"ที่ว่างของงานเขียน..เล็กๆแต่อบอุ่น [Love&Warmth]"
Group Blog
 
All Blogs
 
เจ้าหญิงรองเท้าแตะ



คืนวันฝนตก (ตอน เจ้าหญิงรองเท้าแตะ)

เจ้ากอล์ฟ




……“ แม่ขา...หนูว่าจะเปลี่ยนรถคันใหม่ ” สาวสวยเอ่ยกับแม่ ขณะทานมื้อค่ำที่โต๊ะอาหาร

“ จะดีหรือลูก คันเก่าเพิ่งซื้อมาได้ไม่ถึงปีเลยนะ มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรสักหน่อยนี่ ” หญิงหม้ายวัย 50 เศษๆ เงยหน้าขึ้นมองลูกสาวด้วยความแปลกใจ

“ ก็มันมีรุ่นใหม่ออกมาแล้วนี่คะ ซ้วย..สวย ขืนหนูยังใช้คันเก่าต่อไป อายคนอื่นแย่เลยสิ เขาคงหาว่าหนูเชยจริงๆ ” สาวสวยจินตนาการวาดฝันถึงรถหรูคันใหม่ที่มีตัวเองเป็นคนขับขึ้นมาทันใด

“ มันจะทำให้ลูกลำบากน่ะสิ หนูจะหาเงินทันหรือ “

“ ไม่ทันก็ต้องทันล่ะแม่ ถ้ามีงานนอกเวลา หรืองานพิเศษอะไร หนูก็ต้องทำแล้วล่ะ “ สาวสวยมีรอยยิ้มมั่นใจผุดขึ้นที่มุมปากเล็กน้อย

ฟ้า...หญิงสาววัยยี่สิบเศษ ทำงานกับบริษัทเอกชนมีชื่อแห่งหนึ่ง สถานภาพโสด หน้าตาดีผิวสีขาวเนียน เป็นที่ต้องตาต้องใจของบรรดาชายหนุ่มทั้งหลาย อาศัยอยู่กับแม่เพียงสองคนในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านชานเมือง หล่อนเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง ต้องการเป็นที่สนใจของคนรอบข้าง สิ่งใดที่เธออยากได้หล่อนเป็นต้องไขว่คว้าเพื่อให้ได้มาเสมอ อาจเป็นเพราะเมื่อครั้งยังอดีตที่พ่อของเธอได้ลาจากครอบครัวไปตอนที่ฟ้าอายุได้เพียง 8 ปี ชีวิตของเธอและแม่อยู่กันแบบค่อนข้างจะลำบาก อะไรที่เกินความจำเป็นในครอบครัวแม่จะเป็นคนสั่งงด สั่งห้าม เพื่อลูกสาวคนเดียวจะได้เรียนจนจบในระดับที่หม้ายคนนี้ตั้งใจเอาไว้ เสื้อผ้า รองเท้า ชุดนักเรียนของฟ้าจะถูกดูแลรักษาเป็นอย่างดี ส่วนใดที่ขาดนิดขาดหน่อยไม่น่าเกลียดจนเกินไปแม่ก็จะซ่อมแซมให้ตลอด ทุกครั้งเมื่อถึงเวลาเปิดเทอม บรรดาเพื่อน ๆ ทั้งชายและหญิงของฟ้าก็จะมีเสื้อผ้าใหม่ ๆ ขาวสะอาดสดใส พร้อมของแถมหลอกเด็กมาอวดกันไปมา ภาพเหล่านี้มันช่างเป็นความอับอาย และฝังใจสำหรับเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆ อย่างเธอ......
.................................................



ที่ป้ายรถประจำทางย่านชานเมืองแห่งหนึ่งมีสภาพทรุดโทรม ที่นั่งพักผู้โดยสารมีอยู่ไม่กี่ตัว บ้างก็หักไปไม่สมประกอบ บ้างก็เลอะเทอะเปรอะเปื้อน หลังคาที่เคยบังแดดบังฝนก็แตกเป็นช่องให้มองเห็นนกบินบนท้องฟ้าได้เป็นหย่อมๆ แต่ถึงยังไงมันก็เป็นสถานที่ให้ผู้คนมายืนรอรถได้อย่างสบายใจ แม้จะบังฝนบังแดดได้ไม่เต็มที่นักก็ตาม

