All Blog
ทริปเกาะกระดาน (Sevenseas resort) + กระบี่ (19-23/8/17)


เริ่มต้นจากอยากพาเด็กๆไปเที่ยวเกาะ แต่ขอเป็นเกาะที่มีความเป็นธรรมชาติ (ไม่ใช่แบบภูเก็ต สมุย) มีหาดทรายขาวๆละเอียดๆ น้ำทะเลใสๆ ตั้งใจพักบ้านพักแบบริมทะเล ให้เด็กๆได้เล่นทรายเล่นทะเลทั้งวัน ส่วนแม่ก็นอนชิลล์อ่านหนังสือใต้ต้นไม้อะไรแบบนี้ 555 นึกถึง Sevenseas resort เคยเล็งไว้ตั้งแต่เปิดใหม่ๆแต่ราคาแอบแรง(มาก) คราวนี้สบโอกาส มีลูกเป็นข้ออ้าง อิอิ จัดการจองแพคเกจ 3 วัน 2 คืน ... แต่ลงไปใต้ทั้งที ไปแค่ 2 คืน มันไม่คุ้ม(เหรอ?) เลยตั้งใจหาที่เที่ยวต่ออีกซัก1-2 คืน ลองหาที่เที่ยวตรัง รู้สึกไม่ค่อยมีอะไร (จริงๆคือมีแหละ แต่ไม่ถูกจริต) ขับเลยไปกระบี่ดีกว่า ที่เที่ยวเยอะมากกก เลยได้เที่ยวกระบี่ต่ออีก 2 คืน และเป็นการเที่ยวกระบี่ครั้งแรกของเราและพี่หยี่(และเด็กๆ)ด้วย ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ว่าคนชอบเที่ยวอย่างเราจะพลาดกระบี่ไปได้ ^^" ทริปนี้โชคดีมาก ไปใต้หน้าฝน แต่ไป 5 วันไม่เจอฝนเลย ตรงกันข้าม แดดดีเกินไปด้วยซ้ำ 555 ดีจนดำกลับมาเลยทีเดียว ก่อนไปไม่ดูพยากรณ์เลย (อย่าเอาเยี่ยงอย่างนะ อิอิ) เพราะถึงฝนตกก็ไม่รู้ทำไง ก็จองไปหมดแล้วอ่ะ ไปลุ้นเอาหน้างาน ปรากฏแดดดีสุดๆ พนักงานรีสอร์ทบอกว่า ฝนตกหนักมา 3-4 วันติด ยังคิดว่าลูกค้าเข้าวันนี้จะเจอฝน ปรากฏ แดดออกอย่างกะปาฎิหารย์ โชคดีสุดๆ

Sevenseas resort ได้ดั่งใจเกือบทุกอย่าง มีทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสๆ มีปะการังใกล้ๆหาดให้เด็กๆได้ดำน้ำดูปลา (ใช้แค่แว่นตาว่ายน้ำเอา เพราะไม่ได้เผื่อสน็อคเกิ้ลมา) มีร่มไม้ให้เราได้ปูเสื่อนอนอ่านหนังสือเล่นริมหาด แต่ติดที่ว่า แมลงเยอะมากก พนักงานบอกว่าช่วงนี้แมลงหนีน้ำมา ปกติไม่มีเยอะอย่างนี้ ทำให้เด็กๆกลัว และความที่ราคาสูงทำให้คาดหวังแบบเป็นรีสอร์ท 5 ดาว (ประมาณ เอวาซอน ยาวน้อย) แต่จริงๆมันไม่ได้ถึงขนาดนั้น เลยผิดหวังเล็กๆ และราคาอาหารในรีสอร์ทแอบแพง แพงแบบ เออ แพง 555 (เมื่อเทียบกับบรรยากาศด้วยมั้ง คือ ถ้าราคาขนาดนี้แล้วรร.5ดาวก็ว่าไปอย่าง แต่อันนี้คือร้านดูธรรมดามากๆ) ที่คุ้มสุดคุ้ม คือ เมนูปลา ปลาสดมากๆ ได้มาทั้งตัว อร่อยด้วย ราคาจานละ 500 บาท คุ้มสุดล่ะ 555

เราเลือกห้องพักประเภท villa siri นะคะ เป็น beachfront villa ค่ะ ห้อง 104 แนะนำค่ะ :)

++รูปห้องพัก เอามาจากที่รีสอร์ทส่งให้นะคะ เพราะตอนไปถึงคือ ไม่มีเวลาถ่าย 555 ++



++ ศาลานั่งเล่นด้านนอก แต่ร้อนมาก (มันน่าจะติดพัดลมนะ)++




++ มองจากห้องนอนจะเห็นทะเลเลยค่ะ ++




++ ที่นั่งประจำของเรา ใต้ต้นไม้นี้ มองเห็นเด็กๆเล่นทราย เล่นน้ำดีด้วย ++




++ น้ำทะเลที่นี่ใสจริงๆค่ะ ใสมากๆ สวยมากๆ ทรายก็ละเอียด ++








ทริปกระบี่ แพลนไปที่เที่ยวบนบกอย่าง สระมรกต และท่าปอมคลองสองน้ำ แต่ไม่ได้คิดว่าจะไป ทะเลแหวก เพราะไปหน้าฝน ไม่รู้จะเจอฝนรึป่าว เลยไปดูเอาอีกที

วันแรก - รถของรีสอร์ทมาส่งที่สนามบิน เราก็รับรถ แล้วขับไปสระมรกตซึ่งอยู่ระหว่างทางจากตรังไปกระบี่อยู่แล้ว ไปถึง 4 โมงเย็น ข้อดีคือ แดดร่มและคนเริ่มน้อยแล้ว สระมรกตคือ น้ำใสมากๆๆๆ มากจริงๆ ขนาดว่าคนเยอะ (หมายถึงสะสมมาตั้งแต่เช้า) แต่ไม่ช้ำเลย ธรรมชาตินี่มหัศจรรย์มาก ใสยังไง ใสยังงั้น ปลาก็เยอะด้วย มิสาชอบที่นี่มากๆๆบอกว่า อยากมาอีก


++ น้ำใส สีมรกตจริงๆ ถ่ายมาให้ดูชัดๆถึงความใสของน้ำค่ะ ++









ถ้าใครจะพาเด็กๆไป แนะนำให้เอาอุปกรณ์เล่นน้ำไปเสมือนไปสระว่ายน้ำเลยนะคะ เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ 555 จัดเต็มห่วงยาง ชุดว่ายน้ำอะไรแบบนี้เลยค่ะ เพราะตอนเราไปนึกว่าจะไปแบบนั่งเล่นริมๆเฉยๆ ที่ไหนได้ มันเป็นสระแบบน้ำลึกเลยค่ะ ริมๆนี่นั่งยากมากเพราะตะใคร่ขึ้น มันลื่นมากๆเลย จะขึ้นจะลงที ต้องโหนเชือกที่เค้ามีไว้ให้ค่ะ และก็ถ้ามีคนไปเฝ้าสัมภาระหน่อยก็ดีนะคะ เพราะคนต่างชาติเยอะมากๆ ต่างชาติต่างภาษามากมายค่ะ แม้ว่าวันธรรมดาคนก็เยอะค่ะ (เห็นในรูปไม่มีคนเพราะเราไปประมาณ 4 โมงและอยู่จนเค้าเกือบปิดตอน 5 โมงนิดๆค่ะ) ถ้ามิเช่นนั้นควรจะใช้ถุงกันน้ำ แล้วใส่ของมีของมีค่าเอาลงน้ำไปด้วยค่ะ 


วันที่ 2 - วันนี้แพลนไปสุสานหอยและท่าปอมคลองสองน้ำ แต่เนื่องจากช่วงที่ไป เป็นช่วงแรม 1 ค่ำ และน้ำจะลงช่วงประมาณบ่าย 2-3 เป็นต้นไป ทำให้สถานที่เที่ยวหลายที่ (ที่เกี่ยวข้องกับน้ำลง) อย่างสุสานหอย ก็ต้องมาตอนบ่าย 2 เพราะน้ำยังขึ้นอยู่ ยังลงไปดูไม่ได้ เราเลยขับไปท่าปอมก่อน ก็เกิดปัญหาเดียวกัน เพราะคลองสองน้ำ คือ น้ำทะเลหนุนน้ำจืด ทีนี้ถ้าน้ำทะเลยังไม่ลง น้ำในท่าปอมมันก็จะขุ่น (ไม่เห็นอะไรอีก) ต้องรอน้ำทะเลลง น้ำถึงจะใส ซึ่งก็ต้องรอถึงบ่าย2-3 อีก เราก็เลยจอดรถรอแถวนั้น พอดีเด็กๆหลับด้วย ก็ให้หลับไป ตื่นมาก็กินข้าวกลางวันที่ร้านแถวนั้น กินเสร็จประมาณบ่ายโมงครึ่ง ก็เข้าไปเดินด้านใน น้ำยังไม่ค่อยลดเท่าไร่ เราเดินอยู่จนเกือบบ่าย 3 (แดดเปรี้ยงสุดๆ) ตั้งใจอยากดูตอนน้ำลงให้ได้ 555 แต่ก็ได้เท่าที่เห็นในรูป เพราะจนท.บอกว่าแรม 1 ค่ำ ก็ได้ประมาณนี้แหละ จากนั้นก็ไปสุสานหอยต่อ

เรื่องข้างขึ้น ข้างแรม (หรือน้ำขึ้นน้ำลง) เกี่ยวข้องกับการเที่ยวทะเลแหวกด้วย เพราะถ้าไปช่วงที่เราไป คือ 1 ค่ำ น้ำลงบ่าย 3 นั่นหมายความว่า จะเห็นทะเลแหวกตอนช่วงบ่าย 3 เป็นต้นไป ถ้าไปทัวร์ 4 เกาะ ก็อาจจะไม่ได้เห็น เพราะทัวร์เค้าจะพาไปทะเลแหวกช่วงก่อนเที่ยง(ตามโปรแกรมเค้า) ถ้าอยากเจอทะเลแหวก ก็แนะนำให้หาข้อมูลข้างขึ้นข้างแรมในเน็ตอีกที (ตอนเราไปจนท.แนะนำ 9-10-11 ค่ำ แต่ในเน็ตแนะนำ 7-8-9 ค่ำ เลยยังงงๆอยู่)

วันที่ 3 วันนี้เล่นน้ำกันไปตลอดช่วงเช้า ที่พักคือ Holiday inn อ่าวนาง เหมาะกับครอบครัวมากๆแนะนำเลย สระว่ายน้ำดี คิดส์คลับเริ่ดอยู่ พอเช็คเอาท์ เราก็ไป พิพิธภัณฑ์ลูกปัดอันดามันกัน จากนั้นเราก็แวะทานกลางวันที่ร้านน้องโจ๊ก แล้วก็ขับไปคืนรถที่สนามบินตรัง และเดินทางกลับกทม





Create Date : 13 กันยายน 2560
Last Update : 15 กันยายน 2560 21:02:02 น.
Counter : 1444 Pageviews.

2 comment
mini review ที่พักสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก : Buri Rasa Village, Koh Phangan (Jul 15)


เกริ่นนำ : เราตั้งใจทำบล็อคนี้เป็น มินิรีวิวนะคะ เนื่องจาก รูปภาพเราไม่เยอะ ไม่ครบทุกรายละเอียด และไม่สวยค่ะ 555
ถ่ายแบบบ้านๆ จากกล้องมือถือ และไม่มีเวลาถ่ายภาพเก็บทุกช็อต ทุกรายละเอียด เพราะต้องจับลูกไปด้วยค่ะ
 (เพราะภาพสวยๆ ดูได้จากรีวิวของนักรีวิวมืออาชีพกันได้อยู่แล้วเนอะ) แต่ที่ตั้งใจจะทำเพราะ
อยากทำรีวิวที่พักสำหรับครอบครัวที่จะพาเด็กเล็กไปเที่ยว เพื่อเป็นการแบ่งปันข้อมูลตรงนี้ค่ะ



ทริปสมุย-พะงัน เราเดินทางกัน 4 คนพ่อแม่ลูก 2 คนนะคะ ขอรีวิวในฐานะครอบครัวที่มีเด็กเล็กค่ะ
 2 สาวน้อยของเรา คนโตอายุ 5 ขวบ คนเล็กอายุ 1.5 ขวบค่ะ
ทริปนี้ขึ้นเครื่อง Bangkok airways ไปลงสมุยค่ะ เช่ารถขับที่สมุย ค้างสมุย 1 คืน (พัก Shasa Resort) จากนั้นคืนรถเช่า และลงเรือต่อไปพะงัน 
เช่ารถขับที่พะงัน และค้างที่พะงัน 3 คืนค่ะ ขากลับก็กลับเครื่องจากสมุยเหมือนเดิม


SmileySmileySmileySmileySmileySmiley



สำหรับที่พักที่เกาะพะงัน เราตั้งใจเลือกที่พักที่ต้องติดทะเล
ให้เด็กๆสามารถเล่นทราย เล่นน้ำทะเลได้ค่ะ
เพราะว่าสามีต้องออกไปทำธุระ และเราต้องเลี้ยงลูก 2 คนอยู่ที่ห้อง
เลยต้องหาอะไรให้เด็กๆมีกิจกรรมทำหน่อย 555
ซึ่งเราลอง search หาที่พักที่เหมาะสำหรับเด็กในเกาะพะงัน
ปรากฏว่า หาไม่ได้เลย เพราะส่วนใหญ่คนที่ไปเที่ยวเกาะพะงัน
จะไปเที่ยว Full moon ซะมาก
ไม่ค่อยมีใครกระเตงเด็กน้อยไปเที่ยวด้วยเหมือนเรา 555

เราเองก็โทร.ไปถามหลายๆรีสอร์ท
หลักๆเลย คือ ต้องเป็นหาดที่เล่นน้ำทะเลได้ค่ะ (ไม่อยากได้พวกหาดหิน)
และเราไม่อยากได้พวกวิลล่าบนเขา หรือพวก pool villa ส่วนตัว
เพราะไหนๆมาเที่ยวเกาะทั้งที อยากให้ลูกๆได้เล่นทราย เล่นน้ำทะเลใสๆมากกว่า
มีเพื่อนแนะนำให้ไปหาดท้องนายปาน
ซึ่งพอลองหาที่พักที่หาดนี้ ก็พบรีสอร์ต 5 ดาวใหญ่ๆเลย 3 รีสอร์ท
คือ Panviman, Anantra Rasananda, Santiya
ซึ่งทั้ง 3 ที่ คือ แบบรีวิวดีมากกก แต่ราคาต่อคืนก็แพงมากด้วย 555
ที่สำคัญอยากได้ ห้องติดทะเล ซึ่งก็แพงสุดๆ
จนมาเจอรีสอร์ทเล็กๆ 4 ดาว ชื่อ Buri Rasa อยู่บนหาดท้องนายปานด้วย
แถมมีห้องที่ติดทะเล Beachfront อีกตังหาก
เลยโทร.ไปสอบถามราคา
ห้อง Beachfront Deluxe ได้มาในราคา 7,000 บ.
เพราะคืนที่เราไป ดันคาบเกี่ยว Full moon ด้วย 
ถ้าไม่ใช่ช่วงนี้ ราคาน่าจะถูกกว่านี้
(มีความจำเป็นต้องไปช่วงนี้ ทั้งๆที่ไม่ได้ไป full moon )
ซึ่งเราเองก็ลองหาใน booking.com ด้วย
ปรากฏว่า ไม่มีห้องประเภทนี้ในเว็บ
โทร.ถาม เค้าบอกว่า พอดีเหลือ 2 ห้อง เลยปิดระบบไป
แต่สามารถจองตรงกับรีสอร์ทได้
เราก็เลยจองเลย 3 คืนค่ะ


