ไปเที่ยวกันดีกว่าค่ะ .. ^^
Group Blog
 
All Blogs
 

Vietnam Day 2 : ดาลัด เมืองตากอากาศในหุบเขา




สวัสดีค่ะ ช่วงหยุดยาวเดือนสุดท้ายของปี 2559 
เรามีแผนท่องเที่ยวดาลัด มุยเน่ โฮจิมินห์
แผนการเดินทาง 5 วัน 4 คืน ตามนี้ค่ะ

วันแรก จากสนามบินสุวรรณภูมิไปโฮจิมินห์และโฮจิมินห์ไปดาลัด
วันที่สอง เที่ยวดาลัด
วันที่สาม บัสจากดาลัดไปมุยเน่ เที่ยวมุยเน่
วันที่สี่  บัสจากมุยเน่ไปโฮจิมินห์ เที่ยวโฮจิมินห์
วันที่ห้า เที่ยวโฮจิมินห์ และเดินทางกลับสนามบินสุวรรณภูมิ

มาต่อวันที่สอง เราจะเที่ยวดาลัดกันทั้งวันเลยค่ะ

อากาศเย็นกำลังดีเหมาะแก่การออกไปเที่ยวตากอากาศ
วันนี้เราซื้อ Dalat City Tour คนละ 249,000 ดอง (ประมาณ 400 บาท)
เป็นทัวร์เต็มวันรวมค่าเข้า
ชมสถานที่ และอาหารกลางวัน
ของ The Sinh Tourist Dalat

กินอาหารเช้าแล้วขึ้นรถจากโ
รงแรมที่เราพักกันเลย
เพราะออฟฟิศของบริษัทอยู่ที
่นี่ สะดวกดี คุ้มมากมายกับทัวร์วันนี้


หน้าโรงแรมที่เราพักเป็นสำนักงานและจุดจอดรถของ The Sinh Tourist Dalat
















ใบนี้เป็นเอกสารทัวร์ของวันนี้ที่นำใบจองล่วงหน้า Print จากเว็บบริษัท 
เอาไปยืนยันการเดินทางกับเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดาลัดก่อนออกเดินทาง 
ซึ่งต้องใช้ใบนี้ยื่นให้ไกด์ตอนขึ้นรถไปทัวร์
ตอนยืนยันเอกสาร เจ้าหน้าที่ขอดูบัตรเครดิตของเราที่ใช้ในการจ่ายค่าทัวร์ในเว็บด้วย
แต่เราไม่ได้เอามา





รถมินิแวนเต็มคันกำลังดี







โปรแกรมทัวร์วันนี้จาก https://www.thesinhtourist.vn


DA LAT CITY TOUR 1 DAY


8:15AM Departing for Da Lat city tour from TheSinhTourist Dalat

The schedules are as follow:

Morning visiting:
  1. Bao Dai Summer Palace
  2. Dalat Cathedral
  3. Robin Hill 1600m (a cable car to a 2300 meters with an impressive panoramic view – at own expense)
  4. Buddhist Meditation Monastery & Paradise Lake
  5. Datanla Waterfall
At around 11:30AM Having lunch at a restaurant (included).

Afternoon visiting:
  1. The Old Railway Station
  2. Valley Of Love
  3. Preserved flowers showroom
  4. Stop over at Da Lat jam workshop to enjoy locally produced jam and buy local specialties
*Attractions listed above are not in sequence order of visiting; the company reserves the right to offer an alternative schedule of the itinerary where necessary.

Departure: 8:15AM        - End: 03:30PM (ETA)

Including:
  • A/C bus/minivan/car as mentioned in the program.
  • English speaking guide
  • Entrance fees
  • Lunch
Excluding:
  • All other services not mentioned in the above program.                   
  • All meals and beverages unspecified in the above program.      
  • Personal expenses and tips.
  • Cable car fees, elephant riding fees.
Note
- All fares & itineraries are correct at the time of printing and may be subject to change without prior notice


Bao Dai Summer Palace



















จุดนี้ให้เช่าชุดย้อนยุคอลังการถ่ายภาพสวยๆ












Dalat Cathedral













Robin Hill













Ropeway ที่โรบินฮิลล์








สถานีเคเบิ้ลคาร์ปลายทาง




Buddhist Meditation Monastery & Paradise Lake














Datanla Waterfall 


ไปน้ำตก ชื่อ Datanla Waterfall ที่นี่มีกิจกรรมแอดเวนเจอร์หลากหลาย 
ทั้งล่องแก่ง ซิปไลน์ และอื่นๆ แต่เรามากับทัวร์ เวลาจำกัด 
เล่นได้แค่นั่งโรลเลอร์โคสเตอร์ ไปชมน้ำตก






















เครื่องเล่นสิ่งนี้ที่เราจะไหลไปตามราง เพื่อไปชมน้ำตก 
ตอนแรกก็หวาดเสียว แต่ไกด์บอกว่าเราควบคุมเองได้ 
ให้เร็วหรือช้าก็ได้ เลยคิดว่าสบายๆ ตั๋วที่ซื้อต้องแบบไปกลับ 
ทั้งเคเบิ้ลคาร์และโรลเลอร์โคสเตอร์ ส่งเงินค่าตั๋วให้ไกด์ 
ไกด์จะรวบรวมไปจัดการให้และพาไปส่งถึงที่ 

.... คล่องตัว ดี๊ ดี ไม่ต้องงมทำเอง เพราะถ้าทำเองจะช้าเสียเวลา





Dalatana Waterfall
ไหลไปตามรางสนุกๆ แบบเบาๆ ตามประสาผู้เริ่มจะมีอายุแล้ว สักพักก็ถึงน้ำตก














