...ส บ า ย ๆ ส ไ ต ล์ มื อ ไ ม่ PRO แ ถ ม ยั ง... LOWFESSIONAL ...
 
 

เปิดร้านใช้ Router ปิดร้านใช้ Modem

วันนี้มีอะไรที่ยุ่งๆวุ่นวายมาคุยให้ฟังอีกแล้วครับ!
คือตัวผมเองนั้น นอกจากจะดูแลคอมฯให้กับที่ทำงาน 2 แห่ง (เจ้าของเดียวกัน) แล้ว ตอนเย็นหลังเลิกงานไปจนถึง 3 ทุ่ม ผมยังเปิดร้านเน็ต/เกมส์เล็กๆ เพื่อเป็นอาชีพอดิเรกไปด้วยครับ นั่นจึงทำให้วันๆ ผมต้องดูแลถึง 3 จุดด้วยกัน

แรกเริ่มเดิมที 2 แห่งใช้โมเด็มแห่งละตัวครับ พอมาแห่งที่ 3 ได้ใช้โปรโมชั่น จ่าย 3 บาท แถม BIPAC 5102S ด้วย 1 ตัว ซึ่งเป็น ADSL ของค่าย TT&T ในชื่อ MAXNET ครับ

แต่ว่ามันไม่พอใช้ครับ 5102S ใช้ได้กับคอมเครื่องเดียว แต่ที่ต้องการใช้มีคอมอยู่ 4 จุด จึงได้สั่งซื้อโมเด็ม/เร้าท์เตอร์มาใหม่ 1 ตัว เป็นแบบ 4 ช่องมาเลย 5102S ก็เลยได้ลาพักครับ!

กลับมาที่บ้านผมอีกที ปกติจะใช้โมเด็ม ADSL ที่เป็น USB ธรรมดาๆครับ แชร์จากเครื่องแม่ออกไป ก็ใช้ได้เป็นปกติสุขตลอดมา

แต่ที่เครื่องแม่นี้ บางทีภรรยาก็เอางานจากโรงเรียนมาพิมพ์บ้าง บางทีลูกชายก็เล่นเกม ลูกสาวบางทีก็นั่งทำ Space ที่มีทั้งเพลงทั้งคลิป และบางทีเครื่องแม่ถึงกับแฮ้งค์เอาดื้อๆ ก็แหม...ทำหน้าที่ดูแลแชร์เน็ตให้กับเครื่องอื่นๆตั้ง 10 เครื่องแล้ว ยังมาใช้งานมันหนักๆอีก ก็มีไม่สบายบ้างเป็นธรรมดาครับ

แต่เวลาที่เครื่องแม่แฮ้งค์นี่สิครับ ลูกค้าก็โวยกันละ เพราะเน็ตมันหลุด กำลังจะไล่ตีมอนสเตอร์ กำลังจะล่าบอส กำลังจะพัดกอล์ฟลงหลุมฯลฯ กว่าจะกลับมาเล่นต่อได้อีกทีก็เลยพาลเสียอารมณ์กันเป็นแถว

ใหนๆก็ใหนๆครับ ในเมื่อ 5102S มันเป็น modem/router แต่อยู่ในระหว่างพักงานอยู่ ผมจึงไหว้วานให้มาประจำการที่ร้านผม โดยที่ร้านผมใช้ Switch 2 ตัว ตัวละ 8 พอร์ท ซึ่งยังมีพอร์ทว่างอยู่อีกบ้าง มาถึงก็จับ 5102S เข้าร่วมวงได้ทันที

ทีนี้สบายครับ เพราะเครื่องแม่ไม่ต้องรับหน้าที่ต่อเน็ต/แชร์เน็ตอีกแล้ว เจ้า 5102S รับหน้าที่นี้ไปเลย เครื่องแม่จะล่มจะแฮ้งค์ จะเล่นเกมหนักขนาดใหน จะรีสตาร์ทกี่ครั้งก็ได้ เน็ตไม่มีสะดุดครับ

ปัญหามาเกิดตอนร้านปิด... เพราะผมจะปิดร้านตอน 3 ทุ่ม หลังจากนั้นก็จะนั่งเข้าเน็ต เพื่อทำงานส่วนตัวที่ค้างคาบ้าง เพื่อหาดูเกมส์ใหม่ๆ หรือเพื่อหาอ่านโน่นอ่านนี่ รวมทั้งนั่งทำ Blog นี่ด้วยครับ

ตอนนี้ผมใช้คอมที่เครื่องแม่เพียงเครื่องเดียว แต่ถ้าผมจะเข้าเน็ต จะต้องเสียบปลั๊กไฟของคอมทั้งร้าน เพื่อให้ Switch ทั้ง 2 ตัวทำงาน เพื่อจะได้แชร์เน็ตกลับมาให้เครื่องแม่นี้ได้ อ่อ...เหตุที่ผมไม่แยกปลั๊กของ Switch ออกมา ก็เพราะว่า ผมต้องการรวมทุกๆอย่าง ให้อยู่ที่การเสียบปลั๊กเพียง 1 จุดครับ เพราะเวลาผมไม่อยู่ คนอื่นจะได้ไม่สับสนกับการเสียบปลั๊กหลายๆอัน

จากการนี้ ผมสังเกตว่า คอมเกือบทุกเครื่องมันยังไม่หยุดทำงานโดยสิ้นเชิงครับ คือจอภาพยังขึ้นไฟสีส้ม รอมีสัญญาณมาเมื่อไรก็พร้อมจะสตาร์ทได้ทันที เม้าส์ออปติคอลก็ยังส่งแสงกระพริบๆอยู่ตลอด ไฟที่แสดงสถานะของ LAN ก็ติดตลอด ดูแล้วไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง

ก็เลยมานั่งหาวิธีแก้ไข ว่าทำอย่างไรจะใช้เพียง 5102S กับเครื่องแม่เพียงเครื่องเดียวได้ คิดไปคิดมาก็ไปหยิบสายแลนที่เข้าหัวเข้าท้ายไว้แล้ว มา 1 เส้น เวลาจะใช้เครื่องเดียว ก็ถอดสาบที่ต่อไปยัง Switch ออกทั้งที่คอมและที่ 5102S แล้วเอาสายเส้นนี้ต่อเข้าไปแทน ถอดๆเสียบๆอยู่หลายวันเหมือนกันครับ ใช้ได้ละใช้ได้แน่ๆ แต่กลัวว่าพอร์ทแลนจะพังเร็วขึ้นแน่ๆ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆละก็ฝันร้ายแน่ๆครับ

ต้องมานั่งทบทวนอีกที หันซ้ายหันขวา ก็ไปเจอโมเด็มตัวเดิม (ซึ่งพักงานอยู่) อ่าาาา...ได้การละครับ ตอนนี้ร้านปิด ไม่ได้เสียบปลั๊กคอมตัวอื่นๆ Switch จึงไม่ทำงาน 5102S ก็ไม่สามารถแชร์เน็ตมาได้ ว่าแล้วก็จัดการติดตั้งโมเด็ม ดำเนินการตามขั้นตอนปกติ ย้ายสายโทรศัพท์มาเข้าที่โมเด็ม ก็สามารถใช้เน็ตได้อย่างสมบูรณ์ครับ

สิ่งที่ผมคำนึงถึงอย่างมากๆ มีดังนี้ครับ
1. พอร์ทแลนที่หลังคอม(เครื่องแม่)
2. พอร์ทแลนที่หลังโมเด็ม/เร้าท์เตอร์ 5102S
3. พอร์ทโทรศัพท์ที่หลังโมเด็ม/เร้าท์เตอร์ 5102S
4. พอร์ทโทรศัพท์ที่หลังโมเด็ม
5. พอร์ท USB ที่คอม

ทั้ง 5 ช่องข้างบนนั้น ติดอยู่กับคอม กับโมเด็ม และกับโมเด็ม/เร้าเตอร์ ถ้าผมมาถอดๆเสียบๆทุกๆวัน สักวันนึงมันต้องพังแน่ๆครับ นั่งมองๆหาทางแก้อยู่สักพัก ก็ไปซื้อของมาเพิ่มเติม ดังนี้ครับ
1. สายต่อจากพอร์ท USB ให้ยาวขึ้น (ปกติผมเคยใช้เพื่อเอามาเสียบอุปกรณ์จากหน้าเคสได้ ไม่ต้องอ้อมไปข้างหลัง)


2. ตลับพ่วงสายโทรศัพท์ เข้า 1 ออก 2

สำหรับอุปกรณ์ตัวนี้ เอาแบบที่ขาเข้าเป็นแจ็คครับ เพราะผมเอาไปเสียบต่อออกมาจากช่อง MODEM ของตัวสปลิตเตอร์ ที่แยกสัญญาณเน็ตADSLกับสัญญาณโทรศัพท์ครับ



จากแผนผังการต่อสายต่างๆในรูปข้างบนนี้ ตัวแยกโทรศัพท์ จะ้แยกสัญญาณ ADSL ออกเป็น 2 ทางซึ่งสรุปได้ดังนี้

ขณะเปิดร้าน...
1. เสียบสายแจ็คจาก 5102S เข้ากับช่องหนึ่งของตัวแยกสัญญาณ เพื่อรับสัญญาณ ADSL ขณะนี้ 5102S จะทำงานต่อเน็ต/แชร์เน็ตตามปกติ
2. สาย USB จากโมเด็ม ยังไม่ต้องเสียบเข้าหา สาย USB จากคอม โมเด็มจึงไม่ทำงาน

