• My Guest Book...แวะทักทาย
• E-book ของมิถุนา
• ผลงานรวมเล่มของมิถุนา (พร้อมทดลองอ่าน)
• รวมฉากโรมานต์ที่ถูกตัดทอนไปของมิถุนา (กรุณาอีเมลมาขอพาสเวิร์ดเข้าอ่านที่ busaba401แอตhotmail.com)
• เรื่องสั้นและนิยายตอนพิเศษของมิถุนา
• กรงพยัคฆ์ [Romantic-Suspense...จบแล้ว]
• แผนลวงรัก (คู่แค้นแสนลวง)
• ใต้เงาพยัคฆ์ [Romantic - Suspense] จบบริบูรณ์
• คู่ร้ายหมายรัก [Romantic - Comedy] จบบริบูรณ์
• วายร้ายไม่หน่ายรัก (Notorious Love) [Romantic - Suspense] จบบริบูรณ์
• โซ่ร้อยรัก [เรื่องแปล] จบบริบูรณ์
• Truth or Die [เรื่องแปล] จบบริบูรณ์
• My Make-up Bag & My Closet
• MAC Pigments
• Eating Out
• Traveling Around
• ...
• .......

REVIEW: Urban Decay (Eye, Lip, Face) เป็นอีกหนึ่งบล็อกดองๆ ได้ของเล่นใหม่มาพักใหญ่แล้ว ถ่ายรูปไว้บ้าง ทำรูปไว้บ้างตั้งแต่ปีก่อน แต่เพิ่งจะได้มาอัพเอาต้นปีนี้เอง แต่ก่อนจะเข้าไปอ่านรีวิว ขอพูดอะไรเกี่ยวกับบล็อกนิดนึงนะคะ ตอนแรกก็ว่าจะไม่พูดแล้วล่ะ เพราะคิดว่าได้เคลียร์ัตัวเองในบล็อกเก่าๆ ไปแล้ว ถึงจะไม่ใช่บล็อกเกอร์ดัง (จริงๆ เราไม่ชอบคำว่าบล็อกเกอร์เลยนะ เราไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นบล็อกเกอร์เลย ก็แค่คนเขียนบล็อกคนนึง) แต่เห็นว่าดราม่าในห้องแ้ป้งดุเดือดเหลือเกิน และเราคงจะอยู่กับบล็อกไปอีกนาน เพราะเราชอบเขียนบล็อก (บล็อกเราไม่ได้เขียนแต่เรื่องเครื่องสำอาง มันมีจุดเริ่มต้นมาจากนิยาย) เลยขอแสดงจุดยืนตัวเองสั้นๆ ว่า "ไม่เคยรีวิวฮาวทูรับเิงินค่ะ" แต่เคยมีทางแบรนด์เชิญไปงานบ้าง ได้ของเล่นมาจากแบรนด์บ้าง แบรนด์ไม่เคยบังคับให้รีวิวหรือเขียนบล็อก เราเลือกเขียนเองเพราะอยากจะเขียน และไม่ได้ไปดะมันทุกงาน ปฏิเสธงานที่ถูกเชิญก็ออกบ่อยไป เพราะเราไม่ได้ว่างทุกวัน มีงานทำค่ะ :-D ซึ่งเรามักจะชี้แจงไว้ก่อนจะเข้าบล็อกอยู่แล้วนะว่าได้ของมายังไง ส่วนอวยแบรนด์หรือไม่อวยนั้น พูดยากนะคะ แต่ละคนชอบของไม่เหมือนกัน เราเคยแนะนำของให้เพื่อนๆ หลายๆ คน บางชิ้นเราชอบเหลือเกิน พอแนะนำไปเค้าไม่ชอบซะงั้น เราก็แอบจิตตกนิดหน่อย แต่ก็ทำไงได้ ความชอบแต่คนต่างกัน เราก็เลยแก้ปัญหาด้วยการพยายามบอกข้อดีข้อเสียที่เรานึกได้ เพื่อช่วยในการตัดสินใจของเพื่อนๆ ก็...