กลับมากินข้าวกลางวันที่ร้านอาหารของโรงแรม รวมในทัวร์แล้ว เราไม่ต้องจ่ายเพิ่มจ้า


อาหารอร่อยดี อิ่มสบายๆ














ช่วงบ่าย


The old railway station















ร้านขายของฝาก









ร้านละลายทรัพย์
ที่ดาลัด มี อาร์ติโชค เป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ 
จึงอดไม่ได้ที่จะต้องชิม ชาอาร์ติโชค ในร้านยังมีกาแฟขี้ชะมด 
และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอื่นๆ ขายด้วย









Valley Of Love































Preserved flowers showroom














หลังจบโปรแกรมท่องเที่ยว รถมาส่งที่โรงแรมตามเวลา
จากนั้นก็พักผ่อน เย็นๆ ออกไปเดินเล่น และหาข้าวกิน
































อิ่มจากแหนมเนืองแล้ว เดินเล่นชมเมือง จากนั้นก็กลับเข้าพักผ่อนค่ะ


ร่วมกิจกรรมลุยล่าท้าเขียนกับ Bloggang โจทย์ "น้ำตกที่คุณประทับใจที่สุด "
คำตอบก็คือ น้ำตก Dalatania ที่เมืองดาลัดนี่เอง
ที่ประทับใจไม่ใช่เฉพาะความสวยงามของน้ำตกเพียงอย่างเดียว 
แต่เป็นเพราะวิธีการที่ไปถึงน้ำตกด้วยเจ้าโรลเลอร์โคสเตอร์ที่สนุกมากค่ะ





 

Create Date : 27 ธันวาคม 2559    
Last Update : 29 ธันวาคม 2559 12:09:11 น.
Counter : 1864 Pageviews.  

Vietnam Day 1 : สุวรรณภูมิสู่ดาลัด แผนการเดินทางทั้งหมด และค่าใช้จ่ายหลัก



สวัสดีค่ะ ช่วงหยุดยาวเดือนสุดท้ายของปี 2559 
เรามีแผนท่องเที่ยวดาลัด มุยเน่ โฮจิมินห์
แผนการเดินทาง 5 วัน 4 คืน ตามนี้ค่ะ

วันแรก จากสนามบินสุวรรณภูมิไปโฮจิมินห์และโฮจิมินห์ไปดาลัด
วันที่สอง เที่ยวดาลัด
วันที่สาม บัสจากดาลัดไปมุยเน่ เที่ยวมุยเน่
วันที่สี่  บัสจากมุยเน่ไปโฮจิมินห์ เที่ยวโฮจิมินห์
วันที่ห้า เที่ยวโฮจิมินห์ และเดินทางกลับสนามบินสุวรรณภูมิ

รายละเอียดของแผนการเดินทาง

วันแรก (วันเสาร์)
เดินทางทั้งวัน  กรุงเทพฯ – โฮจิมินห์ และ โฮจิมินห์ – ดาลัด  
1. กรุงเทพฯ – โฮจิมินห์  เวียดเจ็ท 11.30 – 13.00 น. 
   เดินห้าง Parkson CT Plaza หน้าสนามบิน
2. โฮจิมินห์ – ดาลัด  เวียดเจ็ท 18.20 – 19.10 น. 
3. จากสนามบินต่อรถตู้ (Shuttle van) เข้าตัวเมืองดาลัด คนละ 40,000 ดอง 
    ซึ่งถ้าเป็นแท็กซี่ประมาณ  250,000 ดอง (15 USD)ไปส่งโรงแรม
    เราพักที่ดาลัด  (รวม 2 คืน) ชื่อ  Trung Cang Hotel - Managed by TheSinh Tourist 
4. เดินเล่นตลาดกลางคืน เปิด 19.00 – 22.00 น. ทุกวันเสาร์และอาทิตย์

วันที่สอง (วันอาทิตย์)
ซื้อทัวร์วันเดียวเที่ยวดาลัด หรือ Da Lat City Tour 
ราคา 249,000 VND (12 USD)
ออกจากโรงแรม  8:15 น.  กลับมาส่งที่โรงแรม 15:30 น.
ส่วนตอนเย็นและกลางคืนเดินเล่นชมเมือง
คืนนี้พักดาลัดที่เดิม

วันที่สาม (วันจันทร์)
เช้านั่งรถบัสเดินทางจากดาลัดไปมุยเน่ (10 usd)
รถบัสออกเวลา 7.30 น.   ใช้เวลา 4-5 ชม. 
ไปให้ทันเที่ยวมุยเน่ช่วงบ่าย เวลา 14.00 น. (15 usd)
ทัวร์รถจี๊บ  Private Mui Ne Jeep Tour 
(4 Hours, Max. 4 People/jeep) (Afternoon)  
Days: 1/2 D Price: 549,000 VND 
Departure: 2:00 PM End: 5:45 PM
Departing from TheSinhTourist Mui Ne or at hotel
คืนนี้พักที่มุยเน่  (รวม 1 คืน) ชื่อ  Mui Ne Resort managed by The Sinh Tourist 

วันที่สี่  (วันอังคาร)
ช่วงเช้านั่งบัสจากมุยเน่ไปโฮจิมินห์  (6 usd, 109,000 VND)
รถบัสออกเวลา 7.30 น.   ใช้เวลา 4 – 6  ชม. 
ถึงช่วงบ่าย เดินชมเมืองโฮ ฯ 
พักโฮจิมินห์ (รวม 1 คืน) ชื่อ Platinum Hotel 

วันที่ห้า (วันพุธ) วันสุดท้าย
เที่ยวชมเมืองโฮ ฯ  
กลับกรุงเทพฯ มีรถเมล์สาย 152 กลับสนามบินนานาชาติทาน ซอน แนต 
ค่าเมล์รถ 5,000 VND  
ส่วน Taxi 10 USD 200,000 VND
(แต่เอาเข้าจริงมีเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในวันนี้ค่ะ)
เที่ยวบินขากลับสายการบินเวียดเจ็ท 13.30 – 15.30 น. 

