Day 3 วันเดียวเที่ยวเซียน่า

ออกจากที่พัก มุ่งตรงไปสถานีรถบัส ซึ่งตั้้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ Firenze SMN แค่ข้ามถนน 
วันนี้เราจะไปเที่ยวนอกเมืองฟลอเรนซ์ แต่ยังอยู่ในแคว้นทอสคาน่าหรือทัสคานี เดินทางโดยรถบัสใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ
แนะนำให้ซื้อตั๋วกลับพร้อมกันทีเดียวไปเลย จะได้ไม่ต้องไปหาที่ซื้อตั๋วขากลับอีกรอบแบบเรา ขึ้นรถแล้วอย่าลืมวาลิเดทตั๋วก่อนล่ะ

เป็นคนเมารถเมาเรือง่าย กว่าจะมาถึงที่หมายก็เกือบไม่รอดเหมือนกันนะ ทางมีคดเคี้ยวเบาๆ แล้วคนขับฮีก็จัดเต็มทุกโค้ง
มาถึง เมืองเซียน่า (Siena) ช่วงสายๆ 
เราเดินย้อนมาที่มหาวิหาร Cateriniana กะว่ามาเก็บภาพมุมกว้างของเมืองที่จุดนี้



เห็นตัวเมืองเซียน่าอยู่บนเนินเขาอีกลูก สวยสมใจอย่างที่นึกไว้ก่อนมา แต่ย้อนแสงอย่างแรง 
นึกถึงคิงส์แลนดิ้งแห่ง GoT ขึ้นมาซะอย่างนั้น... เดี๋ยวเราจะเดินไปเที่ยวกันที่เขาลูกนั้นกันต่อ



เมื่อกี้่ถ่ายรูปมาจากโบสถ์สีน้ำตาลหลังใหญ่ๆนั้นแหละ ต้นสนกับเนินเขาแบบนี้ทำให้รู้สึกว่ามาถึงทัสคานีแล้วจริงๆ



น้องหมาเซียน่า



Siena Duomo มหาวิหารประจำเมืองเซียน่า
ด้านนอกเด่นด้วยหินตกแต่งเป็นสีขาวดำอันเป็นสีประจำเมือง ตรงยอดเสาด้านหน้าโบสถ์ ถ้ามองดีๆจะเห็นแม่หมาป่าชีวูฟซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเซียน่าตั้งอยู่



เราซื้อ Opa Si pass เป็นตั๋วแบบคอมโบเข้าชมสิ่งก่อสร้างบริเวณนี้ได้หลายแห่ง ด้วยความที่คนไม่เยอะมากเท่าฟลอเรนซ์ก็มาซื้อเอาหน้างานนี่แหละ 
ใช้เข้าดูโอโม่ ห้องสมุด มิวเซียม หอศีลจุ่ม และสุสานใต้ดิน อ่อ... ดูโอโม่ที่นี่ต้องเสียเงินเข้านะ ไม่ได้เข้าฟรีแบบฟลอเรนซ์หรือวาติกัน 
แต่แนะนำมากๆๆ สำหรับคนที่ชอบความอลังการงานสร้าง ความถึกของช่างฝีมือ รับรองว่าเข้าดูโอโม่ที่นี่แล้วจะไม่ผิดหวัง 



สมัยก่อน การจะวัดว่าเมืองไหนมีอันจะกินกว่ากัน ก็คือความหรูหรา ความสตันนิ่ง ของดูโอโม่ประจำเมืองนี่แหละ
ฟลอเรนซ์เค้าก็เน้นใหญ่โตเน้นเทคนิคทางสถาปัตยกรรมไปแล้ว แต่ด้านในดูโอโม่ออกจะมินิมอลไม่ค่อยมีแต่งอะไร
แต่ของเซียน่า คือเด่นตั้งแต่การตกแต่งด้านนอกด้วยสีขาวดำ แล้วพอเข้ามาด้านใน เราถึงกับอ้าปากค้างตะลึงในรายละเอียดจัดเต็มของที่นี่

ไล่จากพื้นที่ลงลวดลายทำด้วยหินอ่อนแบบไม่มีซ้ำ เสาสลับสีขาวดำ ผนังก็วาดรูปลายพร้อย จนนู้นนน หลังคาก็ยังมีลวดลายเป็นดาวเป็นดอกไรอีก
วุ้ยยย รู้แล้วจ้า ว่ารวยมากกกกก



