เติมความหวานให้ชีวิตกับ บุฟเฟ่ต์ของหวาน โรงแรมดาราเทวี จ.เชียงใหม่

ตามปกติเป็นคนกินไม่เยอะ และไม่ค่อยชอบกินขนมหวานซักเท่าไหร่ 
เรียกว่ารีวิวนี้เป็นรีวิวร้านอาหารที่ขัดกับตัวตนอย่างแรง แต่เมื่อมีคนออกค่ากินให้ ทำไมต้องปฏิเสธ ฮึฮึฮึ


คุณแฟนชวนมากินบุฟเฟ่ต์ขนมหวาน ที่ห้องกาสะลอง โรงแรมดาราเทวี ซึ่งจัดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดเทศกาล 
เปิดบริการเวลา 13.00-18.00 น. ราคา(สิงหา 58) 550 บาทต่อคน (รวม vat และservice chargeแล้ว)
จำกัดเวลาให้ทานได้ 2 ชั่วโมง เราจองโต๊ะไว้ตอนบ่ายสี่โมง 

ห้องกาสะลองที่เราจะมาทานบุฟเฟ่ต์ขนมกัน  


อยู่ติดกับลานจอดรถหน้าโรงแรมเลย


พอเข้าห้องปุ๊บก็เจอโต๊ะวางขนมเลย สีสันคันเล้อฟูนมาก


จริงๆมีที่นั่งด้านนอกด้วยค่ะ แต่วันที่ไปฝนตกพรำๆทั้งวัน เลยออกไปนั่งทานด้านนอกไม่ได้
เราได้นั่งโต๊ะด้านในสุด ภาพนี้ถ่ายย้อนออกมา ลิบๆนั่นคือประตูทางเข้าห้องอาหาร 


ก่อนอื่น สั่งเครื่องดื่มก่อนนะคะ ส่วนของบุฟเฟ่ต์มีให้สั่งเฉพาะเครื่องดื่มร้อนเท่านั้น เครื่องดื่มเย็นสั่งได้แต่ต้องจ่ายเพิ่มต่างหาก
มีชาและกาแฟร้อนให้เลือกหลายชนิด สำหรับคนไม่ทานคาเฟอีน มีโกโก้ ช็อคโกแลต และนมสดร้อนด้วยค่ะ
สามารถสั่งเครื่องดื่มตามรายการด้านบนกระดานนี้ได้เลย เปลี่ยนชนิดเครื่องดื่มได้เรื่อยๆ 


คนอื่นอาจจะอยากมาทานมาการอง ขนมหวานขึ้นชื่อของดาราเทวีนะ 
แต่เป้าหมายหลักของเราที่อยากมาชิมคือนี้เลย

...ครัวซอง...

นอกจากนี้ในจานยังมีสโคนมาด้วยอีกก้อน


เริ่มจากครัวซอง ทานแล้วชอบมาก จะบอกว่าอร่อยที่สุดเท่าที่เคยทานมาในชีวิตเลยก็ได้
ผิวด้านนอกกรอบร่วน ทานแล้วเปลือกร่วงเต็มโต๊ะ หอมเนยมาเต็ม ด้านในเหนียวนุ่ม คือตรงตามหลักการครัวซองในฝัน เป๊ะ
แต่ว่าทานไปถึงตรงกลาง ชักเริ่มขัดใจนิดหน่อย เพราะเป็นครัวซองแบบมีไส้ น่าจะเป็นไส้ครีมวนิลา
ซึ่งสำหรับเรามันทำลายความฟินของครัวซองชิ้นนี้ไปเลย อยากกินแบบครัวซองไม่มีไส้อ่ะ ฮือออ

สโคน ก็อร่อยค่ะ แต่เทียบความฟินกับครัวซองไม่ติดเลย(ลำเอียงล้วนๆ) 
ปล. clotted cream อร่อยมาก หอมมัน ไขมันมาเต็ม ^__^

