Wolf True Blood ตอนที่ 9 ชายฝั่งทะเล

ตอนที่ 9. ชายฝั่งทะเล

ตั้งแต่วันที่เขาหัดกลายร่างแม้จะไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ตามที่ผู้ฝึกได้พยายามสอนเขาก็ไม่พยายามที่จะกลายร่างอีกเลยแต่กลับฝึกสมาธิหนักขึ้นเพื่อเรียนมนตราโบราณ มันสมองชั้นเลิศของไคล์ไม่ยากเลยสักนิดถ้าเขามั่นใจและตั้งใจจะทำอะไรก็ตาม ยกเว้นการแปลงร่าง เขาไม่คิดว่ามันสนุกอะไรเลยแถมยังเปิ่นต่อหน้าสาวสวยซึ่งมองเขาเป็นตัวตลก ใบหน้าที่สวยงามละมุน ดวงตาเรียวสวยริมฝีปากอิ่มฉ่ำวาว เขาจดจำได้หมด แม้แต่กลิ่นหอมจากกายของเธอจมูกของเขาแยกแยะได้อย่างแม่นยำ กลิ่นที่เป็นมิตร และกลิ่นที่เป็นศัตรู

นอกจากการเรียนรู้คาถาอาคมไคล์ยังต้องเรียนรู้ธุรกิจของเหล่าหมาป่าที่มีอยู่มากมายกระจายอยู่ทั่วโลกมันน่าตื่นตะลึงและคาดไม่ถึงว่า พวกหมาป่าจะร่ำรวยกันได้ขนาดนี้ งานมีมากคนทำงานมีน้อยหมาป่าไลแคนทางสายของเขามีน้อยมากจนน่าตกใจญาติที่เหลือของเขาส่วนมากเป็นผู้หญิงแต่ก็ไม่ใช่สายเลือดแท้สืบเนื่องจากพ่อแม่ต่างสายพันธุ์พวกเธอค่อนข้างอ่อนแอและละทิ้งความเป็นมนุษย์พิเศษและอาศัยปะปนอยู่กับมนุษย์ไม่กลับมายังถิ่นกำเนิด หลายรุ่นเข้าก็ถูกกลืนไปกับเหล่ามนุษย์สำหรับเขาเองก็เช่นกัน หากไม่กลับมาที่นี่ไม่มีคนมากระตุ้นสัญชาตญาณเดิมๆที่ถูกกดลึกอยู่ในใจ เขาก็คงเป็นคุณชายธรรมดาใช้ชีวิตเช่นมนุษย์โดยทั่วๆไป

แต่ที่นี่มนุษย์แปลงมีอายุยืนยาวทั้งยังคงความเป็นหนุ่มสาวไว้ได้เนิ่นนานหลายสิบปีล่วงอายุเข้าร้อยปีการเสื่อมถอยของเซลล์จึงปรากฏให้เห็นจึงไม่แปลกที่ผาทิวสนจะมีแค่คนหนุ่มสาววัยกลางคนจะอยู่ในหุบเขาลึกเข้าไปยังดินแดนที่เขาไม่เคยเข้าไปและยังไม่จำเป็นต้องรู้ว่ามันอยู่ที่ใด

ไลแคนตระกูลราเมเซ็ทรุ่งเรืองและกล้าแกร่งในทุกๆด้านเก่ากว่าทุกตระกูลในแถบนี้ ซึ่งมีอยู่สี่ตระกูล ตระกูลเรเวน ซึ่งตอนนี้เซย์เป็นผู้นำในการปกครองทั้งผาทิวสน ตระกูลรามอน ลีโอเป็นจ่าฝูงอยู่ที่ผาหมอก และตระกูลไพออนไม่ขึ้นตรงกับใครปกครองตนเองอยู่แนวชายฝั่งทะเลนอกนั้นก็เป็นพวกแวร์วูลฟ์เป็นหัวหน้าหมู่บ้านในเขตปกครองของเซย์

