หุ้นไทยปิดบวก 6 จุด รับลูกมติศาล รธน. เลื่อนวันเลือกตั้ง
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (24 ม.ค.) ปิดที่ระดับ 1,314.63 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +6.29 จุด หรือ +0.48 มูลค่าการซื้อขายกว่า 33,988.52 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,320.65 จุด และลดลงต่ำสุดที่ 1,307.16 จุด ภาพรวมดัชนีหลักทรัพย์ยังคงแกว่งตัวอยู่ในแนวบวกตลอดทั้งวัน แม้ว่ารัฐบาลรักษาการจะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกมาแล้วกว่า 2 วัน ก็ยังไม่กระทบต่อ บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากนัก โดยนักลงทุนสถาบันซื้อสะสมสูงสุดกว่า 1,317.52 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยในประเทศขายหุ้นไทยออกไปกว่า 1,691.52 ล้านบาท จากความกังวลของสถานการณ์ความรุนแรงทางการเมืองภายในประเทศ
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น จำนวน 386 หลักทรัพย์ ลดลง 278 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 251 หลักทรัพย์
การซื้อขายสุทธิแยกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า สถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,317.52 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักหลักทรัพย์ (บล.) ซื้อสุทธิ 534.28 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนทั่วไป ขายสุทธิ1,691.52 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ -160.28 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่
AOT ปิดที่ 175.50 บาท เพิ่มขึ้น +8.00 บาท หรือ +4.78% มูลค่าการซื้อขาย 3,155,504 ล้านบาท
TRUE ปิดที่ 7.55 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,593,734 ล้านบาท
ADVANC ปิดที่ 215.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,250,715 ล้านบาท
PTTGC ปิดที่ 74.00 บาท เพิ่มขึ้น +0.50 บาท หรือ +0.68% มูลค่าการซื้อขาย 1,903,556 ล้านบาท
JAS ปิดที่ 7.15 บาท เพิ่มขึ้น +0.05 บาท หรือ +0.70% มูลค่าการซื้อขาย 1,711,923 ล้านบาท
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส กล่าวว่าแนวโน้มการลงทุนวันนี้อาจจะต้องติดตามผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณาการเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปได้หรือไม่ ซึ่งประเด็นหลักจะอยู่ที่ศาลพิจารณามีมติเป็นเอกฉันท์ว่าสามารถเลื่อนการเลือกตั้งได้ และเป็นอำนาจของประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. และนายกรัฐมนตรี ในการหารือเพื่อออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจะส่งผลต่อโอกาส หรือความเสี่ยงที่จะมีการปะทะ และความรุนแรงน่าจะมีการลดน้อยลง โดยแนวรับแนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ ประมาณ 1,320-1,330 จุด
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า แนะนำนักลงทุนพิจารณาเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี เน้นลงทุนระยะยาวมีความเสี่ยงน้อย และรอราคาที่เหมาะสมในการเข้าซื้อ โดยทยอยซื้อสะสมเมื่อราคาหุ้นปรับตัวลดลง เนื่องจากหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีส่วนใหญ่จะมีสภาพคล่องทางการเงินสูง และมีรายได้ที่แน่นอน ส่วนนักลงทุนรายวันอาจจะต้องจับตารอดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัญหาการเมืองภายในประเทศยังคงเป็นปัจจัยหลักด้านลบที่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน
//manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9570000009305
| Create Date : 24 มกราคม 2557 |
| Last Update : 24 มกราคม 2557 20:52:32 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 525 Pageviews. |
|
 |
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [
