Group Blog
 
All blogs
 

ⓡⓔⓥⓘⓔⓦ Etude Proof 10 Eye Primer + ใช้อะไรทดแทนอายไพรเมอร์ได้บ้าง ⓓⓘⓨ มาทำ Eye Primer ใช้กันเถอะ

เป็นรีวิวและ DIY ที่ทำดองไว้นานแล้ว ค่อยๆ ทยอยทำ เพราะมันค่อนข้างวุ่นวายเล็กน้อยค่ะ

เช่นเดียวกับรีวิว Etude Eye Primer เคยรีวิวไว้ในห้องแป้ง แต่ยังไม่เคยเอามาลองบล็อก เลยเอามารวมไว้ด้วยกันเลย

Eye Primer คืออะไร?

เป็น อายไพรเมอร์ ไว้ทาเปลือกตา ก่อนทาอายแชโดว์ เพื่อให้อายแชโดว์สีชัดเจนขึ้น และติดทนทั้งวัน เป็นสิ่งจำเป็นมากๆ สำหรับคนที่ชอบแต่งตาค่ะ อายแชโดว์ห่วยๆ เจ้านี่ก็ช่วยให้ได้สีชัดขึ้น และติดทนมากขึ้น ต้องมีเอาไว้เลย

ยี่ห้อที่โด่งดังก็มี Urban Decay Primer Potion กับ Too Faced Shadow Insurance

ยัง ไม่เคยลอง UDPP นะคะ ส่วน Too Faced เคยใช้แต่ที่เป็นครีมอายแชโดว์ที่มีส่วนผสมของ Shadow Insurance ดังนั้นคงไม่อาจจะใช้สองตัวนี้เปรียบเทียบกับ Etude Proof 10 Eye Primer ได้

เคยรีวิวอายไพรเมอร์ของ Lotree ไว้นานแล้วค่ะ ลองเข้าไปอ่านได้ที่ ⓡⓔⓥⓘⓔⓦ Lotree SPF21 BB Primer Tinted Control Base & Lotree Aurora Shine Dream Eye Base

Etude Proof 10 Eye Primer



ปริมาณ 10 g

ราคาราวๆ 300 กว่าบาท

ส่วนผสม



Etude Proof 10 Eye Primer มาในแพ็กเกจคล้ายๆ อายไลเนอร์ แต่หัวแปรงเป็นฟองน้ำ แบบใช้กันในลิปกลอส ใช้งานสะดวก ง่าย และดึงเอา product ออกมาได้ปริมาณพอดีกับการทาหนึ่งครั้ง



ลองปาดบนหลังมือ เนื้อครีมสีเบจ เป็นกึ่งๆ แว็กซ์ ไม่ได้เป็นครีมมี่ แต่ให้ความรู้สึกลื่น เกลี่ยง่าย



พอทาแล้วเกลี่ยจนเนียนไปกับผิวแล้ว ผิวจะดูสว่างเล็กน้อย (ตามภาพ)



ทดสอบกับอายแชโดว์สองแบบ แบบเนื้อแมตต์ ที่มักจะทายาก ทาไม่ติดผิว กับแบบทั่วไป ที่ทาได้ง่าย สีชัด

จะเห็นว่าด้านที่ทาอายไพรเมอร์สีชัดเจนขึ้นมากๆ ยิ่งเป็นอายแชโดว์เนื้อแมตต์ สียิ่งชัดเจน



ลองเอาน้ำเปล่าลูบผ่านเยอะๆ

อายแชโดว์ค่อนข้างติดทนทีเดียวค่ะ



พิสูจน์กับดวงตา ที่มักจะมีความมันเกิดขึ้นระหว่างวัน

สภาพเปลือกตาของมิถุนา...ค่อนข้างมัน แต่ยังไม่มันมากถึงที่สุด

แต่งตาตามปรกติ ไพรเมอร์ช่วยให้ทาอายแชโดว์ได้ง่ายขึ้น สียิ่งชัดกว่าเดิม

หมายเหตุ...รูปที่ถ่ายแบบเปิดแฟลช ในที่แจ้ง สีเลยจะดูเข้มกว่ารูปข้างล่าง



ผ่านไป 6 ชั่วโมง (จนถึงตอนเย็นนั่นแล)

อาย แชโดว์ยังติดทนอยู่ แต่เห็นว่าที่รอยพับใกล้หัวตาจะมีเส้นๆ ที่สีดูจางเล็กน้อย ถ้าเทียบกับอายไพรเมอร์ที่เคยใ้ช้มา ถือว่าติดทนทีเดียวค่ะ อายแชโดว์ไม่เป็นคราบ

ในรูปนี้ สีรูปจะดูจืดกว่ารูปข้างบน เพราะว่าถ่ายรูปในห้องมืด แล้วเปิดแฟลชค่ะ บังเอิญมีแต่รูปแบบถ่ายในห้องนะคะ เพราะว่ากลับถึงบ้านก็ค่ำแล้ว เลยไม่ได้ถ่ายกลางแจ้งให้ดู



ข้อดี

ราคาไม่แพง หาซื้อไม่ยาก ใช้งานง่าย เกลี่ยง่าย อายแชโดว์สีชัดเจนขึ้น และิติดทนขึ้น รู้สึกว่ามันทำให้อายไลเนอร์ติดทนขึ้นด้วย

เทียบกับ Lotree Aurora Eye Dream Shine Base ที่ใช้ตอนนี้ Etude ติดทนกว่ามาก และ consistency กว่าด้วย

ข้อเสีย

รู้สึก ว่าบางที ถ้าเราเกลี่ยไม่ดี มันจะไม่ติดทนค่ะ และถ้ามันจวนหมด คงจะควักเอาตัว product ออกมาใช้จนเกลี้ยงไม่ได้แน่ๆ (แอบเสียดาย 555)

จะซื้อมาใช้อีกไหม?

อาจจะซื้อมาใช้อีก ถ้าไม่ได้ลองอายไพรเมอร์ยี่ห้ออื่นก่อนค่ะ

หมายเหตุ อายไพรเมอร์บางยี่ห้ออาจจะให้ผลลัพธ์ไม่ัเท่ากัน อาจจะไม่ติดทนทั้งวันนะคะ

ถ้าไม่มีอายไพรเมอร์ พอจะใช้อะไรทดแทนได้บ้าง?

สามารถ ใช้ อายแชโดว์แบบครีม อายไลเนอร์ดินสอ เจลไลเนอร์ คอนซีลเลอร์ รองพื้นทดแทนได้ค่ะ แต่คุณสมบัติจะด้อยกว่าอายไพรเมอร์ตรงที่มันจะไม่ติดทนเท่า คือมันจะช่วยให้สีอายแชโดว์ชัดเจนเหมือนกันเท่านั้น มาดูกันค่ะว่ามันแท้จริงเป็นอย่างไร

อุปกรณ์วันนี้


*คลิกเพื่อขยาย

รองพื้น: Skin Food Royal Jelly Essence Compact Foundation
คอนซีลเลอร์: T.LeClerc Corretor Palette #Beige
ครีมอายแชโดว์: MAC Paint Pot #Perky
เจลไลเนอร์: MAC Fluidline #Frostlite
อายไลเนอร์ดินสอ: MAC Eye Kohl #Fascinating
อายไพรเมอร์: Etude Proof 10 Eye Primer & Lotree Aurora Eye Dream Shine Base

อายแชโดว์ที่ใช้ร่วมในการทดสอบ: L'orel HIP Bright Shadow Duo #Showy & Biguine Eye Shadow Palette #Regard du Soir

มาดู Texture ของแต่ละอย่างกัน

ข้างซ้ายจะเป็นแบบปาดเป็นเนื้อครีมๆ ข้างขวาจะเป็นแบบเกลี่ยให้กลืนบนแขน



ทดสอบความชัดเจนของอายแชโดว์แบบเนื้อ Satin

ด้านซ้ายจะไม่ได้ทาไพรเมอร์ ด้านขวาจะทาไพรเมอร์



จะเห็นว่าอายแชโดว์เนื้อ Satin มักไม่มีปัญหากับความชัดเจนเท่าไหร่นะคะ จะทาหรือไม่ทา Primer ก็ดูไม่ต่างกันเท่าไหร่