สำหรับการจองห้องพัก เราขอแนะนำนิดนึงนะคะ
ถึงแม้ว่าจะ search ที่พักเจอจากพวกเว็บ agoda หรือ booking.com 
ก็ให้โทร.เช็คกับรร.โดยตรงทุกครั้งนะคะ
เพราะบางทีรร.ก็จะมีเรตพิเศษ ซึ่งถูกกว่าในเน็ตอีกค่ะ (เช่น ที่นี่โทร.ถาม ราคาถูกกว่าในเน็ตค่ะ)
และอาจจะมีห้องแบบอื่นๆ ที่เค้าไม่ได้ offer ไว้ในเน็ตค่ะ
พอโทร.ถาม เปรียบเทียบราคา แล้วค่อยเลือกว่าจะจองจากแหล่งไหนค่ะ
ในเว็บ ข้อดี ราคาอาจจะถูกกว่า แต่จะไม่ยืดหยุ่นนะคะ เช่น ถ้ายกเลิก หรือ เลื่อน อาจจะโดนชาร์จเต็มค่ะ
ส่วนจองตรง ราคาอาจจะแพงกว่า แต่จะยืดหยุ่นกว่า สมมติติดธุระ ไปไม่ได้พอดี 
อยากจะเลื่อน ก็สามารถทำได้ (คือ ลองคุยดูได้ค่ะ ถ้ามีเหตุผลสมควร)







ห้องพัก beachfront deluxe จะเป็นห้องเหมือนรร.ทั่วไปนะคะ
คือ เป็นตัวตึก แต่จะอยู่ชั้นล่าง ติดหาดเลย มีระเบียงสามารถเดินลงหาดได้เลย
(ไม่ได้เป็นวิลล่านะคะ)
ถ่ายรูปมานิดหน่อยค่ะ
เพราะห้องธรรมดาๆ และตอนไปบอกเค้าว่า ผู้ใหญ่ 2 เด็ก 2 
เค้าเลยจัดเตียงมาให้สำหรับ 4 คน
สามีดีใจมากๆๆๆ ไม่ต้องนอนโซฟา 555
ตรงจุดนี้ ประทับใจมากค่ะ Smiley











และส่วนสำคัญของห้องนี้คือ เปิดระเบียงมา ก็เจอหาดเลยค่ะ







พอดีวันที่มา เมฆเยอะไปหน่อย และถ่ายจากในห้อง เลยไม่เห็นสีน้ำทะเลเลย
ถ้าฟ้าแจ่มๆหน่อย สีน้ำทะเล และหาดทรายจะเป็นอย่างในรูปด้านล่างนะคะ







ซึ่งห้อง beachfront เนี่ย จะมีเตียงผ้าใบส่วนตัวให้เลยอยู่หน้าห้อง
มีเบอร์ห้องติด คือ ไม่ต้องจอง หรือแย่งกับใครค่ะ








ซึ่งเราอยากจะบอกว่า การเลือกห้อง beachfront ที่นี่
เป็นอะไรที่คิดถูกมากๆๆๆ
แนะนำเลย สำหรับครอบครัวที่มีเด็กๆ
เพราะเด็กๆจะสนุกกับการเล่นทราย และ(พอตกเย็น - สำหรับคนไทย) ก็ได้เล่นน้ำทะเลด้วย
เล่นเสร็จ ก็ล้างเท้า ล้างตัว วิ่งเข้าห้องได้เลย
พักที่นี่ 3 คืน ลูกเราเล่นน้ำทะเล 3 วันเลย 555
เรายังคุยกับสามีว่า นานแล้วนะ ที่มาทะเลมักจะไม่ได้เล่นน้ำทะเล
เพราะถ้าเราเลือกที่ัพักสวยๆ วิวดีๆ ใหญ่ๆ
ทะเล กับห้องพักเนี่ย มันก็จะไกลกันมาก (บางทีห้องอยู่บนเขา)
กว่าจะมาถึงทะเล ต้องเดิน ต้องนั่งรถ ก็หมดอารมณ์ซะก่อน เสียเวลาด้วย
อย่างดี ก็เล่นได้ครั้งเดียว
แต่นี่คือ มันใกล้ทะเลมาก
ก้าวเท้าก็ถึงแล้ว ลูกเราเล่นจนเกือบมืดทุกวัน ชอบมากๆ 555
น้ำก็ใส หาดก็สวย (ทรายละเอียด แม้สีจะไม่ขาวเหมือนหาดริ้น)
แล้วระหว่างที่ลูกๆเล่นทราย พ่อแม่ก็สามารถเปิดประตูไว้
แล้วนอนชิวๆ อ่านหนังสือ อยู่บนเตียงในห้องพักได้เลย
(แต่เผอิญเราไม่ชิวขนาดนั้น เพราะคนเล็กเพิ่งขวบกว่า ปล่อยเล่นทราย เผลอแป็บเดียว
เธอตักทรายราดหัว เหมือนราดน้ำซะหยั่งงั้น เรานี่ กรี๊ดดดด เลยค่ะ 555)







สรุปแล้ว เป็นที่พักที่แนะนำเลยนะคะ 
สำหรับครอบครัวที่มีเด็กๆ
และอีกอย่าง ที่รีสอร์ทนี้ แม้แต่ฝรั่งเอง (คือ 99% เป็นฝรั่งว่างั้นเหอะ)
ก็มีครอบครัวที่มีเด็กมาพักกันพอสมควรค่ะ
เพราะฉะนั้น ก็จะเป็นที่พักที่ต้อนรับเด็กๆ พนักงานก็ใจดีกับเด็กๆมากด้วยค่ะ
คือ ถ้าพาไปรีสอร์ทที่แบบมีแต่คู่รัก ฮันนีมูน ครอบครัวลูกเล็กอย่างเรา คงเกร็งมิใช่น้อย 555
(เรามาพักที่นี่ 4 วัน ได้เรียนรู้วิธีการเลี้ยงลูกอย่างเด็กฝรั่งไปเยอะเลย
จนต้องกลับมาปรับปรุงตัว 5555)


ส่วนบริเวณด้านหน้ารีสอร์ท ซึ่งเป็นเหมือนทางลงหาดสาธารณะ
จะมีบาร์ คาเฟ่ มีขายไอศครีมด้วย น่านั่งเชียว
เราชอบบรรยากาศแบบนี้มากๆๆ
ดูอบอุ่น สบายๆ















