Visionaire 62 Rio แมกกาซีนสุดเจ๋งในแบบสามมิติ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก madeinbrazilblog.com , junejoonjaxx.com , jyasper.com
เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน เคยมีของเล่นที่เป็นกล้องดูภาพการ์ตูนแบบสามมิติ ซึ่งในตอนนั้นเด็กคนไหนที่ได้ลองหยิบมาดูแล้ว ก็ทำให้รู้สึกตื่นเต้น เพลิดเพลิน และสร้างความสนุกสนานได้เป็นอย่างดี และเมื่อมาถึงปัจจุบันเทคโนโลยีสามมิติก็กลับมาได้รับความนิยมมากขึ้นอีกครั้ง อันเนื่องมาจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น ทำให้มีผู้ความคิดแหวกแนวนำไอเดียกล้องดูภาพสามมิติมาทำเป็นแมกกาซีนแฟชั่นสามมิติลงแผ่นฟิล์มแล้วใช้กล้องส่องดู เรียกได้ว่าเป็นไอเดียสุดล้ำและไม่เหมือนใครเลยทีเดียว
วิชั่นแนร์ 62 ริโอ (Visionaire 62 Rio) เป็นแมกกาซีนฉบับที่ 62 ซึ่งเป็นรูปแบบสามมิติของบริษัทวิชั่นแนร์ ผู้ผลิตสิ่งพิมพ์แนวศิลปะและแฟชั่นจากเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เคยคิดคอนเซ็ปท์แมกกาซีนยักษ์ขนาดเท่าคนและแมกกาซีนเสียงมาแล้ว โดยครั้งนี้ทางบริษัทวิชั่นแนร์ได้ว่าจ้างให้บริษัทผลิตแผ่นฟิล์มอรูลิเดน (Aruliden) ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบพัฒนาด้านศิลปะร่วมสมัยจากบราซิล อิกัวเตมิ (Iguatemi) ช่วยกันออกแบบกล้องมองภาพสามมิติ และฟิล์มสไลด์ภาพแฟชั่นหลายรูปแบบ 18 ภาพ โดยภาพสไลด์นั้นดัดแปลงมาจากภาพถ่ายและงานศิลปะของยอดฝีมืออย่าง เมาริซิโอ แคทเทรัน (Maurizio Cattelan), เมิร์ท อลาส แอนด์ มารคัส พิกก็อตต์ (Mert Alas & Marcus Piggott) หรือแม้แต่งานของสุดยอดดีไซเนอร์ คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ (Karl Lagerfeld) เป็นต้น
โดยฟิล์มสไลด์นั้นเป็นแบบภาพคู่กัน ถ่ายด้วยกล้องถ่ายรูป 2 ตัวที่จัดลำดับแสงและระยะของภาพห่างกันเพียงเล็กน้อยซึ่งถ้าดูผ่าน ๆ แล้วแทบแยกไม่ออก โดยนำมาใช้กับกล้องมองภาพสามมิติแบบ 2 เลนส์ในระยะที่ห่างกันเพื่อให้อยู่ในระดับเดียวกับสายตาของคนทั่วไป เมื่อนำภาพสไลด์มาใส่ในกล้อง ก็จะเกิดภาพลวงตาสามมิติที่คมชัดสุดแสนจะบรรยาย เปรียบได้กับตัวกล้องเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ แล้วเรากำลังเดินดูภาพงานศิลปะในงานแสดงภาพสุดหรูเลยก็ว่าได้ สมชื่อกับคำว่า "ริโอ" ที่อิงมาจากเมืองในประเทศบราซิล ที่มีแต่ความตื่นเต้นและสนุกสนานรอบตัว
ด้านกล่องแพ็คเกจบรรจุตัวกล่องและฟิล์มสไลด์นั้นมีด้วยกัน 2 แบบ แบบแรกเป็นฉบับสามมิติที่มีเพียงภาพในฟิล์มสไลด์ให้ดู สนนราคาอยู่ที่ 375 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 12,000 บาท ขณะที่แบบที่สองจะมีทั้งฟิล์มสไลด์และนิตยสารรูปแบบปกติมาให้ด้วย โดยขายในราคา 500 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 16,000 บาท
| Create Date : 13 สิงหาคม 2555 |
| Last Update : 13 สิงหาคม 2555 10:41:13 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 1690 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [
