หลังจากคลิกที่ปุ่ม Enter ก็เป็นอันเรียบร้อยครับ ไม่รอช้า ผมจัดการดับเบิ้ลคลิกที่ไอคอนบนหน้าจอในทันที จากหน้าจอจะมีปุ่มให้คลิกเพื่อสร้างคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่กันละ แต่ผมจะมาเรียกจากเมนูแทนนะครับ คือไปที่เมนู File เลือก New Virtual Machine เมื่อหน้าจอ Wellcome ขึ้นมาก็ next ต่อไปอีกจนถึงหน้าจอ Select a Guest operating System เพื่อให้เราเตรียมพื้นที่สำหรับคอมพิวเตอร์พร้อมระบบปฏิบัติการเครื่องใหม่ของเราครับ
ตรงนี้ต้องตัดสินใจแล้วครับ ว่าอยากจะได้คอมที่ติดวินโดวส์อะไรไว้ใช้งาน ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่ 3.1 จนถึง Longhorn ตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่าต่อๆไปจะมี Vista มาให้ลองด้วยหรือเปล่า
นอกจากระบบวินโดวส์แล้ว ยังสามารถเลือกติดตั้ง Linux, Novel NetWare, Sun Solaris หรืออะไรอื่นๆได้อีก เพียงแต่ว่า VMware จะเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์เปล่าๆ ที่เหมาะสมกับระบบที่เราเลือกไว้เท่านั้น ส่วนตัวระบบปฏิบัติการนั้น เราจะต้องตระเตรียมจัดหาแผ่นติดตั้งกันเอาเอง
วันนี้ ผมนึกอยากจะลองเล่น Linux ดูสักหน่อยครับ เลยเลือกไปที่ Linux แล้วมาเลือกเป็นเวอร์ชั่น Other Linux เพราะไม่มั่นใจว่าที่ผมมีเรียกว่าอะไรกันแน่ จากนั้นก็ Next ไปอีก 1 ครั้งครับ
ตรงนี้จะให้เราเลือกพื้นที่ฮาร์ดดิสก์ของเรา ว่าจะให้ไปสร้างฮาร์ดดิสก์จำลองของ Linux ไว้ตรงใหน ก็อย่างที่บอกครับ ถ้าใครมีพื้นที่ว่างเยอะๆก็เลือกค่ามาตรฐานได้เลย ส่วนผมไปมีที่ว่างอยู่อีกที่นึง ก็เลือกไปตามต้องการครับ
Next มาอีกทีก็ถึงหน้า Network Type ก็คงไว้อย่างเดิม แล้ว Next อีกที จะมาเจอพื้นที่ที่เตรียมไว้ 4 G. ก็เอาตามนั้น แล้วก็ Finish ครับ
สำหรับผูที่อยากลอง LINUX แบบไม่ยุ่งยาก หลังจากที่ติดตั้ง VMware เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ให้หา LINUX ประเภท LIVE CD มาเตรียมไว้ครับ เดี๋ยวนี้มีหลายๆเวอร์ชั่นให้ลองใช้งานกัน (ถ้าถามผมตอนนี้ ผมว่า LIVE-CD V.7 กำลังดีครับ) ซึ่งไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากเลย พอใส่ซีดีรอไว้ กด Start ใน VMware ระบบเสมือนก็จะบูตด้วยซีดี แล้วเข้า LINUX โดยไม่ต้องมีการแบ่งพาร์ทิชั่นเพื่อการนี้ใดๆทั้งสิ้น (ปกติจะค่อนข้างยุ่งยากครับ)
จะมีต้องปรับอยู่บ้างก็เกี่ยวกับการใช้งานอินเตอร์เน็ตครับ คือถ้าระบบเป็นแบบแจก IP ก็จะสามารถใช้งานได้ทันที แต่ถ้าระบบหลักเป็นแบบ FIX IP ก็จะต้องปรับตั้งค่า IP ใน LINUX กันก่อน ซึ่งผมใช้งานแผ่น V.7 เมื่อปรับแล้วก็สามารถใช้ได้ทันที ไม่ต้องการการรีบูตอีกต่างหาก นั่งเล่น LINUX เพลินเลยครับ