ฟ้าในเช้าวันนี้ใส่ชุดทำงานที่เรียบไร้รอยยับ รองเท้าส้นสูงที่ถูกขัดจนมันวาว กับกระเป๋าสะพายราคาแพง ได้ก้าวเท้าเข้ามายืนปะปนกับคนที่มารอรถ ณ ป้ายแห่งนี้ การแต่งตัวของเธอเมื่อรวมกับความสวยสดใส ทำให้หล่อนดูโดดเด่นเป็นเจ้าหญิงท่ามกลางผู้คนมากมายที่กำลังจ้องมองเธออยู่ แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ฟ้ารู้สึกเคอะเขินแต่อย่างใด พลันคิดในใจขึ้นมาอย่างหงุดหงิดว่า

“ คนมากมายพวกนี้จะรีบร้อนไปไหนกัน ดูสิรถเมลล์ก็แน่นปานนั้นยังดิ้นรนยัดกันเข้าไปได้ ทำไมมันช่างวุ่นวายกันเหลือเกิน นี่ถ้าเจ้ารถตกรุ่นของเราไม่ดันเสียซะก่อน ฉันคงไม่ต้องมายืนอยู่ที่แบบนี้หรอก แท๊กซี่ก็ไม่ว่างสักคัน จะไปไหนกันแต่เช้าก็ไม่รู้ ”

ฟ้าเหลือบสายตาไปเห็นที่นั่งตัวแรกว่างอยู่ หล่อนจึงเดินเข้าไปหมายจะพักเรียวขาอันบอบบางที่เริ่มรู้สึกเมื่อยล้า แต่เธอก็ต้องหยุดชะงักไปชั่วครู่ เมื่อมองเห็นรอยเปื้อนอะไรสักอย่างติดอยู่บนที่นั่งปูนอันนั้น เป็นคราบที่ดูเหมือนว่าจะติดมานานจนยากที่จะลบออก หล่อนจึงตัดสินใจที่จะยืนอยู่ข้างๆ ที่นั่งพลางมองหารถแท๊กซี่ต่อไป แต่กระนั้นก็ได้มีผู้หญิงผมเผ้ารุงรัง ใบหน้าหมองคล้ำผิวสีดำแดง อายุอานามเกือบจะ 40 ปี ใส่เสื้อผ้าที่เก่าซอมซ่อดูสกปรกมอมแมม รองเท้าแตะหูหนีบสีกระดำกระด่างตัดกับสีของเท้าที่พุพองเป็นแผลเรื้อรัง แขนข้างซ้ายถูกยกขึ้นในมือมีถุงข้าว และถุงน้ำที่ถูกดูดจนเหลือแต่น้ำแข็ง เดินลากเท้ามายืนอยู่ใกล้ๆ กับเธอ................

“ ไอ้บ้า !! “ เสียงของหญิงบ้าด่าใส่เธอยังก้องอยู่ในหูตลอดเวลา

“ แกน่ะสิบ้า เนื้อตัวก็มอมแมมขนาดนั้น น้ำอาบมาบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ มาว่าคนอื่นว่าบ้าอีก พรุ่งนี้เช้าขออย่าได้เจอกันเลยยย เอ..เราโทรไปเร่งช่างให้รีบซ่อมรถเสร็จเร็ว ๆ ดีกว่า จะได้ไม่ต้องไปยืนรอรถที่ป้ายนั้นอีก “ ฟ้านั่งบ่นพึมพำคนเดียวในห้องนอน หลังจากที่เมื่อเช้า หล่อนถูกผู้หญิงไม่รู้หัวนอนปลายเท้ามาตะโกนใส่ท่ามกลางสายตาของคนแถวนั้น ทำให้สาวสวยอย่างเธอได้รับความอับอายเป็นอย่างมาก

“ จะห้าทุ่มแล้วหรือนี่ รีบนอนดีกว่า พรุ่งนี้จะตื่นให้เช้ากว่าวันนี้ ไม่ต้องไปวุ่นวายแย่งกันหารถไปทำงาน “ เมื่อคิดได้ดังนี้ ฟ้าก็วางโทรศัพท์ไว้บนหัวเตียงแล้วเอนตัวลงนอนอย่างรวดเร็ว
...........................................................