----------------------

ค่าใช้จ่ายหลักๆ ในทริป   คนละ 7,673  บาท 
(นอกจากนั้นเป็นค่ากินค่าซื้อของเพิ่มเติม ที่ได้แลกเงินไปภายหลัง)
ค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ได้แก่
1 ตั๋วเครื่องบิน คนละ 3,818.41 บาท 
  ประกอบด้วย
  1.1 ตั๋วสุวรรณภูมิ-โฮจิมินห์ ไปกลับ (6,209.26 บ.) 
  1.2 ตั๋วโฮจิมินห์-ดาลัด  เฉพาะขาไป (1,427.56 บ.) 
 2. ค่าที่พัก รวม 4 คืน ราคา 2,670.71 บาท ตกคนละ  1,335.355 บาท  
   ประกอบด้วย ซึ่งเราได้โปรโมชั่นจากโค้ดลด
   ในเว็บ cheaptickets 18 % และ Traveloka 25-30 %
   2.1 โรงแรมดาลัด 2 คืน 372,004  เวียดนามดอง ราคา 594.36 บาท 
   2.2  โรงแรมมุยเน่ 1 คืน $35.55 ราคา 1,266.85 บาท 
   2.3  โรงแรมโฮจิมินห์ 1 คืน  Platinum Hotel ($28.68) 501,817 VND ราคา 809.50 บาท
3. ค่ารถบัสระหว่างเมือง และทัวร์ดาลัด มุยเน่  
    เราจองและจ่ายล่วงหน้าในเว็บไซต์ TheSinhTourist
    จำนวน (2,442.82 บาท) คนละ  1,221.41 บาท 

รายการจอง The Shin Tourist 


----------------------


วันแรกของทริป ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเดินทาง
ด้วยสายการบินเวียดเจ็ทจากสุวรรณภูมิ ไปโฮจิมินห์ 
บินจากโฮจิมินห์สู่ดาลัด และเที่ยวดาลัดยามค่ำ


---------------------






จากสุวรรณภูมิสู่ไซง่อน
ค่าตั๋วไปกลับสองคน 6,209.26 บาท (คนละสามพันหนึ่งร้อยบาทนิดๆ)





เวียดเจ็ทมาแล้ว





ถ่ายไว้เป็นที่ระลึก





แอร์แต่งตัวเท่และน่ารัก ภาพรวมทุกอย่างประมาณแอร์เอเชีย 
บนเครื่องมีแอร์ไทยและประกาศเป็นภาษาไทยด้วย 
บนเครื่องระหว่างเดินทางมีกิจกรรมสนุกจับรางวัลแจกตั๋วฟรี 3 ใบ 
ให้มาชมคอนเสิร์ตที่จะจัด 21 ธ.ค. นี้ ที่โฮจิมินห์





มาถึงสนามบินที่โฮฯ เดินข้ามถนนไปกินข้าวที่ห้าง Parkson ฝั่งตรงข้ามกัน 
สั่งอย่างหนึ่ง ได้อีกอย่าง สงสัยจะฟังกันไม่รู้ทั้งสองฝ่าย 
อาหารมาเป็นกีบเท้าเลย น้ำซุปอร่อยดี
เอาเข้าจริงไม่ต้องเหนื่อเดนไปก็ได้ กินที่สนามบิน ราคาใกล้เคียงกัน 
มีหลากหลายร้านมากกว่าด้วย


อิ่มแล้ว พากันเดินมาอาคารในประเทศ เช็คอินที่เครื่องคีออส 
รับบอร์ดดิ้งพาส แล้วเข้ามานั่งเล่นเน็ตฟรีหน้า gate รอเวลาไปพลางๆ






เครื่องไปดาลัดออก 18.00 น. อีกน๊าน นาน






รอไปก่อน นั่งเครื่องบินไปอีกเดี๋ยวก็ถึงแล้ว 
ค่าตั๋วไปดาลัดราคาสองคน 1,427.56 บาท (คนละเจ็ดร้อยกว่าบาท)






ถึงสนามบินดาลัด ต่อรถตู้วิ่งไปกลางความมืดเข้าตัวเมืองดาลัด คนละ 40,000 ดอง









รถตู้จากสนามบินมาส่งที่โรงแรมสวยๆแห่งหนึ่งในเมืองดาลัด 
ชื่อ NgoPhat Hotel ซึ่งทุกคนต้องลง ณ จุดนี้ 
มีมอเตอร์ไซค์รับจ้างมาถามเพื่อไปส่งโรงแรม คิดคนละ 20,000 ดอง 
ราคาก็ไม่แพงนะ เพียงสามสิบกว่าบาท 
แต่เราเลือกที่จะเดินไปโรงแรมด้วยความงกนิดๆ 
ที่จริงก็น่าจะนั่งอ่ะนะ  ไม่น่างกเลยเรา
โดยเลียบถนนริมทะเลสาบไป พอเดินได้สบาย ไม่ไกลนัก 
โรงแรมที่เราพัก เป็นโรงแรมของ The Shin Tourist 
เพราะวันต่อไป เราซื้อทัวร์ และตั๋วบัส ไว้ล่วงหน้าจากบริษัทนี้แล้ว



