อร่อยกับบุฟเฟ่ต์เกาหลี... ที่สุขุมวิท 93 @ร้านซาลัง ( Salang ) ชื่อร้าน : ร้าน ซาลัง ( Salang ) รายการอาหาร : บุฟเฟ่ต์ รวมเมนูข้าวยำ, บะหมี่ดำ (Jajang), บะหมี่ใส่ชีส (Salang Ramen Cheese), เมนูข้าวยำ (Bibimbub), สลัดผัก (Salad), ถั่วแดงเย็น เวลาเปิดบริการ : ร้านเปิดตั้งแต่ 11.30 - 14.00 น. / ตอนเย็นตั้งแต่ 17.00 – 22.00 น. / เสาร์-อาทิตย์ เปิดตลอดตั้งแต่ 11.30 -22.00 ที่ตั้งร้าน : ซอยสุขุมวิท 93, กรุงเทพมหานคร พระโขนง Thailand พิกัด GPS : 13° 41' 57.78" N 100° 36' 21.61" E ดูแผนที่เพิ่มเติม -------------------------------------------------------------------------------------------------- ร้านซาลัง เชื่อว่ากระแสเกาหลียังคงฟีเวอร์อยุ่ในบ้านเราได้อีกนาน ยิ่งที่ผ่านมากระแสของกังนัมสไตล์ทำเอาคนไทย และคนตะวันตกคลั่งไคล้ไปตามกันกับท้าเต้นที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น โดนใจวัยรุ่นในยุคนี้อย่างมาก แต่สำหรับอาหารเกาหลีก็เป็นอีกกระแสหนึ่งที่ได้รับความนิยมในเมืองไทยมาระยะ หนึ่งแล้ว ปัจจุบันจึงมีร้านอาหารสัญชาติเกาหลีเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด แต่ร้านที่จะมาแนะนำวันนี้เป็นร้านเกาหลีที่ใครหลายคนอาจเคยได้ยินชื่อเสียง มาบ้าง ร้านนี้ชื่อว่า "ซาลัง" (Salung) ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 93 หรือ BTS สถานีบางจาก การเริ่มต้นของร้านซาลัง เข้าเปิดในเมืองไทยเป็นปีที่ 4 แล้ว เริ่มต้นที่ปทุมวันรีสอร์ท แถวพญาไท แต่าร้านแน่นจนต้องรอคิวกัน จนทำให้ต้องขยายสาขาออกไป  สำหรับร้านซาลัง สาขาใหม่ ที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 93 ใหญ่กว่าสาขาแรก โต๊ะเก็ยอะกว่า แอร์เย็นฉ่ำ ยังคงคุณภาพการบริการที่ดีดังเดิม หากใครจะเดินทางมาที่นี้ก็ไม่ยาก ขึ้นรถไฟฟ้า BTS มุ่งตรงไปยังสถานีบางจาก ไม่มีภาพรถติดมากวนใจ ใช้เวลาแป๊บเดียว พอถึงสถานีบางจากก็ลงเดินย้อนมาที่ซอยสุขุมวิท 93 นิดเดียว เดินเข้าซอยไปประมาณ 100 เมตร ก็จะเห็นร้านอยู่ซ้ายมือ เป็นร้านขนาด 3 คูหา ติดโปสเตอร์เชิญชวนด้วยโปรโมชั่นต่าง ๆ  มีที่จอดรถที่หน้าร้านด้วย เข้าไปในร้านก็จะเห็นภาพดอกทานตะวันดอกใหญ่เพ้นต์เต็มผนังไปหมด นึกออกหรือยังคะว่ามาจากหนังเกาหลีเรื่องอะไร สงสัยเจ้าของร้านก็คงเป็นสาวกเกาหลีเหมือนกัน มารู้ทีหลังว่า หนึ่งในหุ้นส่วนของ ร้าน ซาลัง ( Salang ) นี่เป็นหนุ่มเกาหลีอิมพอร์ตมาจากเมืองกิมจิทีเดียวแถมยังเป็นเชฟของร้านเสียด้วย นัยว่าคุณแม่ของเขาก็เคยเปิดร้านอาหารในเกาหลีมาก่อน ช่วงนี้เฉพาะที่ ร้าน ซาลัง ( Salang ) สาขาสุขุมวิท 93 กำลังมีโปรโมชั่น มา 4 คน จ่ายแค่ 3 คน และบุฟเฟ่ต์ รวมเมนูข้าวยำ เพียงหัวละ 330.- เท่านั้น รับสิทธิ์ง่ายๆ เพียงเข้าไปกด Like แฟนเพจ คลิกที่นี่ มา ลองดูเมนูกันหน่อย เมนูมีแค่แผ่นเดียว หน้าหนึ่งเป็นเมนูบุฟเฟต์ อีกหน้าเป็นอาหารจานเดี่ยว ดูรายการอาหารไม่มาก แต่ทำไมพอสั่งมาแล้วโต๊ะแทบไม่พอวาง ที่น่ารักมากคือ ที่ ร้าน ซาลัง ( Salang ) สาขาบางจากนี้ จะมีผ้ากันเปื้อนสไตล์เกาหลีแจกให้ลูกค้าทุกคนใส่ บรรจุมาในถุงผ้าเล็ก ๆ เหมือนของขวัญ สวมแล้วก็ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารกระเด็นมาโดนเสื้อผ้า แถมยังเก๋ไก๋ได้บรรยากาศไปอีกแบบ แต่ทานเสร็จแล้วขอคืน ร้านเขาจะได้เอาไปซักให้ ไม่ทันไร รายการในบุฟเฟต์ก็ลำเลียงมาขึ้นโต๊ะ มีทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัวส่วนต่าง ๆ (โคขุน) ที่หมักซอสมาได้ที่เรียบร้อยแล้ว และยังมีเห็ดออริจินฝานบาง ๆ ราดน้ำซอสมาให้ด้วย กับผักกาดแก้วล้างสะอาดเด็ดใบใส่จานมาให้ด้วย น่ากินจริง ๆ ทั้งหมดนี้เติมได้ไม่อั้น เกินคุ้มกับราคาหัวละ 330.