ไปเที่ยวกันดีกว่าค่ะ .. ^^
Group Blog
 
All Blogs
 

คู่หูแม่ลูกตะลุยลังกาวี-หาดใหญ่ หยุดยาว พ.ค. 2559 [เที่ยวเองง่าย สบายจัง]



ครบรอบวันเกิดลูกชายในปีนี้ คู่หูแม่ลูกพากันไปเที่ยวไกลถึงลังกาวี 

โดยเริ่มใช้เส้นทางบินของแอร์เอเชีย ดอนเมือง - หาดใหญ่ ไปกลับ 
ซึ่งเราพบว่า การเดินทางไปลังกาวีและท่องเที่ยวด้วยตัวเองนั้น 
ง่ายและสะดวกสบายกว่าที่คิดไว้เยอะ ตามเราไปเลยค่ะ

วันแรก

เดินทางไฟลท์เช้าจากสนามบินดอนเมืองไปสนามบินหาดใหญ่
 เวลา 8.00 – 9.25 น.  
จากสนามบินหาดใหญ่นั่งสองแถวไปคิวรถตู้ตลาดเกษตร
(สถานีขนส่งรถตู้โดยสารตลาดเกษตรหาดใหญ่คนละ 30 บาท






นั่งรถตู้จากตลาดเกษตรไปท่าเรือตำมะลัง จ.สตูล คนละ 110 บาท 
ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง รถมีเรื่อย ๆ เช้าจรดเย็น





ท่าเรือตำมะลัง จ.สตูล






ซื้อตั๋วเรือไปลังกาวีคนละ 300 บาท ต้องใช้พาสปอร์ตด้วย

เรือเฟอร์รี่(จากท่าเรือตำมะลัง) ไป JetiKuah (Jetty Point),

ลังกาวี (คนละ300 บาท ไปกลับ 600 บาท) 

ต้องใช้พาสปอร์ต มีวันละ 3 รอบ คือ 9.30, 13.30 , 16.00 น. 

ตามเวลาไทยใช้เวลา 1.15 ชั่วโมง 






เรือเฟอรี่ไปลังกาวี





ในเรือเฟอรี่ไปลังกาวี





นั่งไปเพลินๆ ประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงเกาะลังกาวี






ท่าเรือที่เกาะลังกาวี






พอไปถึงลังกาวีแล้วก็สบายค่ะ 
ใครที่ขับมอเตอร์ไซค์เป็นก็เช่ามอเตอร์ไซค์ขับ หรือเช่ารถยนต์ก็ได้ 
ราคาพอๆ กับประเทศไทย เราใช้แอพกูเกิ้ลแมพนำทาง ช่วยได้เยอะ
  แต่ถ้าหากไม่อยากขับเอง อาจใช้วิธีซื้อแพคเกจทัวร์วันเดียว 
ตามเส้นทางต่างๆ ซึ่งมีบริการรับส่งจากโรงแรมอยู่แล้ว 
และนั่งแท็กซี่จากท่าเรือไปโรงแรมก็ได้  
มีเคาน์เตอร์บริการแท็กซี่อยู่ด้านนอกอาคาร 
ซึ่งมีป้ายราคามาตรฐานแสดงอยู่

ส่วนเราคู่หูแม่ลูกเดินจากอาคารท่าเรือ 
ออกไปเช่ารถมอเตอร์ไซค์และซื้อทัวร์ดำน้ำ ลังกาวี  
ซึ่งมี one day tour ให้เลือกหลายรายการ  อยู่อีกอาคารหนึ่งถัดไป 
ต้องเดินผ่านร้านเคเอฟซีมาก่อนถึงจะเจอบูธต่าง ๆ ตามภาพ






ได้รถแล้ว ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์วันละ 30 ริงกิต มัดจำ 50 ริงกิต 
รถใหม่ เกียร์อัตโนมัติ บางเจ้าอาจบอกผ่าน 
ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับการต่อรองด้วยค่ะ






ยามเย็นที่ท่าเรือ





ที่พักของเรา Desa Terrace เป็นโรงแรมราคาประหยัดที่พักสบาย 
คุ้มราคา ไม่ไกลหาดมากนัก ราคาเพียงหลักร้อยเองค่ะ 
ที่ล้อบบี้มีน้ำร้อนน้ำเย็นให้กด มีไวไฟฟรี มีมาม่า น้ำดื่ม 
และของกินเล่นขายในราคาไม่แพง




















