วันที่ 3-4 ตระเวนเที่ยวในตัวเมืองหลวงพระบาง

หายไปนานครึ่งปี กลับมาต่อเรื่องตอนไปแอ่วหลวงพระบางกัน ซึ่งคงลงรายละเอียดไม่มากเท่าที่ใจอยาก เพราะดองเรื่องไว้นานเกิน แหะๆ

วันที่สามของทริป เที่ยวกันในตัวเมือง เริ่มจากตื่นมาตักบาตรข้าวเหนียว เราเดินไปตรงสี่แยกที่มีศูนย์การท่องเที่ยว ที่กลางคืนก็เป็นจุดเริ่มต้นของตลาดมืดนั่นแหละ มีแม่ค้ามารอนักท่องเที่ยวอยู่ ซื้อข้าวเหนียวแล้ว  เค้าก็ปูเสื่อ มีเก้าอี้นั่ง พร้อมผ้าพาดบ่าให้ค่ะ ไปหน้าหนาวตอนพระมาบิณฑบาตรยังมืดอยู่เลย

หลังกลับโรงแรม ทานข้าวเช้าเสร็จ ก็ไปวัดเชียงทอง เนื่องจากวัดกับที่พักอยู่กันคนละฟากเมือง เลยเหมารถสองแถวไปค่ะ สังเกตว่าหน้ารถจะเหินๆหน่อย ถามคนขับเค้าบอกรถหน้ายกแล้วมันเท่กว่า

 


ขนาดพื้นที่ไม่ได้กว้างขวางมาก สิ่งก่อสร้างโบสถ์วิหารก็ไซส์มินิคล้ายๆวัดทางเหนือของไทย
สร้างตามศิลปะล้านช้าง อุโบสถมีลักษณะเด่น คือมีหลังคาซ้อน 3 ชั้น ตรงกลางหลังคาบนสุดมีช่อฟ้า 17ช่อ ที่เห็นเป็นสามเหลี่ยม คือแทนเขาพระสุเมรุ




หลังคาจะแอ่นเล็กๆดูอ่อนช้อย



ผนังมีลายปิดทองบนพื้นสีดำ แปลกตาดี



ผนังด้านหลัง ตกแแต่งด้วยกระจกสีบนปูนเป็นรูปต้นไม้ เจอกรุ๊ปทัวร์มาใกล้ๆได้ยินไกด์เค้าเรียกว่า Tree of Life



นี่ก็แแทบจะเป็นสัญลักษณ์ของหลวงพระบางเลยก็ว่าได้ วิหารแดง แต่งผนังด้วยกระจกสีเช่นกัน 
นักท่องเที่ยว(อย่างเรา) ก็นิยมมาถ่ายรูปตอนโผล่มาจากกรอบหน้าต่างของวิหาร



เดินมาจากวัดเชียงทองไม่ไกล ก็มาถึงสถานที่ที่เราอยากมามากๆ ซึ่งก็คื้ออ
ร้านส้มตำเจ๊ติ๋ม 
เท่าที่อ่านรีวิวก่อนมาเที่ยว คือไม่มีใครบอกว่าไม่อร่อยซักคน ความอร่อยแบบเอกฉันท์มาก



พอได้ทานส้มตำ ก็อร่อยจริงๆแหละ ปลาร้ากะปิหอมฉุย รสแซ่บกำลังดี 



ไก่ย่างก็อร่อยนะ แต่อย่างอื่นเฉยๆ สั่งก็ได้ ไม่สั่งก็ไม่พลาด



หลังจากนี้คือการเดินหลง แล้วคือเลยเถิดไปไกลมาก เราอ่ะไม่เท่าไหร่ถือว่าได้ชมเมือง แต่พ่อแม่นี่สิ.. 