- ถ้าขี้เกียจลงมือเอง พนักงานที่ร้าน ร้าน ซาลัง ( Salang ) จะอำนวยความสะดวกในการปิ้งย่าง และตัดเป็นคำเล็ก ๆ ให้ลูกค้าด้วย เราก็เพียงแต่นั่งชมการปิ้งด้วยน้ำลายสอ เพราะกลิ่นมันหอมยั่วน้ำลายจริง ๆ ที่ชอบคือ ทั้งขบวนการปิ้งย่างที่ ร้าน ซาลัง ( Salang ) นี้จะไม่มีควันมารบกวนเลย เพราะท่อดูดควันสเตนเลส จ่อลงมาเกือบถึงเตา และดูดควันขึ้นเพดานไปหมดเลย ไม่ต้องกังวลว่ากลับบ้านแล้วต้องมาสระผมกันยกใหญ่ มาว่ากันถึงรสชาติบ้าง ต้องบอกว่าอร่อย เพราะ ของสดจริง ๆ ปิ้งย่างกันเดี๋ยวนั้นร้อน ๆ จากเตา คลุกเคล้าด้วยน้ำซอส กระเทียม พริก ที่ร้านเตรียมไว้ให้ แกล้มกับผักกาดแก้วสดกรอบ ถูกใจมาก คนที่เคยไปกินที่เกาหลีอาจได้รสชาติไม่เหมือนที่ ร้าน ซาลัง ( Salang ) นี้ เพราะเชฟตั้งใจทำให้ถูกปากคนไทยมากกว่า ซึ่งทำได้ดี คนเกาหลีจริง ๆ มากินก็อาจจะงง ๆ บุฟเฟต์สอบผ่านฉลุย มาดูอาหารจานเดี่ยวกันบ้าง ราคาก็ไม่แพง เริ่มต้นแค่ 45 บาทเท่านั้น มีเด็ด ๆ หลายรายการ เช่น บะหมี่ดำ (Jajang) เป็นเมนูใหม่ล่าสุดของ ร้าน ซาลัง ( Salang ) ที่ไม่มีเนื้อสัตว์ เมนูนี้หน้าตาดี มีซอสสีดำสนิทที่ทำจากถั่วดำ ราดมาบนบะหมี่ พร้อมเครื่องเคียงผัก และไข่ต้ม ก่อนจะรับประทาน พนักงานเขาจะมาลงมือคลุกให้เข้ากัน จนเส้นบะหมี่กลายเป็นสีดำ ชิมแล้วรสอร่อยมาก เข้ากันอย่างประหลาด แปลกดี ที่ชอบอีกรายการคือ บะหมี่ใส่ชีส (Salang Ramen Cheese) ชีสเป็นแผ่น ๆ ใหญ่ ๆ โปะมาบนชามบะหมี่ร้อน ๆ เวลารับประทานชีสจะละลายผสมผสานกับน้ำซุปที่กำลังเดือดปุด ๆ เวลาคีบมันจะเหนียว ๆ ยืด ๆ เกาะเส้นบะหมี่ แต่อร่อยน่าดู และชามที่ใส่มาก็เป็นชามเก็บความร้อน จะทานกันอ้อยอิ่งแค่ไหน อาหารก็ยังร้อนน่ากินอยู่ตลอด เด็ก ๆ น่าจะชอบเมนูนี้เหมือนกัน ทางร้านบอกว่าเมนูนี้ลูกค้าบางรายแอบจำไปทำเองที่บ้าน แล้วกลับมาสารภาพว่าทำยังไงก็ไม่เหมือน ดังนั้นก็มากินที่ร้านเค้าทำให้ง่ายกว่าแยะ เมนูข้าวยำ (Bibimbub) ที่นี่ก็น่าสนใจ ไม่ใช่ข้าวยำแบบฟาสต์ฟูดที่รสออกเผ็ดจัดจ้าน แต่ข้าวยำแบบเกาหลีนี่ไม่มีรสเผ็ด โปะไข่ดาวปกคลุมเครื่องเคราไว้ในชาม เวลาจะกินก็ต้องคลุก ๆ เหมือนเดิม อร่อย สามารถกินแกล้มกับกิมจิได้ รู้สึกจะเป็นเมนูยอดนิยมของที่นี่ด้วย สลัดผัก (Salad) ของที่นี่ก็เป็นเมนูที่ดัดแปลงมา ดูผาด ๆ จะคล้าย ๆ กิมจิ แต่มีมะละกอสับแบบส้มตำใส่มาด้วย เป็นเครื่องเคียงที่ตักกินได้ตลอดรายการ มาถึงเมนูของหวานคือ ถั่วแดงเย็น คนที่นั่งข้าง ๆ ชิมแล้วบอกว่า อร่อยมากอย่างไม่มีเหตุผล ใครอยากรู้ว่าแล้วมันอร่อยยังไงคงต้องไปลองชิมเอง ต้องบอกว่าเป็นมื้อที่สนุกสนานกับกิจกรรมการกินแบบเกาหลี ๆ ที่แตกต่างไปจากร้านอาหารอื่น ๆ รสชาติอาหารก็ไม่ทำให้ผิดหวัง และพนักงานที่ ร้าน ซาลัง ( Salang ) นี้ก็เอาใจใส่ลูกค้ามาก ๆ เป็นโชคดีของชาวบางจาก โดยเฉพาะที่อยู่ใกล้ ๆ ซอยสุขุมวิท 93 ที่มี ร้าน ซาลัง ( Salang ) เปิดบริการอาหารเกาหลีอยู่ใกล้ ๆ คนทำงานที่ต้องการมาฝากท้องมื้อกลางวัน ร้าน เปิดตั้งแต่ 11.30  - 14.00 น. และตอนเย็นเลิกงานแล้ว มากันได้ตั้งแต่ 17.00 – 22.00 น. แต่ถ้าบ้านใกล้ เสาร์-อาทิตย์ ร้าน ซาลัง ( Salang ) เปิดตลอดตั้งแต่ 11.30 -22.00 น. โทรจองโต๊ะได้ที่ โทร. 02-730 0690 และ 081-442 8257 ขอบคุณที่มา //blog.finestme.com/   Create Date : 30 พฤศจิกายน 2555     0 comment Last Update : 3 ธันวาคม 2555 11:38:53 น.     Counter : 2427 Pageviews.   Share Tweet

