• My Guest Book...แวะทักทาย
• E-book ของมิถุนา
• ผลงานรวมเล่มของมิถุนา (พร้อมทดลองอ่าน)
• รวมฉากโรมานต์ที่ถูกตัดทอนไปของมิถุนา (กรุณาอีเมลมาขอพาสเวิร์ดเข้าอ่านที่ busaba401แอตhotmail.com)
• เรื่องสั้นและนิยายตอนพิเศษของมิถุนา
• กรงพยัคฆ์ [Romantic-Suspense...จบแล้ว]
• แผนลวงรัก (คู่แค้นแสนลวง)
• ใต้เงาพยัคฆ์ [Romantic - Suspense] จบบริบูรณ์
• คู่ร้ายหมายรัก [Romantic - Comedy] จบบริบูรณ์
• วายร้ายไม่หน่ายรัก (Notorious Love) [Romantic - Suspense] จบบริบูรณ์
• โซ่ร้อยรัก [เรื่องแปล] จบบริบูรณ์
• Truth or Die [เรื่องแปล] จบบริบูรณ์
• My Make-up Bag & My Closet
• MAC Pigments
• Eating Out
• Traveling Around
• ...
• .......

HOW TO: 4 types of Blue & Purple Eyes เป็นฮาวทูรวมๆ เฉพาะสำหรับดวงตานะคะ ดองไว้นาน แต่ช่วงก่อนโน้น แต่งโทนสีม่วงๆ ฟ้าๆ เยอะ เลยเอามารวมไว้ในบล็อกเดียว แบบจะค่อนข้างคล้ายกัน ไม่หวือหวามาก เพราะเราแต่งตามรูปตาของเรา แบบที่เหมาะกับเรา เวลาออกไปข้างนอกจะแต่งแบบเซฟกับตัวเองไม่มีลูกเล่นเลย มาเริ่มกันเลยนะคะ ก่อนแต่งตาทุกครั้งควรทาอายไพรเมอร์ก่อนเพื่อสีอายแชโดว์ชัดเจนและติดทนค่ะ HOW TO: Sweet Purple Eyes 1. เลือกอายแชโดว์สีม่วงอ่อน (Sugarpill #Paperdoll) ระบายทั่วเบ้าตา (ผสม magic eye changer เนื่องจากเป็นอายแชโดว์แบบผง ถ้าผสมน้ำจะทำให้ได้สีเข้มขึ้นและทนขึ้น) 2. เลือกอายแชโดว์สีม่วงเข้ม (Sugarpill #Weekender) ระบายเป็นรูป < ที่เบ้าตาแล้วลงมาที่ขอบตาล่างราว 1 ใน 3 3. เพิ่มประกายที่สีม่วง ลบเส้นแข็งๆ ของอายแชโดว์ม่วงออกโดยใช้อายแชโดว์สีขาวใสเป็นประกายสีเขียวอมฟัา (Sugarpill #Lumi) ระบายเหนือสีม่วงอ่อน เบลนด์ให้เส้นสีดูอ่อนลง 4. เขียนเส้นอายแชโดว์สีดำ (Sugarpill #Stella) เป็นรูป < ที่ขอบตาบนครึ่งหนึ่งและลงมาขอบตาล่าง 1 ใน 3 5. เอาอายแชโดว์สีเดิมในข้อ 3 ระบายที่หัวตาและขอบตาล่างที่เหลือ ได้ตาแบบนี้ HOW TO: Black Smokey with A Hint of Purple 1. ระบายอายแชโดว์สีดำวิ้ง (Urban Decay #Oil Slick) ให้ทั่วเบ้าตา และลงมาที่ขอบตาล่างราวเกือบครึ่ง 2. ระบายอายแชโดว์สีม่วงพลัม (Urban Decay #Rockstar) ที่ขอบตาล่างที่เหลือ 3. ระบายอายแชโดว์สีเนื้อ (Urban Decay #Virgin) ที่หัวตา 4. ใช้อายแชโดว์สีเดิมในข้อ3 แต่เปลี่ยนเป็นแปรงแบบพู่ๆ พุ่มๆ เบลนด์เส้นสีดำที่เบ้าตาให้ดูอ่อนลง ไม่แข็งเกินไป จะได้ตาแบบในสองรูปสุดท้าย HOW TO: Blue & Some Purple Eyes 1. ระบายอายแชโดว์สีน้ำเงินอมฟ้า (Mistine Celeb Bag) ทั่วเบ้าตา 2. ระบายอายแชโดว์สีดำเทา (Mistine Celeb Bag) ที่ช่วงหางตาเป็นรูป < 3. เลือกอายแชโดว์สีดำที่เข้มกว่าสีดำในข้อ 2 (Coastal Scent 88 Palette) ระบายที่ช่วงหางตาเป็นรูป < แต่ว่าระบายในพื้นที่ที่น้อยลงและเบลนด์ให้กลืนกับสีดำเทา 4. ระบายอายแชโดว์สีม่วงแบบลาเวนเดอร์ (Coastal Scent 88 Palette) ที่กลางระหว่างสีดำกับสีน้ำเงินอมฟ้า 5. ระบายอายแชโดว์สีม่วงอ่อนมีวิ้ง (Urban Decay #Grifter) ที่ขอบตาล่างที่เหลือ 6. ระบายอายแชโดว์สีขาววิ้ง (Urban Decay #Polyester Bride) ที่หัวตา 7. ระบายอายแชโดว์สีมุกๆ (Coastal Scent 88 Palette) ใต้คิ้ว 8. เขียนอายไลเนอร์สีดำ (Coastal Scent) แบบบางๆ และหางแหลมๆ แบบในรูป จะได้แบบนี้ HOW TO: Cobolt Blue Eyes 1. ระบายอายแชโดว์สีน้ำเงินสด ZSugarpill #Royal Sugar ผสม magic eye changer) ระบายทั่วเบ้าตาและลงมาที่ขอบตาล่าง 1 ใน 3 2. ระบายอายแชโดว์สีน้ำเงินอมฟ้า (Mistine Celeb Bag) ที่เบ้าตา เหนืออายแชโดว์สีน้ำเงินสด เพื่อให้เส้นขอบๆ เลือนลง 3. ระบายอายแชโดว์สีเนื้อ (Urban Decay #Virgin) ที่ใต้คิ้วและเบลนด์ให้เข้ากับสีน้ำเงินอมฟ้า 4. เขียนอายไลเนอร์สีขาววิ้ง (Skinfood) ที่ขอบตาล่างและหัวตา เอานิ้วเบลนด์ให้เส้นไม่แข็ง 5. ระบายกลิตเตอร์วิ้งๆ สีขาวเหลือบฟ้า (MAC Glitter #Reflects Blue) ทับอายไลเนอร์สีขาว 6. เขีัยนอินเนอร์ไลน์ขอบตาบนด้วยอายไลเนอร์สีดำ (Make Up For Ever) 7. เขียนขอบตาบนด้วยอายไลเนอร์แบบน้ำสีดำ (Majolica) เป็นอายไลเนอร์มีหาง และลากลงมาที่ขอบตาล่าง 1 ใน 3 จะได้แบบนี้ ครบสี่แบบแล้วค่ะ ช่วงนั้นแต่งแต่ตาแนวนี้ตลอด สังเกตได้จากพาเลตที่ใช้เป็นพาเลตอันเดิมๆ สีโทนเดิมๆ แล้วเจอกันบล็อกหน้าค่ะ   Create Date : 09 กันยายน 2555     Last Update : 9 กันยายน 2555 11:42:14 น. Counter : 2504 Pageviews.   0 comment Share Tweet