ลัดเลาะริมน้้ำคาน



ทางขึ้นพระธาตุพูสีจากอีกฝั่ง



ไปๆมาๆ มาพักเหนื่อยที่ร้าน Utopia ร้านฮิตของสายชิล


แต่ร้านนี้ไม่ค่อยถูกใจเรา อาจจะเป็นเพราะวัยเลยกลุ่มเป้าหมายของร้านไปแล้วมั้้ง
เบาะนั่งแแบบbean bag สกปรก มีคราบเลอะ เครื่องดื่มก็งั้นๆ รู้สึกว่าสิ่งที่ได้มันไม่สมราคาที่จ่ายไปอ่ะ


เดินต่อมาที่วัดวิชุน ตอนแรกไม่อยู่ในแผน แต่เดินมาจนเกือบจะถึงแล้ว เลยมาแวะซักหน่อย
ที่นี่เด่นตรงเจดีย์ที่มีรูปทรงแปลกกว่าใครเพื่อน เรียกว่า พระธาตุหมากโม ตอนไปเค้าเพิ่งทาสีเสร็จสดๆร้อนๆ เลยสว่างเจิดจ้าเบอร์นี้




วกกลับมาเที่ยววังเก่า อยู่ใกล้ๆกับโรงแรม เลยเก็บไว้เป็นที่สุดท้ายของวัน



ก่อนเข้าวัง จะเจอหอพระบางอยู่ด้านหน้าสุดติดกับทางเข้า ถ้ากะมาเที่ยวแค่หอพระบางไม่ต้องจ่ายเงินค่ะ เข้าฟรี



แต่อยากแนะนำว่า เสียเงินเข้ามาชมพระราชวังเก่าเถอะ จัดแสดงดี ห้องหับด้านในก็ตกแต่งสวยงาม มีแต่งด้วยกระจกสีแบบวัดเชียงทองแต่งานในวังเก่าคือละเอียดกว่าเย๊อออมากกกก เราเดินแล้วก็นึกตามไปตอนสมัยที่หลวงพระบางยังเป็นเมืองหลวง มีเจ้ามหาชีวิตหรือกษัตริย์ประทับอยู่ที่นี่ ประทับใจสุด
ไม่มีรูปด้านในนะคะ เค้าห้ามบันทึกภาพ




ถ่ายจากวังออกไปยังเขาพูสี



ทุกคนเหนื่อยและเพลีย เลยส่งพ่อแม่และน้องสาวเข้าโรงแรม ส่วนเรานั้นออกมาเดินต่อ



กุฎิวัดสีบุนเรือง น่ารักกุ๊กกิ๊กมาก


ไปซื้อครัวซองจากร้านเลอเบเนตองกลับมาทานที่ห้อง อร่อยมาก แนะนำๆ อร่อยกว่าเบเกอรี่ที่ถนนคนเดินเยอะ

ตอนเย็น สมาชิกอยากลองทานอาหารแบบข้างทาง เลยไปกันที่ซอยสตรีทฟู้ด อยู่ต้นๆถนนคนเดิน
เข้ามาก็ควันตลบอบอวล ออกไปคือตัวเหม็นแน่นอน




งานส้มตำต้องมา แต่มะละกอที่นี่คือเป็นเส้นฝอยแบบเมืองไทยแฮะ รสชาติอร่อยน้อยสุดใน 4 ร้าน ปลาร้าหอมแต่ติดหวานไป ทีนี้ ขณะจ้วงส้มตำ เราก็เพิ่งสังเกตเห็นราขึ้นอยู่ไม่น้อยบนตะเกียบ(ที่ได้มาจากร้านส้มตำนั่นแหละ) เค้าคงเก็บมาใช้ใหม่เรื่อยๆ
สยองมาก หลังจากนั้้นเราไม่กินต่อแล้วอ่ะ ราคาถูกจริงแต่สกปรกจริงเช่นกัน




เช้าวันสุดท้ายในหลวงพระบาง
ออกมาทานข้าวเปียกในตลาดเช้าคนเดียว ติดใจจากวันก่อนที่ซื้อไป รอบนี้เอาแบบใส่ไข่ปนด้วย ฟินนน