ร้าน Sweat Rock Cafe’ อาหารดี ดนตรีสุดยอด ตอบทุกโจทย์ของคนคอเดียวกัน @วิภาวดี 50 ชื่อร้าน : ร้าน Sweat Rock Cafe’ ( สเว็ท ร็อก คาเฟ่ ) รายการอาหาร : น้ำพริกปลาทู, ลาบเป็ดอุบล, สะเต๊ะเนื้อ, ออร์เดิรฟรวม, ปีกไก่ทอด, ไส้กรอก เวลาเปิดบริการ : เปิดบริการตั้งแต่วันอังคาร – วันเสาร์ 1 ทุ่ม ถึง ตีหนึ่ง ที่ตั้งร้าน : ซอย วิภาวดี 50 (ใกล้กับโรงพยาบาลวิภาวดี), กรุงเทพมหานคร บางเขน Thailand พิกัด GPS : 13° 50' 41.24" N 100° 33' 41.90" E ดูแผนที่เพิ่มเติม --------------------------------------------------------------------------------------------- ร้าน สเว็ท ร็อก คาเฟ่ ร้าน Sweat Rock Cafe’ ( สเว็ท ร็อก คาเฟ่ ) ซ่อนตัวในซอยวิภาวดี 50 ซอยเงียบ ๆ ที่คุณอาจจะคิดไม่ถึงว่า จะได้มาพบกับ บรรยากาศของร้านอาหารกึ่งผับ ที่เพียบพร้อมด้วยคนดนตรีคุณภาพ อย่างคับคั่งขนาดนี้ ยามเย็นของวันไหนที่คุณต้องการปล่อยใจกับ ดนตรียุคสมัย 70 พร้อมกับลิ้มรส อาหารอร่อย ราคากันเองแล้วละก็อย่าพลาด ที่ ร้าน สเว็ท ร็อก คาเฟ่ แห่งนี้นะคะ เรามาถึงตั้งแต่หัวค่ำ เพื่อที่จะได้มีเวลาเต็มที่กับการลิ้มลองอาหารก่อนฟังเพลง บรรยากาศใน ร้าน Sweat Rock Cafe’ เหมือน tavern ของฝรั่ง ด้วยหลังคาต่ำ ผนังขาว แต่ที่แสดงให้เห็นแต่แรกว่าร้านนี้ใส่ใจแค่ไหนกับระบบเสียง คือการกรุเพดาน ด้วยวัสดุซึมซับการสะท้อนเสียงเพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้น จริงๆก็ไม่น่าแปลกใจหรอกนะคะ เพราะ แค่ชุดกลองเท่านั้น เค้าก็ลงทุนไปล้านบาทแล้วค่ะ เชื่อได้ว่า ร้าน Sweat Rock Cafe’ เค้าเอาจริงเรื่องเสียงเพลง ส่วนอาหารนั้นบอกได้เลยว่า อร่อยเหนือความคาดหมาย คือด้วยความที่เป็นผับ เลยไม่ได้ตั้งความหวังสูงกับอาหารที่นี่ ปรากฏว่า จานแรกที่มา คือ น้ำพริกปลาทู นั้น หน้าตาเรียกน้ำย่อยมากค่ะ ปลาทูตัวใหญ่เบิ้ม เครื่องเคียงผักจิ้มมาครบครัน เรียกว่า “เครื่องครบ” มากกว่าร้านอาหารทั่ว ๆ ไปเสียอีก  เห็นแล้วรู้สึกได้ ว่าเรื่องคุณภาพอาหาร เค้าก็ไม่ปล่อยผ่านเหมือนกัน ที่สำคัญคือเหลือบดูราคาแล้ว 170 บาทเท่านั้น ปลาทูตัวนั้นซื้อในซุปเปอร์ ก็หนึ่งร้อยบาทแล้วนะคะ ถือได้ว่าคืนกำไรให้ผู้บริโภค ทีเดียว จานต่อไป เห็นเค้าแนะนำว่าต้องลองให้ได้คือ ลาบเป็ดอุบล แม่ครัวที่นี่เชี่ยวชาญ จานนี้เพราะเป็นคนอุบลแท้ ๆ อร่อยสมคำแนะนำ คือไม่เค็มเกินไป ไม่มีกลิ่นสาบเป็ด เผ็ดพอประมาณพอเรียกความอยากอาหาร แถมใส่กระเทียมดองมาให้กินตัดรสตามต้นตำรับแท้ ๆ อีกด้วย ถ้ามาก็อย่าพลาดนะคะ สะเต๊ะเนื้อ ของที่ ร้าน Sweat Rock Cafe นี่เป็นอีกจานหนึ่งที่ไม่อยากให้คุณพลาดค่ะ คนทำเป็นมุสลิมแท้ รู้วิธีจัดการกับเนื้อไม่ให้เหนียว ไม่คาว เนื้อหมักมาจนนุ่ม หอมกรุ่นกลิ่น เครื่องเทศ น้ำจิ้มอร่อยกลมกล่อม ตัดกับอาจาดกำลังดี จานนี้ เคี้ยวเพลิน ๆ แป๊บเดียว หมดจานเสียแล้วค่ะ เมื่อบรรเทาความหิวไปแล้ว ระหว่างฟังเพลงจากวงดนตรีแรก ก็เลยสั่ง ออร์เดิรฟรวม มากินเล่นแก้เหงาปากอีกจาน จานใหญ่เบ้อเริ่ม รวมดาวไว้ครบเลยค่ะ ทั้งไส้กรอกเยอรมันซึ่งเสริฟรวมมา ทั้งไส้กรอกไก่ และไส้กรอกปลา ปีกไก่ทอด เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด จานนี้เป็นอีกจานที่คุณภาพคุ้มเกินราคาค่ะ สำหรับคนทานไม่จุ กินเล่น ๆ จานนี้จานเดียวก็อิ่มแล้วละ ปีกไก่ทอด ของเค้าเป็นอีกหนึ่งในจานที่ขายดีของที่ ร้าน สเว็ท ร็อก คาเฟ่ นี่นะคะ ลองชิมจากออร์เดิรฟรวมแล้วก็เข้าใจได้ คือทอดได้แห้งกรอบ น้ำจิ้มแจ่วแซ่บ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่เผลอแป๊บเดียวก็หมดซะแล้ว ถึงกับต้องสั่งมาเพิ่มอีกหนึ่งจานเลยค่ะ ส่วน ไส้กรอกของที่นี่ สั่งได้ตามใจชอบนะคะ ว่าจะให้ย่างบนกะทะแบบฝรั่ง หรือต้ม หรือย่างเตาถ่านแบบไทย เค้าจัดให้ตามความต้องการของลูกค้าค่ะ เอาใจกันขนาดนี้เลยทีเดียวสำหรับที่ ร้าน Sweat Rock Cafe’ ( สเว็ท ร็อก คาเฟ่ ) แห่งนี้ เรื่องชื่อเสียงของนักดนตรีที่เล่นที่ ร้าน สเว็ท ร็อก คาเฟ่ นี่คงไม่ต้องพูดถึง เพราะแต่ละคนก็บิ๊กๆ ในวงการทั้งนั้น ยิ่งสำหรับเดือนนี้ เค้ามีโปรแกรมพิเศษที่จะมีนักดนตรีเทพๆ อย่าง สมชาย ขำเลิศกุล กริช โชคทิพย์พัฒนา พอล เภกะนันท์ และ โรเบิร์ต บ๊อบบี้ ดีล่า … เดอะ บีทเทิ้ล นัท … สำหรับคอดนตรี คุณภาพขนาดนี้คงไม่ต้องพูดอะไรกันอีกแล้วละค่ะ อาหารดี ดนตรีสุดยอด ลองแวะไปที่ ร้าน Sweat Rock Cafe’ ( สเว็ท ร็อก คาเฟ่ ) นะคะ แล้วพบกันค่ะ ————————————————————————————————— ร้าน Sweat Rock Cafe’ ( สเว็ท ร็อก คาเฟ่ ) เปิดบริการตั้งแต่วันอังคาร – วันเสาร์ 1 ทุ่ม ถึง ตีหนึ่ง • วันอังคาร ฟังเพลงเก่าย้อนยุค สไตล์ 60′s-70′s กับวง Three Plus One พร้อมกับ Karaoke ไว้บริการท่านที่ต้องการร่วมร้องเพลง • วันพุธ พบกับวง Somthong Band โอกาสพิเศษสำหรับคนที่รักการร้องเพลง คุณสามารถขึ้นไปโชว์เพลงกับวงดนตรีจริงๆ ให้ผู้คนรอบข้างตื่นตะลึงไปกับความสามารถพิเศษของคุณ • วันพฤหัส-ศุกร์-เสาร์ เพลงยุค 70 ที่คึกคักและหนักหน่วงขึ้น พร้อมไฮไลท์พิเศษช่วง 4 ทุ่มครึ่ง – 5 ทุ่มครึ่ง กับ วง Sweat Rock ที่ให้คุณได้ Rock กันแบบเฮฟวี่เมทัลด้วยเพลงจากวงดนตรีที่เฮฟวี่ที่สุดตลอดกาลอย่าง Led Zeppelin, Deep Purple ร้าน Sweat Rock Cafe’ (สเว็ท ร็อก คาเฟ่) อยู่ที่ ซ.วิภาวดี 50 ใกล้กับโรงพยาบาลวิภาวดี โทรศัพท์ 02-941-1255 --------------------------------------------------- ขอบคุณที่มา //blog.finestme.com/   Create Date : 29 พฤศจิกายน 2555     0 comment Last Update : 3 ธันวาคม 2555 11:40:26 น.     Counter : 4260 Pageviews.   Share Tweet

ร้านยามาเนะ อาหารญี่ปุ่น ความแตกต่างที่น่าลิ้มลอง @ สยามสแควร์ ซอย 10 ชื่อร้าน : ร้านยามาเนะ (สยามสแควร์ ซอย 10) รายการอาหาร : สลัดปลาดิบ (Salmon Salad), แซลมอนซอสกระเทียม (Salmon Garlic Source), สเต็กหมู (Pork Steak), เทมปุระจานรวม (Tempura Mori Special), ไอศกรีมชาเขียวท้อปปิ้งถั่วแดงบด (Green Tea Ice Cream Azuki), เทมปุระไอศกรีมถั่วแดง (Tempura Ice Cream Azuki) เวลาเปิดบริการ : ร้านเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.00 – 21.30 น. ที่ตั้งร้าน : สยามสแควร์ ซอย 10, กรุงเทพมหานคร ปทุมวัน Thailand พิกัด GPS : 13° 44' 39.42" N 100° 31' 56.88" E ดูแผนที่เพิ่มเติม ---------------------------------------------------------------------------------------- ร้าน ยามาเนะ ( Yamane ) สยามสแควร์ ซอย 10 ในทุกวันนี้มีร้านอาหารญี่ปุ่นให้เลือกมากมาย นับเป็นโอกาสดีสำหรับนักชิมที่โปรดปรานอาหารเมืองปลาดิบ ที่ได้มีโอกาสทดลองเปรียบเทียบความคุ้มค่าของร้านต่างๆ ซึ่งแต่ละร้านก็มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป วันนี้ได้มีโอกาสเข้าไปลิ้มรส อาหารญี่ปุ่นที่ ร้าน ยามาเนะ ( Yamane ) สยามสแควร์ ซอย 10 ร้าน ยามาเนะ ( Yamane ) นี้ไม่ใช่ร้านเปิดใหม่ แต่มีมานานตั้งแต่ปี 2547 ชาวจุฬาฯ และผู้คนที่ทำงานในย่านนั้นจะรู้จักดี เพราะมาแล้วก็ต้องมาอีก จนฝากตัวเป็นลูกค้าประจำกันไป ร้าน ยามาเนะ ( Yamane ) เป็นร้านเล็ก ๆ ห้องเดียว เปิดให้ลูกค้านั่งรับประทาน 2 ชั้น ส่วนชั้นที่ 3 เป็นครัวค่ะ หน้าประตูร้านด้านนอกมีสแตนด์เมนูกางให้อ่านกันก่อน แต่ถ้าจะอ่านกันจนจบคงหิวจนลมใส่เพราะเมนูเล่มใหญ่มาก เข้าไปนั่งเลยดีกว่า สิ่งที่สะดุดตาเป็นอย่างแรกคือฝาผนังของ ร้าน ยามาเนะ ( Yamane ) นี้ ที่ใช้ไอเดียบรรเจิดทำเป็นภาพสองมิติ ที่ไม่ว่าจะหันไปมองมุมไหน ภาพที่เห็นก็จะเปลี่ยนไปทุกครั้ง ยิ่งถ้าเดินเข้าไปจนสุดแล้วมองมาอีกที… โอ้ เป็นภาพที่ประทับใจมาก ทราบมาว่าเป็น ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านแรกทีเดียวที่มีฝาผนังสไตล์นี้ ไปชมกันนะคะ เผื่อได้ไอเดียไปแต่งบ้าน มาดูเมนูของ ร้าน ยามาเนะ ( Yamane ) กันค่ะ อย่างที่บอกแล้วว่าเมนูเล่มใหญ่มาก มีภาพอาหารสวย ๆ ที่แบ่งหมวดหมู่ไว้ชัดเจน ตั้งแต่ ปลาดิบ – ข้าวปั้น - ข้าวห่อสาหร่าย – อาหารทานเล่น – อาหารทอด – บะหมี่ อูด้ง โซบะ – ข้าว – ซุป – อาหารชุด – สเต๊ก