Group Blog
All Blog
|
แวะชิมเค้กที่ร้าน บ้านใกล้วัง หัวหิน
หัวหิน chill chill ทริปนี้ เนื่องจากตรงกับวันเกิดของคุณแม่เราด้วย เลยตั้งใจจะมาสั่งเค้ก แล้วก็เป่าเทียน surprise วันเกิดคุณแม่ที่นี่ แต่เนื่องจาก มีเวลามาช่วงบ่าย (ถ้าหลังอาหารเย็น จะกินเค้กไม่ไหว 555) ไอ้ครั้นจะเป่าเทียนตอนกลางวันแสกๆ ก็ยังไม่กล้า แถมร้านนี้อยู่ริมทะเล ลมก็แรงมากๆ เทียนคงดับก่อนถึงโต๊ะ ก็เลยอด surprise คุณแม่เลย ได้แต่ทำตัวเนียนๆกับน้องสาว เหมือนว่ามากินเค้กเฉยๆ แหะ แหะ
ร้านนี้ ถ้าใครไม่เคยมา จะหายากนิดนึงนะคะ เพราะทางเข้าร้าน มันเหมือนบ้านธรรมดามากๆ  สังเกตป้ายดีๆนะคะ  พอเจอประตู ก็จอดรถริมถนนนั่นแหละค่ะ แล้วก็เดินเข้าไปในบ้านเลย พอเดินเข้าไปจะเจอบ้านหลายๆหลัง ก็ไม่ต้องงง เดินต่อไปเรื่อยๆ เพราะร้านขนม จะเป็นบ้านหลังที่ติดทะเลค่ะ  บรรยากาศภายในร้าน น่านั่งมากๆเลยแหละ มองเห็นทะเล แต่ว่าลมจะแรงมากๆๆ หัวเหอยุ่งไปหมด 555    มองเข้าไปจากทะเล เห็นโต๊ะเรานั่งข้างในอ่ะค่ะ  เอาล่ะ มาถึงเค้ก ที่เป็นพระเอกในงานนี้กันดีกว่า...เค้กมะพร้าว หรือ พาย นะ จำไม่ได้ซะแล้ว แต่ขอบอก อร่อยมากๆๆๆๆค่ะ ครั้งแรก ก็สั่ง 2 ชิ้นเลย กลัวไม่พอ พอทานหมด ก็ยังสั่งเพิ่มอีกชิ้น รวมเป็น 3 ชิ้น อิอิ ขนาดเราไม่ค่อยชอบทานเค้กนะ ทานแล้วยังแบบติดใจ อร่อยมากมาย มันนุ่มลิ้น หวานมัน กะลังพอดี ไม่หวานเกินไปอ่ะ ส่วนที่มีมะนาวข้างบน คือ Lemon cheescake อันนี้ก็เปรี้ยวๆดี แต่พอดี เราไม่ชอบกินของหวานรสเปรี้ยว เลยไม่ติดใจเท่าไร่  และขนมอีกอย่างที่สั่ง ก็คือ เจ้านี่ค่ะ จำชื่อไม่ได้ รู้แต่ว่าเป็นเหมือนเค้กช๊อกโกแลต แล้วก็มีช๊อกโกแลต ฟัดจ์สอดไส้อยู่ อร่อยมากๆเหมือนกัน  สรุป..ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่เราได้มาชิมเค้กที่ร้านนี้ แต่รับรองว่า มาหัวหินครั้งต่อไป (และทุกๆครั้ง) จะไม่พลาดมาทานเค้กมะพร้าวร้านนี้อีกแน่นอนค่ะ ถูกใจมากจริงๆ เยี่ยมๆๆๆๆ  ฉลองวันเกิดที่ Sonie's สุขุมวิท 31 (25/2/08)
สำหรับร้านนี้ ถือเป็นร้านโปรดของเราอีก 1 ร้านค่ะ เป็นอาหารญี่ปุ่น - อิตาเลียน เนื่องจากวันนี้วันเกิด ขอถือโอกาสเลี้ยงอาหารครอบครัว โดยสิทธิเลือกร้านต้องอยู่ที่เจ้าภาพอยู่แล้ว อิอิ