ไปๆ มาๆ กล่าวไม่สั้นเท่าไหร่ แต่ก็เท่านี้ล่ะค่ะ อยากให้รู้ว่าเงินซื้อทุกอย่างไม่ได้เสมอไป พล่ามนานแล้ว มาเข้ารีวิวดีกว่า ใครที่อ่านบล็อกเรามานาน คงพอทราบว่าเราชอบ Urban Decay นะ นี่ก็มีของเล่นใหม่สามชิ้น (จริงๆ มีพาเลตอีกอัน ดันลืมทำรูป ติดไว้บล็อกหน้าน้า) เอาเริ่มที่ Eye ก่อนละกัน Urban Decay The Dangerous Palette ชิ้นนี้เพื่อนให้เป็นของขวัญคริสต์มาส เค้าบอกว่าเราชอบแต่งตาสีๆ น่าจะชอบสีโทนนี้ :-)) ถูกใจมาก พลิกด้านหลังให้ดู จะมีอายไพรเมอร์โพชัน อายแชโดว์หกสี แล้วก็อายไลเนอร์หนึ่ง โคลสอัพส่วนผสมให้ดู เผื่อใครสนใจค่ะ (ถ่ายรูปอันนี้ยาก อาจจะไม่ชัดมากนะคะ) เปิดกล่อง มี... Primer Potion #Greed 24/7 Glide-on Eye Pencil #Rockstar Eyeshadow #Haight, Mildew, Virgin, Oil Slick, Rockstar, Gunmetal Swatch สีให้ดู (พวกรูปเล็กๆ นี่ คลิกขยายดูรูปใหญ่ได้หมดนะ) สรุปสั้นๆ... Primer Potion #Greed เป็นอายไพเมอร์สีออกทองอ่อน วิ้งเยอะๆ อายไพรเมอร์ทาแล้วจะทำให้อายแชโดว์ติดทนขึ้น เราว่ารุ่นที่เป็นสีๆ ของ UD จะสู้รุ่น Original ไม่ได้ (คือไม่ติดทนเท่าแล้วก็ทำให้สีเพี้ยน) แล้วจากประสบการณ์ใช้ UDPP (หรืออายไพรเมอร์แบบที่เป็นขวดแบบลิปกลอสและมีที่ปาดในตัว) มาหลายอันพบว่าใช้ไปนานๆ เนื้อไพรเมอร์จะแห้ง ทาแล้วเป็นคราบ ของ UD ก็เป็นค่ะ ทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานลดลง ส่วนตัวชอบสี Greed นะ ทาเดี่ยวๆ สวยดีค่ะ เราชอบมากกว่า Sin เรามักจะไว้ทาตาแล้วก็เขียนอายไลเนอร์ ช่วยให้อายไลเนอร์ติดทนกว่าเดิม เราเคยรีวิวเปรียบเทียบความติดทนและคุณภาพของ UDPP กับ Too Faced และ Etude ไว้แล้ว ลองคลิกอ่านละเอียดได้ที่ข้างล่างนี้ค่ะ ☆ REVIEW: Urban Decay Primer Potion V.S. e.l.f. Eyelid Primer V.S. Nars Smudge Proof Eyeshadow Base ☆ REVIEW: Urban Decay Primer Potion V.S. Too Faced Shadow Insurance ☆ REVIEW: เปรียบเทียบ Urban Decay Primer Potion #Sin V.S. Etude Proof 10 Eye Primer 24/7 Glide-on Eye Pencil #Rockstar เป็นอายไลเนอร์สีม่วงแบบพลัม ม่วงเข้มคล้ายสีดำ เนื้ออายไลเนอร์นุ่ม เขียนลื่นและง่าย สีชัด แต่...แพนด้าเล็กน้อยถ้าเขียนขอบตาบน แต่ถ้าเขียนขอบตาล่างหรือินเนอร์ไลน์ จะแพนด้ามากกว่า (ขึ้นอยู่กับสี) เราจะทาอายไพรเมอร์ก่อนเขียนอายไลเนอร์ุรุ่นนี้ ไม่ก็เอากลิตเตอร์อายไลเนอร์แบบน้ำทาทับ จะช่วยให้ติดทนทั้งวัน Eyeshadow #Haight สีเขียวแบบเทอร์คอยส์ สวยมาก เราชอบสีนี้ที่สุด #Mildew สีเขียวมะกอก #Virgin สีเนื้อ สีนี้ก็สวย ใช้ง่ายเราใช้ทาใต้คิ้วและเบลนด์กับสีอื่นบ่อยเลย #Oil Slick สีดำวิ้งเงิน เป็นอีกสีที่พาเลต UD ชอบมี สีสวยค่า #Rockstar สีม่วงเข้ม