มาต่อกาแฟที่ร้านแซฟฟรอน ร้านใช้พื้นที่บางส่วนร่วมกับโรงแรม มายลาวโฮม ซึ่งที่นี่มีบ้านไม้ที่เป็น UNESCO Heritage



กาแแฟดี ฝากผีฝากไข้้ได้



มาเก็บบรรยากาศพระราชวังเก่า และหอพระบางก่อนกลับอีกซักรอบ




นัดให้รถคันเดิมที่พาไปเที่ยวตาดกวงสีมารับไปส่งสนามบิน ตอนออกจากโรงแรมมาถนนใหญ่ เดินลำบากนิดหน่อย เพราะต้องฝ่าตลาดเช้าที่ยังไม่วายออกมา



เรตแลกเงินที่สนามบินหลวงพระบาง (มกรา 2562)



ชอบแม็กเน็ตชิ้นนี้ งานละเอียดดี ซื้อที่สนามบินระหว่างรอขึ้นเครื่อง



เป็นเมืองที่ช้อปของสนุกดี ราคาไม่แพงมาก ยิ่งถ้าเป็นคนชอบงานผ้า จะดูของเพลินมาก
ผ่านมา 10เดือน แยมกาแฟที่ซื้อมาก็ยังไม่ได้เปิดกินเลยเนี่ย ฮ่าาา



 




 

Create Date : 23 ตุลาคม 2562    
Last Update : 24 ตุลาคม 2562 13:51:40 น.
Counter : 2113 Pageviews.  

วันที่ 2 เดินตลาดเช้า เที่ยวตาดกวงสี ดูอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาบนพูสี

 

  เช้าวันที่ 2 ตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง เพื่อออกมาดูลาดเลาการตักบาตรข้าวเหนียว 
ออกจากโรงแรมตอนเกือบๆหกโมงเช้า ซึ่งน่าจะสายไปซักหน่อยในการมาตักบาตรที่นี่ (สำหรับนักท่องเที่ยว)
แต่ก็ยังได้เจอพระกำลังยืนให้พรกับกรุ๊ปนุ่งขาวห่มขาวหน้าวัดใหม่ คิดว่าเค้าน่าจะเป็นกรุ๊ปพิเศษนะ เพราะปกติตักบาตรที่นี่พระท่านจะเดินต่อเลยไม่มีหยุดให้พร
ระหว่างเดินสำรวจหลวงพระบางยามเช้า ก็เห็นชาวบ้านรอใส่บาตรตามถนนที่ไม่ได้เป็นจุดที่มีการขายกระติ๊บข้าวเหนียวสำหรับนักท่องเที่ยวอยู่ 
 
วิวหอพระบางยามเช้าตรู่ หกโมงครึ่งฟ้าก็ยังไม่สว่าง
 
 
พระกำลังเดินกลับเข้าวัด
 
 
กลับมาถึงโรงแรม มารับพ่อแม่ไปเดินตลาดเช้าดีกว่า
เคาะห้องอยู่พักใหญ่ก็ไม่มีใครตอบ.. ปรากฎว่าตายายหนีไปเดินตลาดกันก่อนซะแล้ว แต่ซักพักก็กลับมาถึงตามนัดว่าจะพาไปกินร้านประชานิยม
ออกประตูโรงแรมไป ก็คือตลาดเช้า นี่ก็ไปเดินมันทุกวัน ชอบบบ
 
 
บรรยากาศก็เหมือนเดินตลาดแถวบ้านอ่ะนะ แถวเชียงใหม่ลำพูนพวกตลาดวัวตลาดบ้านนอกก็มีของป่าวาไรตี้มาขายเยอะเหมือนกัน แต่แหล่งโปรตีนที่หลวงพระบางจะหลากหลายกว่ามาก มีทั้ง นกหลายชนิด หนูหลายไซส์ กบ กระรอก หนอน
ส่วนเมืองไทยเท่าที่เห็น จะมีแค่ หมู ไก่ ปลา เนื้อวัว เออ..แต่ตลาดเช้าหลวงพระบางไม่มีซีฟู้ดนะ เห็นแต่ปลาหมึกแห้ง
 
 
 
นักท่องเที่ยวไทยเดินตลาดเช้าเสร็จแล้วไปไหน...
ร้านประชานิยมสิคะ
 
 
บอกเลยว่าที่นั่งข้างๆกัน มีแต่คนไทยล้วนๆ
อาหารอาจจะรสชาติทั่วๆไป แต่บรรยากาศมันได้ นั่งทานล้อมวงคนทำอาหาร ทานเสร็จก็หัวเหม็นควันไฟ ไอน้ำมันกันไป
 
 
ถือเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับเรานะ ช่วง 7-8 โมงคนจะทยอยมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ 
ถ้าอยากนั่งสั่งทานแบบสบายๆ อีกวันนึงเราเดินมาหลังจากตักบาตรเสร็จ หกโมงนี่แทบไม่มีคน 
 
นัดรถตู้ที่เหมาไปเที่ยวน้้ำตกกวงสี หรือตาดกวงสี มาเจอกันที่โรงแรมตอน 9โมงครึ่ง ราคาที่ 300,000 กีบ 
ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงนิดๆ หนทางไปคดเคี้ยวใช้ได้ กว่าจะถึงก็เมารถกันไปไม่มากก็น้อย
 
 
ไปถึงพ่อเลยซื้อมะม่วงแก้เมาให้ 1 แพ็ค
 
 
ซื้อตั๋วเข้าน้ำตก คนละ 20000 กีบ 
 
 
ทางเดินไปน้ำตก 
 
 
ผ่านศูนย์อนุรักษ์หมี มองไกลๆนึกว่าถุงขยะ
 
 
มีของที่ระลึกขาย ราคาไม่แพง ใครสนใจช่วยอนุรักษ์หมีก็อุดหนุนกันได้ 
 
 
เดินไปอีกไม่ไกล ตาดกวงสีก็เริ่มเผยหน้าตามาให้เห็น น้ำสีสวยมากเลย
 
 
แต่ละชั้นก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป ทางเดินสบาย เรียบๆไม่ชัน ถ้าไม่มีปัญหาสุขภาพใดๆเป็นพิเศษ อายุ 68 แบบพ่อเราก็เดินมาได้
 
 
จุดไฮไลต์ สวยงาม
 
 
วันที่ไปอุณหภูมิประมาณ 18 องศาเซลเซียส เราก็คิดอยู่ว่าจะมีนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำมั้ย ปรากฎว่ามี!! 
เห็นอยู่กรุ๊ปนึง มีอยู่ 3-4 คน ไม่เชิงมาเล่นน้ำ แต่ลงไปเพื่อถ่ายรูปโพสว่ามาเล่นน้ำแล้วก็ขึ้นทันที น้ำเย็นเจี๊ยบซะขนาดนั้น ยอมใจ
 
กลับมาทานข้าวเที่ยงในเมืองหลวงระบาง ร้านโคโค่นัทการ์เด้น
 
 
สั่งอาหารลาวมาทานเช่นเคย มื้อนี้มี ต้มส้มปลา/ออแลมหมูคล้ายแกงแคของภาคเหนือ ใส่ผักหลายอย่าง ข้าวคั่ว หมูย่าง น้ำนี่น่าจะใส่กะปิหรือปลาร้าลงไปด้วย/สลัดหลวงพระบาง น้ำสลัดรสเปรี้ยวหวานคล้ายน้ำยำ โรยหอมเจียวเพิ่มความหอม/คะนาบปลาคล้ายแอ่บของภาคเหนือเป็นหมูสับกับปลาปรุงรสแล้วนำไปห่อใบตองย่าง และที่ขาดไม่ได้..ส้มตำซิจ้ะ
 
