ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
4 วิธีล้างรถให้สะอาดเอี่ยมเหมือนใหม่

ถ้าเป็นไปได้คงไม่มีใครอยากขับรถที่ฝุ่นเขรอะ สีรถหมองไม่ชวนมองหรอกจริงมั้ย? ซึ่งโดยปกติแล้วสีของรถที่ออกมาจากโรงงานสามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเจ้าของรถละเลยไม่ดูแล โอกาสที่สีจะเสื่อมสภาพเร็วก่อนเวลาอันควรก็มีสูง


    1.ไม่ควรปล่อยทิ้งรถให้เลอะฝุ่นโคลนเป็นเวลานานๆ
เพราะคราบโคลนจะทำให้สีผิวรถเสื่อม รวมทั้งอาจทำให้สารเคมีที่ติดอยู่ในโคลนซึมลึกเป็นอันตรายต่อสีรถ จนเกิดเป็นรอยด่างบนพื้นผิวรถได้

2.หลีกเลี่ยงการจอดรถกลางแจ้งโดนแดดแรงๆ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ควรหาผ้าคลุมรถสักหน่อย และไม่ควรล้างรถขณะที่ผิวรถยังร้อนจัด

3.ล้างรถให้ถูกวิธี โดยเริ่มจากการปัดฝุ่นที่อยู่บนรถก่อนสัก 1  รอบ หลังจากนั้นจึงเริ่มล้างรถไล่จากด้านบนลงมาด้านล่างของตัวรถ สิ่งสำคัญอยู่ที่การใช้ผ้าสะอาดเนื้อนุ่มและน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างรถที่ต้องเลือกให้เหมาะสม สุดท้ายคือเช็ดรถให้แห้งทันที ไม่ปล่อยให้รถแห้งเองเพราะจะทำให้รถเป็นรอยด่างน้ำตลอดคัน

4.เคลือบสีรถยนต์กันฝุ่น หลังจากล้างรถจนสะอาดและเช็ดพอหมาดๆ ให้เทน้ำยาเคลือบสีรถใส่ผ้านุ่มๆ แล้วเริ่มเช็ดวนเป็นก้นหอยให้ทั่วรถ หลังจากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วค่อยเช็ดออก วิธีนี้จะช่วยให้สีรถจะไม่กรอบแตก ทนต่อภาวะต่างๆ ได้ดีขึ้น


    Be Careful: สารเคมีที่อยู่ในน้ำมันเบรก น้ำมันเชื้อเพลิง และทินเนอร์ เป็นสารเคมีที่อาจทำให้รถเป็นรอยด่าง ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงให้สารเคมีเหล่านี้สัมผัสกับตัวรถจะดีกว่า

   ข้อแนะนำเพิ่มเติม:
ก่อนออกเดินทางทุกครั้งอย่าลืมเช็กด้วยว่า รถของคุณได้ทำประกันภัยรถยนต์และประกันยังไม่หมดอายุ เพราะเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา อย่างน้อยก็ยังอุ่นใจว่าประกันภัยจะช่วยแก้ปัญหาและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายแก่คุณได้ค่ะ



     ขอบคุณบทความจาก SILKSPAN.COM




Create Date : 05 เมษายน 2558
Last Update : 5 เมษายน 2558 16:16:37 น. 0 comments
Counter : 1529 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.