เดินไปตลาดกลางคืน












ในตลาดกลางคืนมีร้านบุฟเฟต์ 44,000 ดอง 
บุฟเฟต์จะมีเครื่องดื่มร้อนเย็น ไอศครีม อาหารว่าง ผลไม้อบแห้ง


















เป็นร้านที่เหมาะแก่การนั่งชมวิวสวยๆ





เดินย่อยชมตลาดต่อ แล้วกลับไปพักผ่อน





อาร์ติโช้ค ผักขึ้นชื่อของเมืองนี้ มีนำไปทำเป็นชาขายเป็นของฝาก













หมายเหตุ :

รีวิวที่พักในทริปนี้ คลิกเพื่ออ่าน !!






ร่วมกิจกรรมลุยล่าท้าเขียนกับ Bloggang
โจทย์ "คุณคิดว่าข้อดีและข้อเสียของสื่อสังคมออนไลน์มีอะไรบ้าง"

แผนการเดินทาง และการเตรียมการเดินทางในทริปนี้
และอีกหลายครั้งที่ผ่านมานานหลายปี
ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นได้ เพราะข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์
ทำให้เราสามารถค้นหาสิ่งที่เราสนใจ วางแผนได้อย่างคุ้มค่าสุด
โปรโมชั่นเกือบทั้งหมดที่ได้จอง ทราบมาจากสื่อสังคมออนไลน์ทั้งสิ้น
สิ่งนี้เป็นข้อดีมากที่สุด และเราได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ตลอด

ข้อเสียก็คือ การใช้สื่อสังคมออนไลน์ จะต้องเสียเวลาในการใช้งาน
บางทีมีมีเวลาใช้งานที่ไม่เหมาะสม 
ทั้งนี้ผู้ใช้จะต้องแบ่งเวลาหรือจัดสรรเวลาให้ดี




 

Create Date : 27 ธันวาคม 2559    
Last Update : 29 ธันวาคม 2559 12:19:43 น.
Counter : 1875 Pageviews.  

Japan Day 4 : เที่ยวในตัวเมืองนาโกย่า และวันกลับ



(ความเดิม)
ช่วงวันหยุดยาวปิยมหาราช เรากับลูกชายพากันไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกันค่ะ  
การเดินทางประกอบด้วย

20 ตุลาคม 2559  ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิยามดึก 
                          ไปเมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
21 ตุลาคม 2559  นาโกย่า - ทาคายาม่า พักทาคายาม่า
22 ตุลาคม 2559  เที่ยวชิราคาวาโก  พักทาคายาม่า (ที่เดิม)
23 ตุลาคม 2559  เที่ยวนาโกย่า  พักนาโกย่า โรงแรมใกล้สถานีรถไฟนาโกย่า
24 ตุลาคม 2559  เที่ยวนาโกย่า พักนาโกย่า (ที่เดิม)
25 ตุลาคม 2559  เดินทางกลับประเทศไทย

พาสที่ใช้ คือ Shorudo Bus Pass 3 Days (คนละ 7,000 เยน) 
และบัตรรถไฟใต้ดินนาโกย่าแบบเหมาจ่ายใช้วันเดียว (คนละ 740 เยน)

ซิมโทรศัพท์ ใช้ Sim2fly 399 บาทของ AIS ได้เน็ตฟรี 9 วัน 
+ เติมเงินค่าโทร 50 บาท

-----------------------------------------------------------

24 ตุลาคม 2559 ใช้เวลาวันสุดท้ายก่อนกลับไทยเที่ยวชมในตัวเมืองนาโกย่
โดยใช้ Subway one day pass (740 ¥/คน)

25 ตุลาคม 2559 เดินทางกลับประเทศไทย ด้วย JAL เวลา 10.10 น.

ความประทับใจ : เกาลัดดูแลตัวเองได้ดี สามารถดูแลแม่ได้หลายเรื่อง
และเรียนรู้เกี่ยวกับการเดินทางด้วยตัวเองได้รวดเร็ว 
มีความมั่นใจที่จะแก้ปัญหาเองได้หลายอย่าง


------------------------------------------------------------------------------------------


24 ตุลาคม 2559


ตื่นสาย แล้วก็พากันไปซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินแบบใช้ได้ 1 วัน 
ซื้อได้ที่สถานีรถไฟใต้ดินทุกสาขา 
(ซึ่งตอนแรกเราพากันไปซื้อที่ Tourist Center ที่สถานี JR โน่น 
จึงต้องเดินย้อนกลับมาอีกที)

ในภาพ เกาลัดกำลังนับเหรียญจ่ายค่าตั๋ว






นั่งรถไฟใต้ดินไปสถานี Sakae เดินทะลุไป Oasis21





ขึ้นบนดาดฟ้า ด้านหลังเป็นนาโกย่าทีวีทาวเวอร์











ไปชิมซูชิสายพานซึ่งมีคนรีวิวไว้เยอะ ราคานับตามจาน ไม่มีบุฟเฟต์







ที่โต๊ะมีตู้กดน้ำร้อนเพื่อชงชาด้วยตัวเอง






เขาเอาเมนูมาให้สั่งก็สั่ง ในสายพานก็ไม่มีมาสักที เพราะร้านเพิ่งเปิด



























สถานที่ต่อไป ลงใต้ดินจากสถานี Sakae ไปสถานี City Hall 
เพื่อไปปราสาทนาโกย่า ซื้อบัตรเข้าชม 500 เยน/คน พอไปยื่น 
เขาบอกเด็ก 13 ขวบเข้าฟรี เลยบอกให้เกาลัดไปคืนบัตร 
เกาลัดได้เงินคืนมาให้แม่




