ฟ้ามาถึงป้ายรถประจำทางแต่เช้า ผู้คนบางตากว่าเมื่อวานสักครึ่งหนึ่งเห็นจะได้ หล่อนนั่งลงบนม้านั่งปูนถัดจากตัวที่มีรอยเปรอะเมื่อวาน สายตาพลางมองหารถแท๊กซี่ที่นานๆ จะผ่านมาสักคันหนึ่ง สายฝนเริ่มตกโปรยปรายลงมาช้าๆ ฟ้ารู้สึกได้ถึงความเย็นที่หล่นใส่หัวของเธอ หล่อนแหงนหน้ามองตรงขึ้นไปยังหลังคาที่ตนเองนั่งอยู่ เม็ดฝนได้ตกทะลุรอยรั่วรูใหญ่หยดใส่หน้าของเธอเต็มๆ ทำให้หล่อนรีบลุกขึ้นจากที่นั่ง มือล้วงหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าขึ้นมาซับเป็นการใหญ่ จากนั้นก็คว้าตลับแป้งเปิดกระจกขึ้นมาส่อง แต่ฟ้าก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อมองเห็นหญิงบ้าคนเมื่อวาน ยืนเหม่อลอยคุยกับดอกไม้ริมถนนอยู่ข้างหลังของเธอ หล่อนเริ่มกระวนกระวายใจ กลัวว่าหญิงคนนั้นจะเห็นตนเองแล้วตะโกนแบบเมื่อวานขึ้นมาอีก เธอจึงรีบก้าวเท้าเบียดเสียดฝูงชนขึ้นรถเมล์ที่จอดอยู่พอดีอย่างชนิดที่ลืมแท๊กซี่ไปเสียสนิท ฟ้านั่งลงริมหน้าต่างฝั่งซ้ายพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ แต่เมื่อนึกขึ้นได้เธอก็มองลงไปยังคนบ้าเมื่อสักครู่ อนิจจา..ผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่บนม้านั่งปูนตัวที่เปื้อนเปรอะกำลังแสยะยิ้มมองมาทางเธออยู่ด้วยเช่นกัน...............

“ ไอ้บ้า !! “ เสียงของหญิงบ้าด่าใส่เธอครั้งที่สองยังก้องอยู่ในหูตลอดเวลา

“ ทำไมน้า...ทำไม ต้องมาว่าเราด้วย อุตส่าห์หนีขึ้นรถไปแล้วยังตะโกนขึ้นมาอีกแน่ะ นี่มันสองครั้งแล้วนะ ไปเล่าให้ใครฟังนี่คงโดนหัวเราะเยาะแย่เลย เราก็ไม่ได้บ้าสักหน่อยตัวมันนั่นล่ะบ้าเอง ที่นั่งเลอะๆ ก็นั่งเข้าไปได้ อย่างนี้ไม่เรียกบ้าก็ไม่รู้จะเรียกว่ายังไงละ เฮ้อ ...อีกตั้งสองวันกว่ารถจะเสร็จ พรุ่งนี้ก็ต้องไปเจอไอ้บ้านั่นอีกแหง ๆ ช่างมัน.... ต้องทำเป็นไม่สนใจ รถอะไรมาก็รีบขึ้นไปเลยจะได้ไปพ้นๆ ตรงนั้นซักที ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี เอาล่ะรีบนอนเอาแรงก่อนดีกว่า พรุ่งนี้เช้าต้องไปเบียดเสียดยื้อแย่งกะคนอื่นอีก “ ฟ้าบ่นกับตัวเองเสร็จก็ทิ้งตัวลงนอนด้วยความอ่อนเพลีย
...........................................



วันนี้อากาศไม่ค่อยเป็นใจให้ผู้คนที่เดินทางเท่าไหร่นัก สายฝนโปรยปรายลงมาเล็กน้อยตั้งแต่เช้ามืด หญิงสาวสวยยกกระเป๋าขึ้นมาบังแทนร่ม สองขารีบจ้ำอ้าวเข้าสู่ป้ายรอรถประจำทางที่เดิม วันนี้มีผู้คนไม่มากมายนัก นั่นอาจเป็นเพราะอากาศที่เย็นสบายทำให้ตื่นสาย หรือบ้างก็คงหลบเลี่ยงอุปสรรคของการเดินทางอยู่ที่ไหนสักแห่ง ฟ้ายืนรอรถพลางสอดส่ายสายตาไปรอบๆ ก็พบคนบ้านั่งอยู่ตรงจุดที่หลังคารั่วพอดี ร่างของหญิงคนนั้นเปียกปอนไปด้วยน้ำฝน แต่นางก็ไม่ได้ขยับตัวหนีไปที่ไหน หนำซ้ำยังยิ้มร่าท้าทายลมฝนอย่างไม่สะทกสะท้าน แต่แล้วจู่ๆ ก็มีผู้ชายในชุดทำงานวัยกลางคนถือถุงอาหาร และน้ำ เดินตรงไปยังผู้หญิงบ้าคนนั้นพร้อมทั้งสนทนาอะไรกันบางอย่าง เห็นดังนั้นแล้ว ฟ้าจึงค่อยขยับตัวเข้าไปใกล้ๆ อย่างระมัดระวัง ด้วยความที่อยากรู้ว่าชายคนนั้นได้พูดคุยอะไรกับคนบ้า

