ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝัน...

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ได้ไปเล่นบ้านเพื่อน และเพื่อนของเขาก็ได้แนะนำให้เค้ารู้จักกับเครื่องเล่นวิดิโอเกมที่ชื่อ "แฟมิลี่ คอมพิวเตอร์" เขายังจำประโยคที่เพื่อนพูดกับเขาได้ว่า "นี่คันบังคับหนึ่งของเรา นายเอาคันบังคับสองไป" แล้วทั้งคู่ก็นั่งเล่นเกมคอนทร้ากันอย่างสนุกสนาน เด็กคนนั้นจำได้ว่า เขาเหมือนได้ค้นพบของเล่นชิ้นใหม่ ที่ไม่เคยนึกเลยว่ามันจะมีอิทธิพลกับเขาไปตลอดชีวิต

เด็กคนนั้นเติบโตขึ้นมาพร้อมกับ "วิดิโอเกม" ตลอด เขาเริ่มรู้สึกว่า เขาขอบที่จะเล่นมัน เขารักที่จะเล่นมัน เขาทึ่งมากๆว่า คนที่สร้างเกมเหล่านี้ออกมา ทำได้ยังไงกัน? ตัวละครในเกมมันถึงได้มีชีวิตจิตใจพร้อมผจญภัยไปกับผู้บังคับหน้าจอทีวีได้อย่างไม่บิดพลิ้ว

เด็กคนนั้นโตขึ้น พร้อมกับเทคโนโลยีวิดิโอเกมที่มากขึ้นด้วย จากภาพคนสี่เหลี่ยมๆเป็นจุดๆ ค่อยๆมีสีสันสวยงามสมจริงขึ้น จนถึงยุคที่เครื่องเกมสามารถสร้างภาพโพลีกอนสามมิติ มีแสงเงามีความลึก เพิ่มความสนุกสนานไม่ต่างอะไรกับนั่งชมภาพยนตร์ชั้นดีเรื่องหนึ่ง แต่ว่าเป็นภาพยนตร์ที่เขาควบคุมตัวเอกในนั้นได้ดั่งใจนึก

มีครั้งหนึ่งที่เด็กคนนั้นหลงก้าวเข้าไปในเส้นทางแห่งความมืด เขาทำการ "ขโมย" แผ่นเกมจากร้านเกมเจ้าประจำทีั่เขาไปเล่นเสมอๆ เพราะคิดว่าแผ่นเกมบางเกมไม่มีคนเล่นเท่าไหร่ เขาเอาไปก็คงไม่มีอะไร แต่อย่างไรการขโมยก็เป็นเรื่องผิด เขาถูกจับได้ เขาถูกเรียกผู้ปกครองมาพบ และแจ้งเรื่องให้ทราบ ผู้ปกครองของเขาให้อภัย แต่ก็มีอคติกับของรักของชอบของเขา "วิดิโอเกม" ถูกมองว่าเป็นของเล่นสำหรับเด็ก และบางครั้งก็ล่อลวงเด็กไปในทางที่ผิด เขาต้องทนกับคำต่อว่าของผู้ปกครองเสมอเมื่อเห็นเขาเล่นเกม

แต่มันคงจะเข้าไปในสายเลือดเขาแล้วจริงๆ เขายิ่งเล่นยิ่งพบว่า เขารักมันมาก คนบางคนอาจจะรักการปลูกต้นไม้ คนบางคนอาจรักสัตว์เลี้ยง สำหรับเขา เขารักวิดิโอเกม! ไม่เพียงแต่เล่นมันเท่านั้น เขายังรู้สึกว่า เขาอยากจะเป้นคนที่สร้างสรรค์เกมให้คนอื่นเล่นบ้าง เขาอยากเป็นนักสร้างเกม!