ตระกูลราเมเซ็ทของเขาเมื่อยี่สิบปีก่อนถูกพวกแวมไพร์บุกเข้ามาเพื่อกวาดต้อนหมาป่าบางส่วนไปเป็นเชลย..แวมไพร์สายพันธุ์ชั้นต่ำที่อ่อนแอต้องการเลือดของหมาป่าเพื่อช่วยในการดำรงชีพให้กล้าแกร่งพวกมันล้าหลังกว่าพวกหมาป่าซึ่งอยู่กลางแดดจัดได้โดยไม่มีอันตรายใดๆผิดกับพวกแวมไพร์ที่ไม่อาจปรากฏตัวในตอนกลางวัน หรือเป็นบางครั้งที่ฟ้าปิดเมฆหมอกปิดบังแสงอาทิตย์ในตอนกลางวันพวกมันจึงออกมาได้ นี่เป็นสิ่งที่เหล่าหมาป่าทุกตระกูลจะต้องช่วยกันระมัดระวังปกป้องไม่ให้พวกแวมไพร์เข้ามายังดินแดนของพวกเขาเพราะนอกจากการขยายเผ่าพันธุ์ให้เพิ่มจำนวนยังต้องเสี่ยงกับการสูญพันธุ์เพราะพวกแวมไพร์นี้ด้วย

บันทึกเหตุการณ์ซึ่งผู้อาวุโสคนสุดท้ายที่รักษาปราสาทตระกูลราเมเซ็ทได้บันทึกเอาไว้เล่าถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เจ้าชายเฟรดเดอริค พ่อของเขาและเจ้าหญิงเนเฟอราต้องตายไปเกิดจากเจ้าหญิงมารดาของเขาเดินทางไปยังอียิตป์เพื่อบวงสรวงต่อเทพอนูบิสเพื่อขอพรสำหรับลูกน้อยในครรภ์ของเธอ ให้ถือกำเนิดออกมาอย่างแข็งแรงเจ้าหญิงผู้มีสิริโฉมงดงามยิ่งครรภ์แก่เท่าใดผิวพรรณยิ่งเปล่งปลั่งผุดผาดราวกับดอกบัวแห่งลุ่มน้ำไนล์

เจ้าชายเคฟราลูกพี่ลูกน้องของเจ้าหญิงจัดขบวนรถม้าพร้อมผู้ติดตามเดินทางผ่านป่าโบราณดินแดนซึ่งกำกับด้วยอาคมเก่าแก่แต่มีคนทรยศส่งข่าวการเดินทางกลับของเจ้าหญิงเนเฟอรา ราชินีซินเธียทายาทของมารดาแห่งแวมไพร์ ลิลิธซึ่งได้ส่งฝูงแวมไพร์ไล่ล่าเพื่อนำตัวเจ้าหญิงเนเฟอราพร้อมทั้งลูกในครรภ์กลับไปยังปราสาทของพระนางแน่นอนว่าหากนำไปได้นับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เหล่าแวมไพร์จะได้รับพลังอำนาจของเทพอนูบิสที่อยู่ในตัวเจ้าหญิงส่งต่อไปยังทารกในครรภ์ซึ่งจะถือกำเนิดทารกผู้นั้นเป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดทีเดียว

เจ้าชายเฟรดเดอริคนำฝูงหมาป่ามารอรับเจ้าหญิงผู้เป็นภรรยาในคืนพระจันทร์ทรงอำนาจปรากฏเป็นสีเลือดซึ่งเหล่าหมาป่าจะกล้าแกร่งทั้งพวกแวมไพร์เองก็ได้รับพลังนั้นด้วยการต่อสู้ระหว่างหมาป่าและเหล่าแวมไพร์ต่อสู้กันอย่างดุเดือดหมาป่าแวร์วูลฟ์รวมตัวกับพวกกลายพันธุ์ใต้หุบเขาลึกช่วยเหลือพวกแวมไพร์ในศึกครั้งนั้น

เจ้าหญิงเนเฟอรากับองครักษ์หนีออกนอกเขตอาคมข้ามไปยังเขตแดนของมนุษย์แต่กระนั้นก็ยังถูกพวกแวร์วูลฟ์ตามไปอย่างไม่ลดละหมาป่าไลแคนเข้าต่อสู้กับพวกแวร์วูลฟ์อย่างสุดความสามารถเพื่อปกป้องนายหญิงของฝูงอย่างห้าวหาญล้มตายกันหลายสิบตัว

พวกเขาสูญเสียผู้นำสายเลือดบริสุทธิ์ไปถึงสองคนเจ้าหญิงเนเฟอราหายสาบสูญ ส่วนเจ้าชายเฟรดเดริคในบันทึกไม่ได้บ่งบอกแน่ชัดถึงศึกในครั้งนั้นว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรเพราะสูญหายไประหว่างการต่อสู้กับราชินีซินเธียและร่วงลงสู่หุบมรณะศึกในครั้งนั้นทั้งแวมไพร์และหมาป่าต่างก็สูญเสียไปไม่น้อย

หมาป่าผาทิวสนระส่ำระสายอยู่หลายปีผู้อาวุโสซึ่งเดินทางไปยังดินแดนสงบสุขได้กลับมายังผาทิวสนอีกครั้งและช่วยกันผนึกกำลังร่ายมนตร์กำบังถิ่นที่อยู่ของเหล่าหมาป่าเอาไว้เนิ่นนานหลายสิบปีก่อนที่หมาป่ารุ่นใหม่จะถูกคัดเลือกเพื่อเป็นจ่าฝูงฟื้นฟูผาทิวสนให้กลับมารุ่งเรื่องกล้าแกร่งยิ่งกว่าเดิม..

พาหนะที่เขาใช้เดินทางไปโน่นนี่คือรถยนต์เอาจริงเถอะนะดินแดนที่เขาหลุดเข้ามาและพยายามยอมรับอยู่นี่คือเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งมีถนนหนทางที่รถยนต์วิ่งได้แต่ทว่าหมาป่าที่นี่ส่วนมากแล้วชอบที่จะเดินทางด้วยขาทั้งสี่มากกว่าเมืองที่แปดสิบเปอร์เซนต์คือป่า เขตการปกครองกระจายตัวอยู่ตามหุบเขาซึ่งต้องใช้การเดินเท้า ม้าและมอเตอร์ไซด์ พูดถึงมอเตอร์ไซด์เขาก็มีไว้ในครอบครองกับเขาเหมือนกันนะ ราคาตลาดตอนนี้อยู่หลักล้านไหนๆก็มีละเขาก็เอาออกไปขับเล่นกับองครักษ์ทั้งสองวิ่งเลาะตามไหล่เขาไปจนถึงเมืองท่าเรือซึ่งตระกูลไพออน

วิสโก้คือผู้ชายร่างใหญ่กำยำหน้าตาผิดกับตระกูลอื่นซึ่งงดงาม เขาเดาอายุของวิสโก้ไม่ออกจากการคะเนน่าจะอยู่ราวหกสิบกว่าปีหรือต่ำกว่านั้นไม่เกินห้าปีก็อย่างที่บอกพวกหมาป่าคงความเยาว์วัยไว้ได้นานกว่ามนุษย์ทั่วไปทั้งอายุยังยืนยาวกว่าหลายเท่า สมุนบริวารของวิสโก้ดูท่าทางเหมือนนักเลงตามท่าเรือเมืองท่าเรือที่วิสโก้ปกครองมีความทันสมัยพอควรร้านค้าแบรนด์เนมก็มีตั้งจำหน่ายหลายยี่ห้อแต่ก็อาจจะล้าหลังจากภายนอกอยู่นิดหน่อยก็ถือว่าไม่เชยหากจะซื้อหามาใช้สอยสวมใส่ออกจะดูโก้ไปเสียด้วยซ้ำ

การต้อนรับของวิสโก้อ่อนน้อมกับเขาพอควรเมื่อทราบว่าเขาคือทายาทของตระกูลราเมเซ็ทข่าวภายในอาณาจักรของหมาป่าไม่ได้เป็นความลับอะไรยิ่งเป็นเรื่องสำคัญอย่างนี้นับแต่ก้าวแรกที่เขาเหยียบมาถึงหมาป่าทุกตัวก็รับรู้

“ยินดีต้อนรับกลับบ้านของเราเจ้าชาย”วิสโก้ยกเบียรเย็นเฉียบมาเลี้ยงเขา การิมและเจสันนั้นคุ้นเคยกับวิสโก้อยู่แล้วจึงทำตัวตามสบายปล่อยให้วิสโก้คุยกับไคล์ตามลำพัง