ใครไม่ค่อยชอบขนมหวาน ก็มีของว่างแบบไม่หวานเช่นกัน


ในจานมียำส้มโอ เมลอนห่อด้วยพาร์ม่าแฮม ชิ้นสีส้ม ด้านในเป็นมูสไก่ห่อด้วยแซลมอนโปะด้านบนด้วยไข่ปลา
ส่วนลูกเขียวๆด้านในคือฟัวกราส์ค่ะ ชิ้นนี้หมดเร็วมาก เราตักมาทานชิ้นนึง พอแฟนเราเห็นว่าเป็นฟัวกราส์เลยจะหยิบมาทานมั้ง
ปรากฏว่าหมดไปแล้ว ไม่รู้โดนเหมาไปเมื่อไหร่ 

เอาจริงๆนะทานแค่สองจานนี้เราก็อิ่มแล้วอ่ะ แต่พยายามทานต่อค่ะ ยังไม่ได้เริ่มของหวานเลย TT

ถัดมา.. มาดาราเทวีแล้วไม่ทานสิ่งนี้ จะถูกประนามมั้ยน้า ^^"
ภูเขามาการอง


ถ้าไม่รู้จะเลือกสีไหนไปทานดี ข้างๆไลน์อาหารจะมีพนักงานยืนตอบคำถามเกี่ยวกับขนมอยู่ค่ะ หรือจะให้เค้าแนะนำรสให้ก็ได้
อยากกินรสชาไทยอ่ะ แต่หมดไปแล้ว

ตักมาทานแค่ 3 ชิ้น ขนาดเท่ากับขนาดขายจริงที่เค้กช้อปดาราเทวีค่ะ
(ส่วนตัวไม่ชอบกินมาการอง เพราะว่าหว๊านหวาน ดังนั้นวิจารณ์รสชาติด้านล่างอ่านข้ามๆไปก็ได้นะคะ มันหวานไปสำหรับเราอ่ะ)


สีน้ำตาลกะปิชิ้นหน้าสุดคือรสคาราเมล อันนี้หอมคาราเมลมากและหวานเจี๊ยบๆ
ชิ้นสีเขียวคือมัจฉะ สำหรับเราไม่ได้กลิ่นหรือรสชาเขียวเท่าไหร่เลย 
ชิ้นสุดท้ายด้านในสุด เป็นชิ้นที่ชอบมากที่สุด และเป็นชิ้นเดียวที่ไม่รู้ว่าคือรสอะไร ถามพนง.แล้วเค้าบอกไม่แน่ใจว่าไส้ด้านในเป็นรสอะไร
สีน้ำตาลมีทองประกายวิ้งๆบนผิว หวานน้อยกว่าเพื่อน รสชาติเหมือนขนมผิงผสมอาลัว ไส้ก็แนวๆวนิลามั้งนะ

จานสุดท้ายที่เราตักมาแล้วค่ะ จานนี้เลือกจากหน้าตาล้วนๆ


ชิ้นที่ชอบที่สุด คือ mini St. Honore (ชิ้นที่มีครีมสีขาวตุ่มม่วง) ด้านในสอดไส้เค็มมัน อร่อยกว่าที่คิดไว้อ่ะ
แท่งสีน้ำตาล เป็นช็อคโกแลตที่ห่อมูสช็อคโกแลตไว้ด้านในอีกที อันนี้ก็ถูกใจเราอยู่นะ

นอกจากนี้ ยังมีไอศครีมรวมในบุฟเฟ่ต์ด้วย อันนี้ไม่ได้ทานเองนะ 
วันที่ไปมีรสวนิลา กับราสเบอรี่


แถมไลน์ขนมสวยๆ สีสันสดใสอีกซักหน่อย


ใครชอบกินขนมหวาน ที่นี้คงเหมือนสวรรค์เลยล่ะ
แต่สำหรับเรา ถือว่ามาลองทานขนมหลายๆอย่างเป็นประสบการณ์ ทานไปนิดเดียว แต่รู้สึกหวานไปถึงสมองเลย ฮ่าๆ


ปิดท้ายด้วยมุมหนึ่งในกาดดารา เที่ยวหน้าฝน มันก็ดีอย่างนี้แหละ คนหายไปกันหมด






 

Create Date : 06 สิงหาคม 2558    
Last Update : 6 สิงหาคม 2558 18:18:56 น.
Counter : 3096 Pageviews.  

ครัวยุพินซีฟู้ด บางขุนเทียน เพราะร่างกายต้องการ(อาหาร)ทะเล

ปิ๊กไปอยู่ลำพูนซะครึ่งปี พอได้กลับมากรุงเทพเลยรีเควสอาหารทะเลด่วนๆ
สุดท้ายมาจบที่ย่านร้านอาหารทะเลใกล้ๆบ้าน อย่างแถบบางขุนเทียนเช่นเคย

ขอสารภาพว่าเคยไปทานร้านแถวๆนี้มา 4-5 ร้านก่อนหน้านี้ เพิ่งจะมีร้านนี้แหละที่ถูกใจรสชาติของอาหารจริงๆ
อร่อยไปซะทุกอย่าง เอ๊ะ.. หรือว่าไม่ได้กินซีฟู้ดมานานกันนะ อิอิ
บลอกนี้ เราจึงภูมิใจนำเสนอ ครัวยุพิน ซีฟู้ดดดด

ตัวร้านหาไม่ยาก ตั้งอยู่บนถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล ถ้ามาจากพระรามสองก็อยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ


ตอนไปถึงร้าน ฝนตกหนักมากๆๆ 
เลยไม่ได้ถ่ายรูปหน้าร้านแบบดีๆ ภาพนี้ถ่ายจากฝั่งตรงข้ามตอนจะกลับ ได้มาแค่นี้อ่ะ TT
จอดรถหน้าร้านได้เลยค่ะ ที่จอดรถเยอะอยู่นะ


บรรยากาศในร้านก็สบายๆ ส่วนใหญ่มากันเป็นครอบครัว 
มีทั้งที่นั่งแบบเป็นโต๊ะเก้าอี้แบบธรรมดาและแบบนั่งพื้น

มาดูอาหารที่สั่งกันค่ะ
อ่อ..ช่วงที่ไปเป็นช่วงที่ชาวประมงไม่ออกเดินเรือ เพื่อประท้วง ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกับราคาอาหารทะเลรึปล่าวนะคะ

เริ่มจากเมนูสุดที่รัก ปูม้านึ่งครึ่งกิโล (กก.ละ 700 บาท) ได้มาสองตัว 
ขนาดกลางๆ แต่เนื้อปูหวานฉ่ำมาก สดมาก ให้คะแนนเต็มสิบ
น้ำจิ้มซีฟู้ด รสแซ่บ แต่เราว่าออกหวานไปนีสสส


จานต่อมา ปลาหมึกทอดกระเทียม เนื้อปลาหมึกสดมากอีกแล้ว 
ไม่ค่อยได้กินปลาหมึกนำมาปรุงแบบนี้บ่อยๆ ส่วนใหญ่จะกินแบบชุบแป้งทอด นึ่งมะนาว ต้มยำหรือแดดเดียวไรงี้เนาะ
แต่จานนี้ก็อร่อยถูกใจมากๆ หอมกระเทียม มีกลิ่นขึ้นฉ่ายหน่อยๆ รสออกเค็มๆหวานๆ เอาไปสามผ่านค่ะ


กับข้าวอย่างสุดท้าย ปลากระพงทอดราดน้ำปลา เรื่องความสดของวัตถุดิบอาหารทะเลของร้านนี้ต้องยกให้จริงๆ
ปลาสด เนื้อนุ่ม หวานเนื้อปลาหน่อยๆ ทอดมาแบบกรอบนอก เนื้อชุ่มฉ่ำด้านใน น้ำปลาที่ราดมารสก็เค็มหวานกำลังดี
ส่วนน้ำยำมะม่วง ไม่ได้ทานค่ะ เลยไม่รู้ว่ารสชาติเป็นยังไง
จานนี้ราคา 490 บาท (ปลากระพงกก.ละ 350 บาท)


