Group Blog
All Blog
|
Pregnancy # 2 : 19 weeks เจาะน้ำคร่ำ (30/8/13)
กิ๊กคงต้องเจาะน้ำคร่ำแน่ๆ เพราะอายุเกิน 35 แล้ว ส่วนตัวมองว่า เป็นเรื่องธรรมดา ได้ยินมาตั้งกะยังไม่แต่งงานถึงเรื่องเจาะน้ำคร่ำ พอมาท้องนี้ แล้วหมอถามว่า จะเจาะมั้ย เพราะอายุเกินแล้วนะ (36 ขวบ) กิ๊กก็หันไปมองหน้าพี่หยี่ แล้วก็ตกลง ณ ตอนนั้นเลยว่า เจาะค่ะ 555 ดูเหมือนไม่มีอะไรเครียด แต่มันมาเครียดหลังจากที่รู้ว่าต้องเจาะจริงๆนี่แหละ คนเรานะ พอมันไม่จวนตัว มันก็จะไม่ทำอะไร ไม่หาข้อมูลอะไรทั้งนั้น แต่พอจวนตัว ก็จะเริ่มล่ะ 555 พอตกลงว่าจะเจาะ ทีนี้ก็จะเริ่มถามแม่ๆคนอื่นๆ แล้วก็หาข้อมูลในเน็ต ก็พบว่า มีคนไม่เจาะอยู่พอสมควร จะด้วยสาเหตุ กลัวเด็กไม่ปลอดภัย หรือ ผลของการเจาะ ไม่มีผลต่อการตัดสินใจอะไรก็แล้วแต่ เราก็เลย เอ๊ะ...มันอันตรายป่าววะ ยิ่งมาอ่านเจอ บางคนจะบอกว่า เจ็บมากๆๆๆ แล้วพอเจาะแล้ว มดลูกจะมีแผล อาจจะเกิดอะไรแทรกซ้อนตามมาอีก ทีนี้ก็เริ่มจิตตกล่ะค่ะท่านผู้อ่าน 555 จริงๆ วิธีการตรวจความเสี่ยงดาวน์เนี่ย ตอนที่หมอบรีฟให้ฟังหลักๆ มันก็มี 2 วิธี 1. เจาะน้ำคร่ำ ผลแม่นยำ 99% (แต่มีความเสี่ยงที่อาจจะอันตรายต่อเด็ก 2%) 2. เจาะเลือด ผลแม่นยำ 80% (ซึ่งเจาะเลือดเนี่ย กิ๊กเลือกทำตอนท้องมิสา ตอนนั้นอายุ 32 ปีค่ะ) อ้างอิงบล๊อค //www.bloggang.com/viewblog.php?id=beauty-bambi&date=31-10-2009&group=22&gblog=8 เราอาจจะแค่เจาะเลือดก่อนก็ได้ ถ้าผลมีความเสี่ยง ก็ค่อยมาเจาะน้ำคร่ำอีกที แต่ก็นะ...มันก็เสียเงิน 2 ต่อ 555 คือ ยังไง ก็ต้องมาจบที่เจาะน้ำคร่ำ ซึ่งเป็นวิธีสุดท้ายอยู่แล้ว ก็เลยเจาะไปเลย แต่ทีนี้ตอนกิ๊กมาหาข้อมูลในเน็ตอีกทีเนี่ย ก็พบว่า มันมีอีกวิธีที่เรียกว่า Nifty Test (Non Invasive Fetal Trisomy test) ก็คือ เจาะเลือดนี่แหละ แต่ผลค่อนข้างแม่นยำเทียบเท่าเจาะน้ำคร่ำ ณ วันที่หาข้อมูล เค้ามีบริการที่รพ.จุฬา และราคาค่อนข้างแพง คือ 28,000 บ. แต่ราคาไม่น่าจะเป็นปัญหา ถ้าเทียบว่า ลูกเราปลอดภัยชัวร์ๆเนอะ แต่กิ๊กไม่สามารถเลือกวิธีนี้ได้ เนื่องจาก เค้าบอกว่า ช่วงเวลาที่สามารถทำได้ คือ 12-16 สัปดาห์ ซึ่งคือ ณ ตอนที่กิ๊กรู้เนี่ย มันก็ 16-17 สัปดาห์แล้ว ไม่ทันแล้ววว...