ปิดท้ายเล่มด้วยรายการของหวาน และน้ำผลไม้ปั่น เลือกไม่ถูกเพราะดูน่าทานไปหมดทุกอย่าง เลยขอให้ทางร้านจัดอาหารที่คนสั่งบ่อยที่สุดมาให้ทานดีกว่า เพราะการันตีได้ว่าอร่อยแน่ ก็เขาลองกันมาแล้วนี่นา ถึงได้สั่งแล้วสั่งอีก เมนูแรกก็อยู่หมัด เป็น สลัดปลาดิบ (Salmon Salad) จัดมาอย่างสวย ผักต่าง ๆ จัดซ้อนกันมาจนพูน มีปลาแซลมอนสไลด์บางวางเรียงไว้ด้านบน ปิดหน้าด้วยสาหร่ายญี่ปุ่นและไข่กุ้ง ชิมคำแรกก็ติดใจทันที เพราะน้ำสลัดอร่อยมาก อร่อยจนอยากขอร้องให้ทางร้านทำน้ำสลัดใส่ขวดขาย จะได้ซื้อกลับไปใส่สลัดที่บ้านได้หลาย ๆ มื้อ เป็นน้ำสลัดญี่ปุ่นน้ำใสที่ปรุงรสมาเลิศแท้ ใครมีโอกาสมาที่ ร้าน ยามาเนะ ( Yamane ) ทานอย่าลืมสั่งเมนูนี้นะคะ จานต่อไปเป็น แซลมอนซอสกระเทียม (Salmon Garlic Source) หน้าตาดีมากทีเดียว แซลมอนหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมหนา ๆ พอดีคำ ซอสกระเทียมที่ราดมาก็หอมอร่อย เจือพริกเล็กน้อย แนมด้วยแตงกวาที่ฝานจนบางเฉียบเสียบเรียงเป็นระเบียบอยู่ริมชาม เรียกว่าเป็นเมนูสุขภาพได้เลยค่ะ สเต็กหมู (Pork Steak) ควันฉุยมาโน่นแล้ว เนื้อหมูชิ้นหนาหั่นเต๋าสีสวยน่ากิน เรียงอยู่ในจานเคียงข้างผักต่าง ๆ และเห็ด มีเครื่องจิ้ม 3 ชนิดมาในจานหลุมสี่เหลี่ยม เมนูนี้ต้องทานกับข้าวผัดกระเทียมและน้ำซุปมิโซะค่ะ รับประทานร้อน ๆ ใครที่หิวมา รับรองว่าไม่ได้วางตะเกียบแน่ ที่สำคัญหอมเนยมาก ๆ ที่ขาดไม่ได้และเป็นของโปรดของหลายคน เทมปุระจานรวม (Tempura Mori Special) จานใหญ่มาก เน้นกุ้งเป็นประชากรส่วนใหญ่ในจาน หัวไชเท้าที่ให้มาละลายในน้ำซอสก็ไม่ได้มีแต่หัวไชเท้าล้วน ๆ อย่างที่เคยเห็น แต่ปรุงมาอย่างดีสีสวยเลยค่ะ ไม่รอช้า คีบกุ้งตัวใหญ่จุ่มน้ำซอสจนชุ่มใส่ปากทันที กรอบอร่อยทานได้ทั้งตัวไม่เว้นแม้แต่หางกุ้ง มาดูของหวานบ้าง วันนี้ขอลอง ไอศกรีมชาเขียวท้อปปิ้งถั่วแดงบด (Green Tea Ice Cream Azuki) กับ เทมปุระไอศกรีมถั่วแดง (Tempura Ice Cream Azuki) อร่อยทั้งสองรายการ และไม่หวานมาก ระหว่างที่ตักโน่นนี่เข้าปาก ลูกค้าก็ทยอยเข้ามาเรื่อย ๆ แม้ว่าจะบ่ายคล้อยแล้วก็ตาม บางรายก็เข้ามาสั่งกลับบ้านอย่างคุ้นเคย นั่งรอเดี๋ยวเดียวก็ได้แล้ว ที่ลูกค้าติดใจในรสชาติอาหารที่นี่ เพราะทาง ร้าน ยามาเนะ ( Yamane ) ตั้งใจทำเหมือนทำให้ลูกหลานในบ้านได้ทานของดี ๆ  และเชฟดั้งเดิมก็ยังอยู่คู่กับ ร้าน ยามาเนะ ( Yamane ) มาตลอด รสชาติอาหารที่ร้านนี้มีดีอยู่ที่น้ำซอสของแต่ละรายการซึ่งมีถึงกว่า 30 ชนิด เป็นสูตรเฉพาะของร้านเลยทีเดียว นี่เองคือความแตกต่างที่โดดเด่น และความอร่อยของ อาหารญี่ปุ่น ที่ร้าน ยามาเนะ ( Yamane ) ก็โดนใจคนญี่ปุ่นเจ้าของตำรับเสียด้วย เพราะ ยามาเนะ ( Yamane ) เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น เพียงร้านเดียวที่ได้เข้าไปเปิดขายที่โรงงานโตโยต้าที่บางนา เพราะผู้บริหารชาวญี่ปุ่นเคยมาทานที่ร้านแล้วชอบ เรียกว่ารสมือถูกลิ้นชาวปลาดิบตัวจริงก็แล้วกัน คุณบุญใจ กับ คุณพสณัช โพธิวรรณ สองแม่-ลูกเจ้าของ ร้าน ยามาเนะ ( Yamane ) เล่าความเป็นมาของร้านให้ฟังว่า เริ่มแรกเปิดที่ศาลาแดง และย้ายมาหลายแห่งจนมาปักหลักที่สยามสแควร์แห่งนี้ เพราะขายที่ไหนก็ขายดิบขายดีจนค่าเช่าร้านพุ่งพรวด ๆ แบบไม่เกรงใจกันบ้างเลย แต่ที่สยามสแควร์นี้ก็เป็นที่ถูกใจลูกค้าวัยเรียน หรือวัยรุ่นที่มาเดินสยามฯ บางคนมาทานตั้งแต่เข้าจุฬาฯ จนเรียนจบ ก็มากันจนเหมือนเป็นที่ของเขาไปแล้ว ซึ่งตรงกับแนวคิดของร้านซึ่งอยากให้เด็ก ๆ มีของดี ๆ ทาน และราคาไม่แพงมาก ใครอยากมาเป็นขาประจำที่ร้านนี้ ทาง ร้าน ยามาเนะ ( Yamane ) มีบัตรสมาชิกที่ไม่มีวันหมดอายุมอบให้ด้วย แต่จะต้องจำตำแหน่งร้านให้แม่น ๆ ก่อนนะคะ ถ้าขับรถไปและไม่อยากวนหาที่จอดหลายรอบ ก็สามารถไปจอดที่อาคารจอดรถ ตรงศูนย์หนังสือจุฬาฯ ได้ ลงจากที่จอดรถก็เดินอีกนิดเดียว มุ่งหน้าไปซอย 10  ร้าน ยามาเนะ ( Yamane ) อยู่ซ้ายมือนะคะ  หรือจะนั่งรถไฟฟ้าไปลงสยามก็สะดวกมาก ร้านเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.00 – 21.30 น. เบอร์โทร. 02-2520238 และกว่าคุณจะชิมได้ครบทุกเมนู เมื่อนั้นคุณก็กลายเป็นขาประจำไปอีกคนแล้วโดยไม่รู้ตัว... --------------------------------------------------- ขอบคุณที่มา //blog.finestme.com/   Create Date : 29 พฤศจิกายน 2555     0 comment Last Update : 3 ธันวาคม 2555 11:41:29 น.     Counter : 2742 Pageviews.   Share Tweet

บ๊วยโภชนา ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องเป็ด... ก๊าบ ก๊าบ... @ทองหล่อ 13 ชื่อร้าน : บ๊วยโภชนา รายการอาหาร : ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋น เป็ดพะโล้ ปีกเป็ดอบหม้อดิน ฯลฯ (สารพัดเมนูเป็ดๆ) เวลาเปิดบริการ : เปิดทุกวัน (ตั้งแต่ 09.30-17.00 น.) ที่ตั้งร้าน : ร้านอยู่ริมถนน ตรงข้ามสตาร์บัคทองหล่อ เยื้องๆ กับซอยทองหล่อ 13, กรุงเทพมหานคร เขตวัฒนา Thailand พิกัด GPS : 13° 43' 59.99" N 100° 34' 55.78" E ดูแผนที่เพิ่มเติม --------------------------------------------------------------------------------------------------- ร้านบ๊วยโภชนา ในหมู่นักกินที่ชื่นชอบเป็ดและห่านพะโล้ คงจะรู้จักและเคยได้ยินชื่อ ร้านบ๊วยโภชนา หนึ่งในร้านเป็ดขึ้นชื่อของกรุงเทพนั้นมาแล้วแน่ๆ  จากร้านเก่าแก่ดั้งเดิมที่บรรทัดทอง ตำรับเป็ดพะโล้ของบ๊วยโภชนา ก็เลื่ยงลือสร้างชื่อมาหลายสิบปีจนมีลูกค้านักชิมเป็นขาประจำมากมาย  และเมื่อมาตั้งสาขาที่ซอยทองหล่อ ก็ประสบความสำเร็จแบบเดียวกัน เพราะยังรักษาสูตรต้นตำรับไว้อย่างเคร่งครัด จนเป็นร้านหนึ่งที่ขึ้นชื่อในเรื่องเป็ดพะโล้ ของย่านสุขุมวิท ภายในร้านที่ฝาผนังด้านหนึ่งของร้านเรียงรายไปด้วยบทความรีวิวร้านอาหารจากหนังสือพิมพ์ ต่างๆ ใครที่เพิ่งมาร้านนี้ครั้งแรก ก็คงจะมั่นใจได้ ว่าจะได้กินของอร่อย แบบมีตรารับประกันคุณภาพจากมืออาชีพ สำหรับขาประจำที่นี่มีหลากหลาย ตั้งแต่ดาราสาวๆ สวยๆ นักร้องหนุ่มขวัญใจประชาชน ไฮโซกระเป๋าหลุยส์ และหนุ่มสาวออฟฟิศในย่านนั้น ยามเที่ยงของวันธรรมดานั่งกันเต็มทุกโต๊ะทีเดียวค่ะ แสดงว่าของเขาต้องดีจริงอะไรจริง ตามเรามาเลย จะพาไปชิมหลายๆ เมนู... อาทิ ไส้+กึ๋นเป็ดลวก เริ่มจากเมนูโปรดก่อนเลยนะคะ ใครที่ชอบกินเป็ดและห่านมักจะชอบกินเครื่องในด้วย จานนี้เป็นหนึ่งในเมนูขายดีของที่นี่ มาบ่ายไปอาจจะไม่เหลือให้ชิมเสียแล้วนะคะ กึ๋นและไส้ลวกของบ๊วยโภชนา ลวกได้เยี่ยมมาก เพราะกะเวลาได้พอดีเป๊ะๆ อันนี้ต้องอาศัยความชำนาญและการใส่ใจของคนปรุงทีเดียว เพราะครัวไทย/ครัวจีน ใช้ความชำนาญเป็นหลัก ไม่ค่อยอาศัยดูนาฬิกา และถ้าเผลอลวกนานไปหน่อย จะกระด้างและเหนียวได้ แต่ที่นี่ ลวกจนได้  texture ของกึ๋นกรุบกรอบแต่ไม่เหนียว ส่วนไส้ก็นุ่มอ่อน แต่ก็ยังกรุบ เคี้ยวเล่นเพลินลิ้นและได้รสชาติของน้ำพะโล้ปรุงที่ราดมา ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋น ก๋วยเตี๋ยวที่นี่มีสองแบบ คือ ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นและเป็ดพะโล้ ปกติชอบสั่งเป็ดพะโล้ วันนี้เลยลองเปลี่ยนรสชาติ มาเลือกสั่งบะหมี่เป็ดตุ๋นดูบ้าง  หน้าตาน่ากินอย่างที่เห็นนี่ละค่ะ บะหมี่ไข่เหนียวนุ่ม น้ำพะโล้ได้รสชาติเครื่องยาจีน กำลังดี ไม่ฉุนหรือขมจนเกินไป ทั้งหอมและกลมกล่อม เป็ดตุ๋นก็เนื้อเปื่อยกำลังเหมาะ เพราะตุ๋นเพิ่มในน้ำพะโล้อีกกว่าชั่วโมง จมนิ่มและร่อนออกจากกระดูก ซุปพะโล้เข้มข้นเคี่ยวด้วยเครื่องยาจีนและกระดูกเอียเล้ง สำหรับร้านเป็ดพะโล้แล้วน้ำพะโล้คือหัวใจ สำคัญที่พิสูจน์ฝีมือพ่อครัว บ๊วยโภชนาใช้สูตรดั้งเดิมที่สร้างชื่อมาตั้งแต่สมัยบรรทัดทอง