บรรยากาศบนโต๊ะอาหารโดยรวม ^__^ บรรยากาศดี๊ดี


สั่งข้าวผัดปูจานกลาง 50 บาท รสชาติดี ถูกใจเราเหมือนเดิม


ทั้งหมดมื้อนี้ 1,075 บาท สั่งมาทานสองคนกับแฟน
เรื่องอาหารการกิน ไม่มีอะไรจะติจริงๆ ถูกปากถูกใจเราสุดๆ

แต่... (มีแต่ด้วย)
ขอติเรื่องพฤติกรรมพนักงานในร้าน เดาว่าน่าจะเป็นพาร์ทไทม์มั้งนะ เพราะดูเหมือนเรียนมัธยม อายุไม่เกิน 20
คือ มายืนเม้าท์ข้างโต๊ะเรา แล้วเหมือนมีน้องพนง.ในกลุ่มนั้นไปชอบลูกค้าที่มานั่งทานที่ร้าน แล้วอยากไปขอเบอร์หรือไลน์
กลุ่มนี้ก็เลยมายุกัน ให้กล้าๆหน่อย สุดท้ายผู้หญิงเค้าก็ไม่เล่นด้วย 

คุยกันเสียงดังมาก เรานั่งกินอยู่นี้รู้เรื่องหมดอ่ะ 
แถมคุยแบบเพื่อนผู้ชายคุยกัน เหี้_ สัส ค_ย และอืนๆอีกมากมายที่ต้องนั่งฟัง
จริงๆ เราก็ไม่ได้เป็นคนพูดไพเราะเสนาะหูเท่าไหร่นะ แต่ว่าตอนทำงานก็ต้องแยกแยะหน่อยมั้ย แถมไปจีบลูกค้าด้วยเนี่ยนะ ไม่ควรเลยจริงๆ

ส่วนพี่พนักงานที่ดูโต๊ะเรา บริการดีมากอ่ะ คือ บริการเร็ว ยิ้มแย้มแจ่มใส คอยเติมน้ำให้ตลอดเลย สบตาปุ๊บเห็นปั๊บ
สงสัยว่าทำไมไม่มีพนักงานคนไหนว่ากล่าวน้องกลุ่มนี้เลย เอ๊ะ หรือจะเป็นญาติเจ้าของร้านกันนะ

สรุป กลับบ้านคราวหน้าจะกลับไปกินร้านนี้อีกแน่นอน แต่คงต้องเลือกทำเลโต๊ะให้ดีกว่านี้ค่ะ 




 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2558    
Last Update : 24 กรกฎาคม 2558 17:54:26 น.
Counter : 1846 Pageviews.  

จิบกาแฟทานขนม รื่นรมย์ในสวยสวย @ Nakara Jardin เชียงใหม่

ชอบบรรยากาศร้านนี้มากจริงๆ เป็นบรรยากาศของร้านกาแฟในฝันเลยล่ะ
ตรงสเปกทุกอย่าง ตั้งแต่ อยู่ในตัวเมือง(แถมเป็นย่านเก่าแก่) สวนสวยมาก ร่มรื่น ติดแม่น้ำปิง 
นั่งชิวได้ คนไม่พลุกพล่าน และที่สำคัญ..มีที่จอดรถ!

แม้ว่าเชียงใหม่จะมีร้านกาแฟเยอะมาก แต่น้อยนักจะมีคุณสมบัติครบทุกอย่างเท่าที่ว่ามา
ร้านนิมมาน.. บรรยากาศในร้านดีจริง แต่หาที่จอดรถยาก คนเยอะ เริ่มแก่แล้วต้องร้านสงบๆหน่อย (-_-)
ร้านนอกเมือง.. ก็ไม่อยากขับรถไกล ไปในที่ที่ไม่ชินทาง ขึ้นเขาขึ้นดอยไปนู้น

