Group Blog
 
All blogs
 

HOW TO: Vixen Purple Eyes (With Purple Contact Lens)

อันนี้เห่อค่ะ...

พอดีได้อายแชโดว์สีม่วงแจ๋นๆ มาสมใจ อยากเอามาแต่งคู่กับคอนแทกเลนส์สีม่วง เลยกลายเป็นฮาวทูสำหรับตานี้ (ดูรีวิวอายแชโดว์ทั้งพาเล็ตได้ ที่นี่)

หลังจากทาอายเบสแล้ว ใช้แปรงอายแชโดว์หัวเล็กแตะสีอายแชโดว์ม่วงจัด (Urban Decay #Flash)



ระบายเปลือกตา...ทั่วเบ้าตา (คอนแทกเลนส์ของ Geo รุ่น 3-tone ค่ะ ดูรีวิวได้ที่นี่)



เปลี่ยนเป็นแปรง Crease สำหรับเบลนด์สี แตะอายแชโดว์สีดำ (NYX #I dream of Barbados)



ระบายตรงรอยพับเปลือกตาราวครึ่งหนึ่ง



เปลี่ยนเป็นแปรงหัวตัด (หรือแปรงที่หน้าตัดแบนๆ) ทำเป็นรูป < แล้วระบายเลยลงมาที่ขอบตาล่างราว 1 ใน 3



ใช้แปรงอันเดิม แต่เช็ดแปรงนิดนึง แล้วแตะสีม่วงอ่อน



ระบายต่อจากสีดำ (NYX #I dream of Barbados)



เปลี่ยนแปรง (หรือเช็ดแปรงอันเดิมแล้วใช้ต่อก็ได้ค่ะ) แตะอายแชโดว์สีขาวมุก (ฺBourjois Smoky Eyes #Violet Romance)



ระบายต่อจากสีม่วง



เลยไปที่หัวตา



กลับไปใช้แปรง Crease อันเดิม แต่เช็ดสีดำออกนิดนึง แตะอายแชโดว์สีม่วงอมฟ้าอ่อนๆ



เบลนด์สีบนขอบอายแชโดว์ตรงเปลือกตาด้านบน



ได้แบบนี้ (สามารถแต่งแค่นี้ได้)



กรีดอายไลเนอร์แบบน้ำสีดำ (In2it แบบน้ำ สีดำ)



เขียนขอบตาบน



ตวัดหางแบบนี้ (สามารถหยุดแต่งตาได้ที่ขั้นตอนนี้)



ลากเส้นต่อมาที่ขอบตาล่าง



ลากสั้นยาวไปทั้งขอบตา เส้นบางๆ



ตรงหัวตา เขียนเป็นรูป >



ได้แบบนี้ (จริงๆ เส้นอายไลเนอร์จะต้องล้อมรอบทั้งดวงตานะคะ แต่พอดีมิถุนาเป็นคนตาเล็ก ไม่ได้เบ้าตาลึก เวลาเขียน เส้นตรงหัวตาเลยดูหายไปด้านในตา ถ้าเป็นคนที่เบ้าตาลึก ชัด จะเห็นเส้นอายไลเนอร์ทั้งหมดและชัดเจน)



เพิ่มความคมเ้ข้มด้วยอายไลเนอร์ดินสอสีดำ (Shu Uemura #M Black)



เขียนทั้งขอบตาบนและล่าง



ได้แบบนี้



เก็บรายละเอียดเล็กน้อย

ใช้แปรงหัวตัดแตะอายแชโดว์สีดำ ระบายตรงขอบตาล่าง ริมหางตา ใต้อายไลเนอร์ ประมาณ 1 ใน 3



เช็ดแปรงแล้วแตะอายแชโดว์สีม่วงอ่อน (ของ NYX) ระบายต่อจากสีดำ (คือตรงกึ่งกลางขอบตาล่าง แต่ใต้เส้นอายไลเนอร์)



สำเร็จแล้ว



ติดขนตาปลอมนิดนึง อยากให้ตาหวานๆ คมๆ (ใช้ของ MAC ถ้าจำไม่ผิด เบอร์ 8)



เทียบตาตอนติดกับไม่ติดนะคะ

ดูเปลี่ยนไปว่าไหมคะ


*คลิกเพื่อขยาย

ตาสำเร็จ


*คลิกเพื่อขยาย

ปัดแก้มด้วย...บลัชครีมสีชมพูอ่อน Privacy Face Glitter
ปากทา...ลิปสติกสีชมพู CastleDew #187
ทาทับด้วย...กลอสสีชมพูประกาย MAC Dazzleglass #Funtabulous

ได้ประมาณนี้



ลืมตา



ทิ้งท้ายด้วยรูปแบบไม่เปิดแฟลช



ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะอัพในบล็อกนะคะ แล้วเจอกันค่ะ

บล็อกล่าสุด

REVIEW: Biore Perfect Cleansing Oil V.S. Biore Cleansing Milk


HOW TO: ซ่อมอายแชโดว์แตก + DIY: Press Pigments




 

Create Date : 02 ตุลาคม 2553    
Last Update : 3 ตุลาคม 2553 14:52:56 น.
Counter : 2765 Pageviews.  

REVIEW: Biore Perfect Cleansing Oil V.S. Biore Cleansing Milk

เมื่อประมาณสองอาทิตย์ก่อน ได้กล่องนี้มาจากคุณอุ้ม ฮาคูโฮโด

ความจริงต้องได้ตอนไปงานเวิร์กช็อปของบีโอเร แต่มิถุนาดันไม่ว่างกะทันหัน เลยไม่ได้ไป และคุณอุ้มก็ส่งของมาให้ที่บ้านแทน


*คลิิกเพื่อขยาย

Biore Perfect Cleansing Oil V.S. Biore Cleansing Milk


*คลิกเพื่อขยาย

Biore Perfect Cleansing Oil เคลมว่า ล้างได้กระทั่งเครื่องสำอางกันน้ำ

Biore Cleansing Milk เคลมว่า อ่อนโยนต่อผิว

มาดูประสิทธิภาพของทั้งสองกันนะคะ

เริ่มด้วย...

Biore Cleansing Milk

คำโปรยด้านหลัง


*คลิกเพื่อขยาย

เป็นโลชั่นน้ำนมล้างเครื่องสำอางได้หมดจดแม้กระทั่งรองพื้น ปกป้อง PH Balance ตามธรรมชาติ คืนความชุ่มชื่นให้ผิว ผิวไม่แห้งตึง

ปริมาณ 180 ml

ราคา 220 บาท

เนื้อผลิตภัณฑ์



สีขาวขุ่น กลิ่นหอมอ่อนๆ ลักษณะเหมือนโลชั่นที่เหลวๆ

ลองมาล้างหน้ากันนะคะ

เมกอัพเต็มที่ ทั้งรองพื้นกันน้ำ และอายไลเนอร์กันน้ำ



วิธีใช้...