SmileySmileySmileySmileySmileySmiley



My Comment


1. ห้องพัก - ห้องมีขนาดเล็กไปหน่อยค่ะ (ถ้าเทียบว่า 7000 บ.นะ 555) แต่ข้อดี คือ ติดทะเลเลย ซึ่งอย่างที่บอกตอนต้น recommend มากๆๆๆ และถ้าเทียบแล้ว ได้ Beachfront กับราคาหลักพัน เราว่าคุ้มมากๆๆๆๆ เพราะส่วนใหญ่รีสอร์ทระดับ 4-5 ดาว ถ้า beachfront ก็เป็นหมื่นอัพอ่ะค่ะ เราเดินไปดูห้อง beachfront ของอนันตรามา (ซึ่งแน่นอนราคาเป็นหมื่นอัพ) เราว่ายังสู้ของ Buri Rasa ไม่ได้เลย ไม่ใช่เรื่องความหรูนะ แต่เรื่องความสะดวกสบาย ใกล้ทะเล สำหรับเด็กๆได้เล่นทราย เล่นทะเลอย่างที่บอก เพราะ beachfront villa ของ อนันตรา จะเป็นหลังๆ และลึกเข้าไปข้างในนิดนึง ทำให้ถ้าอยากจะเล่นทราย ต้องเดินออกมาหน่อยนึง พ่อแม่ก็ต้องตามออกมาดู (แต่ของเราคือ นอนเล่นในห้อง เปิดประตูทิ้งไว้ ก็เห็นลูกเล่นทรายแล้ว) ถ้าเล่นทะเล ก็ต้องเดินไกลกว่า (หาดกว้างกว่า) อันนี้เราหมายถึง สำหรับเด็กๆนะ แต่ถ้ามาแบบคู่รัก ชอบความสงบ ก็อีกเรื่องนะคะ .... ส่วนในรูป อาจจะเห็นว่า มีเตียงผ้าใบเยอะแยะ ห้องจะขาดความเป็นส่วนตัวรึป่าว ก็ขอบอกว่า แขกส่วนใหญ่ ก็จะมานอนอ่านหนังสือ อาบแดดกันเงียบๆ (คือ เป็นคนละกลุ่มกับหาดริ้นนะ) ก็ไม่ได้รบกวนอะไรกันนะคะ .. (สังเกตุได้ว่า ลูกๆเราก็เล่นทรายของเค้าไป ไม่มีใครกวนอะไรใคร)
ข้อเสียข้อเดียวของห้องพัก คือ ในห้องน้ำ มีแต่ Rain shower ซึ่งการอาบน้ำให้เด็ก โดยใช้ rain shower เป็นอะไรที่ยากมากกก 555 ถ้าจะให้ดี ติด shower แบบมีสายซักอันก็น่าจะดีนะคะ


2. หาดท้องนายปาน - เราว่าเหมาะเป็นหาดสำหรับครอบครัวมากๆ หาดสวยพอใช้ได้ น้ำใสดีค่ะ ไม่มีหิน ทรายลาดลงกำลังดี เด็กๆเล่นน้ำได้ (วันที่มีลม ก็จะมีคลื่นไม่ใหญ่มาก พอเล่นคลื่นได้สนุก) พนักงานบอกว่า หาดจะเป็นอย่างนี้ทั้งปีด้วยค่ะ (เล่นได้ทั้งปี) และที่สำคัญ กลุ่มคนที่พักที่หาดนี้ อย่างที่รู้ว่า เป็นรีสอร์ท 4-5 ดาวทั้งนั้น เพราะฉะนั้นก็จะกรองคนมาพักไปในตัว (ประเภทนอนอาบแดด เปลือยท่อนบนนี่ไม่มีนะคะ - แต่หาดริ้น มีค่ะ 555) ... สรุป คือ เราให้คำนิยามหาดนี้ได้ว่า เป็นหาดที่อบอุ่น ค่ะ Smiley  คือ มันไม่ได้เงียบสงบมาก (จนมีแต่เราคนเดียวที่จะเล่นทรายเล่นทะเล) แต่ก็ไม่ได้พลุกพล่านมาก ขนาดคนแออัดกันไปหมด ถือว่า กำลังพอดีค่ะ


3. ห้องอาหาร มีอยู่ห้องเดียว ชื่อ The Beach Club - อาหารเช้าหลากหลายน้อยไปนิด แต่อาหารเย็นโอเคค่ะ ราคาก็ไม่แพงมาก ถ้าสั่ง a la carte น่าจะ 200 ขึ้น (เช่น ผัดไทย แกงต่างๆ) แต่ถ้ากินเป็น dinner set (BBQ) จะอยู่ที่ 450 บ. ต่อหัวค่ะ ก็โอเคนะ (เอาจริงๆ เราว่า ค่าอาหารที่เกาะพะงัน ไม่แพงเลยอ่ะ ค่อนข้างถูกเลยด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับเกาะสมุย ถ้าร้านธรรมดา เฟรนช์ฟราย ก็ 60-70 บ. ยำวุ้นเส้น 80-120 บ. ต้มยำ ต้มข่าทะเล 150 บ. คือ ราคาธรรมดาๆเลย อาจจะเพราะการแข่งขันสูงด้วยป่าวไม่รู้)


4. การบริการ - พนักงานที่นี่น่ารักมากกกก บอกเลย ตอนแรกไม่ได้คาดหวังนะ คิดว่าเค้าคงดีแต่กับฝรั่ง (เราเป็นครอบครัวไทย น่าจะครอบครัวเดียว 555) แต่เปล่าเลย กับเราเอง พนักงานก็จะทักทายตลอด ยิ่งที่ห้องอาหารนี่น่ารักมาก คือ ลูกเรากินหก เลอะเทอะยังไงก็ไม่ว่า ยิ้มแย้มตลอด (คือ จริงๆ เด็กฝรั่งพ่อแม่ก็ให้กินเองไง มันก็หกเหมือนกัน เค้าคงชินแล้ว 555) คือ ปลื้มปริ่มมากกับการบริการของห้องอาหาร ^_^


สรุป (ซึ่งแทบจะไม่ต้องสรุป) เป็นที่พักที่เราแนะนำเลยนะคะ สำหรับครอบครัว ... และอย่าลืมจองเป็นห้อง Beachfront deluxe นะคะ คุ้มค่ามากๆค่ะ



สุดท้าย ฝากรูปครอบครัวซักรูป
ถ่ายหน้าหาด Buri Rasa แต่ดันไปติดป้ายของ Panviman 555











Create Date : 07 กรกฎาคม 2558
Last Update : 30 มิถุนายน 2560 11:27:01 น.
Counter : 498 Pageviews.

1 comment
mini review ที่พักสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก : Shasa Resort and Residence, Samui (Jul 2015)





เกริ่นนำ : เราตั้งใจทำบล็อคนี้เป็น มินิรีวิวนะคะ เนื่องจาก รูปภาพเราไม่เยอะ ไม่ครบทุกรายละเอียด และไม่สวยค่ะ 555
ถ่ายแบบบ้านๆ จากกล้องมือถือ และไม่มีเวลาถ่ายภาพเก็บทุกช็อต ทุกรายละเอียด เพราะต้องจับลูกไปด้วยค่ะ
 (เพราะภาพสวยๆ ดูได้จากรีวิวของนักรีวิวมืออาชีพกันได้อยู่แล้วเนอะ) แต่ที่ตั้งใจจะทำเพราะ
อยากทำรีวิวที่พักสำหรับครอบครัวที่จะพาเด็กเล็กไปเที่ยว เพื่อเป็นการแบ่งปันข้อมูลตรงนี้ค่ะ



ทริปสมุย-พะงัน เราเดินทางกัน 4 คนพ่อแม่ลูก 2 คนนะคะ ขอรีวิวในฐานะครอบครัวที่มีเด็กเล็กค่ะ
 2 สาวน้อยของเรา คนโตอายุ 5 ขวบ คนเล็กอายุ 1.5 ขวบค่ะ
ทริปนี้ขึ้นเครื่อง Bangkok airways ไปลงสมุยค่ะ เช่ารถขับที่สมุย ค้างสมุย 1 คืน จากนั้นคืนรถเช่า และลงเรือต่อไปพะงัน 
เช่ารถขับที่พะงัน และค้างที่พะงัน 3 คืนค่ะ (พัก Buri Rasa พะงันค่ะ) ขากลับก็กลับเครื่องจากสมุยเหมือนเดิม