ที่จริงวันนี้อยากไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ 
แต่วันนี้เป็นวันจันทร์ปิดกันหมด จากปราสาทนาโกย่า 
จึงเริ่มจะนึกไม่ออกแล้วว่าจะไปไหน 
สุดท้าย ต้องกลับไปส่งเกาลัดที่โรงแรมก่อน เกาลัดบอกไม่อยากไปวัด 
มาถึงโรงแรมสักพักก็หลับ คงจะเพลีย แม่เลยออกไปเที่ยวต่อ ..... 
เดินไปตลาดปลาใกล้โรงแรม ตามแผนที่ไปเรื่อยๆ




ไปถึงก็สี่โมงเย็นแล้ว ไม่ได้เห็นอะไร 
ที่จริงหากอยากมากินอาหารที่นี่ต้องมาตอนเช้า





ร้านปาจิงโกะ




จากตลาดปลา ลงรถไฟใต้ดินสถานี Nagoya ไปวัดโอสุคันนง 
สถานีชื่อเดียวกับวัด



ใกล้วัดนี้เป็นย่านช้อปปิ้ง ตามถนนสายต่างๆ เต็มไปด้วยห้างร้านจำนวนมาก
ละลานตา




นี่ก็ย่านช้อปปิ้งใกล้วัดโอสุคันนง เจอร้านรองเท้า ABC MART 
ราคารองเท้าถูกกว่าไทยเยอะ 
เราเดินไปนิดเดียว ยังไม่ทันเห็นว่ามีร้านอะไรอีกบ้าง














เราเป็นห่วงลูกจึงไม่มีแก่ใจจะเลือกซื้ออะไร 
เข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตได้ของกินหลายอย่างก็รีบเผ่นกลับโรงแรมไปหาเกาลัด 
ติดใจองุ่น รสชาติหอมหวานเหมือนกุหลาบ 
พอไปถึงเกาลัดตื่นนอนแล้ว ก็ได้กินอาหารพอดี





จากนั้นชวนเกาลัดออกไปข้างนอก 
แม่อยากไปลองชิมอิชิรันราเมน (ราเมนข้อสอบ) สาขานาโกย่า 
แต่เกาลัดไม่ไป แม่จึงลุยเดี่ยว ไปสถานี Sakae 
แล้วเดินตามกูเกิ้ลแมพไปร้าน เมื่อไปถึงต้องต่อแถวสักพักถึงจะได้กิน







ทำข้อสอบก่อนกิน












เดินชมย่าน Sakae ยามค่ำคืน




นาโกย่าทีวีทาวเวอร์





โอเอซิส21 ยามค่ำคืน จากนั้นก็เดินเข้าสถานีรถไฟใต้ดินที่เชื่อมต่อกับห้าง
พื่อลงรถกลับไปโรงแรม ก่อนเข้าโรงแรมแวะซื้อไอศครีมและของกินฝากเกาลัด
 แต่เกาลัดง่วงแล้วจึงกินไม่หมด 
แม่เก็บของให้พร้อมเพื่อการเดินทางในเช้าวันพรุ่งนี้แล้วก็รับอาบน้ำนอน





เช้าวันที่ 25 ตุลาคม 2559 ออกจากโรงแรมหกโมงเช้า 
แล้วเดินไปสถานีรถไฟ ซื้อตั๋วคนละ 870 เยน นั่งรถไฟไปสนามบิน 
สับสนเล็กน้อยกับชื่อสนามบินปลายทางรถไฟ
กับสนามบินในเอกสารสายการบินไม่ตรงกันทีเดียวนัก 
แต่ก็ตัดสินใจซื้อไปเลย จากนั้นก็มางงตอนรอขึ้นรถไฟอีกที 
พราะมีขบวนที่ต้องจองที่นั่ง ซึ่งเป็นคนละราคากับขบวนที่เราซื้อตั๋วมา 
ในที่สุดก็มาถึงสนามบิน ซึ่งก็เป็นสนามบินเดียวกันแต่มี 2 ชื่อเรียก ก็แปลกดี

แม่มีบัตร JCB แต่ครั้งนี้ไม่ได้ใช้สิทธิ์เข้าเลาจน์ฟรีเลย 
มานั่งรอที่เกทกับเกาลัด เกาลัดซื้อ Royce มานั่งกิน




JAL กดปุ่มเปลี่ยนสีกระจกได้











เบียร์อาซาฮีอินไฟลท์




และเราสองแม่ลูกก็เดินทางกลับถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ




ร่วนกิจกรรมลุยล่าท้าเขียนกับ Bloggang
ถาม : "ใครที่คุณคิดถึงคนแรกที่เมื่อคุณได้ไปเที่ยวที่สวยๆ "
ตอบ : ครอบครัว ค่ะ  อยากให้สมาชิกในครอบครัวไปท่องเที่ยวด้วยทุกครั้ง




 

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2559    
Last Update : 29 ธันวาคม 2559 12:01:20 น.
Counter : 2979 Pageviews.  

