ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
เที่ยวสัตหีบ One day trip ที่เกาะแสมสาร

มาถึงเกาะแสมสาร ถ้าไม่ได้ทักทายโลกใต้ทะเลก็กระไรอยู่   เตรียมเสื้อผ้าให้พร้อม ทาครีมกันแดดให้เต็มที่ แล้วออกไปท้าสายลมแสงแดด บนหาดทรายขาวๆ ในน้ำทะเลใสๆ กัน


>>>รู้จักเกาะแห่งการเรียนรู้  จากยอดเขาหมาจอที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาฯ เราจะเห็นทิวทัศน์ของหมู่เกาะแสมสารที่ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่ทั้งเก้าเกาะ ได้แก่ เกาะขาม เกาะแรด เกาะปลาหมึก เกาะจวง เกาะจาน เกาะโรงโขน เกาะโรงหนัง เกาะฉางเกลือ และเกาะแสมสาร อันเป็นจุดหมายปลายทางของเรา  พื้นที่ทั้งหมดของหมู่เกาะแสมสารอยู่ในความดูแลของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ  เจ้าหน้าที่ของหน่วยฯ ผู้บรรยายให้ความรู้และดูแลนักตลอดระยะเวลาที่ทำกิจกรรมอยู่บนเกาะ จะได้รับการเรียกขานว่า "มนุษย์กบ" ในบรรดาเกาะทั้งเก้าของหมู่เกาะนี้ เกาะแสมสารเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุด อยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 1.8 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 2,738 ไร่ 3 งาน 36 ตารางวา มีชายหาดทั้งหมด 6 หาด คือ หาดเทียน หาดหน้าบ้าน หาดลูกลม หาดกรวด หาดเตย และหาดแหลมฝรั่ง

หลังจากซื้อตั๋วที่ท่าเทียบเรือเขาหมาจอเรียบร้อย เรือประมงลำใหญ่ก็พาเราออกจากฝั่งเป็นเที่ยวแรกเมื่อเวลา 09.00 น.  นั่งรับลมชมบรรยากาศไม่ถึง 20 นาที เรือก็จอดเทียบท่าที่เกาะแสมสาร จุดแรกที่เรามุ่งไปคือศาลาบรรยายความรู้และประวัติความเป็นมาของเกาะแสมสารซึ่งอยู่ใกล้กับท่าเรือในอดีตเกาะแห่งนี้เป็นที่ตั้งของชุมชนกว่า 200 หลังคาเรือน  ชาวชุมชนส่วนใหญ่ทำประมง กระทั่งมีนายทุนมาจับจองพื้นที่สร้างบังกะโลและที่พัก ทรัพยากรธรรมชาติจึงถูกถางทำลาย ต้นแสมสารซึ่งเคยมีมากจนกลายเป็นที่มาของชื่อเกาะ ก็ถูกทำลายไปจนเกือบสูญพันธุ์ จนกระทั่งปี 2517 เมื่อกองทัพเรือเริ่มเข้ามาดูแลพื้นที่เกาะแสมสารเพื่อการอนุรักษ์ ชุมชนแสมสารที่เคยอาศัยอยู่บนเกาะก็เริ่มย้ายไปตั้งถิ่นฐานบนฝั่งที่อยู่ตรงข้ามกับเกาะ หรือชุมชนแสมสารในปัจจุบัน  

หลังจากกองทัพเรือทำการสำรวจ ก็พบว่าทรัพยากรธรรมชาติบนเกาะมีความอุดมสมบูรณ์มาก ทั้งพบพันธุ์ไม้หายากจำนวนมากมาย ในปี 2536 ได้เกิดโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ. สธ.) ขึ้น โดยมีจุดประสงค์คือเชิญชวนให้หน่วยงานต่างๆ รักษาพื้นที่ในส่วนที่มีพืชพันธุ์ดั้งเดิมขึ้นอยู่ เพื่ออนุรักษ์พันธุกรรมพืชเหล่านั้นกองทัพเรือนำโดยคณะปฏิบัติงานบริหารงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ ของ ดร. พิศิษฐ์ วรอุไร จึงทำการสำรวจบริเวณเกาะแสมสารอีกครั้งในปี 2540 ปี 2541 มีความเห็นสรุปหลังการสำรวจว่า เกาะแสมสารมีความหลากหลายของพันธุ์พืช จึงเหมาะสมที่จะทำการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช กองทัพเรือจึงขอเข้าร่วมสนองพระราชดำริในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ โดยให้เกาะแสมสารและเกาะข้างเคียงอีก 8 เกาะร่วมเป็นพื้นที่ดำเนินการ นับเป็นพื้นที่แรกที่กองทัพเรือเข้าร่วมในโครงการนี้