เพิ่มเติม ในเวอร์ชั่นใหม่ๆนี้ จะมี VMware Player เพิ่มเข้ามา ช่วยให้การใช้งานวินโดวส์บน VMware นั้นเร็วมากขึ้น และก็สะดวกปลอดภัยมากขึ้น เพราะว่าตัว Player นี้ จะไม่สามารถปรับแต่งค่าต่างๆได้ เป็นตัวที่ใช้เรียกระบบปฏิบัติการใดๆก้ได้ ที่ได้ถุกติดตั้งไว้ ขึ้นมาใช้งานเท่านั้น
เ้พื่อความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ผมจึงเข้าไปที่ไฟล์ .vmx ของระบบที่ได้ติดตั้งไว้ เช่น ถ้าเราติดตั้ง Windows 2000 Server เอาไว้ ก็จะพบไฟล์ Windows 2000 Server.vmx อยู่ในที่เดียวกัน เมื่อดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์นี้ มันก็จะเรียกเปิดโปรแกรม VMware ขึ้นมา แต่ผมเข้าไป"คลิกขวา"แล้วเลือก"OpenWith"เพื่อเลือกหาโปรแกรมที่จะเปิด ก็เลือกให้เป็น VMware Player ในครั้งต่อๆไป เมื่อเราดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์นี้อีก ก็จะเป็นการเปิด VMware Player ขึ้นมาอัตโนมัติครับ
1.ถอดสาย AC ออกจากหลังเครื่องพิมพ์ก่อน ส่วนสาย USB เสียบรอไว้ได้เลย 2.จัดตำแหน่งมือให้เหมาะๆ โดยจะต้องกดสวิทซ์เปิดเครื่องพิมพ์ค้างไว้ พร้อมๆกับเสียบสาย AC กลับเข้าไปด้วย 3.หลังจากเสียบสายแล้ว ให้กดสวิทซ์เพื่อปิด 4.กดสวิทซ์เปิดอีกครั้ง เครื่องพิมพ์จะสามารถใช้งานได้แล้ว
Step 1: Manual for Service mode 1. Unplug power and USB. >> ถอดปลั๊กและสาย USB 2. Open door and hold power button. >> เปิดฝาและกดปุ่มปิดเปิด(ปุ่มซ้าย)ค้างไว้ 3. Connect power. >> เสียบปลั๊ก 4. Close door, then release power button. >> ปิดฝา แล้วกดปุ่มเปิดเครื่อง
1. ที่ช่อง USB PORT ให้เลือกเลือก usb ให้ตรง ถ้าไม่มีอุปกรณ์อื่นใดต่อร่วมด้วย มันก็จะมีอันเดียวให้เลือก ย้ำ...มีอันเดียวก็ต้องคลิกเข้าไปเลือกนะครับ เพราะมันจะไม่แสดงออกมารอครับ
ถ้าเรารู้ที่มาที่ไปอย่างเช่นไฟล์ข้างบนนี้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามันแปลกๆ โปรแกรม Process Explorer ก็เตรียมคำสั่งไว้ให้เราใช้ค้นหารายละเอียดของไฟล์ ดังรูปข้างล่างนี้ครับ
พอผมคลิกเม้าส์ขวาที่ชื่อไฟล์ จะมีเมนูขึ้นมา เมนูสุดท้ายคือ google ซึ่งก็จะเอาชื่อไฟล์ตรงนี้ ไปเป็นคำค้นใน google ก็จะได้รายละเอียดของไฟล์ออกมาเลย อย่างเช่นไฟล์ vmount2.exe ตัวนี้ พอค้นด้วย google ก็จะเข้าไปยังเว็บของ Vmware ซึ่งก็จะรู้ต้นสายปลายเหตุได้ว่ามาจากใหนครับ
แต่หากค้นแล้ว พบว่าเป็นพวกไวรัส หรือสปายแวร์ต่างๆ ก็สามารถเลือกเมนู Kill Process เพื่อหยุดการทำงานของมันได้เลย จากนั้นก็ตามเข้าไปลบในโฟลเดอร์ที่อ่านได้จากการลอยเม้าส์ในข้างต้นนั่นเองครับ