บทรำพึงในเฟสบุ๊ค

เกาลัดบอกว่าคิดถึงผ้าห่มที่บ้าน ♡♡♡


อยากเล่าถึงโปรลองของนี้มาก Hot Rate ของ Hotwire 

มีเพื่อนใจดีเสกโปรบอกทางเฟสบุ๊ค ทีแรกไม่กล้าจอง 

แต่เห็นเพื่อนจองกันคึกคักหลายรอบ และพักกันหลายครั้ง 

เลยลองผ่านแอพตามเพื่อนๆ บ้าง ปรากฏว่า ปราบเซียน เงิบเลยค่ะ 

เพราะตอนจองไม่รู้ว่าจะได้โรงแรมชื่ออะไร ทำเลดีหรือเปล่า

ไม่รู้ว่าใกล้เมือง ใกล้หาดขนาดไหน


ครั้งแรกจองโปรนี้ที่ยะโฮร์ จ่ายเพิ่มคืนละ 7 usd กว่าๆ 

ได้ทำเลไกลเมืองเดินทางไม่สะดวก ไม่คุ้มค่าแท็กซี่ 

ส่งอีเมลไปขอยกเลิกแบบไม่ต้องคืนเงินมาให้ก็ได้ 

เพราะไม่อยากทิ้งห้องไปเฉยๆ เว็บก็ไม่ยอม 

เลยต้องทิ้งห้องไปพักโรงแรมอื่นที่ไปมาสะดวก


ส่วนครั้งนี้ จองในช่วงใกล้ๆ แต่พักต่างเมืองกัน 

เวลาห่างกันเกือบเดือน ได้โรงแรมเล็กๆ ในเกาะลังกาวี เมืองชายทะเล 

แต่ไกลหาดต่าง 3.6 กม. ยกเลิกไม่ได้ด้วย 

จ่ายไปจิ๊บๆ คืนละไม่ถึงร้อยบาท (2.xx usd) สามคืน 

เสียดายโปรไม่อยากทิ้งห้องก็พักไป เพราะใช้ห้องก็แค่อาบน้ำนอน 

สรุปก็โอเคอยู่นะ สะอาด พักได้สบายๆ


พรุ่งนี้ก็ไปดำน้ำออกแต่เช้า ไปทั้งวันกลับมาก็เย็นย่ำ 

เพื่อให้ได้บรรยากาศเที่ยวชายทะเล 

ก็ได้จองรีสอร์ทเล็กๆ ริมหาดไว้เพิ่ม 1 คืน 

ด้วยส่วนลดที่เพื่อนยอมสละบริจาคมาให้ในราคาที่ถ้ารู้

คงบอกราคานี้พักฟรีเหอะ ได้ที่พักถูกเอามาถัวเฉลี่ยกับค่ากิน ค่าเที่ยวอื่นๆ


วันนี้เดินทางทั้งวัน กว่าจะมาถึงก็เย็น ยังไม่ทันได้เที่ยวไหน 

แถมยังต้องใช้ทักษะเจรจาต่อรองขั้นพื้นฐาน

ในการเช่ารถขับและซื้อทัวร์ดำน้ำด้วย


สวัสดี "เกาะลังกาวี" เมืองสงบและน่าอยู่กว่าที่คิดไว้ 

แต่อาหารการกินไม่อุดมสมบูรณ์เหมือนที่ปีนัง


วันที่สอง


เวลา 7.55 น. เป๊ะ รถบัสมารับไปทัวร์ตรงเวลา
เราซื้อทัวร์ดำน้ำที่ Pulau Payar Marine Park คนละ 140 ริงกิต 
รวมอาหารกลางวัน แต่มีคนบอกว่าสามารถซื้อได้คนละ 120 ริงกิต 
ต้องเดินหาและต่อรองเอาเอง  
ทัวร์นี้เราซื้อแพคเกจไว้ตั้งแต่เมื่อวานที่ท่าเรือ  
และที่ชายหาดใกล้ๆ โรงแรมก็มีทัวร์ขายอยู่นะคะ 
ไปซื้อแถวนั้นก็ได้ค่ะ

ตอนรถมาเพิ่งกดน้ำร้อนใส่ถ้วยมาม่าคัพ เลยถือขึ้นมาด้วย  
กว่าจะวนไปรับคนอื่นก็กินหมดพอดี  วนไปวนมา 
กว่าจะรับคนเต็มรถก็หมดเวลาเป็นชั่วโมง