>>> เรียนรู้แบบ one day trip ตั้งแต่ยอดเขาถึงใต้ทะเล เมื่อได้ความรู้แบบแน่นปึ้กแล้ว ก็ถึงเวลาสัมผัสของจริงกับห้องเรียน ธรรมชาติ เกาะแสมสารมีสิ่งน่าสนใจให้คุณเที่ยวได้ตั้งแต่ยอดเขาจนถึงใต้ท้องทะเล เรียกว่าครบรสตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้ายันเย็น  เริ่มต้นกิจกรรมเรียกเหงื่อด้วยเส้นทางศึกษาธรรมชาติตามรอยเสด็จฯ หรือเส้นทางที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระดำเนิน ทอดพระเนตรการดำเนินงานของโครงการฯ เมื่อปี 2541 และ 2545 นั่นเอง เส้นทางศึกษาธรรมชาตินี้มี 2 เส้นทาง คือ เส้นทาง 450 เมตร และเส้นทาง 1,100 เมตร เส้นทาง 450 เมตรเป็นทางราบระยะสั้นเดินสบายๆ  พันธุ์ไม้ สองข้างทางมีป้ายบอกชื่อและสรรพคุณไว้อย่างชัดเจน  ไม้เด่นคือไม้วงศ์พลอง ซึ่งเป็นไม้พุ่มเตี้ย มีทั้งพลองใบใหญ่ พลองใบเล็ก และพลองเหมือด เนื้อไม้นำมาทำอุปกรณ์การเกษตรได้  ไม้มีค่าอย่างเทียนทะเล จันทน์ผา ก็พบมากเช่นกัน  

นอกจากนี้ยังมีต้นมะนาวผี จำปีแขก ช้ามะขามป้อม มะพลับดง ชำมะเลียงป่า ถอบแถบเครือ ลำบิดดง และอีกหลายชนิดซึ่งเป็นพืชสมุนไพรมีสรรพคุณทางยา รวมทั้งพันธุ์ไม้ชนิดใหม่ของไทยอย่างเฟินกูดหางนกที่พบเป็นครั้งแรกบนเกาะแสมสาร จากเส้นทาง 450 เมตรสามารถเดินทะลุไปยังเส้นทาง 1,100 เมตรได้  คุณจะต้องออกแรงเดินขึ้นเขาลูกเตี้ยๆ ราว 3 ลูก  ระหว่างทางมีพรรณไม้ให้ชมเช่นเดียวกับเส้นทางแรก แต่มีของแถมคือจุดชมทิวทัศน์ที่จะมองเห็นได้ทั้งชุมชนแสมสาร ท่าเทียบเรือ และเกาะน้อยใหญ่ ท่ามกลางท้องฟ้าและน้ำทะเลสีสดในมุมมอง 180 องศา เป็นบรรยากาศซึ่งทำให้ลืมความเหน็ดเหนื่อยได้เป็นอย่างดี

จากเส้นทางเดินป่า หากยังมีแรงเหลือก็ออกแรงเดินแบบ ท ทหารอดทนไปยังหาดเทียนหรือหาดลูกลมได้ แต่ถ้าอยากออมแรงไว้ดำผุดดำว่ายชมปะการัง ก็สามารถใช้บริการรถทหารนั่งกินลมชมธรรมชาติรอบเกาะไปยังจุดดำน้ำของทั้งสองหาดได้  ส่วนอีก 4 หาดนอกจากนี้ คือ หาดหน้าบ้าน หาดกรวด หาดเตย และหาดแหลมฝรั่ง เป็นหาดที่เต่าทะเลจะขึ้นมาวางไข่ราวปลายเดือนพฤษภาคมของทุกปี ทางกองทัพเรือจึงไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม แม่เต่าทะเลจะได้ขึ้นมาวางไข่ได้อย่างสบายอุรา คราวนี้ก็มาถึงไฮไลต์ของเกาะแสมสาร นั่นคือการดำน้ำ ที่ดำได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนเดือนมีนาคม-พฤษภาคม น้ำทะเลจะใสปิ๊งและคลื่นลมสงบ เมื่อมาถึง ใช่ว่าชุดพร้อมอุปกรณ์พร้อมแล้วจะกระโดดตูมลงทะเลได้  คุณครูมนุษย์กบจะสอนทักษะและวิธีใช้อุปกรณ์ดำน้ำโดยละเอียดเสียก่อน แม้บางคนจะมีประสบการณ์การดำน้ำมาหลายมหาสมุทรแล้วก็ตามทุกคนแถวตรง หน้ากระดานเรียงหนึ่ง ปฏิบัติ !!!

