SET แผ่วปลาย! ฝรั่งซื้อหุ้นหนักกว่า 5 พันล้าน
โบรกมองแนวโน้มหุ้นสัปดาห์นี้เข้าสู่โหมดปรับฐานอีกครั้ง หลังหมดแรงหนุนของ Window Dressing ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ยังคงปรับตัวผันผวนจากที่เปิดบวกในช่วงเช้าขึ้นไปได้ถึง 1,468.74 จุด กลับมีแรงขายกด SET ย่อลงมาที่ 1,446.91 จุด และปิดตลาดบวกได้เพียงเล็กน้อยที่ 1,451.90 จุด เพิ่มขึ้น 5.45 จุด หรือ 0.38% และมีมูลค่าซื้อขายรวม 58,873 ล้านบาท -สถาบันในประเทศขายสุทธิ -3,072.15 ล้านบาท -บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ -499.40 ล้านบาท -นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 5,206.82 ล้านบาท -นักลงทุนทั่วไปในประเทศขายสุทธิ -1,635.27 ล้านบาท นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัท หลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด กล่าวในรายการหุ้นโค้งสุดท้ายว่า ดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มปรับฐาน เนื่องจากไม่มีแรงหนุนจาก Window Dressing เหมือนในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยให้จุดตัดขาดทุนที่ 1,430 / 1,420 จุด และให้แนวต้านที่ 1,470 / 1,480 จุด ซึ่งในสัปดาห์นี้น่าจะเห็นภาพการย่อตัวลงของ SET ในช่วงนี้นักลงทุนควรติดตามตัวเลขเศรษฐกิจทั้งของจีนและสหรัฐ เพราะจะมีผลต่อความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งจุดตัดขาดทุนที่ให้ไว้ถือเป็นจุดขายลดความเสี่ยง เพราะการปรับตัวลงของดัชนีในช่วงหลังนี้จะเห็นได้ว่าลงค่อนข้างแรง ซึ่งหากไม่ขายตัดขาดทุนออกไปอาจจะมีผลขาดทุนเกินกว่า 10% แต่ประเมินว่าดัชนีได้ลงไปทำจุดต่ำสุดแล้ว และในรอบนี้หากปรับตัวลงแรงก็ไม่น่าจะหลุดลงไปต่ำกว่าแนวรับ 1,350 จุด ส่วนกลยุทธ์ในช่วงนี้แนะนำให้สะสมหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการ Q2/56 จะออกมาดี โดยในสัปดาห์หน้าหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะเริ่มทยอยประกาศ Q2/56 ซึ่งฝ่ายวิจัยประเมินว่าผลประกอบการเทียบปีก่อนจะออกมาสูง แต่หากเทียบไตรมาส 1/56 จะทรงตัว และหุ้นที่น่าสนใจกลุ่มอื่นคือ กลุ่มการบิน กลุ่มขนส่ง รวมทั้งกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ยังรีบาวน์ไม่มากนักเมื่อเทียบกับการปรับตัวของ SET และหากประกาศ Q2/56 ออกมาดี เชื่อว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้น ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายเมื่อวันศูกร์ที่ผ่านมาที่ระดับ 1,451.90 จุด เพิ่มขึ้น 5.45 จุด(+0.38%) มูลค่าการซื้อขาย 58,915.73 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงบ่ายเมื่อวันศูกร์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,468.74 จุด และแตะจุดต่ำสุดของวันที่ระดับ 1,446.91 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงเมื่อวันศูกร์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 393 หลักทรัพย์ ลดลง 325 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 161 หลักทรัพย์ นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศูกร์ที่ผ่านมายังยืนอยู่ในแดนบวกได้ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ทั้งนี้มองว่าเป็นผลจากแรงซื้อ short term ที่เข้ามาหนุน เพราะคนยังไม่มั่นใจว่าตลาดฯจะขึ้นไปได้ต่อเนื่อง อีกทั้งคาดว่าอาจจะมีแรงหนุนจากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาเสริมด้วย เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติได้เริ่มกลับมาซื้อสุทธิบ้างแล้ว สำหรับช่วงเช้าที่ผ่านมาก็คงจะได้แรงหนุนจากการทำ Window Dressing บ้าง แต่ก็น่าจะเสร็จสิ้นไปแล้วในช่วงบ่าย ทำให้มีแรงขายทำกำไรระหว่างเทรดออกมา