ทดสอบความชัดเจนของอายแชโดว์แบบเนื้อ Matte



อายแชโดว์เนื้อ matte จะเห็นได้ชัดมากกว่าว่าถ้าไม่มีอายไพรเมอร์ สีจะทาไม่ติด การใช้อายไพรเมอร์ของจริงจะทำใ้ห้สีชัดเจนมากๆ เช่นเดียวกับการใ้ช้อายไลเนอร์ดินสอ ส่วนคอนซีลเลอร์และรองพื้นก็ดูสีเข้มรองลงมา ตามมาด้วยเจลไลเนอร์และครีมอายแชโดว์

ทดสอบความติดทนของอายแชโดว์

หมายเหตุ
- สภาพเปลือกตา: ค่อนข้างมัน ตาสองชั้นหลบใน ทำให้อายแชโดว์เป็นตกร่องระหว่างวัน
- ทดสอบโดยไม่ได้ทาแป้งใดๆ บนหน้า
- ใช้เวลาในการทดสอบ 5 ชั่วโมง
- รูปถ่ายอาจจะมีปัญหาเรื่องมุมและแสง/สีเล็กน้อยนะคะ เนื่องจากถ่ายรูปด้วยตัวเองค่ะ
- ผลลัพธ์ในแต่ละวันมักไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับการทา อากาศ ชนิดของ Primer และอายแชโดว์ที่ใช้

ขอเริ่มด้วยคู่อายไพรเมอร์จริงๆ Etude Proof 10 Eye Primer กับ Lotree Aurora Eye Dream Shine Base ก่อนเลย


*คลิกเพื่อขยาย

Etude ทำให้อายแชโดว์สีชัดดีค่ะ แต่ว่า Lotree สีจะดูซีดกว่าเล็กน้อย

ผ่านไป 5 ชั่วโมง


*คลิกเพื่อขยาย

จะเห็นว่าหน้าดูมันกว่าเดิมนะคะ สีอายแชโดว์ดูซีดลงเล็กน้อย แต่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องอายแชโดว์ตกร่องตาเท่าไหร่ Etude ยังดูเนียน แต่ว่า Lotree สีรอยเล็กน้อย

คู่ต่อไป ครีมอายแชโดว์ MAC Paint Pot กับ เจลไลเนอร์ MAC Fluidline


*คลิกเพื่อขยาย

ใช้ครีมอายแชโดว์ MAC Paint Pot ดูเนียนกว่านะคะ คาดว่าเป็นเพราะเนื้อมีชิมเมอร์น้อยกว่า MAC Fluidline ส่วนเจลไลเนอร์ MAC Fluidline แห้งไว ต้องรีบเบลนด์และทา เหมือนจะดูเป็นรอยตกร่องเล็กน้อย

ผ่านไป 5 ชั่วโมง


*คลิกเพื่อขยาย

ดูไม่ต่างจากตอนแรกเท่าไหร่นะคะ สีอายแชโดว์ติดทน ไม่เป็นรอยตกร่องเพิ่มด้วย

คู่ต่อมา อายไลเนอร์ดินสอ MAC Eye Kohl กับ ไม่ทาอะไรเลย


*คลิกเพื่อขยาย

ชัดเจนมากที่ว่าการใช้อายไลเนอร์ดินสอทำให้อายแชโดว์ดูชัดเจนกว่า สีสดสวยกว่า

ผ่านไป 5 ชั่วโมง


*คลิกเพื่อขยาย

ข้างที่ทาอายไลเนอร์ดูชัดเจนไม่ตกร่อง สีสดเหมือนเดิม แต่ข้างที่ไม่ได้ทาอะไร อายแชโดว์ตกร่องกว่าตาข้างที่ทาพวกอายไพรเมอร์แล้วก็สีดูซีดลง

คู่สุดท้าย รองพื้น (เนื้อครีม) Skin Food Royal Jelly กับ คอนซีลเลอร์ T.LeClerc Corretor Palette


*คลิกเพื่อขยาย

สีอายแชโดว์เกือบจะชัดนะคะ แต่ไม่เนียน เห็นร่องตาบ้าง

ผ่านไป 5 ชั่วโมง


*คลิกเพื่อขยาย

สีอายแชโดว์ละลายสุดๆ ค่ะ แย่กว่าไม่ทาอะไรบนตาแทนไพรเมอร์ด้วย คอนซีลเลอร์ดูเยินที่สุด เข้าใจว่าเป็นเพราะมันเนื้อมันๆ กว่ารองพื้น สรุปสั้นๆ ว่าแม้รองพื้นกับคอนซีลเลอร์จะทำให้อายแชโดว์สีสดขึ้น แต่ไม่เหมะากับเป็นไพรเมอร์เพราะว่ามันจะละลายเมื่อเจอความร้อนนะคะ

สรุปว่า ใช้พวกครีมอายแชโดว์ อายไลเนอร์ดินสอ เจลไลเนอร์ แทนอายไพรเมอร์ได้ดีคะ่ แต่ว่ารองพื้นกับคอนซีลเลอร์นี่ ตัดทิ้งไปได้เลย

มาทดสอบว่าใช้อายไพรเมอร์กับอายไลเนอร์ดินสอที่มักจะแพนด้าง่าย ว่าได้ผลหรือเปล่า

อายไลเนอร์ที่ใช้ทดสอบเป็น Etude Proof 10 Auto Pencil รุ่นนี้เขียนสีสวย เขียนไม่ยาก และค่อนข้างติดทนค่ะ



ข้างซ้ายใช้ Etude Primer ข้างขวาไม่ทาอะไร (นอกจากแป้งและบีบีครีม)


*คลิกเพื่อขยาย

ผ่านไป 5 ชั่วโมง


*คลิกเพื่อขยาย

ข้างที่ไม่ใช้ไพรเมอร์ จะเลอะเล็กน้อย ส่วนข้างที่ใช้ Etude Primer แทบไม่เลอะเลย

เดี๋ยวนี้เวลาใช้พวกเจลไลเนอร์หรืออายไลเนอร์ดินสอ มิถุนาจะทาอายไพรเมอร์ทุกครั้ง (แต่ต้องจำไว้อย่างหนึ่งนะคะว่า อายไพรเมอร์แต่ละยี่ห้อคุณภาพความติดทนไม่เหมือนกัน ถ้าใช้ Lotree มันจะไม่ได้ผลแบบนี้)

ⓓⓘⓨ มาทำ Eye Primer ใช้กันเถอะ

เคยอ่านการทำอายไพรเมอร์หลายสูตรนะคะ ส่วนใหญ่มักเป็น โลชั่น บอดี้บัตเตอร์ รองพื้น คอนซีลเลอร์ผสมกัน แต่มิถุนาว่ามันไม่เวิร์กสำหรับคนผิวมันเลย

พอดีได้อ่านฉลากส่วนผสมของ Etude Eye Primer เห็นว่ามี Beeswax เป็นส่วนผสม และเป็นส่วนผสมที่โลชั่น บอดี้บัตเตอร์ คอนซีลเลอร์ รองพื้นไม่มี เลยเอามา adapt กับสูตรเหล่านี้

อุปกรณ์ที่ใช้
- ครีมรองพื้น (ถ้าใช้รองพื้นแบบน้ำ จะได้เนื้อไพรเมอร์ออกเหลวๆ นะคะ)
- คอนซีลเลอร์ หรือพวกเบส (จะทำให้ตาดูสว่าง)
- ขี้ผึ้ง (เสิร์ชดูออนไลน์ก็มีขายค่ะ หรือจะใช้ขี้ผึ้งที่ใช้ลดอาการปวดของคนที่จัดฟัน หรือจะเอารังผึ้งมาต้ม แล้วช้อนเอาขี้ผึ้งมาใช้ก็ได้ แต่จะยุ่งยากและเลอะเทอะกว่า)
- ถาดใส่ (ที่กันความร้อนได้ดี แต่ถ้าเลือกใช้ที่รีดผม ควรจะใช้ถาดอลูมิเนียม)
- ที่เป่าผม หรือที่รีดผม
- ไม้สำหรับคน (ไม้จิ้มฟัน)
- กระปุกเปล่าสำหรับใส่อายไพรเมอร์ที่เสร็จแล้ว

มิถุนาลองทดลองทำสองสูตรนะคะ แต่ละสูตรเนื้อครีมและความติดทนจะต่างกัน มาดูสูตรแรก 1:1:1 กันก่อนค่ะ

ใช้ ครีมรองพื้น 1 ส่วน ผสม คอนซีลเลอร์ 1 ส่วน และขี้ผึ้ง 1 ส่วน



มิถุนาเลือกใช้ที่รีดผมในการอุ่นให้ส่วนผสมละลาย



วางถาดอลูมิเนียมไว้บนส่วนที่ให้ความร้อน แล้วรอให้มันละลาย พอละลายก็เอาไม้จิ้มฟันคนเบาๆ