ขณะปิดร้าน...
1. ดึงสายแจ็คจาก 5102S ออกจากตัวแยกสัญญาณ
2. เสียบสายแจ็คจากโมเด็มเข้ากับตัวแยกสัญญาณ
3. เสียบสาย USB เข้าหากัน
ตอนนี้โมเด็มก็จะพบสัญญาณ ADSL ทำการต่อเน็ตให้กับเครื่องคอมเครื่องนี้ได้


จะเห็นได้ว่า จุดที่ต้องถอดๆเสียบๆบ่อยๆจะเป็นที่สาย USB และตัวแยกโทรศัพท์ที่ผมเอามาแยก ADSL เท่านั้น ซึ่งถ้า 2 อย่างนี้เสีย ก็สามารถไปซื้อหามาเปลี่ยนได้ง่ายๆ ราคาไม่แพง ส่วนพอร์ทต่างๆของอุปกรณ์แต่ละตัว รวมทั้งที่คอมด้วย จะเป็นการเสียบไว้ตลอดเวลาครับ

อืมมม...ยุ่งๆดีเหมือนกันครับ หาเรื่องโน้นเรื่องนี้มาวุ่นวายอยู่เรื่อย ลุงไม้หลักปักมั่นคง เคยถามผมว่า "ว่างมากนักหรือไง?"

เหตุผลก็คือถ้าพอร์ทต่างๆของอุปกรณ์หลักๆพัง มันจะยุ่งกว่านี้อีกหลายเท่านะผมว่า... สวัสดีครับผม...




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2549   
Last Update : 22 กรกฎาคม 2549 13:49:40 น.   
Counter : 3742 Pageviews.  


แลกเปลี่ยนไฟล์ภายในวงแลน ไม่ง้อโปรแกรม

สวัสดีครับ

วันนี้มีเรื่องเล่าให้ฟังอีกแล้วครับ แต่ก่อนอื่น ผมฝากถามถึงผู้รู้ ที่พอจะแนะนำวิธีจัดเรียงเรื่องแต่ละเรื่องใน Blog ให้ผมที เพราะเวลานี้ เรื่องที่เขียนสุดท้าย จะขึ้นมาอยู่ข้างบนเรื่อยๆ ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ครับ บางทีผมอยากจะเอาเรื่องนั้น เรื่องนี้ขึ้นก่อน จะทำอย่างไรครับ

มาเข้าเรื่องกันเลยครับ คือที่ทำงานผมนั้น มีคอมพิวเตอร์อยู่เกือบๆ 20 เครื่อง และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ในระหว่างการทำงาน ก็จะมีการรับไฟล์/ส่งไฟล์กันอยู่เนืองๆ ซึ่งจากแต่เดิมจะเป็นการ Copy ลง Floppy Disk ถัดมาก็พัฒนามาสู่ HandyDrive และมาอีกช่วงนึงจะ Save ผ่านโทรศัพท์มือถือ

พอมาติดตั้งระบบ LAN ทีนี้ก็จะสามารถรับส่งไฟล์กันภายในระบบได้ละครับ ผมก็เลยมาคิดหาวิธีที่จะระบุตัวตน เช่น จากเครื่อง 1 ส่งไปเครื่อง 4 หรือจากเครื่องผู้จัดการ ส่งไฟล์ให้ผม อย่างนี้เป้นต้น

คลับคล้ายคลับคลาว่า ผมจะเคยผ่านๆตา เกี่ยวกับโปรแกรมแชร์ไฟล์ภายในวงแลนอย่างนี้ ลองๆหาดาวน์โหลดมาติดตั้งดู บางโปรแกรมก็ใช้ง่ายแต่ไม่ตรงจุดประสงค์ บางโปรแกรมตรงงานเป๊ะเลย แต่ถ้าจะใช้จริงๆก็เห็นทีจะต้อง เปิดอบรมพนักงานสักครึ่งวัน

ลองไปลองมาอยู่หลายตลบครับ ทั้งทดลองโปรแกรม ทั้งเขียนโค้ด VBA สั่งงานผ่าน Excel ซึ่งก็ทำงานได้ แต่ยากและผิดพลาดง่าย ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปอยู่ดี มาแว้บเดียวในความคิดเองแหละครับ ได้วิธีการที่จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้

ที่ทำงานผมต่อแลนแบบ peer-to-peer ธรรมดาๆนี่ละครับ หรือบางทีจะเรียกว่า workgroup ก็ได้ แต่จะมีเครื่องหนึ่งที่สเป็คสูงหน่อย กันเอาไว้ทำหน้าที่เป็นตัวเก็บงานต่างๆ คล้ายๆจะเป็น File Server หรือเครื่องแม่นั่นละครับ(แต่ไม่ใช่) IP ของเครื่องนี้คือ 192.168.64.1

เครื่องนี้ ใช้ windows98se ธรรมดาๆนี่ละครับ ตั้งอยู่ในห้องผม เพราะไม่ได้ใช้งานอะไร นอกจากเป็นตัวเก็บไฟล์จากเครื่องอื่นๆเท่านั้น เคยลองใช้ windowsXP แล้วติดปัญหาเรื่อง user เกิน 10 คน ก็เลยกลับมาใช้อย่างนี้เหมือนเดิม ผมจะเริ่มขั้นตอนจากเครื่องนี้ครับ

1. ที่เครื่อง 192.168.64.1 ผมสร้างโฟลเดอร์ "รับส่งไฟล์" ขึ้นมาใหม่



และจัดการ Share แบบ Full เลยครับ



ที่เครื่องนี้ทำแค่นี้ครับ

2. ทีนี้จะมาทำที่เครื่องอื่นๆครับ คือเครื่องของพนักงานทุกคนนั่นเอง ตรงนี้แบ่งเป็น 2 ขั้นตอน คือ
2.1 เพื่อการ "รับไฟล์" วิธีการคือสร้าง Shortcut ขึ้นใหม่บน Desktop โดยคลิกเม้าส์ขวาบนพื้นที่ว่างๆของ Desktop แล้วเลือก New > Shortcut แล้วพิมพ์ชื่อเป็น \\192.168.64.1\รับส่งไฟล์



จากนั้นก็คลิก Next แล้วเขียนชื่อเป็น รับไฟล์ ครับ



คลิก Finish ก็จะได้ Shortcut นี้ขึ้นมาครับ



ดูสิครับ...ขยะเต็มถังเลย

2.2 เพื่อการ "ส่งไฟล์" โดย windowsXP และ windows2000 จะเข้าไปที่ C:\Documents and Settings\Administrator\SendTo แล้วสร้าง Shortcut ตามข้อ 2.1 โดยเปลี่ยนชื่อเป็น ส่งไฟล์ ครับ

ส่วน windows98se และ windowsME จะเข้าไปที่ C:\Windows\Sendto แล้วสร้าง Shortcut ด้วยวิธีและชื่อเดียวกันกับข้างบนครับ

เรียบร้อยครับ ทีนี้มาถึงการใช้งานกันบ้าง ตามมาดูการทำงานของพนักงานกันนะครับ

สมชายนั่งอยู่หน้าคอมฯตัวเอง กด OfficeIntercom ส่งเสียงผ่านไมค์ไปหาสมหญิงว่า
"สมหญิงสมหญิง ส่งไฟล์ stockcode ให้หน่อยสิครับ"

สมหญิงก็นั่งอยู่หน้าคอมฯตัวเองเหมือนกัน กด OfficeIntercom ส่งเสียงตอบกลับมาว่า
"OK แป๊บๆนะ"
***หมายเหตุ : คำว่า แป๊บๆ เป็นภาษาในการคุย MSN แทนคำว่า รอสักครู่***

ว่าแล้วสมหญิงก็เข้าไปยังไฟล์ stockcode คลิกขวาที่ไฟล์นี้ แล้วเลือก ส่งไฟล์ เสร็จแล้วก็กด OfficeIntercom บอกมาว่า
"OK เรียบร้อยค่ะ"

สมชายได้ยินดังนั้น ก็ดับเบิ้ลคลิกเข้าไปที่ Shortcut รับไฟล์ เข้าไปคลิกขวาที่ไฟล์ stockcode เลือก cut แล้วนำมา paste ลงในโฟลเดอร์ที่ต้องการ

เป็นอันว่า สมหญิง ส่งไฟล์ให้สมชายเป็นที่เรียบร้อย ง่ายๆเลยใช่ใหมครับ

ปรากฏว่า การที่ผมทำดังที่เล่ามานั้น เป็นที่ถูกอกถูกใจพนักงานเป็นอย่างมาก และมีการใช้งานกันอย่างกว้างขวาง ระบาดไปทั้งในที่ทำงานและนอกที่ทำงาน เพราะบางทีผมเข้าไปสอดส่องดูเหตุการณ์ต่างๆ(ตามปกติ) เห็นส่ง mp3 กันเป็นอัลบั้มเลย บางทีก็เจอหนัง VCD เป็นเรื่องๆ แต่เห็นสักพักก็จะหายไป เพราะการรับไฟล์ เป็นการ cut ออกไป เท่ากับการลบทิ้งโดยปริยาย โฟลเดอร์รับส่งไฟล์ที่สร้างไว้ จึงไม่มีวันเต็มครับ

บางโอกาส ผมมีไฟล์อะไรที่จะต้องส่งให้พนักงานทุกๆคน ผมก็จะส่งไฟล์ด้วยวิธีเดียวกัน แต่จะระบุให้พนักงานทุกคน รับไฟล์ด้วยการ "copy" ไม่ใช่ "cut" พอเสร็จแล้วผมจะเป็นคนลบไฟล์ในโฟลเดอร์ทิ้งเอง

นี่ละครับ วิธีการง่ายๆของผม ในการแลกเปลี่ยนไฟล์งานต่างๆภายในวงแลน โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม หรือสอนให้พนักงานใช้โปรแกรมให้ยุ่งยาก ใช้แค่เพียงการ sendto, การ cut, การ copy และการ paste ที่คุ้นเคยกันนี่เองครับ

ใครจะจำไปใช้บ้างก็ได้ สบายๆสไตล์ไม่ PRO แต่ LOWFESSIONAL อยู่แล้วครับผม...สวัสดีครับ




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2549   
Last Update : 22 กรกฎาคม 2549 13:48:49 น.   
Counter : 3645 Pageviews.  


