เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

น้ำตาแทบเป็นสายเลือด “แตงโม” ด่าตัวเองโง่! ต่อให้ฆ่าตัวตาย “โตโน่” ไม่มีวันกลับมา

น้ำตาแทบเป็นสายเลือด “แตงโม” ด่าตัวเองโง่! ต่อให้ฆ่าตัวตาย “โตโน่” ไม่มีวันกลับมา
“แตงโม ภัทรธิดา” ร่ำไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด เผยสับสนชีวิตไร้ทางออก รับโง่มากกินยานอนหลับ - กรีดข้อมือ หวังฆ่าตัวตาย พ้อต่อให้ตาย “โตโน่” ไม่มีวันกลับมา อยากรู้ทุกวันนี้หย่ากันแล้วหรือไม่ ขอบคุณพระเจ้าสำหรับของขวัญที่ดีที่สุด ด้าน “พ่อโส” เผยนักร้องดังโทรศัพท์มาหาแต่ตนไม่รับสาย บอกเข้ามาก็ต้อนรับ เดินออกไปก็ไม่ใช่คนในครอบครัวอีก!

  จากกรณีที่นางเอกดัง “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” เกิดอารมณ์ชั่ววูบคิดสั้นกินยานอนหลับหวังฆ่าตัวตาย อีกทั้งยังกรีดข้อมือหวังฆ่าตัวตาย โชคดีที่เพื่อนสนิทนำตัวส่งโรงพยาบาล เกษมราษฎร์ ย่านประชาชื่น และล้างท้องได้ทันท่วงที โดยเพื่อนสนิทออกมาเผยว่าสาเหตุเกิดจากอดีตคนรัก “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ประกาศโสดบนเวทีคอนเสิร์ตเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ล่าสุด วันนี้ (7 กค.) สาวแตงโม พร้อม “พ่อโส โสภณ พัชรวีระพงษ์” และ “นพ.คมสัน อังคณานุพงศ์” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรม รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยตลอดระยะเวลาให้สัมภาษณ์ นางเอกสาวร่ำไห้อย่างน่าเวทนา

       หมอ : “ประเด็นสำคัญในขณะนี้ถือว่าน้องแตงโมอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย พ้นขีดอันตรายแล้วในทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นระดับสัญญาณชีพ ความดัน ชีพจร หรือการหายใจต่างๆ เป็นปกติ แต่จะมีประเด็นที่สำคัญอยู่ก็คือเนื่องจากตัวน้องแตงโมมีเรื่องของทางด้านจิตใจอยู่ ในเรื่องของการซึมเศร้า ที่ผ่านมาก็ได้รับการรักษาจากแพทย์ประจำตัวอยู่ ตอนนี้ที่สำคัญน้องอยู่ในระยะพักฟื้นและต้องการกำลังใจเป็นอย่างยิ่ง เป็นจุดที่เซ้นซีทีป อยากจะฝากทุกคนถ้ารักน้องโมก็ต้องช่วยกันดูแลทางด้านจิตใจเป็นหลัก อะไรที่ไม่ดีอาจจะต้องหลีกเลี่ยงไป”

       “ตอนที่เขามาระดับที่เห็นในห้องฉุกเฉิน ระดับการรู้ตัวค่อนข้างน้อยมาก อาจมาจากผลกระทบจากตัวยาในกลุ่มยาพวกนี้ ทำให้การรับรู้ตัวน้อยลง ยาในกลุ่มนี้เป็นยาในกลุ่มของยานอนหลับ ถ้าได้รับในปริมาณที่เกินไปการรับรู้จะน้อยลง ที่น่ากลัวอย่างคือเรื่องของตัวยาไปกดการหายใจ มันอันตรายสำหรับผู้ป่วยซึ่งอาจทำให้เกิดการเสียชีวิตได้ ปริมาณยาในประวัติที่น้องทานเข้าไปก็ประมาณ 10 เม็ด ซึ่งถือว่าถ้าทานไปในทีเดียวก็ค่อนข้างอยู่ในปริมาณมากอยู่ ที่เจอครั้งแรกคนไข้ระดับการรู้สึกตัวน้อยมาก ไม่สามารถตอบสนองกับคนทั่วไปได้ ยาในกลุ่มนี้ถ้ากดการหายใจคนไข้หายใจไม่ได้ก็จะเสียชีวิตด้วยสาเหตุขาดอากาศไป”

