เกรซ กาญจน์เกล้า รับเลิก ก้อง 2 เดือน เผยเสียใจแต่ไม่เสียดาย ชีวิตต้องไปต่อ เมินก้องโพสต์ไอจีกำกวม บอกอยากให้มองแง่บวก ลั่นไร้มือที่สามแน่นอน เลิกรากันไปแบบช็อกใจแฟนๆ อยู่ไม่น้อย สำหรับ เกรซ กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า กับ ก้อง กรุณ ซอโสตถิกุล โดยมีกระแสว่าฝ่ายชายเฮิร์ตหนักถึงขั้นไปเมากับผองเพื่อนแล้วหลุดปากเมาท์ว่าสาวเกรซแอบปันใจให้นักแสดงช่อง 7 และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสสัมภาษณ์เกรซ หลังเจ้าตัวมาถ่ายภาพนิ่ง Photo shoot สินค้าอาหารเสริม In White ซึ่งเป็นผลิตภันฑ์จากธุรกิจที่เกรซเป็นเจ้าของลงทุนลงแรงเองทุกอย่าง โดยมี จอร์จ ธาดา วาริช เป็นช่างภาพ เจ้าตัวยืนยันว่าเลิกรากันจริง แต่จบดี โบ้ยถามฝ่ายชายกับข่าวหลุดปากเมาท์ตน ลั่นไร้มือที่สาม ถ้านั่นเป็นส่วนของพี่ก้อง ให้พี่ก้องตอบเองดีกว่า แต่สำหรับตัวเกรซ ที่มีโอกาสได้คุยกับเขา เขาก็ชี้แจงว่า ไม่มีเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้น ด้วยนิสัยจริงๆ ของเขาและตอนนี้เขาเองก็ค่อนข้างทำงานหนักเลยไม่มีส่วนของการไปเมา อาละวาดอะไรในสถานที่สาธารณะอยู่แล้ว ส่วนเรื่องพระเอก 7 สี ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย เพราะเกรซเองก็ไม่ได้ถ่ายละคร งานช่องช่วงนี้ก็ไม่ได้ไป เพราะฉะนั้นมันค่อนข้างที่จะยาก และถ้าสมมติเป็นจริงๆ เกรซว่าสื่อต้องน่าจะจับได้แล้วว่าเป็นใคร อักษรย่อหรืออะไร แต่อันนี้มันไม่มี มันเป็นเรื่องแรนดอมขึ้นมา แต่เกรซเข้าใจเพราะถ้าข่าวเลิกกันดีๆ ก็ไม่มีใครสนใจ เกรซไม่ได้คุยกับใคร เกรซไม่มีสนิทกับใครเป็นพิเศษ ยกเว้นเป็นเพื่อนร่วมงานก็คือเพื่อนร่วมงาน" ยันเลิกกัน 2 เดือน สาเหตุที่เลิกเพราะทำงานหนัก เชื่อจบดี อีกฝ่ายโพสต์ไอจีอยากให้มองแง่บวก สาเหตุจริงๆ มีหลายปัจจัย ส่วนที่เกรซสามารถตอบได้คือส่วนของเวลาของตัวเกรซเองที่ค่อนข้างทำงานหนัก ในวัยนี้ก็มีอะไรที่ต้องรับผิดชอบเยอะ นอกจากงานในวงการหลักๆ ก็ที่บอกว่าเกรซหันมาทุ่มให้กับธุรกิจของตัวเองเต็มที่ ศึกษาและสัมมนาเรื่อง Anti-Aging และกำลังเขียนหนังสือด้วยเรื่องความสวยความงาม และเรื่องครอบครัวด้วย อาจจะต้องมีเวลาให้มากขึ้น เรื่องมือที่สามไม่มีแน่นอนค่ะ ก็ใช้คำว่าเลิกได้ค่ะ เลิกกันมา 2 เดือนแล้ว แต่คุยกันได้ เราจบกันด้วยดีค่ะ ก็มีคุยกันอยู่บ้าง ล่าสุดก็ที่ถามเรื่องข่าวนี่แหละค่ะ ความจริงแล้วการคบกันของคนปกติเป็นเรื่องทั่วไป และเกรซว่าการเลิกก็เป็นเรื่องธรรมชาติ เกรซว่าอย่าไปคิดมาก บางทีบางเรื่องก็ไม่ได้มีคำตอบอย่างที่เราต้องการและไม่สามารถทำให้คนอื่นเข้าใจ (บางกระแสบอกว่าก้องเฮิร์ต) เขาก็คงไม่ได้เฮิร์ตคนเดียวหรอกค่ะ ที่บอกว่าแสดงความรู้สึกในไอจี เกรซว่าไอจีเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ใครอยากจะแสดงอะไรก็แสดง เกรซขออยู่นิ่งๆ ดีกว่า ที่เขาโพสต์ว่าอันไหนที่มันจริงก็ไม่ต้องกังวล อันนั้นเป็นข้อความหลังจากที่เราสองคนได้คุยกันแล้ว อยากให้แปลเป็นในแง่บวกมากกว่า ซึ่งมันเป็นประโยคภาษาอังกฤษที่มันกำกวม แปลได้หลายเจตนามาก เกรซอยากให้มองในแง่ดี ไม่อยากให้มองในแง่ลบหรืออะไรยังไง เราอยากจบด้วยดี อย่าไปใส่สีตีไข่ว่าเขามากลั่นแกล้งเกรซ ซึ่งเรื่องนี้เกรซโอเคแน่นอนเพราะเขาบอกว่าเขาไม่มีทางที่จะทำ ไม่มีทางที่จะไปเมาในผับอย่างแน่นอน บอกเสียใจแต่ไม่เสียดาย ชีวิตต้องเดินต่อไป ตอนนี้ก็โอเคขึ้นค่ะ ถามว่าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นไหมก็เสียใจ เพียงแต่เราอาจจะไม่ได้จับมือไปด้วยกัน แต่เรายังเป็นพี่น้องที่ดีกันได้ค่ะ หันมายิ้มให้กันได้ เป็นการคุยทั้งสองฝ่ายค่ะ ไม่เสียดายค่ะ ไม่ได้ถึงขั้นเศร้าอะไรเพราะชีวิตก็ต้องเดินต่อไป เกรซต้องบอกว่าเกรซล้มไม่ได้เพราะว่ามีงานมีอะไรค่อนข้างเยอะ มีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบด้วย เกรซว่าเรื่องของความรักเป็นเรื่องของคนสองคนค่ะ สำหรับในส่วนครอบครัวพี่ก้องก็ยังน่ารักกับเกรซเหมือนเดิมค่ะ เป็นครอบครัวที่น่ารักมากๆ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เรื่องหลักๆ ที่ทำให้เลิก ในส่วนที่เราตอบได้คือเรื่องของเวลาค่ะเพราะเกรซเองก็ยุ่ง เกรซว่าเป็นเรื่องของคนสองคน เราก็ได้พยายามเต็มที่แล้วค่ะ บางกระแสบอกว่าพี่ก้องติดเที่ยว ก็อย่ามองอย่างนั้นเลยค่ะ เกรซไม่อยากไปพาดพิงถึงพี่ก้องในแง่ลบนะคะ ก็อยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยดีค่ะ ส่วนเรื่องแต่งงานเกรซว่าเป็นข่าวที่พี่ๆ เชียร์อัปกันเองมากกว่าค่ะว่าจะแต่งเมื่อไหร่ แต่ว่าส่วนตัวเราสองคนไม่เคยมีคุยเรื่องแต่งงานกันค่ะ ลั่นไม่ใช่คนติดแบรนด์เนม เจอเรื่องเสียใจแค่ไหนก็ล้มไม่ได้ ถ้าเห็นในไอจีนะคะ เกรซไม่มีแอร์เมสสักใบ ไม่มีนาฬิกาแพงๆ เพราะฉะนั้นไม่มีทางที่เรื่องพวกนั้นจะเกิดขึ้นนะคะ โอกาสรีเทิร์นขอให้เป็นเรื่องอนาคต เกรซไม่อยากคิดและตอบให้มีผลอะไรในอนาคตมากมาย ตอนนี้สบายใจที่จะอยู่อย่างนี้ อยู่กับงานสบายใจจริงๆ เพราะว่าเราไม่เป็นเจ้าของไงคะ พอวันหนึ่งเรามาเป็นเจ้าของเอง ทุกอย่างมันค่อนข้างซีเรียสจนสุขภาพก็ป่วยไปครั้งหนึ่งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรเสียใจแค่ไหนเกรซก็เสียใจมากไม่ได้ ได้แค่นั้นแล้วเดินต่อค่ะ ครอบครัวก็ให้กำลังใจตลอดค่ะ เพราะคุณพ่อคุณแม่รับรู้ถึงสถานการณ์ น้องๆ เพื่อนๆ ด้วย เขาก็บอกว่าเป็นเรื่องของอนาคต เป็นเรื่องของคนสองคนดีกว่า ครอบครัวก็ซีเรียสกับข่าวที่ออกมานะคะ ในจุดที่ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงที่บอกว่าอยากได้อะไรก็ถวายมาให้หมด มันไม่ใช่ค่ะ เกรซเป็นคนที่ใช้เงินของตัวเอง เราสองคนจะมีของแลกกันในเฉพาะโอกาสพิเศษเท่านั้น ยันไม่มีการฟ้องร้องแน่นอน ส่วนตนขอพักเรื่องหัวใจยาวๆ เกรซคงไม่ฟ้องค่ะ แต่ผู้ใหญ่ทางฝ่ายเกรซอาจจะรู้สึกว่าต้องมีการแสดงความรับผิดชอบนิดหนึ่ง แต่อาจจะไม่ทำอะไรถึงขั้นฟ้องให้เป็นเรื่องใหญ่โตค่ะ ก็ไม่ได้ติดต่อค่ะ ตอนแรกที่รู้ก็รู้สึกเสียใจมากกว่าว่าทำไมถึงมีข่าวนี้ทั้งทั้งที่เราเองไม่ได้เป็นคนแบบนั้นเลย ถ้าคนที่รู้จักเกรซจริงๆ ก็จะรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง หลังจากนี้พักเรื่องหัวใจเลยค่ะ พักเลย ที่บอกว่าไปบวชก็ไม่ได้ถึงขั้นไปบวชหรอกค่ะ ก็เป็นการไปปฏิบัติธรรมเพราะไปดูสถานที่ที่คุณพ่อจะบวชมากกว่า หลายคนก็จะมองว่าเฮิร์ต แต่ว่าเรื่องมันเกิดขึ้นมา 2 เดือนแล้วค่ะ ถ้าจะเฮิร์ตก็เฮิร์ตเรื่องข่าวมากกว่า แต่ไม่ได้เฮิร์ตถึงขนาดนั้น อาจจะรู้สึกแต่ก็ไม่อยากคิดมาก ยิ่งเราคิดมันยิ่งเป็นการทำร้ายตัวเองไปเรื่อยๆ ค่ะ ถามว่าหนักที่สุดที่เคยเจอไหมก็เคยมีเรื่องฉีดผิว แต่ฟ้องร้องและชนะไปแล้ว แต่นี่มันเป็นเรื่องของพี่ๆ น้องๆ กันเอง ซึ่งที่หลายคนมองว่าเราคบกันราบรื่นมาตลอด เกรซว่าทุกคู่มันก็มีปัญหาเหมือนกันหมด เพียงแต่ว่าเลือกที่จะบอกหรือไม่บอก กับปัญหาของเรามันเกิดขึ้นและสะสมมาเรื่อยๆ แต่ต้องบอกว่าไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่โตอะไร มันเป็นเรื่องของคนสองคนจริงๆ ตอนนี้โสดค่ะ |