สื่อสารผ่านไมค์ ด้วย OfficeIntercom



ที่ทำงานผมเป็นตึก 5 ชั้น มีอินเตอร์คอมจากชั้นล่าง มายังชั้น3 เวลาจะเรียกคุย หรือเรียกใครรับโทรศัพท์ ก็กดติดต่อกันได้ทันที แต่ไม่ค่อยสะดวกตรงที่ ตัวเครื่องอินเตอร์คอม มันแขวนอยู่ข้างห้อง มีเสียงเรียกทีก็ต้องวิ่งกันที บางครั้งไม่ใช่ชื่อตัวเองก็ไม่สนใจ วันใหนคนถูกเรียกไม่มา คนได้ยินขี้เกียจลุก คนเรียกก็เลยไม่รู้เรื่อง พาลหงุดหงิดว่าเรียกแล้วไม่ขานตอบ มีงอนๆใส่กันบ้างก็เคย

จริงๆแล้วแต่ละคนมีคอมฯอยู่บนโต๊ะทั้งนั้น ลักษณะการจัดโต๊ะทำงาน จะแบ่งเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละ 3-4คน ทุกคนมีคอมหมด แต่ว่าแต่ละกลุ่ม จะให้ติดลำโพงได้ 1 ชุดเท่านั้นครับ เอาไว้เปิดเพลง(เบาๆ) จากเน็ตหรือจาก mp3 ก็ไม่ว่ากัน ฟังพอคลายเครียด ขืนติดลำโพงให้ทุกเครื่องคงแย่แน่ๆ เพราะรสนิยมในการบริโภคเพลง ช่างต่างกันอย่างสุดขั้วเหลือเกิน

ผมเองก็เคยผ่านตา จากการเข้าดูตามอินเตอรืเน็ต ในเรื่องเกี่ยวกับโปรแกรมสื่อสารในเน็ทเวิร์ค ทั้งในวงแลนเดียวกัน ทั้งผ่านอินเตอร์เน็ต ก็โหลดมาทดลองอยู่หลายตัวเหมือนกัน แต่มาสรุปอยู่ที่โปรแกรมนี้ครับ OfficeIntercom ที่จะนำมาเล่าให้ฟังนี่ละครับ

เกือบลืม เมื่อตกลงใจจะลองใช้โปรแกรม OfficeIntercom สิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวดคือ ไมโครโฟน ครับ ไม่อย่างนั้นคงจะพูดให้ใครได้ยินไม่ได้ และก็น่าจะเป็นไมค์แบบตั้งโต๊ะ ซึ่งจะมีขายตามร้านคอมทั่วๆไปอยู่แล้ว หรือจะเป็นไมค์แบบมีแป้นให้ติดเทปกาว 2 หน้า เพื่อติดกับข้างจอภาพ หรือข้างเคสก็ตามถนัด ขอให้หันหัวไมค์มาทางปากเราเป็นใช้ได้ และก็ไม่จำเป้นต้องมาจ่อใกล้ๆปาก (เหมือนนักร้อง) ก็ได้ครับ นั่งทำงานปกติ พูดด้วยเสียงปกติก็ได้ยิน

หรือใครที่มีหน้าที่เป็นประชาสัมพันธ์โดยตรง วันๆไม่ได้คีย์งาน แต่มีหน้าที่รับโทรศัพท์ เรียกคนโน้นเรียกคนนี้ ลักษณะนี้ ถ้าใช้หูฟังแบบมีไมค์ในตัว ก็จะสดวกมากขึ้นครับ เอาหูฟังครอบหัว (หรือคล้องคอ) หันไมค์จ่อปาก เท่านี้ก็มือว่าง 2 มือแล้วครับ (ผมเจอมีขายที่เซียร์รังสิต ราคา 49 บาท!)

แต่ของผมพิเศษกว่าใคร บังเอิญจริงๆว่า จอมอนิเตอร์ของเครื่องคอมที่โต๊ะผม มีไมค์ฝังมาด้วย 1 ตัวแล้ว สายมอนิเตอร์ที่จะไปต่อเข้าหลังคอม มันจะมีแจ็คไมค์ให้ด้วยเส้นนึง ผมจึงไม่ต้องซื้อไมค์มาเพิ่ม หรือเอามาตั้งให้เกะกะโต๊ะทำงาน ดังนั้น ถ้าใครมีโอกาสซื้อมอนิเตอร์ใหม่ ถ้าเลือกได้ เลือกแบบที่มีไมค์ก็จะดีนะครับ จอผมเป็นยี่ห้อ Socos รุ่น H 770 HA ครับ

หลังจากเสียบไมค์เสียบลำโพงพร้อมแล้ว ก็ไปดูที่นี่ครับ //www.nch.com.au/oi/index.html ลองอ่านๆดูซะหน่อย(ไม่ค่อยออกเท่าไร) ก็พบว่า ตรงตามความต้องการเกือบ 100%

จากหน้าเว็บ ตรงกลางๆจะมีลิ้งก์ให้ดาวน์โหลด มีทั้งแบบเป็น EXE กับแบบ ZIP ก็เลือกเอาตามสะดวกละกันครับ แต่ตรงนี้ผมจะเลือกเอาแบบ EXE ให้ดูเป็นตัวอย่างนะครับ



เมื่อคลิกที่ลิ้งก์แล้ว กรอบดาวน์โหลดก็จะขึ้นมา ผมก็กดที่ปุ่ม Save แล้วเลือกโฟลเดอร์ที่จะวางไฟล์ติดตั้งนี้ไว้ ขนาดไฟล์เพียง 219K ก็คงไม่ต้องใช้โปรแกรมช่วยดาวน์โหลดอะไรหรอกครับ แป๊บเดียวก็ได้มาไว้ในเครื่องแล้ว

หลังจากนั้นก็ตามไปดับเบิ้ลคลิก ที่ไฟล์ที่ดาวน์โหลดลงมา ซึ่งจะได้หน้าต่างแสดงลิขสิทธิ์หรือข้อตกลงต่างๆ



อันนี้ก็ต้องเลือกที่ I Agree... แล้วก็คลิก Next ครับ



จากรูป เป็น Step 1 ช่องข้างบนนั้น ให้ใส่ EMail ของเราลงไป ซึ่งตรงนี้ ผมแนะนำว่า ไม่ต้องใช้เมล์จริงก็ได้ ให้ใช้ชื่อของผู้ใช้คอมเครื่องนี้ดีกว่า เวลาจะติดต่อกัน จะได้รู้ว่าใครเป็นใคร เพราะเมล์ของบางท่าน ก็ไม่ได้สื่อถึงเจ้าของสักเท่าไร ในที่นี้ ผมจึงใช้ชื่อเมล์เป็นนามแฝงของผม (ที่เขารู้กันทั้งบริษัท) เป็นว่า mitrapap@office.com ครับ

หลังจากใส่ Email(เทียมๆ)แล้ว ก็ติ๊กเลือกที่ Use 14 Day ... เพื่อทดลองใช้ 14 วัน (ถ้าจะใช้จริงๆยาวๆเดี๋ยวจะบอกให้ทีหลังครับ...ใจเย็นๆ!!??) แล้วก็คลิก Next ครับ



เข้าสู่ Step 2 แล้วครับ ตอนนี้ จะได้ยินเสียง ตุ๊ดๆๆ ออกมาจากลำโพง และในช่องสีน้ำเงินนั้น จะแสดงชื่อของซาวด์การ์ดที่เราใช้ ถ้าไม่ได้ยินเสียง หรือไม่มีชื่ออะไรขึ้นมา แสดงว่าผิดพลาดละ แต่ถ้าเครื่องสามารถฟังเพลงได้อยู่ สเต็ปนี้ต้องได้ยินเสียงแน่ๆครับ

มาถึงขั้นตอนนี้ ผมรู้สึกว่าขั้นตอนมันยังซ้ำซ้อนกันอยู่ (หรือเพราะผมทำหลายเครื่องแล้วก็ได้ เลยรู้สึกอย่างนั้น) ผมจึงเสนอให้คลิกที่ปุ่ม Next ลัดไปเลยครับ ตั้งแต่ Step 3 ไป Step 4 แล้วก็ Finish ครับ

