ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนระอุ และไอความร้อนจากพระอาทิตย์ที่ส่องลงมาช่วงบ่าย แม้จะร้อนกายเพียงใด แต่ยายเงียบยังคงตั้งหน้าตั้งตาปั่นจักรยานสามล้อออกจากบ้าน มุ่งหน้าเดินทางไปที่วัดอรัญญิกเป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร หากเป็นวัยรุ่นหนุ่มสาวคงไม่ลำบากอะไรมากนัก แต่สำหรับหญิงชราใจบุญคนนี้ถึงแม้จะเหน็ดเหนื่อยเพียงใดก็ไม่เคยย่อท้อที่จะนำอาหารไปให้หมาวัดที่ตัวเองรักได้กินกันอิ่มท้องทุกตัว
ทันใดนั้นเอง เมื่อปรากฏภาพ "ยายเงียบ" ปั่นจักรยานสามล้อเข้ามาพ้นซุ้มประตูวัด เหมือนว่าหมาวัดทุกตัวกำลังเฝ้ารอคอยอยู่แล้วต่างวิ่งกรูกันเข้าไปหา "เสนอหน้าต้อนรับ" ทันที เมื่อยายเงียบเห็นก็ยิ้มตอบด้วยสีหน้าท่าทางดีอกดีใจ ก่อนจะค่อยๆ พยุงตัวเองลงมาจากรถนำอาหารที่เตรียมมาใส่ภาชนะวางไว้เป็นจุด ๆ รอบวัดฯโดยมีเพื่อนยากสี่ขาวิ่งรับ-วิ่งส่งกันเป็นระยะ ๆ เนื่องจากบางฝูงไม่ถูกกัน หรือมีอาณาเขตดูแลต่างกัน ไม่ข้ามเขตมาแย่งอาหารกันกิน เมื่อนับจำนวนแล้วทั้งหมาใหญ่ และลูกหมาน่าจะมีจำนวนถึง 100 ตัว ซึ่งเจ้าหมาวัดเหล่านี้ก็ไม่เคยกัดยายเงียบเลยสักครั้ง เป็นภาพประทับใจสำหรับผู้ที่พบเห็น คุณยายท่านนี้ถึงแม้อายุมาก สมควรที่จะพักผ่อนอยู่กับบ้าน แต่ยังมีจิตใจโอบอ้อมอารี คิดทำบุญทำทานกับสรรพสัตว์ร่วมโลก จนชาวบ้านต่างขนานนามว่า "ยายเงียบหญิงชรา นางฟ้าของหมาวัด"
"ยายเงียบ" เล่าให้ฟังอีกว่า ตนทำเช่นนี้มาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ทำแล้วสบายใจได้บุญ รู้สึกว่าเรานำอาหารมาเลี้ยงเขาแล้วเราก็ได้อานิสงส์จากการทำดีคือ ไม่เจ็บ-ไม่ป่วย รู้สึกสงสารหมาจรจัด หรือหมาวัด ที่มีคนนำมาปล่อยทิ้งไว้ที่วัดแห่งนี้ เพราะเป็นภาระของพระ-เณร ยายจึงอยากช่วยแบ่งเบาบ้าง มิหนำซ้ำยังได้บุญติดตัวไปจนตาย ทุกวันนี้นอกจากตัวยายเองแล้ว ก็ยังมีผู้ใจบุญ และรักสัตว์อีกหลายคนที่เดินทางมาร่วมกันกับยายที่วัด ทั้งช่วยคลุกข้าว คลุกอาหาร หรือเก็บกวาดเศษอาหารที่หมาวัดกินไม่หมด บางคนเห็นหมาวัดแล้วก็รู้สึกสงสาร จึงนำเงินเล็ก ๆ น้อยๆ มอบให้ยายเพื่อทำบุญให้ยายไว้ไปซื้ออาหารให้หมาวัดได้กินอิ่มทุกวัน