Finestme ที่นี้แนะนำแต่ของอร่อยๆ
 
 

รีวิว ร้านโอชา อาหารไทย ร้านหรู บรรยากาศดี อาหารอร่อย โดยเชฟกระทะเหล็ก

จากร้านอาหารไทยที่มีชื่อเสียงในซานฟรานซิสโก “Osha” ได้เปิดตัวร้านอาหารไทยที่ไม่ธรรมดากับการนำเสนอเมนูต่างๆอย่างสร้างสรรค์เปลี่ยนอาหารไทยแบบเดิมๆให้มีภาพลักษณ์ที่น่าสนใจมากขึ้นใครที่ได้มาสัมผัสรับรองว่าจะได้รับความประทับใจแน่นอนกับหน้าตาอาหารและรูปแบบการจัดจาน



เดินเข้าร้านมาจะเจอกับแชมเปญ Moet & Chandonเรียงรายสะดุดตาอยู่ที่ประตูด้านหน้าร้านตกแต่งให้ดูทันสมัยแต่คงเอกลักษณ์ความเป็นไทยไว้อย่างชัดเจน ดูสวยงามและแปลกตา


ด้วยโคมไฟที่ลักษณะคล้ายกับระฆังวัดกับระเบียงที่นั่งสีดำโค้งมนราวกับบาตรพระ ถือว่าสร้างสรรค์มาก ประกอบกับภาพวาดฝาผนังเป็นเรื่องราววรรณคดีไทยสร้างบรรยากาศที่แสนพิเศษให้กับมื้ออาหารของคุณให้กลิ่นอายความเป็นไทยที่ผสานกับความเป็นโมเดรินได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้ทางร้านยังจัดที่นั่งสำหรับโซนOut door สำหรับใครที่ชอบนั่งกินบรรยากาศรับลมภายนอก  ทางร้านก็มีส่วนนี้เปิดไว้บริการการค่ะ

และไฮไลท์ของที่นี่เลยที่สะดุดตาใครต่อใครตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามาคือ โคมไฟชฏาอันใหญ่ยักษ์ รับกับบันไดโค้งมนที่ใครๆเห็นก็อดไม่ได้ที่จะต้องมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน

ดื่มด่ำกับบรรยากาศร้านกันเต็มที่แล้วถึงเวลาลิ้มรสอาหาร ของทางร้านกันบ้างนะคะ จากชื่อร้าน “โอชา” ที่แปลว่า อร่อยหรือ รสชาติที่เป็นเลิศแล้วอาหารที่ทางร้านบรรจงสร้างสรรค์มานำเสนอต้องโอชาไม่เสียชื่อร้านอย่างแน่นอนค่ะ

โดยผู้รังสรรค์สร้างศิลปะบนจานอาหารคือเชฟหนุ่ม  ธนินธร จันทรวรรณผู้มีประสบการณ์ในการทำอาหารจากร้านอาหารชื่อดังในกรุงลอนดอนสำหรับใครที่เป็นแฟนรายการเชฟกระทะเหล็ก ต้องรู้จักเชฟหนุ่มอย่างแน่นอนโดยสไตล์การทำอาหารที่เชฟหนุ่มถนัดนั้นคือ การปรุงอาหารไทยแบบ Molecular Gastronomyหรือเป็นการนำหลักการทางวิทยาศาตร์เข้ามาช่วยในการปรุงแต่งและนำเสนออาหารแต่ละจานให้ออกมามีลักษณะที่โดดเด่นและน่าสนใจ

เรียกน้ำย่อยกันที่จานแรก ”กุ้งแช่น้ำปลา” กุ้งสดๆ นำไปลวกใน ลิควิด ไฮโดรเจนเพื่อให้เกิดความคาวที่น้อยลงพิเศษตรงตัวน้ำราดที่ปกติจะเป็นน้ำราดธรรมดาแต่ของที่นี่จะเป็นการนำเอาพริกขี้หนูสามพราน มะนาวสามพรานมาทำเป็นซอร์เบย์ เพื่อลดความเผ็ดร้อนลง เสริฟมาพร้อมกับแตงกวาญี่ปุ่นกับแรดิชสไลด์บาง

จานต่อมาเป็น “ปลาหมึกผัดไข่เค็ม” ที่นำปลาหมึกไปทอดจนกรอบผัดกับซอสไข่เค็มไชยาก่อนทานก็บีบมะนาวเพิ่มรสซักนิด เสน่ห์ของจานนี้อยู่ที่Smokeที่มาจากมะพร้าวเผาทุกครั้งที่เราตักจะมีควันออกมาเป็น Background Flavorหอมมะพร้าวเผาเคล้ากับความมันของไข่เค็มและความกรุบกรอบของปลาหมึก

“ยำเนื้อ” จากเนื้อเกรดดีทำเป็นบรีฟสลัดแบบไทยๆเสริฟกับมะเขืออ่อนตามด้วยอาติโช๊คที่ราดมาชุ่มๆสอดแทรกอยู่ข้างของทุกคำ แต่ยังคงรสชาติความเป็นไทยอยู่ใครที่ชอบทานเนื้อต้องลองจานนี้ดูนะคะ



ต่อกันที่ “หอยนางรมสุราษฏร์” จานนี้เชฟได้นำเอาหอยนางรมไปPoachedในอุณหภูมิที่ต่ำ จากนั้นก็นำน้ำที่ได้จากหอยนางรมมาขยำกับใบหมาน้อยซึ่งเป็นสมุนไพรพื้นบ้าน จนใบหมาน้อยฟอร์มรูปเป็นเจลลี่ พอเวลาที่เราทานจะได้รสสัมผัสคล้ายกับเจลลี่ทานคู่กับหอยนางรมเพิ่มความหอมจากน้ำมะกรูด โรยหน้าด้วยใบกระถินและหอมเจียว ทุกอย่างรวมกันได้ลงตัวมากค่ะ