เด็กคนนั้นเติบโตขึ้นเป็นหนุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัย เขาเลือกเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ แต่ก็พบว่า ตัวเขาเองไม่ได้ชอบมันเท่าไรนัก และเรียนได้ไม่ค่อยดีเสียด้วย การเรียนไม่ดีของเขาทำให้เขาเรียนจบช้ากว่าเพื่อนๆไปถึง 3 ปี ยิ่งหลักสูตรที่เรียน 5 ปีของคณะนี้ด้วยแล้ว ทำให้เขาใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยนานถึง 8 ปี เพื่อนๆรุ่นเดียวกันบางคนทำงานแล้ว บางคนศึกษาต่อ เขาเพิ่งจะจบออกมาได้

ถึงจะบอกว่าไม่ชอบอย่างไร แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าการเรียนในคณะนี้สูญเปล่าเลย หลายปีในรั้วมหาวิทยาลัยได้สอนอะไรเขามากมาย สิ่งสำคัญที่สุดก้คือกระบวนการการคิด เขาคิดเป็น เขาทำงานเป็น ในช่วงปีสุดท้ายเขาได้ประสบการณ์ทำงานด้านกราฟฟิคจากการแนะนำของรุ่นพี่ แน่นอนว่ามันยังไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากทำที่สุด แต่เขาก็ทำมันไปเพื่อหาประสบการณ์

ในไม่ช้าเขาพบว่าเขาทำมันได้ค่อนข้างดี วูบหนึ่งเขาคิดจะล้มเลิกความฝันในการเป็นนักสร้างเกมแล้วใช้ชีวิตประกอบอาชีพแบบเดียวกับคนอื่นๆ เขารู้ดีว่าอาชีพ "นักสร้างเกม" มันก็เหมือนความฝัน บางคนไม่รู้ว่ามีอาชีพนี้อยู่ด้วยซ้ำ บางคนที่รู้ก็บอกว่ามันเป็นไปได้ยาก ยิ่งในประเทศไทยที่ไม่ได้มีเส้นทางสำหรับอาชีพในฝันนี้โดยตรงเท่าไร ยิ่งทำให้โอกาสเป็นไปได้ลดลงอาจจะน้อยกว่าหนึ่งในร้อยด้วยซ้ำไป

เขาเรียนจบจนได้ เมื่อเรียนจบ เพื่อนของเขาแนะนำให้เขารู้จักกับนักธุรกิจใหญ่รายหนึ่งที่มีแผนการจะลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ และจากการคุยกันถูกขอทำให้นักธุรกิจท่านนั้นอยากจ้างเขาให้เป็น "นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์" ให้ได้ ด้วยเงินเดือนที่สูงมากสำหรับเด็กจบใหม่อย่างเขา ทำให้เขายิ่งรู้สึกว่า หรือฉันจะประกอบอาชีพนี้ดี? อาชีพที่บอกไปใครก็มองว่าโอ้โห มั่นคงนะ ดีนะ อนาคตไกลนะ

เขาตอบตกลง...





.....แต่เขาเปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้าย เขาบอกปฏิเสธไปพร้อมกับให้เหตุผลว่า "มีสิ่งที่เขาอยากทำมากกว่านั้น" นักธุรกิจท่านนั้นยอมรับในการตัดสินใจของเขาแต่โดยดี แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหางานในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเวลาที่เหตุบ้านการณ์เมืองร้ายแรงถึงขั้นวิกฤติ เขาส่งใบสมัครงานไปเป้นสิบที่ บวกกับพอร์ตโฟลิโอผลงานมากมายที่เคยทำมา แต่ไม่มีวี่แววการตอบกลับแม้แต่น้อย....

เขาเริ่มถอดใจ เดิมทีเขากะจะพักผ่อนหลังจากการเรียนการทำวิทยานิพนธ์ที่หนักหน่วงแค่ราวๆหนึ่งเดือน แต่สองเดือนผ่านไปแล้ว สามเดือนผ่านไปแล้ว เขาคิดว่าหรือสิ่งที่เขาตัดสินใจมันอาจจะผิด เขาหลงทาง...เหมือนที่เพลงว่าไว้....แต่ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝันใช่ไหม? เพลงก็ว่าไว้อย่างนั้นเหมือนกัน เขานั่งนิ่งรออย่างอดทน ประสบการณ์ชีวิตของเขาบอกว่า ขอแค่เราอดทนรอเวลา จะต้องได้พบกับเรื่องดีๆแน่นอน

แล้วเขาก็ได้พิสูจน์ให้ตัวเองทราบอีกครั้งว่า เขาตัดสินใจไม่ผิด การรอคอยไม่สูญเปล่า เมื่อเขาได้รับการติดต่อจากอดีตเพื่อนร่วมงานว่า ทางบริษัทผลิตเกมชั้นนำแห่งหนึ่ง ตกลงนัดสัมภาษณ์เขา เพื่อเข้าทำงานในตำแหน่งเกมดีไซเนอร์!