ก็เลยอดไป กลับมาถึงเรื่องเจาะน้ำคร่ำต่อ เดิมทีกิ๊กนัดเจาะน้ำคร่ำตอน 18 วีค ซึ่งคุณหมอบอกว่า กำลังโอเคเลย (คือ เด็กไม่ตัวใหญ่ไป เพราะไม่งั้นโอกาสเจาะแล้วโดนเด็กจะมีเยอะขึ้น) หลังเจาะเสร็จ นั่งพัก 30-60 นาที ถ้าไม่มีอะไรก็กลับบ้านได้ คือ กลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ปกติ ไม่ต้องนอนรพ. แต่พอหาข้อมูลเยอะๆ ก็เจอว่า หลังการเจาะ เค้าให้นอนพักมากๆ เค้าไม่ให้ขยับเขยื้อนมาก ไม่ให้เดินทางไกลด้วย ซึ่งระยะเวลาพัก ก็แล้วแต่ตำรา แล้วแต่ความเห็น บางตำราก็บอก 1 วัน บางตำราก็บอก 7 วัน เอาล่ะสิ... กิ๊กก็นอยด์เลย เพราะ อีก 4 วันถัดมา เรามีแพลนจะไปเที่ยวสวนผึ้งกันด้วย ก็เลยไปหาคุณหมอ นัดวันใหม่อีกที ซึ่งจริงๆ คุณหมอก็บอกว่า ตั้ง 4 วัน น่าจะโอเคแล้ว เพราะพักแค่วันเดียว ก็พอ 555 แต่อย่างที่บอก เราก็กลัวไง เพราะบางตำราบอก 7 วัน กลัวเที่ยวไม่สนุก ไม่กล้าวิ่ง ไม่กล้าทำอะไร แต่ปัญหา คือ ถ้ารอกลับมาจากสวนผึ้ง อายุครรภ์ จะเท่ากับ 19 สัปดาห์ เราก็กลัวว่าเด็กจะตัวใหญ่ไป แต่คุณหมอบอกว่า โอเค ไม่มีปัญหา ก็เลยสรุปว่า รอให้กลับมาจากสวนผึ้งแล้วไปเจาะดีกว่า จะได้เที่ยวอย่างสบายใจ ^^ นอกจากปัญหาเรื่องเที่ยวแล้ว เนื่องจาก หลังจากเจาะ คุณหมอบอกว่าอยากให้นอนพักซัก 1 วัน ซึ่งถ้าอยู่บ้านเนี่ย ต้องเลี้ยงมิสา และเวลาก่อนนอน มิสาจะต้องมานัวเนียแม่ (ถึงขึ้นถีบก็มี 555) พี่หยี่ก็เลยกลัวว่า มันจะโดนท้องกิ๊ก ฮีเลยทำการเสียสละอันยิ่งใหญ่ คือ เลี้ยงมิสาให้ 1 วัน 1 คืน โดยบอกให้กิ๊กไปนอนค้างที่บ้านคุณยาย (แม่กิ๊ก) ได้ 1 คืน อิอิ ซึ่งก็จะนับเป็น คืนที่ 2 ที่กิ๊กจะไม่ได้นอนกับมิสา (คืนแรก คือ ไปผ่าทอนซิล) แต่ก็คิดว่า พี่หยี่เอานอนได้แหละ เพราะตั้งกะท้องเนี่ยพี่หยี่เลี้ยงมิสาเยอะกว่ากิ๊กอีก และแล้วก็ถึงวันเจาะน้ำคร่ำ... กิ๊กกลัวมากเลยนะ ตื่นเต้น เกือบๆสติแตก...