ในส่วนของเครื่องดื่มสำหรับใครที่ชอบทาน ไวน์ แชมเปญ บรั่นดี หรือจะเป็นค๊อกเทลทางร้านก็มีให้เลือกหลากหลายนะคะ

“ OCHA CHADA”

แก้วนี้เรียกว่าเป็น signature ของทางร้านก็ว่าได้ ส่วนผสมเป็น Maekong Rum, Fresh Passion FruitJuice, Apple Juice, Vanilla Syrup และ Lemon To Taste แก้วนี้ รัมเป็นตัวชูโรงตัดกับน้ำเสารสสด ที่ให้ความเปรี้ยวอมหวานนิดๆกับกลิ่นเฉพาะตัวของเสาวรส และความหอมของวานิลา เสริฟมาในแก้วที่ดูลงตัวประดับด้วยชฏาสูงเหนือแก้วเก๋มากๆค่ะ


แถมอีกนิดสำหรับช่วงเทศกาลพิเศษต่างๆ  ทางร้านก็ได้จัดเตรียมเมนูพิเศษไว้ให้ด้วยค่ะหากใครที่ชอบทานอาหารไทยต้องไม่พลาดร้านนี้นะคะเพราะท่านจะได้รับประสบการณ์ที่แสนพิเศษที่แตกต่างจากอาหารไทยทั่วไปที่ท่านเคยสัมผัสอย่างแน่นอน

OSHABANGKOK
99 Wireless Rd.,Lumpini, Pathumwan, Bangkok. 10330
Tel : 02-256-6555, Fax : 02-256-6551

OPENDAILY
Lunch : 11:00 – 14:30
Dinner : 18:00 – 24:00




 

Create Date : 06 มกราคม 2558   
Last Update : 19 มกราคม 2558 13:10:41 น.   
Counter : 6467 Pageviews.  


รีวิว ร้านระฆังทอง อร่อยแบบรุ่นพ่อแม่ อาหารไทย ทะเล ซีฟู้ด บรรยากาศดี ติดถนนประดิพัทธ์ กรุงเทพ

พูดถึงความอร่อย ยุคนี้สมัยนี้ต้องยอมรับว่ามีหลายมาตรฐานอร่อยของคนนี้ อาจจะไม่อร่อยสำหรับอีกคนก็ได้แต่ถ้าถามถึงความอร่อยที่ยังตราตรึงในความทรงจำ หลาย ๆท่านคงจะหวนนึกไปถึงอาหารโอชะสมัยวัยเด็ก ที่คุณแม่ทำให้ทานที่บ้านหรือคุณพ่อพาดั้นด้นไปทานก็เป็นได้




ต้องยอมรับว่าคนรุ่นพ่อรุ่นแม่มีความประณีตในเรื่องรสชาติอาหารยิ่งนักแต่ละบ้านแต่ละครอบครัวก็มักจะมีเคล็ดลับเฉพาะตัวที่ถ่ายทอดมาสู่อนุชนรุ่นหลังเป็นโชคดีมาก ๆ ที่ได้มาลิ้มรสชาติแบบดังกล่าว ที่ร้านอาหารระฆังทองถนนประดิพัทธ์ ย่านสะพานควายนี่เองไม่ต้องดั้นด้นไปไหนไกล




ร้านหาไม่ยาก อยู่ริมถนนประดิพัทธ์ ใกล้โรงแรมเอลิซาเบธเยื้องกับโรงแรมมิโด้ สังเกตครัวอยู่หน้าร้าน มีที่นั่งทั้งแบบโอเพ่นแอร์และห้องปรับอากาศเย็นสบาย



เป็นความลงตัวที่ คุณพจน์เจ้าของร้านฝ่ายชายได้สืบทอดร้านอาหารระฆังทองมาจากคุณพ่อ ส่วน คุณจ๋าภรรยา ก็เป็นนักชิมตัวยงอีกทั้งครอบครัวที่อยุธยาก็เป็นนักดั้นด้นหาของอร่อยรับประทานและมีฝีมือในการแกะสูตรได้อย่างฉมังถ่ายทอดคุณสมบัตินี้มายังคุณจ๋าอย่างเต็มเปี่ยม เพราะฝึกเป็นลูกมือคุณยายมาแต่เด็กเมนูร้านนี้จึงบรรจุแต่ของอร่อยที่ล้วนมีเรื่องราวให้เล่าขาน



วันนี้จะขอนำอาหารขึ้นชื่อของร้านนี้มาแนะนำสัก 4-5 รายการรับรองว่า เพียงคำแรกที่ได้ลิ้มรสท่านจะรู้สึกได้ถึงความตั้งใจในการปรุงอาหารให้ลูกค้าได้ลึกซึ้งถึงคำว่าอร่อย

ห่อหมกมะพร้าวอ่อน มาเป็นลูกมะพร้าวที่นึ่งสุกได้ที่ภายในบรรจุเนื้อห่อหมกที่คับคั่งไปด้วยเครื่องทะเล อันได้แก่ ปลาหมึก กุ้งหอยแมลงภู่ และเนื้อปลาบดคือปลากรายผสมยี่สก ที่ได้ความเหนียวแต่ไม่คาวเลยที่พิเศษคือหอมน้ำมะพร้าวในทุกคำที่ตักเข้าปากเป็นสูตรที่ทางร้านคิดเองว่าจะทำอะไรกับมะพร้าวได้บ้างและในที่สุดก็มาลงตัวที่ห่อหมกมะพร้าวอ่อน และรับรองว่าไม่มีการทำห่อหมกไว้ก่อนแล้วมาเทใส่ลูกมะพร้าวให้เก๋ๆ แต่เป็นการจงใจใช้น้ำมะพร้าวและเนื้อมะพร้าวมาทำห่อหมกในลูกมะพร้าวกันเลยทีเดียวไม่ลองจะต้องเสียใจมาก