SmileySmileySmileySmileySmileySmiley


สำหรับที่พักที่สมุย เนื่องจากเราแพลนว่าจะพาเด็กๆไป Samui Aquarium and Tiger Zoo
และแถมคนโต ยังเรียกร้องจะไปสวนผีเสื้ออีก
เราเลยเลือกที่พักที่อยู่ใกล้ๆแหล่งท่องเที่ยวไปเลย
นั่นคือ แถวแหลมเส็ดค่ะ
เล็งๆที่พักได้ 2 ที่ คือที่เซ็นทารา กับ ชาซ่า
สุดท้ายยอมจ่ายแพง เพราะอ่านรีวิวมาว่าชาซ่าน่าพักมาก


โทร.ไปถามทางรีสอร์ท เค้าบอกว่า เป็นห้อง suite ทุกห้อง
ราคาจองตรง 6,000 บ.ต่อคืน (มิ.ย. 15) type ต่ำสุด คือ ห้องอยู่ชั้นล่าง
จะเห็นวิวทะเลไม่ชัด แต่ถ้าเอาแพงขึ้น จะเป็นวิวเต็มๆ แต่ว่าห้องก็เหมือนกันทุกอย่าง
เลยสรุปได้ว่า เอาราคารไม่แพงแล้วกัน เพราะแค่คืนเดียว และเน้นเที่ยวเป็นหลัก
ว่าแล้วก็เช็คราคาจาก booking.com ได้มาในราคาคืนละ 4,500 บ.
เราว่ามันก็โอเคไมไ่ด้แพงมากเกินไป เลยจัดการจองซะ


พอมาถึง ขอบอกว่า เกินความคาดหวังมากๆ 
เพราะห้องกว้างมากๆๆๆๆ
เด็กๆเดินเล่น วิ่งเล่นในห้องได้สบายๆ ไม่อึดอัดค่ะ
แถมยังมีครัวเล็กๆให้ทำการข้าวได้ด้วย
สามีเห็นนี่ร้องว้าววเลย..
เพราะต้องเข้าใจนะคะ การมีเด็กเล็ก แบบ 0-2 ขวบ แล้วพาไปทานข้าวเย็น
ไปดินเนอร์ ในที่ที่แบบมืดๆ มียุง มีแมลง ยิ่งถ้าไม่มีแอร์
เด็กจะไม่สบายตัว ง่วงด้วย ก็จะงอแงมากๆค่ะ
ดังนั้นเวลาไปเที่ยว ถ้าเลือกได้ เราชอบพักแบบ service apartment หรือ คอนโด 
เพื่อที่จะเอาลูกทานข้าวในบ้านพักแบบสบายๆค่ะ
แต่เผอิญทริปนี้ อยู่แค่วันเดียว ขี้เกียจเตรียมของ เลยบอกสามี ขอไม่ทำค่ะ
(แล้วพอไปกินข้าว ที่ร้าน Beyond the sea ลูกคนเล็กก็งอแงจริงๆ T_T)
นอกจากมีครัวแล้ว ยังมีเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าด้วยนะคะ ( 700 บ.)
คือ ถ้าอยู่หลายวันนี่สบายๆเลย ซักผ้าได้ด้วย


ดูรูปเลยละกันนะคะ








ทุกยูนิตจะเป็น 2 ห้องนอนหมด
โดยในส่วนของห้องรับแขกกับห้องกินข้าว จะมีขนาดเท่ากันทุกห้องนะคะ
 แต่ถ้าจองไปแบบ 1 ห้องนอน เค้าก็จะล็อคอีกห้องไว้ค่ะ
เพราะฉะนั้น 1 ห้องนอนนี่คุ้มมากกกก 555
เพราะได้โซนด้านนอกขนาดเท่า two bedroom เลย อิอิ

















และมีระเบียงชมวิวแบบนี้ทุกห้องค่ะ





ห้องที่เราได้ อยู่ชั้น 1 เลย เพราะจองมาแบบราคาต่ำสุด
แต่วิวก็ไม่ได้แย่นะคะ พอได้อยู่ค่ะ








SmileySmileySmileySmileySmileySmiley



My Comment

- ที่เราชอบมากที่สุด ก็คือ ห้องกว้างขวางดีค่ะ อย่างที่บอกคือ เป็นห้องสวีท มีโซนห้องนั่งเล่น มีโต๊ะกินข้าว มีครัวเล็กๆ 
เหมาะมากสำหรับการมาเป็นครอบครัว ห้องกว้าง อยู่กันสบายๆ ไม่อึดอัดค่ะ

- Facility ต่าง เช่น สระว่ายน้ำ คิดส์คลับ ก็ทำได้ดีค่ะ สระว่ายน้ำใหญ่ น่าว่าย ลูกสาวอยากว่ายมาก แต่ไม่ได้ว่าย เพราะเธอไปติดใจ kids club ซะก่อนค่ะ 555 
เล่นของเล่น เล่นเกมส์ในนั้น เพลินมาก ลืมว่ายน้ำไปเลย

- ชายหาด บอกเลยเป็นจุดด้อยของที่นี่เลยค่ะ เราว่าหาดไม่สวย เล่นน้ำทะเลไม่ได้ค่ะ ตอนไปเราไม่ได้ไปเดินเล่นหาดทรายเลยค่ะ ไม่มีหาด
 แต่เห็นว่า เค้ากำลังเหมือนจะถมทรายนะคะ อนาคตอาจจะมีหาดสวยๆก็ได้

- เนื่องจากที่พักอยู่บนเขาแล้วลาดลงทะเล ทางเดินจากห้องพักไป ห้องอาหาร สระว่ายน้ำ ชาดหาด ต้องเดินลงบันไดทั้งหมด และขอบอก เมื่อยมากๆค่ะ 555 
เพราะฉะนั้น ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุนะคะ แต่อาจจะมีบางตึก บางห้องที่เดินน้อยหน่อย 
อันนี้ลองสอบถามพนักงานดูนะคะ (ตอนแรกเราอยากพาคุณแม่เรามาบ้าง แต่มาเจอ เดินขึ้นๆลงๆ เรายังเมื่อยเลย เลยขอบายดีกว่าค่ะ)

- ร้านอาหาร Beyond the Sea อาหารเช้าพอใช้ได้ค่ะ แต่ส่วนอาหารค่ำ ราคาสูงนิดนึง และค่อนข้างช้า (ทั้งๆที่ไม่ค่อยมีคนนะ 555) 
ที่สำคัญ ร้อนไปหน่อย คือ เป็น open air หมด ไม่ได้เปิดแอร์ค่ะ แต่รสชาติโอเคอยู่ 
(ถ่ายรูปมาด้วย แต่ร้านค่อนข้างมืด รูปเลยไม่สวย ไม่เอาลงละกันนะคะ)


โดยรวม ขอบอกว่า ประทับใจที่นี่มากๆค่ะ เหมาะสำหรับครอบครัวมากๆ
ถ้าไม่เน้น เล่นน้ำทะเล ขอแนะนำที่นี่เลยนะคะ Smiley


อวดรูปครอบครัวซัก 1 รูป Smiley





Create Date : 06 กรกฎาคม 2558
Last Update : 30 มิถุนายน 2560 11:26:41 น.
Counter : 350 Pageviews.