พอกด Finish ถ้าใครใช้ WindowsXP จะพบกับหน้าจอข้างล่างนี้ครับ



เป็นหน้าจอของ Forewall หรือระบบรักษาความปลอดภัยเบื้องต้นของ WindowsXP เมื่อมีการติดตั้งโปรแกรมใหม่ๆ ที่จะต้องมีการติดต่อเข้าออก ผ่านแลนหรือผ่านเน็ต ระบบนี้จะเตือนขึ้นมา เหตุนี้ก็เพราะว่า มักมีผู้ไม่ประสงค์ดี แอบนำโปรแกรมต่างๆมาติดตั้งครับ เช่นพวกไวรัส หรือสปายแวร์ทั้งหลาย

ตรงนี้คลิกที่ UnBlock ครับ เพื่อให้โปรแกรม OfficeIntercom สามารถติดต่อเข้า/ออกได้

และในขณะเดียวกัน โปรแกรม OfficeIntercom ก็จะดำเนินการติดตั้งในส่วนของ Internet ต่อไปอีก ให้เรา Cancel ได้เลยครับ

หลังจากนี้โปรแกรมจะรันขึ้นมาแล้ว ซึ่งมันจะมีโลโก้ของ NCH ขึ้นมาบังอยู่ประมาณ 10 วินาที จากนั้นก็จะพบกับหน้าจอดังรูปข้างล่างครับ



จากนั้น คลิกที่เมนู Intercom ก็จะได้หน้าจอนี้ขึ้นมา



2 ช่องข้างบน กลุ่ม Sound Out Device จะขึ้นมาเป็นปกติอยู่แล้ว โดยอันบนสุด จะเป็นชื่อของซาวด์การ์ดที่ใช้ ของผมเป็น SoundOnBoard ธรรมดาๆนี่ละครับ

มาสนใจที่กลุ่ม Sound In Device ให้คลิกที่ปุ่มยาวๆที่ชื่อ Open Windows Record Mixer จะได้หน้าจอดังรูปข้างล่างครับ



ตรงนี้สำคัญมาก ตอนแรกที่คลิกเข้ามานั้น แกนวอลลุ่มของ Microphone จะอยู่ต่ำเกือบสุด ผมจึง"ติ๊ก"เลือกที่ช่อง Select ใต้วอลลุ่ม แล้วดันแกนวอลลุ่มขึ้นจนถึงบนสุดดังรูปนั่นเองครับ

จากนั้น คลิกที่เมนู Option แล้วเลือก Advanced Controls สังเกตว่าจะมีปุ่ม Advanced ขึ้นมาใต้วอลลุ่ม ให้คลิกที่ปุ่มนี้ ก็จะได้หน้าจอนี้ขึ้นมาครับ



จากรูป ถ้าซาวด์การ์ดใครราคาสูง ค่อนข้าง Professional (ไม่ Lowfwssional อย่างผม) ก็จะปรับเสียงทุ้มและเสียงแหลมได้ด้วย แต่ถ้าของใครปรับไม่ได้ ก็หาอ่านวิธีที่จะทำให้ซาวด์ของท่านเสียงดีขึ้นได้ จาก Blog ของผมนี่ละครับ

ที่เราต้องการจริงๆอยู่ข้างล่างครับ คือมาติ๊กเลือกที่ 1 Mic Boost ครับ เพื่อเร่งเกณฑ์อัตราการขยายเสียงของไมค์ ให้มีความไวมากขึ้น เพื่อเวลาพูด จะได้ไม่ต้องเอาไมค์มาจ่อปาก คนละอาการกับการเอาปากจ่อไมค์นะครับ

จากนั้นก็คลิก Close และ X กลับออกมา พอมาถึงหน้าจอของโปรแกรม ให้คลิกเลือกที่ปุ่ม3เหลี่ยม ของช่องที่อยู่เหนือปุ่มยาวๆ จะมีรายการยืดออกมาให้เลือก เราก็เลือกที่รายการ Microphone ครับ

เกือบเสร็จละ อันที่จริงผมมั่นใจว่า 5 ข้อข้างล่างนั้น ทุกท่านคงจะตีความกันได้แล้ว แต่เขียนไว้ซะหน่อยดีกว่าครับ

- Start OfficeIntercom... > โปรแกรมจะทำงานพร้อมกับการเปิดคอม
- Display ... > แสดงสัญลักษณ์อยู่บนทาสก์บาร์
- Allow Others ... > เครื่องอื่นสามารถแอบฟังเราได้
- Play Audio ... > จะมีเสียง ติ๊ด เมื่อกดปุ่มและปล่อยปุ่ม มีประโยชน์ครับ ไม่ลองไม่รู้ (เดี๋ยวพอลองแล้วจะรู้เอง)
- Use Automatic... > ถ้าเรามีการเบาเสียงโปรแกรมอื่นๆ เช่น Winamp หรือ Mediaplayer เวลามีใครกดพูดเข้ามา วอลลุ่มจะถูกปรับให้ดังขึ้นโดยอัตโนมัติ


เอาละครับ มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว คราวนี้ก็ไปติดตั้งโปรแกรมนี้ที่เครื่องอื่นๆในวงแลน ด้วยวิธีเดียวกันนี้ละครับ อย่าลืมว่า การตั้งชื่อเมล์ ให้ใช้เมล์หลอก แต่เป็นชื่อของคนที่อยู่ประจำเครื่องคอมนั้นๆนะครับ เวลาเรียกหากันจะได้ไม่สับสน

จริงๆแล้ว โปรแกรมสามารถใช้เลข IP ในการเรียกหากันได้ แต่เวลาใช้จะไม่สะดวกครับ คนเยอะๆแล้วงงว่าเลขใหนเครื่องใคร เรียกผิดเรียกถูกอยู่เรื่อย

อีกอย่างนึง...ชื่อเมล์ สามารถตั้งเป็นภาษาไทยได้ แต่บางทีไปอยู่กับเครื่องที่มีระบบปฏิบัติการต่างๆกัน เช่น WindowsME บ้าง, XP บ้าง, 98 บ้าง ทำให้บางทีกลายเป็นอักษรขอม สับสนยิ่งไปกว่าเก่าอีก เอาเป็นว่า พยายามเขียนเป็นภาษาอังกฤษเข้าไว้ครับ

การใช้งาน
เอาละครับ มาถึงตรงนี้ สมมติว่าผมติดตั้งไว้ 2 เครื่องแล้ว โดยอีกเครื่องหนึ่งผมใช้อีเมล์ตามชื่อเจ้าของเครื่อง คือ somchai@office.com (สมชาย มีคนเคยบันทึกสถิติเอาไว้ ว่าเป็นชื่อที่มีมากที่สุดในประเทศไทย)

จากหน้าจอของโปรแกรม ผมก็พิมพ์ somchai@office.com ลงไปในช่องว่างนั้น ตอนนี้สังเกตเอาไว้สักนิดนึงว่า ปุ่ม On/Off ทางด้านขวาจะต้องยุบลงไป นั่นหมายถึงการเปิดโปรแกรมหรือ เปิดเครื่องไว้พร้อมใช้งานนั่นเอง

ส่วนอีกปุ่มที่ชื่อ Call [F5] นั้น จะทำงานเหมือนกับวิทยุของตำรวจ หรือเครื่องอินเตอร์คอมที่คุ้นเคยนั่นเอง คือเอาเม้าส์กดค้างไว้ แล้วก็พูด พอพูดจบก็ปล่อย เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามพูดตอบได้ ซึ่งปุ่มนี้ หากขี้เกียจจับเม้าส์ ก็สามารถกดปุ่ม F5 ข้างบนสุดของแป้นคีย์บอร์ดแทนได้ คือกดค้างไว้แล้วพูด พูดจบแล้วปล่อยเหมือนกันนั่นเองครับ

ถ้าทุกอย่างราบรื่นดี ก็จะสามารถพูดจาโต้ตอบกันได้ครับ มีที่สังเกตอีกอย่างคือ ตรงใต้ช่องที่พิมพ์เมล์นั้น จะมีไฟแสดงความแรงของสัญญาณเสียงอยู่ด้วย ตัวด้านซ้าย จะแสดงเสียงจากฝ่ายตรงข้าม ตัวด้านขวาจะแสดงเสียงจากของเราเอง

ถ้าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้เปิดเครื่อง หรือเครื่องแฮ้งค์ หรือโปรแกรมนี้ไม่ทำงาน เวลาเราคลิกเม้าส์เพื่อพูด จะมีสัญญาณตีกลับมา ดัง ตุ๊ดๆๆ นั่นแสดงว่าติดต่อไม่ได้ครับ (นั่นก็คือผมต้องวิ่งขึ้นบันได 3 ชั้น ซึ่งไม่ชอบเลยเป็นอย่างยิ่ง)

เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าฝ่ายตรงข้ามหยุดพูดแล้ว เราจะได้กดปุ่มเพื่อพูดตอบบ้าง?