       แตงโม : “ก่อนอื่นต้องขอประทานโทษโรงพยาบาลประเด็นที่มีรูปของหนูเองหลุดออกไปจากเพื่อนสนิทหนู ขอโทษโรงพยาบาลและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยปกติไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการรักษาภายในโรงพยาบาลเองไม่สามารถแพร่ภาพออกไปได้ต้องขอโทษแทนเพื่อนสนิทโมด้วย ด้วยตัวโมเองตอนนั้นที่เข้ามาไม่ได้รู้สึกตัวแล้ว มันมีเรื่องของการมีภาพหลุดออกไปแล้วก็เรื่องในอินสตาแกรม ก็เพิ่งมาทราบเอาทีหลังเลยให้เพื่อนลบทิ้งแล้ว เพราะอาจจะเกิดผลเสียต่อโรงพยาบาล มันเป็นความลับของคนไข้ ก็กราบขอโทษทางโรงพยาบาลด้วย ในส่วนเหตุผลของเพื่อนหนูเป็นช่วงที่เขาก็ทนรับทนเห็นหนูในสภาพนั้นไม่ไหวเหมือนกัน เขาอยากจะให้ได้เห็นในอีกมุมหนึ่ง มุมที่หนูอ่อนแอมากมันก็มี ส่วนเรื่องของตัวหนูเอง หนูมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว การที่ได้รับคำพูดหรือเหตุการณ์สถานการณ์ในชีวิตต่างๆ ในช่วงนี้มันก็ค่อนข้างที่จะหนักมาก ภายนอกดูเหมือนจะรับไหว ดูเหมือนจะแข็งแรง แต่ว่า…ข้างในคืออ่อนแอมาก หนูเองไม่ค่อยได้เล่าให้ใครฟังมาก แม้แต่พ่อ ก็ไม่อยากให้ท่านเครียดไปด้วย ก็จะเก็บเอาไว้คนเดียวตลอดเวลา มันก็เลยมีวินาทีที่ขาดความยั้งคิดไปบ้าง มีอารมณ์ชั่ววูบไปบ้าง ณ ตอนนั้นพูดตามตรงเลย ด้วยความน้อยใจหลายๆ อย่างมันทำให้หนูขาดสติ คิดว่าไม่อยากจะอยู่รับกับอะไรหลายๆเรื่อง”

       เผย “โตโน่” ออกจากบ้านและไม่เคยกลับมา ส่วนตนไลน์หาอีกฝ่ายไม่เคยตอบนานร่วม 2 เดือนแล้ว
       “จากที่ทุกคนสันนิษฐานว่าเป็นคำพูดของคุณโตโน่ในคอนเสิร์ต อันนั้นมันเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ตลอดเวลาที่เราห่างกันช่วงนั้นเป็นอะไรที่คลุมเครือ ก่อนที่เราจะห่างกัน มันเป็นปัญหาชีวิตคู่ที่เราไม่เข้าใจกัน เราพยายามปรับเข้าหารกัน แล้วเราเข้ากันไม่ได้คุณโตโน่ตัดสินใจแยกออกจากบ้านไป หลังจากออกจากบ้านแต่ก็ยังมีการติดต่อกันอยู่ตลอดเวลา ข้าวของในบ้านทุกอย่างก็ยังวางอยู่เหมือนเดิม แล้วหนูต้องอยู่ในที่เดิมๆ การที่เราต้องนอนคนเดียว จากที่เรานอนอยู่ด้วยกัน เคยมีคนปรับทุกข์ด้วยเคยมีกำลังใจ ตั้งแต่มีข่าวบอกว่าห่างกันหนูพยายามที่ติดต่อไปให้กำลังใจเขา เพราะรู้ว่าเขามีงานใหญ่ ไม่ว่าขึ้นคอนเสิร์ตหรือถ่ายละครต่างๆ แต่ว่าในส่วนของตัวหนูมันขึ้นอยู่กับสภาพและจิตใจของหนูที่ต้องทำงานหนักไม่แพ้กัน มันค่อนข้างหนักสำหรับชีวิตหนู หนูเป็นคนที่ตกลงแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง แล้วชีวิตครอบครัวมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด หนูว่าคนที่ทุ่มเทกับความรักมากๆ คนที่บูชาความรักมากๆ มีเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดการผิดหวัง เพราะว่าตลอดเวลาที่เขาหายไปเขาไม่เคยกลับมาอีกเลย เวลาที่หนูส่งอะไรไปมีการอ่านแต่ไม่มีการตอบ เป็นแบบนี้ 2 เดือน”