สวยเหมือนกัน เป็นม่วงดำๆ #Gunmetal สีเทา สวยนะ แต่ไม่รู้ทำไมไม่ค่อยได้ใช้ :-D อายแชโดว์ของ UD ค่อนข้างติดทน ถ้าคิดจาก 5 ดาว เราให้ 4 ดาวค่ะ แต่อันนี้คือหลังจากทาอายไพรเมอร์นะ (เดี๋ยวนี้เราไม่ทาอายแชโดว์โดยไม่ใช้อายไพรเมอร์เลย มันจำเป็นมาก สีสดชัดและทนขึ้นเยอะ) ข้อดีของอายแชโดว์ UD คือสีสด สวย ชัด เนื้อสีพาเลตนี้ดีทุกอันค่ะ (จะมีบางพาเลตวิ้งเกิน และมีหลายคนไม่ชอบ) ข้อเสีย...ไม่มีขายในเมืองไทย ราคาแพง (แนะนำให้รอมันลดราคา) และ UD เป็นยี่ห้อที่ชอบเอาสีอายแชโดว์ซ้ำๆ กันมาจับคู่กันในแต่ละพาเลต อย่าง Oil Slick นี่เรามีสองถาดแล้วอ้ะ ต่อด้วย Lip... Urban Decay Lipstick #Indecent บอกว่าอยากได้ลิปสติก UD สีประมาณส้มๆ เพื่อนจัดสีนี้มาให้ ส่วนผสม มีสองส่วน แพ็กเกจสวยมาก ชอบหยิบมาดูบ่อยๆ Indecent จะเป็นสีพีชซีดๆ มีวิ้งเงินเยอะมากๆ ที่ตัวลิปมีปั๊มลายลึก น่ารักมากๆ Swatch สีแบบเดียวกับตัวลิปเลย ทาออกมา เทียบปากบนกับปากล่าง ก่อนทากับหลังทานะ จะเห็นว่าสีใกล้เคียงกันมาก ทาเต็มปาก (ปากแอบสีไม่เท่ากัน แหะๆ) เต็มหน้า ทาออกมาแล้วผิดหวังนะคะ แบบว่าสีมันใกล้เคียงกับสีปากเรามาก ต่างตรงที่ว่าปากเราไม่มีวิ้งสีเงิน คือมันไม่ได้สีส้มซีดๆ เราได้สีชมพูซีด+วิ้ง แต่ขึ้นอยู่กับสีปากคนทานั่นแหละ กลิ่นลิป...หวานเอียน แต่พอทนได้ (เราว่า lip product ของ UD กลิ่นไม่เวิร์กเท่าไหร่) เนื้อลิป...เนื้อลื่น ทาง่าย ไม่ตกร่อง แต่ไม่ติดทนเท่าไหร่ แล้วพอสีลิปหายไปหมด จะทิ้งวิ้งเงินๆ ไว้เต็มปาก รสชาติ...ไม่อร่อย พอแอบเลียปากแล้วจะขม (ครั้งแรกเจอนี่ตกใจเลย เกิดมาไม่เคยเจอลิปขม) วิ้งใหญ่ระคายปาก ไม่ชอบวิ้งมันเท่าไหร่ แต่บางทีทาๆ ไปก็สวยดี 55 ราคาแพง 22 USD ประมาณเกือบ 700 ข้อดีที่ชอบ...แพ็กเกจสวยสุดๆ ลิปเป็นสีทาง่าย (คือเหมือนสีปากตัวเองแต่มีวิ้งเท่าั้นั้น) เนื้อนิ่มลื่น ทาง่ายและทาแล้วไม่ตกร่อง แท่งนี้ออกแนวรักและเกลียดค่ะ ใครถามว่าดีไหม คงได้แต่บอกข้อดีข้อเสียให้ชั่งใจเอง แต่ส่วนตัวยังอยากลองสีอื่นแบบไม่มีวิ้งอีก Urban Decay Afterglow #Quickie บลัชตลับเล็ก น่ารักมาก ตลับนี้เป็นรุ่นเก่านะ คือแพ็กเกจเก่า แพ็กเกจใหม่จะเข้ากับแพ็กเกจลิปสติก ส่วนผสม เปิดตลับ จะเป็นตลับเล็กๆ ขนาดประมาณไม่เกินสองนิ้ว แล้วก็มีกระจกในตัว สี Quickie ในเว็บบอกว่าเป็นชมพูอ่อน เปิดออกมาจะเห็นเป็นสีชมพูเข้ม Swatch ออกมา สียังเป็นชมพูชัดเจน ชมพูอ่อนๆ ปัดออกมาสวยมาก สีชมพูแบบธรรมชาติ เราชอบมากๆๆๆ สรุป... บลัชสี Quickie สวยมากค่ะ ในตลับเห็นสีเข้ม แต่ปัดจริงๆ ได้ชมพูอ่อนแบบสุขภาพดี ถ้าเกิดปัดหนักๆ จะได้สีชมพูเข้มกว่านี้ แต่เราว่าต้องปัดหนักมือเลยนะ คืออย่างตอนแรกที่ปัด รู้สึกว่าสีแทบมองไม่เห็น แต่ถ่ายรูปนี้จะเห็นชมพูชัดเลย ดูเป็นคนแก้มแดงๆ สุขภาพดี เนื้อบลัชดี ไม่เป็นผง ปัดแล้วหน้าดูโกลว์ๆ ด้วย ราคา 24 USD ค่อนข้างแพง ชอบตลับเล็กน่ารัก มีกระจกในตัว แต่แอบแกะเปิดยากไปหน่อย (ต้องใช้เล็บจิก) เป็นบลัชอีกตัวที่ชอบมากๆ ขอแนะนำตัวนี้เลยล่ะ และจากรีวิวทั้งสามชิ้น เราเชียร์บลัชตัวนี้มากที่สุด :-D ตอนนี้รอของฝากซื้อจากญี่ปุ่นอยู่ ส่วนใหญ่ฝากซื้อของ Candy Doll ไว้ถ้าเห่อมากๆ จะรีบมารีวิวให้ดูค่ะ แล้วเจอกัน   Create Date : 12 มกราคม 2555     Last Update : 13 มกราคม 2555 22:15:53 น. Counter : 2483 Pageviews.   6 comment Share Tweet

HOW TO: Light Pink & Dark Pink Eyes for MAC Post Haste ช่วงเดือนก่อนบ้าโทนสีชมพูเข้มๆ จัดๆ แนว MAC Post Haste กับ Urban Decay Woodstock แต่เล่นกับ Post Haste มากกว่า เพราะว่ามันเป็นเนื้อแมตต์ ทาแล้วไม่เวอร์มาก Post Haste จะสีประมาณนี้ (ในรูปสีจ้าไปหน่อย ของจริงสีตุ่นกว่านิดนึง แต่ทาแล้วได้สีชมพูเข้มๆ) เลยจัดฮาวทูสำหรับตาสั้นๆ ให้ดูกันนะคะ อืม...เริ่มด้วยสีอ่อนก่อนก็แล้วกัน HOW TO: Light Pink Glitter Eyes 1. หลังจากลงอายไพรเมอร์ (เพื่อให้อายแชโดว์สีชัดและติดทน) ใช้แปรงอายแชโดว์อันเล็กระบายอายแชโดว์สีชมพูอ่อนแบบมีวิ้ง (Barry M Fine Gliiter Dust #7) เราผสมกับ Magic eye change แล้วค่อยระบาย เพราะสีจะได้ชัดยิ่งขึ้น ระบายให้ทั่วเบ้าตานะ 2. ระบายสีชมพูเข้ม (MAC #Post Haste) ช่วงเบ้าตาแถวหางตา เป็นรูป < แล้วลากลงมาที่ของตาล่างประมาณ 1 ใน 3 3. ระบายสีม่วงเข้ม (L'oreal HIP #Reckless) คัดเบ้าตา แล้วระบายลงมาข้างล่างนิดนึง 4. เปลี่ยนแปรงอายแชโดว์ เป็นแปรงอันใหญ่ แตะสีครีมแมตต์ (สีเนื้อ) (Sephora #Universal Beige) ระบายใต้คิ้วแล้วเบลนด์ให้เข้ากับมีชมพูเข้มที่ระบายไปก่อนหน้า 5. เปลี่ยนแปรงอายแชโดว์ เป็นแปรงหัวตัด แตะอายแชโดว์สีชมพูอ่อน (Urban Decay #Cherry) ระบายขอบตาล่างที่เหลือรวมทั้งหัวตา 6. กลับไปใช้แปรงอันแรก แตะอายแชโดว์สีดำ (Urban Decay #Oil Slick) ระบายที่ขอบตาบน (รวมทั้งทำอินเนอร์ไลน์) และที่ขอบตาล่างล่างราว 1 ใน 3 ได้ตาแบบนี้... แต่งตาสีอ่อนๆ ไปแล้ว มาต่อด้วยสีเข้มดีกว่าเนอะ HOW TO: Dark Pink Eyes 1. ใช้แปรงอายแชโดว์อันเล็กแตะอายแชโดว์สีชมพูเข้ม (MAC #Post