เอามาเทใส่กระปุก



รอแป๊บนึง เดี๋ยวก็แห้ง



จะได้อายไพรเมอร์เนื้อบาล์มข้นๆ



ลองปาดบนแขน



เนื้อจะแห้ง ดูเป็นครีมที่หนืดนิดๆ และลื่นขณะทาเล็กน้อย

เกลี่ยดูค่ะ



จะเห็นว่าข้างที่ทา primer ดูสว่างเลย (เพราะว่าผสมคอนซีลเลอร์ด้วยนั่นเอง)

ทดสอบคุณภาพความชัดเจนของอายแชโดว์



เริดใช่ไหมคะ ไม่ได้ท่าดีทีเหลวเลย

มาดูทดสอบกับตาดีกว่าค่ะ


*คลิกเพื่อขยาย

ป.ล. ข้างขวา แอบทาไม่เนียนค่ะ รีบๆ ทา เลยเกลี่ยไม่ทั่ว

ข้างซ้ายใช้อายแชโดว์ของ L'oreal เหมือนเดิมนะคะ ส่วนข้างขวาเป็นเจลไลเนอร์ของ Palty ที่ค่อนข้างติดทน แต่มีแพนด้านิดหน่อยค่ะ (ความติดทนพอๆ กับ Etude Proof 10 Auto Pencil)

ผ่านไป 5 ชั่วโมง


*คลิกเพื่อขยาย

เิริดที่สุด แทบไม่เลอะเลย มิถุนาจะชอบสูตรนี้มากกว่าสูตรต่อไปค่ะ

สูตรที่ 2

ใช้ขี้ผึ้ง 1 ส่วน คอนซีลเลอร์ 2 ส่วน รองพื้น 2 ส่วน



ปาดบนหลังมือ



เนื้อจะเปียก ออกครีมมี่กว่าสูตรแรก

เกลี่ยแล้วเนียน



ทดสอบว่าโดนน้ำแล้วจะเป็นยังไง

อันนี้มีทดสอบแค่สูตรสองนะคะ



เอาน้ำลูบผ่านแรงๆ



อายแชโดว์เนื้อ satin ที่ทาติดง่ายเลือนหายไปเกือบหมด แต่อายแชโดว์เนื้อแมตต์สีติดอยู่กว่าครึ่ง

มาทดสอบอายไพรเมอร์ของ Etude กับ Lotree กัน ว่าโดนน้ำแล้วจะเป็นยังไงบ้าง

ก่อน



หลัง



ทั้งคู่ทนใช้ได้ค่ะ แต่ Etude จะทนกว่า

ทดสอบความชัดเจนของอายแชโดว์



ดูดีไม่แพ้สูตรแรกค่ะ

แต่มาดูการทดสอบปราบเซียน

ทดสอบความติดทนระหว่างวันบนเปลือกตา


*คลิกเพื่อขยาย

สูตรนี้อายแชโดว์จะดูสีจัดกว่า และทาเนียนกว่าใช่ไหมคะ เพราะว่าเนื้อมันครีมกว่านั่นเอง

ผ่านไป 5 ชั่วโมง


*คลิกเพื่อขยาย

สีดูเลือนไปบ้าง มีอายแชโดว์ตกร่องเล็กน้อย ส่วนอายไลเนอร์ เลอะนิดหน่อยค่ะ

สรุปทิ้งท้ายว่ามิถุนาชอบสูตรแรก ที่อัตราส่วน 1:1:1 มากกว่า เพราะดูติดทนกว่า แม้จะทาสีได้ไม่ดูเนียนสวยเท่าสูตรที่สอง คิดว่าสูตรทำอายไพรเมอร์ด้วยตัวเองทั้งสูตร 1 และ 2 เหมาะกับคนที่เปลือกตาไม่ค่อยมันมากเท่าไหร่นะคะ ถ้าใครที่เปลือกตามัน อยากจะแนะนำอายไพรเมอร์แบรนด์ต่างๆ มากกว่า อย่างมิถุนา ตอนนี้ก็คงเกาะติดกับ Etude Proof 10 Eye Primer ค่ะ

อย่างไรก็ตาม สภาพผิว สภาพแวดล้อม รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่แต่ละคนใช้มักต่างกัน ดังนั้นการใช้อายไพรเมอร์มักจะได้ผลไม่เหมือนกัน ทางที่ดี เพื่อนๆ ควรจะลองด้วยตัวเองมากกว่าค่ะ :-))




 

Create Date : 05 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 5 พฤษภาคม 2553 1:26:38 น.
Counter : 16624 Pageviews.  

ⓡⓔⓥⓘⓔⓦ ของฝากจากเกาหลี + เปิดถุงช็อปปิ้งไดโซะ ⓗⓞⓦ ⓣⓞ Sweet Eyes + ติดขนตาแบบช่อและขนตาล่าง

วันก่อนได้ของฝากจากคุณป๊า ซึ่งไปเที่ยวเกาหลีมาค่ะ

ก่อนไปพ่อถามว่าอยากได้อะไร มิถุนาก็บอกว่าอะไรก็ได้ พ่อก็บอกให้ระบุมา เลยบอกไปว่า งั้นเอาเครื่องสำอางก็แล้วกัน พ่อก็ถามอีกว่า เครื่องสำอางอะไรบ้าง ยี่ห้ออะไร มิถุนาก็บอกไปว่าพวกลิปสติก อายแชโดว์ บลัชออน ยาทาเล็บ อะไรประมาณนี้ พ่อถามต่อว่า สีอะไร แบบไหน ไม่มีชื่อเหรอ (พ่อกลัวซื้อผิด) มิถุนาเลยบอกว่า เอายี่ห้อของเกาหลี มีเยอะ เดี๋ยวป๊าก็เห็นเองแหละ แต่ป๊าเอาสีโทนชมพูมาก็แล้วกัน (เพราะคิดว่าเป็นสีที่เลือกง่ายสุด บอกสีอื่นไปเดี๋ยวป๊างง จริงๆ อยากได้สีฟ้าๆ เขียวๆ 555)

ไม่อยากระบุอะไรมากมาย เดี๋ยวพ่อจะงงตอนซื้อ ถ้าระบุเจาะจงไป เดี๋ยวป๊าจะหายากอีก จำได้ว่าสมัยก่อนเวลาฝากพ่อซื้อของตอนไปเมืองนอก อย่างเช่น เอาขนมญี่ปุ่น ป๊อกกี้อะไรงี้ ป๊าก็ซื้อขนมมา แต่ว่าซื้อแบบเดียวกันมาประมาณสิบยี่สิบชิ้นได้ 555 แถมมีครั้งนึง ขนขนมที่ชื่อช็อกกี้ เป็นป๊อกกี้ยักษ์ แต่ made in Thailand มา เวลาฝากป๊าซื้อของเลยไม่กล้าหวังอะไรเยอะ

คราวนี้ได้พวกนี้มา


*คลิกเพื่อขยาย

เปิดมาตกใจ ป๊าเลือกมาถูกใจเกินคาด 555

ชอบอายแชโดว์มากกกก สีสวยหวาน ไม่ค่อยมีสีโทนนี้เท่าไหร่ค่ะ ปรกติมีแต่สีจัดๆ แต่ช่วงนี้ชอบแต่งสีโทนน้ำตาล ชมพู


*คลิกเพื่อขยาย

แพ็กเกจอย่างกับของ majolica

เนื้ออายแชโดว์ก็คล้ายของมาจอลิก้าค่ะ คือค่อนข้างเป็นผงๆ สีอ่อน แต่วิ้งไม่จัดเท่าของมาจอลิก้า (พาเล็ตของมาจอลิก้าวิ้งเยอะมากกกก ไม่ชอบเท่าไหร่ เพราะมัันจะทำให้ตาดูบวมและเด่นเกิน) ต้องใช้ร่วมกับอายเบส ถึงจะได้สีชัด ใช้ร่วมกับอายแชโดว์เบสก็ติดทนดีนะคะ อยู่ได้ทั้งวัน ไม่เลอะ ไม่เป็นคราบค่ะ แต่ถ้าไม่ใช้อายเบส คาดว่าผลลัพธ์อาจจะไม่ดีเท่านี้

สีเบอร์ 4 Hearty Smoky (รูปนี้เป็นสีจริงเหมือนในตลับ ถ่ายรูปไ่ม่เปิดแฟลช)



