Group Blog
All Blog
|
รีวิวร้านอาหารในพัทยาระหว่างอพยพหนีน้ำ (27/10 - 21/11/54)
ไม่ได้เขียนบล๊อครีวิวร้านอาหารนานล่ะ เพราะเวลาไปกิน ไม่มีเวลามาละเลียดกิน ละเลียดถ่าย เพราะมีตัวแสบไปด้วยตลอด 555 แต่ขอกลับมาหน่อย เพราะ ไหนๆ ก็ไปอาศัยอยู่พัทยา(เป็นการชั่วคราว)โดยที่บ้านและออฟฟิศ น้ำก็ไม่ได้ท่วมกับเค้าเลย เลยอยากทำตัวเป็นประโยชน์ โดยการทำสิ่งที่ตัวเองถนัด 555 นั่นคือ เรื่องกิน และเรื่องเที่ยว เลยขอสรุปและแชร์ comment ร้านอาหารที่ได้ไปกินมา เผื่อเพื่อนๆที่สนใจจะไป จะได้อ่านเป็นแนวทางนะจ๊ะ รายชื่อร้าน ตามที่นึกออก ไม่ได้เรียงตามลำดับความชอบแต่อย่างใด 1. ริมผาลาพิณ - ยกขึ้นมาร้านแรก เพราะเป็นร้านประทับใจมากกกก วิวสวยสุดๆๆๆ แต่แนะนำต้องไปก่อนฟ้ามืดนะ จะได้เห็นวิวสวยๆ และต้องโทร.จองโต๊ะด้วย เพราะคนแน่นมาก ขนาดเราไปวันธรรมดา ยังได้โต๊ะเกือบสุดท้าย เหอ เหอ...รสชาติอาหารพอใช้ได้ ไม่เน้นอาหารทะเล และราคาก็ปานกลาง-สูง (วันที่ไปเจอแพนเค้กกะคุณแม่มากินด้วยล่ะ อิอิ) 2. ร้านมุมอร่อย - เป็นร้านดังที่คนเยอะมากกก แต่โดยส่วนตัว เฉยเมยมากๆๆ คือ ความอร่อยก็ปานกลาง ไม่มีอะไรโดดเด่นเลย บรรยากาศก็งั้น ริมทะเลก็จริงๆ แต่พอคนเยอะๆก็ดูวุ่นวาย เสียงดัง (ไม่ได้โรแมนซ์อะไร) บริการก็ห่วย คงเพราะคนเยอะน่ะแหละ สรุป ให้ไปอีกก็ไม่ไป 3. ร้านปูเป็น - ร้านนี้ก็คนเยอะเหมือนกัน แต่ได้ตรงความสดของอาหาร ปูเค้าจะเยอะมาก (ถ้าช่วงไหนที่ปูหมด ควรไปร้านนี้ เพราะมั่นใจได้ว่ามีแน่นอน) แล้วก็ตัวโตที่สุด (ที่ได้กินมา) คือ 5 ตัว โลครึ่ง แต่ไม่รู้เพราะสั่งโลครึ่งรึป่าว เลยได้ตัวโตมา 5 ตัว พออีกวันไป สั่งปู 1 โล ก็ได้มา 5 ตัวโล เหมือนกัน เซ็งเลย! ราคาก็ปานกลาง น้ำจิ้มซีฟู๊ดเผ็ด เราไม่ชอบ 555 สรุป เป็นอีกร้านที่ดัง คนเยอะมากกก แต่ให้ไปอีก เราก็ไม่ไปอ่ะ (หรือ เราชอบไม่เหมือนคนอื่นเค้า เอ๊ะ ! ยังไง) 4. ร้าน The View - ร้านนี้ไปตอนกลางวัน วันธรรมดา ไม่ค่อยมีคนเท่าไร่ ...ร้านตกแต่งสวย ริมทะเล กุ้งอบวุ้นเส้นอร่อยมาก น้ำจิ้มรสชาติโอเค ไม่เผ็ดมาก หมึกผัดไข่เค็ม ก็โอดี คือ ไข่เป็นไข่จริงๆ 555 ราคาก็ปานกลาง - สูง 5. ร้านปรีชา บ้านอำเภอ - ร้านนี้ก็คนเยอะ (อีกแล้ว) บรรยากาศธรรมดา แต่เน้นอาหารทะเลเต็มๆ หมึกผัดไข่เค็มอร่อยมากก อาหารทะเลสด ตัวโตแบบคุณภาพ แต่การบริการงั้นๆ (ทำไม จำนวนลูกค้า กับการบริการมักแปรผกผันกันทุกร้านนะ !) ร้านนี้กินมาหลายครั้ง ติดใจกั้งแก้วทอดกระเทียมมากสุด แต่นอกนั้น ก็ไม่ได้มีอะไรเด่นเท่าไร่ 6. ริมหาด บางเสร่ - ร้านนี้เป็นร้านแบบบ้านๆเลยนะ ไม่เน้นร้านสวย แต่เป็นร้านโปรด ไปพัทยาทุกครั้ง กินทุกครั้ง (แล้วทำไมไม่ไว้อันดับแรก 55) อาหารอร่อยทุกอย่าง ที่แนะนำ คือ หมึกผัดไข่เค็ม (อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา!) แกงส้มไข่ปลา ยำไข่แมงดา ผัดฉ่า (คือ ไปทุกครั้ง ก็กินเท่านี้ อย่างอื่นเลยไม่รู้ 555) ส่วนอาหารทะเล จัดไปเลย สดอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่ได้ตัวใหญ่คุณภาพมากนัก เพราะราคาเค้าไม่แพง แต่สั่งได้ทุกอย่างจริงๆ ที่ถูกใจ คือ น้ำจิ้มซีฟู๊ด ไม่ค่อยเผ็ด คนไม่ทานเผ็ดน่าจะชอบ...