“ เป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหมครับ วันนี้คงยังไม่มีใครซื้ออะไรมาให้กินล่ะสิเนี่ย ผมซื้อต้มเลือดหมูกับข้าวเปล่ามาฝาก อย่าลืมกินนะ รถเมล์มาแล้ว เดี๋ยวผมไปทำงานก่อน ไว้ผมจะซื้อมาฝากอีกนะครับ “ เมื่อพูดจบชายหนุ่มคนนั้นก็เดินขึ้นรถไป

ฟ้ากำลังแปลกใจในตัวของชายหนุ่ม ทำให้หล่อนพลาดที่จะขึ้นรถเมล์คันนั้น เธอชำเลืองดูนาฬิกาข้อมือ แล้วจึงเดินออกมายืนอยู่ริมฟุตบาทด้วยความรีบร้อน โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า ผู้หญิงคนนั้นกำลังจ้องมองมาทางเธอ ด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม และคราบน้ำฝน........

“ ไอ้บ้า !! “ เสียงของหญิงบ้าด่าใส่เธอครั้งที่สามยังก้องอยู่ในหูตลอดเวลา

“ วันนี้ก็ยังโดนว่าแฮะ แต่ทำไมนะไม่รู้สึกเจ็บใจหรืออายเท่าครั้งก่อนๆ เลย ยังไงก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมถึงด่าคนอื่นๆ ว่า ไอ้บ้า ทั้งที่ตัวเองก็เป็นบ้า ผู้ชายคนนั้นก็ช่างกล้าเสียจริงคุยกับคนบ้าก็ได้ หน้าตา การแต่งตัวก็ดูดีไม่น่าเลยเสียภาพพจน์คนหล่อหมด ต๊าย..นี่เราเพ้ออะไรออกไปเนี่ย ไม่เอาไม่เอา รีบนอนดีกว่า พรุ่งนี้ตอนเย็นๆ รถก็คงซ่อมเสร็จแล้ว จะได้ไม่ต้องไปเจอนังบ้านั่นอีกต่อไป “ ฟ้าทิ้งตัวลงนอนหน้าแดงก่ำ เมื่อพึมพำถึงผู้ชายคนนั้นขึ้นมา
.......................................................


วันรุ่งขึ้นอากาศสดใส นกมากมายบินออกจากรังทะยานสู่ท้องฟ้าเพื่อออกหากิน สภาพผู้คนก็เหมือนเดิมๆ ฟ้าหิ้วถุงพลาสติกสีใส ใส่กับข้าวที่ซื้อมาจากตลาดละแวกนั้นเดินเข้าไปหาหญิงบ้าที่นั่งเหม่อลอยอยู่ จากนั้นหล่อนก็นั่งลงบนม้านั่งปูนใกล้ๆ กับนาง โดยที่ไม่ได้กังวลหรือกลัวเหมือนเมื่อก่อนแต่อย่างใด ขณะที่ความรู้สึกดีดีของเธอกำลังเกิดขึ้นนั้น ก็มีเสียงอันอบอุ่นนุ่มนวลลอยมาตามสายลม

“ ไม่กลัวแล้วหรือครับ วันสองวันก่อนผมยังเห็นคุณท่าทางยังตกใจอยู่เลย “ หนุ่มหล่อคนเมื่อวานเอ่ยถามหญิงสาว

“ เอ่อ ...ค่ะ ก็คงจะเริ่มชินขึ้นมาบ้างแล้ว “ ฟ้าตอบกลับไปด้วยอาการเคอะเขินเล็กน้อย