อันดับต่อมาคือ ปลากะพงผัดคึ่นไช่ ฟังดูก็ธรรมดา ๆแต่ชิมแล้วต้องตักซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกว่าจะหมดจาน เพราะเนื้อปลากะพงที่นำมาทำนั้นเป็นปลากะพงน้ำลึกซึ่งหนังจะหนากว่าปลากะพงธรรมดา คุณค่าอาหารก็มากกว่าด้วยกรรมวิธีมีการนำปลามาชุบแป้งก่อนเพื่อกันเนื้อแตกทำให้เวลาเคี้ยวได้รสชาติอร่อยถึงเนื้อเลยทีเดียว

ที่ร้านนี้จะโดดเด่นเรื่องอาหารทะเล โดยเฉพาะปลา จะสดมากเพราะได้มาจากแหล่งที่ดีเชื่อถือได้ และการซื้อวันต่อวันก็เป็นเครื่องการันตีได้ถึงความสดอร่อย คุณพจน์มีหลักอยู่ว่าอาหารที่ดีไม่ต้องแพง แต่ต้องสะอาดสด และมีรสสัมผัสที่ดีใช้วัตถุดิบธรรมดาแต่เลือกเกรดที่ดี ผนวกกับใช้ฝีมือและความชาญฉลาดของการพลิกแพลงเพื่อให้คนกินได้สัมผัสกับความอร่อย



ชิมปลาไปแล้ว มาชิมหอยบ้าง หอยแมลงภู่อบหม้อดินก็เป็นอีกจานพิเศษที่ไม่ลองไม่ได้ ยิ่งได้น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรของร้านแล้วด้วยเป็นความอร่อยที่ลืมไม่ลงเลยทีเดียว หอยแมลงภู่ตัวใหญ่อวบผ่านการทำความสะอาดมาอย่างพิถีพิถัน ขจัดตัวเพรียงที่ติดตามเปลือกหอยออกจนหมดลูกค้าหลายรายถึงกับกล้าซดน้ำในหม้ออบโดยไม่กลัวท้องเสียเลย เพราะทำมาสะอาดจริง ๆ

พูดถึง น้ำจิ้มซีฟู้ด นิดนึง เพราะเป็นหัวใจของอาหารประเภททะเลร้านระฆังทองจะพิถีพิถันในการเลือกเฟ้นพริกขี้หนูสวนที่ดีที่สุดเผ็ดพอเหมาะแต่ไม่เหม็นเขียวเลย นอกจากนี้ในกรรมวิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ดก็มีการใส่ตะไคร้ และเครื่องเทศไทย ๆ บางชนิดลงไปด้วย เพื่อให้เกิดความหอมและช่วยให้อาหารทะเลอร่อยยิ่งขึ้น ต้องยอมรับว่าจริง เพราะชิมแค่น้ำจิ้มเปล่า ๆยังได้ความรู้สึกเหมือนกำลังซดน้ำแป๊ะซะยังไงยังงั้น ไม่เชื่อลองมาชิมดูเอง



เนื้อปูผัดผงกะหรี่ เป็นอีกจานที่เด็ดดวงมาก ๆเมื่อได้ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ หอมมันและได้ปูเนื้อ ๆ ในทุกคำ เนื้อปูก็สดหวาน เป็นความอร่อยที่ต้องบันทึกไว้ทีเดียว



แกงส้มชะอมทอด แกงพื้นบ้านที่หาทานที่ไหนก็ได้แต่ที่นี่จะพิเศษที่เนื้อกุ้ง ปลา ที่ใส่มาในหม้อ ที่แสดงถึงความสดเครื่องแกงรสกลมกล่อม เสิร์ฟมาร้อน ๆ ในหม้อไฟติดเตามาเลย ถ้าได้ไข่เจียวร้อน ๆอีกสักจานจะเพอร์เฟคท์มาก

อีกจานที่รอนานนิด แต่คุ้มค่ากับการรอคอย คือ หมึกไข่ย่าง(ประมาณครึ่งชม.) แต่ได้หมึกไข่แท้ ๆ ไม่มีย้อมแมวยิ่งจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดของที่นี่ด้วยแล้วความหวานมันของหมึกไข่กับความพิเศษของน้ำจิ้มดังกล่าว มันผสมผสานกันเป็นความอร่อยที่หาตัวจับได้ยาก

ที่กล่าวมาจะหนักไปทางอาหารทะเล และอาหารไทย ๆเพราะเป็นความโดดเด่นที่มาจากความตั้งใจของร้านที่เลือกสรรแต่ของดี ๆ มาให้ลูกค้า และมีการบริหารจัดการที่ดีโดยไม่ผลักภาระเรื่องราคามาให้ลูกค้าเลยเป็นความใส่ใจที่มีแต่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ เพราะครอบครัวนี้เป็นนักชิมเคยสวมหมวกเป็นลูกค้าของร้านอาหารต่าง ๆ มาแล้วทั่วสารทิศจึงรู้ดีว่าอะไรคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และเมนูอื่น ๆ ก็ยังมีให้เลือกไม่ว่าจะเป็นอาหารฝรั่ง อย่างสเต็ก สลัดไก่ซอสเลมอน หรือสลัดผลไม้กุ้งแก้ว อาหารอีสานก็มี ลองขอเมนูมาดูได้