Japan Day 3 : Takayama - Nagoya



(ความเดิม)
ช่วงวันหยุดยาวปิยมหาราช เรากับลูกชายพากันไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกันค่ะ  
การเดินทางประกอบด้วย

20 ตุลาคม 2559  ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิยามดึก 
                          ไปเมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
21 ตุลาคม 2559  นาโกย่า - ทาคายาม่า พักทาคายาม่า
22 ตุลาคม 2559  เที่ยวชิราคาวาโก  พักทาคายาม่า (ที่เดิม)
23 ตุลาคม 2559  เที่ยวนาโกย่า  พักนาโกย่า โรงแรมใกล้สถานีรถไฟนาโกย่า
24 ตุลาคม 2559  เที่ยวนาโกย่า พักนาโกย่า (ที่เดิม)
25 ตุลาคม 2559  เดินทางกลับประเทศไทย

พาสที่ใช้ คือ Shorudo Bus Pass 3 Days (คนละ 7,000 เยน) 
และบัตรรถไฟใต้ดินนาโกย่าแบบเหมาจ่ายใช้วันเดียว (คนละ 740 เยน)

ซิมโทรศัพท์ ใช้ Sim2fly 399 บาทของ AIS ได้เน็ตฟรี 9 วัน 
+ เติมเงินค่าโทร 50 บาท

-----------------------------------------------------------

23 ตุลาคม 2559 เดินชมตลาดเช้าทาคายาม่า 
แล้วนั่งรถบัสกลับนาโกย่าด้วยบัสพาสชุดเดิม 
จากนั้นช่วงบ่ายไปพิพิธภัณฑ์รถไฟนาโกย่า และชิมข้าวหน้าปลาไหลในตำนา

ตามข้อตกลงคือเกาลัดนอนต่อไม่ต้องปลุก ส่วนแม่เดินไปตลาดเช้าคนเดียว 
ซึ่งไม่ไกลจากที่พัก








ของสดที่ตลาดเช้าทั้งเห็ด ผัก ผลไม้ อาหารแห้งล้วนแต่น่ากินน่าซื้อและสะอาด





เวลา 10.30 น. รถบัสล้อหมุนจากสถานีทาคายาม่าไปนาโกย่า 
ระหว่างทางเป็นภูเขาหลากสีสวย








อุโมงค์มีให้เห็นเป็นระยะตลอดทาง เราชอบสีของป่า








จุดแวะพักกลางทาง





บ่ายโมงครึ่งเช็คอิน ฝากของไว้โรงแรม 
แล้วนั่งรถไฟไปพิพิธภัณฑ์รถไฟนาโกย่า (SCMAGLEV and Railway Park)





















เกาลัดไม่ยอมให้ถ่ายภาพ ต้องอาศัยทีเผลอ



















จากพิพิธภัณฑ์รถไฟ หาท่าเรือไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไม่เจอ 
จึงกลับเข้าเมือง เพื่อไปกินข้าวหน้าปลาไหลร้านต้นตำรับ อันลือชื่อ 
งงนิดหน่อยกับการซื้อตั๋วรถไฟด้วยตู้อัตโนมัติ 
แต่สุดท้ายเกาลัดก็สามารถจัดการได้ พากันตามรีวิวจนไปถึงร้านในที่สุด 
พอไปถึงเห็นคิวยาวๆ รู้เลยว่าใช่ร้านนี้แน่นอน เมนูที่เราจะสั่งอยู่บนสุด





ร้าน Horaiken ซึ่งเป็นร้านที่มีชื่อเสียงเรื่องข้าวหน้าปลาไหลที่สุดในนาโกย่า 
มีอยู่ 4 สาขาด้วยกัน (สาขา Atsuta, Unagi, Jingu, ใต้ดินตึก main building 
ของห้าง Matsuzakaya) 
แต่สาขาที่สะดวกที่สุดสำหรับผู้ที่พักอยู่ในใจกลางเมืองนาโกย่าอย่างย่าน Sakae 
คือสาขา Unagi Horaiken ในห้าง Matsuzakaya ที่สถานี Yabachuo 
สามารถนั่งรถไฟใต้ดินสาย Meijo Line จากสถานี Sakae เพียง 1 stop 
โดยเดินออกจากทางออกหมายเลข 5 Matsuzakaya South Annex. 
แล้วขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 10 ก็จะถึงหน้าร้านที่มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษอยู่
เครดิต : 
//th.japantravel.com/4-วิธีทานข้าวหน้าปลาไหลสไตล์นาโกย่า/11657

พออาหารมาเสิร์ฟคือน่ากินมาก ตามรีวิวและป้ายแนะนำที่โต๊ะให้แบ่งข้าวหน้าปลาไหลออกเป็น 4 ส่วน





ส่วนที่หนึ่งกินข้าวกับปลาไหลตามปกติ ไม่ต้องปรุงอะไร





ส่วนที่สองโรยต้นหอม สาหร่าย วาซาบิ แล้วคลุกให้เข้ากัน





ส่วนที่สาม เทน้ำซุปลงไปประมาณกินข้าวต้ม 
และส่วนที่สี่ทำอย่างไรใส่อะไรก็ได้ตามใจเรา





จากมื้อค่ำแม่อยากไปต่อที่นาโกย่าทีวีทาวเวอร์
แต่เกาลัดไม่อยากเที่ยวต่อขอกลับโรงแรม 
เราจึงกลับมาพักผ่อน ประมาณ 18.30 น.