REVIEW: Nars Orgasm Illuminator มีช่วงนึงบ้าพวกวิ้งๆ ทั้งหลายมาก Nars Orgasm Illuminator เป็นอีกตัวที่มีเพื่อนให้มาและเราใช้แทบทุกวันจนหมดหลอดเล็กๆ ที่ได้มาเลย Nars Orgasm Illuminator เอาไว้ทาหน้าเพื่อทำให้หน้าดูกระจ่างใส มีสุขภาพดี ผสมกับรองพื้นแล้วจะได้ผิวโกลววิ้ง หรือจะทาตามพวกโหนกแก้ม โหนกคิ้ว เน้นแทนไฮไลต์ก็ได้ หรือจะทาตัวก็ยังได้ แต่เราชอบเอามาผสมกับรองพื้นให้ได้ผิวหน้าวิ้งฉ่ำๆ มากกว่า อันนี้เป็นหลอดทดลอง 2 ml ราคาตามเว็บประมาณ 100 กว่าๆ Swatch สีออกส้มๆ อมทอง พอเบลนด์แล้วจะเห็นว่าวิ้งมันไม่จัดมากนะคะ หลังมือจะดูวาวๆ มากกว่า เราชอบเอามาผสมกับรองพื้นแบบนี้ (รองพื้นเราผสมสองยี่ห้อนะคะ สีเลยมีสองสี) ทาแล้วจะได้หน้าแบบนี้ จากในรูปจะเห็นว่าสีผิวดูสม่ำเสมอ (ด้วยรองพื้น) แต่หน้าโกลวน้อยๆ ไม่เห็นวิ้งน่าเกลียด ใครที่รูขุมขนใหญ่ก็ใช้ได้ (รูปทั้งสองอันบนและล่างสีออกต่างกันเพราะกล้องคนละตัวนะคะ) แล้วลองมาทา Nars Orgasm Illuminator เดี่ยวๆ ตามด้วยรองพื้นนะคะ จะได้แบบนี้ ถ้าถามว่าผิวดูโกลวไหม ด้วยตาเปล่า และผิวแย่ๆ ของเรา เราไม่เห็นชัดเจนนะคะ แต่คิดว่าถ้าเป็นคนผิวดีอยู่แล้ว เราว่าใช้ Nars Orgasm Illuminator น่าจะเห็นผลได้ชัดกว่าผิวแบบเราแน่นอน แต่หลังลงรองพื้นทาแป้งแล้ว หน้าจะออกโกลวนิดๆ สีสวยกำลังดี เหมาะกับคนผิวทั่วไป หรือผิวมีปัญหาก็ใช้ได้ค่ะ สรุป... เนื้อครีมสีออกส้มทอง มีวิ้งทองเหลือบๆ เนื้อค่อนข้างเหลวเหมือนโลชั่น เข้าใจว่าน่าจะทำให้ทาตัวได้ง่าย เห็นสีตอนบีบออกมาจะคิดว่าวิ้งเยอะน่ากลัว แต่พอทาแล้วหน้าไม่เห็นวิ้งชัดเจน อาจจะมีวิ้งนิดๆ แต่น้อยมาก หน้าจะออกวาวๆ โกลวๆ มากกว่า สีสวยค่ะ ทาได้ทั้งทั่วหน้าหรือตัว หรือจะผสมรองพื้นทาก็ยังได้ แต่เราว่าทา Nars Orgasm Illuminator ก่อนทารองพื้นจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า หน้าโกลวกว่า ถ้าผสมรองพื้นทาจะออกเหมือนรองพื้นมีวิ้งมากกว่า ราคาค่อนข้างแพงค่ะ แต่ถ้าใครมีงบ คิดว่าคุ้มทีเดียว เหมาะกับคนมีปัญหาเรื่องรูขุมขนด้วย เพราะมันไม่มีวิ้งจัด ไม่เน้นรูขุมขน เนื้อครีมก็เบลนด์ง่าย ไม่เป็นคราบ กลิ่นหอมอ่อนๆ ออกแนวผลไม้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่มองหาผลิตภัณฑ์ทำให้หน้าดูมีสุขภาพดีค่ะ   Create Date : 08 กันยายน 2555     Last Update : 8 กันยายน 2555 16:39:30 น. Counter : 4772 Pageviews.   0 comment Share Tweet