นอกจากนี้ทางร้านยังมีคอนเซ็ปดี ๆ มานำเสนอ คือ  “อาหารอร่อย..แค่...ร้อยเดียว” ภูมิใจแนะนำเมนู ไก่อบหมัดเมาเพียงราคา 100 บาทก็จะได้สัมผัสกับอาหารสไตล์จีนกวางตุ้งดั้งเดิมซึ่งหาทานได้ยากในปัจจุบันนี้ โดยจะนำไก่ไปรวนกับขิงแก่ (ผัดเคี่ยวไฟไปเรื่อยๆ ให้เครื่องเทศเข้าเนื้อ) แล้วนำไปอบให้ระอุ ก่อนเสิรฟจะฉ่าด้วยเหล้าวิสกี้เพิ่มความหอมกรุ่นบางๆ ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดเข้ากันได้เป็นอย่างดี รสสัมผัสที่ได้คือความหอมขิงอ่อน ๆ และรสชาติที่กลมกล่อมลงตัว



อีกหนึ่งเมนูในราคา 100 บาทเช่นกัน คือปีกไก่ทอดตะไคร้หอมโดยนำปีกไก่หมักกับเครื่องเทศสมุนไพรไทยสูตรเด็ดของทางร้าน    พักทิ้งไว้ข้ามคืนให้เครื่องเทศเข้าเนื้อแล้วนำไปทอดพร้อมกับตะไคร้หอมทุบหยาบ กับใบมะกรูดสด ๆ เพิ่มความลงตัวด้วยพริกแห้งทอดกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์ รสชาตินุ่มนวลและจัดจ้านลงตัว ราคาเพียงร้อยบาทไม่ลองไม่ได้แล้ว



อาหารที่กล่าวมาจะมีรสชาติยิ่งขึ้น ถ้าสั่งเบียร์มาทานคู่กันร้านระฆังทองมีเบียร์วุ้นเย็นเจี๊ยบไว้บริการลูกค้าตลอดเวลา เพราะมีตู้แช่พิเศษไม่มีคำว่าเบียร์ยังไม่เย็น นี่ก็เป็นอีกความละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรามองเห็น

นอกจากนี้ร้านระฆังทองยังมีเมนูพิเศษประจำเดือนไว้บริการลูกค้าด้วยซึ่งจะแจ้งไว้ในเมนู ให้ลูกค้าคอยติดตาม และก็พิเศษจริง ๆเพราะแต่ละรายการเป็นสิ่งที่ผ่านการคิดค้นด้วยปูมความรู้ต่าง ๆ ที่มีเพื่อให้ลูกค้าได้ในสิ่งที่ดีที่สุด



พูดถึงของหวานบ้าง เพราะเป็นอะไรที่ไม่ธรรมดาเหมือนกันเมนูน้ำแข็งไสธรรมดาที่เราคุ้นเคย แต่เป็นน้ำแข็งเกล็ดหิมะ ราดด้วยน้ำหวานและนมข้นรู้สึกได้ถึงความนุ่มฟูของเกล็ดน้ำแข็ง หรือถ้าชอบขนมหวานแบบไทย ๆ เช่น แกงบวดต่างๆ ก็มีให้เลือกสั่ง ในสนนราคาที่ไม่แพงเลย


ร้านระฆังทอง ก็เป็นอีกร้านหนึ่งที่มาแล้วต้องหวนคืนมาอีกเพราะประทับใจในรสชาติอาหารและความอร่อยที่มาจากความตั้งใจจริงที่จะถ่ายทอดความอร่อยของคนรุ่นแม่มาสู่รุ่นปัจจุบันในราคาที่เป็นมิตรอย่างยิ่ง เพราะตระหนักดีว่า ทุกคนชอบอาหารอร่อยที่ราคาไม่แพงจึงพยายามตอบโจทย์ข้อนี้มาโดยตลอด ลูกค้าในละแวกนี้เขามาผูกใจเป็นขาประจำกันไปหมดแล้วใครยังไม่เคยมาคงต้องรีบ ร้านระฆังทอง เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 16.00 – 02.30 น. เลิกงานแล้วแวะมาได้ทันที




 

Create Date : 02 กรกฎาคม 2557   
Last Update : 2 กรกฎาคม 2557 20:48:56 น.   
Counter : 2703 Pageviews.  


Review ร้าน Anna & Charlie’s Café อาหารไทย-ฝรั่ง ชื่อดัง บรรยากาศดี แยกถนนนราธิวาส-พระราม 3

ใครที่เป็นแฟนประจำร้าน Anna & Charlie’s Café ที่ศาลาแดงเมื่อ 10 ปีก่อน ไม่ต้องไปตามหาที่ไหนให้วุ่นวายแล้ว เพราะ Anna & Charlie’sCafé ขนานแท้และดั้งเดิมขยับมาอยู่ที่หัวมุมถนนนราธิวาสตัดกับรัชดาภิเษก และมีเพียงร้านเดียวเท่านั้นไม่มีสาขาอื่นใด หรือชื่อแอนนาใดๆ เลย



Anna & Charlie’s Café วันนี้ที่ถนนนราธิวาส ให้บริการลูกค้ามาจะครบ 5 ปีแล้วมีบรรยากาศของร้านที่น่ารื่นรมย์ยิ่ง ตั้งแต่ที่จอดรถที่กว้างขวางด้านหลังของร้านและภายในร้านที่ตกแต่งภายในใหม่ กว้างขวางนั่งสบายและมีมุมโซฟาให้นั่งเล่นหรือนั่งรอเพื่อน ไอเดียเนรมิตสวนเขียวมาไว้ในร้านทำให้บรรยากาศในการรับประทานได้อารมณ์สุนทรีย์ยิ่งขึ้น




ทำไมใคร ๆถึงติดใจรสชาติของร้านนี้นักก็เพราะทีมครัวดั้งเดิมที่สร้างความอร่อยอย่างพิถีพิถันจนเป็นตำนานที่ต้องเล่าขานภายใต้คอนเซ็ปต์ Original Taste ไม่ว่าอาหารไทยอาหารนานาชาติ หรือเบเกอรี่ ที่เนรมิตออกมาได้เป๊ะทุกจาน เพียงสัมผัสปลายลิ้นก็รับรู้ได้ทันที


