัสนีอย่างเกลียดชัง พูดไม่ออก…หายใจไม่ทัน

อัสนียังคงโวยวาย
“โว้ย ไอ้แต้ม ไอ้หวิน ไอ้บ้า ปล่อย ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้..ฉันจะฆ่ายายนั่น ฆ่าให้ตาย”

พระพายหมดความอดทน !

“คุณมันบ้า บ้าไปแล้ว ฉันไปทำอะไรให้คุณถึงจะฆ่าจะแกงกันแบบนี้ คุณมันโลกแคบ ใจแคบ ไม่เคยฟังใคร ถึงฉันจะอดทนอยู่กับคุณเท่าไหร่ ก็ไม่มีประโยชน์ เชิญคุณอยู่ในโลกแคบๆของคุณไปคนเดียวเถอะ”

พระพายโยนทุกอย่างใส่กระเป๋าเสื้อผ้า น้ำตาเอ่อล้นเต็มดวงตา เธอไม่คิดจะทนอีกต่อไป

“คนบ้า...บ้าที่สุด ...แต่คนที่มันบ้ายิ่งกว่า ก็คือตัวฉันเอง ฉันมาอยู่ที่นี่ทำไม ไม่เห็นมีความจำเป็นสักนิด เลิกบ้าได้แล้วนังพระพาย ทั้งคุณแม่ทั้งยายอาโป ทั้งนายอัสนี พอกันที “

พระพายกระชากประตูห้องเปิดออก แต้มที่อยู่หน้าห้องมองอย่างตกใจ
“คุณอาโป จะไปไหนครับ”

พระพายขยับหนี แต่แต้มเข้ามายื้อกระเป๋าไว้
“แต้ม ปล่อยเถอะ”

แต้มเห็นพระพายร้องไห้ก็ตกใจ
“ คุณร้องไห้ …คุณอาโปอย่าไปเลยนะฮะ คุณไปแล้ว นายจะเหลือใคร”

“ก็หวินกับแต้มไง ปล่อยเถอะ ฉันอยากกลับบ้าน”
แต้มคุกเข่าลงอ้อนวอน

“ฟังไอ้คนใช้อย่างแต้มสักครั้งนะครับ ผมโตมากับคุณอัสนี เป็นแค่คนใช้ แต่เชื่อไหมครับ ผมไม่เคยอิจฉาความรวยและชาติตระกูลของคุณอัสนีเลย”

พระพายงงว่าแต้มพูดเรื่องอะไร
“ในขณะที่ผมมีพ่อแม่ คุณอัสนีกลับถูกทิ้งอยู่โรงเรียนประจำตั้งแต่เด็ก ปีๆหนึ่งได้เจอหน้าพ่อแค่ครั้งสองครั้งเท่านั้น เงินทองมากมายและนามสกุลใหญ่โต ไม่เคยช่วยให้คุณอัสนีมีความสุขเลย”

พระพายอยากจะหัวเราะ คนที่เกิดมาเพียบพร้อมอย่างอัสนียังเป็นคนไม่มีความสุขอีกหรือ

“ฮึ ไม่ได้เจอหน้าพ่อแม่งั้นหรือ แต่ก็ยังมีเงิน มีคนดูแล เขายังโชคดีกว่าใครหลายคนรู้ไหม มีบางคนไม่มีข้าวกิน โตในบ้านเด็กกำพร้า เป็นคนใช้ที่เจอแต่ความโหดร้ายชั่วชีวิต เธอคิดว่าใครน่าสงสารกว่ากันหา”

“คุณพูดถึงใคร” แต้มถามอย่างสงสัย

ความเก็บกด เจ็บปวดทั้งปวงที่เธอต้องเผชิญมาตั้งแต่เด็กทำให้พระพายประเดประดังคำพูดออกมา

“ถ้าจะมีใครสักคนไม่รู้จักกับความสุข คนๆนั้นคงเป็นฉัน ปล่อยฉันไปเถอะ ชีวิตฉันเจ็บปวดมามากพอแล้ว ฉันอยากมีอิสรภาพ อยากรู้จักกับความสุขบ้าง ปล่อยฉันไปเถอะนะแต้ม”

แต้มยังไม่ละความพยายาม
“ผมกับหวินไม่มีทางดูแลคุณอัสนีได้ ถ้าทิ้งไว้แบบนี้คุณอัสนีต้องเป็นอัมพาต เป็นบ้า หรือป่วยตาย คุณผู้หญิง ...ผมไหว้ล่ะ อย่าทิ้งคุณอัสนีไปเลยนะครับ”

“ฉันพยายามแล้วแต้ม ฉันพยายามแล้ว ฉันทำเต็มที่แล้วจริงๆ “

พระพายตอบอย่างเด็ดขาด เธอออกจากบ้าน ตรงไปยังหมู่บ้านชาวประมงที่อยู่ใกล้ๆ เวลานี้ บรรยากาศรอบตัวเริ่มมืดมิด มีฟ้าร้องฟ้าผ่าอย่างน่ากลัว ฝนเริ่มตั้งเค้า แต่เธอไม่คิดจะหันหลังกลับไปอีก พระพายจ้างเรือประมงลำหนึ่งให้พาเธอออกจากเกาะนี้ไป


หลายชั่วโมงต่อมา เรือประมงลำเล็กลำหนึ่ง พาพระพายแล่นออกจากฝั่งทั้งที่ฝนตกหนัก ฟ้าคะนอง !!