ใช้ทาสโมกกี้อายส์หวานๆ ได้สวยมากๆ



สีเบอร์ 7 Bubble Flower (รูปนี้เป็นสีจริงเหมือนในตลับ ถ่ายรูปไ่ม่เปิดแฟลช)



สีนี้ยิ่งกว่าหวานค่ะ ชอบๆๆๆ ไม่มีอายแชโดว์โทนสีนี้เลย ไว้แต่งเวลาไม่อยากแต่งตาเยอะๆ เข้มๆ



VOV Eyedation นี้ ค่าเสียหายอันละ 10000 W (ราคาตามป้ายที่ติดมากับของฝากนะคะ ไม่ได้เช็กราคาในเว็บค่ะ) หรือประมาณ 300 กว่าบาท

ลิปสติก Castle Dew Pink Shot Color Shot Lips สี Platina Pink



สีชมพูอ่อน กำลังสวย ไม่ซีด เหมาะกับแต่งหน้าหวานๆ หรือตาเข้มๆ



ทาบนปากให้ดู



เนื้อลิปค่อนข้างดีนะคะ เนียน นุ่ม ทาแล้วเม็ดสีแน่นดีค่ะ ได้สีสวยเหมือนในแท่ง ปากไม่แห้ง

ติดทนไหม ไม่ได้ติดทนมาก แต่ก็ไม่ได้เลือนหายไว กลิ่นลิปออกแนวผลไม้่อ่อนๆ ที่แทบไม่ได้กลิ่น

แพ็กเกจเจ้าหญิงมากกกก (หวานเกินมิถุนา แต่ชอบสีของมัน)

ค่าเสียหายตัวนี้ 12000 W หรือ 300 ปลายๆ

ยาทาเล็บ

Etude Jewelade

รุ่นนี้จำได้ว่าเคยซื้อในห้างสามร้อยเกือบสี่ร้อย แพงมากกกก แต่ว่าราคาที่เกาหลี 9000 W หรือราวๆ 100 บาท



สีขาวค่อนข้างใส ต้องทาทับประมาณ 3 รอบถึงจะได้สีสวย

สีนี้ชอบมากกว่าอีกสี สีนุ่มๆ ขรึมๆ ดีค่ะ สีนี้ทาครั้งเดียวก็อยู่ แต่ทาสองรอบจะสวยกว่า



ทาน้ำยาทาเล็บแมตต์ทับแล้วสวยมาก



ยาทาเล็บของ Etude รุ่นนี้ทาง่าย สีสวย แต่แห้งค่อนข้างช้า แปรงเป็นทรงแบนและใหญ่ทำให้ทาง่าย ติดทนปานกลางค่ะ ไม่ได้ติดทนมาก (อยู่ได้ราวสองวันจะเริ่มมีสีลอกๆ ที่ปลายเล็บ

วันก่อนแวะไดโซะ ได้ขนตาล่างมาเล่น

อยากลองติดขนตาล่างมานานแล้วค่ะ แต่ส่วนใหญ่ไม่เจอขนตาล่างสวยๆ ถูกๆ เลยไม่ได้ซื้อมาเล่น เพราะมิถุนาไม่ชอบติดขนตา (ความจริงชอบแต่งตา แต่ไม่ชอบทำอะไรมากไปกว่านั้น เช่น ติดขนตาปลอม หรือปัดมาสคาร่า เพราะตาค่อนข้างระคายเคืองง่าย)


*คลิกเพื่อขยาย

กาวติดขนตา



มีสีขาวกับสีดำด้วย แต่ชอบแบบใสมากกว่า

กาวแห้งไวมากกก ทาขนตาปุ๊บ ติดได้เลย ไม่ต้องแกว่งขนตารอให้กาวหนึบๆ แต่ว่าแอบล้างยาก (เวลาแกะขนตาปลอมออกมาแล้วมันเกาะบนขนตาปลอมเป็นคราบแข็ง ต้องเช็ดด้วยอายรีมูฟเวอร์ดีๆ)

อันนี้แบบขนตาแบบหนาๆ ติดแล้วตาหวาน แต่มิถุนาไม่ชิน มันลิเกเกิน ขอติดแต่ครึ่งเดียว (คือแบ่งครึ่งตัด)


*คลิกเพื่อขยาย

สองอันนี้เป็นอันที่จะใช้ติดให้ดูในฮาวทู

ขนตาแบบช่อ


*คลิกเพื่อขยาย

แบบช่อนี่ติดง่ายดีค่ะ ง่ายกว่าแบบที่มันเป็นกระจุกเล็กๆ และเป็นธรรมชาติกว่า ติดสัก 1 ใน 3 ของดวงตาจะได้ขนตากำลังดีเลย (มิถุนาใช้ 3 - 4 ช่อ)

ขนตาล่าง แบบสั้น



เจ๋งมากกกก แต่ว่าเวลาแกะจากแพ็กเกจต้องแกะแบบใจเย็นๆ นะคะ เพราะติดกาวแน่นทีเดียวค่ะ

มิถุนาเอามาแบ่งครึ่งตอนติด ไม่อยากติดทั้งแผง เพราะมันเวอร์เกิน



ถ้าใครชอบแต่งหน้าแบบสาว gal ตาโต ติดทั้งแผงได้เลยคะ่ ไม่ต้องตัดออก

เริ่มแต่งตาก่อนนะคะ ใช้ VOV Eyedation สี Bubble Flower

ใช้แปรงอายแชโดว์หัวเล็ก เลือกสีเหลือง



ระบายหัวตา เริ่มจากด้านบน



ลงมาขอบตาล่าง 2 ใน 3



เปลี่ยนเป็นแปรงอันใหญ่หน่อย เลือกสีเขียว



ระบายเบ้าตา



กลับด้านแปรง เลือกสีน้ำตาล



ระบายช่วงหางตา



ลากแปรงมาที่ขอบตาล่างราว 1 ใน 3 ด้วย



เปลี่ยนเป็นแปรงสำหรับเบลนด์ แตะสีชมพูอ่อน



เบลน์สีด้านบน



สีน้ำตาลมันอ่อนไปนิดค่ะ เลยเอาแปรงหยด missha magic eye changer ให้แปรงหมาดๆ แตะสีน้ำตาล



ระบายช่วงหางตา และลงมาขอบตาล่างนิดหน่อย ตาจะได้สีมิติ



จะเห็นว่าสีน้ำตาลที่เราทาด้วยแปรงเปียก จะได้สีเข้มกว่าสีน้ำตาลเดิม



กรีดอายไลเนอร์สีน้ำตาลทอง ใช้ของ in2it



กรีดแบบเล่นหางยาวเล็กน้อย และลากเส้นที่ขอบตาล่าง 1 ใน 3



ได้ตาแบบนี้



ใช้อายไลเนอร์ดินสอสีดำ (ของ MAC Powerpoint Eye Pencil สี Engraved)



เก็บช่องว่างระหว่างขนตา ด้วยการทำอินเนอร์ไลน์ ขอบตาบน และขอบตาล่าง 1 ใน 3



ได้ตาสำเร็จแบบนี้



ติดขนตาปลอม...

เลือกติดขนตาล่างก่อน

ทากาวติดขนตา รอให้กาวหนึบนิดหน่อยก่อนจะติด (แต่บางยี่ห้อไม่ต้องรอ)

ใช้แหนบช่วยติด (ก่อนจะติดขนตา ลองวางขนตาบนตาก่อนนะคะว่าเหมาะกับเรไหม ถ้าขนตาดูยาวเกิน ให้ตัดส่วนเกินออก แต่คราวนี้ที่ติด มิถุนาตัดใช่ครึ่งเดียวเพราะว่าติดทั้งแผงมันเยอะเกินไป)

จับขนตาด้วยแหนบ มือนึงจับกระจก แล้วก็ค่อยๆ วางใต้ขนตาล่าง ชิดขอบขนตาที่สุด



หมายเหตุ...ถ้าขนตาล่างไม่โค้งงอ แนะนำให้ใช้ที่ดัดขนตา ดัดขนตาล่างก่อนจะติดนะคะ ไม่งั้นถ้าติดทั้งที่ขนตาล่างตรงแหนว มันจะแข็งทื่อและดูปลอมมากๆ

ไม่มีรูปสำเร็จนะคะ ลืมถ่ายรูป

ใ้ช้แหนบจับขนตาแบบช่อ ติดที่หางตาก่อน ค่อยๆ วางช่อต่อไป เรียงประมาณ 3 - 4 ช่อ ต่อกัน แล้วแต่ขนาดดวงตา



ดัดขนตา ขนตาปลอมและจริงจะได้งอน และดูเหมือนจริง



ได้ตาแบบนี้



ตาดูหวานขึ้นนะคะ พอมีขนตา


*คลิกเพื่อขยาย

แก้มใ้ช้ Privacy Face Glitter Color สีชมพูอ่อนๆ โกลว์ๆ ปากใช้ Castledew #Platina Pink

หน้าแบบครึ่งๆ



ทิ้งท้ายด้วยรูปแอ๊บสุดๆ รูปดีๆ ไม่มีเลยคะ่ มีแต่รูปตลกๆ




 

Create Date : 16 เมษายน 2553    
Last Update : 16 เมษายน 2553 17:56:41 น.
Counter : 6486 Pageviews.  