กดประมาณ 2 - 3 ปั๊ม (มิถุนาว่าสองปั๊มกำลังดี) นวดเบาๆ ทั่วใบหน้าและตา แล้วค่อยล้างออก



เนื่องจากแต่งตาเยอะ เลยเน้นตาเป็นพิเศษ

จะเห็นว่าอายแชโดว์ อายไลเนอร์ละลายออกมา



นวดไปสักพักจนคิดว่าสะอาดดีก็ล้างออก



สะอาดเกลี้ยงเลยค่ะ ที่ตาก็สะอาดมากอย่างไม่น่าเชื่อ ตอนแรกคิดว่าจะล้างอายไลเนอร์ไม่ได้เสียอีก



สรุป...

ชอบเนื้อโัลชั่น กลิ่นหอม ไม่ฉุน ค่อยๆ นวดหน้าไปเรื่อยๆ ล้างเครื่องสำอางต่างๆ ได้เกลี้ยง ล้างเครื่องสำอางบริเวณดวงตาได้ไม่แสบตา แต่ความจริงมิถุนาก็ไม่กล้าเน้นนวดตานานๆ เพราะว่ากลัวคลีนซิ่งมิลค์เข้าตา (แต่เข้าตาก็ไม่แสบนะคะ ไม่เหมือนตัวคลีนซิ่งออย) เลยทำให้บางทีล้างพวกอายไลเนอร์ อินเนอร์ไลน์ได้ไม่หมด ต้องใช้สำลีชุบเมกอัพรีมูฟเวอร์เช็ดซ้ำ แต่ผลลัทธ์การใช้เป็นที่พอใจ หลังล้างน้ำเปล่าแล้ว หน้านุ่ม ไม่แห้ง และไม่มีติดลื่นๆ หน้าสะอาดดีค่ะ

มาดูอีกฝั่งกันบ้าง...

Biore Perfect Cleansing Oil

คำโปรยด้านหลัง


*คลิกเพื่อขยาย

เป็นออยล้างหน้า ล้างเครื่องสำอางกันน้ำได้ ใช้ได้แม้มือเปียก โดยประสิทธิภาพทำความสะอาดไม่ลดลง ไม่ทิ้งความมันหลังล้าง หน้าชุ่มชื่น กลิ่นสดชื่น

ปริมาณ 150 ml

ราคา 380 บาท

เนื้อผลิตภัณฑ์



เป็นออยเหลวใส กลิ่นแรง (มิถุนาว่ากลิ่นเหมือนแชมพู แต่เค้าว่าเป็นกลิ่นแอปเปิลอ่าค่ะ)

ลองมาล้างหน้าด้วยคลีนซิ่งออยกันบ้าง

หน้าที่เต็มไปด้วยเมกอัพ รองพื้น และอายไลเนอร์เต็มที่



วิธีใช้...

กดประมาณ 4 ปั๊ม (มิถุนาว่าหนึ่งปั๊มกำลังดี) นวดเบาๆ ทั่วใบหน้าและตา แล้วค่อยล้างออก



นวดไปสักพักก็ลองเอามือจุ่มน้ำแล้วล้างต่อ อยากรู้ว่าถ้ามือเปียกจะล้างต่อไปได้หรือเปล่า



พอนวดไปสักพัก และคิดว่าสะอาดดีก็ล้างน้ำเปล่า



ดูเกลี้ยงดีนะคะ

มาดูที่ตาบ้าง (ตอนล้างตานี่ ต้องนวดระวังมาก เคยซื้อบีโอเรคลีนซิ่งออยมาใช้แล้วเผลอทำเ้ข้าตา แสบสุดๆ ค่ะ)



เกือบจะสะอาดหมดนะคะ ดูตรงหางตา กับกลางตาจะเห็นเส้นอายไลเนอร์เหลือนิดเดียว (บอกตามตรงว่าไม่กล้านวดย้ำเยอะ กลัวออยเข้าตา)

สรุป...

ตัวคลีนซิ่งออย เนื้อออยเหลว กลิ่นค่อนข้างฉุน ไม่ชอบเท่าไหร่ เวลาใช้ กดแค่หนึ่งปั๊มก็พอค่ะ สี่ปั๊มอย่างที่ฉลากบอกมันรู้สึกว่าเยอะเกินไป ใช้ได้ทั้งที่มือเปียก รู้สึกว่าล้างได้ดีพอๆ กับล้างหน้าแห้ง แต่ว่าเวลาล้างตาอาจจะไม่ดีเท่าตอนที่หน้าและมือแห้ง (ตามที่รู้สึกนะคะ) เวลานวด ห้ามทำออยเข้าตาเด็ดขาด เพราะจะแสบตามากๆ ทำให้เน้นล้างที่ดวงตาไม่ได้ อายเมกอัพจึงยังคงเหลือตกค้าง ต้องล้างอีกครั้งด้วยเมกอัพรีมูฟเวอร์ หลังล้างด้วยน้ำสะอาด หน้าดูลื่นๆ ไม่เหมือนคลีนซิ่งมิลค์ที่หน้าดูสะอาด ไม่ติดลื่น เป็นออยที่ใช้แล้วหน้าไม่แห้งมากนะคะ เคยใช้ออยบางยี่ห้อ หลังล้างหน้าแล้วจะรู้สึกว่าหน้าแห้งๆ แต่ของบีโอเรไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่ค่ะ

สรุปรวม...

สำหรับทั้งคลีนซิ่งมิลค์และออย ดีทั้งคู่ค่ะ สามารถล้างเครื่องสำอางได้สะอาด แต่อาจจะยกเว้นรอบดวงตาที่ระคายเคืองง่าย ทำให้ไม่กล้าใช้ผลิตภัณฑ์ใกล้บริเวณนั้นเยอะ เช็ดด้วยเมกอัพรีมูฟเวอร์ทีหลังจะดีกว่า

ถ้าจะให้เลือกใช้ระหว่างคลีนซิ่งมิลค์กับคลีนซิ่งออย ขอเลือกมิลค์มากกว่า เพราะว่ากลิ่นไม่ฉุน ล้างหน้าไม่ติดความลื่น หน้านุ่ม ไม่แห้ง (คือตัวมิลค์จะชุ่มชื่นกว่าออย) ล้างเครื่องสำอางได้สะอาด ไม่แสบตา แล้วก็ปริมาณมากกว่า แถมยังราคาถูกกว่าด้วย

ในกล่องที่ได้มา มีตัวอย่างเหล่านี้ด้วยค่ะ



ซึ่งเคยรีวิวไว้แล้ว สามารถอ่านได้ที่ลิงค์ด้านล่าง

ⓡⓔⓥⓘⓔⓦ Biore UV Aqua Rich Watery Mousse & Watery Jelly

ⓡⓔⓥⓘⓔⓦ Biore Perfect Cleansing Cotton

บล็อกล่าสุด

HOW TO: Vixen Purple Eyes (With Purple Contact Lens)


HOW TO: ซ่อมอายแชโดว์แตก + DIY: Press Pigments




 

Create Date : 01 ตุลาคม 2553    
Last Update : 3 ตุลาคม 2553 14:53:16 น.
Counter : 16133 Pageviews.  