อัสนีรับรู้การจากไปของอาโปเพราะแต้มมาบอก คนที่เขาเกลียดจากไปตามต้องการ
แต่...เหตุใดเขาถึงรู้สึกเป็นห่วงคนที่ต้องเผชิญกับพายุบ้าคลั่งในเวลานี้ อัสนีไม่เข้าใจ

“นี่เราเป็นอะไรไป….เราต้องดีใจต่างหาก”
อัสนีเข็นรถเข็นไปที่ริมหน้าต่าง ร้องตะโกนอย่างสะใจ

“ดี...ตกลงมาให้หนักๆ ยัยคุณหนูตัวแสบจะได้ตายๆไป ตกลงมาอีก ตกลงมาอีกเยอะๆเลย”
แต่อัสนีรู้ดี เขาไม่ได้รู้สึกอย่างที่พูดสักนิด....




Create Date : 12 มิถุนายน 2550
Last Update : 12 มิถุนายน 2550 11:00:36 น. 9 comments
Counter : 672 Pageviews.

 
สายฟ้านี่ร้ายจริง...
เดี๋ยวเถอะสายลมจะเอาคืนบ้างเถอะ....


โดย: keroobob IP: 136.186.1.187 วันที่: 12 มิถุนายน 2550 เวลา:12:42:24 น.  

 
เรื่องนี้อ่านจัง ..สงสัยต้องย้อนอ่านอีกแล้วล่ะ


โดย: ม่วงคราม (the violetblue home ) วันที่: 12 มิถุนายน 2550 เวลา:18:06:49 น.  

 
เศร้าพูดไม่ออกเลย


โดย: ข้าวปั้น IP: 203.188.41.230 วันที่: 12 มิถุนายน 2550 เวลา:22:17:51 น.  

 
สนุกค่ะ สงสารนางเอกอ่ะ
มิ้นท์ซื้อเรื่องย่อละครมาอ่านแล้วค่ะ
เขียนได้ดีมากจริง ๆ
น่าลุ้น น่าติดตามดี...ชอบค่ะ

ตอนนี้รอชมละครอยู่ค่ะ ต้องสนุกมากแน่ ๆ
แต่ยังไงก็ยังรออ่านที่นี่อยู่นะคะ

ขอบคุณมากค่ะ


โดย: มิ้นท์ IP: 222.123.170.144 วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:20:03:53 น.  

 
อัสนีร้ายจริงๆ เลยคนเขาอุตสาห์หวังดีจะช่วยให้ดีขึ้น ดันไปคิดว่าเขาซำเติมตัวเองเสียนี่ แต่สงสารพระพายมากเหมือนเป็นที่รองรับอารมณ์ของคนอื่น พี่เขียนบรรยายออกมาได้ดีค่ะแล้วจะรออ่านตอนต่อไปนะคะ


โดย: {NQ_QK} วันที่: 15 มิถุนายน 2550 เวลา:1:10:00 น.  

 
ชอบเรื่องนี่มากๆ

สนุกสุดๆอ่านวันเดียว10นาที่จบบท1-95555+love makmak this taleok


โดย: NOname IP: 202.57.176.182 วันที่: 21 มิถุนายน 2550 เวลา:16:44:38 น.  

 
ชอบมากๆ


โดย: no name IP: 202.183.221.194 วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:20:54 น.  

 
อยากอ่านตอน20แล้วค่ะ สนุกจัง


โดย: จูน (เค็กมะพร้าว ) วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:58:07 น.  

 
โหดร้ายจัง รอตอน 21 ใจจะขาดแย้วววว..


โดย: นางฟ้าสาธุ.. IP: 158.108.210.50 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:09:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แม่มดมีฤทธิ์
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์ (บ๊วย)
นักเขียนบทละครโทรทัศน์

เจ้าของบทประพันธ์...>>>>>
ทาสรัก สวรรค์สร้าง
เพลงรักข้ามภพ
สู่แสงตะวัน อธิษฐานรัก
ดั่งดวงตะวัน เพียงผืนฟ้า
กลิ่นแก้วกลางใจ เปลวไฟในฝัน

ผลงานเขียนบท...>>>>>
บ่วง ทวิภพ สาปภูษา
ดั่งดวงตะวัน กลิ่นแก้วกลางใจ
เปลวไฟในฝัน หัวใจช็อคโกแล็ต
คลื่นรักสีคราม เล่ห์รตี

ผลงานกับละลิตา ฉันทศาสตร์โกศล ...>>>>>
ทางผ่านกามเทพ สามีตีตรา สายรุ้ง
ยอดชีวัน สามี บังเกิดเกล้า
หนึ่งในดวงใจคือเธอ สี่ไม้คาน
เลื่อมสลับลาย พรหมไม่ได้ลิขิต
ก้านกฤษณา ปลาหนีน้ำ ฯลฯ

ผลงานกับ ช่างปั้นเรื่อง...>>>>>
รักในม่านเมฆ เพียงผืนฟ้า ปิ่นมุก พลิกดินสู่ดาว อุ่นไอรัก
เบญจาคีตาความรัก รุ่งทิพย์ ต่างฟ้าตะวันเดียว
ปิ่นไพร ฯลฯ




Friends' blogs
[Add แม่มดมีฤทธิ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.