กลับไปที่ท่าเรือที่เดิมกับเมื่อวาน  เพื่อลงเรือเฟอรี่ที่จะพาไปดำน้ำ





นั่งหลับไปสักพัก พอตื่นก็ถึงเกาะพอดี


Pulau Payar Marine Park



































เกาะนี้สวยดีค่ะ น้ำทะเลสวยใส  
แต่ก็ไม่ได้ดำน้ำอะไรจริงๆ จัง ๆ ประมาณเล่นน้ำแค่แถว ๆ ชายหาด
  ส่วนการให้บริการนี่สู้ผู้ประกอบการของไทยไม่ได้เลยค่ะ 
ถ้ามาเล่นๆ แบบไม่ได้คาดหวังอะไรก็พอได้  

กลับไปถึงก็ขอถ่ายกับป้ายโรงแรมเสียหน่อย Dera Terrace Hotel  
เราจองพักที่นี่สามคืนเลยค่ะ ทำเลใกล้หาด Pantai Cenang   
และ Under Water World





วันนี้พิเศษ เป็นวันเกิดลูกชาย พอดีมีโปร ฯ ส่วนลดโรงแรมมา 
ก็จ่ายไปราคาจิ๊บๆ คืนนี้เลยจองโรงแรมไว้อีกที่ ๆ ชายหาด
ใกล้ Desa Terrace รวมอาหารเช้า 1 คืน





โรงแรมนี้ชื่อ Sandy Beach Resort
แต่ว่าห้องที่เราจองเป็นแบบถูกสุด 
จึงปรากฏว่าอยู่คนละฝั่งถนนกับหาด แต่ก็ใกล้ๆ กัน  
ส่วนฝั่งติดหาดจะเป็นล็อบบี้  ร้านอาหาร ที่ห้องพักแบบบังกะโล  
แต่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก และจ่ายไปไม่มาก  
จึงไม่ได้ผิดหวังเท่าไหร่ คิดว่า แค่อาศัยเล่นน้ำชายหาด 
อาบน้ำแต่งตัวหลังเล่นน้ำทะเล และกินอาหารเช้าก็คุ้มแล้ว















ด้วยความที่ห้องค่อนข้างเก่า และดูจากผ้าห่มที่ใช้ 
ถ้านอนที่นี่ภูมิแพ้คงกำเริบแน่  เล่นน้ำ กินข้าวเสร็จ
ก็จะกลับไปนอนที่เดิมนั่นแหละ 
มีเตียงผ้าห่มหมอนนุ่ม ๆ นอนสบายกว่ากันเยอะ  

ชายหาดชื่อ Pantai Cenang  




เล่นน้ำจนมืด แล้วกินอาหารเย็นที่ชายหาดโรงแรม Sandy  Beach






แล้วกลับไปนอนพักที่ Desa Terrace ตามเดิม

บทรำพึงในเฟสบุ๊ค

เย็นย่ำไปเช็คอินโรงแรมอีกแห่งที่ชายหาด 
เพื่อเก็บบรรยากาศ Pantai Cenang พากันเล่นน้ำจนฟ้ามืด 
ดูตะวันลับเหลี่ยมเขาไปพร้อมกัน และดินเนอร์ริมหาดทั้งชุดเปียกๆ 
แต่ดูสภาพห้องแล้วคงไม่น่าจะนอนไหว 
หลังอาบน้ำเปลี่ยนเสิ้อผ้าเสร็จจึงพร้อมใจหอบผ้าเผ่นกลับมานอนโรงแรมเดิม 
เช้าค่อยกลับไปกินอาหารเช้าริมหาดฟรีตามสิทธิ์

#ชีวิตติดโปร (คืนนี้พี่มีห้องพัก 2 แห่งเพราะหวังจะนอนชายหาด)

วันที่สาม

วันนี้ทุกคนอ่อนเพลียจากการตากแดดและเล่นน้ำเมื่อวาน 
พากันตื่นสาย  แม่ตื่นมาก่อน เห็นลูกหลับสบาย 
จึงขี่มอเตอร์ไซค์ไปกินบุฟเฟต์อาหารเช้าที่ Sanddy Beach คนเดียว
 กลับมาลูกยังหลับอยู่ ก็เลยนอนต่อไปกับลูก 
แล้วตื่นอีกทีก็บ่ายโมงกว่า  พากันอาบน้ำแต่งตัวออกเที่ยว

แวะ Under Waterworld แต่ไม่เข้าชม  
เพราะเดือนที่แล้วไป SEA Aquarium ที่สิงคโปร์มา ยังอิ่มอยู่




จุดหมายวันนี้คือ Cable Car  แวะเติมน้ำมันที่ปั๊ม Petronas





บทรำพึงในเฟสบุ๊ค

เมื่อวานท่าทางจะใช้แรงหมด วันนี้จึงพากันนอนนาน
กว่าจะตื่นและกว่าจะออกเที่ยวได้ก็เกือบบ่ายสาม 
ระหว่างทางลูกชายก็ต้องเรียนรู้ที่จะเติมน้ำมันรถเอง




ขับไปสักพัก  Google Map ก็บอกทางไปจนถึงจุดหมาย 
นั่นคือ Oriental Village ซึ่งเป็นที่ตั้งของเคเบิ้ลคาร์ (SkyCab)
และอะไรต่าง ๆ ที่เราจะมาชม











อันนี้เป็น Duck Tour




ขับต่อไปที่ Black Sand Beach









Eagle Square









แล้วขับไปเที่ยวห้างแถวหาด Pantai Cenang  ใกล้โรงแรม 
ซื้อของร้านดิวตี้ฟรีก่อนกลับไปอาบน้ำพักผ่อน



วันที่สี่


วันนี้ตื่นแต่เช้า รีบเช็คเอาท์ ขับรถไปท่าเรือ 
แล้วรอซื้อตั๋วเรือกลับไทย และคืนรถเช่า


บทรำพึงในเฟสบุ๊ค

พี่นี้มารอคืนรถมอเตอร์ไซค์และรอซื้อตั๋วเรือกลับสตูลแต่เช้า 

ยังไม่เปิดร้านกันเลย
การเดินทางสอนให้เราวางแผน รับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น

โดยไม่คาดคิด และสอนให้เราปล่อยวางยอมรับปรับตัวกับสิ่งที่ไม่ได้อย่างใจ 

และต้องมีแผนสำรองไว้รอเสมอ

เรือจากลังกาวีกลับสตูลมีรอบ 9.00 11.00 17.15 น.


เรือออก 9.00 น. ไม่ได้ซื้อตั๋วล่วงหน้า มาลุ้นเอา ได้ตั๋วแล้ว 

รอคืนรถมอเตอร์ไซค์เอามัดจำคืน 50 ริงกิต เพิ่งเรียบร้อย ขณะนี้ 7.58 น. ของมาเลเซีย 

ที่ท่าเรือเหมือนหลายๆร้านพร้อมใจเปิด 8.00 น.






ตารางเวลาเรือ จากลังกาวี กลับสตูล(เวลามาเลเซีย)   

มีวันละ 3 รอบ คือ9.30, 13.00 ,17.00 น.

โดยเวลาถึงท่าเรือตำมะลัง (เวลาไทยกับมาเลเซีย ต่างกัน 1 ชั่วโมง)

 ให้บวกไป 15 นาที จะเป็นเวลาไทย 

เช่น รอบเช้า ถึง สตูล 9.45 น. รอบบ่ายจะถึงสตูล 13.15 น. 

และรอบเย็นจะถึงสตูล 17.15 น.


รอลงเรือ









ไปถึงท่าเรือตำมะลังก็นั่งสองแถวจากท่าเรือไป บขส. 
แล้วนั่งรถตู้จาก บขส. สตูลไปตลาดเกษตรที่หาดใหญ่  
พอถึงตลาดเกษตร เดินข้ามถนนเพื่อนั่งรถสองแถวไปสนามบินหาดใหญ่

จากท่าเรือตำมะลัง นั่งสองแถวไป บขส.สตูล คนละ 30 บาท 
ซื้อตั๋วรถตู้สตูล-หาดใหญ่ คนละ 80 บาท กำลังเดินทางไปหาดใหญ่ 
สุดสายคิวรถตลาดเกษตร


รับรถเช่าที่สนามบินหาดใหญ่





ผมพร้อมเที่ยวหาดใหญ่แล้วนะ
โปรรักคนไทย 747.93 บาท รวมภาษีและประกันภัยชั้น 1
ไทยเรนท์อะคาร์ Promotion Code : รักคนไทย ใช้ได้ถึง 30 มิ.ย. 2559
#thairentacar



ที่อมตุ่ยๆ อยู่ในปาก คือ ลูกชิ้นปลาแมนเอแสนอร่อย 
ซื้อในสนามบินแล้วให้ร้านเวฟให้เลย ฮะ