REVIEW: เปรียบเทียบ Urban Decay Primer Potion #Sin V.S. Etude Proof 10 Eye Primer

Urban Decay Primer Potion อายไพรเมอร์ยอดฮิตของสาวๆ ต่างประเทศ เป็นสี Sin นะคะ (เดี๋ยวด้านล่างสุดจะมีเปรียบเทียบกับอายไพรเมอร์ที่มิถุนาชอบอีก และแนะนำคู่แฝดของ UDPP Sin ด้วย)



สี Sin จะออกสีเนื้อ/แชมเปญวิ้งๆ ลองใช้มาหลายครั้ง พบว่าทำให้อายแชโดว์ติดทนขึ้นมาก สีอายแชโดว์ชัดเจนขึ้น แต่ไม่ชัดเจนมากเท่าอายไพรเมอร์ยี่ห้ออื่น อาจเป็นเพราะความวิ้งและสีของมัน


*คลิกเพื่อขยาย

ทางซ้ายเป็น UDPP ข้างขวาเป็น Etude (อ่านรีวิว Etude ได้
ที่นี่
)

UDPP สี Sin จะมีวิ้งๆ นิดหน่อย แต่ของ Etude ไม่ออกสีค่ะ

พอทาอายแชโดว์ (ใช้ Wet n Wild กับ Urban Decay) จะเห็นว่าฝั่ง UDPP สีดูอ่อนกว่าฝั่ง Etude แต่อย่างที่บอกไว้แต่แรก พอทา UDPP Sin แล้วทาอายแชโดว์ทับ สีจะดูอ่อนลง แต่ไม่แน่ใจว่าถ้าเป็น UDPP สีธรรมดาจะได้สีอายแชโดว์เข้มเท่ากันหรือเปล่า

ความติดทนในรูปสุดท้าย...

ผ่านมาห้าชั่วโมง เห็นรอยอายแชโดว์ตรงชั้นพับตาไหมคะ เห็นไม่ชัดมาก เพราะแทบไม่เลอะ แต่ UDPP จะเป็นรอยมากกว่า

เนื่องจากเห็น UDPP Sin สีคล้ายกับ Wet n Wild #Cafe au Lait และ UD Cream Shadow #Midnight Rodeo มากๆ เลยเอามาเปรียบเทียบกัน (UD Cream Shadow เนื้อดีมากค่ะ เป็นครีมอายแชโดว์ที่ติดทน ทำให้อายแชโดว์ที่ทาทับติดทนด้วย ให้สีสวย เป็นครีมอายแชโดว์ที่ชอบมากๆ)



ทางซ้ายจะเป็นปาดสีออกมา ทางขวาเบลนด์สี (แต่พอทาจริงๆ บนเปลือกตา จะมองไม่ชัดมากเท่านี้นะคะ)

เหมือนใช่ไหมคะ

ข้อแตกต่างของแต่ละอันคือความวิ้ง UD Cream Shadow Midnight Rodeo จะวิ้งที่สุด วิ้งจัดมากกก Wet n Wild วิ้งเล็กน้อย แต่ UDPP Sin วิ้งน้อยที่สุด ทาแล้วอาจจะมองไม่เห็นวิ้งเลย

เทียบฝาแฝดของ UDPP Sin กับ Wet n Wild Cafe au Lait


*คลิกเพื่อขยาย

Wet n Wild Cafe au Lait จะออกสีมากกว่านิดหน่อย และวิ้งน้อยๆ ส่วน UDPP Sin จะแทบไม่เห็นสี

ความชัดเจนหลังทาอายแชโดว์ UDPP Sin ยังคงให้สีอ่อนเหมือนเคย แต่ Wet n Wild ให้สีชัดเจน

รูปสุดท้าย...ความติดทนหลังผ่านไปห้าชั่วโมง

ทั้งสองค่อนข้างติดทน อาจจะมีอายแชโดว์เป็นรอยที่รอยพับเปลือกตานิดหน่อย ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆ จะมองไม่เห็น ความคงทนของทั้งคู่ไม่ต่างกันเลยค่ะ ถ้าใครอยากได้ Urban Decay Primer Potion แต่งบน้อย ขอแนะนำ Wet n Wild Cream Eyeshadow แทนนะคะ ราคาต่างกันมาก แต่ไม่แน่ใจว่าตัวนี้ของ Wet n Wild จะมีขายอีกหรือเปล่า เพราะเห็นเค้าเปลี่ยน Packaging ใหม่หลายชิ้นเลย แต่ยังมีเห็นขายอยู่ในอีเบย์ค่ะ

แต่ยังไง...ขอสรุปสั้นๆ ว่าสำหรับตอนนี้ ถ้าเทียบ UDPP ที่เค้าว่าเริด กับ Etude Eye Prime ขอเลือก Etude Eye Primer ค่ะ (แต่ถ้าได้ลอง UDPP แบบไม่มีสีเมื่อไหร่ คงจะตอบได้เต็มปากมากกว่านี้ว่าจะเลือกยี่ห้อไหนกันแน่)

ทิ้งท้ายด้วยบล็อกล่าสุด

PREVIEW & REVIEW: ขี้เห่อเปิดกล่องของฝากและของขวัญ + เปรียบเทียบ UDPP กับ Etude Proof 10 Eye Primer


PREVIEW & REVIEW: Seeshell Brown Contact Lens + HOW TO: Too Faced Fun in the Dark Palette (Fuller Lashes Look)


HOW TO: My Eye Liner Technique (วิธีเขียนอายไลเนอร์ + อินเนอร์ไลน์)


REVIEW: อายไลเนอร์ดินสอเริดๆ + HOW TO: ลดอาการแพนด้าของอายไลเนอร์




 

Create Date : 27 กันยายน 2553    
Last Update : 27 กันยายน 2553 1:15:19 น.
Counter : 5409 Pageviews.  