ทั้งนี้ ปัจจัยจากนอกประเทศในช่วงนี้คงจะไม่มีข่าวร้ายอะไรเข้ามา ดังนั้นเชื่อว่าตลาดฯคงจะเล่นไปตามทิศทางเศรษฐกิจ โดยสัปดาห์หน้าก็ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และจีน ด้วย แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์นี้ นายเจริญ กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสที่จะผันผวนได้อยู่ ซึ่งต่อไปก็คงจะต้องรอดูผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก และติดตามตัวเลขเศรษฐกิจด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,450-1,426-1,415 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,474-1,480 จุด นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยอยู่ในแดนบวก เนื่องจากแรงซื้อระยะสั้น ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติได้เริ่มกลับมาซื้อสุทธิบ้างแล้ว ส่วนปัจจัยจากนอกประเทศในช่วงนี้คงจะไม่มีปัจจัยใหม่ ต้องรอดูผลกำไรไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก และติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐและจีนด้วย สำหรับแนวรับดัชนีราคาหุ้นไทยอยู่ที่ 1,450-1,426-1,415 จุดตามลำดับ ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,474-1,480 จุด ดัชนีหุ้นวันที่ 28 มิ.ย.56 ปิดที่ 1,451.90 จุด เพิ่มขึ้น 5.45 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 58,915.73 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 5,206.82 ล้านบาท หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด INTUCH ปิด 87 บาท บวก 3.25 บาท, ADVANC ปิด 282 บาท บวก 1 บาท, BAY ปิด 35.50 บาท บวก 1.25 บาท, KBANK ปิด 191 บาท บวก 5 บาท และ KTB ปิด 20.30 บาท บวก 0.60 บาท บล.ทรีนีตี้ มองว่าการรีบาวด์ของตลาดในสัปดาห์นี้ถือเป็นจังหวะและโอกาสของการขายทำรอบมากกว่า เนื่องจากคาดการณ์การรีบาวด์ของตลาด ในรอบนี้จะไม่ยั่งยืน สำหรับจุดการเข้าซื้อที่น่าสนใจยังได้แก่จุดที่ทำให้ค่า Earning yield gap ของ SET Index ปรับตัวเข้าสู่ค่าเฉลี่ยอีกครั้ง โดยหุ้นกลุ่มที่แนะนำให้ Selective ยังคงเป็น กลุ่มเดิมได้แก่กลุ่ม Global recovery theme ซึ่งเป็นกลุ่มที่มี Downside risk ต่ำ หรือมีระดับ ในอดีต ได้แก่ PTT และกลุ่มสื่อสารที่มีอัตราเงินปันผลสูง ได้แก่ ADVANC และ INTUCH ขณะที่ยังแนะนำซื้อหุ้น TCAP ให้ราคาเป้าหมาย 54 บาท โดยคาดว่าผลการดำเนินงานปกติยังเติบโตได้ดี เสริมด้วยกำไรพิเศษ ด้าน บล.เกียรตินาคินมองแนวโน้มหุ้นไทยสัปดาห์หน้า หากตลาดต่างประเทศปรับขึ้น ดัชนีหุ้นไทยก็น่าจะปรับขึ้นตามได้ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิน้อยลงและกลับมาซื้อสุทธิมากขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น มีปัจจัยที่ต้องติดตามคือการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของต่างประเทศ และทิศทางของกระแสเงินทุนต่างชาติ แนะกลยุทธ์ลงทุน ให้นักลงทุนยังคงถือหุ้นต่อได้ ด้านเทคนิคประเมินแนวรับไว้ที่ 1,440-1,430 จุด ส่วนแนวต้านประเมินไว้ที่ 1,470-1,490 จุด บล.บัวหลวง ระบุว่า ตราบใดที่ดัชนีไม่หลุดแนวรับที่ 1,420 จุด โมเมนตั้มยังเล่นขึ้นต่อ ข่าวดีท้ายตลาด ลุ้นสมาชิกเฟดแถลงสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาด แนะกลยุทธ์เล่นรอบ ซื้อหุ้นภายในสัปดาห์นี้ เพื่อเล่นรีบาวด์ต่อเนื่อง ไปถึงต้นเดือน ก.ค. ด้านเทคนิคให้เป้าแนวต้านรายเดือนไว้ที่ 1,500 (+/-50) จุด แนะนำหุ้นเด่นด้วยแรงซื้อคืนจากต่างชาติ หนุนหุ้นแบงก์ เชียร์ BBL, KTB และ KBANK.
Create Date : 02 กรกฎาคม 2556 |
Last Update : 2 กรกฎาคม 2556 10:59:15 น. |
|
0 comments
|
Counter : 540 Pageviews. |
|
|
|
|
| |