พื้นหินอ่อนลายชีวูฟกำลังให้นมโรมูลัสกับรีมัสซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง (ซึ่งเหมือนกับโรม) 
รอบๆเป็นมาสคอตของเมืองที่อยู่ภายในการปกครองของเซียน่า



ของจริงคือสวยกว่าในรูปง่อยๆของเราเยอะ นี่ก็โดมตกแต่งด้วยดวงดาว



แท่นสำหรับให้พระขึ้นเทศน์ ทำจากหินอ่อนอีกเช่นกัน



ส่วนแท่นพิธีหลักและออร์แกน



Piccolomini Library เป็นห้องสมุดเล็กๆที่อยู่ในดูโอโม่
ตั้งชื่อตาม Pope Pius II หรือ Aeneas Silvius Piccolomini เป็นพระสันตะปาปาชาวเซียนิส 



ภาพวาดเฟรสโกด้านในก็ลายพร้อย ไม่แพ้ดูโอโม่เช่นกัน เล่าเรื่องราวในชีวิตของโป๊บปีอุสที่ 2  ตามชื่อของห้อง



ในภาพ Pope Aeneas Piccolomini Canonizes Catherine of Siena 
ศิลปินผู้วาด Pinturicchio ได้วาดรูปของตัวเองกับเพื่อนสนิทของเค้า (ที่เราน่าจะคุ้นกันกว่า) Rafael ลงไปด้วย ก็คือผู้ชาย 2คนหน้าสุดที่หันมา



อาจจะโดนบรีฟงานมาว่า ห้ามไม่ให้มีผนังสีเรียบๆโผล่มาให้เห็นเป็นอันขาด! 
นี่เพดานห้องสมุด



หยุดความลายตาไว้ที่รูปนี้



ไปดูมิวเซียมเค้ากันต่อ เปิดเข้ามาก็จัดแสงซะดราม่า (และน่านอน อิอิ)



Stained glass งามๆ จากเซียน่าดูโอโม่ 



เริ่มเบลอๆ เพราะงานศิลปะอิตาเลียนโอเวอร์โหลดในช่วง 2-3 วันนี้แล้วเหมือนกัน



ทีเด็ดของมิวเซียมนี้ สำหรับเราคือจุดชมวิวตรง facciatone หรือฟาซาดที่ยังสร้างไม่เสร็จ
ตอนแรกเราก็นึกไม่ออกนะ ว่าฟาซาดหน้าตาเป็นไง แปลตรงๆ คือเปลือกอาคาร เอาไว้ตกแต่งให้อาคารสวยงาม 
ถ้าดูจากรูปนี้จะเห็น ฟาซาดด้านหน้าของดูโอโม่ชัดเลยค่ะ



ต้องปันบันไดขึ้นมา ทางเล็กและแคบ แต่ไม่สูงเท่าเมื่อวาน มาที่ส่วนสันของฟาซาดแล้วสามารถเห็นวิวเมืองได้ 360 องศา





มีพื้นที่ไม่มาก ดังนั้นเค้าจำกัดจำนวนคนขึ้นต่อรอบ ปล่อยให้อยู่ตรงนั้นซัก 15 นาที เจ้าหน้าที่ก็เรียกให้ลงไปแล้วค่ะ



ทางออกของมิวเซียมมีร้านขายของที่ระลึกอยู่ เราซื้อกระเป๋ากับแผ่นแม่เหล็กติดตู้เย็น จะจ่ายเงินสดแบงค์ 20 ยูโร ปรากฎไม่มีทอนจ้า
เลยลองใช้บัตรทราเวลการ์ดที่เพิ่งออกบัตรก่อนมาเที่ยวแค่ไม่กี่วัน ปรากฎว่าใช้ได้ราบรื่นไม่มีปัญหา
ในอิตาลีเห็นคนใช้การ์ดแบบ contactless ซื้อของกันเยอะ เราว่าเป็นวิธีที่สะดวกดี ไม่ต้องมาสับสนนับเงินให้ยุ่งยาก
ตั้งใจว่ารอบหน้ามายุโรปจะติดเงินสดไว้เผื่อฉุกเฉินนิดหน่อย แล้วใช้ทราเวลการ์ดเป็นหลักดีกว่า



บันไดข้างดูโอโม่เชื่อมไปหอศีลจุ่ม ...อย่างเท่



บรรยากาศในเขตเมืองเก่า



มื้อเที่ยงที่ร้าน Osteria Permalico เลือกเข้าเพราะเห็นคะแนนรีวิวดี
นั่งโต๊ะปุ๊บจะมีขนมปัง น้ำมันมะกอก และโถชีสขูดมาวางปั๊บ บางร้านก็คิดตังถึงแม้จะไม่ได้แตะ แต่ร้านนี้เราไม่กินเค้าก็ไม่คิดตังเพิ่มค่ะ เฮ้!