ปกติจะไปทานที่ Playground ค่ะ ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ดูหรูนิดนึงเหมือนกัน แต่ว่าเค้ามีอีกสาขาที่สุขุมวิท 39 ซึ่งตอนหลังย้ายมาที่ สุขุมวิท 31 ก็เลยอยากไปลองทานดู คิดว่าบรรยากาศอาจจะดูเป็นแบบบ้านๆ อบอุ่นกว่า แต่พอไปถึง ก็เฉยๆเลยอ่ะค่ะ สำหรับบรรยากาศของร้าน เป็นห้องแถว 2 ชั้นเอง มีไม่กี่โต๊ะ แต่ว่าเมนูอาหาร + ราคา เหมือนกันกับที่ Playground เลยนะ อุตส่าห์จะพาครอบครัวไปเลี้ยงทั้งที บอกว่าจะพาเข้าเมือง ไปถึงร้านทำเอาญาติๆผิดหวังเล็กน้อย เพราะนึกว่าร้านจะสวยกว่านี้ แนะนำว่า ถ้าอยากทาน ให้ไปที่สาขา Playground ดีกว่านะคะ แต่เห็นเค้าบอกว่า จะอยู่ที่ Playground ถึง 31 มีนา 2551 แล้วก็จะย้ายไปที่ J Avenue ค่ะ คราวนี้มาทานกัน 6 คน สั่งอาหารไป 9 อย่าง (แต่ 10 จาน) สมกับที่รอคอย อิอิ ..ดูรูปกันไปทีละจานเลยดีกว่า...ชื่อเต็มๆเรียกไม่ถูกนะคะ ได้แต่บรรยายว่ามันคืออะไร จานแรกเป็น โรลแซลมอน อ่ะค่ะ รู้สึกจะชื่อ Queen roll นะ ถ้าจำไม่ผิด  ถ้ดมาเป็น ซูชิพิซซ่าค่ะ จานนี้ถือเป็นจานโปรดมั่กๆๆๆๆ สั่งมา 2 ที่เลย จะได้ไม่แย่งกัน 555  ต่อมาเป็น โรลปลาไหลกับอะโวคาโด  อีกจานเรียกว่า bomb ค่ะ จานนี้ก็อร่อยมากๆเป็นเหมือน seafood อบชีส เหมาะสำหรับคนชอบชีส  ต่อมาเป็น โรลปูนิ่มค่ะ จานนี้สั่งเป็น Large เลย ก็จะได้ 6 ชิ้น (ราคา 485 บ.) แต่ถ้าจานเล็กก็แค่ครึ่งตัวค่ะ  ต่อมาเป็นสปาเก็ตตี้ไข่ปลาค๊อด (ถ้าจำไม่ผิดนะ) จานนี้ออกเค็มๆมันๆ  แล้วก็สปาเก็ตตี้หมึกดำ ซึ่งจานนี้ขำมากๆ เพราะพอกินไป ปากทุกคนก็จะดำ พอหันมามองหน้ากัน ก็ขำๆๆๆกันเอง 555   ใกล้จะหมดแล้วค่ะ อิอิ ทานแต่ข้าวๆแป้งๆ ท่านผู้ใหญ่หลายท่านบ่นอยากทานผัก ก็เลยสั่งสลัดซะเรยย...จานนี้สลัด smoke salmon ค่ะ  และปิดท้ายกันด้วยจานนี้..ชื่อว่า yuppy อะไรซักอย่างนี่แหละ อยุ่ในเมนู แนะนำ รสชาดคล้ายกับ bomb อ่ะค่ะ ถ้าใครจะสั่ง สั่งอันใดอันหนึ่งก็ได้นะ  หมดแล้วค่ะ อิ่มสุดๆกันทุกคนค่ะ จะสั่งของหวานอีกก็ไม่สามารถ แถมยังต้องจัดการกับเจ้าเค้กไอติมก้อนโตที่คุณอาสั่งมา happy birthday เราอีก..สรุปว่า มื้อนั้นเกือบพุงระเบิด 555 สรุปว่าอาหารอร่อยทุกจานเลยจริงๆ ชอบๆๆๆ แต่ถ้าใครจะไป แนะนำให้ไปสาขาที่ทองหล่อนะคะ เราว่าบรรยากาศน่านั่งกว่ากันเยอะค่ะ ^^ ฉลองงง..เนื่องในโอกาสที่อยากกิน @ Neils' Tavern
เนื่องจากน้ำหนักขึ้นมา 3 โล หลังแต่งงานค่ะ (เกือบ 6 เดือนเท่านั้นเอง) เลยคิดว่าได้เวลาต้องไดเอทค่ะ ไม่ไหวๆๆๆ บวมมากๆค่ะ ใครๆเห็นมีแต่ถามว่าท้องรึป่าว เซ็งจิต