3 comment
Misa's second trip..Hua Hin again, @ Banyan Resort (1-3/5/10) # 1




กว่าจะได้ฤกษ์อัพบล๊อคทริปที่ 2 ของมิสา ตอนนี้มิสาก็ปาเข้าไป 9 เดือนล่ะ 555 (เขียนไว้ประจานความขี้เกียจของแม่มัน)...ขออัพกันอย่างสรุปความเลยละกัน เพราะไปมาหลายทริปแล้ว เดี๋ยวมันจะดองเกินไป..


หลังจากทริปแรกของมิสาผ่านไปตอนมิสาได้ 3 เดือน ทริปที่ 2 ของมิสาก็ตามมาติดๆ ก่อนที่มิสาจะครบ 4 เดือนเต็มเสียอีก อิอิ ซึ่งต้องบอกว่า เป็นทริปรวมญาติที่จัดขึ้นสำหรับหนูมิสาโดยเฉพาะ อิอิ แบบว่า บรรดาๆตาๆยายๆ เค้าอยากเล่นกับหนูมิสากันทั้งนั้น คุณยายไก่ ก็เลยจัดทริปนี้ขึ้นมาให้ เพื่อให้ญาติๆ ได้ฟัดมิสากันเต็มที่ 555 ส่วนพ่อแม่มัน ก็สบายไป เพราะคนช่วยเลี้ยงมิสาเยอะแยะเลย


ซึ่งนับเป็นทริปรวมญาติ ครั้งที่ 2 ในรอบหลายๆๆๆปีของตระกูลเรา ..ครั้งแรก ก็ปีที่แล้ว ตอนที่กิ๊กท้องเองอ่ะแหละ ประมาณว่าคนท้อง request แล้ว คุณยายไก่ ก็จัดให้เช่นเคย อิอิ (ตามไปอ่านได้จากลิงค์นี้เจ้าค่ะ)


ตอนแรกพวกเราอยากได้บ้านพักที่เดิมที่ไปพักกันคราวที่แล้ว คือ ที่ Prime Nature villa แต่ประมาณว่า ราคามันแพงมาก (ไม่ได้เรตเดียวกับคราวก่อน) ยายไก่เลยเปลี่ยนที่ใหม่...ในที่สุด ก็ไปได้ที่ Banyan Resort & Spa มา ก็จองไป 3 หลัง หลังนึง ก้ 2 ห้องนอน นอนกันได้ 4-6 คนสบายๆ...ทริปนี้เราไปกัน 3 วัน 2 คืน ช่วงหยุดยาววันแรงงาน ซึ่งจะบอกว่า มันดันไปตรงกัน Hua Hin Music Festival อะไรนี่แหละ เลยทำให้หัวหินช่วงที่ไปคนเยอะมากกกก รถก็เยอะมากกก รถติดในตัวเมืองหัวหินยาวมากกก


เอาล่ะ ไม่พูดพล่าทำเพลง..โชว์รูปที่พักคร่าวๆก่อน (แต่ไม่ได้รีวิวที่พักนะคะ เพราะเป็นบันทึกมิสา ก็จะเน้นโชว์รูปมิสา 5555)





ที่ชอบคือ บ้านพักทุกหลัง ด้านหลังจะติดกับสระว่ายน้ำค่ะ ก็สะดวกดี ลงเล่นน้ำได้เลย และด้านหลังบ้าน ยังมีสนามหญ้าเล็กๆ จะมานั่งกินข้าวกันก็ได้ ชิวดี (แบบครอบครัว) อ้อ ที่สระ มีจากุชชี่ให้บ้านทุกหลังเลยด้วย ดีๆ ไม่ต้องแย่งกัน











พอล่ะ สำหรับรูปที่พัก (บอกแล้วว่าจะโชว์รูปมิสา 555)...ต่อไปมาดูรูปมิสาดีกว่า อิอิ...เริ่มออกเดินทาง มิสาก็ชิวในคาร์ซีทเลย



++ แกะสายคาดออก เพื่อถ่ายรูปนะคะ จะได้ดูสวยๆ ++



ถึงหัวหิน ก็ถ่ายรูปกับคุณพ่อ คุณแม่ นิดนึง...








บ่ายแก่ๆ ก็ได้เวลา..พามิสาลงน้ำ...แต่ก่อนลง ก็ต้องเปลี่ยนชุดก่อนชิมิคะ









ตอนเปลี่ยนชุด ...ทุลักทุเลมากๆๆๆ 5555

Finally...





ได้ลอยตุ๊ปป่องแค่อย่างที่เห็นค่ะ 555 เพราะมิสายังเล็กอ่ะ แม่มันไม่กล้าให้ลงสระคลอรีน...สุดท้ายมิสาเลยกลับมานั่งดูคนอื่นเค้าว่ายน้ำกันแทน





ตกเย็น...ทุกๆคนเฮโลไปกินอาหารทะเลริมทะเลกันแถวๆเขาเต่า...ส่วนกิ๊ก ก็ต้องทำหน้าที่แม่ที่แสนดี อยู่เลี้ยงมิสาตามระเบียบ เพราะไม่อยากเอามิสาไปนั่งริมทะเล ช่วงพลบค่ำ กลัวยุงเยอะ กลัวคนแยะ...แม่อย่างเราก็เสียสละ กินข้าวผัดที่รีสอร์ท 555 โชคดีที่คุณยายผุสใจดี บอกว่าจะอยู่เป็นเพื่อน ช่วงเย็นๆ เลยได้โอกาสเอามิสามาเล่นน้ำสระอีกครั้ง 555











ซึ่งการที่กิ๊กตัดสินใจไม่เอามิสาไปกินข้าวด้วย ขอบอกว่า เป็นความคิดที่ถูกต้องที่สุด เพราะหลังจากทุกๆคนกลับมา ก็บอกแต่ว่า ดีแล้วที่มิสาไม่ไป เพราะที่ร้าน คนเยอะมากก (วันหยุดยาว + มีคอนเสิร์ต) แล้วอาหารก็รอนานมากๆๆๆ เล่นเอาทุกคนหงุดหงิดไปตามๆกัน

งานนี้ กิ๊กเลยรู้สึกดีใจ ที่อย่างน้อย เราก็ตัดสินใจ(เพื่อลูก)ได้ถูก ..ทั้งๆที่ตอนแรก ทุกๆคนบอกให้เอามิสาไปด้วย แต่กิ๊กเองที่ไม่ยอมเอาไป..เป็นความภูมิใจลึกๆ 555


วันแรกผ่านไปด้วยดี เอาต่อวันที่ 2 ตอนหน้านะคะ...



Create Date : 17 ตุลาคม 2553
Last Update : 30 มิถุนายน 2560 11:28:52 น.
Counter : 451 Pageviews.

3 comment
Misa's first trip @ Sixsense Hideaway, Hua Hin # 2 (6-8/4/10)





เช้าวันที่ 2 - มิสาตื่นขึ้นมาโดนยุงกัดไป 4 ตุ่ม กิ๊กกับพี่หยี่แทบหัวใจสลาย โมโหตัวเองมากๆ คือ รีสอร์ทนี้ก็อ่ะนะ มีความเป็นธรรมชาติสูง ยุงก็เลยเยอะ เค้าก็มียากันยุงให้ แต่เราก็ไม่กล้าจุด เพราะเรามีเด็กเล็ก(มาก) ที่โมโหตัวเอง คือ ทำไมไม่รู้จักจัดการอะไรทั้งๆที่รู้ว่ามียุง...





