ร้อนนักก็พักร้อน @เขื่อนเชี่ยวหลาน 1/2


หลบหนีจากบรรยากาศรอบตัวร้อนๆในเมืองกรุง ไปเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลานหรือเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานีมาค่ะ คราวนี้ไปกับเพื่อนๆสมัยเรียนมหาวิทยาลัย มีแก๊งฮอบบิทที่เคยไปเที่ยวนิวซีแลนด์กันมาเมื่อปีก่อน และเพื่อนคู่แฟนอีกหนึ่งคู่ สนุกสนานมากมายได้หลายอารมณ์ทีเดียวค่ะ ที่นี่เหมาะกับนักเที่ยวทุกกลุ่ม ตั้งแต่ผู้ที่อกหักอยากพักใจสงบๆ ไปจนถึงกลุ่มเพื่อนเฮฮา หรือมาเป็นครอบครัวก็ยังได้

ทริปนี้ 3 วัน 2 คืน เพื่อนเราติดต่อซื้อแพคเกจผ่านเนต เที่ยวคราวนี้ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาเลย เพราะเพื่อนจัดการให้หมด (ดีจริงๆ) วันแรกนัดเจอกันที่สายใต้ใหม่เพื่อนั่งรถทัวร์สายกรุงเทพ-ภูเก็ต ซึ่งถ้าจะไปเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลานต้องลงก่อนที่บ้านตาขุน (จะบอกว่ารถเปิดแอร์เย็นมาก ลงรถมามีไอน้ำเกาะเต็มกระจกเหมือนเอาขวดโค้กไปแช่ตู้เย็น) เราไปถึงกันตอนตีห้าก็โทรให้คนที่จัดทัวร์มารับไปที่เขื่อน นั่งรถไปไม่นานก็มาถึง

พอเข้าเขตเขื่อนก็เจอหมอกหนามาเลย บอกว่าไปเที่ยวดอยอินทนนท์ก็คงมีคนเชื่อ



พระอาทิตย์ขึ้นที่เชี่ยวหลาน



อันนี้ห้ามพลาด ถ่ายกะป้าย อิอิ



ได้เวลาเจ็ดโมงเช้า มีเรือเที่ยวเขื่อนให้บริการ พวกเราก็พากันลงเรือเพื่อไปยังแพที่พัก



Let’s Go…………



ทิวทัศน์สวยงามมาก เป็นเขาสลับซับซ้อน น้ำก็เป็นสีเขียวมรกต น่าโดด



นั่งเรือมาเกือบชั่วโมงก็มาถึง แพเพลินไพร ที่พักในคืนแรกของเรา



ถ่ายรูปเล่นๆ หน้าแพ



ห้องพักแบบง่ายๆ ในห้องมีแค่ฟูกนอน หมอน ผ้าห่มให้ แต่ว่าล็อกห้องไม่ได้ เป็นประตูไม้ไผ่งับไว้เฉยๆ ส่วนห้องน้ำต้องไปขึ้นบนเนินด้านข้าง



หลังจากจัดข้าวของเสร็จ ก็สั่งอาหารเช้ามาทาน เป็นข้าวต้มกุ้ง เติมพลังก่อนที่จะออกเดินทางต่อไปเที่ยวถ้ำปะการัง ตอนแรกตามโปรแกรมจะไปเที่ยวถ้ำทะลุที่ต้องไต่เชือกแช่น้ำลอดถ้ำ แต่ช่วงนี้มีฝนตกเยอะ ทางลุงคนขับเรือแกบอกว่ามันอันตรายกลัวเจอน้ำป่า เราก็เออออ ยังไงก็ได้ค่ะ หนูไม่แอดเวนเจอร์ขนาดนั้น

การเดินทางไปถ้ำปะการังต้องนั่งเรือจากที่พักไป แล้วเดินป่าต่อไปยังทะเลสาป 500 ไร่อีก 1 กิโล ทางชิวๆไม่ต้องบุกป่าฝ่าดงมาก แต่พวกนั่งๆนอนๆอย่างเราก็เหนื่อยแฮ่กอยู่ ระหว่างเดินไป แต่ละคนในกลุ่มก็ยกกล้องขึ้นมาถ่ายนั้นนี้ตามประสา จนลุงคนนำเที่ยวถามว่าจะถ่ายไปทำไมกันนักหนา ป่าเนี่ยนะ ... อืมลุงก็ นานๆพวกหนูเข้าป่าที ได้เจอฝูงค่างด้วยระหว่างเดิน