อ้อ ร้านนี้ไม่รับบัตรเครดิตนะจ๊ะ 7. The Glass House - ร้านนี้บรรยากาศดี ร้านสวยค่ะ ควรจองโต๊ะก่อน และไปก่อนมืด จะได้บรรยากาศกว่า ส่วนเรื่องอาหาร ไม่เน้นทะเล มีอิตาเลี่ยนด้วย รสชาติโอเค ไม่โดดเด่น (ฝรั่งจะดีกว่าไทย)...ส่วนที่ไม่ควรสั่งเลยคือ ช๊อคโกแลตเย็น..โดนไปแล้ว แก้วละ 90 บ. ไอ้เราก็นึกว่าต้องอร่อย เพราะแพง (ไม่ใช่แบบแก้ว 40 บ) แต่ปรากฏ เหมือนชงช๊อกโกแลตซองที่แถมตามรร.มาให้เรากิน จืดสนิท (ถ้าเป็นในหนังจะเห็นท่าบ้วนทิ้งดัง ถุยๆ ด้วย 555 แต่เผอิญชีวิตจริง เราเป็นคุณหนูเรียบร้อย เลยไม่ทำ) 8. ปัน ปัน - ร้านอิตาเลียนที่อยู่คู่พัทยามาเนิ่นนาน กินมาตั้งกะเป็นเด็ก รสชาติโอเค แต่ราคาเหมือนทำไมมันแพงขึ้นหว่า ตอนนี้ไอติมลูกล่ะ 70 บ. (More Ice ลูก 49 บ. เอง แวะมากินกันได้นะคะ ไอติมอร่อย คุณภาพด้วย อิอิ) แต่ก็ยังไปกินนะ มันเหมือนเป็นอะไรที่คลาสสิค กินจนเป็นประเพณีอะไรประมาณนี้ 555 9. La Baquette - เริ่มเข้าสู่โหมดอาหารฝรั่งแล้วนะจ๊ะ อิอิ ร้านสวยน่านั่ง อยู่ตรงพัทยาเหนือค่ะ ร้านนี้มีเครปอร่อยค่ะ ทั้งเครปคาวและหวาน สั่งได้หมด ส่วนพวกเครื่องดื่ม ก็อร่อย แนะนำเป็น ชาเขียวเย็นนะคะ กินแล้วชื่นใจดีค่ะ...ราคาแพงใช้ได้ค่ะ 555 10. Silverlake wine & Grill - ร้านอาหารอิตาเลี่ยน อยู่ใน Silverlake ค่ะ ใครมาเที่ยว Silver lake เย็นๆ ก็แวะกินที่นี่ได้เลย นั่งโซนด้านนอก บรรยากาศดีเหมือนเมืองนอก (และเหมือนเขาใหญ่ 555) แต่รสชาติธรรมดามากก ไม่ได้ประทับใจเลย กินครั้งเดียวพอค่ะ 555 ...อ้อ ราคาแพงด้วย 11. ประภาคาร บ้านอำเภอ - ร้านอาหารทะเล กึ่งๆผับนิดๆ ร้านไม่ใหญ่มาก ตกแต่งแนวทะเลๆ(และประภาคาร) รสชาติโอเคค่ะ เน้นอาหารทะเล น้ำจิ้มซ๊ฟู๊ดอร่อย คือ ไม่เผ็ดมาก (ตามใจเรา อิอิ) วันนั้นสั่งมาหลายอย่าง ก็ทานได้ทุกอย่าง (แต่ไม่โดดเด่นขนาดให้จำได้ 55) 12. ตำนานป่า (ระยอง) - ขอแถมเลยออกไปหน่อยนะ เพราะชอบร้านนี้อ่ะ ร้านใหญ่ดี สวยงาม อลังการ อาหารรสชาติใช้ได้ ไม่ได้เน้นอาหารทะเล ราคาก็โอเค ไม่แพงมาก น่าพาเด็กๆไปกิน เพราะมีบ่อน้ำ มีปลา ตกแต่งเป็นป่าๆ...ควรค่าแก่การไปซักครั้ง อิอิ 13. ฟาร์มปูนิ่ม (ตราด) - เคยเป็นร้านโปรดมากๆๆ เพราะปูนิ่มถูกสุดๆ จานละ 130 บ. มี 3 ตัวแน่ะ แล้วก็ปูนิ่มทอดกระเทียมอร่อยมาก แต่พอกลับไปกินหนนี้ กลับรู้สึกเฉยๆ คือ จานเด่นเค้า คือ ปูนิ่มทอดกระเทียมไง ถ้าจานนี้ไม่อร่อยแล้ว จานอื่นๆ ก็เฉยๆเลยอ่ะ โดยเฉพาะไอ้เส้นจันทน์ผัดปูนิ่มนี่ไม่ต้องสั่งนะ สั่งครั้งแรก จำได้ว่าไม่อร่อย พอไปครั้งที่ 2 ก็ให้โอกาสอีก ขออีกที แต่ก็สรุปได้ว่าไม่อร่อย หวานสุดๆ..