ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงในช่วงแรก ก่อนจะปิดตลาดขยับขึ้นเล็กน้อยในวันพุธ และปิดตลาดที่ระดับใกล้จุดสูงสุดรอบ 4 ปีครึ่ง โดยตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากตัวเลขยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งของสหรัฐ เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นต่อไป ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่า ตลาดหุ้นยุโรปมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อไปในช่วงหลายวันข้างหน้า ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้นกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นแทนที่จะซื้อสินทรัพย์อื่น

ทั้งนี้ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดบวกขึ้น 4.79 จุด หรือ 0.06% สู่ 7,970.91, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดร่วงลง 3.93 จุด หรือ 0.1% สู่  
3,836.04 และดัชนี FTSEurofirst 300 ของหุ้นกลุ่มบลูชิพทั่วยุโรปปิดขยับขึ้น 0.09 จุด หรือ 0.01% สู่ 1,194.11 โดยจุดสูงสุดของวันพุธอยู่ใกล้กับจุดสูงสุดรอบ 4 ปีครึ่งที่ 1,197.73 ซึ่งทำไว้ในวันที่ 8 มี.ค.

ดัชนี Euro STOXX 50 ของหุ้นกลุ่มบลูชิพในยูโรโซนปิดตลาดร่วงลง 7.12 จุด หรือ 0.26% สู่ 2,704.73 อย่างไรก็ตามปัจจัยทางเทคนิคบ่งชี้ว่าดัชนีอาจจะกลับเข้าสู่ช่วงขาขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ดัชนี FTSE MIB ของตลาดหุ้นอิตาลีปิดตลาดดิ่งลง 278.64 จุด หรือ 1.74% สู่ 15,745.34 โดยได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ที่อ่อนแอในการเปิดประมูลพันธบัตรอิตาลีครั้งแรกนับตั้งแต่ฟิทช์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลี

นายโรลอฟ-ยาน แวน เดน แอคเคอร์ นักวิเคราะห์ของบริษัทไอเอ็นจี คอมเมอร์เชียล แบงกิงกล่าวว่า การปรับฐานระยะสั้นจะเกิดขึ้นเหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันที่ 2,675 และแนวรับที่ 2,666 และดัชนีน่าจะเริ่มทะยานขึ้นอีกครั้งจากแนวรับดังกล่าว โดยดัชนีอาจจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2,885 ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า

ขณะที่นายคริสเตียน สต็อกเคอร์ นักยุทธศาสตร์การลงทุนของธนาคารยูนิเครดิตกล่าวว่า ในช่วง 2-4 สัปดาห์ข้างหน้า ดัชนี DAX อาจจะขึ้นไปทำนิวไฮเหนือ 8,200

//www.kaohoon.com

Create Date : 14 มีนาคม 2556
Last Update : 14 มีนาคม 2556 8:53:48 น.		0 comments
Counter : 583 Pageviews.
Share Tweet