อร่อยมากๆ ถูกปากเราทุกจานเช่นเคย ชอบอาหารที่เลือกสั่งมื้อนี้มากกว่าที่ตำหนักลาวหน่อยนึง
 
 
ทานเสร็จพาพ่อแม่ส่งโรงแรม หลบแดดบ่ายอันร้อนแรง
ส่วนเราชักมึนหัว สงสัยคาเฟอีนจากชาร้อนประชานิยมจะไม่ถึง เลยมากินกาแฟที่ร้าน Saffron  
ตอนแรกตื่นเต้นกับหลอดรีไซเคิลนี่มาก แต่ไปๆมาๆ พบว่าคาเฟ่ในหลวงพระบางที่ไปมาทุกร้านใช้อิหลอดไม้รีไซเคิลนี้กันหมด
 
 
สาขานี้อยู่ติดกับโรงแรม My Lao Home ตรงนี้มีเรือนไม้ที่เป็น UNESCO protected ด้วย
 
 
ช่วงเย็น เดินขึ้นเขาพูสี ชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน
ลานตรงทางขึ้้นเขาพูสี ที่มาถ่ายรูปเมื่อตอนเช้า (มาแวะชมวิวตรงนี้บ่อยมาก มีรูปทุกช่วงเวลา เช้า สาย บ่าย เย็น)
 
 
เราแวะซื้อดอกไม้ที่มาตั้งขายตรงบันไดทางขึ้น ไปไหว้พระด้านบนด้วย ราคาไม่แพง 2 กระทง 5000 กีบ
 
 
เสียค่าขึ้น 20000 กีบต่อคน เช่นเคย 
กว่าจะมาถึงข้างบน ก็หอบ ใจเต้นไม่เป็นระส่ำอยู่เหมือนกัน 
 
 
คนมารอดูพระอาทิตย์ตกแน่นขนัดจุดชมวิว
 
 
วิวมุมสูงฝั่งแม่น้ำคาน
 
 
พระธาตุพูสี สีทองอร่าม
 
 
รอจนเก็บภาพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาสำเร็จก็กลับลงมา 
 
 
มื้อเย็น ต้องเดินข้ามสะพานไม้ไผ่ไป เป็นนักท่องเที่ยวก็เสียค่าผ่านทางคนละ 5000 กีบ
 
 
ร้านเย็นสบาย อยู่ติดน้ำคาน ที่จริงมีอาหารขายหลายประเภท แต่ที่จะมาทานกัน คือ หมูกระทะ หรือชื่อตามเมนูของร้าน คือ ลาวฟองดู
 
 
สั่งมาเป็นเซ็ตหมูและเซ็ตไก่ ใน 1 เซ็ต ก็จะมีเนื้อสัตว์ 1 จาน ตะกร้าผัก 1 ตะกร้า และมะเขือชุบแป้งทอด เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสุกี้
ส่วนเรื่องความอร่อยนั้น... เนื้อที่เค้าให้มาหมูก็เป็นเนื้อแดง ไก่ก็เป็นเนื้ออก ลีนมากๆ กินแล้วฝืดคอสุด ไม่วาไรตี้แบบเมืองไทยเลยอ่ะ แพงกว่าด้วย ไม่ให้ผ่านนะคะ 
 
 
วันนี้ไปเที่ยวทั้งขึ้นเขาทั้งลงห้วย ทรมานสังขารของทุกคนในครอบครัว 
ส่วนบลอกหน้าจะเที่ยวทางราบ ชมวัดชมวังกันบ้าง (แต่สุดท้ายพาเดินอ้อมไปอย่างไกล) 




 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2562    
Last Update : 24 ตุลาคม 2562 14:57:06 น.
Counter : 1960 Pageviews.  