       “แต่ทุกครั้งที่ให้สัมภาษณ์เราห่างกันแต่ไม่เคยมีใครออกมาพูดคำว่าหย่าร้างเลย หนูไม่รู้จะทำตัวอย่างไร หนูจะตัดสินใจอย่างไร ในชีวิตคริสเตียนผู้หญิงคนหนึ่งแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่งแล้วได้มอบชีวิตคู่ให้กับพระเจ้าผู้นำทาง เมื่อเกิดการหย่าร้างกันผู้หญิงไม่สามารถแต่งงานใหม่ได้ หนูยึดถือในคำพูดนี้และไม่คิดมีใครใหม่ ผิดที่หนูเองตั้งความหวังว่าเขาจะเชื่อเหมือนกันกับเราว่าเราจะกลับมาเป็นครอบครัวเหมือนเดิมได้อีก ทางบ้านหนูเจอปัญหาอะไรหลายๆ อย่าง ที่บ้านหนูหันไปทางไหนก็มีแต่ปัญหา โดยที่หนูไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใครเหมือนเมื่อก่อนที่มีคนคอยปรับทุกข์ด้วย หรือมีเพื่อนมีพระเจ้าที่ควรจะพึ่งพาเขา ควรจะรักตัวเอง ควรจะเป็นแบบอย่างที่ดีกว่านี้ แต่ ณ เวลานั้นหนูไม่คิดถึงบุคคลเหล่านั้นเลย ลืมว่ายังมีคนที่รักเราอีกมากมาย คนที่เจ็บที่สุดก็คือพระเจ้ากับพ่อหนู หนูเชื่อว่าทุกคนที่คิดสั้นไม่คิดว่าตัวเองจะฟื้นขึ้นมาอีก หนูขอโทษทุกคนที่ทำให้ผิดหวัง ขอโทษผู้ใหญ่ที่หนูทำงานด้วย และอาจจะมีผลกระทบกับเขา และขอโทษพ่อ(กอดพ่อร้องไห้) หนูไม่ได้ตั้งใจ”

       พ่อเผยนักร้องดังโทรศัพท์มาหาแต่ตนไม่รับสาย บอกไม่มีอะไรจะคุยเพราะเดินออกไปไม่ใช่คนในครอบครัวอีกแล้ว
       พ่อ : “ในชีวิตครอบครัวเรามีกันอยู่แค่ 2คนตั้งแต่เล็ก ความรู้สึกตอนนี้มันเหมือนกับตอนที่เขาประสบอุบัติเหตุที่เกือบจะเสียเขาไป รู้สึกตกใจมาก (โตโน่ติดต่อมาบ้างไหม) เมื่อคืนเขาโทร.มาหาพ่อแต่พ่อไม่รับสาย คือพ่อไม่รับสายเขามานานแล้ว ไม่ใช่เพราะโกรธแต่เมื่อมีคนเข้ามา พ่อก็ต้อนรับ เมื่อเขาออกไปเขาก็ไม่ใช่คนในครอบครัว พ่อไม่มีอะไรจะคุย เราไม่เป็นอะไรกันจึงไม่มีอะไรจะคุย ถ้าตอนนี้จะมาคุยกับพ่อ ถ้ามาก็คุย”