Haste) ระบายทั่วเบ้าตา 2. ใช้แปรงอันเดิม แตะอายแชโดว์สีดำ (Urban Decay #Oil Slick) ระบายเป็นรูป < ตรงช่วงหางตาและลงมาขอบตาล่างราว 1 ใน 3 แล้วก็ระบายขอบตราว 2 ใน 3 รวมทั้งทำอินเนอร์ไลน์ขอบตาบน 3. ปัดฝุ่นอายแชโดว์สีดำออกนิดหน่อย แตะอายแชโดว์สีม่วงเข้ม (Urban Decay #Rockstar) ระบายกลางขอบตาล่าง 4. เปลี่ยนเป็นแปรงอายแชโดว์หัวตัด เลือกอายแชโดว์สีม่วงอ่อนวิ้งๆ (Urban Decay #Grifter) ระบายขอบตาล่างที่เหลือ 5. เช็ดแปรงนิดหน่อย แล้วแตะอายแชโดว์สีขาววิ้ง (Urban Decay #Polyester Bride) ระบายหัวตา 6. ใช้แปรงอายแชโดว์อันใหญ่ แตะอายแชโดว์สีเนื้อ (Urban Decay #Virgin) ระบายใต้คิ้ว (เพื่อเน้นคิ้ว) แล้วก็เบลนด์ให้เข้ากับอายแชโดว์ข้างใต้ จะได้ตาแบบนี้... เรียบร้อยทั้งสองลุ้กแล้ว...เจอกันบล็อกหน้าถ้าไม่ขี้เกียจค่ะ :-P   Create Date : 10 มกราคม 2555     Last Update : 10 มกราคม 2555 19:32:26 น. Counter : 2367 Pageviews.   4 comment Share Tweet

PREVIEW & REVIEW: Lunasol 2011 Autumn Makeup Collection Event ดองสุดท้ายที่เหลืออยู่ค่ะ ตั้งใจอัพก่อนจะพ้นปี 2011 แหะๆ พอดีช่วงก่อนหน้ายุ่งมากๆ เลยมาแปะช้าสุดๆ เมื่อหลายเดือนก่อนได้รับเชิญจากทาง lunasol ไปร่วมงานเปิดตัวคอลเล็กชันใหม่ค่ะ เป็นคอลเล็กชัน Autumn ช่วงนี้ของ Lunasol เข้าคอลเล็กชัน Winter แล้ว แต่สินค้าบางตัวของ Autumn ยังมีขายอยู่นะคะ มาชมบรรยากาศงานเปิดตัวคอลเล็กชันก่อน แล้วเดี๋ยวดู Swatch สีและรีวิวสั้นๆ กันค่ะ งานเป็นเวิร์กชอปแต่งหน้าค่ะ เราเลือกนั่งโต๊ะหน้าสุดเลย บนโต๊ะจะมีผลิตภัณฑ์ Lunasol เยอะแยะ ยังคงมีผู้บรรยายเป็นอจ. ซาไก makeup artist ชื่อดังจากญี่ปุ่นเหมือนเคยค่ะ อจ. ซาไกจะสอนแต่งหน้าด้วยคอลเล็กชันใหม่ ส่วนเราระหว่างแต่งหน้าก็ลองสีสันของสินค้าใหม่ไป สนุกกับการลองสีมากๆ มาเริ่มด้วยอายแชโดว์ดีกว่าค่ะ ในคอลเล็กชัน Autumn จะเป็นรุ่น Three-dimention Eyes จะมีทั้งหมด 5 แบบ แต่ละแบบ มีสี่ช่อง แต่ว่ามีสองช่องที่จะแบ่งเป็นอายแชโดว์สามแบบ คือซ้ายบนและขวาล่าง จะมีเนื้อแมท เนื้อวิ้งละเอียด และวิ้งจัด ส่วนเนื้ออายแชโดว์ช่องซ้ายล่างกับขวาบนจะคล้ายๆ กันคือ เนื้อนุ่ม และเนียน เหมือนกำมะหยี่ วิ้งละเอียดและดูวิ้งเยอะมากๆๆๆ Swatch ของ Cool Beige ให้ดู ตัวพาเลต เราครึ่งรักครึ่งเกลียดค่ะ คือชอบสีมันสวย แต่ว่าบางสีจะเป็นโทนเหมือนสีเก่าๆ คือจะอ่อนๆ นู้ดๆ อะไรงี้ แต่ถ้าใครยังไม่เคยมีอายแชโดว์ของลูนาโซลสักอัน ก็น่าซื้อค่ะ โดยเฉพาะ Cool Beige และ Deep Beige จะเป็นสีที่ใช้ได้เรื่อยๆ (เราแนะนำสี Deep Beige มากกว่า เราชอบสีเข้มของมัน แต่ถ้าชอบอายแชโดว์โทนน้ำตาล เลือก Cool Beige โลดค่ะ) ใช้ร่วมกับอายไลเนอร์แบบดินสอ Line Styling Eyeliner จะเป็นแบบหมุนๆ มีสองด้าน สีเข้มและสีเนื้อ เค้าบอกว่าเป็นเจลไลเนอร์ในรูปแบบแท่ง เนื้อนุ่มดีค่ะ เขียนง่ายไหม...ก็ง่ายนะ แต่เรากลัวว่ามันจะหัก เพราะมันจะเป็นแท่งบางๆ เลยต้องเขียนระวังหน่อย สีเข้มไว้เขียนอินเนอร์ไลน์หรือขอบตา ส่วนสีอ่อน เราเอาไว้ไฮไลต์ใต้คิ้ว เราใช้ก็ติดทนดีนะคะ แต่ถ้าถามว่าชอบไหม เราไม่ชอบเท่าไหร่ เราชอบแบบดินสอมากกว่า เส้นใหญ่เขียนอินเนอร์ไลน์และเส้นขนาดต่างๆ ได้ดีกว่าแบบหมุนๆ (แต่แบบหมุนๆ เราชอบพกใส่กระเป๋าไว้นะ เพราะไม่จำเป็นต้องพกกบเหลาด้วยนั่นเอง) บลัชเป็น Limited Edition มีสองสี ส้มกับชมพู สวยทั้งสองสี แต่เรากำลังอินกับสีส้ม (ทั้งที่ปรกติใช้สีชมพูมากกว่า 555) บลัชเป็นแบบไล่สี ตรงสีขาวใช้เป็นไฮไลต์ได้ เราปัดแบบรวมๆ ทั้งสี่สีจะได้แบบนี้ สีดูไม่ค่อยต่างกันมากนะคะ เป็นสีอ่อนๆ ค่ะ ใครชอบโทนอ่อนหวานน่าจะถูกใจ เราชอบบลัชสีเดียวไปเลยมากกว่า :-D บลัชค่อนข้างติดทนค่ะ สำหรับริมฝีปาก ที่จัดมาเข้ากับคอลเล็กชันนี้ มีทั้งลิปสติกและลิปลิควิด มันต้องมีอีกหนึ่งคู่สีนะ แต่ทำไมเราลืมถ่ายรูปได้ก็ไม่รู้ Swatch สีสวยมากกกก Glamour Lip G จะเป็นลิปสติกเนื้อชุ่มชื้นแบบใน Swatch เลยค่ะ สีสวย เป็นโทนสีอ่อน แต่ไม่ได้ติดทนมาก ติดทนกลางๆ ลิปไม่มีกลิ่น เนื้อละเอียด Glamour Liquid Lips จะเป็นลิปสติกแบบลิปกลอส อยู่ในรูปแท่งแบบลิปกลอส สีสวย เนื้อสีไม่แน่นมาก กลบสีปากได้ดี ส่วนตัวเราพอทาเดี่ยวๆ แล้วจะแอบตกร่อง ต้องทาทับลิปสติกจะได้สีสวยและไม่ตกร่อง ลิปไม่มีกลิ่น มีวิ้งละเอียดแทบมองไม่เห็น แต่งบนหน้าจะได้แบบนี้ ปิดท้ายด้วยผลิตภัณฑ์ที่ได้มาลองหลังจากจบ work shop เป็นพาเล็ต 05 Deep Beige, ลิปลิควิดเบอร์ 12, และยาทาเล็บเบอร์ EX34 แต่งหน้าได้ประมาณนี้ ชอบมากกกก สีสวยค่ะ ส่วนยาทาเล็บลูนาโซลเป็นอะไรที่เราไม่ได้คาดหวังว่ามันจะดีเลย แต่มันดีมากๆๆๆๆ แปรงเรียวเล็ก ทาง่าย ถนัดมือ สีทาง่ายมาก คือ...ทาแล้วสวย เนื้อยาทาเล็บเ้ค้าดีอ้ะ ดีกว่า OPI ที่เราชอบอีก เราว่าเป็นยาทาเล็บเนื้อดีที่สุดที่เคยใช้มาเลย สี EX34 ก็สวยมากๆ เป็นสีน้ำตาลกลางๆ สุภาพ สวย ติดทนกลางๆ (เราล้างมือทำงานใช้มือเยอะ ตรงปลายเล็บสีจะลอกไว) ราคาไม่ทราบนะคะ แต่คุ้นๆ ตอนดูที่เคาน์เตอร์ประมาณ 400 บาท ทั้งหมดทั้งมวล เราแอบปลื้มยาทาเล็บมากที่สุด ใครชอบทาเล็บแล้วยังไม่เคยลองของลูนาโซล เราแนะนำสุดๆ   Create Date : 27 ธันวาคม 2554     Last Update : 7 มกราคม 2555 23:46:17 น. Counter : 3951 Pageviews.   4 comment Share Tweet

