Taiwan Day1 : Wulai เมืองออนเซ็นในฝัน
แต่เดิมมานั้น เราไม่เคยคิดจะไปท่องเที่ยวประเทศไต้หวันมาก่อนเลย เพราะมีความคิดฝังใจว่า ถ้าเราไม่รู้ภาษาจีน เราคงจะไปเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองไม่ได้ เมื่อเวลาผ่านไป จึงได้เห็นเพื่อน ๆ พากันทยอยไปเที่ยวไต้หวัน ทั้งคนที่รู้ภาษาจีนบ้าง ไม่รู้บ้าง จากการได้ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับเที่ยวไต้หวันทีละเล็ก ทีละน้อย พบว่า ไต้หวัน เป็นเมืองที่น่าไปเที่ยว คล้ายๆ ญี่ปุ่น และปัจจัยสำคัญที่สุดต่อการตัดสินใจของเราก็เกิดขึ้น เมื่อรัฐบาลไต้หวัน ประกาศงดเว้นวีซ่าให้กับคนไทยอย่างเป็นทางการ
เราจึงได้โอกาสจองโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบิน ฉลองให้กับฟรีวีซ่าไต้หวัน ในราคาไปกลับห้าพันบาทนิดๆ จึงได้เกิดทริปนี้ขึ้นมา แถมยังมีแรงฮึดในการไปเที่ยวคนเดียว เพราะจากข้อมูลที่อ่าน ๆ มานั้น ไม่น่าจะเที่ยวยาก เพราะทริปญี่ปุ่น ก็เคยผ่านมาแล้ว
เราเขียนบล็อกนี้ขึ้นก็เผื่อว่าเพื่อน ๆ ที่ได้อ่าน จะเกิดแรงฮึดอยากไปเที่ยวไต้หวันเหมือนเราบ้างนะคะ ^^
ออกเดินทางด้วยสายการบินนกสกู๊ตไฟลท์ดึก จากดอนเมืองไปไทเป
มหาชนที่รอเข้าแถวเช็คอิน จำนวนมาก เคาน์เตอร์เปิดตั้งแต่ห้าทุ่ม เรามารอเช็คอินตั้งแต่ 21.45 น.
เช็คอินผ่านฉลุย ผ่าน Auto Gate ของ ตม. มารอขึ้นเครื่อด้านในแล้ว ก่อนเข้าเกท แวะไปเคาน์เตอร์ AIS จะเติมเงิน Sim2Fly แต่ซิมหมดอายุ เลยซื้อใหม่ 399 บาท ซิมมีอายุ 3 เดือน ต้องเลี้ยงซิมไปเรื่อยๆ โดยเจ้าหน้าที่แนะนำว่าให้เติมเงินที่ตู้อัตโนมัติหน้า AIS Shop ตามห้าง เติมครั้งละ 20 บาท x 10 ครั้ง รวดเดียวก็ได้ เงินที่เติมเก็บไว้ในซิมก็เอาไว้ใช้ได้ตอนเติมเพคเกจเน็ตต่างประเทศรอบหน้า
เราไม่ได้ซื้อน้ำหนักโหลดกระเป๋า ใบที่ใช้ขนาด 16 นิ้ว ลากขึ้นเครื่องสบายๆ ระหว่างรอเดินทางก็ใช้ไวไฟฟรีที่สนามบิน ด้วย AIS Airport Free Wifi
สนามบินดอนเมือง อาคาร T1 ทีตู้กดน้ำร้อนน้ำเย็นเยอะอยู่นะ เห็นตามหน้าห้องน้ำ
ปลั๊กไฟฟรีที่ Gate 24
เครื่องบินลำใหญ่ ที่นั่งของเรา 72 H ติดทางเดิน วันแรกที่เดินทางมาถึงไต้หวัน ตั้งใจไปเที่ยวและพักที่อู่ไหล (Wulai) เมืองออนเซ็นใกล้ไทเป ออกจากเครื่องนกสกู๊ต ผ่าน ตม. ไต้หวันฉลุย เดินมาเติมเงินบัตร Easy Card จากเครื่องอัตโนมัติที่สถานี MRT Airport ชนะเลิศงามๆ ง่ายดาย เพราะมีตัวอักษรภาษาไทย แถมเครื่องยังพูดภาษาไทยกับเราด้วย ฮ่าๆ เครื่องไม่ทอนเงิน เลยเติมไป 500 NT ก่อน