ฉะนั้น หลังจากให้โอกาส 2 ครั้ง สรุปได้ว่า ไม่อร่อยเด้อ 14. สุดทางรัก พัทยา - ร้านนี้มีทั้งทะเลและไม่ทะเล รสชาติใช้ได้ ราคาปานกลาง คนเยอะ(แต่ไม่เยอะมากเหมือนมุมอร่อย) บริการโอเค คือ มันไม่ได้มีอะไรเด่นมาก แต่ก็ไปได้มากกว่า 1 ครั้ง 555 ด้วยเพราะอาหารโอเค รสชาติ โอเค คนไม่เยอะ 15. ร่มสน (ระยอง) - ร้านอาหารริมทะเลที่มีบริการบ้านพักด้วย อยู่ที่บ้านฉางค่ะ ร้านนี้อร่อยเลย อร่อยหลายอย่าง แนะนำ อิอิ ราคาก็ไม่แพง นั่งกินอาหารริมทะเล ใต้ร่ม(ต้น)สน ตอนบ่ายๆเย็นๆนี่ ได้อารมณ์ดีมากเลยค่ะ (ร้านนี้พี่ที่เค้าเป็นเจ้าถิ่นที่ระยองพาไปกิน พอไปแล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ อาหารอร่อยเลยล่ะ) 16. Mata Hari - ปิดท้ายด้วยร้านอาหารอินเตอร์ ที่ได้รางวัล 2011 Best Restaurant จาก Thailand Tatler ..จริงๆไม่ได้อยากกินอาหารอินเตอร์หรอก แต่เนื่องจากร้านนี้อยู่ที่ตึก Service aparment ที่เราอยู่ พอวันกลับ ก็เลยขอไปกินสั่งลาซะหน่อย แต่จะบอกว่า สุดยอดมากก อาหารอร่อยมากก สมแล้วที่ได้รางวัล ...ราคาก็เข้าขั้นแพง บริการดีเยี่ยม ต้องถือว่าเป็นร้านอาหารฝรั่ง(แบบหรู)ที่คนเยอะอ่ะ ตกเย็นทีไร มองเข้าไป ก็ 10 กว่าโต๊ะทุกที ...ถ้าใครไปพัทยา แล้วเบื่อทะเล จะลองเปลี่ยนบรรยากาศมาทานร้านนี้ดูก็ได้นะจ๊ะ แถม ร้านเครื่องดื่มสุดโปรด อีก 1 ร้าน 1. Wonder Farm อยู่ระหว่างทางจากวัดญาณฯ ไปวัดเขาชีจรรย์ - ร้านกาแฟร้านนี้ เครื่องดื่มอร่อย แล้วไม่แพงเลย โกโก้เย็น อร่อยมาก แก้ว 60 บ.อ่ะ แล้วก็ร้านใหญ่มากก แค่ชื่อ ก็บอกว่าเป็น farm 555 สามารถพาเด็กๆไปให้อาหารแพะ อาหารกระต่ายได้ รับรองเด็กๆจะสนุกมาก แล้วตอนเย็นๆ อากาศจะดีมาก เย็นนิดๆ สบายๆ...สั่งเครื่องดื่มแก้วเดียว ให้ลูกเล่นกระต่ายได้เป็นชม. คุ้มจะตาย 555 (แต่ตอนไปเราสั่งหลายอย่างนะจ๊ะ ^^") และ แถม ร้านอาหารที่เกาะช้าง 1. ชาวเล บางเบ้า - ร้านนี้ใช่เลยค่ะ อร่อยค่ะ 555 ราคาก็แพงนิดนึงค่ะ (บนเกาะ ก็งี้แหละ)...เมนูที่แนะนำ คือ สปาเก็ตตี้ซอสแพนงหอยเชลล์ค่ะ (หรือ แพนงหอยเชลล์ราดสปาเก็ตตี้หว่า 555) 2. เรือนไทย - ร้านนี้กินตอนมาเกาะช้างครั้งแรก เห็นเค้าแนะนำกันนักหนา ออกรายการเปรี้ยวปากด้วย แต่นึกถึง มันเหมือนไม่มีความทรงจำอะไรเหลืออยู่เลย ไม่ได้มีอาหารอะไรเด่ดๆให้นึกถึง...เลยทำให้คิดได้ว่า มันคงไม่อร่อย 555 (คราวนี้เลยเปลี่ยนไปกินชาวเล ซึ่งก็ดีใจ เพราะเลือกไม่ผิด อร่อยจริงๆ) 3. ร้านอาหาร the SEA @ KC Grand hotel - คือ เราพักที่รร.นี้คืนแรก ก็เลยทานที่นี่ค่ะ ง่ายดี...อาหารอร่อยค่ะ ราคาถูกด้วยอ่ะ ไม่น่าเชื่อว่าเป็นราคาอาหารโรงแรม อาหารทะเลก็สด กินกุ้งลายเสือเผา อร่อยมากก เผาสุกกำลังดี น้ำจิ้ม ก็ไม่เผ็ดมาก กลมกล่อม คนไม่เยอะเลยได้นั่งชิลล์ริมทะเลแบบไม่ต้องจองโต๊ะ อิอิ 4. เกี๊ยว หนองบัว ฯ - ร้านอาหารทั่วไป มีขายสารพัดอย่างที่ไม่ใช่ทะเล ผัดไทย บะหมี่ สปาเก็ตตี้ แฮมเบอร์เกอร์ ฯลฯ คือ เมนูเยอะมากๆๆอ่ะ เหมาะกินกลางวันง่ายๆ รสชาติอร่อยเลย ราคาไม่แพง จานละ 30 บ.อัพ คือ มันจะมีร้านอยู่บางประเภท ที่เราแบบว่า ไปถึงแล้ว สั่งอะไรก็ไม่รู้ ที่ไม่น่าจะสั่ง ไม่ใช่เมนูเด็ด จานเด็ดของเค้า แต่พอเราชิมมาคำนึง แล้วก็..รู้สึกเลยว่า ร้านนี้ อร่อยว่ะ 555 เพื่อนๆเคยเป็นกันมั้ยอ่ะ คือ ถ้าจานเด็ด แล้วอร่อย มันจะไม่แปลก แต่ถ้าอะไรที่บ้านๆ แต่พอได้กินแล้ว เค้าทำอร่อย มันก็จะทำให้เราเชื่อมั่นเลยว่า ร้านนี้แหละ อร่อย...