       แตงโม : “ตอนนี้ยังไม่กล้าพูดอะไรสภาพจิตใจหนูตอนนี้ยังสับสนในหลายๆ อย่าง ในความเป็นจริงหนูควรที่จะตัดใจ หนูบอกไม่ได้ว่าจะทำได้หรือเปล่า(ร้องไห้)”

       พ่อ : “เพื่อไม่ให้เข้าใจผิด จริงๆ เมื่อคืนโตโน่โทร.หาผม แต่ผมไม่รับสาย ครอบคัวครัวเรามีกันอยู่สองคน ถ้ามีคนเข้ามา ผมก็ต้อนรับเขา ถ้าเขาออกไปเขาก็เป็นคนอื่น แต่ไม่ได้เป็นอะไร ถามว่าโกรธโตโน่ไหมคงไม่โกรธแต่ไม่รู้จะพูดอะไร”

       แตงโม : “ตอนที่เราเคลียร์กันก่อนหน้าที่จะหายไปนานครั้งนี้ คุณพ่อเคยบอกเขาว่าขอบคุณเขาที่โตโน่ทำหน้าที่ของเขา ที่ดูแลหนูเวลาที่หนูไม่มีใคร ช่วงเวลาที่หนูไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว หนูก็ขอบคุณเขาที่ครั้งหนึ่งหนูเป็นโรคซึมเศร้า เขาดูแลหนู นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หนูคิดจะฆ่าตัวตาย ไม่ว่าจะตอนคบกัน หนูก็โดนด่า พอบอกห่างก็โดน บางครั้งหนูเหมือนตกเป็นจำเลยของสังคมไปโดยปริยาย มีครั้งหนึ่ง หนูพยายามกลับมาปรับความเข้าใจกัน และหนูขอที่จะสู้ปัญหาชีวิตไปกับเขา และหนูขอโทษเขาที่ทำผิดไป ที่ไม่เข้าใจกัน และหนูก็ได้ก้มลงกราบแม่น้อย สุดลมโชย ซึ่งแม่น้อยบอกให้หนูเจริญๆ มันเหมือนเป็นสัญญาณการจากลาบางอย่าง หนูกราบที่ตักโตโน่ เขาก็บอกให้หนูเดินตามทางพระเจ้าอย่างที่หนูตั้งใจไว้ แต่ทุกครั้งที่เขาให้ข่าวก็ไม่เคยพูดว่าหย่า ของเขาก็อยู่ที่เดิม หนูก็ไม่รู้ว่าคำตอบมันคออะไร คำตอบคืออะไรเราเลิกกันแล้วหรือยัง หนูสับสน”

       “เรื่องง้อหนูทำทุกวิถีทางแล้วจริงๆ เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตคู่ที่ต้องผ่านช่วงมรสุมหนัก แต่ช่วงนี้ไม่ได้หนักเหมือนช่วงแรก แต่หนูพยายามบอกเขานะว่าหนูพร้อมที่จะเดินไปข้างหน้ากับเขา หนูทำวิถีทางเพราะหนูยังรักเขาเหมือนเดิม ตอนนี้ก็ยังรัก ถามว่าประสบการณ์ชีวิตคู่น้อยไปไหม หนูยอมรับ แต่ถามว่าหนูจะเอาประสบการณ์มาจากไหน ในเมื่อเราต้องแต่งงานแค่ครั้งเดียว”