HOW TO: Sweet Watermelon Eyes มาแปะฮาวทูแสนดองอีกหนึ่งรายการค่ะ :-)) ยังคงเน้นแต่งแต่ตาเหมือนเคย และแน่นอน...เป็นสีสันสดใสนะคะ มาเริ่มกันเลยค่ะ 1. หลังจากลงอายไพรเมอร์เพื่อให้อายแชโดว์ติดทนแล้ว ใช้แปรงอายแชโดวขนาดเล็กแตะอายแชโดว์สีชมพูเข้ม (Sugarpill #Dollipop) ระบายทั่วเบ้าตา 2. ใช้แปรงอายแชโดว์อันเดิม (แต่ปัดสีชมพูเมื่อครู่ออกหน่อย) แตะอายแชโดว์สีเขียวอ่อน (MUFE Star Powder) ระบายตรงรอยพับเปลือกตา 3. ยังคงใช้แปรงอันเดิม แต่เช็ดแปรงแล้วก็แตะอายแชโดว์สีเขียวอมฟ้า (Sugarpill #Darling) ระบายขอบตาล่างราวครึ่งนึง 4. ใช้อายไลเนอร์สีขาว เขียนขอบตาล่างที่เหลือและหัวตา เอานิ้วเบลนด์ให้สีกลืนกัน 5. ใช้แปรงหัวตัดแตะอายแชโดว์สีขาวมีวิ้ง (Sugarpill #Lumi) ระบายทับอายไลเนอร์สีขาวเมื่อครู่ 6. เขียนอายไลเนอร์สีดำแบบหนาที่ขอบตาบน และลงมาที่ขอบตาล่าง 1 ใน 3 7. เขียนอินเนอร์ไลน์ด้วยอายไลเนอร์สีดำที่ขอบตาที่เราเขียนอายไลเนอร์เมื่อครู่ ได้แบบนี้ ยังติดค้างอีกหลายฮาวทูนะึึคะ แล้วเจอกันค่ะ :-))   Create Date : 26 ธันวาคม 2554     Last Update : 26 ธันวาคม 2554 12:42:53 น. Counter : 1429 Pageviews.   6 comment Share Tweet

REVIEW: KMA Satin Touch Primer + Muji Loose Powder #Pearl Natural REVIEW: KMA Satin Touch Primer ปริมาณ 30 ml ราคา ถ้าำจำไม่ผิด ประมาณ 300 กว่าบาท มันเป็นเบสใสช่วยให้เครื่องสำอางติดทน ทำให้หน้าเนียน (คำโปรยด้านหลังกล่อง) ส่วนผสม เนื้อของเบส เป็นสีใส เนื้อแน่น พอกดออกมาจะไม่เหลว มาทดสอบคุณภาพของมันกันค่ะ อ้อ...สภาพผิวของเรา เป็นคนผิวผสมค่อนข้างมัน บางครั้งทีโซนจะแห้งและลอก รูขุมขนกว้างปานกลาง มีรอยสิวจากการแกะ รูปแรก...เป็นรูปหลังลงบำรุงและกันแดด (รูปนี้หน้าแอบคล้ำแฮะ ช่วงก่อนหน้าหมองๆ ช่วงนี้ไม่เป็นแบบนี้นะคะ) รูปกลาง...หลังทา KMA ผิวดูสว่างขึ้นมากๆ สีผิวดูสม่ำเสมอขึ้น รูปที่สาม ซ้ายสุด...