Group Blog All Blog
|
เอลิซาเบธที่ 2 แน่วในปณิธาน ELIZABETH II: The Steadfast เอลิซาเบธที่ 2 แน่วในปณิธาน
ELIZABETH II: The Steadfast ผู้เขียน : Douglas Hurd ผู้แปล : ธงทอง จันทรางศุ และ นรชิต สิงหเสนี ISBN 978-616-7982-12-0 ฉบับปก สำนักพิมพ์โอเพ่นโซไซตี้. 2559. จำนวน 224 หน้า ราคา 265 บาท
--------------------------------------------------------------------------------- ในที่สุดแล้ว ด้วยวิถีประชาธิปไตย สถาบันพระมหากษัตริย์จะธำรงอยู่ได้ก็ด้วยความภักดีของประชาชน คำว่า ภักดี นี้อาจมีความหมายได้หลายนัย แล้วแต่สถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง เราสามารถที่จะภักดีต่อพ่อแม่ของเรา ต่อพี่สาวน้องสาวของเรา ต่อลูกจ้างของเรา และต่อเพื่อนของเรา ความภักดีที่เชื่อมโยงระหว่างเรากับสถาบันพระมหากษัตริย์มีลักษณะเฉพาะ เพราะไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความสัมพันธ์เชิงครอบครัว หรือเชิงวัตถุแต่อย่างใด - เอลิซาเบธที่ 2 แน่วในปณิธาน ---------------------------------------------------------------------------------
ในบรรดาสถาบันพระมหากษัตริย์ทั่วโลก ราชวงศ์อังกฤษน่าจะเป็นหนึ่งในราชวงศ์ที่ยืนยงมานานท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกและยุโรป เพราะในขณะที่สถาบันพระมหากษัตริย์ในดินแดนเก่าแก่ทั่วยุโรปล่มสลาย อังกฤษเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศ ที่สามารถดำรงสถานะพระมหากษัตริย์ให้คงเป็นประมุขสูงสุดของประเทศเอาไว้ได้ แม้ว่าพระราชอำนาจที่เคยมีมาแต่โบราณจะสูญสิ้น จนเหลือเพียงการเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศที่มีอารยธรรมมาอย่างยาวนาน แต่ถึงอย่างนั้น คุณค่าของการเป็น พระราชวงศ์ ซึ่งมีความพิเศษต่างจากความเป็นสามัญชน กลับยังเป็นศูนย์รวมจิตใจอันสำคัญของประชาชนชาวอังกฤษเรื่อยมา ผมสนใจเรื่องราวของราชวงศ์อังกฤษ ไม่น้อยไปกว่าราชวงศ์ไทยและเอเชียอื่น ๆ และที่สนใจยิ่งกว่าประวัติศาสตร์การเมืองการปกครอง ก็คือพระราชประวัติส่วนพระองค์ของเชื้อพระวงศ์ทั้งหลาย หนึ่งในนั้นคือ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ผู้ซึ่งปกครองอังกฤษมานานกว่าหกทศวรรษ หนังสือ เอลิซาเบธที่ 2 แน่วในปณิธาน (ELIZABETH II: The Steadfast) ของ ดักลาส เฮิร์ด ถ่ายทอดเรื่องราวของพระองค์ผ่านมุมมองของอดีตนักการเมืองสังกัดพรรคอนุรักษ์นิยม และรัฐมนตรีคนสำคัญในหลายกระทรวง ซึ่งนำเสนอพระราชประวัติและพระราชจริยวัตร ที่ผู้เขียนได้รับรู้ ได้สัมผัสมาด้วยตนเอง สิ่งแรกที่รู้สึกได้ตลอดการอ่านหนังสือเล่มนี้ คือ ผู้เขียนเป็นข้าราชบริพารที่รักและภักดีต่อสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธอย่างยิ่ง