ขั้นแรก-สวมเสื้อชูชีพให้กระชับตัวเพื่อช่วยพยุงร่างกายไว้เหนือน้ำได้  จากนั้นถ้าใครผมยาวให้รวบเก็บให้เรียบร้อย แล้วค่อยสวมสนอร์เกิล ระวังอย่าให้ผมเข้าไปในสนอร์เกิล เพราะนั่นจะเป็นช่องทางให้น้ำเข้าไปแล้วทำให้สำลักน้ำ  เมื่อชุดและอุปกรณ์พร้อม ก็ไปฝึกดำน้ำบริเวณหน้าหาด โดยต้องเปลี่ยนมาหายใจทางปากให้ชินก่อนด้วย  พอผ่านการทดสอบ คุณครูก็พาลงเรือยาง แล้วปล่อยให้ดำน้ำชมปะการังกันอย่างสนุกสนานน้ำทะเลที่นี่ใสปิ๊งขนาดนั่งบนเรือยังมองเห็นฝูงปลาสลิดหินบั้ง-เขียวเหลือง ที่ชาวบ้านเรียกปลาเสือ แหวกว่ายเป็นจำนวนมาก  ยิ่งเมื่อกระโจนลงน้ำ ความตื่นเต้นยิ่งเพิ่มเป็นทวีคูณ เพราะสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลนั้นช่างมีมากมายหลายสีสัน ปลาการ์ตูนลายสีส้มขาวว่ายคลอเคลียกันอยู่กลางดงดอกไม้ทะเล ปลานกแก้ว ปลาผีเสื้อ ปลาข้างเหลือง ปลาเก๋า รวมถึงหอยมือเสือ หอยเม่น ปลิงทะเล กัลปังหา ปะการังโต๊ะ ปะการังสมอง ปะการังเขากวาง ปะการังโขด ละลานตาแทบจาระไนไม่หมดหากใครอยากชมโลกใต้ทะเลแต่ยังกล้าๆ กลัวๆ เพราะว่ายน้ำไม่แข็ง ขอเชิญชวนให้มาที่นี่

คุณครูมนุษย์กบจะดำน้ำไปพร้อมกับคุณและเฝ้าดูคุณอยู่ไม่ห่างซัมเมอร์นี้ถ้ายังคิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหน เกาะแสมสารเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เราอยากให้คุณมาเยือน  ที่นี่มีท้องฟ้าสีคราม หาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใส และชีวิตใต้ทะเลหลากสีสัน คอยให้คุณมาสัมผัส มาเปิดโลกแห่งการเรียน รู้ และรักษ์ ตั้งแต่ยอดเขาจนถึงใต้ท้องทะเล

หมายเหตุ : การเดินทางไปศึกษาทรัพยากรธรรมชาติบนเกาะแสมสาร ควรประสานงานกับเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า  โทร. 0-3843-2471, 0-3843-2473

>>> ตั๋วเรือ: เปิดขายเวลา 09.00-14.00 น.ผู้ใหญ่ 250 บาท เด็ก 200 บาท (รวมค่าอุปกรณ์ดำน้ำค่าเจ้าหน้าที่นำชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติและค่ารถรับ-ส่งไปยังจุดท่องเที่ยวบนเกาะ)

>>> เวลาเรือ: ให้บริการ 09.00-16.00 น. (ออกทุก 1 ชั่วโมง) สิ่งอำนวยความสะดวกบนเกาะมีสุขาและห้องอาบน้ำบริการ ไม่มีไฟฟ้า 

>>> ไม่มีที่พักและร้านอาหาร แต่ที่ศูนย์อาหารบริเวณท่าเทียบเรือเขาหมาจอ มีบริการรับทำอาหารพร้อมส่งฟรีถึงเกาะให้นักท่องเที่ยวสั่งก่อนลงเรือ




Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2557 8:24:47 น. 1 comments
Counter : 2101 Pageviews.

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:7:35:12 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.