พาชมห้อง honeymoon suite และอีกหลายๆมุม @ Avatar (ต่อค่ะ)
เนื่องจากที่รีสอร์ทยังมีมุมสวยๆ อีกหลายมุมที่เราได้ถ่ายรูปมา ก็เลยเอามาแชร์อีกตอนละกันนะคะ...แล้วก็แอบโชว์รูปตัวเองแอนด์คุณสามีไปด้วยละกันนะ อิอิ

รูปแรก ระหว่างนั่งรอ เช็คอินค่ะ มุมนี้เค้ามีหนังสือไว้บริการด้วย คุณสามีถึงกับนอนอ่านอย่างเพลิดเพลิน เหอ เหอ




ระหว่างรอ ก็เดินเล่น ถ่ายรูป ไปเรื่อยๆเปื่อยๆ






มุมนี้อยู่ที่ชั้น 2 ค่ะ




จริงๆอาทิตย์ที่เราจะไปกันนี่ อุตส่าห์ภาวนาให้ฝนตกเลยนะคะ (เป็นครั้งแรกที่ไปเที่ยวแล้วอยากให้ฝนตก) เพราะบรรยากาศเขียวๆของที่นี่ เราอยากให้มันชุ่มช่ำ เขียวขจีมากกว่า จะเดินเล่น ถ่ายรูปแบบสบายๆ ..ปรากฏพอไปถึง โอ้ ! แดดแรงเชียวค่ะ ฟ้าใสมากๆๆ ..นี่ชั้นควรจะดีใจ หรือเสียใจดีเนี่ย 555

สรุป..ช่วงบ่ายก็เลยนอนอุตุอยู่ในห้องแทนค่ะ ก็มันร้อนง่ะ ไม่รู้จะไปไหนดี

จากนั้น ช่วงเย็นๆ แดดร่ม ลมตก ก็ไปว่ายน้ำค่ะ ซึ่งที่คลับเฮาส์เนี่ย (เรียกงี้ละกันนะ) ก็ยังมีมุมสวยๆให้ได้ถ่ายรูปก่อนว่ายน้ำอีกเยอะเลย





มีห้องนั่งเล่น อ่านหนังสือ พร้อมเครื่องเล่นแผ่น (รึป่าว) รุ่นเก่ากึ๊ก



แล้วก็มีห้องสมุดโดยเฉพาะด้วย



ส่วนของสปาก็อยู่ที่นี่ด้วยนะคะ แต่เราไม่ได้ใช้บริการนวด ใช้แต่ซาวน่าเกลือที่เค้าแถมมากับแพคเกจ หน้าตาประมาณนี้ค่ะ



เวลาซาวน่า เค้าก็ให้เรานอนลงไปในนี้ แล้วก็เอาเกลือมากลบทั่วตัวเราเลยค่ะ เค้าบอกว่ามีสรรพคุณหลายอย่าง แต่ทำไปแล้วเรากะแฟนเฉยๆง่ะ แถมมีแสบๆผิวเล็กน้อย

************



ตัดมาเช้าวันรุ่งขึ้นเลยละกันนะคะ อย่างที่บอก คือ ตื่นมาแต่เช้า ขี่จักรยานรอบๆรีสอร์ทกันค่ะ ไปถึงป้ายทางเข้าเลย



คืออิชั้น ตื่นเช้ามากกก หน้าเยินเชียว ขออภัยนะ...


กลับจากขี่จักรยาน ก็มาทานข้าวเช้า แล้วก็อ่านหนังสือเล่น ให้อาหารปลาอยู่ตรงระเบียงแหละ มีความสุขมากก อากาศดี วิวภูเขาเขียวๆ




ล่อหลอกให้ดูรูปเจ้าของ blog มาซะนาน อิอิ ทีนี้ได้เวลาพาไปดูห้อง deluxe suite บ้างแล้วค่ะ ห้อง type นี้จะอยู่ชั้น 2 นะคะ ขนาดห้องเล็กกว่าข้างล่าง แต่เราว่า มันก็กะลังพอดีนะคะ ไม่ได้คับแคบ (ห้องข้างล่างเหมือนจะใหญ่เกินไปด้วยซ้ำ)