REVIEW: อายไลเนอร์ดินสอเริดๆ + HOW TO: ลดอาการแพนด้าของอายไลเนอร์

REVIEW: อายไลเนอร์ดินสอเริดๆ

ความจริงมีรีิวิวพวกอายไลเนอร์ดินสอดีๆ ไปหลายครั้งแล้วนะคะ แต่ครั้งนี้ทำรูปใหม่ และมีอายไลเนอร์บางแบรนด์มาเพิ่มเติม เลยสรุปมาให้ดังนี้ค่ะ

ยี่ห้อที่จะรีวิว มีดังนี้


*คลิกเพื่อขยาย

เขียนบนข้อมือ



1. Make Up Forever Aqua Eyes #10 (ตัวย่อ MUFE)
ปริมาณ 1.2 g
ราคา ถ้าจำไม่ผิด ประมาณ 900 บาท
แท่งดินสอเป็นพลาสติก ไส้แข็งแรง เหลาง่าย ไส้ไม่หัก
เนื้อดินสอ สีดำเข้ม เนื้อค่อนข้างเหนียว/ฝืด

2. Shu Uemura Drawing Pencil #M Black (ตัวย่อ Shu)
ปริมาณ 1.2 g
ราคา ถ้าจำไม่ผิด ประมาณ 800 บาท
แท่งดินสอเป็นพลาสติก ไส้แข็งแรง เหลาง่าย ไส้ไม่หัก
เนื้อดินสอ สีดำเข้ม ค่อนข้างเหนียว/ฝืด (จะเหนียวกว่า MUFE)

3. Shu Uemura Drawing Pencil #ME Black
ปริมาณ 1.2 g
ราคา ถ้าจำไม่ผิด ประมาณ 800 บาท
แท่งดินสอเป็นพลาสติก ไส้แข็งแรง เหลาง่าย ไส้ไม่หัก
เนื้อดินสอ สีดำเทาวิ้งเงินละเอียด ค่อนข้างเหนียว แต่เหนียวน้อยกว่า MUFE และ Shu #M Black

4. Mac Powerpoint Eye Pencil #Engraved
ปริมาณ 1.2 g
ราคา ไม่แน่ใจว่า 650 หรือ 750
แท่งดินสอเป็นพลาสติก ไส้แข็งแรง เหลาง่าย ไส้ไม่หัก
เนื้อดินสอ สีดำเข้ม เขียนง่าย (แต่เก็บไว้นานๆ เนื้อมันจะฝืดลง) เนื้อไม่ฝืดไม่เหนียว

5. Make Up Store Eye Pencil #Smoke (ตัวย่อ MUS)
ปริมาณ หาไม่เจอค่ะ กล่องก็ไม่อยู่แล้ว แต่เท่าที่ประมาณความสูงที่จำได้ น่าจะ 1.2 g
ราคา ถ้าจำไม่ผิด ประมาณ 600 บาท
แท่่งดินสอเป็นเนื้อไม้ ไส้นิ่ม เหลายาก ทั้งไส้ชอบหัก และตัวดินสอเปราะ เหลาแล้วชอบเสียของ
เนื้อดินสอ เป็นสีเทาเข้ม (ถ้าไม่ถ่ายรูปเปิดแฟลชจะเห็นเป็นสีเกือบดำ) เนื้อนิ่ม นิ่มมากๆ เหมาะกับใช้ทำสโมกกี้อายส์มากกว่า

6. Dejavu Lasting Fine
ปริมาณ หาไม่เจอค่ะ แต่ดินสอไส้เต็มๆ ยาวแค่ 2 cm
ราคา 390 บาท
แท่งดินสอเป็นแบบหมุน ไส้ขนาด 1 mm เปราะ หักง่าย ห้ามหมุนออกมาเยอะ
เนื้อดินสอ เป็นสีดำ ค่อนข้างแปลกว่ายี่ห้ออื่นตรงมันเนื้อเหมือน wax เขียนยาก อาจจะไม่ติดดี ต้องวอร์มเนื้ออายไลเนอร์บนหลังมือก่อน (เปลือง) ถ้าเก็บไว้นานๆ เนื้ออายไลเนอร์ก็แห้งด้วยค่ะ เขียนไม่ออก ต้องหักออกก่อนแล้วถึงจะใช้ต่อได้

7. In2it Waterproof Gel Liner #Very Black
ราคา ร้อยนิดหน่อย (แถมกบเหลาด้วย)
แท่งดินสอเป็นพลาสติก ไส้แม้จะนิ่ม แต่แข็งแรง เหลาง่าย ไส้ไม่หัก
เนื้อดินสอ สีดำเข้มมากกกก เนื้อลื่น เขียนง่ายสุดๆ แต่ปัญหาคือเนื้อนิ่มเกิน มันกุดเร็ว ทำให้ต้องเหลาบ่อยๆ และหมดเร็ว

8. Milani Metallic Eye Liner Pencil #Black
ราคา ประมาณ 200 บาท
แท่งดินสอเป็นพลาสติก ไส้แม้จะนิ่ม (แต่ไส้นิ่มน้อยกว่า In2it นิดหน่อย) แต่แข็งแรง เหลาง่าย ไส้ไม่หัก
เนื้อดินสอ เป็นสีดำเข้มข้น เนื้อลื่น เขียนง่าย

ทดสอบบนข้อมือ

แบ่งเป็นสามช่องนะคะ

ช่องแรก หลังจากเขียนอายไลเนอร์แล้วรอเซ็ตตัวแป๊บนึงก็เอานิ้วถูลงไป
ช่องที่สอง เอาน้ำเช็ดผ่าน
ช่องที่สาม เอาคัตตอนบัดจุ่มเมกอัพรีมูฟเวอร์ลากผ่าน



1. Make Up Forever Aqua Eyes #10 (ตัวย่อ MUFE)
ถูด้วยนิ้ว...ไม่เลอะเปื้อน
เช็ดด้วยน้ำ...ไม่เลอะเืปื้อน
เช็ดด้วยเมกอัพรีมูฟเวอร์...หลุดออกไป แต่ยังไม่หมด

2. Shu Uemura Drawing Pencil #M Black
ถูด้วยนิ้ว...ไม่เลอะเปื้อน
เช็ดด้วยน้ำ...ไม่เลอะเืปื้อน
เช็ดด้วยเมกอัพรีมูฟเวอร์...หลุดออกไป แต่ยังไม่หมด

3. Shu Uemura Drawing Pencil #ME Black
ถูด้วยนิ้ว...ไม่เลอะเปื้อน
เช็ดด้วยน้ำ...ไม่เลอะเืปื้อน
เช็ดด้วยเมกอัพรีมูฟเวอร์...หลุดออกไป แต่ยังไม่หมด