       “หนูขอบคุณคนรอบข้างมากๆ ที่เข้าใจและไม่ซ้ำเติม อย่างที่หนูบอก คนคิดสั้นไม่มีใครคิดว่าตัวเองจะฟื้นขึ้นมาอีก ส่วนคนรอบข้างก็ต้องพูดอยู่แล้วว่าอย่าให้หนูทำอย่างนี้อีกและ หนูเองก็จะพยายามประคับประคองให้อาการของหนูไม่ให้อ่อนแอ ตัวหนูเองถ้าหนูอยู่ในสภาวะปกติ หรือไม่มีที่คำพูดที่รุนแรงจากคนที่หนูรักมากจนตายแทนได้อย่างที่เคยพูดไปหลายครั้ง ถ้าไม่มีเรื่องกระทบกระเทือนใจจากคนที่หนูรักเหมือนหัวใจ หนูจะไม่มีทางเป็นแบบนี้ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ทุกสิ่งที่เคยปรากฏอยู่บนโลกโซเชียล หลายๆ คำที่หนูเคยให้คำสัญญา หนูก็ยังทำมันอยู่ ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไรก็ตามแต่หนูเลือกแล้ว หนูตัดสินใจทำลงไปแล้ว หนูไม่เคยเสียใจ”

       “ส่วนแผลที่ข้อมือนี่หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน หนูไม่รู้ตัว หลังจากที่ทานยาเข้าไปหนูก็ไม่รู้ตัวเลย ตั้งแต่คุณหมอทำแผลให้หนูก็ไม่รู้เลย แต่มันเป็นแผลตื้นๆ”

       บอกจะเข้มแข็งอยู่บนโลกนี้ให้ได้ พร้อมให้อภัยคำเหยียบย่ำ สมน้ำหน้า ร่ำไห้ไม่อยากให้เกลียดโตโน่
       แตงโม : “ตอนนี้กำลังเป็นปัญหามากมายเกี่ยวกับโซเชียลกันเยอะมากๆ หนูเล่นไอจีแค่อย่างเดียว หนูไม่เคยเล่นเฟซบุ๊ก ไอจีที่หนูเล่นคือไอจีไพรเวตกับไอจีที่เขียนว่าเมโลนี่ฟอร์แฟนเท่านั้น ซึ่งไม่มีการอัปเดตอะไรทั้งนั้นแล้ว นอกนั้นปลอมหมด ที่เป็นภาพตอบไอจีโม อมีนาหนูตอบค่ะ ตอบพี่ฟองเบียร์หนูตอบค่ะ พี่อ้วนหนูตอบเองค่ะ”

       “หนูต้องยอมรับความจริงทั้งสองด้าน ใครให้กำลังใจหนูก็ขอบคุณ หนูพอทราบอยู่แล้วว่าหนูเคยคบอยู่กับใครแล้วจะมีเอฟเฟ็กต์ยังไงไม่ว่าจะเรื่องดีหรืออะไรก็ตาม อยากจะให้คิดว่าถ้าไม่เกิดกับตัวก็คงไม่รู้ ใครไม่เป็นก็คงไม่รู้ว่าคนที่อ่อนแอมากๆ แต่พยายามที่จะเข็มแข็งอยู่บนโลกใบนี้ให้ได้ทุกวัน มันเป็นยังไงสำหรับคำด่า คำสมน้ำหน้า คำเหยียบย่ำ หนูยอมรับไว้ทั้งหมด หนูให้อภัยทั้งหมด บางคนที่ต่อว่าโตโน่ อย่าไปต่อว่าโตโน่เลย(ร้องไห้โฮ)มันไม่ใช่ความผิดของเขา ถ้าหนูแข็งแรงพอมันคงไม่มีวันนี้ โตโน่ยังมีความฝันที่ต้องทำหลายอย่าง ใครที่ให้กำลังใจหนูก็ขอให้ให้กำลังใจโน่เขาด้วย เขาเป็นคนที่หนูรัก รักมาก(เน้นเสียง)เพราะฉะนั้นหนูอยากให้สนับสนุนเขา ให้เขาได้มีที่ยืนต่อไป หนูโอเคหนูมีวิธีที่จะไม่เสพสิ่งเหล่านั้น”