ห้องชั้น 2 ก็มีห้องน้ำที่เก๋ไก๋ไม่แพ้กันค่ะ เป็น outdoor shower แต่แบบว่า outdoor จริงๆนะ ถ้าฝนตก หรือ แดดแรงนี่ไม่ต้องอาบน้ำกันเลยค่ะ



และสำหรับวิวชั้น 2 ก็สวยมากๆๆๆไม่แพ้กันเลยค่ะ



สรุป น่าพักทั้ง 2 แบบค่ะ


ทีนี้มาดูห้อง honeymoon suite บ้างนะคะ ห้องใหญ่มากๆๆๆ เปิดเข้าไปเจอโซนนั่งเล่นก่อน





แล้วก็ห้องนอน



มุมกาแฟค่ะ



outdoor shower แบบว่า เปิดโล่งมากๆๆๆ มากจริงๆนะ ลองดูจิ



ส่วนที่สว่างๆอ่ะค่ะ คือ ที่อาบน้ำ แต่ลืมสังเกตว่าจะมี indoor shower ด้วยรึป่าว แต่ก็น่าจะมีนะ ถ้าไม่มีนี่แย่แน่ๆอ่ะค่ะ เหอ เหอ


อ่ะ อ่ะ..สุดท้ายก่อนกลับ ขอเจ้าของ blog เก็กท่าซะรูปนะ



ขอให้คุณสามีมาถ่ายบ้าง....ท่าพี่ท่านนี่...อืมมม เกินบรรยาย




ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้าค่ะ อิอิ





Create Date : 28 สิงหาคม 2550
Last Update : 28 สิงหาคม 2550 17:53:11 น.
Counter : 1454 Pageviews.

3 comment
อ้อมกอดแห่งขุนเขา @ Avatar resort and spa , อุทัยธานี
อาทิตย์หยุดยาวที่ลงประชามติ (19 สิงหา 2550) เราได้ไปเที่ยวที่ อวตาร รีสอร์ท แอนด์ สปา มาค่ะ ตั้งใจจะไปอาทิตย์นั้นอยู่แล้ว ถึงกับลางานวันจันทร์ล่วงหน้า (ไปอาทิตย์ กลับจันทร์ จะได้อัพเกรดห้องเป็น executive suite อิอิ) พอรัฐประกาศวันจันทร์เป็นวันหยุดปุ๊บ..ไชโย ฮูเร่ๆๆๆ ไม่ต้องเปลืองวันหยุดอีกหนึ่งวัน อิอิ แต่ก่อนไป เรากะแฟน ก็ไปลงประชามติเรียบร้อยแล้วนะคะ

รีสอร์ทนี้ อยู่อุทัยก็จริง แต่ว่าอยู่ทาง อ.บ้านไร่น่ะค่ะ ต้องขับไปทางเส้นสุพรรณ แล้วระยะทาง ก็ไม่ไกลเลย แค่ 230 กม. เท่านั้นเอง ขับรถ 3.5 ชม. ก็ถึง ใกล้กว่าที่คิดมากๆ สามารถไป 2 วัน 1 คืนได้สบายๆค่ะ

เราออกจาก กทม. ประมาณ 9 โมง (ใช้สิทธิเรียบร้อย) ไปแวะทานข้าวที่เขื่อนกระเสียวประมาณเกือบๆเที่ยง ที่นี่มีร้าน เรือนข้าหลวง มีปลาเขื่อนสดมากๆค่ะ เราสั่งปลานิลทอดกระเทียม ตัวใหญ่มากๆ ดูจากรูปด้านล่างได้ค่ะ (ตัวใหญ่ขนาดไหน ดูจากช้อนที่เราวางไว้เปรียบเทียบ)



นั่งทานอะไรกันสบายๆที่ร้าน แล้วก็ออกเดินทาง ไปถึงที่อวตาร เวลาเช็คอิน บ่าย 2 โมงพอดีๆ ก่อนดูรูปต้องบอกก่อนเลยว่า ที่นี่มีมุมถ่ายรูปเยอะมากๆๆๆ เค้าออกแบบได้สวยดี และก็มีสไตล์เฉพาะตัว แต่ใครจะชอบไม่ชอบ อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคลนะคะ เราเองไม่ได้ชอบพวกของเก่าๆมากนัก แต่ว่าก็กดชัตเตอร์ไม่ยั้งเลย อยากลงรูปให้ดูเยอะกว่านี้ แต่ว่า กลัวมันจะเปลืองเนื้อที่ของเว็บมากเกินไป เลยให้ดูพอหอมปากหอมคอละกันนะคะ