เราจำได้ อะไรแบบนี้ ...ร้านที่เข้าข่ายนี้ของเรา คือ ร่มสน กับ ชาวเล ค่ะ กับอีกแบบ ก็คือ กินได้เรื่อยๆ ไม่ได้อร่อย โดดเด่นอะไร แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียด ถ้ามันไม่แพง คนไม่เยอะ ก็ไปได้เรื่อยๆ...แต่ถ้าร้านแบบนี้ แล้วคนเยอะ บริการห่วย แพง..ก็อย่าหวังว่าจะได้ไปอีก ร้านที่เข้าข่ายนี้ของเรา ก้คือ มุมอร่อย และปูเป็นค่ะ ! อย่างที่รู้กันอยู่แล้ว comment ต่างๆ ก็เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวเรานะคะ บางคนอาจจะเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ก็อย่าว่ากันเน้อ ถือว่าเอามาแบ่งปัน เผื่อเป็นไอเดียให้คนที่จะไปเที่ยวพัทยาจ้า ไปลองทาน steak @ Prime , รร. Hilton
มื้อนี้ ไม่มีไรมากก..เคยได้ยินพี่ที่รู้จักเค้าแนะนำมานานแล้วว่า steak ที่รร. ฮิลตัน อร่อยดี เนื้อใช้ได้...ตามประสาคนชอบกินเนื้ออย่างเราก็ต้องหาโอกาสไปลอง..วันดี คืนดี ว่างอยู่ ที่บ้านไม่มีอะไรกิน (จริงๆก็ทุกวันแหละ เพราะไม่ได้ทำกับข้าวเอง อิอิ) คุณสามี ก็เลยชวนไปหาไรกินใกล้บ้าน ซึ่งก็คือ ร้าน Prime ที่ รร. ฮิลตัน
ไปถึง ชอบบรรยากาศร้านเค้ามาก ตกแต่งสวยมากๆๆๆ บอกไม่ถูกว่าสไตล์อะไร แต่คนที่เคยไปรร.นี้คงพอรู้ว่า เค้าจะตกแต่งแนวสมัยใหม่หน่อย (เพราะเป็นรร.ใหม่ด้วย) แต่ก็หรูหราอยู่ในที หน้าร้าน เปิดเป็นครัวแบบ open  จริงๆร้านเค้าตกแต่งสวยมาก แต่ว่ามันมืด และเราใช้มือถือถ่าย รูปก็เลยออกมาไม่สวยเลย  ร้านนี้อยู่ชั้น 4 ของรร.ค่ะ สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้...ฝั่งตรงข้ามจะเป็น royal Orchid Sheraton ก็เลยทำให้วิวดูสวยดี..เราได้ที่นั่งติดกระจก เห็นวิวสวยๆ ริมน้ำค่ะ  ประเดิมจานแรก..เอ้ย ไม่ใช่สิ order แรก ก็ต้องเป็นน้ำ...แค่น้ำก็พิถีพิถันแล้ว ทางร้านถามว่าจะ เอาน้ำแร่เอเวียง หรือ จะเอายี่ห้อ Voss ซึ่งเป็นน้ำแร่มาจาก หิมะอะไรซักอย่างที่ประเทศ Norway ... ด้วยความอยากลอง และไม่กลัวเสียฟอร์ม เราเลยถามก่อนว่า ขวดละเท่าไร่...ไม่ใช่ทำเท่ห์ สั่งน้ำแร่ แล้วปรากฎราคา ขวดละ 1000 อะไรอย่างงี้...เค้าบอกว่า ขวดละ 320 บ. โอเค พอรับได้ ก็เลยลองสั่งดู 1 ขวด เค้าบอก สามารถเอาขวดกลับบ้านได้ด้วย (รูป มานึกได้ ตอนน้ำจะหมดขวดแล้ว เลยเพิ่งถ่าย 555)  ส่วนคุณสา สั่ง wine มาลองดื่ม..ไวน์ไรไม่รู้ แล้วก็ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ อ่ะ จานแรก ของจริง ก็ต้องเป็น...ขนมปัง 555 เราว่า ขนมปังเค้าอร่อยดีนะ เนยก็มี 2 แบบ...แต่พยายามกินแบบระวัง เพราะกลัวจะอิ่มตั้งกะขนมปัง  สั่ง appertizer มาแค่อย่างเดียว คือ Clam chowder แต่บอกเค้าว่าจะแชร์กัน ทางร้านก็เลยจัดการแบ่งมาเสร็จ 2 ชาม(เล็ก)  รสชาดอร่อยมากมาย วิดน้ำกินจนเกลี้ยง (ต๊ายย พูดซะเห็นภาพ 555) เราสั่ง main dish คนละจาน แล้วก็สั่ง side dish มา 3 อย่าง แชร์กันกินเหมือนเดิม...main dish ของเราคือ Grill Tiger prawn คือ ตอนแรกก็อยากกิน steak นะ แต่พอเห็น menu Tiger prawn มันก็อดไม่ได้อ่ะ แหะ แหะ แล้วก็ไม่อยากกินหนักมาก เพราะช่วงหลังท้องไส้ไม่ค่อยดี เลยกะว่าเดี๋ยวขอแบ่งเนื้อจากคุณสาเอา  อยากบอกว่ากุ้งตัวโตมากๆๆ กินแล้วเต็มปากเต็มคำสะใจดีจังเลย...เค้ามีน้ำซ๊อสให้เลือกหลายแบบ ของเราเลือกเป็นซ๊อสมะนาวอะไรซักอย่าง (ทางร้านแนะนำอันนี้ ใช้จิ้มกับซีฟู๊ด) อร่อยเด็ด จนอยากจะยกซด 555 ขนาดมีน้ำจิ้มซีฟู๊ดสุดแซบของไทย เรายังเมินเลย อิอิ ส่วนของคุณสา เป็น..เอ่อ..Steak...โทษทีค่ะ จำไม่ได้ว่าเนื้ออะไร 555 รู้แต่ว่าความสุกกำลังดี แล้วเนื้อก็นุ่มมากกกก  และด้วยความโลภ กลัวว่าจะไม่อิ่ม แทนที่จะสั่ง side dish คนละอย่าง (หรือ ไม่สั่งเลยก็ยังไหว) ก็เลยล่อเข้าไป 3 อย่าง...มี spinach, บล๊อคโคลี่ และ harsh brown (สะกดไม่เป็นอ่ะ เหอ เหอ) สุดท้าย ต้องห่อกลับบ้าน มาเป็นอาหารเช้าได้อีก 1 มื้อ อิอิ  สำหรับของหวาน ไม่มีนะคะ เพราะว่าอิ่มมากๆๆๆค่ะ 555 สรุปเลยละกัน รสชาดอาหาร - ดีมากๆค่ะ อาหารคุณภาพดี สมราคานะ การบริการ - ดีมากๆๆๆ อันนี้ให้ดีมากกว่าอาหารอีก เพราะพนักงานนะ พูดจาดีมาก นอบน้อม ตอนเราเดินไปห้องน้ำ เราไม่รู้ทาง ก็เลยต้องถามไปเรื่อย พนักงานก็พูด เชิญค่ะ ทางนี้ค่ะ ทุกคน ตลอดทางจนเราถึงห้องน้ำ...เราถึงขนาดคิดว่า ถ้าเค้าอุ้มเราไปห้องน้ำได้ คงทำแล้วมั๊งเนี่ย 555 ประทับใจค่ะ ราคา - ก็มาตรฐานระดับรร. 5 ดาวค่ะ เหอ เหอ (main course อยู่ที่ประมาณ 1000 อัพ , side dise ประมาณ 150 -350 บาท) เลี้ยงปลอบใจ @ Circle restaurant ซ.ร่วมฤดี
เนื่องจาก ช่วงนี้อยู่ในอาการเหงา เศร้า ซืม เพราะคุณสามีเล่นไม่กินเนื้อสัตว์(สัตว์ใหญ่ เช่น ไก่ หมู เนื้อ แต่กินพวกปลา กุ้ง หอย ) ร่วมเกือบ 50 วัน คุณภรรยา ผู้ชื่อชอบกินเนื้อ โดยเฉพาะ steak เป็นชีวิตจิตใจ ก็เลยหงอยๆไปด้วย ซึ่งพอไม่กินเนื้อสัตว์ ก็ทำให้การกินอาหารตามร้านต่างๆลดน้อยลงไปด้วย โดยมาก ก็จะเหลือแค่ร้านพวกฟูจิ หรือ อาหารญี่ปุ่น เพราะมีปลาต่างๆให้เลือกเยอะ...แบบว่า กลัวว่าถ้าไปพวกร้านที่มี steak อะไรหยั่งงี้จะอดใจไม่อยู่ 555
แต่วันดีคืนดี คุณสามี คงเห็นในความหงอยของอิชั้น ก็เลยชวนไปทานข้าวนอกบ้านกัน โดยให้อิชั้นเลือกร้านได้ตามชอบใจ ... ว่าแล้ว ก็เลยไปเปิดแผ่นพับในบัตรเครดิต ว่ามีร้านอะไรใหม่ๆ น่าชิม และได้ลดบ้างว้า... อิอิ สุดท้าย ก็มาได้ที่ ร้าน Circle ซ.ร่วมฤดีค่ะ ตอนแรกในแผ่นพับ เค้าเขียนประมาณว่า California fusion อะไรซักอย่าง เรา 2 คน ก็ดั๊นจิตนาการไปได้ ว่าคงเป็นประมาณ ญี่ปุ่นๆ fusion หน่อยๆ แต่จริงๆ พอมาดูเมนู เค้าบอกว่า เป็นอาหาร California ก็เลยงงๆไปนิด...(อยู่อเมกา มา 3 ปี ไม่ยักกะรู้ว่า รัฐแคลิฟอร์เนีย เค้ามีอาหารประจำรัฐด้วย 555) แต่ก็ เอ่อ...นึกได้ว่า สงสัย เราจะเหมารวม คำว่า california นึกว่าเป็น california roll ไปเสียฉิบ...อิอิอิ  เอาล่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว มาถึงร้าน ก็ต้องลองอ่ะนะ..