มาถึงแล้วค่ะ ทะเลสาป 500 ไร่ เจอแพของเจ้าหน้าที่



จากนี้เราก็ต้องนั่งแพไผ่ไปต่ออีกหน่อย ก็จะถึงปากทางเข้าถ้ำ





ภายในถ้ำ



จากนั้นก็กลับที่พัก จบสำหรับโปรแกรมนั่งเรือเที่ยวของวันนี้ เวลาที่เหลือก็ฟรีไทม์แล้วค่ะ กลับมาถึงที่พักก็เที่ยงพอดี หิวข้าวมากๆ เพราะตอนเช้ากินข้าวต้มไปนิดเดียวแถมใช้พลังไปซะเยอะ เค้าก็จัดอาหารให้เป็นชุด มาลงให้ที่โต๊ะ อาหารจำพวกน้ำพริก ต้ม แกง ผัด เติมได้ไม่อั้น แต่ถ้าเป็นพวกปลาทอดเติมไม่ได้ค่ะ รสชาติอร่อยเลยแหละ น้องพนักงานก็บริการเอาใจใส่ดี ยิ้มแย้มแจ่มใสมาก

หลังจากนั้นก็พักผ่อนกันตามสบาย มีเรือคายักให้บริการฟรี สามารถโดดเล่นน้ำหน้าบ้านเลยก็ได้ ตอนแรกเราขอนอนเล่นๆหน้าห้องพัก แต่อากาศร้อนมากเลยโดดเล่นน้ำดีกว่า ซักพักน้องพนักงานก็เดินมาชวนพายเรือไปเที่ยวถ้ำใกล้ๆกับที่พัก ก็เลยตกลงพายไปด้วยกัน แต่ขากลับเจอฝนตกอย่างแรง เรือลำของเราพายกันสามฮอบบิทพายไม่เก่ง พายกลับไม่ถึงที่พักซักที จนน้องต้องเอาเรือเค้ามามัดลากกลับที่พัก ตอนนั้นแอบกลัวแต่ก็สนุกตื่นเต้นดีค่ะ



พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ฝนตกก็เลยเอาสบู่แชมพูมาฟอกตัวซะเลย



หลังฝนหยุดตก



ช่วงเย็นๆก็มีแขกทยอยนั่งเรือมาพักเรื่อยๆ คนพลุกพล่านมาก ตอนกลางคืนมีกรุ๊ปมาลงตั้ง 80 คน แต่ก็ไม่ได้เสียงดังโวยวายอะไรนะคะ เพราะเป็นอาจารย์ที่ สว. กันแล้ว แต่ติดขัดนิดหน่อยตรงที่ต้องต่อคิวเข้าห้องน้ำนาน ส่วนไฟฟ้าจะปั่นให้ใช้จนถึงห้าทุ่ม แต่คืนนั้นเราหลับตั้งแต่สามทุ่ม ไปด้วยความเพลีย แม้ว่าห้องจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรแต่ก็นอนสบาย ไม่มีแมลงหรือยุง อากาศก็เย็นสบาย

สำหรับตอนหน้าจะย้ายที่นอนไปแพคลองแสง ซึ่งเป็นแพที่ห่างจากท่าเรือหน้าเขื่อนมากที่สุด ไปเดินป่า ส่องสัตว์กันค่ะ




Create Date : 01 พฤษภาคม 2553
Last Update : 1 พฤษภาคม 2553 13:17:37 น. 4 comments
Counter : 1850 Pageviews.

 
ช่วงสงกรานแว่นกับครอบครัวก็กะว่าจะไปเที่ยวที่นี่เหมือนกันค่ะ แต่จองที่พักไม่ทันเต็มหมด
เลยระเห็จกันไปพักรีสอร์ทที่ขนอมแทน
ได้เห็นโลมาว่ายน้ำด้วยแหละ อิอิ
ขอโม้ๆ


โดย: ป้าแว่น (crystalblink ) วันที่: 1 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:20:20 น.  

 
เห็นแล้วอิจฉาจริง ๆ ครับ ผมไปปีที่แล้ว แต่ดันไม่ได้ลงเรือไปนอนแพ เพราะฝนตกหนักมาก

ภาพที่ถ่ายมาสวยจริง ๆครับ


โดย: นายหัวเด่น วันที่: 1 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:04:03 น.  

 
ยังไม่เคยไปเลย ต้องหาโอกาสไปให้ได้ ชอบภาพที่อาบน้ำกันในสายฝน ดูสดชื่นจัง ไม่ได้ทำแบบนี้มานานแล้วครับ


โดย: LemonSeed วันที่: 1 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:54:11 น.  

 
แวะมาชมค่ะ


โดย: นู๋ที วันที่: 4 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:46:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

khimyo
Location :
ลำพูน Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add khimyo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.