เริ่มจาก ป้ายทางเข้ากันเลย



พอเข้าไปถึงโถงเช็คอิน ก็จะมีที่ให้นั่งพักรอระหว่างเช็คอิน เราไม่ได้ถ่ายรูปโต๊ะ reception มา เพราะก็เป็นโต๊ะธรรมดาๆน่ะค่ะ



มีบาร์เครื่องดื่ม มานั่ง chill chill ตอนกลางคืนได้ (แต่วันที่เราไป มีแขกมาพัก แค่ 2 ห้องเองแหละ ตรงบาร์นี้ก็เลยเงียบเหงา ไม่มีใครมาใช้บริการ)





ที่นี่มีจักรยานให้ขี่เล่นรอบๆรีสอร์ทด้วย หรือแม้แต่ไปสระว่ายน้ำ หรือ ร้านอาหารก็ขี่ได้ค่ะ เพราะไกลนิดนึงเหมือนกัน เรามีโอกาสได้ขี่ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น จะบอกว่า อากาศดีมากๆ ชมธรรมชาติ ห้ามพลาดค่ะ



เพื่อไม่ให้เสียเวลา ไปดูห้องเลยละกัน อย่างที่บอกตอนต้น เราได้อัพเกรดห้องเป็นแบบ Executive suite ค่ะ เป็นห้องชั้นล่าง ต้องเปิดประตูบ้านเข้าไปก่อน ถึงจะเจอห้อง อิอิ





และแล้วก็เข้าไปดูในห้องกันบ้างนะคะ ซึ่งข้อดีข้อแรกของห้อง exec คือเรารู้สึกว่าห้องกว้างมากๆๆเลยอ่ะค่ะ ถามเค้าถึงได้รู้ว่ามันตั้ง 90 ตรม.แน่ะ









เตียงนอนใหญ่ หลับสบายดีค่ะ



มองกลับไป จะเห็นประตูห้องน้ำ



ทีนี้มาดูห้องน้ำค่ะ ก็กว้างงง อีกนั่งแหละ แล้วก็มีอ่างน้ำใหญ่มากก ไม่เคยเห็นอ่างน้ำ ที่อยู่ในห้องน้ำใหญ่ขนาดนี้ 555 (ถ้า outdoor ก็ว่าไปอย่าง) แล้วที่ชอบ คือ จะมีน้ำตกล่ะ แทนน้ำฝักบัวไปเลย





นี่ก็เป็นข้อดีข้อ 2 ของห้อง type นี้ค่ะ พอเวลาเปิด จะมีน้ำตกลงมาแบบนี้ค่ะ



ส่วนข้อดีอีกอย่างก็คือ ระเบียงห้อง เปิดออกไปจะเป็นแบบนี้



แล้วในบ่อ จะมีปลาเยอะแยะเลยค่ะ ให้อาหารปลาหนุกหนานมากๆ นั่งอ่านหนังสือ ทานขนมบริเวณนี้ อากาศเย็นๆนะ อู๊ยย มีฟามสุข (แต่รูปนี่ถ่ายตอนบ่าย แดดเปรี้ยงง่ะ)



บริเวณระเบียงนี่ก็ต้องบอกว่าใหญ่มาก เหมือนกันอ่ะค่ะ วิ่งเล่น ปูเสื่อนอนได้เลย แต่ว่าไม่ได้เอาเสื่อมาด้วย 555 แต่ยังไงเค้าก็มีที่นั่ง ที่นอนให้ค่ะ



โต๊ะอาหารเช้าของเรา



หมดรูปห้องแล้ว ขอพาไปเที่ยวชม สระว่ายน้ำบ้างละกันค่ะ เราขี่จักรยานไปนะ ไปถึงก็จอดรถไว้หน้าอาคารนี้



บริเวณอาคารนี้เป็นที่ตั้งของสปา และก็มีห้องนั่งเล่น อ่านหนังสือได้ โดยส่วนตัวเราชอบห้องนี้มาก เพราะเก้าอี้นุ่มสบายดี และเป็นห้องโปร่ง ไม่เปิดแอร์ ลมดีมากๆเลย มองออกไปก็เห็นป่าเขาเขียวๆ สบายตา สบายใจ