“ ดีแล้วล่ะครับ แรกๆ ที่ผมย้ายมาอยู่แถวนี้ ก็โดนผู้หญิงคนนั้นด่าว่า ไอ้บ้า เหมือนกับคุณ และไม่ใช่แค่ผมคนเดียว หลายๆ คนที่อยู่นี่ก็ด้วยเหมือนกัน “ ชายหนุ่มพูดพร้อมกับยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย

“ จริงหรือคะ แต่ฟ้ายังไม่เข้าใจ ว่าทำไมเขาถึงว่าคนอื่นเช่นนั้น ทั้งที่ตัวเอง เอ่อ...ก็เหมือนคนบ้าแท้ ๆ “ หญิงสาวถามด้วยความฉงน

“ ใช่ครับ แรกๆ ผมก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน แต่อะไรหลายๆ อย่างมันทำให้ความคิดผมเปลี่ยนไป คุณลองมองดูนางให้ดีสิ จะเห็นว่าวันนึงวันนึง ชีวิตของเธอช่างดูมีความสุขยิ่งนัก แม้แดดจะร้อน ฝนตกลมแรง เสื้อผ้ามอมแมม หรือรองเท้าแตะที่ใกล้จะขาดเต็มที นางก็ไม่เคยจะสนใจ ยังไปนั่งคุยกับนกบ้าง ทักทายกับดอกไม้บ้าง เมื่อยามที่นางหิว เพียงแค่แบมือขอก็มีคนซื้อให้ อิ่มแล้วเธอก็ไม่ร้องต้องการอะไรอีก แม้ว่าโลกใบนี้จะหมุนไปสักเพียงใด นางก็ไม่เคยดิ้นรนที่จะหมุนตาม แต่อย่างเรานี่สิวุ่นวายไม่เว้นวัน ไม่รู้ดิ้นรนไขว่คว้าหาอะไร ทั้งเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ล้มลุกคลุกคลานก็ยังตะเกียกตะกายกันต่อไป ผมเองก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพื่ออะไร ทุกคนต่างก็มองผู้หญิงคนนั้นเป็นคนบ้า ทั้งๆ ที่จริงแล้วก็ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่บ้ากว่ากัน........ “

ตกเย็นฟ้าขับรถที่เพิ่งซ่อมเสร็จหมาด ๆ กลับบ้าน ระหว่างทางก็ผ่านป้ายรถประจำทางแห่งนั้น หล่อนมองข้ามถนนไป แลเห็นภาพของผู้หญิงที่ผมเผ้ารุงรัง เสื้อผ้ามอมแมม รองเท้าแตะหูหนีบ นั่งอยู่ที่เดิมท่ามกลางผู้คนมากมายที่รายล้อมอยู่ ทำให้นางดูเด่นเหมือนเป็นเจ้าหญิงที่อยู่ในโลกอันสดใสของเธอเลยทีเดียว
..........................................


“ แม่ขา หนูตัดสินใจไม่ซื้อรถคันใหม่แล้วล่ะแม่ ” สาวสวยวัยเกือบกลางคน เอ่ยปากบอกผู้เป็นแม่ ในขณะที่กำลังทานมื้อค่ำที่โต๊ะอาหาร

“ ดีแล้วล่ะลูก แต่ว่าเอ...ทำไมถึงเปลี่ยนใจล่ะ ” หญิงหม้ายวัย 50 เศษ ๆ เงยหน้าขึ้นมองลูกสาวด้วยความรู้สึกแปลกใจ

“ เอาไว้ว่างๆ หนูจะเล่าให้แม่ฟังละกัน ใครจะว่าหนูเชยก็ช่างมีแต่พวกบ้าๆ กันทั้งนั้น เอ่อ..แล้วก็ พรุ่งนี้หนูไม่เอารถไปทำงานนะ ” สาวสวยตอบพร้อมกับมีรอยยิ้มที่มุมปาก

“ ไปว่าเขาบ้าไม่ดีนะลูก ใจจริงแม่ก็ไม่อยากให้หนูรีบซื้อคันใหม่หรอก ว่าแต่ว่า..ทำไมไม่ขับรถไปทำงานล่ะ “ แม่ฉงนในคำพูดของลูกสาว

“ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่อยากจะขึ้นรถเมล์ดูบ้าง เผื่อจะได้เจอใครบางคนที่นั่น “ สาวสวยพูดจบก็วิ่งหน้าแดงขึ้นไปบนห้องทันที ปล่อยให้แม่นั่งยิ้มแก้มปริอยู่ที่โต๊ะอาหารเพียงคนเดียว................




Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 9 เมษายน 2551 19:48:46 น. 17 comments
Counter : 987 Pageviews.

 
มาลงชื่อว่าแอบมาอ่านเจ้าค่ะ (=^.^=)



โดย: น้องเจ้าค่ะ (blue mint ) วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:20:25:18 น.  

 
ตามมาอย่างกระชั้นชิด


โดย: รัน IP: 202.29.54.62 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:20:57:22 น.  

 
ขออ่านด้วยคน


โดย: I am SeRaPh วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:17:08 น.  

 
ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะหนักไปไหม แต่อยากให้ลองตั้งใจอ่านดูครับ

*ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมกันนะ


โดย: เจ้ากอล์ฟ (ChronoCross ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:2:38:21 น.  

 


โดย: ซินเดอ IP: 125.27.0.22 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:4:13:32 น.  

 
มาอ่านแล้วฮับ


โดย: บอลเอง IP: 58.9.123.210 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:50:54 น.  

 
ขอเข้ามาอ่านด้วยคนนะค่ะ และเอาใจดีดีมาฝากค่ะ

hosting by pHosted.com


โดย: opleee วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:11:08:09 น.  

 
อืม..คนบ้าที่มีความสุข ก็ยังดีกว่าคนไม่บ้าที่แบกโลกไว้ทั้งโลกนะ
แวะเข้ามาอ่านจ๊ะ


โดย: แร่ใยหิน วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:59:27 น.  

 
อ่านเรียบร้อยแล้วครับ คิคิคิ ต่างคน ต่างความคิด ต่างใจเนอะ

ซินเจี่ยอยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้
ขอให้มีความสุข ร่ำรวยๆๆ นะครับ

ช่วยสนับสนุนผมด้วยการคลิ๊กป้ายโฆษณาที่ด้านขวามือของผมด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ



โดย: sak (psak28 ) วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:40:43 น.  

 
คุณศักด์ ผมคลิกให้แล้วนะครับ 3 ครั้ง ร่วมด้วยช่วยกันครับ อาชีพสุจริต ยังดีกว่าพวกโกงเมือง


โดย: รัน IP: 124.121.195.136 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:22:07 น.  

 
ซิน เจีย ยู้ อี่ ซิน นี ฮั้ว ไช้
รวย ๆ เฮง ๆ นะคะ


โดย: แร่ใยหิน วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:29:24 น.  

 
บ้าวัตถุ บ้าอารมณ์ บ้าทุกอย่างของคนเราเมื่อเทียบกับบ้าของคนที่บ้าด้วยใจบริสุทธิ์แล้ว มันช่างต่างกันมกามายตรุษจีนนี้ขอให้ค้าขายร่ำรวยกันทุกคนนะคะ


โดย: wind IP: 222.123.117.30 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:55:51 น.  

 
"ถึงจะบ้าแต่ก็ไม่โง่" เพลงน้าแอ๊ด คาราบาว เข้ากับบทความนี้ได้ดีที่สุด


โดย: คนธรรมดา IP: 58.9.103.104 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:19:02:29 น.  

 
แวะเข้ามาหาตอนเช้า ๆ ค่ะ


โดย: opleee วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:8:28:04 น.  

 
แหมๆ ขอบคุณทุกคนครับที่แวะมาเยี่ยมกาน ต่อไปอาจจะเป็นช่วงของเรื่องสั้นแนว รักๆ สักหน่อยเปลี่ยนบรรยากาศกันครับ


โดย: เจ้ากอล์ฟ (ChronoCross ) วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:11:20:12 น.  

 
ไม่ได้อ่านหรอกมันยาวปวดตา เเค่เข้ามาโหวตให้เฉยเฉยเสาร์นี้อย่าลืมไปตอกข้าวสารล่ะโอบอกติดใจ


โดย: บี p.s วิลล่า IP: 58.9.109.72 วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:23:28:55 น.  

 
อ่านแล้วครับ ดีทีเดียวครับ


โดย: kusa IP: 202.12.97.117 วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:16:38:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ChronoCross
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]










Friends' blogs
[Add ChronoCross's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.