ความพิถีพิถันที่ว่านี้มาจากความเคร่งครัดในการชั่งตวงวัดส่วนผสมอย่างละเอียดละออก่อนนำมาปรุงหน้าเตาจึงได้รสชาติที่สม่ำเสมอ เรียกได้ว่าเป๊ะ ไม่ว่าจะมาทานครั้งไหนก็ตาม



ถามถึงเมนูที่ขึ้นชื่อ ที่มาอันดับต้นๆ คนนิยมสั่งกันมากคือ แกงเขียวหวานไก่-โรตีที่แม้คนต่างชาติยังชอบสั่งกันเพราะไม่เผ็ดจนเกินไป รสกลมกล่อมหอมเครื่องแกงรับประทานกับโรตีทอดนุ่ม ๆ ไม่อมน้ำมัน ติดใจกันทุกคน


ที่เด็ดอีกรายการคือปลาหมึกผัดไข่เค็ม โดยเน้นที่ไข่แดงเป็นพิเศษ ผัดกับปลาหมึกสด ๆ ตัวโต ๆ เนื้อหวานทานกับข้าวสวยร้อน ๆ เด็ก ๆ จะชอบกันมาก


ส่วน ปลาตาเดียวทอดกระเทียมก็ใช้ปลาขนาดตัวละประมาณ 8 ขีดแล่เนื้อทอดเสร็จสรรพ รับประทานกับซอสมะขามแบบไทยๆ รสชาติเข้ากันดี


อาหารนานาชาติก็ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันเช่น สปาเก็ตตี้ คาโบนาร่า และสเต็กต่าง ๆ


นอกจากนี้ที่มัดใจลูกค้าไว้ได้อย่างเหนียวแน่นก็คือ เบเกอรี่โฮมเมดจากครัวเบเกอรี่ของ Anna & Charlie’s Café ไม่ได้สั่งใครมาจากไหนแต่ฝีมือล้วน ๆ และที่เป็น Signature ของร้านก็คือจุดเด็ดอยู่ที่ซอสคาราเมลที่ไม่เหมือนใครชิมคำแรกจะรู้ทันที และวิธีตักที่ถูกต้องจะต้องตักจากบนลงล่างเก็บให้ได้ทุกชั้นไว้ในคำเดียว บอกได้คำเดียวว่า สุดยอด


สำหรับใครที่คลั่งไคล้ช็อกโกแลตจะต้องไม่พลาด Chocolate Opera Cake ที่อร่อยสะใจคอช็อกโกแลตเป็นอย่างยิ่งเพราะอุดมไปด้วยส่วนผสมที่สุดเลิศในวงการช็อกโกแลตทั้งช็อกโกแลตชั้นดีจากเบลเยี่ยม และหอมกลิ่นเหล้าพองามขณะละลายอยู่ในปากด้วยรสชาติที่เอร็ดอร่อยเกินคำอธิบาย


หรือถ้าชอบแนวรสผลไม้ Strawberry Crepe จะเป็นเมนูที่อยากแนะนำเนื้อเครปมาเป็นชั้น ๆ ราดชุ่มฉ่ำด้วยสตรอเบอร์รี่ซอสตามตำรับต้นกำเนิดจากญี่ปุ่นหอมอร่อยจนวางช้อนไม่ลงเลย


และแน่นอนขนมอร่อยเหล่านี้ย่อมขาดไม่ได้ที่จะต้องมีเครื่องดื่มที่เข้ากัน กาแฟ ชาที่นี่ก็มีความโดดเด่นจนมีแฟนประจำที่นิยมมาทานขนม จิบกาแฟกันยามบ่ายในบรรยากาศชิล ๆ ของร้าน นับเป็นการใช้เวลาว่างอย่าบรมสุขอย่างหนึ่งทีเดียว

Anna & Charlie’s Café รู้ใจลูกค้าเป็นอย่างดีจึงบริหารจัดการด้านบริการให้ถูกใจและตรงกับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มทุกเดือนจะมีรายการอาหารพิเศษประจำเดือน เช่น เทศกาลอาหารไทยโบราณ, ซีฟู้ด, บาร์บีคิว ฯลฯ หมุนเวียนให้ได้ติดตามกัน



และบ่อยครั้งที่มีลูกค้ามาใช้บริการจัดเลี้ยงเพราะมีห้องจัดเลี้ยงที่ชั้นสอง 2 ห้อง จุ 30 คน และ 10 คนหรือจะเปิดรวมเป็นห้องเดียวก็ได้ นอกจากนี้ยังสามารถจัดงานเลี้ยงแบบเหมาร้านได้ด้วย เช่น งานแต่งงานก็มีคนทำมาแล้วเพราะบรรยากาศร้านเป็นใจด้วยบริการที่น่าประทับใจ



อีกบริการที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับลูกค้าของAnna & Charlie’s Café คือ Catering จัดเลี้ยงนอกสถานที่ ไม่ว่างานเลี้ยงสังสรรค์ งานประชุม เปิดตัวสินค้าหรืออีเวนท์ต่าง ๆ มีทั้งบุฟเฟต์และค็อกเทล ขอแค่บอกความต้องการก็จะได้อาหารอร่อยระดับ Anna & Charlie’s Café ไปอิ่มเอมกันเป็นที่ประทับใจ 





 

Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2557   
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2557 14:24:38 น.   
Counter : 4075 Pageviews.  