 ก่อนไดเอท อยากกินสเต็กอร่อยๆเป็นมื้อสุดท้ายค่ะ คุณสามีเลยพามาฉลองก่อนแฟนลดฟามอ้วนนน..ที่ร้าน " Neil's Tavern " ค่ะ ป้ายร้านค่ะ ถ่ายตอนมืดๆ  ไม่พูดพล่ามทำเพลงล่ะนะ..สั่งเลย appertizer คนละอย่าง แต่ว่าเอามาแชร์กันนะ จานแรกเป็น หอย escagot (แอสคาโก้ ไม่รู้เขียนถูกรึป่าวนะคะ) และก็ Frensh onion soup ค่ะ  อยากบอกว่า อร่อยมั่กๆๆ ทั้ง 2 อย่างค่ะ หอยเนื้อนุ่มมากๆ แต่มีกลิ่นเครือ่งเทศเยอะหน่อย ส่วนซุปเนี่ย ตอนแรกเห็นแปะชีสมานิดเดียว ดูไม่สะใจ แต่ที่ไหนได้ พอลองทานดู ชีสเยอะมั่กๆๆค่ะ อืมมม ... สำหรับเนื้อสเต็ก ถ้าเป็นเนื้อ US เค้าจะมีเนื้อเป็นชิ้นๆ มาให้เลือกกันเลยเชียว ส่วนราคาคิดตามน้ำหนักค่ะ ราคาก็ประมาณ 285-385 บ./100 กรัม....จานด้านล่าง สามีสั่งค่ะ เป็น T-bone steak ราคาตามน้ำหนักไม่แพงนะ รู้สึกจะ 375 บ./100 กรัมค่ะ แต่ว่า แต่ละชิ้นนี่สิ รู้สึกจะ 400 กรัมขึ้นค่ะ เพราะ T-bone มันติดกระดูกด้วยอ่ะ เลยหนักเป็นพิเศษ เหอ เหอ... แถมหนมปังกระเทียมให้จานนึง  และนี่คือ โฉมหน้า T-bone steak หลังปรุงเสร็จค่ะ..น่าทานมั่กๆๆๆ  จานนี้ให้ 5 ดาวเลยค่ะ อร่อยสุดยอดดด ส่วนตัวเรา สั่งเนื้อ Australia ค่ะ จะขายเป็นจานเลย ไม่มีเนื้อมาให้เลือก ... จานนี้ Tenderlion steak ค่ะ  ต้องบอกว่า ถึงจะดูชิ้นหนา แต่ว่านุ่มมากๆๆๆค่ะ ความสุก medium กำลังดี เนื้อแดงนิดๆออกชมพูๆ ไม่เหนียวเลย แต่เรากลับได้กลิ่นแปลกๆ สงสัยเป็นเพราะไม่หอม มัน เหมือนจานของสามี ให้ 4 ดาวละกันนะ ซึ่งจริงๆเราเป็นคนชอบทานเนื้อติดมัน แต่เวลาสั่ง steak ชอบกระแดะสั่งเนื้อนุ่มๆ จำพวก sirloin ไม่ก็ tenderlion ผลก็คือ ต้องไปแย่งสามีกินแทบทุกครั้งค่ะ 555 แบบว่าไม่เคยพอใจของตัวเอง..จนสามีด่า บอกว่าชอบติดมัน ทำไมสั่งแต่พวกเนื้อนุ่มๆ แล้วสุดท้ายก็มาขอเค้าทุกที 555 เราเองก็เพิ่งสังเกตุตัวเอง...เออ จริงด้วยอ่ะ เหอ เหอ ถ้าเค้าไม่บอก ก็ไม่รู้ตัวนะเนี่ย.. รูปหมดแล้ว (สั่งแค่นี้ล่ะค่ะ ของมันแพง 55) สรุปเลยละกันว่า Niel's Tavern ยังคงเป็นร้าน steak ที่น่า recommend อีกร้านนึงค่ะ อร่อยสมคำร่ำลือ และสมแล้วที่อยู่มานาน ส่วนราคา เราว่า ณ ตอนนี้นะ ราคาไม่แพงแล้วแหละ ถ้าเทียบกับร้านในระดับเดียวกัน สมัย 10 ปีที่แล้ว เคยมาทาน ราคาก็เท่านี้เลยค่ะ คือ ถ้าเนื้อ Australia ราคาตกอยู่จานละ 700-900 บ. แต่ถ้าเนื้อ US ก็ตามที่บอกไปตอนแรกค่ะ app อยู่ที่ประมาณ 200 - 400 บาทค่ะ อ้อ สามีสั่ง house wine มาด้วย 1 เหยือก = ครึ่งขวด รินได้หลายแก้วค่ะ ราคาอยู่ที่ 500 บ.เองแหละ ถ้ามีโอกาสต้องไปลองกันให้ได้นะคะ  ตะลุยกิน-ตะลุยถ่าย สมุย
                      เทปันยากิ @ Benihana , Marriot Resort and Spa..