เราพักที่ Nagoya Ekimae Montblanc อยู่หน้าสถานี JR Nagoya เลยค่ะ 
รีวิวเพิ่มเติมไว้ในหมวดโรงแรมที่พักต่างแดน






มองจากหน้าโรงแรมจะห็นสถานี JR Nagoya อยู่ฝั่งตรงข้าม

ยามดึกหิวอีกรอบ พากันลงไปซื้อของกินใกล้ที่
พัก และนอนกันดึกมาก  
และพรุ่งนี้เราจะเที่ยวในตัวเมืองนาโกย่ากันแบบเบาๆ ค่ะ




 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2559    
Last Update : 8 ธันวาคม 2559 10:41:06 น.
Counter : 1781 Pageviews.  

Japan Day 2 : Takayama-Shirakawago



(ความเดิม)
ช่วงวันหยุดยาวปิยมหาราช เรากับลูกชายพากันไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกันค่ะ  
การเดินทางประกอบด้วย

20 ตุลาคม 2559  ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิยามดึก 
                          ไปเมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
21 ตุลาคม 2559  นาโกย่า - ทาคายาม่า พักทาคายาม่า
22 ตุลาคม 2559  เที่ยวชิราคาวาโก  พักทาคายาม่า (ที่เดิม)
23 ตุลาคม 2559  เที่ยวนาโกย่า  พักนาโกย่า โรงแรมใกล้สถานีรถไฟนาโกย่า
24 ตุลาคม 2559  เที่ยวนาโกย่า พักนาโกย่า (ที่เดิม)
25 ตุลาคม 2559  เดินทางกลับประเทศไทย

พาสที่ใช้ คือ Shorudo Bus Pass 3 Days (คนละ 7,000 เยน) 
และบัตรรถไฟใต้ดินนาโกย่าแบบเหมาจ่ายใช้วันเดียว (คนละ 740 เยน)

ซิมโทรศัพท์ ใช้ Sim2fly 399 บาทของ AIS ได้เน็ตฟรี 9 วัน 
+ เติมเงินค่าโทร 50 บาท


-----------------------------------------------------------


22 ตุลาคม 2559 เที่ยวหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโก 
ด้วย SHORYUDO Highway Bus Ticket 3 day Pass 
และปั่นจักรยานเที่ยวชมเมืองทากายาม่า






เช้าวันนี้แม่ตื่นเกือบเจ็ดโมงเช้าไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันและออนเซ็น 
เกือบแปดโมงเช้าปลุกลูกขึ้นจากที่นอน 
เนื่องจากตื่นสายโปรแกรมตลาดเช้าจึงถูกเลื่อนไปพรุ่งนี้

ากที่พักเดินมาที่ Takayama Nohi Bus Station 
เพื่อขึ้นรถ Express Bus ไปชิราคาวาโก ต่อคิวชานชลาที่ 4 
คิวยาวมาก เพราะเป็น Open Bus ไม่ให้จองที่นั่งล่วงหน้า 
ทุกคนจึงต้องไปต่อคิวรอ 

เราทันรถ 8.40 น. ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที 
ก่อนขึ้นรถโชว์บัสพาสต่อเจ้าหน้าที่แล้วขึ้นรถได้เลย 
ขึ้นก่อนได้เลือกที่นั่งก่อน อากาศหนาวมากจนต้องเพิ่มผ้าพันคอและถุงมือ





รถบัสไปชิราคาวาโกแน่นจนต้องเสริมเก้าอี้





ข้ามถนนจากสถานีชิราคาวาโกเข้าหมู่บ้าน












เดินมานิดก็เห็นทัศนียภาพเหมือนตามเอกสารท่องเที่ยวเลย
หมู่บ้านนี้อนุรักษ์ไว้ได้ตามแบบโบราณ จนได้เป็นมรดกโลก





สังเกตหลังคาทำจากฟาง





เริ่มพากันหิว จึงไปร้านนี้ลองซื้อเนื้อฮิดะปรุงรสเสียบไม้ชิม 
เกาลัดบอกรสชาติคล้ายไก่จ๊อห้าดาวเลยแม่





จากนั้นเดินวนไปหาร้านอาหารเพื่อกินอาหารเช้า 
อยากกินข้าวหน้าเนื้อแต่ร้านนี้ขายข้าวหน้าหมู อร่อยดี 
แปลกตรงที่มีหนังหมูหั่นเป็นเส้นๆ มาด้วย





เดินไปชมบ้านชนบทแต่ดั้งเดิมที่ชิราคาวาโก





ภาพนี้เห็นหลังคาชัดดี





หุ่นไล่กา





บ้านนี้ปลูกบวบห้อยไว้รอบบ้าน





บ้านเล็กในหุบเขาใหญ่






ขึ้นรถบัสในหมู่บ้านไปจุดชมวิว คนละ 300 เยน ขาลงเดินลงเขากันเองไม่ไกล






เที่ยงกว่านั่งรถบัสจากหมู่บ้านชิราคาวาโก กลับมาทาคายาม่า 
ขากลับเป็นรถที่ต้องจองล่วงหน้า 
เราใช้ Pass แลกตั๋วระบุที่นั่งแล้วขึ้นรถที่จอดอยู่ได้เลย 
พอมาถึงสถานีทาคายาม่าก็ตั้งกูเกิ้ลแมพเดินไปร้าน Sushi Dining Nop ไม่ไกล





เรามาร้านนี้ตามรีวิวที่เชียร์ไว้ใน Tripadviser ว่ารสชาติและราคาดี 
ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น จานนี้ส่วนประกอบคืออโวคาโดและปลาไหล