นครา จาร์แด็ง ตั้งอยู่หลังโรงแรมปิงนครา บน ถ.เจริญประเทศ
เมื่อก่อนเราเรียนประถมอยู่ละแวกนี้ เวลาได้ผ่านมาแถวนี้ก็จะนึกถึงความหลังครั้งยังเป็นละอ่อนเสมอๆ อิอิ
ถ้าใครนั่งรถแดงมา แล้วรถแดงเกิดไม่รู้จักโรงแรมขึ้นมา บอกว่ามาลงวัดชัยมงคลก็ได้นะคะ อยู่ใกล้ๆกัน
เดินหรือขับรถผ่านโรงแรมเข้ามา จะเจอซอยเล็กๆ ก็มาจนสุดซอย แล้วก็จะเจอร้านค่ะ ระยะทางจากถนนเข้ามาประมาณ 100 เมตร
พอเข้ามาถึงจุดนี้จะมีที่ให้จอดรถได้ประมาณสิบคัน ดังนั้นใครขับรถมาไม่ต้องรีบจอดที่โรงแรมนะคะ ข้างในมีที่จอดโอเคกว่าค่ะ

ความประทับใจแรก ซุ้มไม้เลื้อยทางเข้าร้าน อย่างกะฉากในนวนิยายแน่ะ


สวนสวยมากๆ


มองเข้าไปที่ตัวร้านผ่านสุมทุมพุ่มไม้


ร้านปิดวันพุธนะคะ เวลาเปิดทำการ 11.00-19.00 น. 
วันนั้นเราไปถึงร้านประมาณห้าโมงครึ่ง เหลือคนนั่งอยู่ไม่กี่โต๊ะ และทยอยกลับไปเรื่อยๆ จนในที่สุดเหลือโต๊ะเดียวในร้าน
เป็นช่วงเวลาที่เพลินเพลินมาก ถ่ายรูปได้ตามสบายใจ ^^


อากาศไม่ร้อน ไปนั่งโต๊ะรับลมยามเย็น ริมแม่น้ำปิงดีกว่า




มีท่าน้ำด้วย แต่ปิดไม่ให้ผ่าน


ร้านตกแต่งแบบอบอุ่น ย้อนยุค และมีความเรียบหรูปนอยู่




เนื่องจากนั่งด้านนอก พนักงานมาถามว่าต้องการให้เปิดพัดลมรึปล่าว มีหรือจะปฏิเสธ


ทางร้านมีบริการทั้งอาหาร และขนม วันนี้เราสั่งแต่ขนมและกาแฟมาทานแบบเบาๆ 
ถ้าจะทานจำพวกเค้ก เบเกอรี่ เข้าไปเลือกได้ที่ตู้ในร้าน
แต่ขนมจำพวกที่ทานตอนอุ่นๆ เช่น ช็อคโกแลตลาวา เฟรนช์โทสต์ จะมีให้เลือกอยู่ในเมนูค่ะ 

เครื่องดื่มมาก่อน เราสั่ง Iced Latte เสิร์ฟมาในเมสันจาร์ ฮิตเนอะ แก้วแบบนี้
มีน้ำเชื่อมมาให้เติมเพิ่มเองด้วย 

แอบไปชิมแก้วของแฟน (ซึ่งไม่ได้ถ่ายมา) เป็นกาแฟเย็นสูตรของร้าน 
ชื่อก็ตามชื่อร้านเลย Nakara Jardin Iced Coffee อร่อยกว่าของเราเยอะเลย หวานๆมันๆ :P

ของหวาน อันนี้แฟนสั่ง Caramel Nutella ชื่อก็บอกมาคร่าวๆละ ว่าต้องเจออะไร
ตกแต่งจานสวยดี 


ผ่าดูข้างในซิ ด้านนอกสุดเคลือบด้วยคาราเมลเกลซ มีครีม(น่าจะ)วนิลาสอดไส้อยู่ด้านใน 
เนื้อมูสก็รสนูเทลล่าถั่วๆอ่ะนะ รู้สึกว่าใส่ถั่วอะไรซักอย่างเพิ่มเข้าไปด้วย เคี้ยวแล้วกรึบๆ
แต่เราไม่ค่อยชอบทานถั่วซักเท่าไหร่ ชิมไปนิดเดียว