ทางเดินไปสระว่ายน้ำค่ะ ระหว่างทาง สังเกตุเสาดีๆ เป็น shower อาบน้ำก่อนลงสระ เก๋ดี แต่ว่า ล้างตัวแล้ว กว่าจะเดินลงสระมันไกลจัง



และสำหรับสระว่ายน้ำทีนี่ มี 2 สระใหญ่ๆ โอบล้อมด้วยภูเขาค่ะ โดยส่วนตัวต้องบอกว่า เราชอบมากๆๆๆค่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ infinite pool แต่ว่าการได้ว่ายน้ำท่ามกลางขุนเขา อากาศเย็นๆ มีความสุขจริงๆนะ ได้สูดอากาศดีๆเข้าเต็มปอด วันที่เราไป ไม่มีแขกมาว่าย ว่ายกันอยู่ 2 คน กะแฟน เรียกว่าเป็นเจ้าของกันคนละสระไปเลยย





เราว่ายน้ำเสร็จไม่เย็นมากนัก เพราะอยากดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเย็นของห้องอาหาราของรีสอร์ต ติดใจมุมนี้ค่ะ





เสียดายที่ตอนไป ฝนทำท่าจะตก เลยไม่ได้ทานข้าวเย็นด้านบน ต้องลงมาทานที่ด้านล่าง แต่ด้านล่างก็อากาศดีค่ะ ลมเย็นเหมือนกัน



สุดท้ายก่อนพาชม ห้องอื่นๆ ใน blog ถัดไป ปิดท้ายด้วยรูปอาหารเช้า (อ้าว) เค้านำมาเสริฟถึงห้อง เพราะวันที่พักแขกน้อย ไม่มีบุฟเฟต์ เค้าเสริฟมาใน "ปิ่นโต" ค่ะ น่ารักดี อนุรักษ์ของเก่า แต่อยากบอกว่า มันกินไม่ถนัดเลยอ่ะ เพราะมันเหมาะกับใส่กับข้าวมากกว่า ไม่ใช่ อเมริกัน เบรคฟาสท์ น่ะค่ะ






Create Date : 27 สิงหาคม 2550
Last Update : 27 สิงหาคม 2550 14:28:01 น.
Counter : 2254 Pageviews.

14 comment
ทริปนี้เพื่อแม่ @ ทวาราวดี รีสอร์ท จ.ปราจีนบุรี
เนื่องในโอกาสใกล้วันแม่แล้ว มารำลึกถึงทริปที่ไปกะแม่ดีก่า อิอิ

อย่างที่ชื่อเรื่องบอกเลยค่ะ ทริปนี้เพื่อแม่จริงๆ เพราะว่าคุณแม่ต้องไป survey รร.เพื่อการจัดกิจกรรมของบริษัท ลูกที่ดีต้องไปเป็นเพื่อนค่ะ (แต่จริงๆอยากเที่ยวด้วยง่ะ เหอ เหอ)

เราไป survey กันที่ รร.ทวาราวดี จ.ปราจีนบุรีค่ะ ใกล้ๆกทม.เอง ขับรถ 2.30 ก็ถึง เราพักห้อง superior กันค่ะ
(ห้องจะมี 3-4 แบบนี่แหละ คือ standard, superior, suite กะอีกแบบ คือเป็น duplex 2 ห้องนอนประมาณนั้น

รร.นี้ วางตัวเองไว้เป็นรร.ระดับ 4 ดาว และเป็นรร.ที่สร้างมานานกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งพอเค้าบอกอย่างงี้ ทำให้เราไมได้ expect อะไรไว้มากค่ะ อีกอย่างเน้นรับลูกค้าบริษัทมาสัมมนา party ด้วย เพราะงั้นเราก็คิดแล้วแหละว่า ก็คงเป้นห้องรร.ธรรมดา...แต่พอได้เห็นห้องแล้ว ก็ต้องบอกว่าใหม่กว่าที่คิดค่ะ แล้วก็มีการตกแต่ง ใช้สีสันสวยดีเหมือนกัน เรียกว่า ดีกว่าที่คิดไว้มากค่ะ