เราสั่ง ญอกกี้ริคอตต้าซอสพิสตาชิโอและมะเขือเทศตากแห้ง 



เป็นการกินญอกกี้ครั้งแรก ไม่คิดว่าจะแน่นหนักท้องขนาดนี้ เราทานได้ไม่ถึงครึ่งจานก็อิ่ม 
ตอนเช็คบิลพนักงานเข้ามาถามว่าเราไม่ชอบอาหารรึปล่าว เรารีบบอกปฏิเสธ รู้สึกผิดเลย.. ที่กินเหลือ 

มาถึงยังจุดแแลนด์มาร์กที่สำคัญอีกแห่ง จัตุรัสใหญ่กลางเมืองที่คิดว่าเท่สุดในทริปนี้ ชอบจัตุรัสที่มีสโลป ดูมีชีวิตชีวาดี
Piazza del Campo



Palazzo Pubblico เป็นศาลาว่าการเมืองเซียน่า และหอระฆัง Torre del Mangia



ร้านขายของที่ระลึกก็ยังดูขลัง



ที่บอกไปตอนต้นบลอกว่า สมัยก่อนเซียน่าเค้าเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่ามีอันจะกิน เป็นเมืองศูนย์กลางการเงินการธนาคาร
ทุกวันนี้ ธนาคารที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังเปิดทำการอยู่ ก็มีต้นกำเนิดมาจากเซียน่า 
และนี่คือ สำนักงานใหญ่ของ Banca Monte dei Paschi di Siena หรือ BMPS ก่อตั้งปี 1472 อ่ะคิดดู้วว



ช่วงเกร็ดความรู้.. ที่ไม่ต้องรู้ก็ได้.. 

คนรุ่นเดียวกับเรา ต้องเคยได้ยินคำว่า เด๊ดสะมอเร่ ผ่านหูกันมาบ้าง มักใช้ในความหมายประมาณว่า ตายแน่ๆ
รู้หรือไม่ว่าคำนี้อาจเพี้ยนมาจากคำว่า that's amore ซึ่งอะมอเร่ในภาษาอิตาเลียน=ความรัก ดังนั้นรวมๆก็แปลว่า นั่นแหละ..คือความรัก
ความหมายไปคนละทิศคนละทาง ก็ไม่รู้ว่าไปเพี้ยนเอาท่าไหนเหมือนกันนะ



นั่งรถบัสกลับมาฟลอเรนซ์ช่วงเย็นๆ จริงๆคือเหนื่อยมาก เมารถด้วย กะจะเททุกสิ่งเพื่อนอนพัก
เข้าโฮสเทล นอนเล่นมือถือเรียบร้อย แต่เพื่อนพิมพ์ไลน์มาเตือนสติว่า แก.. เราเสียเงินซื้อพาสไปแล้ว แกต้องไปให้คุ้มค่าตั๋วสิ 
คิดได้ดังนั้นก็ลุกพรวดจากเตียง แล้วเดินมาขึ้นหอระฆังจอตโต้ชมวิวต่อค่ะ ความงกชนะทุกสิ่ง

Giotto's Bell Tower



ขึ้นบันไดอีก 414 ขั้น แต่ขึ้นสบายกว่าโดมเยอะ ช่องบันไดก็กว้างกว่า



มีชานให้นั่งพักระหว่างขึ้นหลายจุดหลายระดับ ชมวิวได้หลายระดับความสูงด้วย



รูปนี้ปีนมาได้ซักครึ่งทาง



เหมือนสวรรค์จะให้รางวัลนักเที่ยวคนขยัน ขณะกำลังปีนบันได ก็ได้จังหวะตรงกับช่วงเวลาตีระฆังพอดี
เสียงระฆังดังเหง้งหง้างก้องกังวาลลงมาตามช่องบันได เป็นอีกช่วงเวลาพิเศษที่เราคิดถึงในทริปนี้เลยค่ะ

รูปนี้ถ่ายตอนอยู่จุดสูงสุดของหอระฆังแล้ว ใครที่ต้องการชมวิวสวยๆ มาขึ้นหอระฆังค่ะ วิวจะสวยงามกว่าขึ้นโดม