แต่จริงๆ อาหารแคลิฟอร์เนียเนี่ย มันก็เหมือนอาหารฝรั่งทั่วๆไปมาปนกันน่ะแหละค่ะ มีพวก steak และก็ pasta ต่างๆ สลัดต่างๆ หลายๆแบบ เนื่องจากคุณสา ไม่กินเนื้อ แต่อาหารแนะนำดันเป็น NZ Tendderloin steak แล้วคุณภรรยาอย่างอิชั้น จะไม่สั่งได้ไงล่ะคะ (อ้าว ! อิอิ) ก็แหม เค้าบอกให้เดี๊ยนสั่งนะ บอกว่ามาทั้งทีกินไปเถอะ พี่จะนั่งน้ำลายไหลเอง 555 ในเมื่อเจ้ามือเสนอ เราก็ต้องสนองสิคะ ชิมิ...เอาล่ะ มาดูอาหารที่เราสั่งกันเลยละกัน มีแค่ 3 อย่างเองแหละ  จานแรก เป็น สลัดตับห่านค่ะ เค้าใช้คำว่า Goose Liver Salad ไอ้เราก็ชินกับคำว่า ฟัวกราส์ พอเป็น goose liver ก็คิดว่า มันคืออะไรฟะ 555 จานนี้ อร่อยเลยล่ะค่ะ ชอบๆ ตับห่านสุกกำลังดี หวาน มัน และน้ำสลัด ก็เปรียวกลมกล่อม อิชั้นว่าอิชั้นชอบกินตับห่านกับซอสออกเปรี้ยวๆแบบนี้มากกว่า มันไม่เลี่ยนดี บางร้าน เค้าจะทำเป็นซอสผลไม้(ส่วนมากเลยแหละ หรือว่าต้นตำรับเค้าต้องเป็นแบบนี้ไม่รู้)ออกรสหวานมากๆ กินเยอะๆแล้วไม่ไหวอ่ะ เลี่ยนสุดๆ...แต่สำหรับร้านนี้ โอเค อร่อยมากๆๆ ค่ะ เริ่มจานแรก คุณสามี ก็กินไม่ได้เสียแล้ว ได้แต่นั่งและเล็มสลัดข้างจานไป ก็น้ำลายหยด น้ำลายย้อยกันไป...นั่งท่อง กิน ไม่กิน กิน ไม่กิน อยู่นาน 2 นาน ... ด้วยความกลัวสามีผิดความตั้งใจ อิชั้นเลยจัดการจนถึงชิ้นสุดท้ายเรียบร้อย แบบไม่รอคุณสามีเปลี่ยนใจค่ะ อิอิ  จานนี้เป็นเหมือน สปาเก็ตตี้ทะเลค่ะ รสชาติกลมกล่อม มีหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์เสียบยั่วน้ำลายมาให้ 2 ตัว ไม่ต้องบอก ก็รู้ว่าจานนี้เป็นของคุณสาค่ะ รสชาติใช้ได้ และก็มาถึงจานเด็ด(ของอิชั้นคนเดียว) กันบ้าง NZ Tenderloin Steak ค่ะ เด็ดมากๆๆ ขอบอก  นอกจากรสชาติน้ำเกรวี่จะอร่อยแล้ว ตัวเนื้อ ก็ยังนุ่มมากๆๆ และที่สำคัญ สุกกำลังพอดีอย่างที่อิชั้นชอบเลยแหละ ... จะให้ดูเนื้อชัดๆนะ  บรรดา meat lover ทั้งหลาย ห้ามพลาดค่ะ อิอิ จานนี้ คุณสาน้ำลายหยด น้ำลายย้อยไปตามระเบียบเช่นเคย ได้แต่เอาส้อมมาจิ้มมันฝรั่งไปกินแก้เซ็ง 555 เอาล่ะ อาหารที่สั่ง ก็หมดแล้วค่ะ อิชั้นอิ่มแปล้ เพราะกิน steak ไปเต็มๆ ส่วนคุณสา เหลือท้องอีกหน่อย ไปนั่งกินเบียร์ที่ร้านนี้ (งดเนื้อสัตว์ แต่ไม่งดเบียร์นะคะ เหอ เหอ)  พอดีเป็น happy hour ตั้งกะ 5 โมง ถึง 2 ทุ่ม ซื้อ 1 แถม 1 อิอิ อ้อ ที่นี่เค้าเรียกตัวเองว่าเป็น Oyster bar ด้วยล่ะ มิน่า เห็นที่บาร์ มีหอยนางรมวางบนน้ำแข็งเต็มเลย ก็ยังงงๆ เอามาตกแต่งทำไมฟระ 555 (แต่สรุป ก้ไม่รู้หรอกนะ ว่าความเป็นมา ของ oyster bar มันคือ อะไร เหอ เหอ) จบลงแล้วค่ะ สำหรับมื้อปลอบใจของคุณสา...รอหมด 49 วันก่อน แล้วค่อยฉลองอีกทีนะจ๊ะ พาชิมวันแม่ The Grill Tokyo , Paragon
วันแม่ปีนี้ มื้อกลางวัน เรา สามี และหม่าม๊า (แม่สามีค่ะ ส่วนแม่เรากินมื้อเย็น) ไปทานกันที่ the Grill Tokyo ที่พารากอนกัน