กลัวเจ็บอ่ะ 555 ก็หาข้อมูลเยอะ บางคนก็บอกเจ็บมากก บางคนก็บอกไม่เจ็บเลย บางคนก็บอก เสียวตอนเอาเข็มแทง เพราะเข็มอ่ะ ไม่ใช่เล็กๆนะ เป็นเข็มยาวๆ 555 แต่ใจชื้นนิดนึง ตรงที่พี่สาวพี่หยี่เค้าก็เคยเจาะกับคุณหมอประจำกิ๊กเหมือนกัน พี่เค้าบอกว่า ไม่เจ็บเลยยย ไม่ต้องกลัว ก็เลยยังพอทำใจได้อยู่บ้าง ซึ่งพอถึงเวลาเจาะ พยาบาลก็เรียกเข้าห้อง ไปนอนเปิดพุงรอหมอ แล้วพยาบาลก็เอาอะไรเย็นๆมาทาที่ท้อง (คาดว่าเป็นแอลกอฮอลล์รึป่าวไม่แน่ใจ) พอหมอเข้ามา ด้วยความกลัว กิ๊กก็คุยกับหมอ กลัวอ่ะค่ะ 555 หมอเห็นกิ๊ก nervous มากๆๆๆ เลยบอกว่า หลับตาซะแล้วกัน เพราะว่า ถ้าลืมตา แล้วเห็นเข็ม เห็นกรรมวิธี ก็อาจจะยิ่งทำให้เกร็งท้อง แล้วก็ยิ่งเจ็บ (อ้าว ! แสดงว่าจริงๆมันเจ็บใช่ป่ะ 555) พอหมอบอกว่า ลืมตาได้ ค่อยลืม...แปลว่า เสร็จแล้ว 555 กิ๊กก็เลยทำตามเลย หลับตาคับ... ได้ยินหมอพูดว่า กำลังจะฉีดยาชานะ เจ็บนิดนึง ก็กลั้นใจ เพราะฉีดยา ก็คงไม่เจ็บเท่าไร่ เราก็เจาะเลือดอะไรมาแล้วหลายครั้ง ก็รู้สึกเจ็บนิดนึง เหมือนมดกัด จากนั้นก็ รอ รอ รอ รอ รอ... คือ จะบอกว่า ไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆ 5555 ขณะหลับตา ก็รอว่า มันจะเจ็บเมื่อไร่ มันจะเสียวเมื่อไร่ แต่....ไม่มีเลยอ่ะ มันเฉยมากๆ ไม่รู้สึกอะไรเลย ซักไม่เกิน 5-10 นาที หมอ ก็บอกว่า จะเอาเข็มออกแล้วนะ....เสร็จแล้ว...ลืมตาได้ กิ๊กก็ลืมตาขึ้นมา แล้วก็เห็นเข็มยาวมากๆๆๆ มันออกมาจากท้องเรียบร้อยแล้ว 555 หันไปข้างๆ เจอเหมือนขวดหรือบีกเกอร์นี่แหละ ใส่น้ำเหลืองๆ อยู่ 2 ขวด (คงเป็นน้ำคร่ำ) เยอะกว่าที่คิดนะ เพราะนึกว่า เหมือนเจาะเลือด เอาแค่นิดเดียว เจาะเสร็จ พยาบาลก็มาเช็ดหน้าท้องให้ แล้วก็บอกให้ใส่กางเกง และออกไปนั่งดูอาการที่ด้านนอก ถ้า 30 นาที ไม่มีอะไร ก็กลับบ้านได้ค่ะ ^^ เป็นอันเสร็จค่ะ... หลังจากนั้นพี่หยี่ก็ขับพากลับมาบ้าน แล้วก็เปลี่ยนเป็นขึ้นรถคุณแม่ เพื่อไปนอนค้างที่บ้านแม่ แต่ปรากฏว่า รถติดมากๆๆๆๆ จากเจริญนคร ไปแยกเกษตร (ขึ้นทางด่วน) ใช้เวลา 2 ชม.ครึ่ง ออก 4 โมงเย็น ถึง 6.30 โมง คือ เมื่อยมากๆๆๆๆ และที่สำคัญ ใช้เวลานาน พอๆกับเดินทางไกล (ไปหัวหิน) เลยทีเดียว แล้วชั้นจะไปพักที่บ้านแม่ทำไมเนี่ย เหอ เหอ วันรุ่งขึ้น เย็นๆพี่หยี่กับมิสาก้ขับมารับ (ได้พัก 24 ชม. พอดี 555) กลับบ้านอย่าง happy ^^ อ้อ ! ลืมเล่าไปว่า นอกจากการเจาะน้ำคร่ำจะเป็นการตรวจดาวน์แล้ว ยังทำให้รู้เพศแบบถูกต้อง 100% ด้วยนะคะ (ไม่ต้องลุ้นว่าหนีบ ไม่หนีบ แบบอัลตราซาวด์) หลังจากตรวจประมาณ 3 สัปดาห์ ก็ทราบผลค่ะ แต่กิ๊กนัดคุณหมออยู่แล้วอีก 1 เดือน (4 สัปดาห์) คุณหมอเลยบอกว่า ให้มาฟังวันที่นัดหมอเลยละกัน (อ้าว !) แต่เอาจริงๆ พอ 3 สัปดาห์ ก็มีพยาบาล โทร.