คืออย่างนี้ครับ เวลาเรากดปุ่ม Call ปุ๊บ จะมีเสียงดัง "ตุ๊ด" สั้นๆ ซึ่งจะดังทั้งฝ่ายที่เรียกและฝ่ายที่ถูกเรียก ดังนั้น ก็จะรับรู้ได้ว่า อีกฝ่ายนึงกำลังกดปุ่มเพื่อจะพูดละ เราก็อย่าเพิ่งกด ให้รอฟังก่อนครับ

พอพูดจบแล้วปล่อยปุ่ม ก็จะมีเสียงดัง "ติ๊ด" สั้นๆ 1 ครั้ง นั่นก็หมายถึงอีกฝ่ายปล่อยมือแล้ว เราก็จะสามารถกดเพื่อพูดตอบได้บ้าง อันนี้มีประโยชน์ครับ เพราะบางที การพูดอาจมีการเว้นวรรคเพื่อหายใจ ก็จะสังเกตได้ว่ายังไม่มีเสียง "ติ๊ด" ออกมา เราก็ยังไม่ต้องกดเพื่อพูดสวนเข้าไป ซึ่งสัญญาณเสียงนี้ ต้องอธิบายให้ทุกคนที่จะใช้โปรแกรม ให้เข้าใจโดยถ่องแท้ด้วยนะครับ ไม่อย่างนั้นก็จะกดสวนกันไป สวนกันมา ไม่เป็นอันรู้เรื่องกันละครับ

เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าอีกฝ่ายนั่งอยู่ที่เครื่องหรือเปล่า? ก็เอาอย่างนี้สิครับ กดปุ่มแล้วก็ปล่อย ยังไม่ต้องพูดครับ เสียงก็จะดัง "ตุ๊ดติ๊ด" พออีกฝ่ายได้ยิน ตามมารยาทก็ต้องกดแล้วปล่อยตอบกลับมาเช่นกัน เพื่อแสดงตัวว่าอยู่ จากนั้นก็เริ่มสนทนากันได้ครับ

ในการใช้งานจริง ที่ผมไม่ได้มีเพียง 2 เครื่องครับ ถ้าจะมาพิมพ์เมล์เพื่อเรียกคนนั้นที คนนี้ที ไม่ไหวแน่ ซึ่งโปรแกรมก็เตรียมไว้แล้วครับ คือเมื่อเราพิมพ์เมล์ของใครเข้าไปแล้ว ก็คลิกที่เมนู Intercom > favorites > Add To Favorites ชื่อเมล์ก็จะไปปรากฏอยู่ข้างล่าง เมื่อเราพิมพ์เมล์ของคนอื่น เราก็เข้ามาทำคำสั่งนี้อีก ชื่อเมล์ก็จะต่อกันไปเรื่อยๆ เวลาจะเรียกใคร ก็เอาเม้าส์ไปคลิกที่เมล์นั้น ชื่อก็จะเข้ามาในช่องที่พิมพ์นี้ทันที สะดวกมากครับ

สำหรับกรณีที่มีคนเรียกเข้ามา คราวนี้เราไม่ต้องคลิกเลือกเมล์แล้ว เพราะชื่อฝ่ายตรงข้าม จะเข้ามาอยู่ในช่องที่พิมพ์นี้ทันที เราสามารถกดปุ่ม Call เพื่อพูดตอบได้ทันที และเมื่อพูดคุยจบแล้ว ถ้าชื่อเมล์นี้เรายังไม่เคยบันทึกไว้ ก็สามารถบันทึกได้เลย ตามวิธีการข้างบนครับ

เป็นอันว่าการใช้งานแบบปกติ ในอาคารสำนักงานเดียวกัน หรือวงแลนเดียวกัน ก็สำเร็จเสร็จสิ้นไปด้วยดีครับ

แต่ปัจจุบันนี้ สำนักงานต่างๆมักใช้อินเตอร์เน็ตแบบ ADSL กันแล้ว รวมทั้งสำนักงานของผม เอ้ยยย...สำนักงานที่ผมอยู่ ซึ่งมี 2 สาขา ห่างกันประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้ ADSL ทั้ง 2 ที่ โดยอีกแห่งใช้ผ่าน Router อีกต่างหาก ผมก็ได้ติดตั้งโปรแกรม OfficeIntercom ไว้ใช้งานทั้ง 2 ที่ ซึ่งต้องมีการทำ Port Forward ที่ Router ด้วย และยังต้องใช้บริการจาก //www.no-ip.com ด้วย ซึ่งก็สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดีครับ

Tip : ว่าด้วยการประกาศ
บางครั้งมีเรื่องด่วน จะต้องประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ ก็สามารถทำได้ โดยวิธีการดังต่อไปนี้ครับ
1. คลิกเมล์คนที่ 1 ให้ชื่อเข้าไปอยู่ในช่องพิมพ์เมล์
2. พิมพ์ตัว ,
3. คลิกเมล์คนที่ 2 ชื่อจะเข้าไปต่อท้ายคนที่ 1 ที่คั่นด้วย ,
4. ทำซ้ำข้อ 2. และ 3. จนครบทุกคน
5. ทำ Favorites เอาไว้ด้วย เพื่อคราวหน้าจะประกาศอีก สามารถคลิกใช้ได้เลย
สะดวกดีครับ คลิกแล้วก็พูดประกาศไปเลย ได้ยินทุกเครื่องครับ ถ้ามีเป็นแผนกๆ หรือแยกเป็นห้อง เป็นกลุ่ม เราก็สามารถจัดกลุ่มไว้ได้ ไม่ต้องลุกเดินไปบอกให้เมื่อยอีกแล้วละครับ

สำหรับเรื่องอื่นๆเกี่ยวกับ OfficeIntercom ทั้งที่ติดค้างเอาไว้ และที่อาจจะนึกขึ้นได้(อีก)ในภายหน้า ผมจะนำมาเล่าให้ฟังใน Blog นี้แหละครับ แต่วันนี้เหนื่อยแล้ว (พวกจิ้มดีด) ขอพักก่อน...

สวัสดีครับผม

*** ขอบคุณสาวสวยกับ Headphone และ Mic. เห็นว่าสวยดีและใกล้เคียงกับเนื้อหา เลยหยิบยืมมาใช้โดยพลการครับ ***




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2549   
Last Update : 22 กรกฎาคม 2549 13:47:58 น.   
Counter : 2291 Pageviews.  


หา EQ ให้ SoundOnBoard เพื่อเสียงทุ้ม/นุ่ม/ใส สะใจ...

........................................
“…ป๋าๆ ดูเครื่องหนูหน่อย เข้างานไม่ได้!”
........................................
“…ป๋าๆ เติมหมึกห้องหนูด้วย…”
........................................
“…เสร็จห้องโน้นแล้ว มาต่อห้องหนูนะป๋า หนูรออยู่...!!??”
........................................
เฮ้อ…อยู่จนเป็นป๋าแล้วครับ!

หน้าที่ประจำ ของผมก็คือ การวิ่งขึ้นวิ่งลงบนตึก 5 ชั้น เพื่อไปแก้ไขที่เครื่องนั้นแฮ้งค์ เครื่องนี้เข้าเน็ตไม่ได้ เครื่องโน้นหมึกหมด ฯลฯ ก็สนุกดีครับ เพราะเป็นงานที่ผมชอบอยู่แล้ว(แถมได้เงินอีกต่างหาก) แต่มักจะเป็นเรื่องแปลก ที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆครับ คือวันที่มีปัญหา มักจะมีพร้อมๆกัน วิ่งแก้ไขกันจ้าละหวั่น แต่ครั้นมันจะเรียบร้อย มันก็เงียบซะจนผู้จัดการเรียกไปถาม ว่าวันนี้ทำอะไรมั่ง?

แต่ส่วนมากแล้วไม่ค่อยมีปัญหาหรอกครับ (ผมดูแลดี?) แต่มามีปัญหาที่ผม เพราะเวลานั่งเขียนโค้ด หาข้อมูลอะไรต่างๆอยู่คนเดียวในห้องนี่ มันออกจะเหงาๆเหมือนกันครับ ผมคนเดียวกับคอมอีก 1 ตัวบนโต๊ะ ข้างๆมี Server ซึ่งจะปิดจอเอาไว้ บางวันก็ไม่มีใครเรียกหาทั้งวันเหมือนกัน
ยังดีที่ว่า มาตรฐานของการซื้อคอมฯ มักจะได้รับลำโพงเล็กๆมาด้วย 1 คู่เสมอ ซึ่งก็พอใช้ฟังเพลงแก้ขัดได้บ้างละครับ



ที่ทำงานผมนี่ใจดี ให้พนักงานฟังเพลงได้ในขณะทำงาน แต่ไม่ได้ติดลำโพงไปให้ซะทุกเครื่อง คือลักษณะการนั่งทำงานจะแบ่งเป็นกลุ่มๆ แต่ละกลุ่มจะมีคอมฯบนโต๊ะทุกคน แต่จะให้ติดลำโพงได้เพียง 1 เครื่องเท่านั้น (กันการเปิดเพลงแข่งกันเอง)

นอกจากใช้ฟังเพลงแล้ว ผมยังได้ติดตั้งโปรแกรม Office Intercom สำหรับการติดต่อสื่อสารกัน ทั้งระหว่างพนักงานด้วยกันที่อยู่ต่างห้อง และสำหรับติดต่อกับผม เผื่อไว้เวลาติดขัดอะไรเล็กๆน้อยๆ ก็สามารถพูดจาโต้ตอบ แนะนำแก้ไขกันได้ทันทีครับ