TRICK: การผสมสีบลัช เคยเป็นไหมคะ ซื้อบลัชสีซ้วยสวยมา แต่ว่าพอมาลองปัดบนแก้ม สีที่เห็นบนแก้มทำให้หน้าหมอง หน้าดับ สีไม่เข้ากับหน้า เราเจอปัญหากับ Candy Doll สี Carrot Orange ซึ่งเป็นสีส้มเหลือง เรารู้ตั้งแต่ตอนซื้อแล้วล่ะว่าสีมันจะต้องดับสำหรับคนผิวขาวเหลือง แต่เราอยากได้ เราว่าสีมันแปลก และแน่นอนว่าปัดกับแก้มโดยตรงไม่ค่อยได้ เหมือนคนเป็นดีซ่าน เลยเอาสีมาผสมกับบลัชโทนชมพูอันอื่น สีที่เลือกมาผสมกับ Candy Doll Carrot Orange เป็น Urban Decay Quickie เทียบสี จะเห็นเลยว่า Carrot Orange ออกส้มเหลืองชัดเจน อันนี้ผสมบนแขนให้ดูนะคะ จะเห็นว่าจากบลัชที่มีสองสี เราจะมีถึงสามสี เพราะสีใหม่ที่ผสมใหม่เลย วิธีการผสมสีบลัช ง่ายมากกกกก แต่ต้องมีแปรงปัดแก้มก่อนนะคะ ใช้แปรงจิ้มสีบลัชสลับกันไปมาระหว่างสองสี เช่น จุ่มๆ ที่สี carrot orange 2 - 3 ที แล้วเปลี่ยนไปจุ่มที่ quickie อีก 2 - 3 ที แล้วกลับไปที่ carrot orange แล้วกลับมาที่ quickie เคาะแปรงนิดหน่อย ให้ผงบลัชที่เกินๆ ออกไปก่อน แก้มจะได้ไม่สีจัดเกิน จากนั้นเอามาปัดแก้ม จะได้แบบนี้ เทียบซ้ายขวานะคะ ซ้ายเป็นสี carrot orange เพียวๆ แก้มติดเหลืองเลย รูปกลางผสมทั้ง carrot orange กับ quickie เข้าด้วยกัน ได้สีออกชมพูอมแดงกำลังงามเลย รูปขวาสุดจะเป็น quickie แบบเดี่ยวๆ จะเห็นว่าสีต่างกันชัดเจนนะคะ พอผสมแล้วได้สีที่ต่างออกไปจริงๆ ก็ฝากทริกสั้นๆ ไว้เท่านี้นะคะ ใครมีบลัชที่ไม่ได้ใช้ ใช้ไม่ได้ ลองเอามาผสมแบบนี้ดูค่ะ นอกจากนี้ยังสามารถปัดสีอ่อนเข้มได้จากน้ำหนักในการลงสีบลัชด้วยค่ะ   Create Date : 07 กันยายน 2555     Last Update : 7 กันยายน 2555 10:46:43 น. Counter : 2825 Pageviews.   0 comment Share Tweet

REVIEW: Dejavu Perfect Liner + Dejavu Lasting-fine #Deep Black ทั้งสองชิ้นนี้ได้มาจากเวิร์กชอปนะคะ ทำรีวิวไว้นานแล้ว เพิ่งมาครึ้มๆ เขียนรีวิวเอง Dejavu Perfect Liner ราคา 390 บาท เป็นอายไลเนอร์หัวเมจิก คำโปรยด้านหลัง เป็นอายไลเนอร์แบบฟิล์ม ทนน้ำและความมัน ส่วนประกอบ แกะมาดูชัดๆ หัวแปรง เป็นหัวเมจิก เหมือนปากกาหัวกำมะหยี่ เราว่ามันแอบแข็ง บางคนอาจจะไม่ชอบ แต่มันอาจจะทำให้คนที่เขียนอายไลเนอร์ไม่เก่ง เขียนได้ง่ายเนื่องจากหัวมันแข็งนั่นเอง ก่อนจะดูประสิทธิภาพและ swatch ขอข้ามมาแนะนำ Dejavu Lasting-fine #Deep Black ก่อนนะคะ ราคา 390 เป็นอายไลเนอร์แบบดินสอ สีดำเข้มๆๆ คำโปรยด้านหลัง บอกว่าเป็นอายไลเนอร์เนื้อนุ่ม ติดทน สีดำ (รุ่นนี้มีสามสี ดำธรรมดา ดำเข้มที่กำลังรีวิว แล้วก็สีน้ำตาลเข้ม) ส่วนผสม หน้าตาเต็มๆ เปิดมาดู จะเป็นแบบดินสอหมุนๆ หัวดินสอเล็กมากกว่าพวกอายไลเนอร์ดินสอหมุนๆ ทั่วไปมากๆ Swatch และความทนของทั้งสองอายไลเนอร์ รูปแรกจะเป็น Swatch นะคะ รูปที่สอง หลังจากเขียนแล้วเอามือถู ติดทนมาก ไม่เลือน รูปที่สาม เอาน้ำลูบๆ จะเห็นว่า perfect liner จะแอบมีเลือนนิดๆ แต่ lasting-fine ทนดีมาก รูปที่สี่ เอา cleansing express ลูบๆ เช็ดๆ ทั้งสองอันเลือนนะคะ แต่ว่า lasting-fine จะดูทนมากกว่า ลองบนตา (เปลือกตาของมิถุนาค่อนข้างมัน แต่ยังไม่มันมากที่สุด ปัญหาที่พบคือตาหลบในทำให้อายไลเนอร์เลอะง่าย) เริ่มด้วย Dejavu perfect liner อันนี้พอดีไม่มีรูป before มีแต่ after ที่ผ่านไปแล้วหกชั่วโมง จะเห็นว่าติดทนมาก ไม่เลือนเลย ตรงร่องน้ำตาก็ไม่เลอะด้วย ถือว่าเป็นอายไลเนอร์แบบน้ำที่ให้เส้นคมชัด และค่อนข้างทน แต่ว่าข้อเสียที่เราไม่ชอบคือ หัวเมจิกจะแข็ง บางทีเขียนแล้วเจ็บตา เส้นที่ลากหางแบบกระดกจะไม่พลิ้ว เนื่องจากหัวเมจิกแข็งๆ อีักนั่นแหละ แล้วเราว่าัพวกอายไลเนอร์หัวเมจิก ซึ่งเดจาวูก็พบปัญหานี้ มันจะหมึกหมดเร็ว หรือบางทีมันยังไม่หมดหรอก แต่ว่าเขียนไม่ได้แล้ว เอาหัวปากกาทิ่มลงก็ัยังเขียนไม่ได้ และถ้ามันเหลือน้อย จะทำให้บางทีจะมีปัญหาที่ว่าเขียนไม่ติดตาถ้าทาอายแชโดว์หรือแป้งเยอะเกินไป Dejavu lasting-fine อันนี้ก็ติดทนเหมือนกันค่ะ ผ่านมาหกชั่วโมงก็แทบไม่เลอะเลย จะเห็นรูป After ตรงรอยพับเราจะมีเลอะนิดหน่อย ซึ่งปรกติถ้าใช้อายไลเนอร์ดินสอทั่วไป มันจะไม่เลอะแค่นี้แน่นอน เราเคยกล่าวในบล็อกรีวิวก่อนหน้าว่า Dejavu Lasting-fine เป็นอายไลเนอร์ที่ไม่เลอะสำหรับเรา ดีมากๆ ดีกว่า Shu Uemura ที่เราปลื้มอีก แต่ว่ามันมีข้อเสียคือเนื้อฝืด เขียนยาก และไส้เล็ก ทำให้หักง่าย ราคาก็ถือว่าแพง เมื่อเทียบกับปริมาณและความเสียหายที่มักเกิดตอนเขียน (คือเขียนแล้วชอบไส้หัก) ขอสรุปสั้นๆ กับอายไลเนอร์ทั้งสองนะคะว่า เหมาะกับคนเปลือกตามันค่ะ แต่ก็มีข้อเสียดังที่กล่าวไว้ด้านบน ส่วนราคากับปริมาณ เราว่าถือว่าราคากลางๆ เกือบจะแพง แต่ก็เป็นราคาที่รับได้ค่ะ   Create Date : 06 กันยายน 2555     Last Update : 6 กันยายน 2555 13:27:17 น. Counter : 3132 Pageviews.   0 comment Share Tweet

REVIEW: แว็กซ์คิ้วสวยๆ ที่ Anastasia Beverly Hills บล็อกดองนะคะ อย่างที่เคยบอกไว้นานมากๆ ว่ามีของดองเพียบบบบบ พอดีตอนไปเวิร์กชอปกับ Anastasia ได้ Voucher มาสำหรับการใช้บริการแต่งคิ้วแว็กซ์คิ้ว เลยได้ไปลองใช้เป็นครั้งแรก เลยเอาหน้าตาคิ้วที่ Anastasia จัดมาให้ใหม่มาให้ดูกันค่ะ เผื่อใครสนใจจะใช้บริการ ก่อนใช้บริการ งดกันคิ้วสองอาทิตย์ ห้ามทำเลเซอร์ต่างๆ ลักษณะสถานที่ เข้าไปแล้วดูหรูหรา เรียบร้อย จะมีห้องเข้าไปให้บริการแบบส่วนตัว ห้องก็ค่อนข้างใหญ่ค่ะ สะอาด และมีกระจกบานใหญ่ อุปกรณ์ครบครัน ก่อนจะแว็กซ์ ช่างจะถามก่อนว่าชอบคิ้วแนวไหน เราบอกว่าชอบแบบไม่บาง และโค้งนิดหน่อย Anastasia จะมีหลัก Golden Ratio กำหนดจุดคิ้วโดยดูองค์ประกอบรวมของหน้า หลังจากเช็ดคิ้วที่เราเขียนมาเองแล้วก็มีโปะผ้าร้อน แล้วค่อยเริ่มกำหนดโครงโดยเค้าจะใช้สีน้ำตาลระบายจนคิ้วหนามากๆ เลยล่ะค่ะ พอวาดโครงเข้มๆ แล้วเค้าถึงจะเริ่มแว็กซ์ ตอนแว็กซ์เราเฉยๆ นะ ไม่เจ็บ ไม่ระคายเคือง แต่บางคนที่ไม่คุ้นอาจจะมีเจ็บๆ บ้าง แว็กซ์เสร็จเจ้าหน้าที่ถึงจะค่อยเริ่มวาดคิ้วให้ใหม่ ถ้าใครสงสัยว่าจะวาดยังไง ก็สอบถามเ้จ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ คิ้วที่ได้จะเป็นแบบนี้ ดูข้างเดียวก่อนนะคะ แบบสองข้าง (พอดีเราทำผมแบบเปียคาด มันเลยจะบังคิ้วบางส่วนไป) จะเห็นว่าคิ้วที่เค้าวาดให้ใหม่เป็นโครงแบบคิ้วโก่งเลยล่ะ ดูเป็นโครงสวยมาก แต่เราแอบไม่ชิน เพราะเราไม่ชอบให้มันเป็นกรอบๆ มันจะดูแข็งๆ แต่สามารถไปวาดเองแบบที่ตัวเองชอบได้ในภายหลังนะคะ เพราะการแว็กซ์คิ้วเป็นการช่วยกำหนดโครงร่างคิ้วให้เรามากกว่า แล้วสุดท้ายคิ้วจะสวยหรือไม่สวยก็ขึ้นอยู่กับการเขียนคิ้วและการกันคิ้วครั้งต่อไปล่ะค่ะ ถ้าถามว่าคุ้มกับราคาไหม เราว่าจะคุ้มมากถ้ากันคิ้วไม่เป็น อยากให้คนหัดกันสอนเขียนคิ้ว ดูหลักการวาดโครงคิ้วที่เหมาะกับตัวเอง แต่ถ้าใครที่เชี่ยวชาญอยู่แล้วก็คงไม่จำเป็น ใช้เวลาในการแว็กซ์เกือบหนึ่งชั่วโมง ค่าบริการแว็กซ์คิ้วอยู่ราวๆ 1000 บาท (จำราคาแน่นอนไม่ได้นะคะ เดี๋ยวด้านล่างจะทิ้งเบอร์ของแต่ละสาขาไว้ให้โทร.ไปสอบถามกันเองค่ะ)ควรจะโทร.ไปจองล่วงหน้า สาขาที่ Anastasia มีคือ Central Ladprao 3rd Fl., Tel : 02-986-7557-9 The Emporium 4th Fl., Tel : 02-664-7440-2 Central World 3rd Fl., Tel : 02-613-1330, 02-613-1549   Create Date : 05 กันยายน 2555     Last Update : 5 กันยายน 2555 18:53:00 น. Counter : 3810 Pageviews.   2 comment Share Tweet

• Ainopopo
• Webmaster - BlogGang

• มิถุนา นิยาย แฟนเพจ
• มิถุนา @ Dek-D
• BlogGang.com