หลังจากนั้นลงรองพื้น แป้ง และเขียนคิ้ว หน้าดูเนียนกว่าเดิม (เพราะแป้งและรองพื้น) สีผิวกลมกลืนกันดีค่ะ ซูมให้ดู Before & After ทา KMA จะเห็นว่ารูปแรกทางซ้ายกับรูปกลาง เมื่อเทียบกันแล้วจะเห็นว่ารูขุมขนดูเล็กลงชัดเจน และพอทารองพื้นและแป้งตามรูปทางขวาสุด หน้าจะเนียนกว่าเดิม สรุป... เป็นไพรเมอร์ราคาไม่แพงที่เหมาะกับคนสภาพผิวมีปัญหาเรื่องรูขุมขน ผิวสีไม่สม่ำเสมอ เมกอัพไม่ติดทน หน้ามัน เพราะมันพรางรูขุมขนได้ดี ผิวสีจะดูกลมกลืนกันหลังทา ทำให้รองพื้นและเครื่องสำอางติดทนกว่าปรกติ ไม่ทำให้หน้ามันและค่อนข้างคุมมัน เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นสีใส ลักษณะเหมือนครีมข้นๆ ทาแล้วหน้าจะลื่นๆ เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ แพ็กเกจแบบหัวปั๊ม กดออกมาครั้งนึงก็ทาได้ทั่วหน้า ใช้งานสะดวกดีค่ะ เป็น Recommended Product สำหรับคนที่ต้องการหาไพรเมอร์ดีๆ ราคาไม่แพง มาต่อกันที่แป้งสุดเลิฟของเรา REVIEW: Muji Loose Powder #Pearl Natural ปริมาณเท่าไหร่ไ่ม่ได้ระบุไว้ แต่เป็นแป้งกระปุกใหญ่ ราคา 650 แป้งเปิดออกมาจะมีตะแกรงและพัฟ Pearl Natural จะเป็นแบบมีวิ้งละเอียด เป็นแป้งแบบมีวิ้งที่ปัดแล้วไม่วิ้งจัด ทำให้หน้าผ่องกำลังสวยค่ะ ชอบมากๆๆๆ มาทดสอบแป้งกันค่ะ สภาพผิวของเรา...ผิวผสมค่อนข้างมัน ทีโซนแห้งเป็นบางครั้งจนลอก รูขุนขนกว้างปานกลาง มีรอยสิว รูปแรก...ลงบำรุง กันแดด และตามด้วย Tinted Moisturizer หน้าจะออกมันนิดๆ เพราะตัว Tinted Moisturizer รูปที่สอง...ปัดแป้งมูจิ จะเห็นว่าหน้าดูวอกและเห็นวิ้งชัดเจนนะคะ แต่หน้าก็ดูเนียนขึ้นด้วย รูปที่สาม...ทิ้งสักไม่กี่นาที แป้งจะเซ็ตตัวกับหน้า ทำให้หน้าไม่วอกจััด แล้วก็หน้าดูสว่างกำลังดีค่ะ สรุป... เป็นแป้งฝุ่นสีเนื้ออ่อนๆ มีิวิ้งละเีอียด เนื้อแป้งละเอียดใช้ได้ (แต่ไม่ละเอียดที่สุด) ปัดแล้วหน้าจะผ่องขึ้น วิ้งไม่จัด ทำให้ไม่ดูวาวเกินเหตุ แต่ทำให้หน้าสว่างกำลังดี แป้งคุมมันกลางๆ ค่อนไปทางดี สำหรับคนหน้ามันกลางๆ อย่างเราถือว่าเอาอยู่ ราคา 650 อาจจะดูแพง แต่กระปุกใหญ่มาก ใช้ได้นาน พัฟที่ให้มานุ่มดีค่ะ แต่เราจะถนัดใช้แปรงปัด เพราะทำให้ปัดแป้งได้ปริมาณพอเหมาะ กระปุกใส ในรูปอาจจะดูก๊องแก๊ง แต่ไม่เลยนะคะ ค่อนข้างคุณภาพใช้ได้ ปรกติเราไม่ชอบแป้งมีวิ้งนะ เพราะกลัวหน้าเป็นลูกนิมิตร แต่ขอยกให้มูจิตัวนึงเลย เป็นแป้งฝุ่นแบบมีวิ้งที่ปัดแล้วไม่เวอร์ ปัดออกงาน ถ่ายรูปได้สวย แนะนำสำหรับคนที่อยากได้แป้งฝุ่นมีวิ้งทำให้หน้าผ่องแบบดีๆ สักกระปุกค่ะ   Create Date : 25 ธันวาคม 2554     Last Update : 25 ธันวาคม 2554 23:56:40 น. Counter : 9434 Pageviews.   4 comment Share Tweet

• Ainopopo
• Webmaster - BlogGang

• มิถุนา นิยาย แฟนเพจ
• มิถุนา @ Dek-D
• BlogGang.com