คือใช้เครื่องพะโล้ที่มีเครื่องยาจีนหลากหลายชนิดไปผัดในกระทะก่อน แล้วจึงนำมาต้ม เคี่ยวเป็นน้ำซุปพะโล้ เพื่อที่จะเพิ่มความหอมหวลให้กับน้ำซุป พร้อมกันนั้น ยังทำให้ได้รสชาติกลมกล่อมหอมอร่อยมากขึ้น เพราะจะไม่มีความขม ความฉุนของเครื่องยาจีนออกมาจนกลบรสเป็ด.... เป็ดพะโล้ ส่วนตัวแล้ว ชอบกินเป็ดพะโล้มากๆ และที่นี่ก็ทำได้อร่อยจริง เค้าใช้เป็ดเชอร์รี่ ตัวใหญ่ เนื้อหนา หนังน้อย ทำให้เมื่อต้มในน้ำพะโล้แล้ว ได้เนื้อเป็ดที่นุ่มทั้งชิ้น ชุ่ม ไม่แห้ง ไม่กระด้าง เคี้ยวเต็มๆ คำ สำหรับคนชอบเผ็ดอย่างเรา จิ้มในพริกน้ำส้มซะนิดหนึ่งก่อนเข้าปาก อร่อยยอดเยี่ยม!!! ปีกเป็ดอบหม้อดิน หนึ่งในเมนูอบหม้อดินขึ้นชื่อของร้านนี้ ที่ทุกโต๊ะมักจะสั่ง โต๊ะข้างๆเรา เป็นหนุ่มจีนฮ่องกง เห็นท่าโซ๊ยของเค้าแล้ว การันตีความอร่อย จนเราต้องสั่งบ้าง แถมตะกละ สั่งลิ้นเป็ดอบหม้อดินมาลองอีกหนึ่งด้วยสิ หม้อดินร้อนควันฉุย เปิดฝาออกมานี่ส่งกลิ่นหอมตลบชวนน้ำลายสอ ปีกเป็ดนี่ เนื้อเปื่อย กระดูกนุ่มแทบจะเคี้ยวกินได้ ลิ้นก็เหมือนกัน แต่เรากลับคิดว่า ลิ้นเปื่อยไปนิด เพราะคนกินลิ้น ส่วนใหญ่จะชอบความกรุบๆ เวลาเคี้ยวนะ แต่ที่มีแน่ๆ คือความอร่อยเข้มข้นที่น้ำพะโล้ จานนี้จะกินเล่นหรือกินแบบอิ่มกับข้าวสวยร้อนๆ ก็ได้ คะน้าลวกราดน้ำมันหอย มาทีไรก็ต้องสั่งเมนูนี้เสมอ... สั่งมาทีไรก็ไม่ผิดหวัง เพราะเค้าลวกแบบพอเหมาะ ใบคะน้ายังเขียว และก้านยังกรอบอยู่ กินแนมกับพวกอบหม้อดินดีนักเชียวละ ใครที่อยากตามมาชิม อย่ามาตอนเย็นนะคะ บ๊วยโภชนา เปิดถึงห้าโมงเย็นเท่านั้น แต่เปิดขายทุกวันค่ะ ร้านอยู่ริมถนน ตรงข้ามสตาร์บัคทองหล่อ เยื้องๆกับซอยทองหล่อ 13 หาที่จอดรถได้ตามถนนค่ะ หรือไม่งั้นก็เข้าไปจอดตามมอลล์แถวนั้น ดูวันคู่วันคี่และเวลาจอดริมถนนให้ดีนะคะ จะได้ไม่มีปัญหานะจ๊ะบอกให้... ร้าน บ๊วยโภชนา (Buay Phochana) เปิดทุกวันตั้งแต่ 09.30-17.00 น. โทร 02-3927320 --------------------------------------------------- ขอบคุณที่มา //blog.finestme.com/   Create Date : 29 พฤศจิกายน 2555     2 comment Last Update : 3 ธันวาคม 2555 11:41:59 น.     Counter : 3459 Pageviews.   Share Tweet

อาหารสไตล์อินดี้ อาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น อาหารแบบอีสานแนว ๆ @ร้าน Kooon สุขุมวิท 26 ชื่อร้าน : ร้าน Kooon รายการอาหาร : ส้มตำดอกรัก, เห็ดออรินจิ, เห็ดทอดคาราอาเกะ, ไก่ย่างเกลือ, กุ้งย่างซอสซีฟู้ด, เนื้อย่างแจ่ว, ซุปข้นดอกกะหล่ำ, ต้มแซบเอ็นแก้ว, ต้มแซบเอ็นแก้ว, ปลาหมึกย่างซอสซีฟู้ด เวลาเปิดบริการ : เปิดบริการทุกวัน (17.00 – 24.00 น.) ที่ตั้งร้าน : สุขุมวิท 26, กรุงเทพมหานคร คลองเตย Thailand พิกัด GPS : 13° 43' 7.12" N 100° 34' 11.79" E ดูแผนที่เพิ่มเติม ----------------------------------------------------------------------------------- ร้าน Kooon@สุขุมวิท 26 ร้าน Kooon เป็นร้านหนึ่งใน หมู่บ้านญี่ปุ่นนิฮอนมาชิ (Nihonmachi) ที่สุขุมวิทซอย 26 แต่เข้าทางพระรามสี่ซอยติดบิ๊กซีก็ใกล้ ที่สนใจ ร้าน Kooon นี้เพราะมีอะไรพิเศษ ๆ หลายอย่าง ตั้งแต่บรรยากาศของร้านที่แบ่งเป็นสองโซน คือโซนอบอุ่นมีเบาะนุ่มนั่งสบาย กับโซนวัยรุ่นที่ชอบกินดื่มแบบนั่งไม่ติดที่ ก็เห็นเค้ามาปาร์ตี้กันน่าสนุก จุดแตกต่างของ ร้าน Kooon คือ การสั่งอาหารด้วย iPad ที่ติดตั้งไว้ที่โต๊ะ โต๊ะละสองเครื่องเลย กดดูเมนูประเภทต่าง ๆ พร้อมภาพสวย ๆ จนน้ำลายสอ พอนั่งปุ๊บ พนักงานจะเข้ามาแนะนำการใช้ iPad สั่งอาหาร แต่ถ้าไม่ถนัดก็สั่งกับพนักงานก็ได้ พอกดส่งออเดอร์เข้าครัวปั๊บ เชฟก็จะลงมือทำอาหารให้คุณทันที อาหารจึงมาได้รวดเร็วโดยพนักงานไม่ต้องเดินไปเดินมา ไปหลายคนช่วยกันสั่งช่วยกันกดสั่งอย่างเพลิดเพลิน  และสามารถกดดูราคาได้ด้วยตัวเองก่อนเช็กบิล