มาบอกผลค่ะ ผลก็ออกมา ปกติดี และก็ได้รู้เพศ...สรุปว่า มิสาได้น้องผู้หญิงค่ะ ^^ Pregnancy # 2 : JFF (Just For Fun) : Before & After รูปถ่ายสตูด้วยตัวเอง @ Veranda , หัวหิน
ไม่คิดเลยนะว่า ท้อง 2 แล้ว จะยังมีโอกาสได้กลับมาถ่ายรูปที่เดิม 555 มันเป็นเหตุบังเอิญมากๆๆๆ อ้างอิงถึงบล๊อคนี้ค่ะ //www.bloggang.com/viewblog.php?id=beauty-bambi&date=29-11-2009&group=22&gblog=23 เพราะทริปนี้ เพื่อนรร.เก่ามิสา ชวนเราไปเที่ยวหัวหินกันค่ะ ส่วนที่พัก เพื่อนระบุมาเสร็จสรรพว่า วีรันดา หัวหิน นะจ๊ะ กิ๊กก็คิดว่า เออ บังเอิญจัง...ดีๆๆๆ เราจะได้ไปถ่ายรูปท้อง 2 ที่นี่ 555 ตั้งใจใส่ชุดเดิมที่เคยถ่ายตอนท้องมิสาเลยนะ ณ ตอนที่ถ่ายรูป ท้อง 2 นี้ 6 เดือนค่ะ ส่วนตอนท้องมิสา 5 เดือนค่ะ แต่เนื่องจากวันที่ถ่ายฝนตกปรอยๆด้วย เลยได้มาแค่ 3 จุดเกิดเหตุ 555 ดังนี้ จุดที่ 1 จุดที่ 2 และจุดที่ 3 ส่วนรูปที่สระว่ายน้ำ กับที่สนาม (ที่มีไม้สี่เหลี่ยม) ไปถ่ายไม่ได้ เนื่องจากฝนตกอ่ะค่ะ ก็ถือเป็นอะไรที่ทำขำๆ หนุกๆ ละกันนะคะ อิอิ Prenancy # 2 : ได้เวลาเที่ยว & อัพเดทรูปคนท้อง 4-5-6 เดือน
เลยไม่เดินทางไกลๆใดๆทั้งสิ้น จนพ้น 3 เดือนอันตราย ขึ้นเดือนที่ 4 ก็ได้เวลาออกทริปแรกทันที อิอิ (แต่เตรียมทริปไว้เรียบร้อย 3 ทริปติด เพราะเป็นช่วงมิสาปิดเทอมพอดีด้วย) ทริปแรกเลย..เราไปเที่ยวกาญจนบุรีกันค่ะ (18-20/8/13) กิ๊ก(และพี่หยี่) เราไม่ได้ไปเที่ยวกาญจนบุรีกันนานมากๆๆๆๆๆ เป็นจว.นอกสายตาตลอด 555 แต่เห็นเพื่อนไปมา..เออ มันดูชิลล์ดีอ่ะ ที่พักริมน้ำไรงี้...ก็เลยจัดไป รูปคนท้องตอน 4 เดือน... (ไม่มีรูปทริปนะ ถ้ามีโอกาส จะลงในบล็อคหมวดเที่ยวต่อไป 555 เพราะอันนี้หมวดท้อง ก็จะขอเก็บรูปตอนท้องไว้ก่อน อิอิ) คือ บอกเลย ท้องนี้ ไม่ได้ถ่ายรูปท้องอัพเดทตลอดๆๆๆเหมือนตอนท้องแรก เพราะท้องนี้ ทุนมันมาสูง 555 (เข้าใจมะ ?) คือ พุงใหญ่มาแต่ 1-2 