ส่วนเราสั่ง Honey French Toast ตกแต่งงามอีกแล้ว ขึ้นกล้องสุดๆ
ขนมปังชุมไข่หอมนุ่มนิ่ม เสิร์ฟมากับน้ำผึ้ง ไอติมวนิลา วิปปิ้งครีม และผลไม้สีสวยอีก 3-4 อย่าง


รสชาติก็อร่อยลงตัวดีค่ะ แต่ยังไม่ล้มแชมป์เก่าในใจ 
ราคาอาหารค่อนข้างสูงนิดนึงถ้าเทียบกับมาตรฐานของเชียงใหม่ ก็ตามบรรยากาศร้านแหละนะ
ทั้งหมดนี้จ่ายไป 514 บาท (กาแฟประมาณ 80-90 บาทจำราคาขนมไม่ได้ค่ะ)
การบริการดีมาก ประทับใจ พนักงานใส่ใจลูกค้า ยิ้มแย้มแจ่มใสดีค่ะ

กลับไปอีกแน่นอนค่ะ ไปคนเดียวก็ชิว ไปกับแฟนก็กุ๊กกิ๊ก ไปกับเพื่อนก็อัพรูปสนุกสนาน 
แถมยังรับแขกบ้านแขกเมืองได้อีก...




 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2558    
Last Update : 26 พฤษภาคม 2558 23:40:13 น.
Counter : 2265 Pageviews.  

ร้านต้นน้ำริเวอร์วิว อยุธยา กับกุ้งแม่น้ำตัวแรกในชีวิต

ตั้งแต่เกิดมาไปอยุธยามานับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ไม่เค้ยไม่เคยที่จะได้ลิ้มรสกุ้งแม่น้ำหัวเยิ้มๆอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดนี้ซักที
มาทำธุระที่อยุธยาครั้งนี้ เลยตั้งใจมากๆที่จะมากินกุ้งแม่น้ำให้ได้
ก่อนมาเลยทำการหาข้อมูลในเนต หาร้านที่เค้าว่ากันว่ากุ้งแม่น้ำเด็ดๆ
สุดท้าย เลยได้มาเปิดประสบการณ์กินกุ้งแม่น้ำครั้งแรกของเราที่ร้านนี้ค่ะ 

ร้านต้นน้ำ ริเวอร์วิว อ.บางปะอิน จ.อยุธยา

วันที่มาเป็นวันหยุด คนแน่นร้านเลยค่ะ แต่เราว่าร้านจัดการดีนะ 
ระหว่างรอโต๊ะ ก็ให้สั่งอาหารไว้ก่อนเลย พอได้โต๊ะนั่งรอไม่นานอาหารที่สั่งไว้ก็ตามมา

เอาจุดเด่นมาวางไว้ตรงทางเข้าร้านเลย เตาย่างกุ้ง ใครจะทนไม่สั่งมากินไหวเนอะ


ได้โต๊ะที่แพ จริงๆมีโต๊ะที่ตั้งบนฝั่งด้วยนะ นั่งบนแพแล้วเรามึนหัวอ่ะ มันกระเพื่อมๆ เป็นคนเมาเรือง่ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว (แต่มึนแบบพอทนได้)


บรรยากาศสบายๆ คนเต็มทุกโต๊ะค่ะ
เราไปช่วงบ่ายสาม แดดจะเข้าฝั่งที่หันหน้าเข้าแม่น้ำเต็มๆ ทางร้านเลยเอาผ้าใบลงกันแดด เลยไม่เห็นบรรยากาศริมน้ำซักเท่าไหร่


ฝั่งที่ไม่ได้เอาผ้าใบลงก็เห็นวิวประมาณนี้ ไม่เป็นไรเราไม่เน้นวิว ^^"