ดูรูปห้องกันเลยนะคะ









ดูแล้วก็เห็นว่าตั้งใจตกแต่งอ่ะค่ะ อย่างเตียงผ้าคลุมก็ใหม่ สะอาดสะอ้าน ผ้านวมก็นิ่มดี อิอิ มีผ้าไทยมาพาดตกแต่งด้วย เก้าอีนั่งเล่นก็มีหมอนสีสันสดใสมาวาง ดูแล้วดีกว่ารร.บางแห่งที่วางตัวเป็น 5 ดาว แต่ทำได้ไม่เนียนซะอีกนะ

มองจากระเบียงไป ก็จะเห็นป่าเขา เขียวขจีเลยทีเดียว...บางที พอได้หลุดจากภาพตึกเมืองกรุง มามองป่าเขียวๆ ก็เพลินดีเหมือนกันนะคะ



ทีนี้เราก็ได้มีโอกาสไปชมห้อง Suite ของเค้าบ้าง ซึ่งเพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่ มีแค่ 4 ห้องเองค่ะ ส่วนตัวเรา เราว่าสวยมากๆๆเลยล่ะ

เข้าไปถึงปุ๊บจะเจอห้องรับแขกก่อน





เฟอร์ใหม่ทุกชิ้น สีสดใสดี ทีนี้ดูในส่วนห้องนอนบ้าง









ห้องน้ำ แม้ว่าจะรูปทรงธรรมดา แต่ก็มีกระจกกะอ่างล้างหน้าเก๋ไก๋



สำหรับห้อง suite ที่พิเศษนอกจากห้องใหม่ และขนาดใหญ่แล้ว ตัวห้องยังเป็นกระจก 3 ด้าน (แต่ถ่ายรูปออกมาไม่เห็นนะ) ถ้าเปิดม่านออก จะมองเห็นทะเลสาปภายในรีสอร์ท และป่าเขียวๆ...สวยมากๆค่ะ

ตอนแรกเราก็คิดว่าห้องนี้ต้องแพงแน่เลย ประมาณ 5 พันอัพ หรือ ถึงหมื่น แต่จริงๆแล้ว ราคาแค่ 4,500 บ.เท่านั้นเองค่ะ...อืมม..น่าสนๆ

ลืมบอกราคา ห้อง superior ที่เราพัก ก็ราคาแค่ 2,300 บ. เท่านั้นเองค่ะ ถ้าใครจะมาโดยใช้ corperate rate ก็จะถูกลงไปอีกล่ะ ได้ราคาห้องละ 1,800 บ.ค่ะ (โปรโมทให้เสร็จสรรพ เหอ เหอ)

ทีนี้ลองมาดูบริเวณรอบๆบ้างนะคะ..เริ่มจาก lobby





บริเวณรอบๆ เค้าก็ตกแต่งแบบสมัยทวาราวดีน่ะค่ะ มีแบบหินศิลาแลง(เรียกงี้ป่าวไม่รู้) มาวางโดยรอบ





ที่นี่เคยเป็นที่ถ่ายแบบของคุณน้องหยาด (หยาดทิพย์) และอย่างที่บอก ทริปนี้เพื่อแม่ ลองดูแม่อิชั้นเก็กบ้างค่ะ



ไม่แพ้น้องหยาดเลยใช่ป่ะ...อิอิ

สุดท้ายแล้ววว...เนื่องในใกล้วันแม่..รักแม่มากจ้า...




Create Date : 10 สิงหาคม 2550
Last Update : 27 สิงหาคม 2550 12:43:00 น.
Counter : 1986 Pageviews.

7 comment
ฉลองวันเกิด @ Village Farm , วังน้ำเขียว
ทริปนี้เป็นทริปที่ตั้งใจไปฉลองวันเกิดของเราเมื่อปีที่แล้วค่ะ เคยทำรีวิวไว้ทีนึง แต่มือไว ดันไปกด delete blog เฉยเลย ก็เลยหายวับไปกับตา มาคราวนี้เลยขอ แปะรูปล้วนๆนะคะ บรรยายได้ไม่เยอะ เนือ่งจากนานมาก ลืมหมดแล้ว 5555

ห้องที่เราพัก คือห้อง Memory ค่ะ

ราคาห้อง รวม dinner สำหรับ 2 คน ราคาอยู่ที่ 6,000 บาท

ซึ่งเรื่องห้องเนี่ยมีเรื่องตลก ( ปนเศร้าของพี่หยี่ ) คือ ตอนแรกเลยเนี่ย เราจองห้อง Green Leaves ไปซึ่งราคามันจะแค่ 4,800 บาท (ถูกสุดของ Swiss Chalet) แต่พี่หยี่ เค้าอยาก surprise วันเกิดเรา พี่ท่านก็เลยโทรไปเปลี่ยนเป็น Memory เพราะห้องนี้เป็นห้องเดียวที่สามารถมองวิวสวยๆ จากบนเตียงได้ และก็มีระเบียงห้องกว้างที่สุด เห็นวิวสวยที่สุด ประมาณนั้น (พี่แกถามข้อมูลเองเสร็จสรรพ) กะให้เราเห็นแล้ว surprise ประทับใจสุดๆ

ปรากฎว่า มาถึงห้องก็แล้ว จนหลับไปตื่นนึงก็แล้ว อีนี่ ก็ไม่รู้สึกอะไร ยังคงคิดว่าเป็นห้อง Green Leaves ที่จองมา แถมยังบอกว่า เนี่ย ถ้าห้องละ 4,800 เราก็ว่ามันแพงไป ไม่คุ้ม 55555

พี่หยี่เลยต้องเฉลย ถามเราว่า ห้องนี้เหมือนในรูปที่ดูมารึป่าว แต่ปรากฎ อิชั้นจำไม่ได้แล้วค่ะ ก็บอกแล้วว่า ดูมานานมั่กๆๆๆ แล้ว จำไม่ได้ พี่หยี่เลยบอกว่า นี่มันไม่ใช่ห้อง Green Leaves นะ มันห้อง Memory นะ ราคาตั้ง 6,000 กะจะให้ surprise ซะหน่อย แต่อีนี่ไม่รู้เรื่องเล้ยยยยย 5555

มามะ มาดูรูปกันเลยดีกว่า..นี่คือ หลังที่ชื่อว่า Swiss Chalet มีทั้งหมด 6 ห้องค่ะ



เข้ามาดูในห้องเลยนะ ห้องจะเล็กนิดเดียวเองอ่ะ







มาดูห้องน้ำบ้าง





มีอ่างไม้ให้แช่ (ทำมาจากถังหมักไวน์)



หน้าห้อง..จากกระจกตรงนี้มองเห็นวิวสวยๆจากบนเตียงได้ค่ะ ถ้าหน้าหนาว เปิดหน้าต่าง ลมคงเย็นน่าดู แต่ตอนเราไป ไม่มีลมเลย ต้องปิด เปิดแอร์ง่ะ




มีมุมโต๊ะนั่งเล่นเล็กๆหน้าบ้าน



และข้อดีของห้องนี้อีกอย่างคือมีระเบียงหน้าบ้านกว้างมากก ตอนเช้าให้เค้ามาเสิร์ฟอาหารเช้าให้ที่ห้องเลย บรรยากาศดีมั่กๆ



ปิดท้ายด้วยรูปรอบๆรีสอร์ตละกันนะคะ










Create Date : 10 สิงหาคม 2550
Last Update : 27 สิงหาคม 2550 12:43:19 น.
Counter : 1984 Pageviews.

7 comment
1  2  

Beauty & Bambi
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 36 คน [?]



ณ 31/1/2023

นิยามตัวเองได้ว่า เป็นคนชอบ เที่ยว กิน ช๊อป ค่ะ...แต่หลังๆไม่ได้อัพบล็อคเลย มัวแต่เล่น ig กับ เฟส ^^

บล็อคที่เขียนไว้อาจจะนานแล้ว แต่ก็ยังหวังว่าจะพอมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ ถ้าได้เที่ยว (หลังโควิด ) จะมาอัพอีกนะคะ


*** เราไม่ค่อยได้เข้ามาเช็คที่ blog เท่าไร่ ถ้าเพื่อนๆอ่านแล้วมีคำถาม รบกวนถามมาทางอีเมลล์เลยนะคะ (ดูอีเมลล์จาก profile ได้ค่ะ) เรายินดีตอบทันทีค่ะ แต่ถ้ามาทิ้งคำถามไว้ที่ blog หรือ หลังไมค์ มันอาจจะนานกว่าเราจะมาอ่านเจออ่ะค่ะ ***
New Comments