“ขอบคุณมากวิสโก้ผมยังไม่ค่อยรู้อะไรกับที่นี่มากนักมีอะไรก็แนะนำผมได้” วิสโก้หัวเราะลั่นอย่างพอใจหน้าตาสะสวยราวสตรีแต่ก็เข้มแข็งดังบุรุษยิ่งวาจาที่อ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ไม่ถือตัวว่ามาจากตระกูลสูงส่งสร้างความเอ็นดูให้กับวิสโก้ผู้ครองอาณาจักรท่าเรืออย่างยิ่ง

“ข้าควรจะรับใช้ท่านตามแต่ท่านจะบัญชามากกว่านะเจ้าชาย..มีสิ่งเดียวที่วิสโก้พอจะแนะนำท่านได้..ระวังทุกๆเสียง”

ไคล์ไม่เข้าใจในสิ่งที่วิสโก้พูดพอจะซักถามเจ้าพ่อท่าเรือก็ทักทายสาวน้อยร่างปราดเปรียวในชุดกางเกงยีนส์กัดซีดสั้นกุดโชว์เรียวขางามทรวดทรงองค์เอวรับกันเหมาะเจาะเธอถลามาสู่อ้อมกอดใหญ่โตของวิสโก้ซึ่งอ้ารับด้วยความยินดีเสียงหัวเราะเจือความเอ็นดูเต็มเปี่ยม

“ยัยหนูของพ่อ..มาถึงเร็วกว่ากำหนดนี่ลูก..”

“คิดถึงป๋าจังเลยค่ะ..” สองพ่อลูกกอดกันอยู่สักครู่หญิงสาวจึงหันมายิ้มให้เขาทั้งที่ยังอยู่ในอ้อมแขนของผู้เป็นบิดา

“ลูกสาวผมครับเจ้าชายอลิเซีย ยัยหนูนี่คือเจ้าชาย อัคเคคาเมน แห่งตระกูลราเมเซ็ท”สาวน้อยส่งสายตาเจ้าชู้อย่างเปิดเผยให้เขาพร้อมกับยื่นมือเรียวงามสัมผัสกับมือเขาถอนสายบัวแช่มช้อยริมฝีปากอิ่มแย้มยิ้มไม่เขินอาย

“ยินดีครับคุณอลิเซีย”

“อลิสค่ะ..เจ้าชายอัคเคคาเมน”

“อ้อ..ขอบคุณครับคุณจะเรียกผมไคล์ก็ได้นะครับผมไม่ค่อยมีเพื่อนนอกจากการิมกับเจสันแล้ว ยังไม่รู้จักใครอีกเลย”เขาพูดอย่างมีไมตรี

“สองคนนั้นเป็นองครักษ์ของคุณไม่ใช่หรือคะทำไมถึงนับว่าเขาเป็นเพื่อน”

อลิสพูดเรื่อยเปื่อยไม่ระวังมันทำให้ไคล์รู้สึกสะดุดหูแม่สาวคนงามลูกสาวของวิสโก้ลดความน่ารักไปเกือบครึ่งกับวาจาที่เหมือนแบ่งชนชั้นของเธอ..และดูเหมือนเธอจะไม่รู้ตัวว่ากำลังดูถูกคนของเขายังคงพูดราวกับเป็นนกแก้ว กิริยาที่สะบัดผมหยิกเป็นลอนสวยมันดูเซ็กซี่เย้ายวนอยู่หรอกหากแต่ไคล์ได้ประเมินเธอเสียแล้ว ความสนใจที่จะผูกมิตรมากกว่านี้จึงเป็นอันชะงัก

ภายใต้รอยยิ้มสุภาพของไคล์ยิ่งทำให้อลิเซียรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากเจ้าชายพลัดถิ่นผู้ซึ่งกลับมาสู่วงศ์วานถิ่นกำเนิดเดิม มีสเน่ห์ชวนให้ค้นหาเหลือเกินและเธอมั่นใจว่าไม่นานเธอจะได้เข้าใปขอยู่ในความสนใจของเจ้าชายหนุ่มรูปงามคนนี้อย่างแน่นอน

“เจสันกับการิมเป็นเพื่อนผมครับ..”ไคล์ยิ้ม อลิเซียไม่สนใจว่าเจ้าชายจะยกฐานะองครักษ์สองนายนั้นเป็นเพื่อนเธอห่อปากทำตาโต มือเรียวยกขึ้นปิดปากหัวเราะคิกหว่านเสน่ห์ใส่ต่อไป

“แหม..น่าภูมิใจแทนสองคนนั้นจังนะคะเอ๊..แล้วอลิสละคะพอจะเป็นเพื่อนกับเจ้าชายได้หรือเปล่า”

“ผมยินดีมากครับหากคุณอลิสจะให้ผมได้รับเกียรติอันนั้น”

“แหม..เจ้าชายพูดอย่างนี้อลิสก็เขินแย่ซิคะ”เสียงหัวเราะกังวานจริตพองาม เสียงกระแอมเบาๆทำให้อลิสยิ้มค้างหันกลับไปยังเสียงที่ได้ยิน

“เจ้าชายผมต้องขอตัวก่อนนะครับ อลิสแน่ะดูแลเจ้าชายแทนพ่อด้วย”

“ได้สิคะคุณพ่ออลิสจะดูแลอย่างดีทีเดียว”

วิสโก้เรียกสมุนสองสามคนที่นั่งดื่มกับองครักษ์ของเขาที่บาร์ให้ตามออกไปด้วยในใจของวิสโก้ซึ่งมองดูลูกสาวแสนสวยของตนเองจะดีไม่น้อยหากว่าเจ้าชายจะคบหากับบุตรสาวของตน แวร์วูลฟ์อย่างเขาจะแบ่งปันสายเลือดสูงส่งของไลแคนมาปะปนบ้างน่าเสียดายที่แม่ของอลิเซียได้จากเขาไป เธอมาจากตระกูลหนึ่งในสายพันธุ์ที่แข็งแกร่งเป็นไลแคนโดยกำเนิดแต่เมื่อสมรสกับเขาเธอกลับอ่อนแอลงเรื่อยๆและในที่สุดก็จากเขาไป ทิ้งไว้เพียงอลิเซียซึ่งรับเอาส่วนดีๆของมารดามาเต็มเปี่ยม

เวลานี้เป็นเวลาที่เย็นมากแล้วแดดสะท้อนเงาของทะเล ฝูงนกนางนวลบินโฉบไปมาดูน่าเพลิดเพลินสายลมพัดกลิ่นไอเค็มๆของทะเลและสาวงาม เพื่อนๆของอลิเซียล้วนแต่เป็นสาวสอางค์โฉมทั้งผู้หญิงที่ทำงานอยู่ในร้านก็ล้วนแต่สะสวย ดูแล้วเพลินตาสถานที่ส่วนตัวของวิสโก้เป็นที่รวมตัวของเหล่าสมุนผู้ช่วยมือดีหลายคนยิ่งแสงสว่างลดน้อยลงไปเท่าไหร่ก็ยิ่มมารวมตัวกันมากขึ้น

พอมืดสนิทวิสโก้ก็กลับมาพร้อมกับดินเนอร์ที่แสนจะสนุกสมกับเป็นปาร์ตี้ของชาวท่าเรือเนื้อสัตว์ชั้นดีถูกปรุงอย่างเลิศหรูทยอยออกมาเลื้ยงกันอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งเหล้าทั้งเบียรชั้นเลิศหลากหลายยี่ห้อจากทุกมุมโลกที่นี่ก็มีให้ดื่มกินไม่มีหมดเช่นกัน กินกันอย่างหรูแต่ทุกอย่าง..ดิบ

ผู้หญิงถูกหนุ่มๆจับจองกันหมดทุกคนยกเว้นเจสันและการิม ทั้งคู่ถนัดเล่นเกมส์และดื่มเหล้ากันมากกว่า เสียงเอะอะโวยวายสลับกับเสียงหัวเราะ ใครคนหนึ่งเล่นเกมส์แพ้จึงถูกจับโยนลงน้ำ

เวลาล่วงเลยไปจนดึกหลายคนคอพับคออ่อนตามมุมเก้าอี้บนพื้นสุดแต่จะหาที่เหมาะได้เฉพาะตัว..ไคล์ดื่มไปมากกว่าทุกครั้งแต่ยังพอจะครองสติได้ดี ในกลุ่มผู้คนที่ยังดื่มกันอยู่มีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองเขาอยู่ตลอด เจ้าของสายตาคู่นั้นกำลังลุกขึ้นเดินตรงมาหาเขา..



Smileyขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะครับ



Create Date : 12 มิถุนายน 2558
Last Update : 12 มิถุนายน 2558 16:51:21 น.
Counter : 368 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wynter289
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]