4. Mac Powerpoint Eye Pencil #Engraved
ถูด้วยนิ้ว...ไม่เลอะเปื้อน แต่มีจุดที่เลอะคือตรงที่อายไลเนอร์ยังไม่แห้ง (อายไลเนอร์เซ็ตตัวช้ากว่า MUFE และ Shu)
เช็ดด้วยน้ำ...ไม่เลอะเืปื้อน
เช็ดด้วยเมกอัพรีมูฟเวอร์...หลุดออกไป แต่ยังไม่หมด

5. Make Up Store Eye Pencil #Smoke
ถูด้วยนิ้ว...เลอะเต็มที่
เช็ดด้วยน้ำ...เลอะเหมือนกัน แต่น้อยกว่าถูด้วยนิ้ว
เช็ดด้วยเมกอัพรีมูฟเวอร์...หลุดออกไปเกลี้ยง

6. Dejavu Lasting Fine
ถูด้วยนิ้ว...ไม่เลอะเปื้อน (ที่เห็นเป็นรอย อันนั้นมาจาก MUS นะคะ)
เช็ดด้วยน้ำ...ไม่เลอะเืปื้อน
เช็ดด้วยเมกอัพรีมูฟเวอร์...หลุดออกไป เกือบสะอาด

7. In2it Waterproof Gel Liner #Very Black
ถูด้วยนิ้ว...ไม่เลอะเปื้อน (ที่เห็นเป็นรอย อันนั้นมาจาก MUS ค่ะ)
เช็ดด้วยน้ำ...ไม่เลอะเืปื้อน
เช็ดด้วยเมกอัพรีมูฟเวอร์...หลุดออกไป แต่ยังไม่หมด

8. Milani Metallic Eye Liner Pencil #Black
ถูด้วยนิ้ว...ไม่เลอะเปื้อน
เช็ดด้วยน้ำ...ไม่เลอะเืปื้อน
เช็ดด้วยเมกอัพรีมูฟเวอร์...หลุดออกไป แต่ยังไม่หมด

ทดสอบกับตา (การเขียนบนมือพิสูจน์ความติดทนได้ไม่ดีเท่าเขียนบนตาค่ะ)...เป็นคนเปลือกตาค่อนข้างมันนะคะ แต่ยังไม่มันมากที่สุด ปัญหาตาสองชั้นหลบใน ทำให้อายไลเนอร์เลอะง่ายกว่าคนตาสองชั้นธรรมดา ถ้าเขียนอายไลเนอร์ผ่านร่องน้ำตา ผ่านไปเป็นชั่วโมงมักจะมีอายไลเนอร์ไหลลงมาตามร่องน้ำตา

การทดสอบ ขอเริ่มด้วยอายไลเนอร์ตัวโปรด Shu Uemura #ME Black ก่อนนะคะ

ข้างซ้ายเป็น Shu Uemura #ME Black ข้างขวาเป็น Shu Uemura #M Black

รูปเรียงจากบนลงล่าง


*คลิกเพื่อขยาย

Started...เขียนเส้นให้ดูชัดๆ ME Black สีดำมีวิ้งเงิน เส้นคมสวย M Black สีดำเข้ม เส้นคม (แต่ที่ดูขุรขระเล็กน้อยเพราะเนื้ออายไลเนอร์มันฝืดเหนียว)

1 ชั่วโมงถัดมา...ME Black ไม่เลอะเลย M Black เลอะทั้งขอบตาบนและขอบตาล่างเล็กน้อย

2 ชั่วโมงถัดมา...ME Black ขอบตาบนไม่เลอะ ขอบตาล่างเห็นเงาดำๆ นิดหน่อย M Black เลอะเพิ่มกว่าเดิมเล็กน้อย

3 ชั่วโมงถัดมา...ME Black ขอบตาบนยังไม่เลอะ ขอบตาล่างตรงเงาดำๆ เลอะเพิ่มนิดเดียว แทบไม่เห็น M Black เลอะเพิ่มกว่าเดิมอีกนิด ตรงร่องน้ำตามีอายไลเนอร์ไหลเปื้อน

4 ชั่วโมงถัดมา...ME Black ขอบตาบนยังไม่เลอะ ขอบตาล่างตรงเงาดำๆ ไม่เลอะเพิ่ม M Black เลอะเพิ่มกว่าเดิมอีกนิด ตรงร่องน้ำตามีอายไลเนอร์ไหลเปื้อนมากกว่าเดิม

คู่ต่อมาเป็น Dejavu (ข้างซ้าย) กับ MUFE (ข้างขวา)


*คลิกเพื่อขยาย

Started...เขียนเส้นให้ดูชัดๆ Dejavu เส้นดำและเรียวเล็กตรงขอบตาบน แต่ขอบตาล่างดูไม่เ้ข้มเท่า เพราะเขียนไม่ค่อยติด MUFE เส้นสีดำ คมสวย

1 ชั่วโมงถัดมา...Dejavu ไม่เลอะเลย MUFE มีเลอะตรงขอบตาล่างนิดหน่อย

2 ชั่วโมงถัดมา...Dejavu มีเงาดำใต้ตาเ็ล็กน้อย MUFE ขอบตาล่างเลอะเพิ่ม และตรงร่องน้ำตาก็มีอายไลเนอร์ไหล

3 ชั่วโมงถัดมา...Dejavu ไม่เลอะเพิ่ม MUFE เลอะเท่าเดิม

4 ชั่วโมงถัดมา...Dejavu เลอะเพิ่มอีกนิด แทบแยกไม่ออก MUFE เลอะเท่าเดิม

ต่อไปเป็น MUS ทางซ้าย กับ MAC ทางขวา (สองอันนี้เป็นอันที่เปื้อนมากที่สุด MUS ไม่เหมาะกับเขียนอายไลเนอร์และอินเนอร์ไลน์เลย ควรจะใช้ทำสโมกกี้อายมากกว่า)


*คลิกเพื่อขยาย

Started...เขียนเส้นให้ดูชัดๆ MUS เป็นสีเทาเข้ม เส้นไม่คมมาก เพราะเนื้อดินสอนิ่ม บังคับยาก MAC เป็นเส้นสีดำคม

1 ชั่วโมงถัดมา...MUS เลอะขอบตาบนเล็กน้อย ส่วนขอบตาล่างดูเป็นเงาๆ มองแทบไม่ออกว่าเลอะ MAC เลอะขอบตาบนและขอบตาล่างอย่างละนิด