รวมทั้งหมดเพียง 2,600 ¥ น้ำเปล่าฟรี





กินอิ่มแล้วตั้งแผนที่ให้พากลับโรงแรม ฝนตกปรอยๆ 
เกาลัดแวะเข้าพักในห้อง ส่วนแม่เดินไปศาลเจ้าเยื้องโรงแรม 
สังเกตว่ามีทั้งท่องเที่ยวมาตลอดตั้งแต่เมื่อวาน 
ใบไม้ที่ศาลเจ้าเริ่มเปลี่ยนสีบ้างแล้ว








ถ่ายภาพกลางฝนพรำ














ถ่ายภาพวัดเสร็จแล้วก็เดินกลับโรงแรม ตั้งใจจะยืมจักรยานไปขี่ชมเมือง 
แต่ฝนยังตกจึงเข้าห้องพักไปก่อน

สักพักจึงได้เวลาลงมายืมจักรยานของโรงแรมไปขี่ชมเมือง 
คุณป้าเจ้าของที่พักใจดีมาก (ที่นี่บริการจักรยานฟรี ไม่ต้องเช่า ดี๊ ดี)





รายละเอียดเวลายืมจักรยาน





ได้ขี่จักรยานแล้วก็วนไปมาชมเมือง วัยรุ่นไม่อยากแวะพิพิธภัณฑ์ที่ไหน  เราจึงไม่มีจุดหมายชัดเจน ตอนขี่จักรยานเลียบแม่น้ำ เห็นมีปลาว่ายในน้ำ น้ำก็ใส จึงพากันจอดจักรยานแล้วลงไปดูใกล้ ๆ





ภาพนี้เกาลัดเหมือนแม่เลย





ได้ขี่จักรยานเล่น อารมณ์สนุกกำลังมา






เกาลัดถ่ายภาพกับใบไม้สีสวย





ชมย่านเมืองเก่า





















ถนนคนเดิน








สะพานแดงจุดถ่ายภาพยอดฮิต





สะพานแดงอีกมุม ถ้าหน้าร้อนจะมีซากุระให้ชมแถวนี้ด้วย พากันขี่จักรยานจนเหนื่อยแล้วก็กลับโรงแรม คืนจักรยาน เข้าพักผ่อนต่อในห้อง




ลองซื้อขนมจากเซเว่นมาลองชิม 
ได้เจลลี่มาเป็นของแถมจากพนักงานเซเว่นตั้งสองห่อ




น้ำคาร์บอเนตเติมกลิ่น และรสส้ม หวานน้อย ซ่ามาก เปิดทีไรแก๊สฟู่อออกมา





เยลลี่องุ่นที่ได้เป็นของแถม นิ่มละลายในปาก หวานมาก แต่อร่อย





ปลาเส้นใส้ชีส ชิมเแล้วเฉยๆ สินค้าของร้าน Family Mart อร่อยกว่า 
แม่ก้มหน้าอัพเฟสแป๊บเดียว กินไปสามเส้น ไม่ทันเกาลัดคว้าเข้าปากหมดเกลี้ยง





แม่ชิมแล้วคิดว่าปลาเส้นใส้ชีสยี่ห้อนี้อร่อยมาก หนึ่งซองมี 3 แบบ 3 ขนาด 
..... ชอบค่ะ เกาลัดบอกอร่อย แต่เกาลัดชอบของยี่ห้อเซเว่นมากกว่า




โค้กกลิ่นมะนาว ลองชิมดูแล้วเฉยๆ ทั้งรสและกลิ่น 
ถ้าไม่สังเกตหรือไม่อ่านขวดไม่รู้นะเนี่ยว่าเป็นโคคาโคล่าเลมอน





เชิญดื่มชา ก่อนไปออนเซ็น คือ ดีงาม





พลบค่ำ เดินผ่านความหนาว 13 องศาเซลเซียสไปกินมื้อค่ำ 
เกาลัดกินข้าวหน้าเนื้อฮิดะ เป็นข้าวหน้าเนื้อที่อร่อยที่สุดที่เคยกิน
แถมยังได้เยอะสุดๆ





แม่สั่งอุด้งเนิ้อฮิดะ เป็นอุด้งที่อร่อยที่สุดที่เคยกินมาเหมือนกัน ชามอุด้งปิดฝามาเสิร์ฟ โดยที่น้ำซุปยังเดือดอยู่ ดูภาพต่อไปจะเห็นไข่ดิบเปลี่ยนไปทันที





เทไข่ดิบลงไปในน้ำซุปแล้วตักน้ำซุปราดไปไม่กี่ช้อน เป็นไข่ออนเซ็น 
ไข่ขาวสุกในทันที อ่านเจอว่าน้ำซุปเป็นสูตรเฉพาะของท้องถิ่นย่านนี้





ราคามื้อนี้ 2,760 เยน อาหารได้เยอะ ชามโตๆ อิ่มจนจุก 
ต้องพากันเดินกลับอย่างช้าๆ




นามบัตรร้าน เผื่อสนใจค่ะ






วันนี้เดินเยอะเป็นพิเศษ แต่ไม่เหนื่อย และไม่ปวดขาปวดเท้าเลย

วันดีๆ ผ่านไปอีกวัน พรุ่งนี้เราก็จะกลับเข้าเมืองนาโกย่ากันแล้วค่ะ




 

Create Date : 09 พฤศจิกายน 2559    
Last Update : 10 เมษายน 2561 16:00:38 น.
Counter : 2291 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  

ชมจันทร์
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เดินทางสู่โลกกว้าง เพื่อไปเรียนรู้โลก ผู้คน เพื่อประสบการณ์ชีวิต

Friends' blogs
[Add ชมจันทร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.