เข้าที่พัก Golden Crown Plaza ตั้งอยู่ที่ตลาดกิมหยง 
ทำเลดีมาก อาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟต์ อร่อยและหลากหลายดี





เก็บของแล้วไปขับรถขึ้นเขาคอหงส์  
สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่





































ตลาดน้ำวัดคลองแห











เข้าที่พัก  แม่ขอเดินเที่ยวตลาดกิมหยงสักหน่อย

ไข่ครอบ ของกินพื้นถิ่นสงขลา





ที่โรงแรมมีบริการนวดราคาไม่แพงที่ล็อบบี้  
และสามารถนวดในห้องพักได้  แม่จึงจัดไปหายเมื่อย หลับสบายเลยค่ะ


วันสุดท้าย


วันนี้พักผ่อนเอาแรง ไม่่ออกไปเที่ยวไหน ตื่นสาย 
กินอาหารเช้าเสร็จ ก็พักผ่อน แล้วเช็คเอาทืไปสนามบิน  
ก่อนเข้าสนามบินแวะไก่ทอดเดชา 





คืนรถที่สนามบิน เดินทางด้วยแอร์เอเชียจากหาดใหญ่ 

ไปดอนเมืองเวลา 14.05 – 15.40 น. โดยสวัสดิภาพ 

พ่อมารับที่สนามบินด้วยความคิดถึง


ปล. ทุกเดือนพ่อต้องเดินทางเพื่อการทำงานหนักมาก 

ประกอบกับครอบครัวเราเพิ่งไปเที่ยวทริปยาว

เส้นทางกรุงเทพ ฯ - สิงคโปร์ - ยะโฮร์ - ปีนัง - 

กัวลาลัมเปอร์ - กรุงเทพฯ เมื่อเดือนที่แล้วเอง  

ทริปนี้พ่อจึงขอพักร่างกายยาวๆ รออยู่บ้าน




 

Create Date : 05 สิงหาคม 2559    
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2559 0:52:02 น.
Counter : 5574 Pageviews.  

กัวลาลัมเปอร์ 2559 .... I love KL



ตอนเช้า นำคูปองอาหารมาสั่งอาหารชุด 

และนั่งรับประทานที่ร้านข้างๆ โรงแรมร้านนี้











จากนั้นก็พากันเดินตามกูเกิ้ลแมพ เริ่มต้นจากโรงแรมไปที่นี่ก่อน มัสยิดจาเม็ก





ก่อนเข้าไปในตัวอาคารผู้หญิงต้องเปลี่ยนชุดก่อน
โดยสามารถสวมทับชุดเราได้เลย  
ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชมนะคะ แต่มีตู้บริจาคตามศรัทธา






















เดินต่อไปที่ Merdeka Square






























เดินไปอีกนิดเป็น พิพิธภัณฑ์  KL City Gallary 
จะเข้าที่นี่ต้องซื้อคูปอง 5 ริงกิตเข้าไปชม 
คูปองนั้นสามารถใช้ซื้อของที่ระลึก 
ซื้อขนม น้ำ เครื่องดื่มต่างๆ ในนั้นได้














National Moeque KualaLumpur















จากนั้นนั่งรถบัสฟรี GO KL 
ที่ป้ายด้านข้าง National Moeque Kuala Lumpur  
วนไปส่ง ยายติ๋วกับพี่ตุ้ยที่ KL Sentral 
เพื่อนั่งรถไฟไปสนามบิน KLIA2 เดินทางกัลบประเทศไทยก่อน

และชาวคณะที่เหลือได้นั่งรถไฟฟ้าจาก KL Sentral ไป KLCC 
เพื่อไปพิพิธภัณฑ์เปรโตรซายน์  
เด็ก ๆ สนุกกันมาก ทำกิจกรรมต่าง ๆ อยู่กันจนถึงเวลาปิดทำการของพิพิธภัณฑ์




















































เย็นย่ำ นั่งรถไฟฟ้าจาก KLCC กลับสถานี Parsa Seni  
แวะกินอาหารเย็นที่ไชน่าทาวน์ มื้อนี้เรากิน ลก ลก (Lok Lok
มีลูกชิ้น ผัก เนื้อ อาหารทะเลเสีบไม้ให้เลือกใส่จานตามชอบ 
เอาไปลวก ย่าง หรือทอด กินกับน้ำจิ้มแบบต่าง ๆ  
พากันชอบปิ้งเล็กน้อยพอกรุบกริบที่มินิมาร์ท แล้วเข้าโรงแรม 
ตอนกลางคืนเด็กๆ นัดกันลงมาเล่นคอมพิวเตอร์ที่ล้อบบี้ 
ส่วนผู้ใหญ่นั่งเก้านี้นวดหยอดเหรียญรอ