วันแรกในหลวงพระบาง



จัดทริปครอบครัวไปเที่ยวหลวงพระบางตามรีเควสของแม่ ช่วงกลางเดือนมกราคม 62 
จากเชียงใหม่มีบินตรงไปหลวงพระบางวันละ 1 เที่ยวบิน ของสายการบินลาวแอร์ไลน์ 
ก่อนเดินทางก็แอบกังวล เพราะต้องนั่งเครื่องบินแบบใบพัดเป็นครั้งแรก แลจะหวิวๆ 
ได้แต่นึกปลอบใจตัวเอง ว่าเค้าก็บินไปๆมาๆอยู่ทุกวัน แถมช่วงที่ไปก็เป็นช่วงหน้าหนาวอากาศนิ่ง ฟ้าเปิด ทุกอย่างคงผ่านไปอย่างราบรื่นแหละน่าา



แล้ววันเดินทางก็มาถึง เครื่องออกตอน 15.15 เคาเตอร์เปิดให้เช็คอินก่อน 2.30 ชม. 
ไม่ค่อยได้โผล่มาฝั่งอินเตอร์ของสนามบินเชียงใหม่ซักเท่าไหร่ แต่แปลกใจว่าโถงเช็คอินฝั่งนี้ไม่มีเก้าอี้นั่งเลยซักตัว (ซึ่งฝั่งโดเมสติกมีนะ)
ด้วยความที่ใช้เครื่องบินไซส์เล็กก็บัสเกตแน่นอน ตอนเรียกขึ้นเครื่องเค้าจะให้ครึ่งหน้าแถว 1-10 ไปขึ้นรถก่อน 
ส่วนเราและพ่อแม่ได้แถว 17 ก็รอขึ้นคันถัดไป ซึ่งพอขึ้นเครื่องนั่งปุ๊บ ไม่ถึง 5 นาที กัปตันก็ถอยเครื่อง แล่นเข้ารันเวย์ทันที อะไรมันจะเร็วขนาดนั้น 55



ที่นั่งจัดแบบ 2-2 มีทั้งหมด 18 แถว เหมือนนั่งรถทัวร์เลยอ่ะ


 ความรู้สึกตอนอยู่บนเครื่องดีกว่าที่จินตนาการไว้เยอะ ระหว่างทางก็สบายๆ อากาศดีแทบไม่มีเมฆ



พอบินได้ระดับ ก็มีแจกกล่องอาหารว่าง เสิร์ฟเครื่องดื่ม มีเบียร์ลาวให้ดื่มก่อนถึงลาวด้วย

ตอนลดระดับ ก็จะเห็นวิวเทือกเขาสวยๆของฝั่งลาว เขียวชอุ่ม และเสียวว่าจะบินใกล้ภูเขาไปมั้ย 55



ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมงนิดๆ ก็มาถึงสนามบินหลวงพระบาง จากนั้นก็แลกเงินจากบูธในสนามบิน(18/1/62 1บาท=272กีบ) 
แล้วหารถแท็กซี่เข้าเมือง ของเรามากัน 4 คน จ่ายไป 80000 กีบ ไม่ได้เหมานะคะ มีนทท.มาจอยเพิ่มอีก 2 คน 
ถือว่าสะดวกมาก รถตู้ใหม่ กว้างขวางดี ไม่ต้องต่อรองราคาด้วย
ด้วยความที่จองโรงแรม ในโซนเที่ยวเกินไป 55 คืออยู่ในโซนตลาดมืด ทำให้รถไม่สามารถไปส่งถึงหน้าโรงแรมได้ เพราะเค้าปิดถนนตั้งขายของกันแล้ว
เลยต้องลากกระเป๋าตะลุยตลาด (แต่ก็ไม่ได้ไกลจากจุดดจอดรถมากน่าจะ 200 เมตร) พาพ่อแม่มาลำบากอีกแล้ว



จองโรงแรม หลวงพระบางเรสซิเด้นซ์ 3 คืน 2 ห้อง ผ่านอโกด้าในราคา 13,***บาทไม่รวมอาหารเช้า ตกห้องละสองพันนิดๆต่อคืน 
แถมจ่ายตังไปก่อนตั้งแต่ตุลาด้วยนะ เพราะเป็นโปรถูกสุดๆงี้ไง
มาช้ำใจก่อนวันจะไป นึกยังไงไม่รู้ ลองจองวันที่เราจะไปขำๆดูซิ ได้ห้องคืนละ 1,6** รวมอาหารเช้าด้วยจ้า ฮือออ (แต่เป็นห้องคนละไทป์กัน)