อาหารเริ่มทยอยมา เริ่มจากผัดฉ่าปลาคัง อร่อยมากค่ะ รสจัด ปลาสดมาก ประทับใจค่ะ


ปลาทอดกรอบ ลิมไปแล้วอ่ะ ว่าคือปลาอะไร มีน้ำจิ้มรสเปรี้ยวๆหวานๆมาตัดรสให้ด้วย 
จานนี้อร่อยแบบทั่วๆไป 


แล้วก็มาถึงจานที่รอคอย กุ้งแม่น้ำเผา เราเลือกไซส์กลาง ตัวละ 500 บาท 
มันกุ้งที่หัว อร่อยมาก ใครชอบอาหารมันๆชีสๆน่าจะปลื้ม เพราะรสเหมือนชีสเลย ส่วนเนื้อกุ้งก็ทำสุกแค่พอเด้งๆ 
สรุป ก็สร้างความประทับใจแรกกับกุ้งแม่น้ำได้อย่างดีเลย มีน้ำจิ้มมาให้ด้วย แต่ไม่ได้ชิม กินแต่กุ้งเพียวๆจ้า


บรรยากาศโดยรวมบนโต๊ะ จริงๆสั่งข้าวผัดมาด้วย แต่มาช้ากว่าเพื่อนเลยไม่ได้ถ่ายรูป เพราะเริ่มจ้วงของที่อยู่บนโต๊ะ มือไม่ว่างแล้ว ^^


ส่วนราคาอาหารนั้น เราจำไม่ได้แล้วค่ะ ขออภัยด้วย นึกออกแต่ราคากุ้ง 
ประทับใจกุ้งแม่น้ำมาก วันหลังจะหาโอกาสไปกินอีกแน่นอน




 

Create Date : 02 เมษายน 2558    
Last Update : 2 เมษายน 2558 13:50:22 น.
Counter : 5577 Pageviews.  

ซีฟู้ด @ครัวบางตะบูน(ลุงญา) จ.เพชรบุรี ใครแกะปูไม่เก่ง เชิญจ้ะ..

ในหมู่มวลอาหารทะเลทั้งหลายแหล่ สิ่งที่เจ้าของบลอกชอบมากที่สุด คือ ปูม้านึ่งค่ะ
ช่วงก่อนเกิดอาการอยากกินปูอย่างแรง เลยมีคนแนะนำร้าน ครัวบางตะบูน(ลุงญา) จ.เพชรบุรี
พร้อมโฆษณาพ่วงท้ายว่า ร้านนี้อาหารอร่อยหลายอย่างโดยเฉพาะปู ที่นี่ขึ้นชื่อเลย ราคาไม่แพง ระยะทางไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านเรามากนัก
พูดซะขนาดนี้ ก็จัดไปค่ะ...

วิธีเดินทางไปที่ร้าน ขับรถออกจากกรุงเทพ เส้นพระราม 2 จนถึง กม.72 จะเห็นปั๊มปตท.อยู่ทางซ้ายมือ ให้ขับออกทางขนาน เข้าถนนเส้นเล็กสาย 4012 อยู่ติดกับปั๊มเลยค่ะ


ขับต่อไปอีกสิบกว่ากิโล วิวข้างทางก็เป็นป่าชายเลน บ่อกุ้งบ่อปลา มีบ้านคนประปราย


ร้านจะอยู่ทางขวา มีที่จอดรถกว้างขวางอยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ สังเกตง่ายม๊ากกก ถามว่า..ถ้าขับเลยร้านไปจะรู้ได้ยังไง ก็ถ้าขับไปแล้วขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำบางตะบูนสูงๆ ก็แปลว่าต้องวกกลับไปแล้วล่ะจ่ะ


ทางเดินเข้าร้าน จะผ่านบ้านชาวบ้านก่อน มีขายของทะเลหลายอย่าง ขนมพื้นบ้าน รวมถึงเห็นกรรมวิธีการแกะปูเตรียมอาหารกันระหว่างทางนี่แหละ
วิวจากโต๊ะที่เรานั่งค่ะ เห็นสะพานข้ามแม่น้ำบางตะบูนด้วย นี่มันปากอ่าวไทยแล้วใช่มั้ย
ขอบอกว่าลมเย็นสบายและแรงมาก นั่งโต๊ะริมๆเนี่ยผมเผ้ากระจุยนะจ้ะ