เช้าวันรุ่งขึ้น พวกเราพากันเดินไปขึ้นรถไปสนามบิน
ที่หน้าห้าง My Din ตามเดิม





ซื้อตั๋วรกบัสไปสนามบิน





เมื่อถึงสนามบินแล้ว ยังช้อปปิ้งต่อได้อีก 
และก็เดินทางกลับประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ 
จบทริปท่องเที่ยวอันยาวนานของครอบครัวเราเสียที

กรุงเทพ ฯ - สิงคโปร์ - ยะโฮร์ - ปีนัง - กัวลาลัมเปอร์ - กรุงเทพ ฯ




 

Create Date : 02 สิงหาคม 2559    
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2559 1:24:43 น.
Counter : 1542 Pageviews.  

ปีนังวันสุดท้าย : จากปีนัง สู่กัวลาลัมเปอร์ ชิมปู ดูตึกแฝด



วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่พวกเราจะได้อยู่กันที่ปีนัง  

ตื่นค่อนข้างสาย  แล้วเดินไปกินอาหารเช้าก่อนกลับ 
ร้านนี้เล็งไว้นานแล้ว อยู่ตรงหัวมุมไฟแดงใกล้โรงแรม 
ฝั่งตรงข้ามห้าง Gama










สั่งโรตีเปล่ามากินกับแกง โรตีนี่พูดได้ 
แต่ตอนที่เลือกแกงใช้วิธีชี้บอก ส่วนเครื่องดื่มก็พอสั่งเป็นจ้ะ 
สั่งพวก โกปี๊ เตโอ





อยากจะบอกว่าอร่อยมากๆๆ ไม่รู้แกงเนื้ออะไร 
เคี่ยวจนเนื้อเปื่อยนุ่ม น้ำแกงเข้าเนื้อ รสชาติกล่อมกล่อม ไม่เผ็ด













หลังจากกินอาหารเช้า  ได้ร่ำลากับ Mr. Boon 
เจ้าหน้าที่ของโรงแรมที่สุดแสนจะใจดี  
แล้วนั่งรถแท็กซี่ที่เหมาไปส่งสนามบินปีนัง 
เพื่อขึ้นเครื่องบินไปกัวลาลัมเปอร์ต่อ  
พอไปถึงกัวลาลัมเปอร์ นั่งรถบัสสาธารณะจากสนามบิน
ต่อไปที่ปูดูรายา เพื่อเข้าโรงแรม 99 Pudu ที่จองไว้

ตั๋วรถบัสจากสนามบิน KLIA2 ไปปูดูรายา 
รถบัสจอดที่หน้าห้าง My Din ที่อยู่ตรงข้ามสถานีขนส่งปูดูรายา




ลงรถบัสที่หน้าห้าง My Din เดินไปไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึงโรงแรม 
แค่แป๊บเดียว












ฝั่งตรงข้ามโรงแรมเป็นสถานีขนส่งปูดูรายา





มาดูโรงแรมกันต่อ โรงแรมนี้ใหม่ สะอาด อาหารเช้าดี 
สภาพโรงแรมและทำเล ดีทุกอย่าง เพราะใกล้ไชน่าทาวน์ 
ใกล้รถไฟฟ้าสถานี Pasar Seni  และสถานี Plaza Rakyat  
และรถฟรี GO KL  เสียอย่างเดียวคือเรื่องกลิ่น 
คนสูบบุหรี่จัดมากทั้งกลิ่นบุหรี่ในลิฟท์ ทางเดิน 

เราจองห้องพักแบบไม่สูบบุหรี่เอาไว้ ยังมีกลิ่นโชยเข้าไป





Hotel 99 Pudu มีคอมพิวเตอร์ให้ใช้ฟรีที่ล้อบบี้ 
มีเครื่องนวดหยอดเหรียญ เครื่องชั่งน้ำหนักกระเป๋าเดินทาง (ฟรี)

















ห้องพักค่ะ ห้องธรรมดาแบบถูกสุด ราคาอยู่ที่พันบาทต้น ๆ  
รวมอาหารเช้าด้วย ใหม่และสะอาด 


