พระเจ้าจอร์จที่ 6 พระราชินีเอลิซาเบธ และพระราชธิดาทั้งสองพระองค์ เจ้าฟ้าหญิงเอลิซาเบธ และ เจ้าฟ้าหญิงมาร์กาเรต (พระขนิษฐา) เนื้อหาในหนังสือ เริ่มต้นเล่าถึงพระชะตาอันพลิกผันของพระเจ้าจอร์จที่ 6 ที่ต้องขึ้นครองราชบัลลังก์อังกฤษแทนพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 ผู้เป็นพระเชษฐา ทำให้เจ้าหญิงน้อยเอลิซาเบธ หรือ ลิลิเบท ต้องกลายเป็นเจ้าหญิงรัชทายาทโดยปริยาย แล้วชีวิตอันแสนเรียบง่ายของพระองค์ก็เปลี่ยนไป จนกระทั่งถึงคราวสวมมงกุฎขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระราชินีนาถสืบต่อจากพระราชชนก
เจ้าฟ้าหญิงเอลิซาเบธ ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ เรื่องราวในหนังสือ ผู้เขียนหยิบยกเหตุการณ์สำคัญ ๆ มากมายอันเกี่ยวเนื่องกับสมเด็จพระราชินีนาถมาเล่าร้อยเรียงกัน แบ่งความสำคัญเป็นบท ๆ เข้าใจง่าย แม้ว่าจะมีการเล่าสลับช่วงเวลากันบ้าง จนเกิดเป็นภาพรวมของรัชสมัยที่น่าสนใจ ผมคิดว่า ประเด็นสำคัญที่ผู้เขียนอยากนำเสนอ คือ ภายใต้ความเปลี่ยนแปลงของโลกสมัยใหม่ และความท้าทายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมากมายตลอดรัชสมัย สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงดำรงพระองค์เช่นไร และแน่วแน่ในปณิธานอย่างไร จึงผ่านพ้นทุกช่วงเวลามาได้ จนกระทั่งผู้เขียนกล่าวสรุปในทำนองว่า ในยุคสมัยของพระองค์ ระบอบกษัตริย์ในฐานะที่เป็นสถาบัน ได้หยั่งรากลึกลงอย่างมั่นคงแล้วบนแผ่นดินอังกฤษผืนนี้
พระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ.1953 สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ การได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ทำให้เราเข้าใจได้เลยว่า การเป็นพระมหากษัตริย์ในยุคสมัยปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ยิ่งการเป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญด้วยแล้ว ย่อมสูญสิ้นพระราชอำนาจที่แท้จริง คงไว้เพียงการถูกเคารพนับถือในฐานะกษัตริย์เท่านั้น และสำคัญยิ่งกว่า คือ การวางพระองค์เป็นกลางทางการเมือง ไม่แสดงท่าทีเลือกข้างจนกลายเป็นการชี้นำมวลชน เราเห็นถึงพระราชจริยวัตรเหล่านั้นแล้วอดชมเชยไม่ได้ว่า ทรงมีความอดทนยิ่งที่จะไม่ทำตามพระราชหฤทัย แต่จะทรงไตร่ตรองการตัดสินพระทัยในเรื่องต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วนเสมอ ทั้งนี้ ทุกคนทั่วโลกคงทราบดีแล้วว่า แผ่นดินอังกฤษในยุคที่ปกครองด้วยสมเด็จพระราชินีนาถ ล้วนแต่เป็นยุคทองของอังกฤษทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย และสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่ทรงดำรงพระองค์อย่างเหมาะสมและชาญฉลาด จนผู้เขียนชื่นชมผ่านข้อความตอนหนึ่ง ในบทที่ 11 A Time For Rejoicing สมโภชสมัย ความว่า พระราชวงศ์วินด์เซอร์เองก็ได้เรียนรู้บทเรียนหลายบท สถาบันพระมหากษัตริย์ได้ปรับเปลี่ยนตัวเองมาตลอดอย่างแทบไม่มีใครสังเกตเห็น โดยพระอุปนิสัยตามธรรมชาติ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธมิใช่นักปฏิรูป