หลายคนบอกว่าเขาโชคดี แต่เขารู้ว่าไม่ใช่ เขาเคยอ่านพบจากที่ไหนสักแห่งถึงสมการแห่งชีวิต สมการนั้นเขียนไว้ว่า

ความโชคดี = โอกาส+การเตรียมพร้อม

เขาลืมนึกไปเลยว่า เมื่อสองปีก่อน...เขาเคยอ่านพบประกาศรับผู้สนใจเข้าอบรมด้านการทำเกม และเขาก็สมัครไป พร้อมทั้งผ่านหลักสูตรนั้นมาอย่างครบถ้วน อีกทั้งยังเคยส่งงานเข้าประกวดจนได้รับการติดต่อให้ทำเกมจากบริษัทชั้นนำแห่งหนึ่ง บริษัทที่ว่านั้นก็คือบริษัทที่รับเขาเข้าทำงานในวันนี้นั่นเอง เส้นทางการดำเนินชีวิตในวันนี้ของเขาถูกกรุยทางไว้แล้วตั้งแต่สองปีก่อน!

สองปีที่ยาวนาน สองปีที่เต็มไปด้วยอุปสรรค และความเหนื่อยยากจนเกือยจะล้ม ท้อแท้หลายหน แต่ไม่ยอมเลิก ไม่ยอมทิ้งความฝัน วันนี้ "เขา" คนนั้น ชื่อเล่นว่าแก๊ป ชื่อในเวบบอร์ดหลายแห่งจะรู้จักเขาในนามของ CARAGIO วันนี้ นายคาราจิโอ้คนนั้นได้ประกอบอาชีพ "เกมดีไซเนอร์" เป็นวันแรกแล้วครับ

ผมเป็นเกมดีไซเนอร์แล้วครับทุกท่าน

ผมจะได้สร้างเกมแล้ว

วงทนงษ์ ชัยณรงสิงห์เคยบอกว่า วิธีเดียวที่จะจัดการกับความฝัน คือการลงมือทำ

วันนี้ผมจัดการกับความฝันได้แล้วครับ

และขอเป็นกำลังใจให้กับ "นักจัดการความฝัน" ที่ยังจัดการไม่สำเร็จอีกหลายๆท่าน

ท่านไม่ได้ทำไม่สำเร็จ

ท่านแค่ "ยังทำไม่สำเร็จ" ต่างหาก

แด่นักล่าฝันทุกท่าน (ที่ไม่ใช่AF) ครับ




Create Date : 08 มิถุนายน 2553
Last Update : 8 มิถุนายน 2553 8:16:32 น. 2 comments
Counter : 677 Pageviews.

 
... ขอบคุณสำหรับเรื่องที่นี้ค่ะ

... อ่านแล้วทำให้รู้สึกดีขึ้นมากๆ เลยค่ะ

... เป็นสมการที่ทำให้เห็นความจริงในโลกนี้ ตราบที่เราไม่มีการเตรียมพร้อมและโอกาสที่ดี เราคงไม่รู้จักคำว่า "โชคดี"
ความโชคดี = โอกาส+การเตรียมพร้อม


โดย: SIMAKHA วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:8:47:06 น.  

 
เคยมีความฝันอยากเป็นเกมดีไซเนอร์เหมือนกันเลยขอรับ *O*

เพราะอิทธิพลจากพ่อ(ออสโมซิสกันมาเรื่องความบ้าเกม)

แต่มาถึงตอนนี้ก็รู้แล้วว่าตัวเองมีความสุข(มาก) เมื่อได้เล่นเกมดีๆสนุกๆมากกว่า

ดีจังเลยที่ได้ทำตามความฝันของตัวเองนะงับ ถึงเส้นทางจะอ้อมๆคดเคี้ยวไปบ้าง แต่สุดท้ายก็มาถึงตรงนี้ได้

ดีใจด้วย และจะรอติดตามโปรเจคของพี่นะ ^ ^
ส่วนหัวส้มก็ขอเป็นผู้เสพเกมต่อไป -w-


โดย: เด็กหัวส้ม วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:10:40:11 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

CARAGIO
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด
คนฉลาดตกเป็นทาสของคนแกล้งโง่
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add CARAGIO's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.