กามสูตรกับโลกตะวันออก 18+
การพูดถึงเพศศึกษาหรือการร่วมเพศในยุคหนึ่งถือว่าเป็นเรืืองจำเป็นที่ผู้หญิงผู้ชายควรรู้ ผู้คนต้องสามารถควบคุมพฤติกรรมให้พอดี สามารถปรับแต่งเพื่อความเหมาะสมกับรสนิยมและกับกาลสมัย โลกตะวันตกหรือพวกคริสเตียนผิวขาว ในช่วงศตวรรษที่สิบเก้า จะเก็บงำเรื่องเพศว่าเป็นเรื่องอุบาทว์ ผิดกับโลกตะวันออก จะกล่าวถึงเรื่องเพศและความสำคัญอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการอ้อมค้อม ทั้งในบางลัทธิศาสนาและวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมจีน-อินเดีย-ญี่ปุ่น เป้าหมายการมีเพศสัมพันธ์ของจีนในยุคโบราณ ที่มีเชื่อมโยงกับคติความเชื่อ คือการมีบุตรสืบต่อเผ่าพันธุ์ การรักษาสุขภาพโดยการส่งเสริมพลังชีวิต(ชี่)เพื่อการมีอายุยืนยาว เป็นต้น กามาสูตรในยุคสมัยต่างๆซึ่งมีการแจกแจงฉบับ-บท-ตอนของตำราหลายเล่มอย่างละเอียด ไม่ว่าตำราศิลปะในห้องหอยุคซีฮั่นที่เขียนบนกระดาษและผ้าแพรผืนยาวม้วนเก็บไว้,ตำราเพศศึกษาหรือคัมภีร์สังวาสจากลัทธิเต๋าที่ถูกจัดอยู่ในหมวดตำราการแพทย์ระหว่างช่วงยุคราชวงศ์ถัง, กามสูตรพุทธนิกายลามะแห่งยุคราชวงศ์หยวน(มองโกล) เป็นต้น เรื่องราวในหอคณิกาอันโด่งดัง ตำนานชีวิตรักของเหล่านางโลมหลากรสในยุคสมัยต่างๆ การห่อเท้า ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับเรื่องเพศด้วย กล่าวคือผู้หญิงจีนถือว่าเท้าเป็นเสน่ห์และสัญลักษณ์ทางเพศ และยังมีค่านิยมในการเสริมเสน่ห์ความงามด้วยการห่อเท้าเช่นเดียวกับการเสริมหน้าอกในผู้หญิงในปัจจุบัน รักร่วมเพศ ที่ปรากฏตั้งแต่ราชวงศ์ตงโจว และแพร่ระบาดในราชวงศ์ฮั่น , กามวิตถาร, ขันที ที่ฉายภาพจำเพาะในขนบประเพณีจีน ที่ดำเนินควบคู่กับความฟอนแฟะในราชสำนักและเรื่องเพศอัน พิลึกพิลั่น ค่านิยมด้านความงาม อาทิเช่น ยุคราชวงศ์ถังที่นิยมผู้หญิงรูปร่างอวบท้วม ใบหน้ากลมอวบอิ่ม อกใหญ่ ขณะที่ราชวงศ์ชิงถือว่าหญิงหน้าเรียว ที่แบบบางอ้อนแอ้น เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุด แม้แต่รูปลักษณะของอวัยวะสืบพันธุ์ ชาย-หญิง คัมภีร์ตะวันออก ก็ยังมีการจัดแบ่งประเภทอย่างเปิดเผย (ผู้ชายเป็นคนจัดทั้งนั้นแหละค่ะ) มีตำราของพวกอาหรับตะวันออกกลาง แบ่งประเภทอวัยวะสืบพันธุ์หญิง (โยนี) ได้ถึง 38 ประเภท อวัยวะสืบพันธุ์ชาย (ลึงค์) ถึง 35 ประเภท ซึ่งการจัดระเบียบอวัยวะเพศของโลกตะวันออก แสดงถึงการให้ความสำคัญอวัยวะสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นของเพศชายหรือหญิง การบรรยายชี้ให้เห็นถึงการแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาในเรื่องเพศและกามกิจ มากกว่าที่จะเป็นเรื่องปิดๆบังๆ ในศาสนาพราหมณ์ ซึ่งเป็นศาสนาเก่าแก่ที่สุด ซึ่งบูชาศิวลึงค์/โยนี ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากอดีต ซ้ำยังมีอิทธิพลไปสู่ดินแดนอื่นๆ เช่นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ในรูปธรรมจะบูชารูปลักษณ์ที่เป็นอวัยวะสืบพันธุ์ชายหญิงชัดเจน แต่นั่นมิใช่การยกย่องอวัยวะเพศ แต่เป็นการยอมรับในนามธรรม ที่เป็นความหมายของ ความเป็นอมตะ อวัยวะเพศและกามกิจ มีบทบาทในการนี้สองส่วนคือ ประการหนึ่ง การสืบพันธุ์ ให้มีลูกหลาน ประการที่สอง มีไว้เพื่อติดต่อกับเทพเจ้า เพราะในช่วงเวลาของการปีติสังวาสถึงจุดสุดยอด ถือว่าเป็นช่วงที่มนุษย์ติดต่อกับพระเจ้าได้ "เหมือนได้ขึ้นสวรรค์" จึงเป็นวลีหนึ่งในความหมายที่ มนุษย์ไปถึงจุดเสียวสุดในกามกิจ ปิติสังวาสจึงมีลักษณะของความเป็นเทวะความสุขทางเพศสร้างและเปิดเผยให้มนุษย์เห็นถึงความจริงแห่งเทวะแก่มวลมนุษย์นี่เป็นการทำให้มนุษย์เข้าถึงสภาวะแห่งจิตวิญญาณ อ่านแล้ว get ไหมคะ? อย่างน้อยที่สุด ก็คงทำให้คนที่ฝังใจว่า เรื่องเพศเป็นเรื่องอุบาทว์สกปรก จะได้มีมุมมองใหม่นะคะ ยังมีข้อมูลจากบทความนี้ มาเล่าอีกแบบเบาๆ จั๊กเดียมนิดๆ ค่ะ สำนักทาชิงาวะ เป็นสำนักตันตระ ก่อตั้งในญี่ปุ่นเมื่อเกือบเก้าร้อยปีก่อน ได้แบ่งอวัยวะเพศหญิงไว้ 5ประเภทดังนี้ 1. ดาอิ-คก-คุ (Daikoku) โยนีสีดำเหมือนสีผิวดิน ใหญ่พอที่จะโอบล้อมลึงค์เอาไว้หมดจรด 2. มิซซู-เทบโป๊ะ (Mizu- tembo) โยนี้ที่ชุ่มชื่น ทางเข้าตีบแคม แต่ภายในมโหฬาร 3. คะ- เทมโบ๊ะ (Ka- tembo) โยนีมีขนดก ร้อนแรง มีรสชาติหวาน เป็นโยนีที่ต้องการเท่าไหร่ ไม่รู้จักพอ 4. ฟุ-เทมโบ๊ะ(Fu- tembo) โยนีอ่อนนุ่ม เบาเหมือนลม มีอีกชื่อว่า "มังกรบิน" เพราะทางเข้าเนียนนุ่มประหนึ่งไหม เมื่อเข้าไปแล้วก็เปรียบประดุจดั้งราวกับได้บินเข้าสู่สรวงสวรรค์ 5. บิน-เทมโบ๊ะ (Bon- tembo) โยนีระดับสุดยอด ดั่งดวงดาวมาจากท้องฟ้า สวยที่สุด มีกลิ่นหอม มีอีกชื่อว่า "มุกมังกร" มีทางเข้าที่ตีบแน่นตึ๊บ ใครที่มีโอกาสที่จะเข้าไป ต้องส่งเสียงอุทานด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ เป็นไงคะ จิ๋มสูตรของญี่ปุ่นที่เขียนไว้เกือบพันปี แต่ถ้าเป็นแบบ "ก็พูดกันไป" แบบไร้สาระประสาขี้เมาคุยกัน เขาบอกว่า จิ๋มญี่ปุ่นเป็น จิ๋มคว่ำ คือจะถดไปอยู่ด้านหลังมากกว่าข้างหน้า เพราะตอนเด็กๆ คนญี่ปุ่นจะใช้ผ้าอ้อมผูกแล้วดึงเหน็บไปข้างหลังให้กับเด็กเล็ก ไม่ว่าเด็กหญิงหรือชาย จิ๋มเด็กก็เลยถูกรั้งดึงไปข้างหลัง จะสอยกามสาวญี่ปุ่น ให้เข้าเป้าร้องดังๆ จึงเป็นท่าเธอคุกเข่าโย้บั้นท้ายให้ค่ะ ไอ้ที่ว่ากันแปลกไปกว่านั้นก็คือ พวกฝรั่งเชื่อว่า จิ๋มญี่ปุ่นเป็นจิ๋มขวางด้วยค่ะ ไม่รู้คิดได้ไง? * หมายเหตุ : ภาพประกอบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบทความใส่เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้บทความเท่านั้น ภาพประกอบจาก : อินเตอร์เน็ต
Create Date : 26 มกราคม 2558 |
Last Update : 26 มกราคม 2558 22:41:24 น. |
|
0 comments
|
Counter : 4549 Pageviews. |
|
|
|