Review ร้านบ้านหญิง ซิกเนเจอร์ ร้านอาหารไทย ระดับพรีเมี่ยม ย่านสยามสแควร์

  “สยามแสควร์” ย่านถนนคนเดินช้อปปิ้งสุดฮิตและสุดฮิปของเมืองไทยตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพในย่านช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำมากมายไม่ว่าจะเป็นสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ มาบุญครอง(หรือที่รู้จักกันในนาม เอ็มบีเค) หรือแม้กระทั้ง เซ็นทรัลเวิล์ดแต่ด้วยจุดเด่นของการเป็นถนนคนเดินทำให้สยามแสควร์ยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลยาทางของเหล่านักช้อปหรือผู้คนที่อยากพัดผ่อนเดินเล่นสบายๆทั้งที่เป็นชาวไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ


ย่านนี้เต็มไปด้วนร้านค้าและร้านอาหารจำนวนมาก แต่เนื่องจากโดยมากแล้วร้านอาหารในย่านนี้จะเน้นเอาใจเหล่าวัยรุ่นเป็นหลักแต่หากมองหาร้านอาหารไทยระดับพรีเมี่ยม ที่ให้บรรยากาศสบายและรสชาติอร่อยแบบไทยๆแล้วนั้น มีอยู่เพียงไม่กี่ร้าน และที่ถูกใจและเข้าตาเรามากที่สุดคงเป็นร้านนี้ “บ้านหญิงซิกเนเจอร์”


จากประสบการณ์ในการให้บริการอาหารไทยให้แก่ลูกค้าทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่นย่านสยามสแควร์ “คุณ หญิง” เจ้าของร้านอาหาร“บ้านหญิงคาเฟ่” ทีมีอยู่หลายสาขาทั่วประเทศทำให้เกิดไอเดียอยากทำร้านอาหารไทยดีๆที่เสิร์ฟอาหารไทยรสเลิศโดยการใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงควบคู่ไปกับรสชาติแบบถึงเครื่องสไตล์คนไทยแท้ๆบวกกับบรรยากาศนั่งสบายๆ แต่มีความหรูหราแบบเข้าถึงง่าย เหมือนห้องนั่งเล่นในบ้านสวยๆจึงเป็นที่มาของ “บ้านหญิง ซิกเนเจอร์” แห่งนี้


สิ่งแรกที่สัมผัสได้เมื่อเข้ามาในร้านที่เน้นการตกแต่งด้วยไม้และพื้นหินอ่อนบวกแสงไฟนวล อบอุ่น และการต้อนรับของพนักงานที่นี่ทำให้รู้สึกเหมือนนั่งอนู่ในห้องทานข้าวหรือห้องนั่งเล่นบ้านเพื่อนจริงๆ


เมนูอาหารที่นี่หลากหลายมากหลายเมนูที่มีการดัดแปลงให้ประยุกต์มากขึ้น อย่าง ปูนิ่มผัดผงกะหรี่ที่ออกแนวไทยจีน และแปลกใหม่โดยใช้ปูนิ่ม แต่ทานแล้วรู้สึกถึงเครื่องกะหรี่จริงๆทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใคร


เมนูต่อมา ทางร้านแจ้งว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าและเคยลงหนังสือแหละออกรายการโทรทัศน์ไปแล้วคือแกงไก่บ้านหน่อไม้จีนความหอมนุ่มของไก่บ้านที่ถูกเคี่ยวกับเครื่องแกงจนได้ที่บวกกับความนุ่มปนกรอบของหน่อไม้จีนไม่แปลกใจเลยที่เมนูนี้จะเป็นที่นิยมอีกทั้งหาทานได้ที่เดียวอีก


เมนูสุดท้ายที่เราลองสั่งคือกุ้งแม่น้ำเริงระบำ กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่มันเยอะ เนื้อแน่น นำไปย่างในกระทะกับซอสรสเผ็ดกลางๆ จนสุกได้ที่เมื่อหั่นเนื้อกุ้งเข้าปาก จะรูสึกถึงความเหนียวนุ่ม และเด้งกรอบของเนื้อกุ้งเหมือนกับเต้นอยู่ในปากจริง


อิ่มสุดๆแล้ว แต่มะม่วงลูกโตเพราะคัดพิเศษของเมนูข้าวเหนียวมะม่วงร้านนี้ทำให้เราอดใจไม่ได้จริงๆ และก็ไม่ผิดหวัง มะม่วงน้ำดอกไม้หอมหวานมากๆข้าวเหนียวก็นุ่มและหวานกำลังดิ ตัดกับกระทิแท้ๆหอมได้ลงตัวจริงๆ


หลังจากอิ่มแสนจะอิ่มแล้วแผนการที่จะแยกย้ายกันกลับบ้านก็ต้องเป็นอันพับกลับเข้าหีบเมื่อเหลือบไปเห็นสารพัดเครื่องดื่มน่าทานบนจอกลางร้าน เมื่อสอบถามพนักงานได้ความว่าด้านบนเป็นส่วนของบาร์เรียกว่า Second Bar เป็นบาร์ที่เน้นคอคเทลที่ทางร้านคิดค้นมาเองแต่มีให้บริการเครื่องดื่มครบทุกรูปแบบเช่นกัน เลยตัดสินใจแวะขึ้นไปลองชิมคนละแก้ว




บรรยากาศนั่งสบายๆ บวกกับไฟสลัวๆ ทำให้ร้านน่านั่งมาก ดูไม่อึดอัดและไม่วุ่นวาย เหมาะจะเป็นที่นั่งพักหลังช้อปปิ้งหรือทำงานเป็นที่สุดบรรยากาศไสตล์บาร์ในนิวยอคบวกกับพื้นที่ระเบียงมีร่มไม้ราวกับไม่ได้อยู่ท่ามกลางความวุ่นวายของกรุงเทพเลยทีเดียว บรรยากาศเยี่ยม


ครานี้ถึงตาลิ้มลองรสชาติเครื่องดื่ม คอคเทลทุกตัวที่สั่งมีเอกลักษณ์และอร่อยมากๆ ดื่มง่ายแต่คงดีกรีของแอลกอฮอล์ไว้ตามคอนเซ็ปต์ของทางร้านที่คอคเทลที่ดี ต้องอร่อย แต่แรงใช้ได้ เพราะคอคเทลไม่ใช้น้ำผลไม้รวมแต่ตัวที่ทำให้เราฮืฮาที่สุดคือสยามแพชชั่น ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับหมอกเย็นฟุ้งรสชาติเปรี้ยวหวานของเสาวรส สดชื่นมากๆ เรียกได้ว่าทั้งตื่นตาและตื่นใจ