2 ชั่วโมงถัดมา...MUS เลอะมากกว่าเดิม ทั้งขอบตาบนและล่าง MAC ขอบตาบนไม่ได้เลอะเพิ่ม ขอบตาล่างเลอะเพิ่มนิดเดียว แทบมองไม่ออก แต่ว่าตรงร่องน้ำตามีอายไลเนอร์ไหลเปื้อน

3 ชั่วโมงถัดมา...MUS เลอะมากกว่าเดิม ทั้งขอบตาบนและล่าง MAC ทั้งขอบตาบนและขอบตาล่างเลอะเพิ่ม ตรงร่องน้ำตาเปื้อนมากกว่าเดิมนิดหน่อย

4 ชั่วโมงถัดมา...MUS ไม่เลอะเพิ่ม MAC ขอบตาบนและขอบตาล่างไม่เลอะเพิ่ม แต่ร่องน้ำตามีอายไลเนอร์ไหลมากกว่าเดิมนิดหน่อย

คู่สุดท้าย Milani ทางซ้ายกับ In2it ทางขวา (จับคู่สองอันนี้ด้วยกันเพราะว่าเนื้ออายไลเนอร์คล้ายๆ กัน)


*คลิกเพื่อขยาย

Started...เขียนเส้นให้ดูชัดๆ Milani สีดำดีค่ะ แต่เส้นอาจจะไม่คมมาก เพราะเนื้ออายไลเนอร์นิ่ม เวลาเขียนกับหนังตามันจะชอบเป็นหยักๆ ต้องมาเก็บรายละเอียดทีหลัง In2it สีดำเข้มเหมือนกัน เส้นอาจจไม่คมมาก ด้วยปัญหาเดียวกับ Milani

1 ชั่วโมงถัดมา...Milani ขอบตาบนไม่เลอะเลย ขอบตาล่างเห็นเป็นเงาๆ มองไม่ค่อยออกว่าเลอะ In2it เลอะขอบตาบน ส่วนขอบตาล่างเป็นเงาๆ มองไม่ค่อยออก

2 ชั่วโมงถัดมา (อันนี้เป็นรูปกล้องมือถือนะคะ พอดีลืมเอากล้องติดตัวไปตอนออกข้างนอก)...Milani ดูเลอะขอบตาบนเล็กน้อย ขอบตาล่างไม่เลอะเพิ่ม In2it ไม่เลอะเพิ่ม

3 ชั่วโมงถัดมา...(อันนี้เป็นรูปกล้องมือถือนะคะ พอดีลืมเอากล้องติดตัวไปตอนออกข้างนอก)...Milani ขอบตาบนเลอะเพิ่มนิดหน่อย ขอบตาล่างไม่เลอะเพิ่ม In2it เลอะทั้งขอบตาบนและล่างเพิ่ม ตรงร่องน้ำตามีอายไลเนอร์ไหลเปื้อน

4 ชั่วโมงถัดมา...Milani ทั้งขอบตาบนและขอบตาล่างไม่เลอะเพิ่ม In2it ขอบตาบนและล่างไม่เลอะเพิ่ม แต่ร่องน้ำตามีอายไลเนอร์ไหลมากกว่าเดิมเล็กน้อย

สรุป

จะสรุปทุกแบรนด์นะคะว่าข้อดีเป็นยังไงบ้าง โดยใช้เครื่องหมาย > หรือ = เป็นตัวกำหนดค่ะ

สีดำจัดจ้าน
In2it > Milani > MAC > Shu #M Black > MUFE > Dejavu > Shu #ME Black > MUS

เนื้อเหนียวฝืดแข็ง > เนื้อนิ่มลื่น
Dejavu > Shu #M Black > MUFE > Shu #ME Black > MAC > Milani > In2it > MUS

ความเร็วในการเซ็ตตัว
Dejavu > Shu #ME Black > MUFE = Milani > Shu #M Black = MAC > In2it > MUS

ความคงทน
Dejavu > Shu #Me Black > Milani = MUFE >In2it > Shu #M Black > MAC > MUS

ล้างออกยาก > ล้างออกง่าย
In2it > MAC = MUFE = Shu #M Black > Shu #ME Black > Dejavu > MUS

สรุปอีกครั้งโดยความรู้สึกในการใช้

ส่วนตัวชอบของ Shu #ME Black มากที่สุดค่ะ แพนด้าน้อย ติดทน เขียนค่อนข้างง่าย เหลาง่ายด้วย เหลาแล้วไม่เสียของ ของ Dejavu ในการทดสอบ แอบมีเลอะขอบตาล่างนิดหน่อย แต่ปรกติ เขียนตัวนี้จะไม่เลอะเลยนะคะ เป็นตัวเดียวที่ไม่เลอะเวลาเขียนผ่านร่องน้ำตาด้วย แต่ข้อเสียมากๆ ของ Dejavu คือ แพง ปริมาณน้อย ไส้เปราะ เนื้อฝืด ไม่ค่อยคุ้มราคาเท่าไหร่

ถ้าถามว่าจะซื้ออันไหนต่อ จะซื้อ Shu #ME Black แล้วก็ Milani ค่ะ (แต่ Milani หาไม่ได้ในเมืองไทย ต้องอเมริกา)

อายไลเนอร์ที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวแพนด้าเดี๋ยวไม่แพนด้าก็มี In2it กับ MUFE ค่ะ บางทีมันก็ใช้ดี๊ดี แต่บางที...ทำไมแพนด้าเร็วจัง อะไรแบบนี้

ส่วนอายไลเนอร์ที่แค่กะพริบตาทีก็เลอะเป็น MUS กับ MAC ค่ะ

MUS ไม่แนะนำให้ใช้เป็นอายไลเนอร์ แต่เอามาใช้ทำสโมกกี้อายได้สวยดีค่ะ

เนื่องจากแต่ละคนมีสภาพเปลือกตาที่ต่างกัน การใช้อายไลเนอร์แต่ละยี่ห้อ อาจจะให้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกันนะคะ

สุดท้ายอยากจะบอก (เหมือนเคย) ว่า ไม่มีอายไลเนอร์ดินสอตัวไหนที่ไม่แพนด้าค่ะ ถ้าอยากได้อายไลเนอร์ไม่แพนด้า แนะนำลิควิดอายไลเนอร์นะคะ ยี่ห้อที่ติดทนมากถึงมากที่สุดตั้งแต่ใช้มาเป็นของ MAC รุ่น Liquidlast ค่ะ (ข้อเสีย...มันข้นเร็ว ทำให้เขียนยาก และแปรงหัวตัด ทำให้เขียนเส้นเล็กยาก)