เห็นมานานแล้วสำหรับร้านนี้ เพราะไปเดินเล่นที่เวิ้งแถวโรงแรมแมริออทบ่อยค่ะ แต่ว่าไม่เคยเข้าไปทาน เพราะรู้สึกถึงความแพง 555 แล้วอีกอย่างรู้สึกการกินเทปันยากิเนี่ย มันไม่ค่อยคุ้มเงินเท่าไร่ เพราะมันก็แค่เอาเนื้อ เอากุ้ง มาผัดในกระทะ ปรุงแค่เกลือ พริกไทยนิดหน่อยแค่นั้นเอง ทีเด็ดคงจะเป็นท่าทางการผัด ของพ่อครัวซะละมากกว่า โชว์นู่น โชว์นี่ เป็นที่ชื่นชอบของฝรั่ง แต่เราเห็นแล้วเฉยๆเหลือเกิน ก็เก่งดีอ่ะนะคะ แต่ว่า เราเน้นอาหารอร่อยมากกว่า เคยกินเทปันมา ทั้งเมืองไทย และที่อเมกา รสชาดจืดได้ที่ทุกครั้ง (ต้องเพิ่มเกลือเองตลอด) เลยเข็ดจนตาย
แต่คราวนี้เกิดรมณ์ไรก็ไม่รู้ อยากกินๆๆๆ เคยได้ยินว่าที่ร้านนี้อร่อยมาก มีชื่อ เลยเอาวะ ลองซะหน่อย ฉลองวันเกิดแฟนค่ะ อิอิ ดูรูปเลยละกัน  เริ่มจากน้ำพันซ์ มีหลายแบบมากๆ เค้าเขียนว่า ค๊อกเทล แต่ไม่มีอัลกอฮอลล์ เหอ เหอ ตลกดี แก้วละ 180 บาทค่ะ แต่ตอนไปมีโปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1 เลยเอาซะเลย ถูกเป็นบ้า...        พอดีบอกเค้าว่าวันนี้วันเกิดแฟน ทางร้านก็เลยมีเค้กมาให้เป่าด้วยค่ะ พร้อมด้วยเพลง happy birthday เวอร์ชั่นอังกฤษ กับเวอร์ชั่นญี่ปุ่นด้วย อิอิ  สรุปแล้ว เราชอบอาหารร้านนี้มากๆเลยค่ะ จากที่เคยรู้สึกว่าเทปันจืดๆ เรารู้สึกว่าร้านนี้ทำได้แบบ มีรสชาดมากสุดอ่ะ เค้ามีเนย แบบเนยกระเทียมหรืออะไรก็ไม่รู้ผัดแล้วมันหอมๆ ปรุงรสได้พอดีๆ ไม่จืด ไม่เค็มเกินไป ส่วนอาหารญี่ปุ่นที่เราสั่งมา ก็ใช้ได้ โดยเฉพาะหนังปลาแซลม่อนทอด จิ้มกับพอนสุ อร่อยเลยทีเดียว กินเพลินเกินห้ามใจ จานละ 180 บาท อิอิ สรุปอีกที ใครอยากทานเทปัน แบบงบไม่จำกัดหน่อย ไปลองทานดูได้นะคะ อร่อยดีทีเดียวแหละ  |
Beauty & Bambi
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 36 คน [?] ณ 31/1/2023 นิยามตัวเองได้ว่า เป็นคนชอบ เที่ยว กิน ช๊อป ค่ะ...แต่หลังๆไม่ได้อัพบล็อคเลย มัวแต่เล่น ig กับ เฟส ^^ บล็อคที่เขียนไว้อาจจะนานแล้ว แต่ก็ยังหวังว่าจะพอมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ ถ้าได้เที่ยว (หลังโควิด ) จะมาอัพอีกนะคะ *** เราไม่ค่อยได้เข้ามาเช็คที่ blog เท่าไร่ ถ้าเพื่อนๆอ่านแล้วมีคำถาม รบกวนถามมาทางอีเมลล์เลยนะคะ (ดูอีเมลล์จาก profile ได้ค่ะ) เรายินดีตอบทันทีค่ะ แต่ถ้ามาทิ้งคำถามไว้ที่ blog หรือ หลังไมค์ มันอาจจะนานกว่าเราจะมาอ่านเจออ่ะค่ะ ***
Friends Blog
Link |