 เคยมาทานร้านนี้ครั้งนึง แล้วติดใจ แต่แอบรู้สึกแพงนิดๆ 555 แต่เนื่องจากวันนี้วันแม่ (สามี)ก็เลยลงทุนนิดนึง หุ หุ เอาภาพรูปอาหารคราวที่แล้ว ที่มาทานกัน 2 คน มาแนะนำด้วย เราว่าที่นี่ เค้าจะมีอาหารเยอะดี คือ มีแบบแปลกๆที่ที่อื่นไม่ค่อยมี แต่ว่าราคาก็สูงนิดนึงอ่ะนะ อย่างในรูป sushi ที่เห็น เป็น sushi หน้าเนื้อมัตสึสากะดิบๆ คุณสามีเรากิน แต่เราไม่สามารถจริงๆ เลยไม่สามารถบอกได้ว่าอร่อยรึป่าว แต่รู้สึกจะชิ้นละ 300 บาท 2 ชิ้น ก็ 600 บาทได้ ส่วนสลัดที่เห็น ก็เป็น สลัดขาปูอลาสก้า เนื้อหนุบดี แต่ก็อย่างว่า ของแพง เลยมีให้แค่ไม่กี่ชิ้น 555 ที่เหลือ ก็จะเป็น maki ใส้เนื้อย่าง ข้าวหน้าเนื้อ และ ราเมน...อร่อยทุกจานจริงๆ...ขอบอก  เอาล่ะ ทีนี้มาดูอาหารที่เราสั่งคราวนี้ดีกว่า...อย่างที่บอกว่า อาหารที่นี่ถ้าสั่งเป็นจานๆ จะราคาสูงนิดนึง แต่มีอยู่อย่างนึงที่เรารู้สึกว่าราคาถูก แบบว่าคุ้มเลยแหละ นั่นคือการสั่งแบบ "Lunch Set" ค่ะ...คือ มันเป็นอาหารเซ็ต เลือกสั่งจากเมนูที่เค้าให้ มี app มี main course แล้วก็มีขนมด้วย ราคาต่อเซ็ต คือ 340++ บ. (ออกมาก็หัวละ 400 นิดๆ) เราสั่ง lunch set 1 ชุด อาหารที่เลือกก็มี สลัดปลาโอ ปลานึ่งซีอิ๊ว (จำชื่อปลาไม่ได้จริง ขอโทษค่ะ) ข้าวหน้าปลาไหล และ ขนม คือ คัสตาด... อยากบอกว่า อร่อยทุกๆอย่างจริงๆ และแม้ว่า อาหารเซ็ต นี่จะมีขนาดเล็กกว่าอาหารที่เป็นจานจริงๆ แต่ปริมาณก็ไม่ได้น้อยมากนะคะ เรียกว่ากินชุดเดียว ก็อิ่มสุดๆเลยแหละ  แล้วก็มีสั่งปลาดิบ....ปลาดิบรวมของเค้า ตกจานละ 1000 กว่าบาท (สงสัยจะของดีจัด เหอ เหอ) ไม่มีแบบปลาดิบรวมจุ๊บจิ๊บเหมือนฟูจิ เราเลยเลือกสั่งปลาเป็นอย่างๆเองดีกว่า...ที่เราสั่ง ก็มี Tuna ไม่แน่ใจว่า มันต่างจากธรรมดายังไง แต่เนื้อมันจะออกมันๆกว่า นุ่มดีค่ะ ไม่คาว แต่ราคาก็ประมาณ 500 กว่าบาทได้ กับอีกอย่างคือ Yellowtail อันนี้จะออกมันๆหน่อย หนึบนิดๆ อันนี้ก็ 300 กว่าบาทค่ะ...ตอนเสริฟ เค้าเสริฟรวมกันในจานแบบนี้  จานต่อมา เป็น ซุปปูอลาสก้า ค่ะ..เอ่ออ..ชื่อจริงๆเราไม่รู้อ่ะ ไม่ได้เป็นคนอ่านเมนู (อันนี้สามีเลือก ชื่อประมาณ hot pot อะไรซักอย่าง) รู้แต่ว่าเป็นซุปเหมือน ชาบู ชาบูนี่แหละ...สนนราคาประมาณ 800 บาทค่ะ  เนื้อปูนี่มันแบบว่า...ชิ้นโตมั่กๆ แล้วก็เหนียวหนึบดีแท้...เอ้อออ น้ำลายไหล ^^"  จานหลักจานสุดท้าย เป็นของเราเอง อิอิ...คนรักเนื้ออย่างเรา ก็ต้องสั่ง steak ชิมิ...อันนี้เป็น เนื้อออสเตรเลียค่ะ สนนราคาไม่แพงเลย สำหรับเนื้อระดับนี้ 500 บาท เท่านั้น (อ้อ จานนี้เป็น lunch set ด้วยค่ะ)  ตบท้ายด้วยนของหวาน...แปลกดีเหมือนกัน พุดดิ้งงาดำ ดูด้านบนมันสีขาวๆเหมือนนม แต่ข้างในจะเป็นสีเทาๆของงาดำ อร่อยดีค่ะ ไม่หวานมาก และก็ได้กลิ่นงาดำ...ให้ความรู้สึกดีต่อสุขภาพ อิอิ  สรุป ยกให้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นร้านโปรดไปแล้ว เพราะอาหารเค้าคุณภาพดีจริงๆ รสชาดก็อร่อยมากๆ มีให้เลือกหลากหลาย....และที่ recommend สุดๆ คือ Lunch set นะคะ ได้เยอะ แล้วก็คุ้มมากๆค่ะ Hua Hin Brewing Company & Red Mango, Hua Hin
ทริปหัวหินวันแรงงานที่ผ่านมา มื้อเย็น เราไปทานกันที่ Hua Hin Brewing Company Flame Grill (เฮ้ออ ชื่อยาวจริงๆ) บอกชื่อไป หลายๆคนอาจจะไม่คุ้นเลย แต่ถ้าบอกว่า เป็นร้านบาร์บีคิว ที่อยู่หน้ารร.ฮิลตัน อาจจะพอคุ้นตากันบ้างนะคะ...