อ้าว…ไปเรื่องอื่นซะนาน กลับมาที่โต๊ะผมดีกว่าครับ คือจะบอกว่า กับลำโพงเล็กๆที่ได้มาพร้อมกับคอมฯ เวลาฟังเพลงจากแผ่นซีดี ไม่ว่าจะ MP3 หรือ Audio มันก็ให้เสียงที่สดใสสบายหูดี ถึงมันจะไม่มีเบสหนักๆให้สะเทือน แต่ก็ให้แหลมใสกรุ๊งกริ๊ง บางวันนึกสนุกก็ยังสามารถปรับแต่ง EQ ที่อยู่ใน Media Player ช่วยอีกแรง พอกล้อมแกล้มไปได้ละครับ



แต่ผมว่านะ…การฟังเพลงจากแผ่นซีดี หรือฟังจากไฟล์ MP3 ถึงคุณภาพเสียงจะดี และเลือกเพลงตามใจเราได้ แต่ถ้าฟังนานๆ มันจะทำให้เราพลาดข่าวสารบางอย่างไป ขาดความหลากหลายทางความคิด อาจจะฟังเพลงซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น สู้การฟังเพลงจากสถานีวิทยุไม่ได้ครับ

การฟังเพลงจากวิทยุนั้น นอกจากมีเพลงเป็นหลักแล้ว ยังได้ฟัง DJ พูดคุยบ้าง ได้ฟังข่าวสารบ้านเมืองบ้าง ได้ฟังโฆษณาบ้าง อย่างน้อยๆก็ยังมีข่าวต้นชั่วโมง ไม่ใช่ว่านั่งฟังแต่ MP3 พอลุกจากโต๊ะทำงาน ก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

ที่ผมเป็นเน็ต ADSL แล้วครับ เลยพอจะไล่หาสถานีเพลงต่างๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศได้ไม่ยาก เวลาจะเขียนโปรแกรม หรือแก้โค้ดต่างๆ ผมมักไปฟังสถานีจากต่างประเทศ เป็นเพลงสากลเบาๆ ไม่ใช่ไฮโซอะไรหรอกครับ มันฟังไม่ออก จะได้ไม่เอาสมองไปคิดตามเนื้อเพลงเท่านั้นเอง(เป็นเคล็ดลับ) แต่เวลาทำงานทั่วๆไป หรือต้องการติดตามสถานการณ์บ้านเมือง ก็จะฟังสถานีจากในไทยนี่แหละครับ (เพราะฟังรู้เรื่อง)

แต่เรื่องคุณภาพเสียงนี่สิครับ ค่อนข้างจะ “รับได้ยาก” ซะจริงๆ ถ้าเทียบกันระหว่างสถานีเพลงในเน็ตจากต่างประเทศแล้ว ของพี่ไทยเราด้อยกว่าอยู่หลายขุมเลยทีเดียว เสียงค่อนข้างจะแข็งๆทึบๆ การแยกสเตอริโอก็มักจะไม่ค่อยดี จะทุ้มก็ไม่ทุ้ม จะแหลมก็ไม่แหลม (ขออภัย…มันเป็นอย่างนี้จริงๆ)

พอดีว่าเมื่อเร็วๆนี้ ที่ทำงานผมได้สั่งซื้อคอมฯอีก 1 ชุด ทางร้านที่สั่งกันประจำก็เลยใจดี คราวนี้แถม SAAG รุ่น 3 ลำโพง มาให้ผมเป็นกรณีพิเศษ (นัยว่าเป็นโบนัส ที่ทำให้เขาขายเครื่องได้) มาถึงที่ทำงาน ผมก็เลย “อิ๊บอั๊บ” เอา SAAG ไว้ แล้วถอดลำโพงเล็กๆตัวเก่า แนบไปกับคอมใหม่ ไปติดให้พนักงานเรียบร้อยครับ



หลังจากจัดการเสียบสายเสร็จสรรพ ก็ไปชงกาแฟมา 1 แก้ว ซึ่งอันนี้เป็นกิจวัตรครับ เช้าแก้วนึง บ่ายแก้วนึง แล้วคลิกเข้าไปที่นี่เลยครับ //202.44.131.13:8382/RMUTfm89.5MHz?MSWMExt=.asf เป็นสถานีไทย เปิดเพลงทั้งไทยทั้งสากล บางทีก็เพื่อชีวิต พร้อมกับมีข่าวต้นชั่วโมงให้ฟังด้วย กะว่าจะละเลียดกาแฟและฟังเพลงให้เย็นใจซะหน่อย…

ก็…แค่พอฟังได้เท่านั้นละครับ (มาตรฐานส่วนตัว) มีเสียงทุ้ม เช่นเสียงเบส เสียงกลอง ให้ได้ยินขึ้นมา มีเสียงแหลม(แบบทื่อๆ) ให้ได้ยินด้วย แต่ไม่ประทับใจเท่าไร ที่สำคัญก็คือ เวลาฟังเพลง ถ้าเร่งเสียงทุ้มไว้มากๆแล้ว ถ้ามีพนักงานติดต่อเข้ามาทาง Office Intercom เสียงพูดจะดังตุ้บๆตั้บๆ ถึงขั้นรำคาญเลยทีเดียวเชียว ถ้าไปลดเสียงทุ้มลง เวลาฟังเพลงก็ต้องมุดโต๊ะไปเร่งกันอีก (ลืมบอกว่าผมเอาตัว SUB ไว้ไต้โต๊ะครับ)

ถ้าเป็นชุดสเตอริโอที่บ้าน การจะปรับแต่งเสียงเพื่อชดเชยเสียงทุ้มเสียงแหลมแบบละเอียด มักจะต้องใช้ EQ เป็นตัวช่วยเสมอ ในคอมเราก็มีของ Media Player แต่มันติดขัดตรงที่ว่า จะใช้ได้เฉพาะตอนฟังจากแผ่นหรือจาก MP3 เท่านั้น ซึ่งตอนฟังเพลงพวกนั้น ก็สามารถช่วยเสริมให้เสียงจาก SAAB ดีขึ้นอีกเป็นกอง

แล้วถ้าผมฟังเพลงจากเน็ตล่ะ ผมจะหา EQ จากที่ใหน? ได้โจทย์ละครับ แต่ยังไม่ได้คำตอบ คิดไปคิดมา ผมคลับคล้ายคลับคลาว่า ในชุด Audio ของเมนบอร์ด เคยมีโปรแกรม EQ อยู่ด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าใช่บอร์ดของเครื่องบนโต๊ะผมหรือเปล่า? เลยต้องมาเปิดฝาดูเมนบอร์ดกันสักหน่อย ตัวนี้เลยครับ P4M266 เอาละได้การ ลุกขึ้นไปคว้าเอาแผ่นไดร้เวอร์ของมันยัดใส่ไดร้ซีดี ได้หน้าจอออกมาตามนี้ครับ



จากนั้นผมก็คลิกที่ Audio ด้านซ้าย ชื่อ Realtek Audio Drivers ก็แสดงขึ้นมาทางด้านขวา คลิกตรงนี้อีกที การติดตั้งก็เริ่มขึ้นครับ จากนี้ก็ Next อย่างเดียว จนจบมันก็จะให้ยืนยันการรีบูตเครื่องใหม่ ก็จัดการไปตามนั้นครับ

พอเครื่องกลับมา ก็มีเมนู Avance Sound Manager เพิ่มเข้ามาในสาระบบ เข้าทางเราแล้ว… น่าจะมีอะไรที่พอเป็นประโยชน์บ้าง ลองคลิกเข้าไปที่ AvRack ก็พบตัวนี้ครับ



แหม…ให้ตายเถอะบิลเกตต์! เขาช่างดีไซน์หน้าตาออกมาได้…เฮ้อ…(ว่ามั้ยครับ?) ลองเอาเม้าส์ไล่ชี้ๆดูตามปุ่มต่างๆ เผื่อว่าจะมี EQ ให้เล่นบ้าง หรือจะเป็น Bass หรือ Treble ให้เล่นบ้างก็ยังดี ปรากฏว่าไม่มีเลยครับ

มีอีกเมนูในกลุ่มเดียวกันนี้ ชื่อ SoundMan ลองคลิกดูแล้ว อ้าว…ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น ดูไปดูมา อ๋อ…ไปรออยู่ที่มุมล่างขวา ที่เรียกว่า TaskBar เรียบร้อยแล้วครับ เอาเม้าส์ไปชี้ดูจะชื่อว่า Sound Effect Manager คลิกเม้าส์ไป 1 ทีก็จะได้อันนี้ขึ้นมาครับ



ผมสังเกตดู ที่หลังข้อความว่า Environment (แปลจากดิกชันนารี่ออนไลน์ ได้ความว่าหมายถึงสภาพแวดล้อม) จะมีรูปคล้ายๆปุ่มเลื่อนของ EQ 3 ปุ่ม น่าจะเป็น ทุ้ม/กลาง/แหลม หรือเปล่า? พอลองคลิกเข้าไปดูก็ผิดคาดอีกละครับ มันกลายเป็นตัวเลือก Effect เสียง สร้างสภาพจำลองบรรยากาศเสียงตามลานคอนเสิร์ต ตามป่าเขา เป็นเสียงก้อง เสียงสะท้อน ฟังแล้วปวดหัวหนักขึ้นกว่าเดิมจริงๆ!