ⓡⓔⓥⓘⓔⓦ เปิดถุงช็อปปิ้งร้าน Neo ⓢⓦⓐⓣⓒⓗⓔⓢ My Nails Obsession & Many Easy ⓗⓞⓦ ⓣⓞ

วันก่อนโน้น แวะไปร้าน Neo

ร้าน Neo เป็นร้านขายของ 50/60/70 ที่มิถุนาชอบซื้อพวกอุปกรณ์ทำเล็บค่ะ ราคาไม่แพงมาก (แต่ก็ไม่ไดุ้ถูก) คุณภาพโอเคทีเดียว อายแชโดว์คุณภาพก็สมราคาดีค่ะ 60 บาทเหมือนกัน เลือกถูกตลับ จะได้อายแชโดว์สีสวยๆ ไว้ใช้เลยล่ะค่ะ

สาขามีตามนี้



ซื้อพวกนี้มา


*คลิกเพื่อขยาย

มีน้ำยาเคลือบเล็บ น้ำยาล้างเล็บ แล้วก็พวกคริสตัลกับ pearl bead

น้ำยาล้างเล็บ...ไม่ค่อยโอเคค่ะ ล้างง่ายก็จริง แต่ว่าใช้แล้วมือกับเล็บแห้งมาก ไม่ชอบเ่ท่าไหร่ คงไม่ซื้อต่อ

ส่วนเจ้านี่



เป็น Top & Base Coat (อันซ้าย)

ปรกติเราใช้ Top Coat ยี่ห้อนี้นะคะ (อันขวา) ใช้หมดมาหลายขวดแล้ว แต่ว่าคราวนี้ไปดู ของยังไม่มี (หรือไม่มา) ก็เลยซื้อ Top & Base Coat มาแทน

Top & Base Coat รู้สึกว่ามันออกเป็น Base Coat มากกว่า เนื้อบาง แห้งไว ไม่วาวเท่า Top Coat ถ้าจะให้ซื้ออีก คงไม่ซื้อเป็น Top Coat แต่จะซื้อเป็น Base Coat มากกว่า รู้สึกว่าดีพอๆ กับ Revlon ทีเีดียวค่ะ แห้งไวดี ชอบ

แล้วก็ซื้อคริสตัลกับ Pearl Bead


*คลิกเพื่อขยาย

ยังไม่เคยใช้ Pearl Bead เลยนะคะ วันก่อนลองใช้ดู แอบใช้ยาก 555 แต่คริสตัล รุ่นนี้มันเป็นประกายดีค่ะ ชอบ

ถุงช็อปอันนี้เล็กหน่อย เกรงใจแม่ค่ะ :-)) เพราะแม่ออกสตางค์ให้

มาดูรีวิวสีทาเล็บกันนะคะ คัดสีที่ชอบและใช้บ่อยมารีวิว Swatch ให้ดูค่ะ (บางสีเคยรีวิวไว้แล้ว แต่ถ่ายรูปไม่ชัด เลยเอามารีวิวใหม่ค่า)

มิถุนาเป็นคนชอบทาเล็บ แม้เล็บจะสั้น มือไม่สวย แต่ว่าเวลาทาเล็บมันสนุกดีค่ะ เปลี่ยนสีทาเล็บแทบทุกวัน ส่วนใหญ่สองวันเปลี่ยนลายที แต่ อาทิตย์ก่อนนี้ เปลี่ยนทุกวันเลยค่ะ

เลยเอาสีทาเล็บมาอวดซะเลย

ขอเริ่มด้วยสีที่ได้มาใหม่ ที่กำลังเห่อดีกว่า

Sephora by O.P.I #Mermaid to Order

สีฟ้าอมเขียว มีมุกๆ ทองๆ สวยมากๆ



ลองทายาทาเล็บใสๆ วิ้งสีรุ้งทับ (AC-NED-05) เปลี่ยนลุ้ก Mermaid to Order


*คลิกเพื่อขยาย

พอทา Mermaid to Order ทำให้นึกถึงยาทาเล็บโทนสีฟ้าๆ เขียวๆ ที่มี

โดย เฉพาะสี AC-NED-53 พอทาบนเล็บแล้ว ใช้แทนกันได้เลยค่ะ แต่ว่า Mermaid to Order จะิติดฟ้าอมทองมากกว่า แต่ดูเผินๆ ในแสงอาทิตย์แล้วคล้ายกันค่ะ

ทา AC-NED-53 ให้ดู



เปลี่ยนลุ้ก AC-NED-53 ด้วยน้ำยาเคลือบเล็บแบบแมตต์ ที่พอทาลงไปจะทำให้น้ำยาทาเล็บกลายเป็นสีแมตต์

สีนี้พอทา Essie Matte About You แล้วสวยมากๆ ค่ะ



ถ้าใครสนใจ Essie แวะดูรีวิวนี่ได้ค่ะ

ⓡⓔⓥⓘⓔⓦ Essie Matte About You

ขอต่อด้วยยาทาเล็บจากร้าน Neo ต่อก่อนนะคะ เดี๋ยวค่อยกระโดดกลับไปหา O.P.I

AC-NED-08



สีเขียว...ออกเขียวมะนาว

สี นี้แย่มาก ทาแล้วเล็บเหลือง (ตอนนี้ก็ยังเหลืองไม่หาย) แต่สีสวยมากๆ จนอดทาไม่ได้ แต่ทาได้วันเดียว แล้วรีบล้างออก กลัวเล็บเหลืองนั่นเอง

LP-NEC-45



สีนี้สวยมาก ควรมีสีทำนองนี้ติดตัวไว้

เป็นวิ้งๆ สีเงินละเอียด ทาชั้นเดียวจะได้วิ้งเงินบางๆ แต่ถ้าทา 2 - 3 ชั้น จะได้สีแบบนี้

รุ่นนี้ก็หนืดไว ต้องใช้น้ำยาเติมยาทาเล็บมาเจือจาง

AC-NED-23



แบบวิ้งๆ อีกเหมือนกัน

แต่วิ้งใหญ่กว่า ล้างยากกว่า วิ้งกระจายตัว ทำให้เหมาะกับใช้ทาทับสีอื่นๆ มากกว่า

รุ่นนี้น้ำยาหนืดไวค่ะ ต้องเอาน้ำยาเติมยาทาเล็บมาเติม

LP-NEC-10



ชมพูนมๆ ซีดๆ ไม่มีวิ้ง ไม่มีมุก สวยมากๆ

ทาวิ้งรุ้งๆ แล้วน่ารักมากๆ



ชอบยาทาเล็บร้าน Neo เพราะว่าสีสวย ราคากลางๆ สีเลือกเยอะดีค่ะ (แต่ต้องเลือกดีๆ เพราะบางอันเก่าเก็บ)

ข้อ เสียคือสียาทาเล็บใส ต้องทา 2 ครั้งขึ้นไปจึงจะสวย แปรงทาไม่เท่ากัน



บางอันเล็ก บางอันใหญ่ (ส่วนใหญ่เล็ก) บางสีทำให้เล็บเหลือง (สีเขียวมะนาว) พวกน้ำยาทาเล็บแบบวิ้งๆ ใสๆ จะหนืดไว และแห้งช้า แต่สีโทนทั่วไปแห้งไวปานกลาง และไม่มีปัญหาเรื่องหนืดไว