เราเอง ก็ไปพักฮิลตัน (และซื้อข้าวเหนียวป้าเจือ)หลายครั้ง และก็จะผ่านร้านนี้บ่อยมากๆๆ เห็นพ่อครัวเค้าปิ้งๆย่างๆหน้าร้าน ก็อยากกินเหลือเกิน แต่ติดที่ว่า มาทะเล ก็ต้องกินอาหารทะเล เลยไม่ได้แวะชิมซักครั้ง...แต่ครั้งนี้ อยู่ดีๆ ก็มีอารมณ์อยากทานสเต็ก ก็เลย เอาซะหน่อย..และอีกอย่าง เดินไม่ไกลจากรร.ที่พักด้วย 555 อารมณ์ขี้เกียจออกไปหาไรกินไกลๆ  นี่ไง ที่หน้าร้านเค้ามีพ่อครัวมาปิ้งๆย่างๆ ล่อน้ำลาย   บรรยากาศภายในร้าน...มีแต่ฝรั่งทั้งน๊านนน...  เมนูของร้าน กิ๊บเก๋เชียว ทำเป็นเหมือนหนังสือพิมพ์ (ข้อดีคือ น่าสนใจ ข้อเสีย คือ อ่านยาก)   มาดูอาหารที่สั่งดีกว่า มีแค่ 2 อย่างอ่ะค่ะ เพราะมากันค่อนข้างดึก เลยไม่อยากกินหนัก จานแรก สเต๊ก ของเราเอง (200 กรัม - นี่ขนาดไม่อยากกินหนักนะเนี่ย 555)  ส่วนของสามีเป็น lamb ค่ะ  จริงๆยังมีเบียร์อีก 2 แก้ว แต่ไม่ได้ถ่ายมา..อ่ะ พออิ่มได้ที่ ก็เดินทาง (เดิน) ต่อไป ที่ร้าน Red Mango เยื้องๆกับตลาดโต้รุ่ง...โดยส่วนตัว ชอบกินไอติมร้านนี้มากๆๆๆ เพราะงั้น พอมาหัวหิน ก็อดที่จะแวะไม่ได้ (จริงๆไม่ได้เรียกว่าแวะหรอก เรียกว่าจงใจเดินมาทานเลยแหละ) ร้านนี้เค้าใหญ่ดีจริงๆค่ะ ร้านก็น่ารัก น่านั่งมากๆ    นี่ค่ะ ไอติมที่สั่ง size M อิ่มสุดๆ (ขนาดกินกัน 2 คนนะ)  จบแล้วจ้า สำหรับตะลุยกินทริปนี้..เพราะตอนเช้า ก็ไปกินบุฟเฟต์รร. ซึ่งทำให้อิ่มไปถึงบ่ายๆ 555 จากนั้น ก็เลยแวะไปกินเค้กที่ร้านบ้านใกล้วัง และก็ดิ่งเข้ากรุงเทพ จบด้วยไปทานอาหารทะเล ที่ชายทะเลบางขุนเทียน ร้านเรืองฤทธิ์...เออ งงมั้ยเนี่ย ไปหัวหินไม่กินอาหารทะเล แต่กลับมากินแถวกทม. อิอิ ไว้ตะลุยกันใหม่คราวหน้าจ้า... |
Beauty & Bambi
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 36 คน [?] ณ 31/1/2023 นิยามตัวเองได้ว่า เป็นคนชอบ เที่ยว กิน ช๊อป ค่ะ...แต่หลังๆไม่ได้อัพบล็อคเลย มัวแต่เล่น ig กับ เฟส ^^ บล็อคที่เขียนไว้อาจจะนานแล้ว แต่ก็ยังหวังว่าจะพอมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ ถ้าได้เที่ยว (หลังโควิด ) จะมาอัพอีกนะคะ *** เราไม่ค่อยได้เข้ามาเช็คที่ blog เท่าไร่ ถ้าเพื่อนๆอ่านแล้วมีคำถาม รบกวนถามมาทางอีเมลล์เลยนะคะ (ดูอีเมลล์จาก profile ได้ค่ะ) เรายินดีตอบทันทีค่ะ แต่ถ้ามาทิ้งคำถามไว้ที่ blog หรือ หลังไมค์ มันอาจจะนานกว่าเราจะมาอ่านเจออ่ะค่ะ ***
Friends Blog
Link |