ที่เลือกโรงแรมนี้ เพราะทำเลในการออกเที่ยวดีมาก (ไม่นับการที่รถเข้าไม่ถึงหน้าโรงแรมนะ) หน้าโรงแรมคือตลาดเช้า ซึ่งพ่อแม่เราเค้าชอบเดินตลาด 
ตื่นมาก็สามารถเดินตลาดเองได้เลย เราก็ไม่ต้องตื่นเช้าไปส่งไง ฮ่าาา
เดินไปใส่บาตร หรือเดินตลาดมืดก็ง่าย โรงแรมอยู่ติดกับหลังวัดใหม่ ทั้งโรงแรมมีห้องพักอยู่ 7 ห้อง ก็น่าสงบเป็นส่วนตัวเหมาะกับผู้สูงอายุ 
จริงๆ ที่พักที่เล็งไว้ตอนแรก คือ Le Bougainvillier อยู่ย่านเดียวกันนี่แหละ แต่ดันมาเต็มไปก่อนซะนี้

ห้องแบบ Deluxe Suite Double กว้างขวางทั้งในส่วนห้องนอนและห้องน้ำ







หลังจากเก็บข้าวของเสร็จ ก็ออกมาเดินสำรวจข้าวของที่ตลาดมืด หรือถนนคนเดิน ปิดถนนตั้งเต้นท์ขายของตั้งแต่สี่แยกตึกการท่องเที่ยวไปจนถึงสุดกำแพงวังเก่า
ระยะทาง 400 เมตรได้ เกือบทั้งหมดก็คือ ของฝาก ของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว คนไม่แน่น เดินกำลังสบายๆเลยค่ะ





ทานอาหารเย็น ที่ร้านตำหนักลาว เห็นหลายคนบอกว่าที่นี่อาหารอร่อยถูกปากคนไทย





สั่งอาหารลาวมาทานหลายอย่าง ซึ่งเป็นรสชาติที่คุ้นเคยมาก ไม่ต้องปรับตัวในส่วนอาหารการกิน
มีไคแผ่น ซึ่งเป็นสาหร่ายทอดทานคู่กับแจ่วบอง / ส้มตำ แซ่บมากสมคำร่ำลือ / ไส้อั่วหลวงพระบาง หมูปรุงรสแต่ไม่ใส่ข่าตะไคร้พริกแบบเชียงใหม่ / ลาบ / เห็ดทอด 



จากนั้นก็เดินย่อยอาหารกลับโรงแรม เตรียมตัวเที่ยววันรุ่งขึ้นค่ะ
ขากลับ แวะซื้อขนมหวานล้างปากที่ Indigo cafe เค้าจะมาตั้งโต๊ะขายขนม สังเกตง่ายมาก มีอยู่ร้านเดียวในตลาดมืด
ซึ่งเท่าที่ได้ทาน เราว่าไม่อร่อยอ่ะ ได้ชิมบราวนี่กับขนมปังเนย นี่เราตั้งความหวังไว้มากกับขนมปังขนมอบเพราะเห็นว่าเคยถูกฝรั่งเศสปกครอง แถมนักท่องเที่ยวฝรั่งก็เต็มเมือง 



แต่วันหลังๆ ได้ทานครัวซองที่ Le banneton เจ้านี้อร่อย ฟินมาก ผิวนอกกัดร่วงกราว หอมเนยสุดๆ ราคาก็ถูกกว่าด้วยแหละ




 

Create Date : 26 มกราคม 2562    
Last Update : 26 มกราคม 2562 17:50:27 น.
Counter : 1022 Pageviews.  


khimyo
Location :
ลำพูน Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add khimyo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.