รอนั่ง MRT ไปไทเปเมนสเตชั่น นั่งจากสถานี A12 ย้อนไปต้นทาง A1 แล้วค่อยลุ้นต่อไป
ตู้ฝากสัมภาระแบบหยอดเหรียญมีทุกมุมที่สถานีไทเปเมน
จากสถานีไทเปเมน ทางออก M8 หันหน้าเข้าถนน เลี้ยวซ้ายไป 180 เมตร ถึงป้ายรถเมล์สาย 849 ต้นทางที่จะไป Wulai ตามโพยเป๊ะ ก่อนถึงป้ายรถ เดินผ่านโรงแรม Inn Cube3S ด้วย รอแป๊บเดียวรถเมล์ก็ออก แปะบัตร Easycard ทั้งขึ้นและลง
นั่งหลับ ๆ ตื่น ๆ ไปสักพักก็ถึงจุดหมาย สุดสายรถเมล์ ระหว่างทางไปโรงแรม เดินผ่านตลาดเก่า มีแต่ของน่ากิน ร้านรวงที่เดินผ่านส่วนใหญ่เป็นโรงแรมและออนเซ็นรายชั่วโมง ยังไม่ถึงเวลาเข้าห้องพัก จึงต้องฝากกระเป๋า แล้วออกไปเดินเที่ยวเล่นก่อน โรงแรมให้เข้าพักก่อนเวลา คือ หลังบ่ายสามได้ แต่ในใบจองบอกเว็คอินไดตั้งแต่ 6 PM คือ หกโมงเย็น เราจึงเดินตากแดดเปรี้ยงไปนั่งเคเบิ้ลคาร์และชมน้ำตก Wulai Waterfall ตอนนี้ร้อน และชักเริ่มเหนื่อย ฮ่า!
แต่เมืองนี้สวยจริงๆ ชื่นชมธรรมชาติเพลิดเพลินใจดี
ตอนนี้เดินมาถึง Cable Car Station แล้ว รถรางข้ามเขาไปกลับ 220 NT
ข้ามไปอีกฝั่งก็จะได้ใกล้ชิดกับน้ำตก สามารถเดินสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
ออมแรงไว้เดินกลับโรงแรม กระหายน้ำเป็นอย่างยิ่ง และไม่ต้องห่วง ห้องน้ำสะอาดมีให้แวะตลอดทาง
ป้ายราคาห้องแช่ออนเซ็นมีเรียงรายตามถนนให้เลือก วิวสวยๆ ทั้งนั้น และราคาก็ไม่แพง คือ ดี๊ ดี
แวะเข้าโรงแรมก่อน โรงแรมที่เราพัก ชื่อ Yufuin Hot Spring 湯布苑溫泉館 www.cloudspring.com.twนอกจากจะเป็นโรงแรมพักค้างคืนแล้ว ยังให้บริการเฉพาะแช่ออนเซ็นด้วย เราถ่ายภาพห้องแช่ออนเซ็นมาฝาก
เป็นออนเซ็นวิวแม่น้ำ
มีห้องแต่งตัวสำหรับผู้แช่ออนเซ็น พวกไดร์ โลชั่น อะไร พร้อมสรรพ
จากนั้นเราเปลี่ยนกางเกลงขาสั้นและรองเท้าแตะ เดินมาที่ออนเซ็นสาธารณะริมแม่น้ำใจกลางเมืองอู่ไหล มานั่งแช่เท้าคลายเมื่อย (ฟรี) ท่ากลางอากาศร้อน ต้องจิบน้ำตลอด แต่บรรยากาศผ่อนคลายมาก
ริมแม่น้ำมีทั้งบ่อแช่เท้าและแช่ตัวฟรี บางคนก็ลงแช่ ดำผุดดำว่ายในแม่น้ำทีเดียว สารพัดชุดจะใส่ บางคนก็ กกน. ตัวเดียว เห็นลงบ่อร้อนๆ แล้วสลับมาลงแม่น้ำเย็นๆ น่าจะสบายตัว
อาหารมีร้านให้เลือกเยอะนะ ดูน่ากินดี
ออนเซ็นสาธารณะที่เล็งไว้คราวหน้า ช่วงหลังบ่ายสาม เข้าพักในห้อง ก็หลับไปไหลายชั่วโมงด้วยความเพลีย ตื่นขึ้นมาก็ค่ำ เดินออกไปหาข้าวกิน แล้วแช่ออนเซ็น นอนหลับสนิท
Create Date : 12 มิถุนายน 2560 |
Last Update : 24 กรกฎาคม 2560 14:10:53 น. |
|
0 comments
|
Counter : 5704 Pageviews. |
|
|