iPad ของ ร้าน Kooon นี้นอกจากใช้สั่งอาหารแล้ว ยังเล่นเกมได้ด้วย เด็ก ๆ จะติดใจมาก น่าสังเกตว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของ ร้าน Kooon จะเป็นชาวต่างชาติทั้งฝรั่งและญี่ปุ่น คงจะเป็นขาประจำที่ชื่นชอบบรรยากาศและอาหารสไตล์อินดี้ คนไทยอย่าให้น้อยหน้าเขานะคะ อาหารที่ ร้าน Kooon นี่มาครั้งหนึ่งก็ลองได้หลายเมนู เพราะมาในจานเล็ก ๆ แต่รสชาติใหญ่คับจาน ในราคาไม่สูงมากนัก ลองดูรูปใน iPad ไปเรื่อย ๆ อาจเผลอกดสั่งมาเต็มโต๊ะจนไม่มีที่วาง เป็นอาหารปิ้งย่างทั้งสไตล์ญี่ปุ่นและแบบอีสานแนว ๆ ที่ปรุงร้อน ๆ มาจากครัวที่กั้นกระจกใส คุณจึงสามารถมองเห็นเชฟทำอาหารโดยไม่ต้องกลัวกลิ่นควันมารบกวน มาดูเมนูยอดฮิตของ ร้าน Kooon กันเลยดีกว่า จานแรกมาแบบอินดี้ ส้มตำดอกรัก ใส่ปูนิ่มมาพูนจาน รสชาติเด็ดดวงมาก ๆ และได้รสชาติขึ้นไปอีกเมื่อคีบทานด้วยตะเกียบไม้สไตล์ญี่ปุ่น หมดจานอย่างรวดเร็ว ไม่สั่งไม่ได้เลยนะคะเมนูนี้ ถ้าชอบเห็ดออรินจิ ที่ ร้าน Kooon นี่มีให้เลือกหลายแบบ ถ้าอยากลิ้มรสชาติแท้ ๆ ของเห็ดออรินจิ ก็สั่งแบบย่าง เห็ดชิ้นใหญ่จะถูกฝานและย่างมาจนได้ที่ หั่นซิกแซ็กอย่างเก๋เป็นชิ้นพอคำและเสียบไม้ใส่จานมาให้พร้อมโรยพริกไทยเล็กน้อย กับมะนาวฝาน แค่นี้ก็อร่อยเกินพอแล้ว แต่ถ้าอยากเพิ่มรสชาติอีกนิด เห็ดทอดคาราอาเกะ ก็กลมกล่อม มาพร้อมซอสครีมให้จิ้มทานอร่อยทุกคำ สังเกตว่าเมนูเห็ดอออรินจินี้ลูกค้าชาวญี่ปุ่นจะชอบสั่งกันมาก เมนูปิ้งย่างมาเป็นไม้ ๆ ที่ ร้าน Kooon นี้มีให้เลือกมากมาย เช่น ไก่ย่างเกลือ กุ้งย่างซอสซีฟู้ด เนื้อย่างแจ่ว ที่เนื้อแสนนุ่ม อร่อยทุกไม้สมชื่อ Kooon ที่ประทับตรามาทุกปลายไม้ ที่ลองแล้วชอบเลยคือ ซุปข้นดอกกะหล่ำ มาแบบแนว ๆ ใส่ถ้วยแก้วใสใบเล็ก ๆ น้ำซุปสีส้มอ่อน ๆ ฟองฟู ดื่มอุ่น ๆ รสชาติอร่อย หอมดอกกะหล่ำน่าติดใจมาก ที่น่าสั่งอีกอย่างคือ ต้มแซบเอ็นแก้ว แซบสมชื่อ เอ็นแก้วก็กรุบอร่อย น้ำซุปรสแซ่บแบบตาสว่างได้ทันที ใครทานเผ็ดไม่เก่งควรหาเครื่องดื่มเย็น ๆ ไว้จิบใกล้ ๆ ตัวนะคะ เมนูกระทะร้อนพากันลำเลียงมาแล้ว เริ่มด้วย ไก่กระทะร้อนซอสโหระพา ชิ้นพอดีคำรสจัดกำลังดี หอมใบโหระพา ทานไก่แล้วลองปลาหมึกด้วยก็ได้ในซอสเดียวกัน อร่อยไม่แพ้กันเลย หรือจะเป็นปลาหมึกย่างซอสซีฟู้ด ก็แซ่บไปอีกแบบ ที่ ร้าน Kooon นี่ซอสแต่ละชนิดขึ้นชื่อมาก ลองชิมหลาย ๆ อย่างว่าคุณชอบแบบไหนมากที่สุด อาหารอีสานแบบ fusion อย่างนี้ ต้องมีเครื่องดื่มไว้จิบเคียงข้างไปด้วย ที่ ร้าน Kooon นี่เด่นด้วยค็อกเทล และเบียร์ต่าง ๆ รวมทั้งเบียร์ค็อกเทล และยังมีน้ำสมุนไพรอร่อย ๆ ให้เลือกสั่งอีกด้วย เช่นน้ำตะไคร้หอม ๆ เป็นอารมณ์ชิล ๆ ที่ได้จิบเครื่องดื่มรสดี แกล้มอาหารสารพัดเมนู ที่สั่งได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ดูรูปสวย ๆ ยั่วน้ำลายกันแล้ว หลายคนคงเปรี้ยวปากอยากจะชิมบ้าง ไปเลยค่ะที่ ร้าน Kooon หาไม่ยาก อยู่สุขุมวิท 26 ติดกับทางเข้าที่จอดรถ K-Village หรือเข้าทางพระรามสี่ที่ซอยอรรถกวี 3 ติดกับบิ๊กซี เห็นซุ้มญี่ปุ่นใหญ่ ๆ ตกแต่งไฟสว่างไสว ของ นิฮอนมาชิ (Nihonmachi) ก็เลี้ยวรถเข้าไปเลย มีที่จอดรถเยอะแยะ ร้าน Kooon จะอยู่ชั้นล่างขวาสุดของอาคาร เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 17.00 – 24.00 น. โทรจองโต๊ะได้ที่ 02-258 2679 ชวนเพื่อน ๆ ไปกันเยอะ ๆ นะคะ ไม่ผิดหวังแน่นอน บอกเสียก่อนว่าไม่ใช่อร่อยอย่างเดียว แต่การจัดจานก็สวยแปลกแตกต่างอย่างน่าชมในความพิถีพิถันของครัว Indies  เป็นอารมณ์สุนทรีย์ที่มีอยู่ทุกขณะที่คุณนั่งอยู่ใน ร้าน Kooon ขอบคุณที่มา //blog.finestme.com/   Create Date : 28 พฤศจิกายน 2555     0 comment Last Update : 3 ธันวาคม 2555 11:42:32 น.     Counter : 3509 Pageviews.   Share Tweet