       อุบตอบเป็นฝ่ายไล่โตโน่ออกจากบ้าน บอกตนมีส่วนผิดแต่ไม่ขอลงลึกรายละเอียด ไม่เคยเสียใจที่รักโตโน่ ขอบคุณพระเจ้าส่งของขวัญที่ดีที่สุดมาให้
       “โน่เดินออกไปโดยมีสาเหตุที่โน่ไม่พอใจหนู หนูมีส่วนผิด หนูไม่ขอลงรายละเอียด อย่างที่บอกชีวิตคู่ถ้าเราจะแพ้เราก็แพ้ทั้งคู่ ถ้าเราจะผิด ผิดมากผิดน้อยเราก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ คู่หนูไม่ได้มีประสิทธิภาพเหนือคนอื่น คู่หนูมีเรื่องไม่ดีหลายอย่างเรื่องที่ไม่เข้าใจกันหลายอย่าง แต่โน่ก็เป็นคนที่เดินออกไป”

       “หนูไม่เคยเสียใจเลยค่ะ หนูภูมิใจมากที่สุด อย่างที่เคยพูดว่าพระเจ้าส่งเขามาเป็นของขวัญให้หนู ไม่งั้นหนูคงไม่มีชื่อเขาอยู่บนเรืองร่างถูกไหมค่ะ หนูพร้อมที่จะรับกับคำตอบของเขาทุกอย่าง หนูได้พิมพ์บอกเขาคร่าวๆ ไปแล้ว ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่ผ่านมา หนูทำอะไรผิดไปหนูขอโทษแล้วก็ขอบคุณที่เขามาในชีวิตหนูแล้วทำให้ชีวิตหนูมีคุณค่า มีความหมายขึ้นมาก ขอเป็นกำลังใจให้เขาต่อไป หนูรู้ว่าความฝันเขาคืออะไร มันมีหลายเรื่องที่หนูรู้แต่ไม่สามารถที่จะพูดได้ มันค่อนข้างขัดแย้งกับภาพที่เป็นอยู่ ก็ยังรักและสนับสนุนเขา ยังไม่ได้แต่งงานถามว่าทำไมถึงใช้คำว่าหย่าเราก็อยู่กินกันฉันท์สามีภรรยา ทุกอย่างในพิธีคือการแต่งงานทั้งหมด”

       หมอ : “เรื่องร่างกายยังอยู่ในภาวะอ่อนแอต้องการการพักฟื้น อีกสัก 1-2 วัน ในแง่ของตัวยาที่น้องทานไปไม่มีปัญหาอะไรก็จะถูกขับทิ้งไป แต่ที่สำคัญคือโรคเดิมที่น้องเขาเป็นอยู่เป็นโรคที่ต้องดูแลอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด ตัวโรคจะเซ้นซีทีปกับอะไรที่เข้ามาใกล้ จะเป็นคำพูดหรืออะไรหลายๆ อย่างที่เข้ามา สื่อโซเชียลมันเสพง่ายและได้ยินง่าย ถ้ารักกันจริงก็ต้องบอกนิดหนึ่ง อาจจะปรามๆ กัน ไม่มีเสียเลยก็จะดี หลักๆ คนไข้ต้องการคนดูแลจากคนที่เข้าใจ”

       แตงโม : “หนูพยายามที่จะแข็งแรงออกไปทำงานให้ได้เหมือนเดิมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”

       หมอ : “เรื่องภาพถ่ายคนไข้ทางโรงพยาบาลของเรามีนโยบายอยู่แล้วห้ามถ่ายภาพโดยเฉพาะภาพเคลื่อนไหว แต่เราเองก็ไม่สามารถดูแลได้ทุกมุมทุกจังหวะ เพราะเราต้องถือดูแลคนไข้เป็นหลักก่อน เราไม่ได้ใส่ใจว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง ถ้าถ่ายตรงๆ เราต้องห้าม แต่บอกตรงๆ ว่าทางโรงพยาบาลก็ไม่เห็น ถ้าเห็นเราจะต้องขออนุญาตไม่ให้ถ่ายอยู่แล้ว”