เดือนแรกด้วยซ้ำ T_T เพราะฉะนั้น เลยไม่มีอารมณ์ถ่าย เนื่องจาก 1-3 เดือน ก็ดูเหมือน 4 เดือนได้ ไรงี้ 555 (เดี๋ยวคอยดู 6 เดือนก็จะเหมือน 8 เดือน 555) มันเลยไม่ค่อยสะท้อนความจริงเท่าไร่ ไม่เหมือนท้องแรก ที่หุ่นยังเป๊ะอยู่ อิอิ ก็เลยไม่ได้ถ่ายแบบทุก 2 วีคเหมือนเดิม แต่จะใช้วิธีเก็บภาพเวลาเราไปเที่ยว เอาละกันนะ (อย่าน้อยใจนะลูก 555) ถัดจากทริปกาญฯ อีก 1 สัปดาห์ถัดมา เราก็ไปสวนผึ้ง ราชบุรีกันค่ะ (25-27/8/13) ทริปนี้ เกิดจากเพื่อนๆที่รร.มิสา เค้าชวนกันไป ไร่ปลูกรัก ... เราก็ไปกับเค้าค่ะ แต่เค้าไปวันเดียวกลับ ส่วนครอบครัวเรา ขับรถเลยไปพักที่สวนผึ้ง 2 คืนเลย ทริปนี้ก็สนุกสนานมากๆๆๆ พักที่ Villa Moreeda... อุตส่าห์ใส่ชุดนี้ เพื่อจะได้ถ่ายรูปเปรียบเทียบกับตอนท้องมิสาที่ได้ไปสวนผึ้งเหมือนกัน ทริปนั้นพักที่ Scenery resort แต่คราวนี้ ตอนไป Scenery ไม่มีจังหวะดีๆเลย เพราะคุณหนูเธอวิ่งหาแกะอย่างเดียว (พี่หยี่เลยเป็นคนจับลูก ส่วนกิ๊กก็เป็นตากล้อง 555) เลยอดถ่ายฉากเดียวกันมาเปรียบเทียบ 555 แต่อ่ะ ลงให้ดูเปรียบเทียบ ตอนนั้น 6 เดือนเอง ท้องเท่ากันเลยอ่ะ 555 อีกรูปถ่ายที่ โมอาย คอฟฟี่... จากทริปสวนผึ้ง 1 เดือนถัดมา ก็มาต่อที่พัทยากันเลย (22-23/9/13) เนื่องจากมี voucher รร. Centara Mirage เหลือ 1 คืน จากการเป็น member Centara ก็เลยใช้ซะ เพราะมันหมด กพ. 57 ซึ่งคงไม่ได้ไปแล้วล่ะ (เพิ่งคลอดคนที่ 2) ทริปนี้ไป 2 วัน 1 คืน เอง แต่ที่ไป เพราะอยากไปเดิน Mimosa อ่ะ อิอิ ตอนนี้ ท้อง 5 เดือนแล้วนะคะ และทริป(ก่อน)สุดท้าย ก็เป็นทริปหัวหิน (5-7/10/13) ทริปนี้ เกิดจากเพื่อนพี่หยี่เค้าชวนไปเที่ยวหัวหินกัน วันที่ 6-7 ตุลา เราก็ตกลงไป แล้วปรากฏ กลุ่มเพื่อนมิสา ก็มาชวนไปหัวหินวันที่ 5-6 ตุลาอีก อะไรมันจะพอดีกันขนาดนั้น 555 เราก็เลยตกลงไปค่ะ กลายเป็นทริป 3 วัน 2 คืนไปเลย แถมคืนแรกที่พัก ยังเป็น วีรันดา หัวหิน ที่ซึ่งเป็นอดีตของกิ๊กอีก (เป็นยังไง จะลงรูปให้ดูบล๊อคหน้า 555) บังเอิญมากๆๆ แต่ทริปนี้ออกแนวหฤโหดนะ เพราะต้องฝ่าน้ำท่วมหัวหินอ่ะ ทั้งน่ากลัว ทั้งเหนื่อย ทั้งทรหด 555 รูปนี้ตอนท้อง 6 เดือนค่ะ ใหญ่ป่ะล่ะ.... จำได้ว่า ตอนมิสา 6 เดือนนี่ ดูแทบไม่ออกด้วยซ้ำง่ะ อัพเดทแค่นี้ก่อนนะ บล๊อคหน้ามาต่อรูปคนท้องที่ วีรันดา ค่ะ แล้วจะรู้ว่า "มีอดีต" ยังไง อิอิ ลาคลอดแล้วนะคะ...(4/1/10)