หรือว่าแผ่นไดร้เวอร์ที่ผมมีจะเก่าแล้ว? น่าจะลองตามไปดูในเว็บบ้างดีกว่า ว่าแล้วก็ลองค้นๆจากแผ่นไดร้เวอร์ ผลคือไม่พบชื่อเว็บครับ?!

งานนี้คงต้องพึ่งพาผู้ช่วยตัวเก่งของผมซะแล้วครับ ผมมีสะโลแกนที่บอกกับน้องๆในที่ทำงานไว้ว่า “คิดอะไรไม่ออกบอกกูเกิ้ล”

ครับ…ไม่ว่าจะหาอะไรในภาษาอะไร ตั้งแต่ “สากกะเบือ” ยัน “เรือรบ” Google ให้คำตอบได้เสมอครับ ไม่เชื่อลองค้นหาคำว่า “สากกะเบือ” กับ “เรือรบ” ดูสิครับ!

ผมค้นด้วยคำว่า realtek ครับ ซึ่ง Google ก็แสดงผลลัพท์ออกมาเพียบ ผมเลือกเข้าไปที่ //www.realtek.com.tw เพราะเห็นว่าน่าจะใกล้เคียงมากกว่าลิ้งค์อื่นๆ (บางทีการใช้ google ก็ยังต้องอาศัยการเดาร่วมด้วยเหมือนกัน)

และนี่คือหน้าแรกของเว็บ realtek ครับ



หลังจากที่ซดกาแฟอีกอึกใหญ่ ผมก็สามารถเข้าถึงสิ่งที่ต้องการได้ดังขั้นตอนต่อไปนี้ครับ
1. คลิกที่ปุ่มที่ 3 คือ DOWNLOAD (ด้านบน)
2. เอาเม้าส์ไปชี้ที่เมนู Computer Peripheral & Multimedia Ics ด้านซ้ายมือ
3. เลือกเมนู AC’97 Audio CODECs
4. คลิกที่ลิ้งค์ Software Downloads (Drivers and Utilities)
5. สุดท้ายจะได้หน้าจอนี้ครับ



หน้านี้ ทางเว็บเขาได้รวบรวมเอาไว้ให้ ทั้ง Windows เวอร์ชั่นต่างๆ ทั้ง Linux หรือ OS2 ก็มี แต่ในที่นี้ผม Drop มาให้เห็นเฉพาะของ Windows ครับ บรรทัดแรกในรายการนั้นเป็นตัวสำหรับเล่น (แทน Media Player) ซึ่งผมไม่ต้องการครับ บรรทัดถัดมาเป็นของ Windows95 ซึ่งก็ไม่เอา มาเอาที่บรรทัดที่ 3 ครับ อันที่จริงแล้วจะใช้ได้ในบรรทัดที่ 3 และ 4 ข้อแตกต่างก็คือเป็นไฟล์ .EXE และไฟล์ .ZIP สามารถเลือกได้ตามถนัด
สังเกตในช่อง Download จะมี Site 1 ถึง 3 ให้เลือก เผื่อไว้ในกรณีที่อันใดอันหนึ่งโหลดไม่ได้ ก็สามารถแทนกันได้เพราะอยู่ต่างที่กัน ผมเลือกคลิกที่ Go ของ Site 1 ก็จะมีหน้าต่างขึ้นมา จากนั้นก็กด Save แล้วเลือกโฟลเดอร์ที่จะเก็บไฟล์ติดตั้งครับ



ชื่อไฟล์คือ WDM_A387.EXE มีขนาด 17.4 MB ครับ เนื่องจากว่าผมไม่ได้รีบร้อนอะไร ก็นั่งทำงานไปด้วย ดาวน์โหลดไปด้วย เลยจำไม่ได้เหมือนกันว่าใช้เวลาไปกี่นาที ก็เป็นอันว่าได้ไฟล์ติดตั้งมาไว้เป็นของผมเองแล้วโดยสวัสดิภาพครับ

หลังจากนั้นก็ตามไปดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ WDM_A387.EXE การติดตั้งก็จะเริ่มขึ้น หน้าต่างการติดตั้งสวยงามมากทีเดียวครับ ผมก็เพียง Next ไปเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าต่างสุดท้าย ก็ตอบ “สิ้นสุด” เพื่อรีบูตเครื่องใหม่ครั้งหนึ่งก่อนครับ



หลังจากรีบูตกลับมาเสร็จสรรพ สังเกตดูที่มุมล่างขวาที่เรียกว่า Taskbar ก็ยังพบกับสัญลักษณ์ของ Sound Effect อยู่เหมือนเดิม จะเหมือนเก่าหรือเปล่าหว่า…? คิดพลางก็คลิกพลาง ปรากฏว่าได้หน้าต่างนี้ขึ้นมาครับ



โอ้…หายเหนื่อยเป็นปลิดทั้งครับพี่น้อง…! นี่ละครับที่ผมต้องการนักต้องการหนา หน้า Sound Effect ก็คือการจำลองสภาพแวดล้อมของห้อง หรือสถานที่ต่างๆ ที่ผมเคยบอกว่าออกมาในแนวเสียงก้องๆสะท้อนนั่นแหละครับ ผมเคยลองเปิดใช้งานเวลา DJ อ่านข่าว ก็มันในอารมณ์ไปอีกแบบดีเหมือนกัน แต่ฟังได้ไม่นานก็กดกลับมาไว้ที่ None ครับ (เวียนหูเหลือเกิน)

อ้อ…บางทีก็มีประโยชน์เหมือนกัน อย่างเช่นเวลาเอาหนังแผ่นมาเปิด (เช่น แหยม ยโสธร เป็นต้น) ผมลองๆเลือกใช้ Environment ในแบบ Plain ก็ออกมาในแนวหนังกลางแปลงดีจัง ฟังแล้วเหมือนไปนั่งดูหนังกลางทุ่งยังไงยังงั้นเลยเชียวครับ ตรงนี้ถ้าใช้งานกับหูฟังก็เลือก Headphone ได้ด้วย เผื่อเอาไว้ฟังให้สนั่นหู เวลามีคนมานอนหลับอยู่ข้างๆครับ (ซึ่งโอกาสแบบนั้นหาได้ยากเต็มทีในวัยอย่างป๋า…ฮา…)

ถัดลงมาที่เขียนว่า Karaoke ก็ตรงตามตัวละครับ ถ้าติ๊กเลือกลงไป เสียงย่านกลางๆซึ่งก็คือเสียงของนักร้อง ก็จะแผ่วลงไปมากอยู่เหมือนกัน (ไม่ถึงกับหายไปซะทีเดียว) ใช้สำหรับโชว์เสียงเจ้าของเครื่อง เวลามีเพื่อนๆมานั่งแจมกันครับ เหมาะสำหรับเวลาที่พวกนั้นพากันมาโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ทำให้ต้องเอาแผ่นธรรมดาที่ไม่ไช่แผ่นคาราโอเกะ มาใส่แล้วร้องเพลงกัน บางทีทนไม่ไหวจริงๆกับความอินเทรนด์ของเพลง ก็เอาไฟล์ MP3 ที่มีนี่แหละครับมาเล่น พอติ๊กที่ Voice Cancellation ก็เป็นอันได้ความครับ ถึงจะได้เนื้อบ้างไม่ได้เนื้อบ้าง (เพราะไม่มีอักษรวิ่งให้อ่าน) ก็ยังพากาแฟหมดไปหลายกลม เอ๊ย…หลายถ้วยได้เหมือนกัน แม้ว่าเสียงจะสูงไปต่ำไป ก็ยังปรับ Key ได้อีก แจ่มจริงๆ

สำหรับหน้าถัดไปที่เห็นก็จะมี Equalizer , HRTF Demo (ใช้ทดสอบลำโพงได้), Microphone Effect (ผมลองแล้วไม่พบอะไรแตกต่าง) และ General เพื่อบอกข้อมูลของโปรแกรม และตรงนี้ยังสามารถเลือกให้แสดงผลเป็นภาษาไทยได้ด้วยครับ

สิ่งที่ต้องการจริงๆอยู่ที่ Equalizer ครับ จะเลือกที่ป้ายแท็ป หรือจะกดจากปุ่มที่เห้น ก็จะพาไปที่หน้าจอนี้เหมือนกันครับ



เวลาผมฟังเพลง ผมมักจะเลือกใช้อยู่ 3 แบบครับ คือ นุ่มนวล, ร็อค และพลังเสียงสูง มันให้เสียงซิ้บซ้าบและหนึบหนับหนักแน่นดีจริงๆ แล้วพอเวลาพนักงานติดต่อผ่าน Office Intercom เข้ามา ผมก็จะสลับไปเลือกที่ เสียงร้อง ทำให้ได้ยินเสียงพูดอย่างชัดเจน เรียกว่าใช้ได้ดีทั้งในงานและก็บันเทิงอย่างสนิทสนมกลมเกลียวกันเลย (จะมาว่าเสียงานไม่ได้ครับ เถียงใจขาด!)

แฮปปี้เอ็นดิ้งครับงานนี้ เวลาผมเข้าเว็บไปฟังเพลงจากสถานีใหน ผมก็สามารถใช้ Equalizer เค้นเอาความทุ้ม-นุ่ม-ใสออกมาฟังจนได้ รื่นหูขึ้นเป็นกอง แต่จะส่งผลให้การทำงานออกมาดีด้วยหรือไม่ อันนี้ต้องรอดูโบนัสปลายปีอีกทีครับ




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2549   
Last Update : 22 กรกฎาคม 2549 13:47:09 น.   
Counter : 11790 Pageviews.  