มิพักต้องเอ่ยถึงการเป็นนักปฏิวัติ หากแต่ทรงตระหนักเป็นอย่างดีว่าต้องทรงปรับเปลี่ยนเมื่อถึงคราวจำเป็น ถ้าหากพระเจ้าจอร์จที่ 3 ทรงได้เรียนรู้บทเรียนเหล่านี้ก่อนหน้า บางทีอาจทรงรักษาอาณานิคมอเมริกาเอาไว้ได้ ถ้าหากพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ได้ทรงเรียนรู้บทเรียนนี้ทันเวลา พระองค์ก็อาจสามารถรักษาพระเศียรเอาไว้ได้เช่นกัน ปกนิตยสาร TIME ในวาระเฉลิมฉลองพระราชพิธีพัชราภิเษก หรือ Diamond Jubilee สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงฉายพระรูปร่วมกับพระราชนัดดา และพระราชปนัดดา ในโอกาสฉลองครบรอบ 90 พรรษา เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ
อนาคตของพระราชวงศ์อังกฤษจะเป็นอย่างไร พระรัชทายาทจะได้สืบทอดบัลลังก์ต่อหรือไม่ คงไม่มีใครคาดการณ์ล่วงหน้าได้ แต่ถ้าใครอยากรู้จักสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ให้มากขึ้น ผมแนะนำให้ลองอ่านหนังสือเล่มนี้กันครับ ถ้าอ่านแล้วยังงุนงง สงสัย หรือไม่เข้าใจ ผมแนะนำให้ดูซีรีส์เรื่อง The Crown ควบคู่ไปด้วย จะทำให้เห็นภาพของหนังสือเล่มนี้ชัดเจนยิ่งขึ้นแน่นอนครับ สุดท้าย ผมขอจบการรีวิวด้วย คำนำของหนังสือ ซึ่งเป็นพระนิพนธ์จากเจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ ความว่า ...พวกเราทุกคน ซึ่งจะเป็นผู้ได้รับสืบทอดมรดกจากรัชสมัยและยุคสมัยของทูลกระหม่อมย่า น่าจะได้เฉลิมฉลองและเรียนรู้จากพระราชประวัติของพระองค์ กล่าวเฉพาะตัวของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ารู้สึกว่าตัวเองมีอภิสิทธิ์ยิ่งนักที่ได้มีสมเด็จพระราชินีนาถเป็นแบบอย่างของการมีชีวิตอยู่เพื่อสนองประโยชน์สาธารณะ
Jim-793009 24 : 09 : 2017
ละเอียดมากเลยค่า โหวตให้
โดย: kunaom วันที่: 24 กันยายน 2560 เวลา:18:23:25 น.
คุณ kunaom --- ขอบคุณที่โหวตให้นะครับ ลองหามาอ่านดูนะครับ เผื่อชอบครับ ^_^
โดย: Jim-793009 วันที่: 24 กันยายน 2560 เวลา:23:37:14 น.
|
Jim-793009
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?] "เขียน" ถ้าสิ่งนั้นคือความสุขอย่างแรกที่เรามองเห็นและนึกถึง ^_^ วรรณกรรมจึงงามกว่าเพชร คมกว่าดาบ เป็นโอสถอันประเสริฐยิ่งของชาวโลก - กฤษณา อโศกสิน "หนังสือบางเล่มผมไม่ได้อ่านเพราะชอบหรือไม่ชอบ เมื่อเป็นนิยายรักยอดนิยม ถ้าไม่อ่านก็เสียโอกาสทำความเข้าใจคนอื่น...ดีสำหรับผม ไม่ได้หมายความว่าคุณอ่านแล้วจะเข้าใจ หรือชอบในระดับเดียวกัน" - ประชาคม ลุนาชัย [ร้านหนังสือที่มีแต่นิยายรัก] "...สำหรับนักอ่าน หนึ่งในการค้นพบที่น่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิต คือการพบว่าตัวเองเป็นนักอ่าน ไม่ใช่แค่อ่านออก แต่ตกหลุมรักมัน ตกหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ตกหลุมรักหัวปักหัวปำ หนังสือเล่มแรกที่ทำให้เกิดผลเช่นนั้นจะไม่มีวันถูกลืม..." - Finders Keepers, Stephen King
|