HOW TO: ลดอาการแพนด้าของอายไลเนอร์

1. ทาอายแชโดว์สีดำทับอายไลเนอร์

นี่เป็นวิธีที่หลายๆ คนน่าจะรู้นะคะ

ใช้แปรงหัวตัดแตะอายแชโดว์สีดำ (แนะนำให้เลือกอายแชโดว์สีดำที่เนื้อไม่ร่วนนะคะ รู้สึกว่าเขียนแล้วติดทนกว่าแบบที่เนื้อร่วนๆ ค่ะ)



แล้วเอามากดทับบนอายไลเนอร์ที่เขียนไว้ ค่อยๆ แตะๆ ไปจนทั่วเส้นอายไลเนอร์ที่เขียนไว้



แต่ความจริงคนเปลือกตามันอย่างมิถุนาใช้วิธีนี้ไม่ได้ผลเลยค่ะ (เดี๋ยวจะทดสอบให้ดู) ต้องใช้วิธีที่สอง

2. ทาอายไพรเมอร์ก่อนแล้วค่อยเขียนอายไลเนอร์

ปาดบนเปลือกตา



เบลนด์ให้กลืนทั้งตา



รอมันเซ็ตตัวแป๊บนึงก็เขียนอายไลเนอร์ทับได้

(แนะนำว่า อายไพรเมอร์ที่ดี เวลาทาแล้วเซ็ตตัวดี มันจะทำให้ผิวดูหนืดๆ ไม่มันวาว ให้ความรู้สึกเหมือนกับมีอะไีรเคลือบอยู่บนผิว)

มาดูการพิสูจน์กันค่ะ ว่าทำไมมิถุนาจึงบอกว่า ใช้อายแชโดว์สีดำทาทับ ไม่เวิร์กกับคนเปลือกตามัน

ทางซ้ายเป็นอายไพรเมอร์ (ยี่ห้อที่ใช้ Etude Proof 10) ข้างขวาเป็นอายแชโดว์สีดำ (ยี่ห้อที่ใช้ Biguine)

เขียนเส้นอายไลเนอร์ด้วย MAC Powerpoint Eye Pencil


*คลิกเพื่อขยาย

Started...จะเห็นว่าฝั่งที่ทา Eye Primer เปลือกตาจะดูแมตต์กว่า ส่วนอีกข้างที่เป็นอายแชโดว์สีดำ แอบมีเลอะอายแชโดว์นิดนึงตอนกะพริบตา

1 ชั่วโมงถัดมา...ฝั่งอายไพรเมอร์ ขอบตาบนไม่เลอะเลย ขอบตาล่างมีเงาดำๆ ที่แทบมองไม่เห็น ส่วนฝั่งอายแชโดว์ ขอบตาบนเลอะเพิ่มเล็กน้อย และตรงขอบตาล่างมีผงอายแชโดว์ร่วงลงมา

2 ชั่วโมงถัดมา...ฝั่งอายไพรเมอร์ขอบตาบนยังไม่เลอะ แต่ขอบตาล่างมีเลอะนิดหน่อย ส่วนฝั่งอายแชโดว์ ขอบตาบนไม่เลอะเพิ่มเล็กน้อย และตรงขอบตาล่างเลอะเพิ่มนิดหน่อย

3 ชั่วโมงถัดมา...ฝั่งอายไพรเมอร์ขอบตาบนยังไม่เลอะ แต่ขอบตาล่างแทบไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนฝั่งอายแชโดว์ ทั้งขอบตาบนและขอบตาล่างเลอะเพิ่มขึ้น

4 ชั่วโมงถัดมา...ฝั่งอายไพรเมอร์ขอบตาบนยังไม่เลอะ แต่ขอบตาล่างไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนฝั่งอายแชโดว์ ทั้งขอบตาบนและขอบตาล่างไม่เลอะเพิ่ม แต่ร่องน้ำตามีอายไลเนอร์ไหลลงมา

สรุป

มิถุนาว่าการทาอายไพรเมอร์ก่อนเขียนอายไลเนอร์ ช่วยลดปัญหาแพนด้าได้ค่ะ แต่สำหรับเทคนิคเก่าอย่างทาอายแชโดว์สีดำทับอายไลเนอร์ ไม่เหมาะกับคนเปลือกตามันปานกลางอย่างมิถุนาเลย

แต่ถ้าใครมีปัญหาเรื่อบอายไลเนอร์เลอะ อยากแก้ไขให้เด็ดขาด ใช้ Benefit She Laq ทาทับนะคะ

เคยรีวิวไว้ที่นี่ มันดีมากๆ เลยค่ะ การันตีว่าอายไลเนอร์อยู่ติดทนทั้งวัน

ทิ้งท้ายด้วยบล็อกล่าสุดนะคะ

PREVIEW & REVIEW: ขี้เห่อเปิดกล่องของฝากและของขวัญ + เปรียบเทียบ UDPP กับ Etude Proof 10 Eye Primer


PREVIEW & REVIEW: Seeshell Brown Contact Lens + HOW TO: Too Faced Fun in the Dark Palette (Fuller Lashes Look)


HOW TO: My Eye Liner Technique (วิธีเขียนอายไลเนอร์ + อินเนอร์ไลน์)


REVIEW: อายไลเนอร์ดินสอเริดๆ + HOW TO: ลดอาการแพนด้าของอายไลเนอร์




 

Create Date : 26 กันยายน 2553    
Last Update : 26 กันยายน 2553 20:07:54 น.
Counter : 23960 Pageviews.  

REVIEW: Seeshell Brown Contact Lens + HOW TO: Too Faced Fun in the Dark Palette (Fuller Lashes Look)

อัพติดๆ กัน ไม่งั้นดองไว้นานเกิน :-))

ขอเริ่มด้วยฮาวทูก่อนนะคะ

HOW TO: Too Faced Fun in the Dark Palette

จากพาเลตมีไฟอันนี้



หลังจากทาอายไพรเมอร์แล้ว ก็เริ่มด้วยอายแชโดว์สีอ่อน



ทาทั่วเบ้าตา pat สีให้ชัดเจน



เลือกสีม่วงพลัม



ระบายตรงขอบเบ้าตา ตรงหางตา



ลงมาที่ขอบตาล่างราว 1 ใน 3



เลือกสีชมพูอ่อน



เบลนด์ตรงสีเข้มด้านบน ลบเส้นสีเข้มคมๆ (ทั้งด้านบนและลงมาถึงขอบตาล่าง)