       “บอกตรงๆ เราไม่มีนโยบายให้ถ่ายแม้จะเกิดอะไรขึ้นก็ตามแต่ ในสถานที่ต่างๆ ในโรงพยาบาลเราจะมีป้ายติดไว้ห้ามถ่ายรูป ในภาพอยู่ในที่ฉุกเฉิน ก็ยังถ่ายไม่ได้ มันถ่ายไม่ได้ทุกจุด อย่างที่บอกเราต้องดูแลคนไข้เป็นหลัก ตอนนั้นเราอาจจะตื่นเต้น ต่อไปก็จะต้องระวังขึ้น ปกติเราจะมีกล้องวงจรปิด ถ้าถ่ายกันจะจะเราต้องห้ามอยู่แล้ว บางครั้งเดี๋ยวนี้เทคนิคเยอะ แอบซ้อนถ่ายก็มี ที่เขาเข้าห้องฉุกเฉินได้ในตอนนั้นเขาคือญาติสนิท เราต้องอาศัยเขาในการซักประวัติ ข้อมูลต่างๆ ของคนไข้”

       เผยใช้คำว่าหมั้นไม่ใช่แต่งงานเพราะรักษาจิตใจแฟนคลับโตโน่
       “ที่ไม่จดทะเบียนเพราะเป็นเรื่องความยุ่งยากในเอกสารต้องทำใหม่ทั้งหมด เลยไม่เร่งรีบที่จะต้องจดทะเบียน ก่อนหน้านั้นที่เราใช้คำว่าหมั้นเพราะว่าต้องรักษาสภาพจิตใจคนฟังเหมือนกันเพราะถ้าคนอย่างโตโน่ เดอะสตาร์แต่งงานมันเป็นการกระทบกระเทือนจิตใจคนอื่นค่อนข้างมาก เราก็เลี่ยงโดยการใช้เป็นคำว่าหมั้นแต่โดยพิธีแล้วมันคือการแต่งงาน”

       “ข้าวของทุกอย่างยังวางไว้เหมือนเดิมค่ะ เพราะหนูก็คงทำใจไม่ได้เหมือนกันถ้าจะไม่มีแล้ว ถ้าได้กลับบ้านไปก็คงให้เพื่อนมาอยู่เป็นเพื่อน ให้พูดตามตรงหนูก็รับไม่ได้ถ้าข้าวของเขาจะ…แต่คงต้องลองดูอีกที”

       บอกโรคซึมเศร้าต้องใช้เวลารักษา สาเหตุปัญหาแท้จริงอยู่หลังไมค์ไม่เกี่ยวกับอีกฝ่ายบอกโสดบนเวทีคอนเสิร์ต
       แตงโม : “หนูรับการรักษามาเป็นสิบปีแล้ว”

       หมอ : “อยู่ที่สภาวะความรุนแรงต้องให้แพทย์ที่รักษาเป็นผู้พิจารณาว่าอาการเขาขั้นไหน อาการเขาไม่รุนแรงครับ ช่วงที่ผ่านมาน้องทำงานต่างๆ ได้ดีมาก เหมือนคนปกติ”

       แตงโม : “โรคนี้ต้องใช้เวลาในการรักษาเป็นเวลานานมันต้องมีระยะการผ่อนยาลง จริงๆ มันไม่ใช่แค่ยาอย่างเดียว ช่วงที่หนูใกล้ชิดพระเจ้าหนูจะเป็นปกติมาก บางช่วงที่หนูน้อยใจหนูทอดทิ้งพระเจ้าอย่างที่ไม่ควรทำ เลยเกิดอาการแบบนี้ขึ้น สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจก็สำคัญ เลยพูดได้ว่าโตโน่มีส่วนทำให้หนูหายจากโรคนี้ พอมีปัญหากันมันก็แย่ลง แต่ไม่ใช่ว่าโทษเขา หนูที่จะต้องแข็งแรงขึ้นคือตัวหนูเอง หนูควรมีจุดศูนย์กลางที่เป็นคุณพ่อหรือพระเจ้า ควรจะเป็นสิ่งต่างๆ ที่สำคัญแต่หนูให้ความสำคัญกับความรักและโตโน่ รักเกินรักอ่ะค่ะ”