บรรยากาศร้านสบายๆ มากถึงมากที่สุด เหมือนไปกินข้าวบ้านเพื่อนที่อยู่ต่างจังหวัดไรงี้ อาหารสั่งไปแล้วก็ได้เร็วดีค่ะ เป็นอีกร้านที่ฮิตอยู่นะ เราไปช่วงบ่ายสามคนยังไม่เยอะเท่าไหร่ แต่พอใกล้สี่โมงต้องยืนรอกันหน้าร้านเหมือนรอกิน MK กันเลยทีเดียว



มาดูของที่สั่งมากันค่ะ

อย่างแรก.. มาเพื่อสิ่งนี้เลยนะ ปูม้านึ่งพร้อมแกะมาให้เรียบร้อย

อืมมม ถามว่ามันก็ง่ายดีนะที่เค้าแกะปูมาให้แล้วเนี่ย แต่ว่าสงสัยจะแกะไว้รอคนสั่งล่วงหน้ามั้ง เพราะเนื้อปูเริ่มแห้งแบบตากลมมาแล้วแป๊บนึง ก็เลยไม่ได้อารมณ์แบบเนื้อที่เพิ่งแกะกระดองปูแล้วมีน้ำต้มปูฉ่ำอยู่ ข้อดีคือ เราสามารถกินปูได้แบบสวยๆ ไม่ต้องงัดแงะให้เปลืองแรงนั่นเอง


ถัดมา หอยแมลงภู่ลวก หอยตัวใหญ่ดี
แต่ว่ายังมีโคลนติดอยู่ในตัวหอยอยู่เลยอ่ะ แต่ถามว่ากินมั้ย ก็กิน..


นางเอกของงาน ปลาทูทอดน้ำปลา ปลาทอดมาได้กรอบทั้งตัว รสชาติเค็มหวาน คืออร่อยอ่ะ ประทับใจจานนี้ที่สุด ปลาทูตัวเล็กๆ สมัยก่อนอย่างนี้เค้าเรียกปลาทูแมวนะ
ตอนนี้คนแย่งแมวกินซะละ


มาถึงอาหารอย่างสุดท้าย คือ ปลาหมึกชุบแป้งทอด จานนี้ก็อร่อยนะ หมึกสดมากทอดแป้งกรอบด้านนอก ส่วนตัวหมึกด้านในก็เด้งๆแต่กัดฉึบก็ขาด
จานนี้จะมีผักชุบแป้งทอดเสิร์ฟด้วยกันในจานด้วยค่ะ


ถ่ายภาพรวม สั่งมาทาน 2 คนกับแฟน แบบว่าตัดใจเอาเมนูไหนออกไม่ได้จริงๆ
ราคาไม่แพงมากนะ แต่ว่าเราจำราคาทั้งหมดไม่ได้ จำราคาได้แค่ปลาทูทอดว่าจานละ 80 บาท


คนไปทานร้านนี้กันเยอะ ถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงช่วงเที่ยงหรือเริ่มเย็นๆ เดรสโค้ดก็สบายๆบ้านๆได้เลยหรืออยากจะแต่งเต็มก็ได้ไม่ว่ากันค่ะ^^
อาหารถือว่าเด่นในเรื่องความสดของวัตถุดิบ ครั้งนี้ปูม้าอาจจะไม่ฟินสำหรับเราเท่าไหร่ แต่ปลาทูทอดนี่คือที่สุดเท่าที่เคยกินมาในชีวิตนี่แล้วล่ะ

รีวิวเอง หิวเองเลย






 

Create Date : 18 มิถุนายน 2557    
Last Update : 18 มิถุนายน 2557 13:06:10 น.
Counter : 3645 Pageviews.  

1  2  3  

khimyo
Location :
ลำพูน Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add khimyo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.