แต่ว่า.. ความจริง คือ เค้ากั้นลูกกรงไว้อย่างแน่นหนา ถ้าไม่ได้เอากล้องลอดซี่กรงออกไป ภาพที่ได้ก็จะประมาณนี้



ได้มองบรูเนลเลสกี้โดมจากหอระฆังในแสงอ่อนตอนเย็น ...คุ้มแล้วกับทริปนี้



ย้ายฝั่งมาดูวิวด้านหอศีลจุ่มบ้าง



มาเดินเล่นส่งท้าย ก่อนที่พรุ่งนี้เราจะย้ายที่นอนไปเมืองอื่นแล้ว

Piazza della Repubblica 
ตอนเย็นคนเดินขวักไขว่ แถวนี้เต็มไปด้วยร้านสินค้าแบรนด์เนม ห้างสรรพสินค้า โรงแรมระดับห้าดาว คาเฟ่ร้านอาหารหรูหรา
มีห้าง Rinascente ที่เป็นของเครือเซ็นทรัล ใครเป็นสมาชิกเดอะวันการ์ดมาช้อปสะสมแต้มที่นี่ก็ได้นะ



ใครว่านักท่องเที่ยวฝรั่งไม่เห็นแต่งตัวเต็มแบบคนไทยเวลาไปเที่ยวเมืองนอก 
อยากให้มาเห็นนักท่องเที่ยวฝรั่งแถวนี้ แต่งตัวสวยหล่อจัดเต็มเหมือนกับออกมาจากแมกาซีนเลยแหละ 

Piazza della Signoria



Il Porcellino หมูป่านำโชค 
พิธีกรรมก็คือ ให้ลูบจมูกหมูแล้วจะได้กลับมาที่ฟลอเรนซ์อีก จากนั้นเอาเหรียญใส่ที่ปากหมูแล้วอธิษฐาน ถ้าเหรียญตกในช่องด้านล่างก็จะสมหวัง
แต่ถ้าไม่.. สาวยิปซีที่อยู่ด้านข้างจะจัดการเงินเหรียญของผู้ไม่สมหวังเองค่ะ



กลับถึงโฮสเทล งัดเอาของดีที่พกติดมาจากเมืองไทย มาคั่นอาหารฝรั่งที่กินติดต่อกันมาหลายวันแล้ว 
แม้เส้นจะไม่ค่อยสุก แต่ได้กินอาหารรสชาติที่คุ้นเคย ขอบอกว่าอร่อยชื่นใจมากๆเลยค่า




Create Date : 22 มกราคม 2563
Last Update : 22 มกราคม 2563 15:10:01 น. 5 comments
Counter : 1262 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณทนายอ้วน, คุณอุ้มสี


 
เซียน่ากับฟลอเรนซ์เป็นเมืองที่เรายังไม่เคยไปเลยค่ะ อยากไปจัง

ข้างในดูโอโมงามมากกกกกก วิวจากหอระฆังก็อลังก์สุด เสียดายมีลูกกรง แต่คงกันคนกระโดดแหละนะคะ

วันนี้โควต้าโหวตเราหมด พรุ่งนี้เข้าบล็อกน่าจะบ่ายๆ แล้วจะมาโหวตให้นะคะ คนอื่นๆ จะได้มาอ่านบ้าง


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 22 มกราคม 2563 เวลา:15:39:50 น.  

 
@สาวไกด์ใจซื่อ ขอให้ได้ไปสมใจอยากนะคะ ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านค่า


โดย: khimyo วันที่: 22 มกราคม 2563 เวลา:18:21:32 น.  

 
เคยไปฟลอเรนซ์แล้วชอบ Palazzo Pitti มากครับ สวนสวยมากๆ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 25 มกราคม 2563 เวลา:19:38:33 น.  

 
น่านเมืองสวย เงียบแต่ไม่เหงา อยากให้ไปนะครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 26 มกราคม 2563 เวลา:21:12:50 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
sawkitty Food Blog ดู Blog
ธนูคือลุงแอ็ด Education Blog ดู Blog
khimyo Travel Blog ดู Blog

ชอบๆๆๆๆๆๆๆ อ่านแบบนี้
ขอแอคเป็นเฟรนด์ลิ๊งนะคะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 27 มกราคม 2563 เวลา:8:36:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

khimyo
Location :
ลำพูน Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add khimyo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.