เวลา 2 ทุ่มของวันนี้ จะต้อง admit เข้ารพ.แล้ว (กำหนดเวลาผ่า 8 โมง วันที่ 5 ม.ค. 53) มันมีความรู้สึกหลายๆอย่างปะปนกัน ทั้งดีใจ ทั้งตื่นเต้น ทั้งกลัว วิตกกังวล ฯลฯ เมื่อเช้าตื่นมา ก็นั่งหงอย จนพี่หยี่ต้องเข้ามากอดแล้วก็ปลอบๆอยู่นาน เกือบร้องไห้แน่ะ ไม่รู้ว่าเป็นอะไร count down แล้ว เหลืออีกไม่ถึง 24 ชม.แล้วอ่ะ กิ๊กเคยเขียนไดตอนวันแต่งงาน (จริงๆคือวันที่ถูกขอแต่งงาน) ว่าเป็น "วันที่ทำให้ชีวิตกิ๊กเปลี่ยนไปทั้งชีวิต" แต่จริงๆแล้ว...หารู้ไม่.. มันเป็นอะไรที่ chill chill มากกก คือ ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากมาย แค่ว่า เรามีอีกคนมาแชร์ความสุข ความทุกข์ ความเป็นห่วง.. เรา 2 คน ยังเป็นตัวของตัวเองได้เหมือนเดิม ต่างคน ก็มีเวลาที่จะมีชีวิตส่วนตัวของตัวเอง เราอยู่ด้วยกัน นอนด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน ฯลฯ แต่เราก็ยังสามารถ ไปกินข้าวกับเพื่อน ไปดูหนัง ไปช๊อปปิ้งคนเดียวได้ แต่คราวนี้ มันไม่เหมือนกันนะ การที่เราให้กำเนิดชีวิตอีกชีวิตขึ้นมาเนี่ย กิ๊กคิดว่า มันคงเป็นอะไรที่เปลี่ยนชีวิตเราไปอย่างแท้จริงเลยอ่ะ แต่คงเป็นอะไรที่ทำให้ชีวิตเรามีความสุข เติมเต็มชีวิตของครอบครัวเรา ใช่มั้ยคะ ???? บางที..คิดๆแล้ว ก็ไม่ค่อยแน่ใจนะ กังวลอยู่เหมือนกัน ยังไงขอเพื่อนๆช่วยเป็นกะลังใจให้ด้วยนะคะ... ลาแล้วค่ะ.. 1 มกรา 53 : ต้อนรับปีใหม่...หาหมอครั้งสุดท้าย ก่อนขึ้นเขียง
อายุครรภ์ : 38 วีค นน. : 59.4 กก. นน.ลูก ประมาณ 3,000 กรัม ก่อนที่จะนัดผ่าคลอดวันที่ 5 มกรา ยังคิดว่าสงสัยหมอจะหยุดยาวไปเที่ยว แล้วกลับมาผ่าให้เรา 555 แต่ปรากฏวันที่ 30 ดันไปไม่ทันหมอ เสร็จธุระ หมอดันติดผ่าตัดซะแล้วว เลยชวดไป.. เลยต้องนัดใหม่ ได้วันที่ 1 มกรา ยังคิดว่า...ว้าวว หมอไม่ได้ไปเที่ยวแฮะ 555 คราวนี้เตรียมตัวไปอย่างเต็มที่ กะไม่ให้คลาดจากหมอเลย เพราะว่าครั้งสุดท้ายแล้ว ต้องนัดแนะว่าวันผ่าต้องทำยังไงเตรียมตัวยังไงบ้าง ตอนตรวจ ก็ไม่ได้มีอะไรบ้าง หมอไม่ได้ให้อัลตราซาวด์ตามเคย 555 (แบบว่าจริงๆอยากนะ แต่ถ้าหมอไม่แนะนำ ก็ไม่อยากหาเรื่องเสียตังค์ 555) หมอจับๆที่พุงแล้วบอกว่า นน.