แก้วต่อมาคือ ร็อคแอนด์โรส เสริฟมาในแก้วจาร์น่ารักไสตล์บ้านรสชาติหอมหวานเหมือนดอกกุหลาบ แต่มึนเมาเอาเรื่องเหมือนหิน สมชื่อจริงๆ


และสุดท้าย เลม่อนวอดก้าเจโล่ วอดกาเจลี่ในเลม่อนหั่นมาพอดีคับอร่อยและสร้างสรรคมากกกกกก แต่ทานมากๆก็เมาเช่นกัน


ดูท่าเราจะสาธยายมาซะยาวไปละ เอาเป็นว่าถ้าใครชอบอาหารไทยดีๆและคอคเทลอร่อยๆ ต้องไป และจะไปซ้ำ อีกแน่นอน เพราะ “บ้านหญิงซิกเนเจอร์แอนด์เดอะเซเคิ่นบาร์”เค้าอร่อยและเขาใส่ใจในทุกเมนูจริง 





 

Create Date : 15 มกราคม 2557   
Last Update : 15 มกราคม 2557 14:42:48 น.   
Counter : 3323 Pageviews.  


Review ร้าน Madam T. อาหารเวียดนามระดับรางวัล 2 ปีซ้อน

ร้านอาหารเวียดนามที่โดนใจอีกร้านหนึ่งอยู่ใจกลางเมืองย่านสุขุมวิทนี่เอง Madam T.ชาวสุขุมวิทส่วนใหญ่คงรู้จักกันแล้ว แต่สำหรับคออาหารเวียดนามที่อยู่ไกลออกไปถ้าอยากมาลองสัมผัสก็มาได้ง่ายมาก ร้านอยู่ซอยสุขุมวิท 23 หรือซอยประสานมิตรเข้าซอยมาแล้วเลี้ยวขวาแรก จะอยู่ฝั่งซ้ายมือที่อาคารสุขุมวิท เฮ้าส์มีที่จอดรถสะดวกสบาย




เจ้าของร้าน Madam T. ก็คือคุณติ๊กหรือคุณศิริธร ศรทฤทธิ์สุภาพสตรีชาวไทยผู้ชอบรับประทานอาหารเวียดนามพร้อมผักสดเป็นชีวิตจิตใจแม่ครัวก็เป็นคนไทย ได้รับการฝึกฝนจากชาวเวียดนามตามสูตรดั้งเดิมมากกว่า 20 ปี เรียกว่ารู้สูตรลับกันเลยแหละ มาที่ร้านวันนี้พบกับผู้จัดการร้านแสนสวยชื่อคุณปลา หรือคุณบุษบา ถนอมพุทธ ให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง


ร้านนี้บรรยากาศดีทีเดียว มี 2 ชั้นและชั้นล่างยังมีโต๊ะโอเพ่นแอร์ที่ระเบียงด้านนอกหลายโต๊ะนั่งสบายไม่แพ้ด้านในเพราะอากาศช่วงนี้ก็เริ่มจะเย็น ๆ แล้วการตกแต่งภายในร้านเป็นสไตล์วินเทจคุมโทนม่วงเหลือง ด้วยของตกแต่งร้านที่ดูดี มีรสนิยมสั่งมาจากเวียดนามล้วน ๆ มีดนตรีคลอเบา ๆได้บรรยากาศอบอุ่นเหมือนทานอยู่ที่บ้าน ชั้นบนเป็นห้องโถงแนวยาวพร้อมเคาน์เตอร์บาร์ ด้านหนึ่งกรุกระจกใสเห็นทัศนีภาพภายนอกส่วนนี้มีความเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับงานเลี้ยง งานประชุม หรือเลี้ยงรับรองแขกจุได้ประมาณ 20-30 ท่าน




เพลินเพลินกับความสวยงามของร้านแล้ว มาดูเมนูอาหารกันบ้าง มีตั้งแต่ Appetizer,Main Course, Salad รวมไปถึงเมนูเส้น และเฝอ ตบท้ายด้วยของหวานสไตล์เวียดนาม ทั้งสิ้นทั้งปวงมาจากครัวถึง 2 ครัวคือครัวเย็น และครัวร้อน


มาลองอาหารยอดนิยมของ Madam T. กันเลยดีกว่ารับรองว่าไม่แพ้ที่ไหน แม้จะเปิดมาเพียง 3 ปี แต่ก็ได้รับรางวัล Thailand tatler award  ปี 2011-2012 มาแล้ว2 ปีซ้อน อย่างแรกที่ต้องสั่งคือ สุกี้เวียดนาม ความภูมิใจของ

Madam T. น้ำซุปเสิร์ฟมาเป็นหม้อไฟ ใช้น้ำมะพร้าวน้ำหอมทั้งลูก และขูดเนื้อหั่นตะไคร้สด , หอมหัวใหญ่ใส่ลงไป หอมชวนรับประทานมาก ส่วนเนื้อสัตว์ต่าง ๆก็เสิร์ฟมาในจานให้นำลงจุ่มตามอัธยาศัย อร่อยไม่เหมือนใคร


เป็ดราดซอสมะขาม ก็เป็นอีกรายการที่ไม่น่าพลาด เนื้อเป็ดนุ่มลิ้นราดด้วยซอสมะขามสไตล์เวียดนามต้นตำรับ อร่อย หาทานที่ไหนก็ไม่เหมือนที่นี่