มาต่อกันที่ O.P.I แบรนด์ดัง

O.P.I #Tutti Frutti Tunga



สีขาวมุกๆ สวยค่ะ แต่ทายาก สียาทาเล็บใส ต้องทา 2 - 3 ครั้งถึงจะได้สีชัดสวย

O.P.I สีสวย ยิ่งสีเข้มๆ ยิ่งสวยค่ะ สีอ่อนๆ ก็ยังทายากเหมือนยี่ห้ออื่นๆ

หาซื้อยาก ต้องซื้อตามเว็บขายของ ไม่ก็ดูร้านทำเล็บที่นำเข้านะคะ (แต่ที่ร้านทำเล็บจะแพงกว่า ซื้อที่เว็บถูกกว่า)

เบื่อๆ ก็ทาเคลือบเล็บวิ้งๆ



O.P.I #MonSooner or Later

สีแดงสด สวยมาก เป็น Limited Edition



ถ้ากลัวแรงไปก็ทา Essie Matte About You เึคลือบเล็บให้เป็นเนื้อ Matte



O.P.I #Siberian Nights

สีม่วงดำ เข้ม สวยมาก เป็น Limited Edition เหมือนกัน



แปรงของ Siberian Nights แปลกกว่าชาวบ้าน มันแบนกว่า หนากว่า

ชอบแปรงแบบเล็ก ปรกติมากกว่า



ลองทา Essie Matte About You ทับ Siberian Nights

ดูสวยไปอีกแบบ



Sephora by O.P.I #On Stage

สีม่วง...ม่วงแบบกะปิๆ บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่สวยค่ะ ชอบ



ทา Essie Matte About You แล้วเปลี่ยนลุ้กไปเลย



O.P.I #Ladies & Magenta-men

สีชมพูสด มีมุกๆ สวยอีกเช่นกัน



จะเป็นโทนสีเดียวกับสองสีนี้ ที่ชอบเหมือนกัน



Natural Collection #Hibicus

สีชมพูบานเย็น ทาง่าย สีสดชัด ทาครั้งเดียวก็ชัดเจนค่ะ ราคาไม่แพงด้วย

ข้อเสีย มันจะมีกลิ่นแปลกๆ ไม่ใช่กลิ่นยาทาเล็บทั่วไป (เหมือนเค้าใส่น้ำหอม) ทาแล้วจะเวียนหัวนิดๆ



Maybelline #Peach Mango

สีชมพูอมส้ม วิ้งๆ สีสวย ทาง่าย (ครั้งแรกสีชัด แต่ทาสองครั้งจะได้สีสวยกว่า) ราคาร้อยกว่าบาทมั้งคะ

ข้อเสีย เป็นยาทาเล็บแบบมีกลิ่น ไม่่ค่อยชอบกลิ่นหวานๆ แบบนี้ค่ะ



China Glaze #Chiaroscuro

สีนู้ดๆ อมส้มและชมพู สวยมากๆ

ยา ทาเล็บของ China Glaze เนื้อเหลวและใส คล้ายของร้าน 60 บาท ต้องทา 2 - 3 ครั้ง ถึงจะสวย ทาแล้วแห้งช้า แต่สีสวยมากค่ะยี่ห้อนี้ เป็นยี่ห้อที่สีอ่อนๆ ทาง่ายดีค่ะ ไม่ค่อยเป็นร่องๆ เท่าไหร่



ทาวิ้งๆ ทับ ยิ่งสวย



China Glaze #Tantalize Me

สีม่วงอ่อน เหลือบๆ เป็นสีโปรดอีกสี



China Glaze ไม่มีขายที่เมืองไทยค่ะ ต้องที่อเมริกาค่า

ข้ามค่ายมาที่ Skinfood

เป็นยาทาเล็บที่สีเยอะมาก ราคาไม่แพงมาก สีส่วนใหญ่ค่อนข้างใส ต้องทา 2 ครั้งถึงจะสวย แต่บางสีทำให้เล็บเหลือง ไม่ชอบตรงนี้แหละ

Skinfood #BL509

สีเขียวมินต์ มีมุกๆ สวยค่ะ ใช้บ่อยมาก ทายากเล็กน้อย ต้องทาสามครั้ง เพราะสีมันใส



Skinfood #OR309

สีส้มสด ส้มมากๆ

สีนี้ทำให้เล็บเหลือง



Skinfood #BR601

สีทองแดง ทองแดงจริงๆ นึกถึงสีอายแชโดว์

สีนี้ไม่ค่อยชอบมากเท่าไหร่ :-)) ใช้น้อยมาก (แต่ไหนๆ รีวิวสกินฟู้ดแล้ว ก็เลยรีวิวทีเดียวค่ะ)



สีสุดท้ายจาก Skinfood

VI407

ม่วงเข้ม วิ้งๆ สีม่วงชัดเจนค่ะ สีสวยมากๆ



Skinfood #VI407 โทนเดียวกับ O.P.I #Siberian Nights แต่ของ Skinfood จะติดม่วงกว่า ขณะที่ O.P.I ติดดำ



Etude #YL801

สีเหลืองสด...สดมากกกกก

ชอบค่ะ ขวดนี้ใกล้หมดแล้ววววว

ข้อเสีย...สีใส ทายาก ต้องทาสามครั้ง ไม่งั้นสีไม่สวย



ทา Essie Matte About You ทับก็สวย



แต่ที่ชอบมากเป็นพิเศษคือทากากเพชรสีเหลือง เป็นแบรนด์ตลาดนัดนะคะ

ทาแล้วสีเหลืองจะเด่นมากๆ



ต่อกันด้วยน้ำยาทาเล็บจากตลาดนัด สีที่ชอบ พวกนี้เจอเวลาคุ้ยกะบะ ไม่ก็ตามร้านขายส่งอุปกรณ์เสริมสวยนะคะ ราคาไม่เกิน 30 บาท ซื้อเยอะๆ ยิ่งถูก

ขอเิริ่มด้วยสีฟ้า แบบไข่นกการเวก

สีนี้สวยมาก ทาชัดด้วยค่ะ



ทา Essie Matte About You

สีจะเป็นฟ้านมๆ พาสเทล น่ารักดีค่ะ



สีม่วงสดๆ ม่วงแบบ magenta อธิบายไม่ค่อยถูกเหมือนกันค่ะ :-))



ทายาทาเล็บแบบกากเพชรทับ



สีเขียวทหาร แปลกมากๆ ชอบค่ะ ไม่เคยเห็นสีแบบนี้มาก่อน

ในรูปแอบทาไม่เรียบ เพราะมันเริ่มหนืดแล้ว เจือจางด้วยน้ำยาละลายสีเล็บแล้วเขย่าไม่เข้ากันดีด้วยล่ะค่ะ :-))



สีเขียวนี้ชอบทา Essie Matte About You มากกว่า

จะได้สีเขียวสุขุม :-))



มาต่อกันที่อีซี่ฮาวทูนะคะ ส่วนใหญ่เป็นแบบง่ายๆ ที่ชอบทาเวลาเบื่อสีทาเล็บเปล่าๆ

แบบแรก เล่นไล่สี

แบบนี้เป็นแบบที่ชอบทามาก ใช้สีดำกับเงิน ไม่ก็เปลี่ยนเป็นสีทอง ทาง่ายมากๆ ด้วย

เริ่มจาก ทาเล็บสีดำพื้นๆ


*คลิกเพื่อขยาย

หลังจากสีดำแห้ง ก็เอายาทาเล็บแบบกากเพชรสีเงิน (ถ้าเปลี่ยนเป็นสีทอง จะดูหรูๆ) มาป้ายที่โคนเล็บ ขึ้นมาครึ่งนึง

ป.ล. เล็บก้อยแอบทาทับไปสองครั้งแล้ว สีเลยจะหนากว่าเล็บอื่นๆ


*คลิกเพื่อขยาย

รอให้กากเพชรสีเงินแห้งนิดนึง แล้วค่อยทาสีเงินอันเดิมซ้ำลงไป

แต่ทาแค่ครึ่งเดียวของที่เราทายาทาเล็บสีเงินเมื่อครู่

จะได้เอฟเฟกต์แบบ 3D ดูเป็นมิติ



ต่อไป เล่นลูกเล่นกับน้ำยาเคลือบเล็บแบบแมตต์

เคยเห็นในรูปในกระทู้เกี่ยวกับเล็บๆ ของห้องแป้งนี่แหละ แล้วอยากทำตาม ก็เลยออกมาเป็นแบบนี้

เริ่มด้วย ทายาทาเล็บสีดำ

อัน นี้ใช้ของ ZODA จริงๆ มันมีวิ้งๆ นะ แต่มองไม่เห็นเลย วิ้งจมก้นหมด สีนี้พอทาแล้วมันไม่มันวาวด้วยค่ะ ต้องเคลือบเล็บถึงจะสวย แต่เป็นสีดำที่ชอบ เพราะดำดี