จากนั้นก็ระบายต่อจากสีม่วงเข้มตรงขอบตาล่าง



เลือกอายแชโดว์สีขาวเหมือนตอนแรก



ระบายตรงหัวตาแล้วเบลนด์ให้ทั่ว



เลือกอายแชโดว์สีเขียว



แตะเบาๆ ช่วงตรงกลางเปลือกตา เว้นสีขาวและสีม่วงเอาไว้



เขียนลิควิดอายไลเนอร์เป็น Guildline สำหรับการติดขนตาปลอม (เขียนขอบตาบนเล่นหางและขอบตาล่าง 1 ใน 3)



เติมอินเนอร์ไลน์ด้วยดินสอดำ ทั้งขอบตาบนและขอบตาล่าง (1 ใน 3)



ขอบตาล่างที่เหลือเขียนด้วยอายไลเนอร์สีขาว



เลือกอายแชโดว์สีขาว



ระบายใต้หางคิ้ว



แล้วก็ใส่ขนตาปลอม

ก่อนจะใส่ขนตาปลอม วัดขนาดขนตาให้พอดีกับดวงตาก่อนนะคะ (ทาบกับดวงตาแล้วตัดส่วนเกินออก) จากนั้นทากาวแล้วติด มิถุนาชอบเริ่มติดจากหางตา เพราะจะกะระยะตาง่ายกว่า

(เป็นขนตาปลอมของ MAC ถ้าจำไม่ผิด เบอร์ 8 ค่ะ)



ใส่เสร็จ รอให้กาวแห้งแล้วก็ดัดขนตาซ้ำ

ติดขนตาล่างต่อ

ใช้ของร้าน daiso ตัดครึ่งนะคะ ไม่อยากได้ขนตาล่างเว่อร์เกินไป ก่อนจะติดขนตาล่าง อย่าลืมดัดด้วยที่ดัดขนตาให้มันโค้งๆ ก่อนนะคะ จะได้ไม่หลอกตา

พอติดขนตาล่างเสร็จก็เติมอายไลเนอร์ ทั้งขอบตาบนและล่าง วาดทับเส้นขอบขนตาปลอม และเก็บรายละเอียดที่ขอบตาล่างด้วย



ได้ประมาณนี้



ระบายอายแชโดว์สีม่วงเข้มถัดจากอายไลเนอร์สีดำที่ขอบตาล่าง เส้นอายไลเนอร์จะได้ดูนุ่มนวลขึ้น



เก็บรายละเอียดอย่างเขียนอินเนอร์ไลน์ซ้ำ ระบายอายแชโดว์สีขาวที่หัวตา

ดัดขนตาอีกครั้ง แล้วก็ปัดมาสคาร่า



ได้ตาแบบนี้

ซูมตา



แบ๊วมากกกกก (ตาด้านซ้ายมีเลอะอายไลเนอร์นิดหน่อย เพิ่งสังเกตเห็นค่ะ)


*คลิกเพื่อขยาย

แก้มกับปากเป็นสีในพาเลต สีปากไม่ได้ทามากนะคะ พอดีปากแห้ง ทาเยอะๆ แล้วเป็นคราบ ไม่สวยเลย ปากเลยดูแดงมากกว่าชมพู

ได้แบบนี้



อีกนิด


*คลิกเพื่อขยาย

ต่อด้วยรีวิว Seeshell Brown



BC 8.60
DIA 15.0

เป็นเลนส์สีน้ำตาล ตัดขอบดำ เลนส์ใหญ่มาก แต่นิ่มมากด้วย ใส่สบายค่ะ แต่ใส่แล้วไม่ค่อยเห็นสีชัดเท่าไหร่ อยากได้เลนส์สีน้ำตาลจัดๆ กว่านี้ อันนี้ใส่แล้วดูดำไปนิด แต่ตาโตมากกกก

เทียบให้ดูค่ะ



เห็นความต่างไหมคะ ปรกติมิถุนาเป็นคนตาดำเล็ก ตาก็เล็ก ใส่พวกเลนส์ตาโตแล้วตาโตมากกกกกกก (จนไม่ชิน)

หมดแล้วค่ะ ว่าจะถอยคอนแทกเลนส์ไซส์ไม่ใหญ่กว่าตามากอีกสักคู่ ถ้าได้ซื้อจริงๆ จะมารีิวิวให้ดูึ่ค่ะ

ทิ้งท้ายด้วยบล็อกที่อัพวันนี้

PREVIEW & REVIEW: ขี้เห่อเปิดกล่องของฝากและของขวัญ + เปรียบเทียบ UDPP กับ Etude Proof 10 Eye Primer


PREVIEW & REVIEW: Seeshell Brown Contact Lens + HOW TO: Too Faced Fun in the Dark Palette (Fuller Lashes Look)


HOW TO: My Eye Liner Technique (วิธีเขียนอายไลเนอร์ + อินเนอร์ไลน์)


REVIEW: อายไลเนอร์ดินสอเริดๆ + HOW TO: ลดอาการแพนด้าของอายไลเนอร์




 

Create Date : 25 กันยายน 2553    
Last Update : 13 สิงหาคม 2556 1:21:43 น.
Counter : 4144 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  

มิถุนายน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]





บล็อกนี้เริ่มต้นจากการเก็บรวบรวมนิยายของมิถุนาให้เป็นหลักแหล่ง และต่อมาได้เพิ่มความชอบเกี่ยวกับเครื่องสำอาง การท่องเกี่ยว การกิน และเรื่องจิปาถะอื่นๆ ค่ะ ว่างๆ ก็แวะมาทักทายกันบ้างนะคะ

มิถุนา (busaba401แอตhotmail.com)

แวะทักทาย/ฝากคำถามได้ที่ cbox นะคะ แล้วจะมาตอบให้ทุกคนค่า








Fanpage นิยายของมิถุนา
(เฉพาะนิยายนะคะ ไม่ได้อัพเรื่องเครื่องสำอางค่ะ)
มิถุนา Mithuna นิยาย

โฆษณาหน้าของคุณด้วยเลยสิ



E-book ของมิถุนา
คืนปรารถนา
มิถุนายน
www.mebmarket.com
ทั้งหมดเริ่มต้นจากความเข้าใจผิด...อชิระคิดว่ามิลินท์หักหลังเขา เขาจึงใช้ความรักที่เธอมีให้เขาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น มิลินท์จาก...
ร้ายนัก(ไม่)รักเสียดีไหม
มิถุนายน
www.mebmarket.com
เมื่อยอดคุณป๊า ที่ถือคติที่ว่า “เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน” พยายามจับคู่ลูกๆ ที่เหลือให้ครบ อดีตคู่กัดสมัยละอ่อนเลยได้โคจรมาพบกันอีกครั้งในฐานะเจ้าบ่าวและเจ้าสาว...
New Comments
Friends' blogs
[Add มิถุนายน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.