เพิ่ม Connection-Limit ใน winXP ให้มากกว่า 10 user

ปกติแล้ว windowsXP เมื่อมีการแชร์โฟลเดอร์ใดๆ สามารถที่จะมีเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ ต่อเข้ามาใช้งานได้พร้อมๆกันเพียง 10 เครื่องเท่านั้น ซึ่งหากการทำงานเป็นลักษณะจองการเรียกเข้าบ้างเป็นครั้งคราว เช่น ในวงแลนอาจจะมีเครื่อง 20 เครื่อง แต่ละเครื่องก็เข้ามาอ่านหรือคัดลอกไฟล์แล้วก็ออกไป อย่างนี้ก็อาจจะมองไม่เห็นปัญหา เพราะเข้าๆออกๆ นับรวมกันไม่เกิน 10 เครื่องสักที

แต่ในการทำงานบางลักษณะ ที่อาจจะมีการต่อเชื่อมกันอยู่ตลอดเวลา อย่างนี้มีปัญหาแน่ๆ โดยถ้าหากว่ามีเครื่องที่เรียกเข้ามาใช้งาน 10 เครื่องแล้ว เครื่องที่กำลังจะเรียกเข้าโฟลเดอร์ที่แชร์ไว้นั้น จะแสดงกรอบโต้ตอบออกมาบอกให้รู้ทันที โดยที่ไม่สามารถจะเข้าได้ จนกว่าจะมีเครื่องใดเครื่องหนึ่งออกไปก่อน

จากการค้นหาตามเว็บบอร์ดต่างๆ (ส่วนมากเสิร์จด้วย //www.google.com ) ก็พบว่าปัญหานี้ ให้ไปดูที่ //www.lvllord.de/ จะเห็นว่ามี Patch ที่ออกมาหลายเวอร์ชั่นแล้ว และก็ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อเข้าไปในเว็บแล้วคลิกที่ Download จากปุ่มเมนูด้านซ้าย จะพบกับ //www.lvllord.de/download.php?url=en/EvID4226Patch223d-en.zip ซึ่งเป็นไฟล์ล่าสุด (ภาษาอังกฤษ) ซึ่งPatch ตัวนี้ จะมีฟังก์ชั่นให้เลือกได้ในขณะติดตั้ง ว่าต้องการ user 10 หรือ 50 ไม่สามารถระบุตัวเลขที่ต้องการได้

หลังจากทดลองติดตั้ง Patch ข้างบนดูแล้ว รู้สึกว่ายังทำงานไม่ได้ 100% (อันนี้ไม่แน่ใจว่าจะเป็นที่เครื่องนี้เครื่องเดียวหรือเปล่า ต้องลองทดสอบกันเอง) เลยลองเอาตัวนี้มา //www.lvllord.de/download.php?url=en/EvID4226Patch211a-en.zip เป็นเวอร์ชั่นที่ต่ำกว่า แต่ตัวนี้ หลังจากที่ได้ทดลองแล้ว รู้สึกว่าทำงานได้ดี สามารถระบุ user ได้เลยว่าจะเอา 20 หรือ 30 หรือ 100 ก็ได้ ต่อไปเป็นการทำงานของผมครับ

1. ผมวางไฟล์ที่ได้จากการดาวน์โหลดลงบน Desktop อย่างที่เห็น เนื่องจากเครื่องนี้ไม่ได้ติดตั้ง Winzip หน้าตาของไฟล์ .zip จึงเป็นของ xp เอง


รูปที่ 1 ไอคอนไฟล์ zip ของไฟล์ Patch ที่ดาวน์โหลดลงมา

2. เมื่อดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ EvID4266Patch211a-en.zip จะมองเห็นไฟล์ที่อยู่ภายในดังนี้


รูปที่ 2 ไฟล์ที่ zip เอาไว้

3. ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ EvID4226Patch.exe ที่อยู่ภายในนั้น จะแสดงกรอบโต้ตอบว่า จะแตกไฟล์ออกมาสู่ภายนอก หรือจะให้ทำงานเลย


รูปที่ 3 ให้เลือกว่าจะ Run หรือ Extract

ในที่นี้ ผมต้องการทำงานทันที จึงคลิกที่ปุ่ม Run

4. จะพบกับหน้าต่างการทำงาน ซึ่งจะเป็นการทำงานในสภาวะแวดล้อมของ Dos นั่นเอง

รูปที่ 4 หน้าต่างการทำงานของโปรแกรม

สังเกตบรรทัดนี้...
Current maximum concurrent half-open connections : 10 หมายถึงขณะนี้ สามารถแชร์ได้ 10 เครื่องพร้อมๆกันเท่านั้น

บรรทัดต่อมา จับใจความได้ว่า ในขั้นตอนต่อไป Windows XP จะจับความผิดปกติได้ว่า เรากำลังพยายามเปลี่ยนแปลงค่าของไฟล์ระบบ จึงแสดงกรอบข้อความ เตือนให้เราใส่แผ่นติดตั้ง เพื่อนำไฟล์ระบบนั้นกลับคืน เราต้องตอบ Abort และ Yes ตามลำดับ

บรรทัดต่อมา จะมีตัวเลือกให้ 3 ตัว คือ
- กด y เพื่อเพิ่ม user เป็น 50 ตามที่โปรแกรมกำหนดมาให้เป็นมาตรฐาน
- กด n เพื่อยกเลิกการทำงาน จะคง user เป็น 10 เหมือนเดิม
- กด c เพื่อระบุจำนวน user ที่ต้องการเอาเอง

ในที่นี้ ผมกด c โปรแกรมจะขึ้นบรรทัดใหม่อีกครั้ง ผมพิมพ์ 100 เข้าไป แล้วกด Enter

โปรแกรมจะถามย้ำอีกครั้งหนึ่ง ว่าต้องการเพิ่ม user เป็น 100 จริงหรือไม่ ซึ่งยังสามารถเปลี่ยนแปลงค่าได้อีก แต่ผมต้องการ 100 นี้ จึงกด y เพื่อยืนยันการทำงาน

5. จากข้อ 4. โปรแกรมจะให้เคาะคีย์ใดๆเพื่อจบการทำงาน และการเปลี่ยนแปลงจะมีผลเมื่อรีสตาร์ทเครื่องใหม่ แต่ windows XP จะแสดงกรอบข้อความเตือนออกมา


รูปที่ 5 กรอบข้อความเตือนจากระบบ Windows

ผมจึงกด Cancel ตามที่โปรแกรมได้แจ้งไว้แล้ว จากนั้นจะขึ้นกรอบโต้ตอบอีกอันหนึ่ง ถามว่าจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ใช่ของ Windows นี้หรือไม่ ผมก็คลิก Yes เพื่อยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้

6. เรียบร้อยแล้วก็สั่ง Shut Down > Restart 1 ครั้ง เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงนี้มีผล
7. เมื่อ Windows กลับมาเรียบร้อยแล้ว ก็ให้ลองสั่งรันโปรแกรมนี้อีกครั้งหนึ่ง แล้วสังเกตว่า โปรแกรมจะรายงานจำนวน user ออกมาเป็น 100 แล้วหรือไม่ สำหรับผมตอนนี้ออกมาถูกต้องตามต้องการแล้ว คงเหลือเพียงการรอดูผล จากการใช้งานจริงๆเท่านั้น ส่วนของใครทำแล้วยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง ให้ลองค่อยๆทำ ค่อยๆพิจารณาอีกครั้งหนึ่งครับ

ก็เป็นอันว่าสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ข้อสำคัญ ต้องทำด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่งยวด เพราะเป็นการทำงานกับไฟล์ระบบของ Windows หากเกิดผิดพลาดขึ้นมา อาจล่มทั้งระบบเลยก็ได้ สำหรับรายละเอียดหรือข้อมูลอื่นๆ สามารถหาอ่านได้ในอินเตอร์เน็ตครับ มีให้ค้นคว้าทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเลยทีเดียว...

หมายเหตุ : ผมทำแล้ว ทดลองแล้ว แต่กับเครื่องที่ผมใช้อยู่ ไม่ได้ผล ครับ

จากการทบทวนขั้นตอนโดยละเอียด ลองทำทั้งหมดใหม่อีกหลายครั้ง ทั้งๆที่ตัวเลขเมื่อตรวจสอบ ก็โชว์ให้เห็นว่าผ่านแล้ว แต่เมื่อใช้งานจริงๆ ก็ยังติดปัญหาอยู่ดี จากที่ลองถามหลายๆท่านดูแล้ว บางคนก็ผ่าน บางคนก็ไม่ผ่าน อันนี้คงจะแล้วแต่เวอร์ชั่นของ winXP ที่ท่านมี ของผมก็เวอร์ชั่นเซียร์รังสิตครับ...แหะๆ

...โชคดี(ของใครของมัน)ละกันครับผม...




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2549   
Last Update : 22 กรกฎาคม 2549 13:45:39 น.   
Counter : 4387 Pageviews.  


1  2  3  

mitrapap
 
Location :
สระบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]




Free Domain Names @ .co.nr!
[Add mitrapap's blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com