แหนมเนือง ปอเปี๊ยะสด และ ข้าวเกรียบปากหม้อ มีวางอยู่ทุกโต๊ะพร้อมโถผัก บรรจุผัก 9 ชนิด (เกือบปลูกเองเป็นส่วนใหญ่) อาจจะเป็นเพราะสั่งง่ายได้ไวและที่สำคัญอร่อยมากๆ น้ำจิ้มของแต่ละอย่าง ปรุงเองใหม่ ๆ สด ๆ ทุกวัน เพราะหมดทุกวันไม่มีค้างเช่นน้ำจิ้มแหนมเนือง ปรุงจากเต้าเจี้ยวแต่แม่ครัวปรุงได้เนียนจนไม่มีกลิ่นเต้าเจี้ยวเลย วัตถุดิบที่ร้านนี้ซื้อจากเวียดนามเป็นส่วนใหญ่ เช่น กะปิ น้ำจิ้มเฝอและเส้นก๋วยจั๊บ เพราะรสชาติแน่นอนกว่า




ข้าวเกรียบปากหม้อที่นี่เป็นสีเขียว เพราะใส่ใบเตยเพื่อความหอม และดอกอัญชันที่คั้นน้ำสดๆ ผสมแป้งที่นี่จะเน้นใช้ของธรรมชาติเท่านั้น เสริฟมาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ดโรยหมูยอหั่นแบบไม่ขี้เหนียว แป้งนุ่ม ตีแป้งวันต่อวัน เป็นเมนูที่ออกเร็ว


เรามีเมนูขนมจีนหน้าต่างๆซึ่งเป็นเมนูยอดนิยมของคนเวียดนามโดยเฉพาะ ขนมจีนหน้าเนื้อ หรือที่เรียกว่า“ป่อปุ๋น” จานนี้ต้องลอง ถ้าไม่ทานเนื้อก็เปลี่ยนเป็นหน้าหมูย่างปอเปี๊ยะทอด รับรองต้องสั่งเพิ่ม



เมนูยำก็มีหลายรายการ แต่ที่ขึ้นชื่อ แนะนำให้ลองสั่งยำไหลบัวกุ้งสด แล้วจะติดใจ


อีกเมนูที่หลายท่านคงรู้จักดี คือ ขนมเบื้องญวนหรือเรียกเป็นภาษาเขาว่า ‘ป่านแส่ว’ ลูกค้าจะชอบสั่งมากแต่ใช้เวลาทำนาน เพราะทำใหม่ๆจานต่อจาน จึงมักจะออกมาท้ายรายการให้ได้อร่อยอย่างประณีตสมกับการรอคอย

เพราะฉะนั้น เพื่อไม่ต้องรอนานลูกค้าขาประจำทั้งหลายจึงมักโทรสั่งกันล่วงหน้า สำหรับรายการที่ต้องใช้เวลา เพื่อที่ว่ามาถึงร้านก็ทานได้ทันที


สำหรับรายการของหวาน มีกล้วยหอมทอดที่ขึ้นชื่อมากเพราะแป้งอร่อยมากด้วยสูตรที่ไม่ยอมบอกใคร กรอบนอกนุ่มในอย่าบอกใครเชียว


และยังมีรวมมิตรเวียดนาม ที่แตกต่างจากรวมมิตรไทย ๆ ตรงที่ราดด้วยเมเปิ้ลไซรับนมสด หอม หวาน มัน ถ้ามีไอศกรีมวานิลาอีก1ลูก ครบสูตร เสริฟมาในแก้วทรงสูง ประกอบด้วยทับทิมกรอบ เฉาก๊วย ถั่วแดง ฯลฯในน้ำกะทิที่คั้นสดๆ โรยหน้าด้วยถั่วเหลืองกวนน่าทานมาก


รสชาติของอาหารที่ร้าน Madam T. นี้ แม้แต่คนเวียดนามยังชอบมาทานกระซิบว่าที่เขาชอบสั่งก็คือ ขนมจีนหน้าหมูย่าง เฝอ และข้าวเกรียบปากหม้อแต่ถ้ามากันหลายคนก็จะสั่งสุกี้ด้วย ใครจะเดินตามรอยก็ไม่ว่ากัน




ร้านสวย ๆ บรรยากาศดี ๆ ที่จอดรถสะดวกแบบนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าลูกค้ามักนิยมมาเหมาร้านจัดงานกันบ่อย ๆซึ่งทางร้านก็จัดให้ได้เรียบร้อยเป็นที่พอใจ จะเหมาเฉพาะชั้นล่าง หรือชั้นบน หรือทั้งร้านก็จัดให้ได้ตามความต้องการสำหรับแขก 45 ท่านขึ้นไป โดยแนะนำให้สั่งเป็นเซ็ทไปเลย สะดวกและอิ่มกำลังดี ทางร้านสามารถจัดคาราโอเกะให้ได้ หรือดนตรีกล่อมเบาๆ และยังมีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปไปอวดใครๆให้อิจฉาด้วย


นอกจากนี้ยังมีบริการ Delivery ส่งความอร่อยถึงบ้านในละแวกสุขุมวิทด้วยแม้ท่านที่อยู่ไกลออกไปก็สามารถสั่งได้เช่นกันโดยบวกค่าส่งให้กับมอเตอร์ไซค์ตามระยะทาง โทรสั่งได้ที่ 02-259-1127 และ 081-735-1443

Madam T.เปิดบริการทุกวันเป็น 2 ช่วง คือ 11.30-14.30 น. และ 17.30-22.00น.ท่านสามารถไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ของร้านได้ที่ www.madamtrestaurant.com แนะนำให้โทรจองโต๊ะล่วงหน้าก่อนไปนะคะ





 

Create Date : 14 มกราคม 2557   
Last Update : 14 มกราคม 2557 11:29:46 น.   
Counter : 1495 Pageviews.  


1  2  3  4  5  

lion.Leo
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




[Add lion.Leo's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com