เด็ก น่าจะถึง 3000 กรัมได้ เพี๊ยง !!! ขอให้ถึงจริงๆเถอะ (เหลืออีก 4 วัน จะโด๊ปสุดฤทธิ์ อยากให้ลูกได้ซัก 3000 นิดๆ ก็ยังดี) แล้วก็ไม่มีอะไรมาก หมอถามเรื่อง เวลา ที่จะผ่าเล็กน้อย ว่ามี ฤกษ์อะไรรึป่าว เพราะถ้าบอกตอนกะลังผ่าเลย แบบว่าให้เอาออกมาเวลานั้นนี้ มันจะไม่ทันเอา แต่กิ๊กกะพี่หยี่ไม่มีฤกษ์ ก็ระบุไปว่า 8-9 โมงอ่ะค่ะ ฤกษ์สะดวกหมอละกัน เพราะถ้าหมอรีบมาก เดี๋ยวไม่ดีอ่ะ 555 สรุปออกจากห้องตรวจ ทางรพ. ก็ให้เอกสารการเตรียมตัวมา ว่าต้องเตรียมอะไรมาบ้าง ทั้งกระเป๋าคุณแม่ + เอกสารในการแจ้งเกิดของลูก แล้วก็ให้บัตรนัดมา ที่ BNH ถ้ากำหนดผ่าตอนเช้า (ไม่เกินเที่ยง) เค้าให้นอนที่รพ.ได้ 1 คืนล่วงหน้า แต่ต้องเข้าหลัง 2 ทุ่ม นับว่ายังโอเคหน่อย จะได้ไม่ดึกมาก เห็นบางรพ. ให้หลังเที่ยงคืนเลย.. โห โหดมากก...กิ๊กว่ามันดึกไปอ่ะ มีเรื่องตลกคือ วันที่เราไปหาหมอคือ วันที่ 1 มกราใช่มะ ซึ่งพอไปถึงแผนกสูติ ก็ไม่ค่อยมีคนหรอก คิดอยู่แล้วว่าคงคนน้อย เพราะเป็นวันหยุดยาว คงคนไปเที่ยวกันหมด แต่ก็เห็นนั่งรอกันอยู่ คู่ 2 คู่ ท้องใหญ่(มากๆๆๆ)กันทั้งคู่เลย แล้วซักพัก ก็มีรถเข็นรพ. มาเข็นไป 1 คู่ อีกพัก ก็มารับไปอีกคู่ แล้วก็มีอีกคู่เค้ากะลังอัลตราซาวด์อยู่ กิ๊กก็ได้ยินพยาบาลคุยกันว่า ตกลง admit วันนี้แล้วนะ พอเค้าออกมาจากห้อง ก็มีรถเข็นมารับไปอีกคู่ 555 ประมาณว่า คนที่มาวันนี้ ก็คือคนที่มาคลอดทั้งนั้นเลยอ่ะ พอกิ๊กออกจากห้องหมอ พยาบาลยังถามเลย เอาอีกคนมั้ยคะ 555 กิ๊กบอก ยังค่ะ ขอวันที่ 5 ละกัน อิอิ (คือ สรุปว่าคนที่มา ก็ต้องมาคลอด ไม่ก็เกือบคลอดอย่างเรา เพราะมันเป็นหยุดยาว ถ้าไม่รีบ หรือแค่ฝากครรภ์เฉยๆ เค้าก็คงเลื่อนไปเป็นวันอื่นอ่ะ) แล้วเลยคุยกะคุณพยาบาล เค้าบอกว่า วันนี้คลอดเยอะ เพราะเป็นวันที่ 1 เดือน 1 คศ. 10 เราก็ เออ จริงๆด้วย...เลขสวยแหะ 5555 มิน่า มีแต่คนมาคลอดกันทั้งนั้นเลย ตอนบ่ายๆ ได้รับโทร.จากแผนกห้องคลอด ของ BNH โทร.