ร้านอาหารติดกับโรงแรมที่เราจะนำคูปองอาหารเช้า
จากโรงแรมไปแลกชุดอาหารเช้า นั่งรับประทานที่นั่น





หลังจากเก็บข้าวของล้างหน้า ล้างตัวกันแล้ว ก็เดินอีกหน่อย 
ไปที่ Chu Charestaurant ถนน Jalan Alor
ย่าน  Bukit Bintang ไม่ไกลจากโรงแรม























อิ่มกันแล้วก็เดินไปป้ายรถเมล์ รอรอบัส GO KL  
ไป KLCC เพื่อชมตึกแฝดเปรโตนาส





























ที่ KLCC นี่เองที่เด็กๆ และชาวคณะได้ชมน้ำพุเริงระบำด้วย  
หลังจากนั้น นั่งรถไฟฟ้าสถานี KLCC 
กลับไปที่สถานี Plaza Rakyat เพื่อเดินผ่านไชน่าทาวน์ 
เพื่อกลับโรงแรม  ไปถึงตลาดก็เริ่มเก็บกันแล้ว









กลับเข้าที่พัก พักผ่อนเอาแรง พรุ่งนี้เช้าค่อยออกไปเที่ยวกันต่อ




 

Create Date : 01 สิงหาคม 2559    
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2559 1:28:09 น.
Counter : 1531 Pageviews.  

เที่ยวปีนัง 2559 : วันที่สาม ชิมติ่มซำอร่อย ตะลุยชายหาด หาของกินริมทะเล



ตื่นมาตอนเช้าพากันไปเพิ่มพลังที่ร้านติ่มซำ 

ใกล้ ๆ โรงแรม 118 ถนนมาคาลิสเตอร์  (118 Hotel Macalister)
ร้านก็อยู่ไม่ไกลจากปากซอยโต้รุ่งโรงแรมซันเวย์เท่าไหร่  
วิธีสั่งคือ ต้องหยิบใบสั่งหรือใบรายการอาหารจากโต๊ะที่เรานั่งมา 
จากนั้นเลือกติ่มซำ หรือของกินที่ชอบใส่ถาดรวมๆ กัน 
แล้วเอาอาหารและใบสั่งนั้นไปให้เจ้าหน้าที่ร้านเพื่อคิดเงิน  
ภาษาอังกฤษไม่มีประโยชน์ ต้องใช้ภาษากายและภาษาจีน
โชคดี เพื่อนสื่อสารให้ สบายไปแปดอย่าง




















ร้านนี้อาหารเยอะมากมโหฬารล้านแปดอร่อยๆ ทั้งนั้น  
อิ่มแล้วก็พากันเดินไปขึ้นรถเมล์ 
แต่ระหว่างทางได้แวะซื้อไอติมทุเรียน กาแฟทุเรียน ไว้



ขออภัยรีบเขียนบนรถเมล์พร้อมตั๋ว เดี๋ยวลืม 
ลายมือช่างน่าอับอาย 555


จากป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้ามปีนังไทม์แสควร์  
ไปลงที่หน้าปั๊มเปรโตนาส อันนี้ไม่หลง เพราะเคยไปแล้ว 
พาชาวคณะเดินไปลงหาด










ไปถึงก็ไปหาที่นั่งใต้ร่มไม้ มีคนเอาแคตตาล็อกกิจกรรมต่างๆ 
มาให้เลือก ราคาเป็นราคามาตรฐาน ตอนนี้ใครใครทำอะไรก็ทำ  
เด็กๆ ลงเล่นน้ำ ผูใหญ่นอนเล่นบ้าง ไปนอนนวดตัว 
นวดคอบ่าไหล่ นวดเท้ากันบ้าง









ลีลาคุณเกาลัด

















พักผ่อนกันจนพอใจแล้ว 
ก็เป็นช่วงไฮไลท์ที่เด็กน้อยสองคนจะได้สัมผัสประสบการณ์พาราเซลลิ่ง


























เก็บข้าวของย้ายที่ พากันไปหาข้าวเที่ยง แต่กินบ่าย  
คณะใหญ่ตามใจเด็กเข้า KFC 
แต่พ่อแม่เกาลัดขอปลีกตัวไปหาข้างแกงพื้นเมือง ร้านอยู่ไม่ไกลกันนัก











จาก Batu  Ferringi  ไปที่ Gurney Drive 
เพื่อหาของกินริมทะเลยามเย็น ระหว่างรอเวลาตลาดเปิด 
ก็ได้ไปเดินลัดเลาะรับไอเย็นในห้างก่อน  
พอเย็นย่ำได้ที่ก็ไปหาของกินอร่อย ๆ





























กลับมาถึงโรงแรมก็ค่ำแล้ว อดไปขี่จักรยานต่อรอบสองเลย  
หมดไปอีกวันแบบเหนื่อย ๆ แต่ก็สนุกดี




 

Create Date : 01 สิงหาคม 2559    
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2559 1:22:14 น.
Counter : 1713 Pageviews.  

เที่ยวปีนัง 2559 : วันที่สอง วัดเก็กลกสี่ ปีนังฮิลล์ ขี่จักรยานชมเมืองมรดกโลก



ตื่นกันแต่เช้าเลย วันนี้เริ่มต้นที่เดินไปรอรถเมล์

ที่ป้ายหน้าร้านแม็คโดนัลด์ตรงปีนังไทม์แควร์  
ขึ้นสาย 201 ไปวัดเก็กลกสี่ (Kek Lok Si) ราคาก็ตามนี้ คนละ 2 ริงกิต



ไปถึงวัดก็พากันลงรถที่ตลาดที่เต็มไปด้วยผู้คน 
เพื่อหาอาหารเช้ากินรองท้องไปก่อน 
ถ้าไปกันลำพังครอบครัวเดียวคงยุ่งยากในการสั่งอาหาร  
แต่รอบบนี้สบาย เพื่อนไปด้วย ส่งภาษาจีนกับคนขายให้













กว่าจะเดินขึ้นไปวัดได้พากันเหนื่อย แดดก็แรงจนแทบเกรียม 
ถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก



















ขึ้นเคเบิ้ลคาร์ไปต่อบนยอดเขากันอีก













เดินชม นั่งชมวัดกันจนพอใจแล้ว 
เก็บแรงเอาไว้ไปปีนังฮิลล์กันต่อเถอะ 
กว่าจะลงมาถึงด้านล่าง เดินหาป้ายรถเมล์กันจนเหนื่อยแดดอีกรอบ
  ป้ายรถเมล์จากวัดไปปีนังฮิลล์จะอยู่แถว ๆ เซเว่นนะจ้ะ 
รอประมาณครึ่งชั่วโมงกว่ารถจะมา ค่ารถตามนี้






ผู้คนเยอะแยะมากมาย รอคิวซื้อตั๋วขึ้นปีนังฮิลล์กันยาวเลยจ้ะ 
บ้านเราส่งเกาลัดไปต่อคิวซื้อตั๋ว






ระหว่างรอคิวขึ้นกระเช้า





พอขึ้นไปถึงบนยอดปีนังฮิลล์นะอากาศดี๊ ดี เย็นสบาย  
พากันไปกินข้างที่ศูนย์อาหาร แล้วก็เดินเล่นไปรอบ ๆ 






































จากปีนังฮิลล์  นั่งรถเมล์สาย 204  ไป JETTY หรือท่าเรือของปีนัง 
เพื่อเริ่มต้นการขี่จักรยานเที่ยวเมืองมรดกโลกจอร์จทาวน์





ร้านเช่าจักรยานหาง่ายมาก จากท่าเรือให้สังเกตสะพานลอย 
ร้านจะอยู่ใกล้ๆ สะพานลอยฝั่งเดียวกับท่าเรือนั่นเอง 
จากเชิงสะพานลอยเดินไปนิดเดียว ราคาค่าเช่าก็มาตรฐาน
ราคาประมาณ 200 บาทไทยแล้วแต่รุ่นและขนาดรถ 
เช่าได้ทั้งวันนะ จำได้ว่าวันนั้นเราไปคืนรถประมาณเกือบสองทุ่ม  
เมื่อได้จักรยานกันแล้ว ความสนุกก็เริ่มต้นขึ้น















































































อาหารค่ำวันนี้ฝากท้องไว้กับร้านโอลด์ทาวน์ ไวท์ คอฟฟี่  
จากนั้นส่งจักรยานคืน แล้วพากันเดินชมเมืองกลับโรงแรม  
ความสนุกของทริปนี้ก็หมดไปอีกวัน




 

Create Date : 01 สิงหาคม 2559    
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2559 1:19:35 น.
Counter : 1954 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  

ชมจันทร์
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เดินทางสู่โลกกว้าง เพื่อไปเรียนรู้โลก ผู้คน เพื่อประสบการณ์ชีวิต

Friends' blogs
[Add ชมจันทร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.