       “ปัญหามือที่สามไม่มีค่ะ หลักมันเป็นปัญหาของเรา ต่างคนต่างน้อยใจกันเอง สิ่งที่ทำร้ายจิตใจหนูไม่ใช่สิ่งที่เขาพูดบนเวที หรือในรายการอะไรเลย แต่เป็นจากสิ่งที่เราไลน์ไปสถานภาพที่เราเคยเคลียร์กัน มันเป็นเรื่องคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ เป็นเรื่องหลังไมค์มากกว่า คนจะเข้าใจผิดบนเวที แต่มันมีส่วนเพราะทุกครั้งที่เราออกมาให้สัมภาษณ์เราไม่ได้ใช้คำว่าหย่า ตัวหนูเองก็ไม่เคยบอกว่าหนูโสด ส่วนเสื้อตัวนั้นของโตโน่อยู่ที่บ้าน อย่างที่เคยบอกของของโน่ยังอยู่ที่บ้านเราใช้ข้าวของร่วมกัน”

       ย้ำอย่าทำพฤติกรรมเหมือนตนเพราะโง่มาก ต่อให้ฆ่าตัวตายอีกฝ่ายก็ไม่มีวันกลับมา
       “ถามว่าเราได้บทเรียนอะไรบ้าง ก็อย่าทำแบบหนูเลย เพราะว่าฟื้นมามันจะแย่กว่าเดิม(หัวเราะ) จริงๆ มันเป็นสิ่งที่บาปมาก บาปที่สุดของบาป คนหลายคนที่ให้เราเป็นตัวอย่าง ถ้าฟื้นขึ้นมาแล้วสติไม่ได้กลับมาเร็วเหมือนโมอาจจะเสียคนไปเลยก็ได้เพราะเราไม่รู้เอฟเฟ็กต์ของยาจะเป็นอย่างไรบ้าง โมขอบคุณพระเจ้าที่ช่วยชีวิตโมและสติโมกลับคืนมา และมีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป พอโมฟื้นขึ้นมาแล้วมีคนมาเล่าให้ฟังว่ามีชีวิตอีกหลายคนแย่กว่าโมอีกแต่เขาก็ยังสู้อยู่ สิ่งที่โมทำเป็นอะไรที่โง่มากจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าหนูโง่อะไรได้ขนาดนั้น แต่ก็เนอะไม่เป็นเองคงไม่รู้สึก ห้ามทำสิ่งที่โมทำนะคะเพราะมันไม่ใช่แค่ฆ่าเราเองแต่มันฆ่าคนรอบข้างที่เขารักเรา ฆ่าตัวเองไปถามว่าเขาไม่รักแล้วกลับมาไหมเขาก็ไม่กลับมาหรอก ทุกครั้งที่มีสติแล้วมองกลับไปเสียใจมากทุกครั้งเลยค่ะ(เน้นเสียง)หนูจำไม่ได้จริงๆ ว่าทำไมหนูถึงทำแบบนั้น มันแค่อารมณ์ชั่ววูบจริงๆ”

       หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่าให้คำสัญญาอะไรคุณพ่อหรือเปล่า ทั้งแตงโมและพ่อโสกอดกัน โดยเฉพาะแตงโมร้องไห้หนัก ก่อนพ่อจะเผยว่า “เรารักกัน ขอบคุณทุกคนมากที่รักน้องโม”


//manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9580000076795



Create Date : 07 กรกฎาคม 2558
Last Update : 7 กรกฎาคม 2558 21:15:35 น. 0 comments
Counter : 1211 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]