มา brief คร่าวๆ ถึงกำหนดการต่างๆ ซึ่งจริงๆ ก็คุยกับพยาบาลมาตั้งแต่แผนกสูติแล้ว แต่ก็รู้สึกอุ่นใจดี เหมือนได้รับการเอาใจใส่ อิอิ กิ๊กเริ่มผ่าเวลา 8 โมง คุณพยาบาลเลยบอกว่า ประมาณตี 4 -5 ก็จะมีคนมาสวนอุจจาระ และกำจัดขนให้ เลยรู้สึกว่า อุ๊ย อุตส่าห์เลือก 8 โมง จะได้ตื่นสายหน่อย 555 แต่นี่เท่ากับตื่นเช้าจัง กลัวนอนไม่พอ (หรือจะไม่ได้นอน) เลยลังเลว่าจะเปลี่ยนเป็น 9 โมงดีมั้ย (เพราะเลข 9 ก็สวยเหมือนกัน 555 ดูความคิดดิ) เลยต้องถามคุณพยาบาลเพื่อความชัวร์ ว่าเอากี่โมงดี เพราะดูแล้ว คิววันนั้นคงไม่เยอะมาก มันไม่ใช่วันฤกษ์ดีอะไร แต่คุณพยาบาลบอกว่า เช้าๆ 8 โมงนี่ล่ะค่ะ ดีแล้ว เพราะว่า หมอ + พยาบาลกะใหม่ กะลังมาเลย ทุกคน + ทุกอย่าง กะลัง fresh เลยนะคะ สายไป อาจจะวุ่นวายได้ พอได้ยินงี้ ก็เลยเอา 8 โมงเหมือนเดิม 5555 (ทั้งๆที่จริงๆคุณพยาบาลอาจจะขี้เกียจเปลี่ยน schedule ใหม่ก็ได้ แต่เค้าก็มีวิธีพูดให้เราคล้อยตาม 555) แต่ก่อนวางสาย คุณพยาบาล ก็ยังอุตส่าห์บอกว่า ถ้าได้ฤกษ์มา จะขอเปลี่ยนเวลาอะไรยังไง ก็โทรมาแจ้งก่อนได้นะคะ แปลว่า ยังให้โอกาสนะ อิอิ แต่คงไม่ล่ะค่ะ เอา 8 โมง หมอสะดวก นี่แหละ work ที่สุด ถึงลูกรัก... อยากให้ลูกรู้ว่า ทุกๆอย่างที่พ่อกับแม่เลือกให้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อ, เป็นวันเกิด , เวลาเกิด ฯลฯ พ่อกับแม่ไม่ได้พึ่งหมอดูท่านใด แต่เราใช้ใจเลือกให้หนูนะจ๊ะ และเชื่อมั่นว่า สิ่งที่พ่อแม่เลือกให้ลูก เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกจ้ะ |
Beauty & Bambi
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 36 คน [?] ณ 31/1/2023 นิยามตัวเองได้ว่า เป็นคนชอบ เที่ยว กิน ช๊อป ค่ะ...แต่หลังๆไม่ได้อัพบล็อคเลย มัวแต่เล่น ig กับ เฟส ^^ บล็อคที่เขียนไว้อาจจะนานแล้ว แต่ก็ยังหวังว่าจะพอมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ ถ้าได้เที่ยว (หลังโควิด ) จะมาอัพอีกนะคะ *** เราไม่ค่อยได้เข้ามาเช็คที่ blog เท่าไร่ ถ้าเพื่อนๆอ่านแล้วมีคำถาม รบกวนถามมาทางอีเมลล์เลยนะคะ (ดูอีเมลล์จาก profile ได้ค่ะ) เรายินดีตอบทันทีค่ะ แต่ถ้ามาทิ้งคำถามไว้ที่ blog หรือ หลังไมค์ มันอาจจะนานกว่าเราจะมาอ่านเจออ่ะค่ะ ***
Friends Blog
Link |