แต่มิสาก็ดูร่าเริงเป็นปกติดี ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรที่ถูกยุงกัด 555



++ เด็กน้อยร่าเริงเป็นปกติ ++



เราออกไปทานอาหารเช้ากันที่ห้องอาหาร The Beach ซึ่งเป็นบุฟเฟต์ จริงๆเราพักฝั่ง Sixsense สามารถไปทานที่ The Living room ได้ แค่เค้าบอกว่าที่ห้องนี้ทานรวมกันแขกที่ Evason ด้วย อาหารก็จะเยอะ หลากหลายกว่า เราเลยเลือกไปทานห้องนี้กัน...ก็เอามิสาใส่รถเข็นไป ให้นั่งดูคนเดินผ่านไปผ่านมา มิสาก็ดูสงบดี คงเพราะชอบมองอะไรเคลื่อนไหวๆ...แต่พอเริ่มร้องไห้ พี่หยี่ก็เอามิสาใส่เป้ เดินดูนู่นนี่ she ก็ดู happy ดี








ทานเสร็จ กลับมาที่ห้องพัก กิ๊กกับพี่หยี่ตั้งใจว่าวันนี้ต้องเล่นน้ำกันซักหน่อย เพราะอุตส่าห์พัก pool villa กันทั้งที ยังไม่ได้เล่นน้ำเลย (ดูท่าว่าทริปนี้คงไม่คุ้ม 555)....อยากให้มิสาเล่นน้ำ แต่กลัวคลอรีน เลยแค่เอาเท้าไปจุ่มๆพอ








อยู่ๆพี่หยี่ก็เกิดไอเดีย....เอาอ่างอาบน้ำเป่าลมของมิสา มาทำเป็นแพยางซะเรยย อิอิ ตั้งใจว่า จะเอามิสาไปลอยน้ำ เล่นน้ำด้วยกัน





ตอนแรกไม่รู้มิสาจะชอบรึป่าว แต่ก็คิดว่ามันน่าจะปลอดภัย เพราะเราก็จับอยู่ตลอด....มิสาเอง พอถูกเอาไปลอยน้ำ ก็ยังทำหน้างงๆ แต่ก็ไม่ได้ร้องไห้อะไร








กิ๊กกับพี่หยี่เลยได้ใจ จับแพน้อยลอยน้ำไปๆมาๆ (เหมือนโยนบอลเล่น 555 ) ถือเป็นกิจกรรมที่สนุกมากๆๆๆ มิสาก็ทำหน้ายิ้ม หน้างงๆ สลับกันไป...เสียดายไม่มีรูปถ่ายมาอ่ะ....ซึ่งต้องถือว่า กิจกรรมนี้เป็นอะไรที่มีความสุข หัวเราะได้เต็มที่ที่สุดตั้งกะมา 555



++ เด็กน้อยถูกลอยแพ ++



และแล้ว....โยนไปโยนมา...จากงงๆ ก็...





กลายเป็นวิธีเอามิสานอนแบบสบายๆ 555 พี่หยี่บอกว่า หรือเราต้องขุดสระที่บ้านไว้ให้มิสาลอย จะได้นอนง่ายๆ ไม่ต้องกล่อม 555 ...พอมิสาหลับ เราเลยปล่อยเค้านอนในอ่างน้ำไปเลย กลัวว่าถ้าอุ้มขึ้นมาอาจจะตื่น...มิสาหลับไปนานเลย แต่พอตื่นขึ้นมา หัวเปียกหมดเลย เหงื่อชุ่ม เพราะมันเป็นพลาสติก ไม่ระบายอากาศ...พ่อกะแม่ขอโทษนะจ๊ะ แหะ แหะ


ตอนเย็นๆ อากาศดีมากๆ (ไม่ร้อนแล้ว) เลยขึ้นไปบนชั้น 2 กัน พามิสาไปดูวิวทะเลซะหน่อย...อยากบอกว่า มุมระเบียงที่ชั้น 2 นี่ ชิลล์มากเลยนะคะ มีโต๊ะนั่งเล่น จะมาอ่านหนังสือ หรือกินขนม จิบไวน์ อะไรกันตรงนี้ก็ได้ เห็นวิวทะเลสวยมาก...แต่เผอิญ เรามากะเด็กเล็กค่ะ เลยไม่ได้ชิลล์ขนาดนั้น 555





สำหรับอาหารเย็นของวันนี้ มิกล้าแล้วค่ะ...มิกล้าพามิสาออกไปกินที่ไหน กลัวเธอร้อนกะกลัวยุงอีก เลยให้พี่หยี่ไปซื้ออาหารมาทานที่ห้องกันค่ะ...เลือกร้านอุดมโภชนา...อาหารอร่อยใช้ได้เลยทีเดียว

ซึ่งวันนี้เอง เป็นวันที่กิ๊กเริ่มรู้ว่า มิสาติดแม่มากๆๆๆ (ครบ 3 เดือน) เพราะตอนเย็น มิสางอแงมาก (คร้งเดียวในวันนี้) คุณแม่อุ้ม พี่หยี่อุ้ม ก็เอาไม่อยู่...ต้องถึงมือกิ๊กคนเดียวเท่านั้น ตอนแรกคิดว่าเค้าจำกลิ่นแม่ได้ พี่หยี่ก็พยายามเอาผ้าอ้อมที่มีกลิ่นนมไปพาดไว้ที่บ่า แต่พออุ้ม มิสาก็ไม่หยุดร้อง..ร้องแบบไม่ลืมหูลืมตา แต่พอกิ๊กอุ้มปุ๊บ ตายังไม่ทันลืมเลย ก็เงียบสนิท...กิ๊กเลยเสียสละให้คุณแม่กับพี่หยี่กินกันก่อน (ที่บอกว่าเสียสละเพราะตัวเองหิวมากกก 555) พอคุณแม่กับพี่หยี่ทานเสร็จ ก็มาช่วยกันดูมิสา (ให้ดูกัน 2 คนเลย จะได้ช่วยกันได้) ส่วนกิ๊กก็ไปกิน...แต่ก็กินไม่ได้เป็นสุข เพราะมิสาร้องตลอด ก็รีบๆกิน..แต่พอกิ๊กกลับมาอุ้ม มิสาก็เงียบทันที ก็แอบดีใจเล็กๆนะ ที่ลูกติดเรา อิอิ


ตอนกลางคืน ด้วยความกลัวยุงอีก คิดหาทางว่าจะทำไงดี ...ก็พอดี ช่วงที่นอนอยู่บนเตียง กิ๊กมองขึ้นไปเห็นมุ้ง (ใครนึกไม่ออก ย้อนกลับไปดูรูปห้องนอนวันแรกนะคะ) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเตียงที่เอวาซอน...แล้วก็นึกได้ เฮ้ย รีสอร์ทเค้ามีมุ้งนี่หว่า ถึงจะเป็นมุ้งผู้ใหญ่ แต่เราก็เอามาครอบเตียงเด็กได้นี่นา ก็เลยโทรไปขอมุ้งเค้า พนักงานก็เหมือนแปลกใจนะ จะเอามุ้งมาทำอะไร เพราะกิ๊กคิดว่า เค้ามีมุ้งไว้ประดับเฉยๆอ่ะ...แต่เค้าก็เอามาให้ ก็เลยเอามุ้งมาคลุมเตียงมิสา (ตอนชีหลับแล้ว)...ซึ่งประสบความสำเร็จมากกก เพราะตื่นมา มิสาไม่โดนยุงกัดเลย ..เย้ๆๆๆ


โดยสรุป - วันที่ 2 มิสาเริ่มคุ้นที่มากขึ้นแล้ว แม้จะไม่ร่าเริงมากมาย แต่ก็ไม่ร้องไห้งอแงเลย มางอแงเอาช่วงเย็นๆตอนทานข้าวเท่านั้น แค่คิดว่าเกิดจากการติดแม่ เพราะพอกิ๊กอุ้ม เค้าก็ไม่ร้องเลย



Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley



เช้าวันที่ 3 วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว ต้องกลับบ้านแล้ว...และอย่างไม่น่าเชื่อ มิสาอารมณ์ดีสุดๆ 555 แสดงว่า เริ่มจะคุ้นที่แล้วอ่ะ....แต่ก็อ่ะนะ วันสุดท้ายพอดี...กิ๊กเลยบอกพี่หยี่ว่า สงสัยเวลาไปไหนต้อง 3 วันขึ้น ถ้าไปแค่ 2 วัน มิสาจะยังไม่ทันปรับตัว ซึ่งนั่นแสดงว่า มันจะเปลืองๆๆอีกนะคะคุณลูกขา 555














ออกจากรีสอร์ทประมาณเที่ยง ก็ไปแวะทานข้าวกลางวันกันที่ Burger King 555 สิ้นคิดมากๆๆ แต่ต้องการร้านที่มีแอร์อ่ะ (ร้อนๆไม่เอาแล้ว เดี๋ยวคุณหนูรมณ์ไม่ดี) แล้วก็อยากกินด้วย (อยู่กทม.ไม่ค่อยมีโอกาสได้กิน)...ไปถึงร้าน ก็สามารถเอากระเช้า (carseat) ไปวางไว้ได้ ไม่มีใครสนใจ เรา 3 คน ก็นั่งกินกันไป มิสาก็อยู่ในกระเช้าสบายๆ ไม่ร้องกวน

ขากลับ...ขอแวะ outlet เปิดใหม่หน่อยเถอะ เป็นของ Flynow (ตอนที่ไป 8 เมษา เพิ่งเปิดใหม่จริงๆนะ แต่ตอนนี้ไม่ใหม่แล้ว)...ก็รู้นะว่า ลูกต้องตากแดดอีกแล้ว (จากที่จอดรถเข้าไปในอาคาร) แต่ก็นิดนึง อยากแวะอ่ะ 555 ซึ่งตลอดที่อยู่ outlet พี่หยี่ก็เอามิสาใส่เป้ตลอด...กิ๊กกะคุณแม่เลยช๊อปกันสบายๆ...เดินกันเป็นชม.ๆอ่ะ มิสาก็อึดดีมาก ไม่ร้องเลย....จนมิสาเริ่มออกอาการนิดๆ พวกเราก็จ่ายเงินกันพอดี





เป็นอันว่าจบทริปลงอย่างสวยงาม...แหม มาดีเอาวันสุดท้ายนะคะคุณลูก...ไม่เป็นไร แม่มีเวลาให้อีกหลายทริป 5555....แล้วก็ที่ดีใจคือ แม้ว่ามิสาจะต้องโดนแดดร้อน โดนลม โดนแอร์ หลากหลายอากาศยังไง...แต่มิสาก็แข็งแรงดีทุกอย่าง กลับมาไม่เป็นไข้เลย ทำให้กิ๊กได้ใจมากๆๆๆ 555 อย่างน้อยเด็ก 3 เดือนก็อึดกว่าที่คิดนะคะ


แล้วพบกันใหม่ทริปหน้านะคะ ลุง ป้า น้า อา ทั้งหลาย..





สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเมื่อจัดทริปพาลูกเที่ยว

1. การเลือกที่พัก - จริงๆแล้ว เอวาซอนก็ยังคงเป็นรีสอร์ทในดวงใจของกิ๊กกับพี่หยี่อยู่นะคะ ด้วยแบบที่พักและบริการของพนักงาน ต้องยกนิ้วให้ค่ะ...แต่ว่า ด้วยความที่ concept เค้าเน้นธรรมชาติเหลือเกิน ทำให้มันมีพวกยุง แมลงต่างๆค่อนข้างเยอะ เพราะภายในรีสอร์ท หรือแม้แต่ในวิลล่าเค้าจะมีต้นไม้เยอะ ก็อาจจะเป็นอะไรที่ต้องคิดมากหน่อยถ้าจะพาเด็กเล็กมาเที่ยว (ทริปเอวาซอน ยาวน้อย ปีหน้า เลยต้อง re-consider อีกครั้งถึงจุดนี้)

2. การเลือกร้านอาหาร - มีหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นอากาศ (อย่าร้อนมาก) ยุง แมลง ความสะอาด คนแน่น? (และที่ขาดไม่ได้สำหรับเรา แต่ไม่ใช่สำหรับลูก คือ ความอร่อย 555) อาหารเย็น ถ้าเลือกร้านริมทะเล ต้องไปเร็วหน่อย ก่อนฟ้ามืด จะได้ไม่มียุง ไม่ก็ต้องเป็นห้องแอร์ หรือไม่ก็ ซื้อเข้ามาทานที่รีสอร์ทเลย

3. อารมณ์ชิลล์ ไม่มีอีกแล้ว 555 - อันนี้เอาไว้เตือนตัวเอง ก่อนไปทริปนี้ กิ๊กเตรียมหนังสือไปอ่านเยอะมากก เอาซีดีเพลงชิลล์ๆไปฟัง เตรียมน้ำมันหอมไปจุด คือ นึกถึงอารมณ์ไปเที่ยวตอนก่อนมีลูกยังไง ก็หวังจะให้เป็นหยั่งงั้น...But ๆๆๆๆๆ มันไม่มีอีกแล้วคะ อารมณ์ชิลล์ๆ 555 หนังสือที่เอาไป ไม่ได้อ่านซักเล่ม (อ่านตอนเข้าส้วมหน่อยเดียว) น้ำมันหอม ไม่ได้จุด ไม่รู้จุดได้รึป่าวด้วย จะเป็นอะไรกับจมูกลูกมั้ยอ่ะ...ส่วนเพลง ไม่ต้องพูดถึง เปิดไปก็เท่านั้น..because ๆๆๆๆๆ ไม่ว่าจะเวลาไหนเวลาไปเที่ยว ก็คือ การเลี้ยงลูกๆๆๆๆ 5555 เล่นกะลูก คุยกะลูก อุ้มลูก ให้นมลูก คือ จะให้หนีไปนั่งอ่านสือ ฟังเพลงคนเดียว แล้วให้พี่หยี่เลี้ยง...ทำไม่ได้อ่ะ ก็เป็นห่วงเค้าป่ะ อยากเล่นกะเค้า 555 สรุป ไปเที่ยว ก็แค่เปลี่ยนที่เลี้ยงลูก 555 แต่ก็อยากไปนะ อิอิ



Create Date : 08 มิถุนายน 2553
Last Update : 30 มิถุนายน 2560 11:28:30 น.
Counter : 1105 Pageviews.

1 comment
1  2  3  

Beauty & Bambi
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 36 คน [?]



ณ 31/1/2023

นิยามตัวเองได้ว่า เป็นคนชอบ เที่ยว กิน ช๊อป ค่ะ...แต่หลังๆไม่ได้อัพบล็อคเลย มัวแต่เล่น ig กับ เฟส ^^

บล็อคที่เขียนไว้อาจจะนานแล้ว แต่ก็ยังหวังว่าจะพอมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ ถ้าได้เที่ยว (หลังโควิด ) จะมาอัพอีกนะคะ


*** เราไม่ค่อยได้เข้ามาเช็คที่ blog เท่าไร่ ถ้าเพื่อนๆอ่านแล้วมีคำถาม รบกวนถามมาทางอีเมลล์เลยนะคะ (ดูอีเมลล์จาก profile ได้ค่ะ) เรายินดีตอบทันทีค่ะ แต่ถ้ามาทิ้งคำถามไว้ที่ blog หรือ หลังไมค์ มันอาจจะนานกว่าเราจะมาอ่านเจออ่ะค่ะ ***
New Comments