ของ ZODA 3 ขวด 100 บาท แปรงห่วยมากกก หัวบานใหญ่ แต่สียาทาเล็บสวย ทาทิ้งไว้หลายวันก็ยังไม่ทำให้เล็บเหลืองนะคะ (สามวัน)



ทา Essie Matte About You ทับ

ป.ล. ในรูปจะเห็นจุดขาวๆ ใช่ไหมคะ แบบว่า Essie มันเริ่มแห้งแล้วจะจับเป็นก้อนๆ ถ้าเกลี่ยไม่ดี มันจะเห็นจุดขาวๆ นั่นล่ะค่ะ



บีบสีอะครีลิกใส่ถาด

เอาก้นพู่กันเบอร์ 1 จุ่มสีนิดหน่อย



ตั้งปลายก้นพู่กันให้ตรง แล้วแต้มบนเล็บเบาๆ เป็นจุดเล็กๆ

แต้มให้เป็นลาย polka dot



แบ่งแต้มเท่าๆ กัน ทำทุกเล็บ และจะได้ลายแบบนี้

เวลาเบื่อเล็บสีดำล้วนๆ ทำแบบนี้ก็สนุกดีค่ะ



ต่อด้วย French Nail แบบสีสัน

เริ่มทายาทาเล็บสีม่วง



ทา Essie Matte About You (ช่วงนั้นบ้าเล็บแมตต์ๆ จะทาแบบนี้ตลอด)

ป.ล. ยังมีบางส่วนเป็นจุดขาวๆ เนื่องจาก Essie เริ่มจะแห้งและเป็นก้อนแล้วนั่นเอง



ทำ French Tip ด้วยสีม่วงเข้ม

ไม่ต้องเรียบร้อยมากนะคะ เดี๋ยวจะมีเทคนิคทำให้มันดูกลืนๆ กันค่ะ



เอายาทาเล็บกากเพชรสีเงินตัดเส้นระหว่างสีม่วงอ่อนกับม่วงเข้ม

ก็ได้เฟรนช์เนลง่ายๆ ทำเองได้ :-))



ฮาวทูสุดท้าย

HOW TO NOTE & CLEF NAILS

อันนี้ วาดได้มือเดียวค่ะ อีกข้าง ไม่สามารถทำให้สวยได้ คงต้องรอวาดให้คนอื่น แต่ลายน่ารักมาก ชอบๆ



รวมๆ แล้ว จะได้แบบนี้

เส้นตรงดูไม่ค่อยเท่ากันนะคะ แต่โดยรวมแล้ว ไม่น่าเกลียดค่ะ ;-))

ลายเส้นจะดูชัดกว่านี้ ถ้าเปลี่ยนเส้นพื้นสีดำเป็นสีอื่นที่ใกล้เคียงเช่นเทา ดำวิ้ง หรือน้ำเงิน ฯลฯ แต่รู้สึกว่าสีดำเอามาเขียนแล้วสวยกว่าค่ะ



หมดอีซี่ฮาวทูแล้วค่า

อวดรูปเล็บที่เคยทำมาแล้ว

อันนี้ใช้สีส้ม สีเหลือง สีทอง และสีทองแดงรวมๆ กัน

บางเล็บแปะคริสตัลเล็กๆ คละแบบกระจายๆ ให้เหมือนหินสีต่างๆ ทำง่ายมากๆ



อันนี้ทาสีม่วง

แปะกากเพชรสีชมพูที่โคนเล็บ แล้วก็ทากากเพชรสีรุ้งทับ



อันนี้เพนต์ลายตามวีดีโอในยูทูป



ป.ล. ตอนทำเล็บลายนี้ ยังไม่ได้เล็มหนังให้เรียบร้อย มือเลยดูน่าเกลียดเลยคะ

อีกข้าง...คริสตัลแบบเดียวกันหมด เลยใช้สีม่วงอ่อนแทน ชอบข้างนี้มากกว่าอีกข้าง



วิธีทำ Credit: julieg713 ค่ะ

ทำไม่ยาก แต่รู้สึกว่าเล็บยาว จะทำสวยกว่า



เสริมทริกสำหรับคนรักการทาเล็บนะคะ

น้ำยาทาเล็บที่หนืดๆ อย่าเพิ่งทิ้งนะคะ ยังใช้งานได้ ถ้าเอามาผสมกับน้ำยาเติมสีทาเล็บค่ะ



อันนี้มิถุนาซื้อที่ร้านขายส่งอุปกรณ์เสริมสวย ขวดละ 50 บาทได้มั้งคะ

ถ้า บ้านใครไม่ใกล้ร้านจำพวกนี้ ดูตามเว็บขายของก็มีขาย (เสิร์ชด้วยคำประมาณว่า "น้ำยาเติมสีทาเล็บ") หรืออีกทางเลือก จำได้ว่าของ revlon มีขายค่ะ ขวดละ 99 บาท ร้าน neo ก็มีขายเหมือนกัน แต่ขวดเล็ก ไม่คุ้มค่าเท่าไหร่

เติมทีละนิดแล้วค่อยๆ กลิ้งขวดในมือ (ทั้งสองข้าง) ไม่ก็เขย่าเบาๆ จนสีเริ่มหายหนืด ก็จะเอาสีทาเล็บมาใช้ได้อีก

ใช้ syringe ดูดขึ้นมาจะทำให้กะปริมาณได้ดีกว่าค่ะ


ทิ้งท้ายด้วยคำถามยอดฮิตที่คิดว่าจะมีคนถามนะคะ

O.P.I/Essie Matte About You ซื้อได้ที่ไหนบ้าง

เอาชื่อไปเสิร์ชตามเว็บขายของได้เลยค่ะ

นอกจากนี้ O.P.I ยังหาซื้อได้ตามร้านทำเล็บบางร้าน แต่ราคาที่มิถุนาเคยถามมันแพงกว่าในเว็บค่ะ




 

Create Date : 17 มีนาคม 2553    
Last Update : 17 มีนาคม 2553 18:46:30 น.
Counter : 8147 Pageviews.  

ⓡⓔ-ⓡⓔⓥⓘⓔⓦ Contact Lens Geo 3-tone #Purple

พอรีวิวคอนแทคเลนส์ที่มีครบ รู้สึกว่าอยากรี-รีวิว Geo สีม่วง ที่เคยรีวิวไว้ก่อนหน้า เพราะรูปถ่ายในบล็อกก่อนมันไม่ชัดมาก เลยกลายมาเป็นบล็อกนี้ค่ะ

Geo 3-tone #Purple เบอร์ CM-905


*คลิกเพื่อขยาย

BC 8.60
DIA 14.0

รุ่น 3-tone สีสวย ชัดเจนค่ะ ชอบมากๆ

DIA ก็ไม่ใหญ่เกิน ทำให้ตาไม่แบ๊วเกินไป



ใส่สองข้าง (แอบน่ากลัว 555)



ซูมลายนิดๆ

แบบเปิดแฟลช

สีม่วงชัดมากๆ



ในแสงธรรมชาิติก็ยังดูชัดค่ะ



หน้าเต็มแบบเปิดแฟลช

เทียบตอนใส่กับไม่ใส่ให้ดูค่ะ


*คลิกเพื่อขยาย

แบบในแสงธรรมชาติ (รูปที่สอง ขาวเกินตัวจริงนะคะ ผิวจริงๆ ประมาณรูปแรกค่ะ)


*คลิกเพื่อขยาย

ตาสีม่วง แอบน่ากลัวนิดนึง แต่ถ้ามั่นๆ ก็ใส่ไปเลยค่ะ มิถุนารู้สึกว่าสีม่วงใส่สบายกว่า Geo สีเทา คาดว่าเป็นเพราะมาตรฐานของ Geo ไม่ค่อยดีเท่่่าไหร่

ข้อดีของ Geo 3-tone สีสวย ชัดเจน ราคาถูก (เดี๋ยวนี้ไม่ถึงสามร้อยก็ซื้อได้แล้ว) เลนส์เส้นผ่าศูนย์กลางไม่ใหญ่มาก ทำให้ตาไม่ดูแบ๊ว เหมาะกับคนชอบไซส์ pupil (เค้าเรียกว่าตาดำหรือเปล่าคะ ไม่แน่ใจภาษาไทยเท่าไหร่) พอๆ กับของจริง

ข้อเสียของ Geo 3-tone คนที่ชอบเลนส์ตาแบ๊วอาจจะไม่ชอบเท่าไหร่ เหมาะกับใส่แล้วแต่งตา มากกว่าใส่เปลือยๆ เลนส์ค่อนข้างแข็ง อาจจะเคืองตาได้ มาตรฐานเลนส์แต่ละคู่ไม่ค่อยเหมือนกัน บางคู่ใส่แล้วเคืองมาก บางคู่ใส่แล้วเคืองน้อย

เทียบสีเลนส์ของ Geo ที่มีให้ดูแบบรวมๆ

(รูปแบบเปิดแฟลช)


*คลิกเพื่อขยาย

ชอบทั้งสองสีนะคะ แต่สีม่วง พอใส่แล้วคนชอบมอง 555 เข้าใจว่ามันแปลกจนแอบดูน่ากลัว

(ชอบรูปนี้เป็นพิเศษ อิๆ)



ทิ้งท้ายด้วยรวมรีวิวคอนแทคเลนส์อื่นๆ

ⓡⓔⓥⓘⓔⓦ Contact Lens Dueba Dolce #Gray + MINI ⓗⓞⓦ ⓣⓞ Black & Brown Dramatic Smokey Eyes


ⓡⓔⓥⓘⓔⓦ Contact Lens Geo 3-tone Gray + MINI ⓗⓞⓦ ⓣⓞ Easy Brown Eyes Using Eyebrow Cake


ⓡⓔⓥⓘⓔⓦ Contact Lens Dueba Shebet Green ตาแบ๊วเกิ๊นนนนน




 

Create Date : 11 มีนาคม 2553    
Last Update : 11 มีนาคม 2553 22:15:27 น.
Counter : 3105 Pageviews.  

ⓡⓔⓥⓘⓔⓦ Contact Lens Dueba Dolce #Gray + MINI ⓗⓞⓦ ⓣⓞ Black & Brown Dramatic Smokey Eyes

แฮ่มๆ รีวิวคอนแทคต่อเนื่องนะคะ หมดกรุแล้วค่ะ

ตัวนี้เป็นของค่า Dueba รุ่น Dolce สีเทา DM23



ฺBC 8.60
DIA 14.5

เลนส์ใหญ่ และนิ่ม ใส่สบาย แต่ด้วยความที่เลนส์ใหญ่ คนตาเล็กอาจจะใส่ยากสักหน่อย (แต่รู้สึกว่ารุ่น Sherbet ใส่สบายกว่า)

เทียบกับตาธรรมดาว่าใหญ่ขนาดไหน



ใส่สองข้าง



ในแสงแฟลช



แสงธรรมชาติแบบชัดๆ




ข้อเสียในความคิดของมิถุนาคือ ลายมันดูยาก ชอบใส่กลับข้าง (555 โทษเลนส์ซะนี่) แล้วก็สีมันออกเทา/ดำ ผสมสีตาของคนใส่ มากกว่าจะเป็นสีเทาโดดเด่นแบบ Geo 3-tone ที่ออกสีชัดมากๆ

แต่ใส่แล้วดูแบ๊ว แ้ล้วก็ไม่หลอกตาดีค่ะ ไม่เหมือนรุ่น Sherbet สีเขียวที่หลอกตา ดูหลอนๆ

หน้าเต็มๆ ในแสงแฟลช



ในแสงธรรมชาติ (ภาพแสงเพี้ยน ดูขาวเวอร์ไปนิดนะคะ ผิวจริงๆ ดูคล้ำกว่านี้ แถมถ่ายรูปคนละัวันกับข้างบนด้วย เลยเป็นแต่งตาคนละแบบค่ะ)



ความเห็นส่วนตัว เจ้านี่เหมาะกับแต่งตาแนวสโมกกี้ดุๆ มากๆ เพราะมิถุนาเป็นคนตาเล็ก พอแต่งสโมกกี้เยอะเกิน มันจะดูน่ากลัว

พอแต่งสโมกกี้จัดๆ ใส่เลนส์ตาโตแล้วดูแบ๊วกว่าเยอะเลย แม้มันจะตัดขอบสีดำ แต่ก็ไม่หลอกไม่หลอน ปรกติมิถุนาจะไม่แต่งสโมกกี้จัด เพราะรู้สึกว่าไม่เข้ากับหน้าตา แต่ถ้ามีเจ้านี่ รู้สึกว่ามันโอเคกว่าเยอะเลย (คิดเหมือนกันไหมคะ...หรือว่ามิถุนาคิดไปเอง ฮี่ๆ)

ลองดู Before กับ After



Before ดูตลกไปเลย 555 เพราะตาเล็กๆ แต่งสีเข้มกว้างๆ แล้วมันหน้าแปลกๆ (สีผิวจริงๆ จะเป็นแบบใน Before นะคะ รูป After แสงเพี้ยน)

มาดู MINI ⓗⓞⓦ ⓣⓞ Black & Brown Dramatic Smokey Eyes ที่แต่งในรูปข้างบนกันค่ะ



1. หลังจากลงอายเบสแล้ว ก็ระบายอายแชโดว์สีดำอมเทาให้ทั่วเบ้าตา แต่ไม่เน้นสีดำมากเหมือนปรกติ ใช้วิธีค่อยๆ เติมสีดำทีละนิด (ให้มันดูกึ่งเทามากกว่า) ลากแปรงลงไปที่ขอบตาล่างด้วย เบลนด์ให้ฟุ้งเยอะๆ ทั่วทั้งตา

2. เอาแปรง Blending แตะอายแชโดว์สีน้ำตาลเนื้อแมตต์ ระบายเหนือสีดำตามรูป เบลนด์ให้กลืนไปกับสีดำ ทำให้สีดำดูซอฟต์ลง

3. เขียนอินเนอร์ไลน์และอายไลเนอร์ด้วยอายไลเนอร์ดินสอสีดำ เอาแปรงเบลนด์เส้นอายไลเนอร์ให้ฟุ้งไปกับอายแชโดว์สีดำด้วย

จะำได้ตาแบบนี้



ลืมตาชัดๆ อีกที



ป.ล. สีปาก ใช้คอนซีลเลอร์กลบบางๆ ก่อนจะทา NYX สี Strawberry Milk บางๆ (ใช้นิ้วป้ายจากแท่งแล้วเอามาแตะๆ ให้ทั่วปาก สีจะอ่อนสวย ไม่เป็นคราบ) แก้มใช้ Shu Uemura Glow On #M Pink 32E ชมพูซีดๆ

ป.ล.ล. การแต่งตาในรูปหน้าเต็มเปิดแฟลช เป็นการแต่งตาคนละแบบกับรูปหน้าเต็มในแสงธรรมชาติ




 

Create Date : 10 มีนาคม 2553    
Last Update : 10 มีนาคม 2553 16:18:37 น.
Counter : 3338 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  

มิถุนายน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]





บล็อกนี้เริ่มต้นจากการเก็บรวบรวมนิยายของมิถุนาให้เป็นหลักแหล่ง และต่อมาได้เพิ่มความชอบเกี่ยวกับเครื่องสำอาง การท่องเกี่ยว การกิน และเรื่องจิปาถะอื่นๆ ค่ะ ว่างๆ ก็แวะมาทักทายกันบ้างนะคะ

มิถุนา (busaba401แอตhotmail.com)

แวะทักทาย/ฝากคำถามได้ที่ cbox นะคะ แล้วจะมาตอบให้ทุกคนค่า








Fanpage นิยายของมิถุนา
(เฉพาะนิยายนะคะ ไม่ได้อัพเรื่องเครื่องสำอางค่ะ)
มิถุนา Mithuna นิยาย

โฆษณาหน้าของคุณด้วยเลยสิ



E-book ของมิถุนา
คืนปรารถนา
มิถุนายน
www.mebmarket.com
ทั้งหมดเริ่มต้นจากความเข้าใจผิด...อชิระคิดว่ามิลินท์หักหลังเขา เขาจึงใช้ความรักที่เธอมีให้เขาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น มิลินท์จาก...
ร้ายนัก(ไม่)รักเสียดีไหม
มิถุนายน
www.mebmarket.com
เมื่อยอดคุณป๊า ที่ถือคติที่ว่า “เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน” พยายามจับคู่ลูกๆ ที่เหลือให้ครบ อดีตคู่กัดสมัยละอ่อนเลยได้โคจรมาพบกันอีกครั้งในฐานะเจ้าบ่าวและเจ้าสาว...
New Comments
Friends' blogs
[Add มิถุนายน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.